ประโยชน์ของสมาธิกับการ ทำงาน

มีคำถามมากมาย การทำสมาธินั้นเป็นเรื่องของผู้เฒ่าผู้แก่หรือผู้ใหญ่ที่ต้องรอวัยเกษียณกันก่อนไหม หรือเด็กเยาวชนจะเรียนสมาธิ นั่งสมาธิกันไปทำไม 

พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล และประธานสถาบันพลังจิตตานุภาพ ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของการทำสมาธิว่ามีอย่างน้อย 12 ประการ อาทิ 

1. ทำให้หลับสบายคลายกังวล 2. กำจัดโรคภัยไข้เจ็บ 3. ทำ ให้สมองปัญญาดี  4. ทำให้มีความรอบคอบ 5. ระงับความร้ายกาจ 6. บรรเทาความเครียด  7. ทำแล้วมีความสุขพิเศษ  8. ทำให้จิต      อ่อนโยน 9. กลับใจได้ 10. เจริญวาสนาบารมี 11. เป็นกุศล 12. เวลาสิ้นลมพบ

“จุดมุ่งหมายการทำสมาธิคือ การทำสร้างพลังจิตให้เกิดขึ้น พลังจิตนั้นมีความสำคัญอย่างไร พลังจิตมีความสำคัญที่สามารถจะควบคุมใจของเรานี้ได้ ไม่ให้อารมณ์ต่างๆ มันเข้ามาทำร้าย

คือหมายความว่า อารมณ์นี้เข้ามาทำร้าย แต่เมื่อเวลามีสมาธิแล้ว สติก็เกิดขึ้น เมื่อมีสติแล้วสมาธิก็เกิดขึ้น สติและสมาธิ ก็เป็นเครื่องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะทำการทำงานอะไรต่างๆ เหล่านี้

สำหรับการเรียนหรือการศึกษานั้น เป็นปัจจัยสำคัญของโลกปัจจุบัน เพราะหากขาดการศึกษาจะทําให้รู้เรื่องราวของโลกไม่กว้างขวาง การปกครองบ้านเมืองก็จำเป็นต้องมีความรู้ หากประเทศใดผู้คนมีการศึกษาน้อยหรือไม่ได้รับการศึกษาก็จะกลายเป็นประเทศล้าหลัง

แต่หากประเทศใดผู้คนมีการศึกษา ประชาชนประเทศนั้น  จะมีคุณภาพ เมื่อมีคุณภาพก็จะเกิดระเบียบ ระบบ มีความอยู่ดีกินดีเจริญรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นรากฐานของการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ประเทศต่างๆ จึงมีการวางรากฐานการศึกษาตั้งแต่วัยเด็กเล็ก

เวลาเรียนเวลาสอบ นักเรียน นักศึกษาต้องขวนขวายหาวิธีการที่จะทำให้ตนเองจดจำทำข้อสอบได้ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้น จะต้องมีสมาธิเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะการมีสมาธิจะทำให้ใจจดจ่ออยู่กับการเรียนได้

สมาธิจะมีส่วนเข้ามาพัฒนาการศึกษาเพราะการศึกษามีความจำเป็นจะต้องใช้ความจดจำเป็นหลัก ช่วยส่งเสริมการเรียนตลอดจนสามารถแยกแยะชั่วดีให้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต

เพราะสมาธินั้นคือความสงบใจ เป็นเบื้องหลังของการเพิ่มพูนความจำให้ดีขึ้น ช่วยให้เกิดความเฉลียวฉลาด

แม้ธรรมชาติของมนุษย์โดยทั่วไปจะมีสมาธิธรรมชาติคอยช่วยอยู่แล้ว แต่พอโตขึ้นสมาธิธรรมชาติเรานั้นก็เริ่มอ่อนล้าอ่อนตัวลงเกิดความไขว้เขว จึงต้องอาศัยสมาธิที่สร้างขึ้นหรือสมาธิลึก เข้าช่วย เพราะสมาธิลึกที่สร้างขึ้นนั้นช่วยเก็บความจำและขยายปัญญา(ชวนปัญญา)”

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ยังได้ตอกย้ำการทำสมาธิด้วยว่า หากว่าเราได้ทำสมาธิแล้ว ชีวิตของเรานี่จะไม่สูญเสียสลาย ไม่ใช่ว่าตายเปล่า ได้ของดีได้ของวิเศษ นับว่าเป็นแก้วรัตนมงคลอย่างยิ่งสำหรับตัวของเรา ในเมื่อเราได้สมาธิเป็นสมบัติของเราแล้ว

