Average D4 d13 เป็นการ หาค่า อะไร

1. ผลการสอบของนักเรียนกำหนดให้คนที่ได้คะแนนรวมตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไปได้ผล"ผ่าน" ส่วนคนที่ได้คะแนนรวมน้อยกว่า 50 ได้ผล "ไม่ผ่าน" จากเงื่อนไขดังกล่าวที่เซลล์ F3 ต้องใช้ฟังก์ชันข้อใด 1. =IF(F3=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 2. =IF(F3>=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 3. =IF(E3>=50, "ผ่าน", "ไม่ผ่าน") 4. =IF(E3>=50, ผ่าน, ไม่ผ่าน) 2. ข้อใดคือความหมายของ =SUM(D5:D7) 1. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาผลรวมตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 2. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 3. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการนับจำนวนเซลล์ตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 4. เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการนับจำนวนกลุ่มเซลล์ตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 3. =IF(B3>=3000,B3*5,B3*2) หมายความว่าอย่างไร 1. ถ้าเซลล์ใน B3 มากกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 5 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 2 2. ถ้าเซลล์ใน B3 มากกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 2 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 5 3. ถ้าเซลล์ใน B3 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 5 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 2 4. ถ้าเซลล์ใน B3 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000 ให้นำเซลล์ B3 คูณด้วย 2 ถ้าไม่ใช่ให้คูณด้วย 5 4. ฟังก์ชันหมายถึงอะไร 1. โจทย์หรือการคำนวณต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ 2. สูตรสำเร็จที่สามารถนำไปใช้งานให้เกิดผลลัพธ์ได้ทันที 3. โจทย์หรือสูตรคำนวณที่ประกอบไปด้วยตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป 4. ถูกทุกข้อ 5. การหาค่าเฉลี่ย ใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC 6. ข้อใดมีค่าเท่ากับฟังก์ชัน =AVERAGE(B3:B7) 1.    =SUM(B3:B7)/5 2.    =b3+b4+b5+b6+b7/5 3.    =(b3+b4+b5+b6+b7)/5 4.    สามารถใช้ได้ทั้งข้อ 1 และข้อ 3 7. การหาค่าสูงสุดใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC

8. #VALUE หมายถึงข้อใด

1.  อ้างอิงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 2.  ค่าตัวเลขในสูตรไม่ถูกต้อง 3.  หาค่าไม่ได้ 4.  ค่าอ้างอิงหรือเซลล์ที่อ้างอิงบรรจุคำไม่เพียงพอหรือไม่ถูกต้อง 9. การหาค่าต่ำสุดใช้ฟังก์ชันในข้อใด 1. MAX 2. MIN 3. AVERAGE 4. STDEVC

10. #NUM หมายถึงข้อใด

1.  ค่ายาวเกินไป 2.  ค่าตัวเลขในสูตรไม่ถูกต้อง 3.  อ้างอิงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 4.  การอ้างอิงช่วงเซลล์ที่ใช้ไม่ได้ 11. ฟังก์ชัน IF เป็นฟังก์ชันประเภทใด 1. สถิติ 2. เวลา 3. ตรรกศาสตร์ 4. คณิตศาสตร์

12. ผลลัพธ์ของการคูณ A3 กับ B3 หารด้วย A4 พิมพ์เป็นสูตรได้อย่างไร

1.   = A3 * B3 / A4 2.   = A3 / B3 * A4 3.   = A4 / B3 * A3 4.   = B4 / A4 * A3 13. เครื่องหมาย / ในการคำนวณหมายถึงข้อใด 1.   น้อยกว่า 2.   มากกว่า 3.   การหาร 4.   ทับ 14. ปุ่มใดบนแถบเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้ในการหาผลรวมของข้อมูลโดยอัตโนมัติ 1.
Average D4 d13 เป็นการ หาค่า อะไร
2.
Average D4 d13 เป็นการ หาค่า อะไร
3.
Average D4 d13 เป็นการ หาค่า อะไร
4.
Average D4 d13 เป็นการ หาค่า อะไร
15. ข้อใดเป็นการป้อนสูตรแบบอ้างอิงเซลล์ 1.   PRICE TAX 2.   = A4 + B2 3.   = 6 + 56 4.   = 20 * A3 + 45 / B4

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 19 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้ถูกเข้าชม 317,964 ครั้ง

คุณคำนวณหาค่าเฉลี่ย (mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) ในโปรแกรม Excel 2007 ได้แสนจะง่ายดายเหมือนนับ 1 - 3 แถมใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที

ขั้นตอน

  1. ใช้ฟังก์ชั่น "AVERAGE" ของ Excel หาค่าเฉลี่ยของชุดตัวเลข. ใส่ตัวเลขแต่ละชุดใน spreadsheet ของ Excel แล้วคลิกตรงที่อยากใช้คำนวณหาค่าเฉลี่ย (mean หรือ Average)

  2. คลิก "Formulas" แล้วเลือก tab "Insert Function". ใส่ตัวเลขใน spreadsheet ของ Excel ในแถว (row) หรือคอลัมน์ก็แล้วแต่

    ส่งกลับค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต) ของอาร์กิวเมนต์ ตัวอย่างเช่น ถ้าช่วง A1:A20 มีตัวเลข สูตร =AVERAGE(A1:A20) จะส่งกลับค่าเฉลี่ยของตัวเลขเหล่านั้น

    ไวยากรณ์

    AVERAGE(number1, [number2], ...)

    ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน AVERAGE มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้

    • Number1     (ต้องระบุ) คือ ตัวเลขแรก การอ้างอิงเซลล์ หรือช่วงแรกที่คุณต้องการหาค่าเฉลี่ย

    • Number2, ...     (ระบุหรือไม่ก็ได้) คือ ตัวเลขเพิ่มเติม การอ้างอิงเซลล์เพิ่มเติม หรือช่วงเพิ่มเติมที่คุณต้องการหาค่าเฉลี่ย ซึ่งมีได้สูงสุดถึง 255 ค่า

    ข้อสังเกต

    • อาร์กิวเมนต์อาจเป็นตัวเลขหรือชื่อ ช่วง หรือการอ้างอิงเซลล์ที่มีตัวเลขอยู่

    • ค่าตรรกะและข้อความที่ใช้แทนตัวเลขที่คุณพิมพ์โดยตรงลงในรายการของอาร์กิวเมนต์จะไม่ถูกนับ

    • ถ้าช่วงหรือการอ้างอิงเซลล์ประกอบด้วยข้อความ ค่าตรรกะ หรือเซลล์ว่างเปล่า ค่าเหล่านั้นจะถูกละเว้น อย่างไรก็ตาม เซลล์ที่มีค่าศูนย์จะถูกรวมไว้ด้วย

    • อาร์กิวเมนต์ที่เป็นค่าความผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแปลเป็นตัวเลขได้ จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด

    • ถ้าคุณต้องการรวมค่าตรรกะและข้อความที่ใช้แทนตัวเลขในการอ้างอิงเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณ ให้ใช้ฟังก์ชัน AVERAGEA

    • ถ้าคุณต้องการคำนวณค่าเฉลี่ยเฉพาะค่าที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้ใช้ฟังก์ชัน AVERAGEIF หรือฟังก์ชัน AVERAGEIFS

    หมายเหตุ: ฟังก์ชัน AVERAGE จะวัดแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลาง ซึ่งเป็นตำแหน่งกึ่งกลางของกลุ่มตัวเลขในการแจกแจงทางสถิติ การวัดแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลางโดยทั่วไปมี 3 วิธีคือ

    • ค่าเฉลี่ย ซึ่งหมายถึงค่าเฉลี่ยเลขคณิต และคำนวณได้โดยการบวกตัวเลขในกลุ่มหนึ่งเข้าด้วยกัน จากนั้นหารด้วยจำนวนนับของตัวเลขในกลุ่มนั้น ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยของ 2, 3, 3, 5, 7 และ 10 คือ 30 หารด้วย 6 ซึ่งเท่ากับ 5

    • ค่ามัธยฐาน คือตัวเลขที่อยู่กึ่งกลางของกลุ่มตัวเลข นั่นคือ ตัวเลขครึ่งหนึ่งจะมีค่ามากกว่าค่ามัธยฐาน และตัวเลขอีกครึ่งหนึ่งจะมีค่าน้อยกว่าค่ามัธยฐาน ตัวอย่างเช่น ค่ามัธยฐานของ 2, 3, 3, 5, 7 และ 10 คือ 4

    • ฐานนิยม คือตัวเลขที่ซ้ำกันมากที่สุดในกลุ่มของตัวเลข ตัวอย่างเช่น ฐานนิยมของ 2, 3, 3, 5, 7 และ 10 คือ 3

    สำหรับการแจกแจงแบบสมมาตรของกลุ่มตัวเลข การวัดแนวโน้มเข้าสู่ศูนย์กลางทั้งสามวิธีนั้นจะเหมือนกันทั้งหมด สำหรับการแจกแจงแบบเบ้ของกลุ่มของตัวเลข การวัดทั้งสามวิธีนั้นอาจแตกต่างกันได้

    เคล็ดลับ: เมื่อคุณหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลในเซลล์ โปรดจำไว้ว่ามีความแตกต่างระหว่างเซลล์ที่ว่างเปล่ากับเซลล์ที่มีค่าศูนย์ โดยเฉพาะถ้าคุณได้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย แสดงเลขศูนย์ในเซลล์ที่มีค่าศูนย์ ในกล่องโต้ตอบ ตัวเลือก Excel ในแอปพลิเคชัน Excel บนเดสก์ท็อป เมื่อตัวเลือกนี้ถูกเลือกไว้ จะไม่นับเซลล์ที่ว่างเปล่า แต่จะนับเซลล์ที่มีค่าศูนย์

    เมื่อต้องการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งของกล่องกาเครื่องหมาย แสดงเลขศูนย์ในเซลล์ที่มีค่าศูนย์

    • บนแท็บ ไฟล์ ให้คลิก ตัวเลือก แล้วในประเภท ขั้นสูง ให้ดูภายใต้ ตัวเลือกการแสดงสำหรับเวิร์กชีตนี้

    ตัวอย่าง

    คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด