Show
5 เทคนิคป้องกัน “อาหารไม่ย่อยในผู้สูงอายุ” ผู้ใหญ่ในบ้านชอบบ่นว่าจุกท้อง แน่นท้องบ่อยๆ รู้สึกเหมือนอาหารไม่ย่อย ว่าแต่…อาหารไม่ย่อยนี่มีอาการแบบไหนนะ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝาก เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สบายตัวนี่ของผู้สูงอายุ “อาหารไม่ย่อย” คืออะไร?“อาหารไม่ย่อย” เป็นอาการที่เกิดขึ้นระหว่างทานอาหารหรือหลังทานอาหารที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยส่วนมากจะพบได้บ่อยในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุไม่สบายท้อง จุกเสียด แน่นท้อง…อาการ “อาหารไม่ย่อย”ผู้ที่มีลักษณะอาหารไม่ย่อยมักจะรู้สึกไม่สบายท้องตรงบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ มีอาการปวดท้องช่วงบน จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในท้อง เรอบ่อย แสบท้อง เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว หรือมีอาการแสบร้อนกลางทรวงอกหลังทานอาหาร โดยอาการดังกล่าวจะดีขึ้นและสามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป บางคนอาจเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณของโรคและการเจ็บป่วยในระบบย่อยอาหารได้ด้วยเครียด กินเร็ว กินอาหารไม่ตรงเวลา…สาเหตุของ “อาหารไม่ย่อย”ความจริงแล้วสาเหตุของการเกิดความไม่สบายตัวนี้มีได้หลายอย่าง ตั้งแต่พฤติกรรมการกินอาหาร เช่น กินอาหารไม่ตรงเวลา กินเร็ว กินมากไป ฯลฯ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สูบบุหรี่ เครียด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลมมากเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุได้ทั้งสิ้นแค่ปรับพฤติกรรม…ก็ป้องกันได้การป้องกันอาการไม่ย่อยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้วอาจต้องระวังเป็นพิเศษ เราสามารถปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตได้ง่ายๆ ด้วยเทคนิคเหล่านี้!1.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง มีรสเผ็ด หรืออาหารสำเร็จรูป “อาหารไม่ย่อย” ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพียงแค่รู้จักปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็สามารถห่างไกลโรคนี้ได้ไม่ยาก! สอบถามรายละเอียดศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ อาคาร 1 ชั้น 2โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 โทร.02-514-4141 ต่อ 1210 – 1211 ใครเคย อาหารไม่ย่อย บ้าง ?อาหารไม่ย่อย เกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีแก๊สในระบบย่อย และเกิดกรดเกินในกระเพาะ ทำให้เกิดอาการจุก เสียด แน่น บริเวณลิ้นปี่ สาเหตุของปัญหาที่พบบ่อยมีดังนี้
อ่านหนัาถัดไป ติดตามคำแนะนำจาก กูรูสุขภาพ ทำตามง่าย เห็นผลจริง คลิกเลย! “อาหารไม่ย่อย” สัญญาณปัญหาระบบทางเดินอาหารศูนย์ : ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ บทความโดย : พญ. เพ็ญประไพ หงษ์ศรีสุวรรณ์ หลังกินข้าวแล้วเกิดอาการท้องอืด จุดเสียด แน่นท้อง เหมือนอาหารไม่ย่อยทุกที ทรมานจนหลายครั้งต้องพึ่งยาช่วยย่อยอาหาร ยาลดกรด แม้อาการจะดีขึ้นและหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา หรือไม่หาสาเหตุอาจกลายเป็นภาวะอาหารไม่ย่อยเรื้อรัง ก่อให้เกิดโรคและการเจ็บป่วยในระบบทางเดินอาหารที่รุนแรงได้ อาหารไม่ย่อยอาหารไม่ย่อย (Dyspepsia) เป็นอาการไม่สบายท้องบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน ช่วงระหว่างหรือหลังกินอาหาร ทำให้เกิดอาการอึดอัด ไม่สบายท้อง มีอาการหลายอย่างร่วมกัน พบได้เกือบทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ที่จะพบได้มากกว่าในเด็ก ส่วนโอกาสการเกิดอาการมีใกล้เคียงกันทั้งในผู้ชายและผู้หญิง บางคนเป็นครั้งคราว บางคนอาจเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ต้นเหตุ...ภาวะอาหารไม่ย่อยบ่อยครั้งที่ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า สาเหตุของอาการอาหารไม่ย่อยมาจากอะไร แต่โดยส่วนใหญ่มักเกิดจาก
จุกเสียด แน่นท้อง อาการเด่นอาหารไม่ย่อยเมื่อเกิดภาวะอาหารไม่ย่อยจะทำให้มีอาการเด่นเลย คือ จุดเสียด แน่นท้อง ไม่สบายท้องตรงบริเวณยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในท้อง เรอบ่อย แสบท้อง เรอเปรี้ยว เป็นต้น โดยอาการจะเป็นเฉพาะบริเวณระดับเหนือสะดือขึ้นไป และจะไม่มีอาการปวดท้องในระดับใต้สะดือและไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่ายร่วมด้วย ทั้งนี้ อาหารไม่ย่อยที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง อาจไม่เป็นอันตรายอะไร แต่หากมีอาการอาหารไม่ย่อยมากกว่า 1 สัปดาห์ขึ้นไป หรือร่วมกับอาการเหล่านี้ เช่น อาเจียนอย่างรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนออกมาเป็นสีดำคล้ำ น้ำหนักลดไม่มีสาเหตุ กลืนอาหารลำบาก เป็นต้น ควรรีบมาพบแพทย์ ตรวจเช็ค รักษาให้ถูกวิธีการดูแลรักษาภาวะอาหารไม่ย่อย ต้องรักษาที่ต้นเหตุตามลักษณะอาการที่เป็น โดยเบื้องต้นแพทย์จะวินิจฉัย จากประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และจากการที่ให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดกรด หรือยาช่วยย่อยอาหาร ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลังจากนั้นจะดูอาการประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากไม่ดีขึ้นหรือมีอาการมากขึ้น ก็อาจมีการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น การตรวจเลือด หรือการตรวจลมหายใจหาการติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร และการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีกล้อง (Endoscope) ติดอยู่ตรงส่วนปลายท่อ สอดเข้าไปทางปากของผู้ป่วย แล้วตรวจดูอวัยวะภายในเพื่อหาความผิดปกติผ่านภาพจากกล้อง อย่างไรก็ตาม อาหารไม่ย่อยควรป้องกันที่สาเหตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง รวมทั้งการปรับพฤติกรรมการรับประทาน เช่น เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง มีรสเผ็ด หรืออาหารสำเร็จรูป กินอาหารให้ตรงเวลาและกินพอดีไม่เยอะจนเกินไป พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีบริหารจัดการรับมือกับความเครียด หาวิธีผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้ห่างไกลอาการอาหารไม่ย่อยได้ Tags : อาหารไม่ย่อย , แผลในกระเพาะอาหาร , ระบบทางเดินอาหาร , กินอาหารไม่ตรงเวลา , จุดเสียดแน่นท้อง , ส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร |