��ʹ���Т�����¢ͧ��ЪҸԻ�� สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (อังกฤษ: Absolute Monarchy) คือ ระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครองและมีสิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศ ในระบอบการปกครองนี้ กษัตริย์ก็คือกฎหมาย กล่าวคือ ที่มาของกฎหมายทั้งปวงอยู่ที่กษัตริย์ คำสั่ง ความต้องการต่าง ๆ ล้วนมีผลเป็นกฎหมาย กษัตริย์มีอำนาจในการปกครองแผ่นดินและพลเมืองโดยอิสระ โดยไม่มีกฎหมายหรือองค์กรตามกฎหมายใด ๆ จะห้ามปรามได้ แม้องค์กรทางศาสนาอาจทัดทานกษัตริย์จากการกระทำบางอย่างและองค์รัฏฐาธิปัตย์ (กษัตริย์) นั้นจะถูกคาดหวังว่าจะปฏิบัติตามธรรมเนียม แต่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้น ไม่มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด ๆ ที่จะอยู่เหนือกว่าคำชี้ขาดของรัฏฐาธิปัตย์ ตามทฤษฎีพลเมืองนั้น ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับพระเจ้าแผ่นดินที่ดีพร้อมทางสายเลือดและได้รับการเลี้ยงดูฝึกฝนมาอย่างดีตั้งแต่เกิด ในทางทฤษฎี กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะมีอำนาจทั้งหมดเหนือประชาชนและแผ่นดิน รวมทั้งเหนืออภิชนและบางครั้งก็เหนือคณะสงฆ์ด้วย ส่วนในทางปฏิบัติ กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มักจะถูกจำกัดอำนาจ โดยทั่วไปโดยกลุ่มที่กล่าวมาหรือกลุ่มอื่น กษัตริย์บางพระองค์ (เช่นจักรวรรดิเยอรมนี ค.ศ. 1871–1918) มีรัฐสภาที่ไม่มีอำนาจหรือเป็นเพียงสัญลักษณ์ และมีองค์กรบริหารอื่น ๆ ที่กษัตริย์สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยุบเลิกได้ตามต้องการ แม้จะมีผลเท่ากับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่โดยทางเทคนิคที่เป็นไปได้แล้ว นี่คือราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (constitutional monarchy) เนื่องจากการมีอยู่ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายพื้นฐานของประเทศ ข้อเสียของ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีอะไรบ้าง ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่
momo 5 พ.ย. 55 เวลา 16:31 น.0 like 1,482 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คนยกเลิก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีการรวบอำนาจไว้ที่คนคนเดียว มีผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียว นั้นมันมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างครับ เพราะก็เห็นหลายประเทศยังใช้ระบอบนี้กันอยู่ Zank_BM 6 ก.ย. 64 เวลา 12:40 น. 0 like 4,760 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คนยกเลิก ที่เห็นว่าเป็นสาธารณรัฐ เป็นการสอดไส้หรือเปล่า เรียกอีกอย่างบริหารร่วม แต่ก็มีคนๆ เดียวจัดการทุกอย่างอยู่ดี ตัวอย่าง สหรัฐอเมริกาก็ปกครองแบบอธิปไตย ปกครองเพียงแค่ตระกูลเดียว และ ถูกปกครองครอบครัวที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน "ร็อคไซส์" บริหารด้านการเงินมาตั้งแต่ ในสมัยประเทศอังกฤษเรืองอำนาจแล้ว ประเทศรัสเซียก็ใช้ เพียงแค่เปลี่ยนผ่านจากครอบครัวที่เอาอำนาจไปกลั่นแกล้งนักบวช และ ไปใส่ร้ายนักบวช จึงไม่แปลกที่จะมีการเปลี่ยนผ่าน ก่อนที่ประเทศนั้นๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ถูกกลั่นแกล้งเพียงอย่างเดียวอย่างแรก เมื่อต้องมีหลักฐานการยืนยันว่าบุคคลนั้น บุคคลนี้ ทำผิดจริงหรือไม่ ถ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกกลั่นแกล้ง ผู้ที่ไปทำลงมือลองสังเกตดู ตอนแรกผู้แย่งชิงได้ทุก เหมือนที่ได้ทำกับ เซ สุดท้ายเป็นไง ถูกลูกสมุนไว้ใจสุดเอามีดปักหลัง เหมือนคำพูดของคนโบราณ "ไกล้เกลือกินด่าง" แล้วที่สำคัญใครนะที่เอาฝิ่นไปขายที่ฮ่องกง และ คนขายฝิ่นภายในประเทศแถบเอเชีย ไปจนถึง ยุโรป ถูกจัดการจนเกือบหมด ถ้าได้ลองสังเกตคนกลุ่มนี้ ที่ชอบทรยศคนอื่นมักชอบทำตัวเป็นชาว แก๊งค์ ทำผู้อื่นเดือดร้อนอยู่เสมอ ต่อให้เป็นลูกคนรวยแล้วไง คนพวกนี้รังแกคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่เหมือนพวกที่ทำงานแบบสุจริตชนกว่าจะตั้งตัวก็ผ่านไป 4-5 รุ่น ส่วนคนที่ทำงานแล้วรวย ด้วยตัวคนเดียวมีสองทาง (1) ทำงานฉ้อฉลทุจริตทุกอย่าง ในสิ่งที่ตนทำ พร้อมให้กับครอบครัว คนรู้จักช่วยเหลือกัน (2) เรียนรู้เรื่องการเงิน มิติการเงิน และ การแปลทรัพย์สินให้เป็นเงิน รวมทั้งเรื่องหุ้น และ การค้าขาย เล็กน้อยไปจนถึงชิ้นใหญ่ พวกนี้เรียกว่า "อัจฉริยะตัวจริง" ภาษาคนธรรมดาเรียกคนอัจฉริยะว่า กลุ่มคนหมกมุ่น ลุ่มหลง จนแตกฉาน คนธรรมดาก็ใช้เปรียบเทียบให้คนกลุ่มว่า "นายเพี้ยน" หรือ "นางเพี้ยน" ไปโดยปริยายเพราะพูดไม่รู้เรื่อง |