- ในบางรายที่เป็นมาก จะมีอาการปวดหลังร้าวลงขาทั้ง 2 ข้าง ขาชาและอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง ปัสสาวะไม่ออกและท้องผูกจําเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันความพิการที่จะเกิด อย่างถาวร Show - ไอ จาม เบ่งแล้วจะมีอาการปวด
วิธีการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด- รับประทานยาแก้ปวด / คลายกล้ามเนื้อ - ฉีดยา - การทำกายภาพบำบัด การทำกายภาพบำบัด ในผู้ป่วยหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท ทำอะไรได้บ้าง ?- การใช้เครื่องช่วยดึงหลัง การดึงกระดูกสันหลัง จะช่วยให้หมอนรองกระดูกกลับเข้าที่ได้ เพราะเป็นการดึงให้กระดูกสันหลังแยกห่างออกจากกัน ทำให้ลดแรงกดเบียดต่อตัวหมอนรองกระดูกได้ - การลดอาการปวด โดยการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด - การฝึกเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ร่วมกับการฝึกหายใจ โดยนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้รักษาและให้คำแนะนำ การดูแลตัวเองเบื้องต้น1. ประคบอุ่นบริเวณที่มีอาการปวด ประมาณ 15-20 นาที เช้า-เย็น 2. เริ่มต้น : นอนคว่ำ แล้วค่อยๆพยุงตัวขึ้น ตั้งศอก 90 องศา ขณะที่สะโพกยังสัมผัสกับพื้น ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาขึ้น 3. เริ่มต้น : นอนคว่ำ แล้วค่อยๆพยุงตัวขึ้น เหยียดศอกตรง ขณะที่สะโพกยังสัมผัสกับพื้น ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาขึ้น 4. เริ่มต้น : ทำท่าตั้งคลาน ค่อยๆโก่งหลังขึ้น ก้มศีรษะลง พร้อมหายใจเข้า หลังจากนั้นค่อยๆแอ่นหลังโค้ง กดหน้าท้องลงให้ใกล้พื้นมากที่สุด เงยศีรษะขึ้น พร้อมหายใจออก ทำ 10 ครั้ง/รอบ ทำ 2-3 รอบ 5. เริ่มต้น : ทำท่าตั้งคลาน ค่อยๆยกแขนซ้ายไปด้านหน้าและเหยียดขาขวาไปด้านหลัง ทำค้างไว้ 10-15วินาที แล้วค่อยๆกลับมาท่าตั้งคลาน ทำซ้ำ 10 ครั้ง แล้วสลับข้าง
หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษากับทางรีแฮปแคร์คลินิกได้โดยตรง โดยทางคลินิกมีแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัด คอยแนะนำให้คำปรึกษาได้ตลอด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ที่อยู่ : 423 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. (อยู่ในศูนย์กีฬากันอริ ก่อนถึงซีคอนบางแค) ? 061-801-2482 Line ID : @rehabcare บ่อยครั้งที่อาการปวดหลัง มักจะเกิดขึ้นร่วมกับ อาการปวดร้าวลงขา เป็นหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์มากที่สุด พบได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบมากที่สุดในวัยทำงาน วันนี้ S-Spine and Nerve Hospital เรามีความรู้ดีๆ มาแบ่งปัน รวมถึงสาเหตุที่พบได้บ่อยมากที่สุดของอาการปวดร้าวชาลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีอาการปวดหลังเรื้อรังจนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ สาเหตุของอาการปวดหลังเรื้อรังที่พบได้บ่อย
หมอนรองกระดูกปลิ้น,หมอนรองกระดูกปูด ( Bulging Disc )โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดร้าวลงขาหรือมีอาการปวดหลังร่วมด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการแบบไหนที่เกิดจากหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือเกิดจากสาเหตุอื่น อาการหนึ่งที่เด่นชัดที่มาจากหมอนรองกระดูกปลิ้น คือ อาการปวดร้าวลงไปที่ขาเหมือนไฟช็อต แล้วทำไมถึงมีอาการปวดในลักษณะนี้ สาเหตุนั่นก็เพราะเมื่อมีภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้น มักจะเกิดการกดทับของเส้นประสาทที่ออกมาบริเวณโพรงกระดูกสันหลัง เมื่อหมอนรองกระดูกส่วนนี้ปลิ้นไปกดทับเส้นประสาทจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดแปล๊บร้าวลงไปที่ปลายขา • หมอนรองกระดูกปลิ้นคือ? โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท (Herniated disc)อาการอาจแสดงออกได้ทั้งบริเวณหลังและขา คนทั่วไปมักเข้าใจว่ามีเพียงอาการปวดหลังอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วอาการที่ขานั้นสำคัญและจำเพาะเจาะจงกับโรคนี้มากกว่า นั่นแสดงถึงว่าเกิดการรบกวนของเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงบริเวณขาแล้ว หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนออกมามักทำให้เกิดอาการแบบฉับพลัน เพราะมีการอักเสบที่รุนแรงอาการปวดหลังส่วนล่าง : มักจะปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง โดยมีอาการที่บริเวณหลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ส่วนใหญ่จะมีอาการในลักษณะของท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า ซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด อาการขาชา : อาการเด่นชัดที่มักแสดงที่บริเวณขา มีได้ 3 แบบ คือ อาการปวด อาการชา หรือ อ่อนแรงของกล้ามเนื้อ อาการปวดหรือขาชาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะมีลักษณะอาการตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป ผู้ป่วยจะปวดหลังส่วนล่างตั้งแต่บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงเท้าและนิ้วเท้าได้ อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดและชา คือ จะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมัดที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น สาเหตุของโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท1.การยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ ต้นเหตุของอาการเจ็บปวดต้นเหตุของความเจ็บปวดทั้งหลายนั้น ส่วนมากมีสาเหตุมาจากการที่กระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังตำแหน่ง Lumbar (L-L5,S1) เกิดความผิดปกติอาการของหมอนรองกระดูกปลิ้นมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันตามการรบกวนของเส้นประสาท หรือการกดทับของเส้นประสาท ถ้าโดนกดทับเพียงเล็กน้อยก็อาจจะมีปวดแปล๊บไปที่ขาหรือขาชาเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เส้นประสาทโดนกดอย่างรุนแรง ผู้ป่วยบางรายอาจถึงขั้นเดินไม่ได้หรือกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นหากมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังอาจรักษาให้หายได้ยาก ที่ โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท เรามีนวัตกรรมการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการปวดหลังโดยเฉพาะ ด้วยการรักษาที่ต้นเหตุ ตรงจุด ปลอดภัย ไม่เสียเวลาพักฟื้น และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องผ่าตัด! จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นอาการปวดหลังร้าวลงขา จากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติ และตรวจร่างกายเป็นหลัก อาจมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น การถ่ายภาพรังสี (X-ray) บางกรณีจึงอาจต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือเอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) MRI คือ การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างภาพอวัยวะในร่างกาย โดยอาศัยหลักของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ ทำให้ได้ภาพอวัยวะภายใน ที่มีความคมชัด สามารถแยกเนื้อเยื่อของร่างกายที่ปกติและผิดปกติ ออกจากกันได้ • MRI แบบยืน ค้นหาสาเหตุของคนปวดหลัง ไม่อยากผ่าตัด ก็สามารถใช้ Laser รักษาโรคปวดหลัง..กระดูกทับเส้นได้โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ในอดีตต้องทำการผ่าตัดเปิดแผลขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ผู้ป่วยบอบช้ำและใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน ที่ รพ.เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ มีเทคนิคการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ด้วยเทคโนโลยี Laser ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแบบเปิดแผลขนาดใหญ่เกินความจำเป็น เพราะเข็มในการทำเลเซอร์มีขนาด 1 มิลลิเมตร หรือ เท่ากับเข็มฉีดยาทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างมาก และการรักษาด้วย Laser จะช่วยให้หมอนรองกระดูกที่ยื่นออกมากดทับเส้นประสาท ยุบลงได้ โดยผู้ป่วยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งวิธีการรักษาแนวใหม่นี้ เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เนื่องจากมีโอกาสหายสูง ข้อดีสำหรับการรักษาด้วย Laser |