ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

นั่นคือ ซึ่งนอกจากกราฟิกดีไซน์เนอร์จะต้องรู้จักการเลือกใช้สี โทน ไล่ระดับ ต้องทราบเทคนิคว่าสีไหนควรใช้ด้วยกัน ควรนำมาตัดกัน หรือสีไหนที่เป็นสีต้องห้าม ไม่ควรนำมาใช้ด้วยกันอย่างเด็ดขาด เพื่อให้งานที่ออกมาดูสวยงาม สะดุดตา ถูกใจลูกค้า และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่นักออกแบบมือใหม่จะต้องทราบก็คือเรื่องโหมดสี (Color Mode) 2 โหมดหลัก ๆ ที่ใช้ในงานสื่อออนไลน์และโหมดสีที่ใช้ในระบบงานพิมพ์ (ออฟเซต อิงค์เจ็ท ดิจิตอล) เป็นระบบสีที่ต่างกัน วันนี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับระบบสี RGB และ CMYK รวมถึงวิธีการเลือกใช้งานเพื่อให้เหมาะกับงานออกแบบด้านต่าง ๆ กัน

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

  • สีหลักและการผสมสี สี RGB จะมีสีหลักอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือสีแดง (Red) เขียว (Green) และน้ำเงิน (Blue)  หลักการผสมสีจะเป็นการผสมสีแบบบวกคือการเพิ่มสีอื่นเข้าไปจนเกิดเป็นสีใหม่ ๆ ที่แสดงผลให้เราเห็นในหน้าจอมอนิเตอร์ ซึ่งเมื่อผสมสีและไล่ระดับความสว่างของสีด้วยหน้าจอมินิเตอร์ออกมาเรียบร้อยแล้วจะมีสีให้เลือกทั้งสิ้น 16,777,216 สี
  • ข้อดีและข้อเสีย สี RGB  เป็นสีที่สามารถเลือกใช้งานได้ง่ายโดยเฉพาะการออกแบบสำหรับแสดงผลทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ สามารถเซฟไฟล์เพื่อนำไปใช้ในหน้าเว็บไซต์ได้ทันที และสามารถแปลงไฟล์เป็น CMYK สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์โปสเตอร์, ใบปลิว ได้ แต่สีที่ได้จะเพี้ยน และคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากไฟล์ RGB มักจะถูกลดทอนให้ไฟล์เล็กแสดงผลได้เร็วในหน้าจอ แต่มักละเอียดไม่พอไปใช้ในงานพิมพ์อิงค์เจ็ท งานพิมพ์ป้ายขนาดใหญ่แล้ว 
  • การใช้งาน ระบบสี RGB เป็นระบบสีที่เหมาะกับการใช้งานในสื่อออนไลน์และสื่อดิจิตอลต่าง ๆ ได้แก่ สื่อที่ใช้นำเสนอในหน้าจอมอนิเตอร์ จอโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน ทั้งผ่านทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ หรือการเซฟไฟล์มาในรูปแบบของ CD และ DVD ไฟล์ต่าง ๆ
  • สีหลักและการผสมสี สี CMYK เป็นระบบสีที่ประกอบด้วยสีหลักจำนวน 4 สี คือ สีฟ้าอมเขียวcyanสีแดงอมม่วง (magenta) สีเหลือง(yellow) และสีดำ (Black)  การผสมสีจะเป็นการผสมแบบลบ คือการดูดกลืนแสงที่สะท้อนจากวัตถุ ซึ่งสีบางส่วนจะถูกดูดกลืนไว้ และสีบางสีจะถูกสะท้อนออกมา ซึ่งเมื่อไล่ระดับสีโดยจุดเม็ดสีของเครื่องพิมพ์ออกมาเรียบร้อยแล้วจะมีสีที่เกิดขึ้นให้เลือกทั้งหมด 1 ล้านสี เป็นเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 0-100 ไล่จากสีขาวไปจนถึงสีดำ
  • ข้อดีและข้อเสีย เป็นสีที่มีความคมชัดสูงโดยเฉพาะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับงานพิมพ์ และการออกแบบส่งโรงพิมพ์ต่าง ๆ แต่ต้องเลือกกระดาษที่นำมาใช้พิมพ์ให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นสีที่ได้จะทึบและไม่สวยงามเท่าที่ควร รวมถึงหมึกพิมพ์ชนิดนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง
  • การใช้งาน ระบบสี CMYK เป็นระบบสีที่เหมาะสำหรับงานพิมพ์ ได้แก่ โปสเตอร์, ใบปลิว, ป้ายไวนิล, ป้ายบิลบอร์ด, แมกกาซีน, นามบัตร, แผ่นพับ, โบรชัวร์ และสื่อสิ่งพิมพ์ชนิดต่าง ๆ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

