ในภาษาอังกฤษ จะมีรูปแบบประโยคที่เรียกว่า Active และ Passive Voice เพื่อบอกว่าใครทำอะไร หรือใครที่กำลังถูกกระทำ แต่ถ้าอธิบายเพียงเท่านี้ อาจจะทำให้ยังไม่เข้าใน วันนี้ 51Talk จะพามาดูวิธีใช้ Active และ Passive Voice อย่าง'ง่ายๆ เข้าใจแน่นอน Passive Voice คือประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา โครงสร้างประโยคจะใช้ V.to be + กริยาช่อง 3 + By ตัวอย่างเช่น That car was bought by my father. จะเห็นว่า ประธาน คือ That car ถูกซื้อโดยพ่อของฉัน ซื่งจะแตกต่างกับประโยค Active Voice ที่เราคุ้นเคยอย่างเช่น May father bought that car. ที่แปลว่า พ่อของฉันซื้อรถคันนั้นเอง
รูปแบบประโยค S + V. to be + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I make a cake. Passive voice: A cake is made.
รูปแบบประโยค S+ is, am, are + being + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I'm making a cake. Passive voice: A cake is being made.
รูปแบบประโยค S+was , were + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I made a cake. Passive voice: A cake was made.
รูปแบบประโยค S+was , were + being + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I was making a cake. Passive voice: A cake was being made.
รูปแบบประโยค S+has, have + been + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I have made a cake. Passive voice: A cake has been made.
รูปแบบประโยค S+ had + been + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I had made a cake. Passive voice: A cake had been made.
รูปแบบประโยค S+ will + be + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I will make a cake. Passive voice: A cake will be made.
รูปแบบประโยค S+will be + being + V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I'm going to make a cake. Passive voice: A cake is going to be made.
รูปแบบประโยค S+model verb+be+V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I must make a cake. Passive voice: A cake must be made.
รูปแบบประโยค S+model verb+has/have+been+V3 ตัวอย่างการเปลี่ยน Active voice เป็น Passive voice Active voice: I should have made a cake. Passive voice: A cake should have been made. แต่จะมี 3 สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By
It is said that กล่าวกันว่า It is expected that คาดกันว่า It is hoped that หวังกันว่า Tips: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น It is believed that drinking cold water makes a period stop. เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล
ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค Passive Voice ต้องมี by เช่น The boy was bitten by the dog. จะเห็นว่าการที่เราจะสร้างประโยค Passive Voice ได้นั้น นอกจากต้องรู้โครงสร้างแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงก็คือ V3 ของคำแต่ละคำนั่นเองค่ะ ถ้าหากอยากเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ สามารถทดลองเรียนฟรีกับ 51Talk ได้เลย (เจมส์กำลังจะไปพบกับเพื่อนๆของเขาที่วัดโพธิ์ฯพรุ่งนี้เช้า หรือถ้าแปลแบบให้เห็นรูปประธานถูกกระทำชัดเจนก็จะได้ความว่า เจมส์กำลังจะถูกพบโดยเพื่อนๆของเขาที่วัดโพธิ์ พรุ่งนี้เช้า) ข้อสังเกต ถ้าพิจารณาถึงประโยค future continuous tense ในรูป passive voice แล้ว จะเห็นว่า ประโยคภาษาอังกฤษ ใน tense นี้จะพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และมักจะมีการนัดหมายกันไว้แล้วล่วงหน้า ดังตัวอย่างประโยคข้างบน ที่กล่าวว่า “เจมส์กำลังจะไปพบกับเพื่อนๆของเขาที่วัดโพธิ์พรุ่งนี้เช้า”หรือ"เจมส์กำลังจะถูกพบโดยเพื่อนๆของเขาพรุ่งนี้เช้าที่วัดโพธิ์" กล่าวคือ เจมส์ได้นัดแนะกับเพื่อนๆของเขาไว้ก่อนแล้วนั่นเอง |