เพราะว่าสมบัติที่เกิดขึ้นจากการทำสมาธินี่มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เราไปทำการทำ  งานอื่นๆ นั้นยังยากกว่าตั้งเยอะแยะ เลื่อยไม้ไสกบ ทำค้าขาย ไถไร่ไถนา หรือทำข้าราชการ รับงานรับการอะไรมันไม่ใช่ง่าย ยากกว่ามาก

“แต่สมาธิง่ายกว่า แต่ทำไมคนถึงไม่ทำกัน ก็ให้พากันทำสมาธิกันทุกคนๆ การทำสมาธิได้นั้นประโยชน์มหาศาลจริงๆ ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่มาพูดกันเยินยอกันเล่นในแต่ละครั้ง เพราะว่ามันเป็นความจริง ความจริงที่ว่าเมื่อเราทำสมาธิแล้ว สมบัติจะเป็นสมบัติที่มีค่าอย่างยิ่งสำหรับตัวเรา แล้วก็สำหรับเราต่อไปในอนาคต ทุกภพ ทุกชาติ”

เหลือบไปเห็นข่าวสารที่แชร์กันในโลกโซเชียล เมื่อโชเฟอร์รถตู้รับเหมาท่องเที่ยวออกมาโพสต์โอดครวญถึงนักท่องเที่ยวเวลาเหมารถตู้ไปแล้วก็มักคิดว่าโชเฟอร์จะกินอยู่หลับนอนอย่างไรก็ได้ จึงไม่ค่อยมีใครคิดเผื่อค่าห้องพัก โรงแรมใดๆ ให้กับโชเฟอร์ด้วย

โดยระบุว่าที่จริงชีวิตผู้โดยสารนักท่องเที่ยวทั้งหมดล้วนฝากเอาไว้กับโชเฟอร์ผู้นี้ หากเขากินอยู่หลับนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การท่องเที่ยวก็จะกลายเป็นความเสี่ยงไปโดยปริยาย

อ่านแล้วก็นึกถึงเรื่องของสมาธิกับการทำงาน ซึ่งเป็น 1 ใน 12 คุณประโยชน์ของการทำสมาธิที่พระธรรมมงคล-ญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล และประธานสถาบันพลังจิตตานุภาพ ท่านบันทึกเอาไว้

สมาธิมีส่วนช่วยในการทำงานอย่างไรบ้าง?
โดยหลวงพ่อท่านกล่าวไว้ว่า เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าทุกๆ คนต้องเคร่งเครียดจากการทำงานกันทุกวัน ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการสั่นสะเทือนไปถึงสมองที่จะต้องสั่งงานเพิ่มขึ้น จึงเป็นเหตุให้ความเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่ากำหนด

การสั่นสะเทือนนั้นย่อมเกิดขึ้นทุกครั้งของการนึกคิดใดๆ ความสั่นสะเทือนนี้เองที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหว เมื่อเคลื่อนไหวก็จะสูญเสียพลังงาน ซึ่งก็คือการเดินทางสู่ความเสื่อมสภาพ

สมาธินั้นจะเข้ามาช่วยชะลอความเคลื่อนไหวอันหมายถึงคลื่นสมอง ด้วยการเสริมพลังแล้วลดความเคลื่อนไหว เช่นคนเดินทางอาจจะหยุดสักวัน หรือชั่วโมง หรือไม่กี่นาที ก็หมายถึงการได้พัก เขาก็จะมีแรงเพิ่ม เป็นการหยุดพักที่มีประสิทธิภาพ

ความเคลื่อนไหวนั้นบางครั้งก็มีความรุนแรงมาก จะกระทบกระเทือนค่อนข้างสูง เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้คลื่นสมองสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

“โดยมากคนเรามักไม่ได้สังเกตในเรื่องอะไรเท่าไหร่นัก เพราะเราต้องการงานที่กำลังดำเนินการแต่อยู่ในเวลาที่ไม่สมควร เช่น เวลาพักผ่อนนอนหลับก็ไม่ยอมละการสั่นสะเทือนของสมองที่เราใช้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะบุคคลไม่ทราบแนวทางของสมาธิจึงไม่สามารถจะระงับการสั่นสะเทือนอันนี้ได้ ที่ต้องจำใจทำก็เพราะงานต่างๆ มันค้างคาอยู่ ปัญหาใหญ่น้อยนี่เองที่เป็นอันตราย”

สมาธิ ที่ใช้กับบุคคลบริหารนั้นอยู่ในลักษณะของสมาธิตื้น ซึ่งมีหลักการต่างๆ ในตัวของมัน อันนี้เป็นการง่ายมากสำหรับผู้สนใจคือ ให้สมาธิแก่ใจในเวลาอันสั้นแต่ทำสม่ำเสมอ (เกิดวะสี) และไม่กระทบกระเทือนแก่ครอบครัวและการงาน

ดังนั้น สมาธิคือความสงบเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต แม้ความสำคัญของชีวิตคือการที่ต้องทำงาน แต่เมื่อการงานคือสิ่งบั่นทอนชีวิต ดังนั้นสมาธิคือการเสริมสร้างชีวิต

แม้กระนั้นก็ตามการงานก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในเพศใดก็ตาม ผู้ที่มีสมาธิย่อมได้เปรียบสามารถแยกแยะหน้าที่ ตลอดจนถึงการป้องกันเมื่อเวลางานรัดตัว เมื่อบุคคลไม่สามารถทราบได้ ป้องกันไว้ก่อนจะทำให้เขาสามารถหลบหลีกมรสุมชีวิตได้ดีกว่า

การป้องกันไว้ก่อนเกิดขึ้นจากสติ สติเกิดจากไหนก็เกิดจากสมาธิ คนเรานั้นเมื่อมีความสุขจะสามารถมองเห็นการได้ไกลและจะมีความกระชุ่มกระชวยอยู่ตลอดเวลา

มรสุมอาจจะเกิดขึ้นในขณะใดขณะหนึ่งได้ตลอดเวลา แต่การเตรียมตัวโดยวิธีมีสมาธิเก็บไว้เป็นผนังนั้น จะแก้มรสุมชีวิตได้ ถ้าไม่มีสมาธิที่สร้างขึ้นพอสมควรแล้ว การแก้มรสุมชีวิตอาจแก้ไขไม่ได้เลย เพราะอะไร เพราะขาดสมรรถภาพทางกาย หมายความถึงหมดกำลังใจไปเลย เนื่องจากการขาดพลังภายในเพราะเขาไม่ได้สร้างสมาธิขึ้น เนื่องด้วยไม่มีโอกาสหรือไม่มีศรัทธาภายในเป็นทุนสำรอง

เมื่อไม่มีพลังภายในเป็นทุนสำรอง มรสุมชีวิตที่เกิดขึ้นแม้จะมีคนช่วยเหลือก็ไม่ไหว ก็ต้องล้มละลายไปตามสภาพ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก หากมีสมาธิสร้างขึ้นก็จะสามารถช่วยเหลือตนเองจนผ่านพ้นวิกฤตได้

หลวงพ่อวิริยังค์ ยังตอกย้ำบทบาทความสำคัญของสมาธิว่า การทำสมาธิตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นการที่สามารถผลิตพลังจิตได้ พลังจิตนี้จะกลายเป็นบุญ กลายเป็นวาสนา กลายเป็นบารมี เราทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย

“เราจะไปคิดว่าเราทำเท่านี้พอแล้ว หรือเรียนจบครูสมาธิแล้ว ก็เลิกทำสมาธิอย่างนั้นก็ไม่ใช่ เพราะว่าถ้าหากว่ามาเรียนครูสมาธิ ตามหลักสูตรของสถาบันพลังจิตตานุภาพแล้ว เมื่อเรียนจบเท่ากับว่าได้หนทาง เมื่อได้หนทางแล้ว เราก็ไม่ควรที่จะปลีกทางไปอย่างอื่น”

เมื่อเราได้หนทางก็เดินตามทาง เมื่อเดินตามทางไป จุดที่หมายปลายทางมันก็อยู่ที่ความพยายามของเรา เพราะฉะนั้น จุดที่หมายปลายทางก็ต้องสำเร็จขึ้นแก่เราอย่างแน่นอน เพราะว่าเราได้หนทางแล้ว

เพราะฉะนั้นเมื่อเรียนจบหลักสูตรครูสมาธิไปแล้ว ก็พยายามที่จะต้องทำความดี ให้มันมากยิ่งขึ้น ทำสมาธิเพราะว่าเรารู้จักแล้วว่าสมาธิข้อนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จากสมาธิก็กลายเป็นฌาน จากฌานก็กลายเป็นญาณอย่างนี้เป็นต้น

“ถ้าหากว่าเราได้ทำสมาธิแล้ว ชีวิตจะไม่สูญเสียสลาย ไม่ใช่ว่าตายเปล่า ได้ของดี ได้ของวิเศษ นับว่าเป็นแก้วรัตนมงคลอย่างยิ่งสำหรับตัวของเราเมื่อได้สมาธิเป็นสมบัติ“