เมื่อเห็นเปรียบเทียบรูปเดียวกันซ้ายกับขวา จะเห็นได้ว่าสีสด ๆ จี๊ด ๆ จะแสดงผลได้ดีเมื่อเราเลือกใช้ RGB Mode ส่วนสีทางขวาซึ่งเป็น CMYK จะแสดงผลให้ใกล้เคียงความเป็นจริง ๆ ของงานพิมพ์มากที่สุด 

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

โดยเฉพาะเมื่อเรากำลังทำงานในโหมด CMYK นั้น เราอาจจะต้องระวังการเลือกใช้สีมากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะกำลังใช้สีที่ไม่ได้พิมพ์ได้จริง เมื่อดูจากจออาจจะดู Artwork เราสวยงามแต่ทำไมพิมพ์ออกหม่นเพี้ยนตุ่นหมอง นั่นก็เป็นเพราะว่าเรายังไม่ได้ดูเรื่องขอบเขตของสีที่พิมพ์ได้ให้ดีพอ (CMYK Gamut) ใน Illustrator Photoshop จะมี Function เตือนเรื่อง Gamut อยู่แล้ว เราก็สามารถนำมาใช้ช่วยเราได้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

กล่าวโดยสรุปคือโหมด RGB เหมาะสำหรับทำกราฟิกออกแบบแบนเนอร์ใช้งานแสดงผลที่จอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ โดยมักจะเน้นให้ไฟล์เล็กกระชับสีสวยสด ใช้ความละเอียดที่ 72 DPI ขึ้นไปเซฟไฟล์เป็น JPEG, PNG, GIF, smallest file PDF ขนาดเล็ก ๆ เพื่อให้โหลดไม่เปลืองค่าเน็ต โหลดได้เร็ว

ส่วนโหมด CMYK เหมาะสำหรับทำกราฟิกใช้แสดงผลผ่านงานพิมพ์ โดยเน้นที่ไฟล์ใหญ่ละเอียด คมชัด สีสันตรงตามโปรไฟล์ที่กำหนด ใช้ความละเอียดที่ 300DPI ขึ้นไป เซฟไฟล์เป็น AI, PSD, EPS, TIF, Highest Quality PDF ขนาดใหญ่ที่ไม่ลดทอนคุณภาพ เพื่อให้รายละเอียดแบนเนอร์ออกมาครบถ้วนที่สุด

ถ้าเราเอาไปใช้สลับกัน ไฟล์ดูจอก็จะใหญ่หนักสีตุ่นไม่สวย ไฟล์พิมพ์ก็จะแตกสีเพี้ยน

ดังนั้นเมื่อทราบความแตกต่างของระบบสีกัน 2 ระบบแล้ว เชื่อว่านักออกแบบคงจะทราบวิธีการเลือกระบบสีเพื่อให้เหมาะกับงานและปิดงานในขั้นตอนสุดท้ายได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักออกแบบ Artwork สำหรับพิมพ์โปสเตอร์, ใบปลิว, ป้ายไวนิล ที่ต้องส่งโรงพิมพ์ควรตั้งค่าสีเป็นระบบ CMYK ไว้ตั้งแต่แรกเพื่อป้องกันสีผิดเพี้ยนและเพื่อให้ได้งานออกมามีคุณภาพสูง ถูกใจลูกค้า วิธีการเซตตั้งค่าเมื่อเปิดไฟล์ใหม่ใน Adobe Photoshopo หรือ Adobe Illustrator ให้เลือกโหมดให้ถูกต้องได้เลยจาก Properties ตามภาพ

