Random access memory หมายถึงข้อใด

ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ Ram ถือเป็นหน่วยความจำที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่อง และยังเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความเร็วให้กับระบบการทำงานอีกด้วย ดังนั้นคอมพิวเตอร์ที่มีแรมสูงจึงมีความเร็วและสเถียรมากกว่าแรมต่ำอย่างเห็นได้ชัด

Ram คืออะไร?

Ram (Random-access memory) คือหน่วยความจำชั่วคราว ซึ่งจะทำการเขียนและบันทึกข้อมูลลงไปในตำแหน่งต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถบันทึกและอ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแรมก็มีความแตกต่างจากหน่วยความจำประเภทอื่นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น SSD หรือฮาร์ดไดร์ฟ (Hard Drive) ยกตัวอย่างความแตกต่างเช่น ข้อมูลที่บันทึกโดยแรมจะไม่หายไปเมื่อมีการปิดคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลบางประเภทยังคงสามารถกู้กลับคืนมาได้

Ram ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ Ram จะเป็นไปในลักษณะของการเก็บชุดคำสั่งและข้อมูลต่างๆ ในขณะที่เปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแบบ Input หรือ Output ซึ่งแรมจะสุ่มเข้าไปเก็บข้อมูลจากส่วนต่างๆ ได้โดยตรง ทำให้มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก สามารถเขียนและอ่านข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องผ่านฮาร์ดไดร์ฟเหมือนกับหน่วยความจำอื่น ที่จะทำให้เกิดความช้าในการเก็บข้อมูล ดังนั้นจึงนิยมใช้ Ram เป็นหน่วยความจำหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

Random access memory หมายถึงข้อใด

แรม

การแบ่งเนื้อที่ของ Ram

เนื้อที่ของ Ram มีการแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่

1. Input Storage Area

เป็นเนื้อที่ส่วนที่จะใช้เก็บข้อมูล Input หรือข้อมูลที่ได้รับเข้ามาจากหน่วยรับข้อมูลเข้า โดยถูกเก็บไว้เพื่อรอนำไปประมวลผลต่อไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีการพิมพ์ข้อความด้วยคีย์บอร์ด ข้อมูลที่พิมพ์เข้าไปนี้จะถูกนำไปเก็บไว้ในส่วนนี้นั่นเอง

2. Working Storage Area

เนื้อที่ตรงส่วนนี้จะทำหน้าที่เก็บข้อมูล ที่ได้จากส่วนแรก ในระหว่างที่กำลังมีการประมวลผลข้อมูล ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในเนื้อที่ส่วน Output

3. Output Storage Area

เมื่อประมวลผลเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลก็จะถูกนำมาเก็บไว้ในเนื้อที่ส่วนนี้ทันที เพื่อรอให้มีการนำออกไปใช้งานยังหน่วยแสดงผลอื่นๆ ตามความต้องการของผู้ใช้

4. Program Storage Area

สำหรับเนื้อที่ส่วนนี้มีไว้เพื่อเก็บชุดคำสั่งและโปรแกรมที่นำเข้ามาในคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะทำการแปลความหมายออกมาจากชุดคำสั่งว่าต้องการให้ทำอะไร แล้วจึงไปควบคุมฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ให้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวอย่างถูกต้อง

ประเภทของ Ram ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน Ram ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

  • SDRAM (Synchronous Dynamic Random Access Memory)
  • DDR RAM หรือ DDR-SDRAM (Double Data Rate SDRAM)

โดย DDR SDRAM จะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้รับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ครบถ้วน แต่ราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก

Random access memory หมายถึงข้อใด

รอม

รอม (ROM)

ROM (Read Only Memory) เป็นแรมอีกชนิดหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าแรมทั่วไป โดยจะสามารถเก็บข้อมูลไว้ได้แม้ไม่มีกระแสไฟหล่อเลี้ยง โดยนิยมใช้เก็บข้อมูล OS เพื่อให้สามารถบูตเปิดเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะพบว่าการทำงานของ ROM และ RAM ก็มีความเหมือนกัน ต่างกันเพียงประเภทของข้อมูลเท่านั้น

  • แรม (RAM) ช่วยในการโหลดระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ
  • รอม (ROM) จัดเก็บข้อมูลสำคัญที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล

Random access memory หมายถึงข้อใด

ขนาดของ RAM ที่เหมาะสมในการใช้งาน

การใช้งานคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่น จะมีความเหมาะสมต่อ RAM ที่มีขนาดแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงต้องเลือกขนาดของ RAM ให้มีความเหมาะสมด้วย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3-4 GB (แรมเริ่มต้นในปัจจุบัน)

แรมขนาด 3-4 GB เป็น RAM ขนาดเริ่มต้นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน โดยหากเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต จะใช้งาน RAM ได้เพียง 3.2 GB ดังนั้นแม้ว่าจะใส่ RAM ขนาด 4 GB ก็ใช้งานได้เพียงเท่าที่จำกัดเท่านั้น โดยแรมขนาด 4 GB จะใช้งานได้ดีและเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดในระบบปฏิบัติการ 64 บิต

โดยแม้ว่าแรมขนาด 3 GB จะน้อยกว่า 4 GB แต่เมื่อนำมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม กับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ก็เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สูง และทำให้การเรียกใช้โปรแกรมมีความรวดเร็วแล้ว

6-8 GB (ระบบปฏิบัติการ 64 บิต)

RAM ขนาด 6-8 GB เป็นแรมที่มีประสิทธิภาพสูง แต่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ 64 บิตเท่านั้น โดยแรมขนาดนี้จะช่วยให้ใช้งานโปรแกรมบางประเภทได้ดี เช่น การตัดต่อวิดีโอ โปรแกรมเกี่ยวกับภาพถ่าย และการเล่นเกมบน PC ดังนั้น RAM 6-8 GB จึงได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เล่นเกม PC

12-16 GB (ระบบปฏิบัติการ 64 บิต)

สำหรับ RAM 12-16 GB ก็เหมาะกับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ 64 บิต และมีการใช้เครื่องหนักๆ หรือเปิดใช้โปรแกรมพร้อมกับหลายโปรแกรม เช่น การใช้โปรแกรมวาดแบบจำลอง 3 มิติ โปรแกรม Premiere Pro และการประมวลผลวิดีโอ CAD เป็นต้น โดยปกติแล้วก็สามารถใช้ RAM ขนาด 8 GB ได้ แต่อาจจะประมวลผลได้ช้า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ RAM ขนาด 12-16 GB เพื่อเพิ่มความเร็วมากขึ้น

RAM มีหลายขนาด โดยแรมที่มีขนาดมากกว่า จะทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลมากขึ้น แต่ RAM จะใช้งานได้ดีเมื่อนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งหากนำแรมที่มีขนาดสูง เช่น 16 GB ไปใช้กับระบบปฏิบัติการ 32 บิต ก็ไม่ได้แตกต่างจากการใช้ RAM 3-4 GB ที่สำคัญจะใช้ RAM ขนาดไหนก็ต้องดูความจุของ Slot ที่ใช้ในการเสียบ RAM ด้วย

ข้อใดเป็นหน้าที่ของแรม (RAM) ในคอมพิวเตอร์

RAM มีหน้าที่ในการเก็บชุดคำสั่งและข้อมูลในขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ ทั้งในแบบของ Input และ Output โดยการเข้าถึงข้อมูลของ RAM นั้นจะเป็นการเข้าถึงแบบสุ่ม (Random Access) ซึ่งหมายถึง CPU สามารถเข้าถึงทุกๆ ส่วนของหน่วยความจำหรือพื้นที่เก็บข้อมูลได้โดยตรง เพื่อเพิ่มความเร็วในกระบวนการเขียนและอ่านข้อมูลอย่างต่อ ...

จะเพิ่มแรมต้องดูอะไรบ้าง

ควรตรวจสอบความจุและความเร็วเมื่อเลือกซื้อ RAM. รู้ความแตกต่างระหว่างฟอร์มแฟคเตอร์ต่างๆ อย่าง DIMM และ SO-DIMM. ควรเลือก RAM ที่ไม่ต่ำกว่า 16GB สำหรับการเล่นเกมสมัยใหม่ หรือมากกว่าถ้าคุณทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

การเพิ่มแรม ช่วยอะไร

คำตอบ การอัปเกรด Ram ช่วยให้คุณสามารถเปิดใช้งานโปรแกรมได้เยอะและเร็วขึ้น โดยเฉพาะสายเกมออนไลน์ที่ชื่นชอบเกมที่มีภาพกราฟิกสวย ๆ รับรองว่าหน่วยความจำที่สูงขึ้น ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหล ภาพไม่กระตุกแน่นอน สุดท้ายถ้าเพิ่ม Ram แล้วเกมกระตุกอาจต้องพิจารณาเพิ่ม CPU หรือการ์ดจอควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้การเพิ่มแรมมีประสิทธิภาพ ...

หน่วยความจำRAMมีกี่ประเภท

ในปัจจุบัน Ram ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ SDRAM (Synchronous Dynamic Random Access Memory) DDR RAM หรือ DDR-SDRAM (Double Data Rate SDRAM)