13 ต.ค.59 ถนนหน าพระลาน ม.ศ ลปากร

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว… พสกนิกรชาวไทยกำลังเผชิญเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่องรอยความโศกเศร้าในวันนั้นตกหล่นอยู่ในใจคนไทยอย่างมากมาย เราได้รวบรวมข้อมูล ลำดับเหตุการณ์ และภาพถ่ายที่เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนประวัติศาตร์ความสูญเสีย เป็นบันทึกความทรงจำ ให้คุณย้อนทวนความทรงจำ ความรู้สึก และความคิดในวันนั้นอีกครั้ง

13 ตุลาคม 2559

เวลา 18.45 น. สำนักพระราชวังออกประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ตามเวลา 15 นาฬิกา 52 นาที ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89

หลังสำนักพระราชวังประกาศแถลงการณ์ ประชาชนทุกสารทิศตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้า พสกนิกรที่มาร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราชในวันนั้นร่ำไห้ และเฝ้ารอปาฏิหาริย์ที่จะทำให้ข่าวร้ายไม่เป็นจริง พร้อมเปล่งเสียง ‘ทรงพระเจริญ’ เป็นเวลายาวนาน

14 ตุลาคม 2559

มีประกาศอย่างเป็นทางการในการอัญเชิญพระบรมศพสู่พระบรมมหาราชวังในช่วงเย็น พสกนิกรจำนวนมหาศาลออกมาเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพแน่นตลอดสองฝั่งถนนบวรสถานพิมุข

เวลา 16.00 น. เริ่มต้นขบวนรถอัญเชิญพระบรมศพ โดยพระองค์ประทับบนรถตู้ทะเบียน 1 ด 0929 และเคลื่อนขบวนออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ ออกทางประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราชก่อนขบวนจะเคลื่อนถึงจุดหมาย สองข้างทางและท้องถนนของกรุงเทพฯ ไม่เคยเงียบสงัดเท่านี้มาก่อน และคืนนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ ที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

สำนักพระราชวังออกประกาศ เรื่องการถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. แม้กระนั้นก็ยังมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาถวายอาลัยรอบนอกพระบรมมหาราชวังไม่ขาดสาย

15-17 ตุลาคม 2559

หลังข่าวการสวรรคต ผู้นำทั่วโลกต่างออกมาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย อาทิ นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ, สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน หรือแม้กระทั่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ก็ส่งพระราชสาสน์ส่วนพระองค์แสดงถึงความเสียพระทัยด้วยตัวเอง

18-21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พสกนิกรยังคงเดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพภายนอกบริเวณพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่อง โดยในยามค่ำคืนมีแสงเทียนของเหล่าประชาชนที่ส่องสะท้อนให้ความรู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครจำนวนมากลุกขึ้นมาทำความดี แจกจ่ายอาหาร เก็บขยะ เพื่อแสดงออกถึงความรักต่อพระองค์ท่านในแบบของตัวเอง

22 ตุลาคม 2559

ผู้คนนับแสนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันสวมเสื้อดำเดินทางมาเข้าร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีการร้องกันหลายรอบทั้งช่วงเช้าและบ่าย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้รับผิดชอบบันทึกภาพและเสียง เพื่อจัดทำภาพยนตร์สรรเสริญพระบารมี มีคณะศิลปินและวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทยพร้อมคอรัสเข้าร่วมเกือบ 100 คน

28-31 ตุลาคม 2559

แต่ละพื้นที่ทั่วประเทศต่างแสดงความอาลัยในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจุดเทียน ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันแปรอักษรเป็นภาพและข้อความต่างๆ เพื่อถวายอาลัย

29 ตุลาคม 2559

วันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาเข้าแถวรอตั้งแต่คืนก่อนหน้า (วันที่ 28 ตุลาคม) ซึ่งบรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพวันแรกกว่า 29,480 คน

1-3 พฤศจิกายน 222559

ประชาชนชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศรวมตัวในจุดสำคัญของเมืองต่างๆ เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน เช่น ที่วัดเนนบุทสึซุ จังหวัดเฮียวโงะ พระสงฆ์ญี่ปุ่นกว่า 1,300 รูป และพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นประกอบพิธีทางศาสนาถวายเป็นพระราชกุศล หรือที่กรุงเบอร์ลิน ชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ที่นั่นรวมตัวกันที่ประตูบรันเดนบูร์ก เพื่อร่วมพิธีจุดเทียนถวายอาลัยและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ฯลฯ

8 พฤศจิกายน 2559

เวลา 9.09 น. มูลนิธิพระคชบาล และชาวช้างกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน ได้นำช้างเพศผู้ 11 เชือก ออกมาเดินขบวนแปลงแถววน 4 ทิศที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมชม

28 พฤศจิกายน 2559

คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศเปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้เริ่มออกแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ รวมทั้งกำหนดการตอกหมุดจุดกึ่งกลางพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวงในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเผยว่า แบบพระเมรุมาศนั้นใช้แนวคิดคติไตรภูมิตามคัมภีร์พุทธศาสนา

26 ธันวาคม 2559

เริ่มพิธีการปักหมุด 9 จุดที่สนามหลวง และเตรียมก่อสร้างพระเมรุมาศ เพื่องานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25-29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 นับเป็นโอกาสที่พสกนิกรชาวไทยจะได้ร่วมถวายความอาลัยเพื่อพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย