ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวัดและความผิดพลาด เครื่องมือวัดไฟฟ้าและการทำงาน มิเตอร์ไฟกระแสตรง มิเตอร์ไฟกระแสสลับ... เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วยรายละเอียดรวมทั้งหมด 9 บท เริ่มตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวัดและความผิดพลาด เครื่องมือวัดไฟฟ้าและการทำงาน มิเตอร์ไฟกระแสตรง มิเตอร์ไฟกระแสสลับและมิเตอร์พิเศษ บริดจ์ไฟฟ้ากระแสตรง บริดจ์ไฟฟ้ากระแสสลับ ออสซิลโลสโคป ออสซิลโลสโคปชนิดพิเศษและชนิดดิจิตอล จนถึงเรื่องเครื่องกำเนิดสัญญาณ ทุกเรื่องกล่าวถึงรายละเอียดในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติไว้อย่างละเอียด จัดทำตรงกับจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชา หลักสูตร 2556 เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการให้บริการ ปฏิบัติงานบริการและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี มีบุคลิกภาพและเจตคติที่ดีในการให้บริการ เน่อื งจากสเกลทแี่ สดงคา่ ไวน้ ้นั ไมส่ ามารถแสดงค่าอย่างละเอยี ดถกู ตอ้ งได้ จะตอ้ งแสดงค่าโดยประมาณออกมา และ คา่ 1.4 M Ω ถือว่าเป็นค่าโดยประมาณท่ีใกล้เคียงค่าที่ถูกต้องมากที่สุด ถึงแม้จะอ่านค่าบนสเกลอย่างละเอียดก็ ในการอ่านค่าการวดั จากเครื่องวดั ไฟฟ้าท่แี สดงค่าไว้ ผู้วัดมกั จะยอมรบั คา่ ท่เี คร่ืองวดั ไฟฟ้าแสดงไว้ ซ่งึ ผูว้ ัด การแสดงความแมน่ ยำของเครอ่ื งมือวดั จะหาได้จากจำนวนของตวั เลขทแี่ สดงซ่งึ ผลท่ีไดจ้ ะเป็นเคร่ืองแสดง ตัวอย่างเช่น ตัวต้านทานตามข้อกำหนดใช้ค่าความต้านทาน 68 Ω ความต้านทานที่ใช้ใกล้เคียง 68 Ω อาจเปน็ 67 Ω หรือ 69 Ω ถ้าค่าความตา้ นทานบอกคา่ ไว้ 68.0 Ω น่ันหมายถึงค่าความต้านทาน 68.0 Ω มีค่า ใกล้เคียงมากกว่าคา่ ความต้านทาน 67.9 Ω หรอื 68.1Ω คา่ ความต้านทาน 68 Ω จำนวนตัวเลขท่ีแสดงไว้ 2 หลัก สว่ นค่าความต้านทาน 68.0 Ω จำนวนตัวเลขที่แสดงไว้ 3 หลัก จะเห็นได้ว่าจำนวนตัวเลขที่แสดงไว้แบบหลัง จะ อย่างไรกต็ าม จำนวนหลักของตัวเลขท้ังหมด ไม่อาจแทนความเท่ยี งตรงของเคร่ืองมือวัดได้ บ่อยครั้งเลข ในการบอกค่าจำนวนประชากรควรบอกจำนวนตวั เลขทแ่ี สดงคา่ ไวใ้ นจำนวนตัวเลขมากๆจำนวนตวั เลขที่มี มาก อาจเป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดข้ึนได้ จากจำนวนเลขศูนย์ที่ใส่ไม่ครบ ดังน้ันจึงทำให้หมดไปโดยเครื่อง จำนวนตัวเลขของการวัด ขึน้ อยู่กบั การวัดทดสอบหลายๆ คร้ัง และเลือกค่าคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสดุ ผลที่ได้ ไม่มีเครื่องมือวัดใดๆ ท่ีสามารถวัดค่าได้ถูกต้องเที่ยงตรงอย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่เกิดข้อผิดพลาด ค่า คา่ ผดิ พลาดเกดิ จากสาเหตุสำคญั 3 ประการ คอื เหล่าน้จี ะเกดิ ข้ึนได้งา่ ย จงึ ควรพยายาม ถกู ต้อง หรอื ใช้เครื่องไมเ่ หมาะสมกบั งาน การวดั ค่าจะเปลย่ี นแปลงไปในทางท่ีดขี น้ึ ถา้ ใช้เครอ่ื งมือวัดทเี่ หมาะสมกับ ค่าผิดพลาดท่ีเกิดขึ้น ส่วนมากมีสาเหตุมาจากความประมาท และความไม่ชำนาญในการใช้ของผู้ใช้ เช่น ค่าผิดพลาดจากความประมาทน้ี ไม่สามารถจะนำไปใช้คำนวณทางคณิตศาสตร์ได้ ดังนั้นควรหลีกเล่ียง ค่าผิดพลาดของระบบที่พบได้บ่อยในการทำงานและปฏิบัติงาน แบง่ ตามความแตกต่างออกได้ 2 ประเภท 1. เครอื่ งมือผิดพลาด (Instrumental Errors) เกดิ จากข้อบกพรอ่ งของเครื่องมอื วัดเอง มาจากโครงสร้าง ความผิดพลาดต่างๆ ของเคร่ืองมือวัดน้ัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเคร่ืองมือท่ีใช้ ผู้ใช้จะต้องป้องกันและ ความผดิ พลาดของเคร่อื งมอื วัด อาจจะหลกี เลี่ยงได้โดยปฏบิ ัตดิ งั น้ี ปรับแต่งเคร่ืองมอื วดั ให้ไดม้ าตรฐาน เลือกเครื่องมือวัดให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยเฉพาะหาเคร่ืองมือวัดท่ีเหมาะสมมาใช้งาน โดย พจิ ารณาจากข้อกำหนดของเครอื่ งมือวดั และเลอื กจากคา่ ผดิ พลาดของเคร่ืองมือวดั นนั้ ๆ คา่ ผิดพลาดที่คงท่ี (Static Errors) มสี าเหตมุ าจากอปุ กรณท์ ใี่ ช้วัดถูกจำกัดค่าหรือจากกฎขอ้ บังคบั ทาง ค่าผิดพลาดท่เี ปลีย่ นแปลง (Dynamic Errors) มสี าเหตุมาจากเคร่ืองมือวดั ไมส่ ามารถตอบสนองได้เร็ว • ด้านทกั ษะ+ด้านจิตพสิ ยั (ปฏิบัต+ิ ด้านจิตพิสยั ) (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 2-6) 1. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 1 • ด้านคุณธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 7) 1. ใช้หนว่ ยการวดั และค่าความคลาดเคล่อื นการวัดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้ ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนกั เรยี น 1. ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น (15 นาที ) 1. ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (15 นาที ) 1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนำ 1. ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์และ ฟังครูผู้สอนแนะนำ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง รายวิชา วิธกี ารให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง หน่วย หน่วยการวัดและค่าความคลาดเคลือ่ นการวัด การวัดและคา่ ความคลาดเคลือ่ นการวดั 2. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วย 2. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนที่ 1 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทำกิจกรรมการ เรียนของหน่วยเรยี นท่ี 1 และการใหค้ วามร่วมมอื ในการ เรยี นการสอน ทำกจิ กรรม 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนอธิบายหน่วยการวัดระบบ 3. ผู้เรียนอธิบายหน่วยการวัดระบบนานาชาติ นานาชาติ พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ พร้อมให้เหตุผลประกอบ 2. ขน้ั ให้ความรู้ (120 นาที) 2. ขนั้ ให้ความรู้ (120 นาที ) 1. ผู้สอนเปิด PowerPoint หน่วยที่ 1 เร่ือง 1. ผู้เรียนศึกษา PowerPoint หน่วยที่ 1 เรื่อง หน่วยการวัดและค่าความคลาดเคลื่อนการวัดและให้ หน่วยการวัดและค่าความคลาดเคลื่อนการวัดและให้ ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน เครื่องมือวัด ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน เคร่ืองมือวัด ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน้าท่ี 2-15 โดยให้ ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ หน้าที่ 2-15 โดยใหผ้ ู้เรยี น ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถสอบถามข้อ เรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถสอบถามข้อสงสัย สงสยั ระหว่างเรียนจากผสู้ อน ระหวา่ งเรียนจากผสู้ อน 2. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันฝึกเขียนสัญลักษณ์ 2. ผู้เรียน ร่วมกัน ฝึกเขียนสัญ ลักษณ์ ในงาน ในงานเคร่อื งมอื วัดตามที่ได้ศกึ ษาจาก PowerPoint เครอื่ งมือวัดตามที่ได้ศึกษาจาก PowerPoint 3. ขนั้ ประยกุ ตใ์ ช้ ( 60 นาที ) 3. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ ( 60 นาที ) 1. ผสู้ อนให้ผู้เรียนใบปฏบิ ตั งิ าน 1 สัญลกั ษณ์ 1. ผ้เู รียนทำใบปฏิบัติงาน 1 สัญลักษณ์เบอ้ื งต้น เบอื้ งตน้ ในงานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หนา้ 18-19 ในงานไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์ หน้า 18-19 กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นรู้หรอื กจิ กรรมของนกั เรียน 4. ข้นั สรปุ และประเมนิ ผล ( 45 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ เนอ้ื หาท่ไี ด้เรยี นให้ 1. ผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ เน้ือหาทไี่ ดเ้ รียนให้มีความ มคี วามเข้าใจในทศิ ทางเดยี วกัน เขา้ ใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียน ทำแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 1 2. ผูเ้ รยี นทำแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 1 หน้าที่ 16-17 หน้าท่ี 16-17 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน 3. ผู้เรียนศึกษ าเพ่ิมเติมนอกห้องเรียน ด้วย ดว้ ย PowerPoint ท่จี ัดทำขึ้น PowerPoint ที่จัดทำข้ึน (บรรลุจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 1-7) (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-7) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรยี น) งานท่ีมอบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่อื การเรยี นการสอนหนว่ ยท่ี 1 หนว่ ยที่ 1 ขณะเรยี น 1. ใบปฏิบตั งิ าน 1 สัญลกั ษณ์เบือ้ งต้นในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ หลงั เรยี น 1. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 1 ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น ใบปฏิบตั ิงาน 1 สญั ลกั ษณเ์ บอ้ื งตน้ ในงานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์, แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 1 ส่ือการเรียนการสอน/การเรยี นรู้ สอื่ ส่งิ พิมพ์ สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี สอ่ื ของจริง ท่ี 1-7) แหลง่ การเรียนรู้ ในสถานศกึ ษา นอกสถานศึกษา การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วิชาอ่นื 1. บูรณาการกับวชิ าอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เบื้องต้น การประเมินผลการเรยี นรู้ กอ่ นเรียน ขณะเรยี น หลงั เรยี น คำถาม 1. จงอธิบายหน่วยการวดั ระบบนานาชาติ ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสำเรจ็ ของผู้เรียน ใบปฏบิ ตั งิ าน 1 สัญลักษณเ์ บอ้ื งต้นในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์, แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 1 สมรรถนะทีพ่ งึ ประสงค์ ผ้เู รยี นสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั หน่วยการวดั และค่าความคลาดเคล่ือนการวัด สมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชพี 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หนว่ ยการวดั และค่าความคลาดเคลือ่ นการวัด สมรรถนะการขยายผล ความสอดคลอ้ ง รายละเอยี ดการประเมินผลการเรียนรู้ • จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 1 อธิบายหนว่ ยการวดั ระบบนานาชาตไิ ด้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธบิ ายหน่วยการวัดระบบนานาชาตไิ ด้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 ฝกึ เขยี นสัญลักษณ์ในงานเครอื่ งมือวัดได้ 1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2. เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ฝึกเขียนสญั ลักษณ์ในงานเครื่องมอื วัดได้ จะได้ 2 คะแนน • จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 3 สงั เกตจำนวนตัวเลขทีแ่ สดงได้ 1. วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2. เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การใหค้ ะแนน : สังเกตจำนวนตัวเลขที่แสดงได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 ยอมรับเทคโนโลยเี ครือ่ งมอื วดั ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ยอมรบั เทคโนโลยเี ครือ่ งมอื วดั ได้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 5 ชีแ้ จงความเท่ียงตรงและความแม่นยำได้ 1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2. เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ชีแ้ จงความเท่ียงตรงและความแม่นยำได้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 6 จำแนกชนิดค่าผิดพลาดได้ 1. วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : จำแนกชนดิ ค่าผิดพลาดได้ จะได้ 1 คะแนน • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 7 ใช้หนว่ ยการวดั และค่าความคลาดเคล่อื นการวดั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน รายช่อื สมาชกิ 1……………………………………เลขท…ี่ …. 2……………………………………เลขท่…ี …. 3……………………………………เลขท…่ี …. 4……………………………………เลขท่…ี …. ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเห็น 32 1 1 เน้อื หาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความร้เู กี่ยวกบั เนอ้ื หา ความถูกต้อง ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสยี ง ซ่ึงทำใหผ้ ู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผปู้ ระเมนิ ………………………………………………… 3 คะแนน = มีสาระสำคญั ครบถ้วนถูกตอ้ ง ตรงตามจดุ ประสงค์ ประกอบการ นำเสนอทนี่ ่าสนใจ นำวัสดุในท้องถนิ่ มาประยุกต์ใช้อยา่ งคุ้มค่าและประหยดั การประยุกต์ใช้ วัสดใุ นท้องถิน่ แบบประเมินกระบวนการทำงาน ชื่อกลุม่ ……………………………………………ช้ัน………………………หอ้ ง........................... รายชอื่ สมาชิก 2……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเห็น 1 การกำหนดเปา้ หมายร่วมกนั 321 รวม ผปู้ ระเมนิ ………………………………………………… เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. การกำหนดเปา้ หมายรว่ มกัน 2. การมอบหมายหนา้ ที่รับผิดชอบและการเตรยี มความพร้อม 3. การปฏบิ ตั ิหน้าทท่ี ไี่ ด้รบั มอบหมาย 4. การประเมินผลและปรบั ปรุงงาน บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยที่ 1 หนว่ ยการวดั และคา่ ความคลาดเคลื่อนการวดั ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้ 1. เนือ้ หาสอดคล้องกับจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ผลการเรียนของนกั เรียน 1. นกั ศกึ ษาส่วนใหญ่มีความสนใจใฝ่รู้ เข้าใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลุ่ม และรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิใบงาน 2. นักศึกษากระตือรือรน้ และรับผิดชอบในการทำงานกลุม่ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทนั เวลาที่กำหนด ผลการสอนของครู 1. สอนเนือ้ หาได้ครบตามหลักสตู ร แผนการจัดการเรียนรู้/แผนการเรยี นรภู้ าคทฤษฎี แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 ชื่อวชิ า เครือ่ งมอื วดั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ สอนสปั ดาห์ท่ี 2 ชื่อหน่วย โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง คาบรวม 8 ชื่อเรือ่ ง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง จำนวนคาบ 4 หวั ขอ้ เรือ่ ง ด้านความรู้ ดา้ นทักษะ ดา้ นจติ พิสยั ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม สาระสำคัญ การตรวจวัดปรมิ าณไฟฟ้าต่างๆ ไม่สามารถทำไดด้ ้วยประสาทสัมผสั ต่างๆ ของร่างกายคน ไปสมั ผสั จับตอ้ ง สมรรถนะอาชีพประจำหนว่ ย 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับโครงสรา้ งมาตรวดั ไฟฟา้ กระแสตรง คำศพั ทส์ ำคัญ 1. มาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Meter) หมายถงึ เครื่องวดั ไฟฟ้าแบบพื้นฐานที่ถกู สร้าง จดุ ประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ • จุดประสงคท์ ัว่ ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. เพ่อื ใหม้ คี วามรูเ้ กี่ยวกับการอธบิ ายดารส์ ันวาล์มเิ ตอร์ (ด้านความร)ู้ เปน็ แม่เหลก็ (ดา้ นจิตพิสัย) • จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. อธบิ ายดาร์สันวาลม์ ิเตอร์ได้ (ดา้ นความรู้) พสิ ัย) เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 2.1 ปรมิ าณทางไฟฟ้า ไมส่ ามารถใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ของร่างกายคน ไปสัมผัสจับตอ้ งโดยตรงเพราะปริมาณไฟฟ้าบางชนดิ อาจทำให้ เคร่ืองมือวัดท่ีถกู สร้างข้ึนมาใชง้ านในการวัดค่าปริมาณไฟฟ้าชนิดต่างๆ ถูกสร้างข้ึนในรูปเครื่องวัดไฟฟ้า มาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Meter) เป็นเครื่องวัดไฟฟ้าแบบพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้นมาใช้ เขม็ ชขี้ องมาตรวดั (Pointer) ทบี่ ่ายเบนไป อาศัยหลักการหมุนตวั ของขดลวดเคลอื่ นท่ี(Moving Coil) ถูก มาตรวัดชนิดขดลวดเคล่ือนที่ เป็นการนำเอาหลักการทำงานของสนามแม่เหล็กถาวรและสนามแม่เหล็ก เมอ่ื จ่ายกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดเคล่ือนที่ ส่งผลให้ขดลวดเคลอื่ นทีเ่ กิดสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าข้นึ มา ข้ัว ได้ขั้วของสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าออกมา มขี ั้วเหมือนกับขั้วของแม่เหลก็ ถาวรท่ีวางอยู่ใกล้ๆ เป็นผลให้สนามแม่เหล็ก การบ่ายเบนไปของแท่งแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ จะมากหรอื นอ้ ย ข้ึนอยู่กบั อำนาจแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าท่ีเกดิ ข้ึนในขดลวด มาตรวดั ชนิดขดลวดเคลื่อนทท่ี ี่สร้างมาใช้งาน เป็นมาตรวัดชนิดใช้กับไฟฟ้ากระแสตรงมีช่ือเรียกว่า ดาร์ จากรปู ที่ 2.4 แสดงโครงสรา้ งและสว่ นประกอบของดารส์ นั วาล์มเิ ตอร์ ส่วนประกอบท่ีสำคญั มดี งั น้ี สนามแม่เหล็กผลักดันกัน ทำให้เข็มช้ีบ่ายเบนไปช้ีค่าปริมาณไฟฟ้าแสดงผลออกมาบนสเกลส่ิงสำคัญในการใช้ จากรปู ท่ี 2.5 แสดงการทำงานของมาตรวัดแบบเขม็ ช้ี เม่ือนำดาร์สนั วาล์มิเตอร์ไปวัดปรมิ าณไฟฟ้า รปู ท่ี ข้อดขี องอารเ์ มเจอรช์ นิดเดอื ยและรองเดือย ทำงาน ชนิด 1. โครงสรา้ งบอบบางและไมแ่ ขง็ แรง ไม่สามารถรับการกระทบกระเทอื นแรงๆได้ เพราะมโี อกาส 2. เกดิ ความคลาดเคล่ือนข้นึ ได้จากอายุการใชง้ านของมาตรวดั เชน่ ความเข้มของสนามแมเ่ หล็ก 3. จากโครงสร้างท่ีบอบบาง จึงจำเป็นต้องเพ่ิมเครื่องมือและอุปกรณร์ ่วมประกอบใช้งานภายใน ผดิ พลาด มาตรวดั ชนดิ หอ้ ยแขวนน้ีได้เปลย่ี นสว่ นของเดอื ยและรองเดอื ยมาเป็นแถบตึงแทน ใช้ยึดส่วนอาร์เมเจอร์ จากรูปที่ 2.6 แสดงโครงสร้างของอาร์เมเจอรช์ นิดห้อยแขวนด้วยแถบตึง ส่วนประกอบต่างๆ คล้ายกับ อาร์เมเจอร์จะถูกยึดให้ลอยอยู่ในสนามแม่เหลก็ ถาวร โดยใช้แถบตึงชว่ ยยึดส่วนบนและสว่ นล่างของอาร์ การทำงานของมาตรวัดชนดิ น้ี อธบิ ายได้ดังน้ี เม่ือมีกระแสไฟฟ้ากระแสตรงจา่ ยเข้ามาที่ขดลวดเคล่ือนท่ี เม่ืองดจ่ายกระแสไฟฟ้ากระแสตรงให้ขดลวดเคลื่อนท่ี ขดลวดเคล่ือนท่ีหมดอำนาจแม่เหล็กไม่มีการ ข้อดขี องอารเ์ มเจอร์ชนิดหอ้ ยแขวนดว้ ยแถบตึง ข้อเสยี ของอารเ์ มเจอร์ชนดิ ห้อยแขวนด้วยแถบตงึ 2.6 ดาร์สนั วาลม์ เิ ตอรช์ นิดแกนกลางเป็นแม่เหล็ก สารเฟอร์โรแมกเนติก (Ferromagnetic) เป็นสารทชี่ ่วยเพิ่มอำนาจแม่เหล็กและเพ่ิมอำนาจแรงดึงดดู ได้แรงมาก จากรูปท่ี 2.7 แสดงดารส์ ันวาล์มิเตอร์ชนดิ แกนกลางเป็นแม่เหล็ก การผลติ ดาร์สันวาล์มิเตอร์ชนิดนี้ข้ึนมา ความผิดพลาดในการใช้มาตรวัด เกิดข้ึนได้จากสาเหตุหลายประการด้วยกัน ดังน้ันการใช้มาตรวัดด้วย 1. ตวั ผวู้ ัด การใช้งาน การวดั ค่า การอ่านคา่ และการบำรงุ รักษามาตรวดั เปน็ ส่ิงท่ีมคี วามสำคญั มาก หาก 2. การเสียดสีของส่วนเคล่ือนไหว มาตรวัดชนิดเดือยและรองเดือย มีส่วนเสียดสีกันของเดือยและรอง 3. การเสื่อมอายุ ส่วนประกอบของมาตรวัดเม่ือใช้งานไปนานๆ ย่อมเกิดการสึกหรอหรือเสื่อมโทรมลง 4. ความร้อนในตัวมาตรวัด เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาตรวัดในระยะเร่ิมแรก อุณหภูมิของสว่ นตา่ งๆ 5. สนามแม่เหลก็ ภายนอก เมื่อนำมาตรวัดไปวัดปรมิ าณไฟฟ้าใกลส้ ายไฟฟ้าแรงสูง ทมี่ ีกระแสไฟฟ้าไหล 6. อณุ หภูมิบริเวณโดยรอบมาตรวดั มาตรฐานของมาตรวัดในการปรับแตง่ สเกล และการแสดงค่า มักจะ 7. เข็มชี้มาตรวัดเคล่ือนจากศูนย์ ปกติของมาตรวัดขณะไมไ่ ดใ้ ช้งาน เข็มช้ขี องมาตรวัดมกั ชค้ี ่าท่ีเลขศนู ย์ เสมอ เม่ือมีการใช้งานไปนานวันอาจมีผลให้อุปกรณ์ส่วนประกอบเสื่อมลงตามไปด้วย เช่น สปริงบังคับในส่วน 8. การเปลี่ยนแปลงของปริมาณไฟฟ้า ปริมาณไฟฟ้าท่ีวัดออกมาเป็นแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความ 9. ลกั ษณะการใชง้ านมาตรวดั ขณะใช้มาตรวัดวดั ปรมิ าณไฟฟา้ จะต้องจดั วางมาตรวัดใหอ้ ยู่ในตำแหน่งท่ี • ดา้ นทกั ษะ+ดา้ นจติ พิสยั (ปฏบิ ตั ิ+ด้านจติ พิสัย) (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 3-5) 1. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 2 • ดา้ นคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 6) 1. ใช้มาตรวัดไฟฟา้ กระแสตรงไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม กิจกรรมการเรยี นการสอนหรือการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรหู้ รอื กิจกรรมของนักเรยี น 1. ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรยี น ( 15 นาที ) 1. ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน ( 15 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนอ่านเอกสารประกอบการ 1. ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอนวิชา สอนวิชา เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 หน่วยท่ี 2 เรื่อง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟา้ กระแสตรง เรื่อง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง หน้าที่ 21 หน้าท่ี 21 ในสว่ นของสาระการเรยี นรู้ ในส่วนของสาระการเรยี นรู้ 2. ผูส้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 2 2. ผู้เรียนทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เร่อื ง โครงสร้างมาตรวดั ไฟฟา้ กระแสตรง เรยี นของหนว่ ยเรยี นที่ 2 เรื่อง โครงสรา้ งมาตรวัดไฟฟ้า 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนจัดประเภทมาตรวัดไฟฟ้า กระแสตรง กระแสตรงพรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ 3. ผู้เรียนจัดประเภทมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง พรอ้ มให้เหตผุ ลประกอบ 2. ขน้ั ใหค้ วามรู้ ( 120 นาที ) 2. ขน้ั ใหค้ วามรู้ ( 120 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการ 1. ผู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชา สอน วิชา เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เคร่ืองมือวัดไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 หนว่ ยท่ี 2 เรื่อง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรง เรอื่ ง โครงสร้างมาตรวัดไฟฟ้ากระแสตรงหน้าท่ี 22-32 หนา้ ที่ 22-32 พรอ้ มทำความเขา้ ใจ 2. ผู้สอนเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนถามปัญหา และ 2. ผู้เรียนถามปัญหา และข้อสงสัยจากเน้ือหา ข้อสงสัยจากเน้ือหา โดยครูเปรียบเทียบดาร์สันวาล์ โดยครเู ปรยี บเทียบดาร์สนั วาลม์ เิ ตอรช์ นิดห้อยแขวนดว้ ย มิเตอร์ชนิดห้อยแขวนด้วยแทบตึงและชนิดแกนกลาง แทบตึงและชนิดแกนกลางเป็นแม่เหล็กพร้อมให้ผู้เรียน เป็นแม่เหลก็ พรอ้ มให้ผู้เรียนชว่ ยกนั ชว่ ยกนั 3. ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ (60 นาที ) 3. ขั้นประยุกต์ใช้( 60 นาที ) 1. ผู้ ส อ น ให้ ผู้ เรี ย น ท ำ ใบ ป ฏิ บั ติ ง า น 2 1. ผู้เรียนทำใบปฏิบัติงาน 2 โครงสร้างดาร์สัน โครงสร้างดารส์ ันวาล์มิเตอรแ์ บบเข็มชี้ หน้า 35-37 วาล์มิเตอรแ์ บบเข็มช้ี หนา้ 35-37 2. ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต 2. ผู้เรยี นสบื คน้ ข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้ ข้ันตอนการสอนหรอื กิจกรรมของครู ขนั้ ตอนการเรยี นรู้หรอื กจิ กรรมของนกั เรยี น 4. ข้ันสรปุ และประเมนิ ผล ( 45 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล( 45 นาที ) 1. ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั สรปุ เนอื้ หาท่ไี ด้เรยี นให้ 1. ผู้เรียนรว่ มกันสรปุ เนอื้ หาทไ่ี ด้เรยี นใหม้ คี วาม |