เราสามารถเปลี่ยนโหมดสีที่จะใช้  ได้จากการเลือกเมนูจากพาเนล Color โดยคลิก     จากนั้นเลือกโหมดสีที่ต้องการ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีให้วัตถุ (Fill Color)
สำหรับการกำหนดสีให้กับวัตถุนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น กำหนดจากพาเนล Color , Color Picker , พาเนล Swatch , หรือพาเนล Gradient เป็นต้น ซึ่งสามารถเลือกใช้แต่ละวิธีได้ตามความจำเป็นและความถนัด

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีพื้นและสีเส้นจากพาเนล Color
หลังจากที่แสดงพาเนล Color แล้ว เราจะมาเติมสีให้กับวัตถุกันตามขั้นตอน ดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีพื้นและสีเส้นจาก Color Picker
การเติมสียังสามารถใช้ Color Picker ในการกำหนดสีพื้นและสีเส้นได้โดยคลิกเลือกจากแถบแยกสีหรือป้อนตัวเลขค่าสีเอง นอกจากนี้แล้วยังสามารถเปลี่ยนและเลือกสีในโมเดลต่างๆ ได้ด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีพื้นและสีเส้นด้วยเครื่องมือในทูลบ็อกซ์
ในการเลือกสีเพื่อนำไปใช้ตกแต่งภาพนั้น สีที่เลือกจะปรากฏในช่อง Fill และ Stroke ซึ่งเราสามารถใช้เครื่องมืออื่นบนทูลบอกซ์ที่อยู่ใกล้เคียง ในการสลับหรือเปลี่ยนแปลงสีใหม่ได้ดังนี้

  •  คลิกที่ปุ่มเพื่อสลับค่าระหว่างสีพื้นกับสีเส้น   
  •  คลิกที่ปุ่มเพื่อกลับไปใช้สีเริ่มต้น (Default color) คือ พื้นสีขาวและเส้นสีดำ
  •  คลิกที่ปุ่ม(Gradient) เพื่อเติมสีแบบไล่โทน
  •  คลิกที่ปุ่ม(None) ไม่ต้องการเติมสีใดๆ
  •  คลิกที่ปุ่มจะกลับมาใช้สีทึบ (Solid) หลังจากที่ใช้สีแบบไล่โทนหรือไม่เติมสีใดๆ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีพื้นและสีเส้นจากพาเนล Swatches
สีที่มีในพาเนล Swatches นั้นเป็นสีสำเร็จที่โปรแกรมได้เตรียมไว้ให้แล้วเป็นชุดๆ ซึ่งมีทั้งหมด 3 แบบคือ สีแบบทึบ , แบบไล่โทนและลวดลายพื้น (Pattern) ซึ่งผู้เรียนสามารถกำหนดสีต่างๆ เหล่านี้ให้จากพาเนล Swatches ก่อนอื่นผู้เรียนจะต้องเปิดพาเนล  Swatches ขึ้นมาใช้งานโดยเลือกเมนูคำสั่ง Windows เลือกพาเนล Swatches จะปรากฏพาเนลที่มีการกำหนดรูปแบบ ต่าง ๆดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ในพาเนล Swatches สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นมุมมองต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกขึ้น โดยคลิกปุ่ม แล้วเลือกรูปแบบต่างๆ  ดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

สำหรับขั้นตอนในการเติมสีจากพาเนล Swatches มีดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
สร้าง Pattern ใหม่ในพาเนล Swatches
นอกจากการสร้างสีใหม่ตามวิธีข้างต้นแล้ว ผู้เรียนยังสามารถทำการสร้าง Pattern ไว้ใช้งานได้อีกด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีพื้นแบบไล่โทนด้วยพาเนล Gradient
การเติมสีแบบไล่โทนจะช่วยให้ภาพดูมีมิติและมีความสวยงามมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการไล่ระดับสี
จากสีหนึ่งไปยังอีกสีหนึ่ง โดยใช้ทิศทางการไล่อยู่สองทาง คือ การไล่แบบแนวตรงและแบบวงกลม และจะทำงานร่วมกับเครื่องมือ Gradient และพาเนล Gradient โดยเลือกพาเนล Gradient มาไว้บนโปรแกรมโดยคลิกเลือกเมนูคำสั่ง Windows เลือกคำสั่ง Gradient ซึ่งจะมีส่วนประกอบของพาเนลดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
ขั้นตอนการเติมสีแบบ Gradient มีดังนี้

  • คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเติมสีแบบ Gradient
  • คลิกที่ปุ่ม (Gradient) บน Toolbox เพื่อเติมสีแบบไล่โทน
  • คลิกเลือก Type ในพาเนล Gradient เพื่อกำหนดรูปแบบการไล่สี
  • ระบุองศาการเอียงของสีที่ช่อง Angle
  • ดับเบิ้ลคลิกที่จุดสี จะปรากฏหน้าต่างของสีขึ้นมา จากนั้นเลือกสีที่ต้องการ
  • คลิกลากปุ่ม  เพื่อกำหนดตำแหน่งของจุด  หรือป้อนค่าตัวเลขที่ช่อง Location
    หลังจากนั้นให้คลิกจุดสีที่เหลือ  แล้วทำซ้ำในขั้นตอนที่ 5 และ 6 
  • เปลี่ยนศูนย์กลางของการไล่ระหว่างสี 2 สี ได้โดยคลิกลากที่ปุ่ม หรือ คลิกที่ปุ่มแล้วใส่ค่าที่ช่อง Location ก็ได้เช่นเดียวกัน

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
การเพิ่มจำนวนจุดสี
หากต้องการไล่โทนสีให้มากกว่าที่มีอยู่ ให้คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเพิ่มจำนวนจุดสีหลังทำตามขั้นตอนดังนี้

วิธีที่ 1 จากพาเนล Gradient

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

วิธีที่ 2 จากพาเนล Swatches

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
การลดจำนวนจุดสี
เมื่อทำการเพิ่มจำนวนไปแล้ว และต้องการลดจำนวนจุดสีบางจุดที่ไม่ต้องการออกไปจากวัตถุ สามารถทำได้ดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
การคัดลอกจุดสี
สำหรับสีบางสีที่ต้องการใช้หลายตำแหน่ง สามารถคัดลอกจากจุดเดิมไปยังจุดสีใหม่ได้ โดยที่ไม่ต้องผสมสีใหม่ โดยคีย์ Alt    บนแป้นพิมพ์ค้างไว้แล้วคลิกลากจุดสีต้นแบบออกไปวางยังตำแหน่งใหม่จะเห็นว่าจุดสีที่เพิ่มขึ้นมาจะมีสีเดียวกับจุดสีที่เป็นต้นฉบับ ดังภาพ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
สร้าง Gradient ใหม่ในพาเนล Swatches
หากต้องการเก็บสี Gradient ที่สร้างขึ้นเองไว้ใช้งานในครั้งต่อไปก็สามารถทำได้โดยเก็บไว้ในพาเนล Swatches โดยมีขั้นตอนคือ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
ปรับแต่งทิศทางและการกระจายของสีด้วยเครื่องมือ Gradient
หลังจากกำหนดสีแบบไล่โทนให้กับวัตถุไม่ว่าจะเป็นแบบแนวตรง หรือ แบบรัศมีวงกลมก็ตาม เราสามารถเปลี่ยนจุดศูนย์กลาง  ทิศทาง  และระยะการกระจายตัวของสีเหล่านี้ได้ใหม่ตามต้องการ  ดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีและเส้นด้วยพาเนล Graphic Styles
Style เป็นชุดรูปแบบสีและเส้นรวมทั้งมีกราฟิกพิเศษ เช่น การเติมเงา , การไล่โทนสีแบบหลอดไฟนีออน , ทำขอบแบบหยัก , สีพื้นแบบลายเส้น เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการดึงคุณสมบัติของ Filter และ Effect เข้ามาใช้ โดยโปรแกรมจะรวบรวมและเก็บไว้เป็นหมวดๆ อยู่ใน Graphic Style Libraries ซึ่งวิธีการเปิดพาเนล Graphic Styles  ทำได้โดยคลิกที่เมนูคำสั่ง  Window  เลือกคำสั่ง   Graphic Styles  โดยมีรายละเอียดดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
วิธีการใช้งานสไตล์ (Style)

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
วิธีการเปิดใช้ไลบรารีสไตล์ (Style Libraries)

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
ดูดสีจากวัตถุอื่นด้วยเครื่องมือ Eyedropper
Eyedropper เป็นการเลือกใช้สีอีกวิธีหนึ่ง โดยจะทำการเลือกสีพื้น , สีและรูปแบบเส้น , ความโปร่งใส รวมไปถึงรูปแบบของฟอนต์จากวัตถุต้นแบบมาใช้  และยังสามารถเลือกสีจากภาพบิทแมพมาใช้งานได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ภาพวาดมีสีสันที่เหมือนจริง โดยมีวิธีการใช้งานดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เทสีให้ภาพด้วยเครื่องมือ Live Paint Bucket
Live Paint Bucket  ใช้ในการเติมสีให้ชิ้นวัตถุที่มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆด้วยเส้น Path หรือด้วยวัตถุอื่นที่ซ้อนทับกันอยู่  โดยไม่ต้องเลือกวัตถุไว้ก่อน ซึ่งสามารถเทสีลงไปได้เลยทันที โดยมีขั้นตอนดังนี้

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีแบบไล่โทนสีโดยใช้ Gradient Mesh
สำหรับการไล่โทนสีแบบ Gradient โดยใช้พาเนล Gradient นั้นเป็นการไล่สีตามแนวทีมีให้ คือ แนวตรง (Linear) หรือเป็นวงกลม (Radial) เท่านั้น อย่างไรก็ตามการวาดภาพที่มีแสงเงาแบบซับซ้อนหรือภาพแบบเหมือนจริงนั้น การไล่โทนสีแบบนี้อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากทิศทางของเงาหรือโทนสีนั้นไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือเป็นวงกลมเสมอไป ดังนั้นหากต้องการวาดภาพในลักษณะนี้แล้วก็ควรใช้การเติมสีแบบ Gradient Mesh
การเติมสีแบบนี้จะเป็นการเติมสีแบบอิสระเหมือนกับการใช้พู่กันระบายสี ทั้งนี้ก่อนอื่นจะต้องสร้างตาข่ายสำหรับเป็นโครงสร้างในการเติมสีก่อน ซึ่งจะเป็นเส้นตารางในแนวตั้งและแนวนอน โดยการเติมสีนั้นจะเติมจากจุดตัดของเส้น โดยแต่ละจุดก็จะเก็บคุณสมบัติสีของตัวเองและเมื่อเติมสีให้กับจุดสีก็จะทำการกระจายออกไปพร้อมๆ กับไล่โทนไปหาสีที่จุดอื่นบริเวณรอบๆ
การกระจายของสีนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนของเส้นตาข่าย หากเส้นมีน้อยระยะห่างแต่ละจุดมากก็จะทำให้สีกระจายได้ในวงกว้างดังภาพด้านซ้าย แต่หากจำนวนตาข่ายมีมากระยะห่างในแต่ละจุดก็จะน้อย จึงทำให้สีกระจายได้ในวงแคบๆ ดังภาพด้านขวา

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
การสร้างตาข่ายด้วยเครื่องมือ Mesh
การสร้างตาข่ายด้วยเครื่องมือ Mesh เป็นการสร้างตาข่ายแบบอิสระ โดยสร้างจุดตัดของเส้นในแนวตั้งและแนวนอนตามการคลิกตรงตำแหน่งบนวัตถุ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. คลิกที่เครื่องมือ Mesh  บน Toolbox โดยเมาส์จะเปลี่ยนเป็นรูป
  2. ใช้เมาส์รูปคลิกตรงตำแหน่งบนวัตถุที่ต้องการให้เป็นจุดสี

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
สร้างตาข่ายด้วยคำสั่ง Create Gradient Mesh
เป็นการสร้างตาข่ายโดยแบ่งออกเป็นช่องแถวและคอลัมน์ที่มีขนาดเท่าๆ กัน และมีลักษณะของเส้นตาข่ายที่แปรเปลี่ยนไปตามรูปทรงของวัตถุ ซึ่งมีขั้นตอนในการสร้างดังนี้

  1. คลิกเลือกวัตถุ
  2. คลิกเมนูคำสั่ง Object  เลือกคำสั่ง  Create Gradient Mesh…
  3. กำหนดรายละเอียดของตาข่าย ดังนี้

Rows      กำหนดจำนวนแถว
Columns       กำหนดจำนวนคอลัมน์
Appearances        เลือกรูปแบบการไล่โทนสี
     Flat     กำหนดให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีใดๆ
     To Center     ปรับการไล่โทนสีโดยใช้สีสว่างจากจุดกลางวัตถุ
     To Edge        ปรับการไล่โทนสีโดยใช้สีสว่างจากขอบด้านนอก
Highlight    กำหนดความสว่างของโทนสี เมื่อเลือกรูปแบบการไล่แบบ To Center หรือ To Edge
      4.   คลิกปุ่ม   

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
เติมสีให้กับจุดสี
หลังจากสร้างตาข่ายแล้วยังสามารถเติมสีให้กับจุดตัดของเส้นตาข่ายดังนี้
1.  คลิกเลือกจุดสีด้วยเครื่องมือ Direct Selection หรือเครื่องมือ Lasso  ในกรณีที่ต้องการเลือกหลายจุดพร้อมๆ กัน
กดคีย์ 
ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
 Shift     ค้างไว้ขณะคลิกลากเพื่อเพิ่มกลุ่มของจุดสีในบริเวณอื่นๆ
2.  คลิกกำหนดสีจากพาเนล Swatches , Color หรือ Color  Guide
หากเป็นการวาดภาพตามต้นแบบ เราสามารถใช้เครื่องมือ Eyedropper ดูดสีจากภาพต้นแบบมาใช้ได้ ซึ่งจะทำให้ภาพมีความเหมือนจริงมากขึ้น

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ

ข้อใดโหมดสี color mode โหมดสีที่กำหนดขึ้นพิเศษ
กำหนดความโปร่งใสของสีด้วยพาเนล Transparency

การปรับแต่งความโปร่งใสจะส่งผลให้วัตถุนั้นมีความจางลงจนมองเห็นวัตถุอื่นที่อยู่ด้านหลังได้   โดยค่า Opacity ที่ 100 % จะทำให้สีวัตถุทึบที่สุด   ในขณะที่ค่า Opacity ที่  0 % วัตถุจะโปร่งจนมองไม่เห็น ซึ่งการปรับค่าความโปร่งใสจะต้องทำที่พาเนล Transparency   ดังนี้