ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

บทความแนะนำ LnwShop - ร้านค้าออนไลน์ LnwAds - โฆษณาออนไลน์ Editors' Picks LnwDropship LnwMall - ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ Marketing & Ecommerce แนะนำระบบ 

2021 นี้ E-COMMERCE CHANNELs ขายของออนไลน์ช่องทางไหนถึงจะ WIN ที่สุด!

December 23, 2020August 17, 2022 MeMaytapriya Digital Marketing, ecommerce, ขายของออนไลน์, ช่องทางการขายของออนไลน์, โฆษณาออนไลน์

ช่องทางการขายของออนไลน์ในปัจจุบันมีเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งการขายผ่าน Social Media อย่าง Facebook ที่ไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมี Live Shopping ออกมาให้พ่อค้าแม่ค้าใช้งานกัน ฝั่ง Google ก็มีทั้ง Google Shopping Ads, Google Shopping Tab ส่วน Marketplace ก็มีหลากหลายเว็บไซต์ถ้านับจำนวนคนเกินนิ้วมือแน่ ๆ แล้วไหนยังจะมีเว็บไซต์ของแบรนด์ที่ต้องทำอีก ช่องทางการขายเยอะขนาดนี้ แต่ช่องทางไหนล่ะที่จะ Win ที่สุดในปี 2021 ที่จะมาถึง มาหาคำตอบด้วยกันค่ะ

หัวข้อในบทความ

ช่องทางการขาย Vs ช่องทางการโฆษณา

ก่อนที่จะเราจะเข้าไปสู่ช่องทางการขายของออนไลน์ เราจำเป็นต้องแยกประเภทของระบบออนไลน์ไว้เป็น 2 ส่วนก่อน คือ ช่องทางการขาย กับ ช่องทางการโฆษณา เพราะสองช่องทางนี้มีความแตกต่างกันอยู่มาก อย่างเช่น Facebook Page เป็นช่องทางการขาย แต่ว่า หากคุณต้องการทำโฆษณา คุณอาจจะใช้ Facebook Ads และให้คนคลิกที่โฆษณา แล้วไปยังเว็บไซต์ แทนเข้าไปที่ Facebook Page ก็ได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่า เราจะเหมาว่า Facebook เป็นช่องทางการขายซะทีเดียวคงไม่ได้ ดังนั้นเรามาแยกกันก่อนนะคะ ว่าอะไรเป็นช่องทางสำหรับอะไร

ช่องทางการขาย คือช่องทางที่เราใช้ในการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าแบบไม่ต้องเสียเงินโฆษณา ใช้เป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ ทำให้ลูกค้าสามารถพูดคุย ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าของเราได้ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Brand.com, การขาย Marketplace อย่าง Shopee/Lazada และ การขายผ่าน Social Media อย่าง Facebook, Youtube, IG เป็นต้น

ช่องทางการโฆษณา คือ ช่องทางที่เรามีการจ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับช่องทางนั้น ๆ เพื่อให้ช่องทางเหล่านั้นนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการของเราไปยังผู้ที่มีโอกาสจะกลายเป็นลูกค้าของเรา โดยโฆษณาออนไลน์จะมีการเชื่อมโยงกับช่องทางการขายของเรา ตัวอย่างเช่น การลงโฆษณาผ่าน Social Media อย่าง Facebook Ads, Youtube Ads, การลงโฆษณาบน Marketplace หรือการลงโฆษณาผ่าน Google ด้วย Google Text Ads และ Google Shopping Ads

การที่เราต้องเข้าใจว่าช่องทางการขายของออนไลน์ กับช่องทางการโฆษณาออนไลน์เป็นคนละช่องทางกัน ก็เพื่อที่เราจะได้ใช้ช่องทางนั้นได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของช่องทางนั้น ๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจของเรานั้นเอง

นิยามของช่องทางการขายของออนไลน์ยอดนิยม

  • เว็บไซต์ Brand.com เหมือนมีบ้านเป็นของตัวเอง จัดการตามความต้องการของตนเอง เน้นการสร้างแบรนด์
  • Marketplace เหมือนการขายใน ห้างสรรพสินค้า รวมสินค้าจากผู้ขายหลาย ร้าน จัดจำหน่ายในนาม Marketplace ผู้ขายอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของ Marketplace
  • Social Commerce ขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เน้นการพูดคุย การสื่อสาร 2 ทาง เหมือนการขายในตลาดนัด หากไม่ลงโฆษณา จะขายได้ฟรี

นิยามของช่องทางการโฆษณาออนไลน์ยอดนิยม

  • Social Media Ads เหมือนการวางป้ายบิลบอร์ดบนโลกออนไลน์ เหมาะในการเน้นการกระจายการรับรู้ของแบรนด์ให้กว้าง ทำให้คนรู้จักแบรนด์
  • การลงโฆษณาบน Marketplace เปรียบเสมือนการตั้งป้ายโฆษณาในห้างสรรพสินค้า เน้นเข้าถึงคนที่มองหาสินค้าอยู่ ทำให้เขารับรู้ถึงแบรนด์ของเรา
  • Google Text Ads เหมือนพนักงาน Information บนโลกออนไลน์ ที่คอยให้ข้อมูลกับคนที่มีความต้องการมองหาข้อมูลของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ
  • Google Shopping Ads เปรียบได้กับโบว์ชัวร์โฆษณาสินค้า ที่ถูกแจกให้กับคนที่กำลังมีความสนใจอยากจะซื้อสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งในโบชัวร์จะมีทั้งภาพ ราคา และชื่อร้านค้า
  • Google Discovery เป็นโฆษณาที่แสดงในรูปแบบของรูปภาพ เปรียบเสมือนการวางป้ายบิลบอร์ดบนโลกออนไลน์ แบบเดียวกับ Social Media Ads แต่จะไปแสดงผลใน Youtbue หรือ Gmail แทน

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

สถิติน่าสนใจเกี่ยวกับการช่องทางการขายของออนไลน์

  • จากข้อมูลของ Alexa และ Similar Web พบว่า ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกเข้าสู่เว็บไซต์ Google.com เป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ Youtube และมี Facebook กับ TMall แย่งกันอยู่ในอันดับที่ 3 – ข้อมูลจาก Hootsuite
  • ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมีการค้นหาสินค้าสูงถึง 80% และเคยเข้าชมเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าถึง 90% และอีก 74% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเคยสั่งซื้อสินค้า – ข้อมูลจาก Hootsuite
  • Search Engines เป็นช่องทางที่ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์ใหม่มากที่สุด รองลงมาคือ TV, การบอกต่อกันปากต่อปาก และ Social Media Ads ตามลำดับ- ข้อมูลจาก Hootsuite
  • 53% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า พวกเขาจะเลือกซื้อออนไลน์บ่อยขึ้นหลังจากเกิดโรคระบาด และอีก 40% ของคนที่ไม่ใช่ผู้ซื้อออนไลน์มาก่อน ยังกล่าวว่า พวกเขาตั้งใจจะซื้อสินค้าทางออนไลน์ต่อไป – ข้อมูลจาก Google 

ช่องทางการขายไหนที่ Win ที่สุดในปี 2021

อยากทั้งข้อมูลสถิติที่กล่าวมาข้างต้น และยังมีนิยามของการขายในแต่ละช่องทาง เราจะเห็นได้ว่า ผู้คนเข้าชมช่องทางออนไลน์กันหลากหลาย และวิธีการเข้าถึงก็แตกต่างกัน รวมถึงจุดประสงค์ของแต่ละช่องทางก็ล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะบอกว่าช่องทางไหนจะ Win ที่สุด คงจะตอบไม่ได้ถ้าไม่พ่วงจุดประสงค์ทางการตลาด และ Customer Behavior เข้าไป ซึ่งในแต่ละจุดของ Journey ของลูกค้าก็จะมีช่องทางการขาย หรือช่องทางโฆษณาที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราอาจจะลองมองออกมาเป็นแบบแผนภาพด้างล่างนี้

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

  • ในภาพนี้เราเริ่มต้นสร้างการรับรู้ด้วยการโฆษณา ให้เค้าเห็นผ่านตา ด้วย Social Media หรือ Google Ads ส่งโฆษณาในรูปแบบของรูปภาพหรือวีดีโอเข้าไปให้ผู้คนได้เห็น ได้รับรู้ถึงแบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่จะทำให้เขาได้รู้จักกับแบรนด์ของเรา เพราะหาเขาไม่รู้จักแบรนด์ของเราเลย ก็ยากที่เขาจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราได้
  • หลังจากนั้น เราก็ใช้การทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาใน Google เพื่อที่ว่ามีใครมาค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการของเราแล้ว เขาเหล่านั้นจะได้พบกับข้อมูลสินค้าหรือบริการของเราทันที ซึ่งนอกจากการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแล้ว คุณอาจจะใช้ทางลัดโดยการลงโฆษณาผ่าน Google Text Ads, Google Shopping Ads ช่วยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้การขายผ่าน Marketplace เข้าถึงลูกค้ากลุ่มที่ชอบซื้อสินค้าบน Marketplace หรือ หวังให้ Marketplace นำข้อมูลสินค้าของคุณไปทำโฆษณาบน Search Engine ก็เป็นไปได้ ซึ่งสิ่งสำคัญของขั้นตอนนี้ นอกจากการทำให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการของเราติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาแล้ว ยังจะต้องทำให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการของเรา “โดดเด่น” กว่าคู่แข่งอีกด้วยนะคะ
  • และเมื่อลูกค้าค้นเจอข้อมูลของเรา และคลิกเข้ามาดูข้อมูลแล้ว ขั้ยตอนถัดจากนั้นคงหนีไม่พ้นการ “ปิดการขาย” ซึ่งจะใช้ช่องทางไหนปิด ก็คงขึ้นอยู่กับว่าในขั้นตอนที่ลูกค้าพบเจอเรา เขาเจอเรา และเข้ามาหาเราทางช่องทางไหน ดังนั้นช่องทางใดก็ตามที่ให้ข้อมูลสินค้า-บริการ ช่องทางนั้นก็จะต้องเป็นช่องทางที่ปิดการขายไปด้วย ซึ่งลูกค้าบางคนอาจจะชอบสั่งซื้อผ่านเว็บ เพราะชอบเลือกของด้วยตนเอง ชำระเงินเองไม่ต้องเสียเวลาพูดคุย ในขณะที่ลูกค้าอีกคนอาจจะชอบทักมาคุย และสั่งซื้อผ่าน Chat ก็เป็นไปได้
  • ลูกค้าซื้อแล้ว อย่าลืมชวนให้มากด Like เพจ หรือจะขออีเมล/เบอร์โทร.ลูกค้าไว้ เพื่อติดต่อสอบถามฟีดแบ็กการใช้งานสินค้าหรือบริการของเรา รวมถึงยังสามารถเสนอขายสินค้าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าคนเดิมได้อีกด้วย

สำหรับข้อมูลที่เราเล่ามานี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการตลาดออนไลน์ที่เราสามารถทำให้กับการขายสินค้าหรือบริการของเราได้ แต่จะใช้ทั้งหมดตามนี้ หรือเลือกใช้บางส่วนก็คงขึ้นอยู่กับ Strategy ของคุณแล้วล่ะค่ะ

ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่มีช่องทางการขายไหนที่ดีที่สุด แต่ว่าแต่ละช่องทางการตอบโจทย์จุดประสงค์ทางการตลาดที่ต่างกัน และ Behavior ของลูกค้าที่ต่างกัน

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

ช่องทางการขายเยอะ จัดการยาก … ไม่ต้องปวดหัว เพราะ LnwShop ช่วยคุณได้

  • ไม่ว่าจะขายกี่ช่องทาง ก็ลงข้อมูลสินค้าง่าย ๆ ที่ LnwShop ที่เดียว แล้ว sync ไปขายได้ทั้งบน Google Shopping, Shopee, Lazada, Facebook Shop และ LnwMall
  • ตัดสต๊อก หรือจัดการออเดอร์ทุกช่องทางการขายรวมกันได้ในที่เดียวที่ LnwShop เพราะเรามีทั้งระบบการ sync ข้อมูลออเดอร์กลับมาจาก Marketplace ต่าง ๆ รวมถึงยังมีระบบบิลออนไลน์ Chatcommere ที่ช่วยให้คุณบริหารช่องทางการขายผ่าน Social Media ได้ง่ายขึ้น
  • ทำโฆษณา Google Text Ads, Google Shopping Ads ก็ทำได้ที่ LnwShop แบบที่ไม่ต้องเข้าใจศัพท์ยาก ๆ ของการทำโฆษณา หรือต้องนั่งปรับแต่ง Code ของเว็บให้เก็บข้อมูลได้ตามต้องการ เพราะระบบของเรา ทำไว้รองรับให้คุณหมดแล้ว!
  • รวมสถิติทุกการขาย ไว้วิเคราะห์ และวัดผลได้ที่เดียวที่ LnwShop เพราะเรารวมทุกข้อมูลการสั่งซื้อ ข้อมูลการเข้าชมเว็บ และข้อมูลการทำโฆษณา Google Ads, Google Shopping Ads ไว้ให้คุณทั้งหมด
  • นอกจากนี้ LnwShop ยังเก็บข้อมูลติดต่อลูกค้าคนสำคัญของคุณไว้ ซึ่งคุณจะนำข้อมูลไปทำการตลาด หรือดูแลลูกค้าหลังการขายก็ย่อมจะทำได้

บริการของ LnwShop ที่จะช่วยคุณจัดการช่องทางการขายของออนไลน์ และช่องทางการโฆษณา

  • สร้างเว็บไซต์ Brand.com ของคุณเอง ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

ไม่ว่าใครก็มีร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองได้ ด้วยระบบที่ครบครัน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ด้วยตัวคุณเอง และหมดห่วงไม่ต้องกังวลกับความเปลี่ยนแปลงที่อยู่เหนือการควบคุมด้วย LnwShop

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้าและสต๊อกกับ Lazada

ไม่ใช่แค่นำสินค้าของคุณไปวางขายบน Lazada แต่บริการของเรายังช่วยให้คุณขายผ่าน Lazada ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณจึงสบายใจได้ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นของคุณ จะไม่มีปัญหาจุกจิกตามมาแน่นอน

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้าและสต๊อกกับ Shopee

หมดกังวลเรื่องสต๊อกสินค้าเพราะเราเชื่อมทั้งข้อมูลสินค้า และรายการสั่งซื้อ มาให้คุณจัดการที่เดียว เมื่อจัดการทุกอย่างในที่เดียว งานก็ลดไปมากกว่าที่คิด ลดทั้งจำนวนงานที่ต้องทำ ลดทั้งโอกาสผิดพลาด

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้าและสต๊อกกับ Facebook Shop

ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าแก่ลูกค้าเท่านั้น ด้วยระบบของ Facebook Shop ผู้ซื้อสามารถกดสั่งซื้อได้เลยทันทีจากบน Facebook ไม่จำเป็นต้องออกไปเข้าเว็บไซต์อื่นอีก ที่สำคัญ Facebook Shop ถูกออกแบบมาให้ใช้งานบนมือถือได้อย่างดีเยี่ยม ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าของคุณได้อย่างง่ายดายผ่านมือถือของพวกเขาทุกคน

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้า และสต๊อกกับ Instagram Shopping

นอกจาก Facebook Shop แล้ว  Instagram Shopping ก็เป็นอีกช่องทางการขายที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งการขายในช่องทางนี้สามารถทำได้โดยการดึงเอา Facebook Catalog มาสร้างเป็น Shop ใน IG ซึ่ง LnwShop เองก็ได้มีบริการดังกล่าวให้ร้านค้าใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งบริการนี้จะแถมให้ร้านค้าได้ใช้งานฟรี เมื่อเปิดบริการ Facebook Shop หรือถ้าร้านไหนยังไม่มี Facebook Shop แต่เปิดใช้งานบริการ IG Shopping ก็จะสามารถใช้บริการ Facebook Shop ของ LnwShop ได้ฟรี

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้ากับ Google Shopping Tab

บริการ Google Shopping Tab จาก LnwShop จะทำให้สินค้าของคุณปรากฏบน Surfaces across Google โปรแกรมของ Google ที่อนุญาตให้สินค้าในร้านของคุณปรากฏเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์บน Google Shopping Tab, Google Search และ Google Image โดยไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ซึ่งบริการนี้ LnwShop เป็นผู้ให้บริการรายเดียวในประเทศไทย และ 1 ใน 3 ของ APAC ที่ช่วยในการเชื่อมข้อมูลของร้านค้าขึ้นไปยังระบบของ Google – อ่านเพิ่มเติมได้ที่ LnwShop 1 ใน 3 APAC Google Partner ช่วยร้านค้าออนไลน์ ก้าวสู่ Free Listings

  • บริการลงโฆษณาผ่าน Google Shopping Ads

งบโฆษณามีจำกัด ทำไมไม่เลือก ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ด้วย Smart Shopping Campaign ในการลงโฆษณาแบบ Google Shopping Ads ที่ช่วยคำนวณการแสดงผลของโฆษณาของคุณให้เอง สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้ แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์เคยลงโฆษณาด้วยตัวเองยังเปลี่ยนมาใช้

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

  • บริการลงโฆษณาผ่าน Google Text Ads

โฆษณาด้วยข้อความเชิญชวน ที่เข้าถึงใจลูกค้าได้ดีเสมอมา ซึ่งรูปแบบการโฆษณานี้ จะเป็นการโฆษณาโดยใช้ข้อความดึงดูดให้คนที่ค้นหาข้อมูลสนใจในเว็บไซต์ของเรา ซึ่ง LnwShop มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการโฆษณา มาช่วยทำการวิเคราะห์ร้านค้าคุณ เลือกคีย์เวิร์ด สร้างข้อความโฆษณา และให้คำแนะนำอื่นๆ เพื่อให้โฆษณาแสดงผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • บริการเชื่อมข้อมูลสินค้าและสต๊อกกับ Priceza

ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยการส่งข้อมูลสินค้าไปโปรโมทบนเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้า Priceza.com เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา ที่รวมข้อมูลสินค้ามากกว่า 50,000,000 รายการ จากร้านค้าที่เชื่อถือได้ มาให้เปรียบเทียบราคา

  • บริการบิลออนไลน์ ช่วยจัดการงานขายผ่าน Social

สั่งซื้อได้ง่ายที่สุด จบง่ายในหน้าเดียว ! ด้วย ” 1-Page Checkout ” ไม่ว่าลูกค้าของคุณอาจมาได้จากทุกช่องทาง ขอเพียงคุณพร้อมบริการ  เมื่อลูกค้าทักแชทเพื่อต้องการสั่งซื้อแล้ว คุณเพียงสร้างใบสั่งซื้อที่ระบบหลังบ้านของ LnwShop และ Copy Link ส่งให้ลูกค้าได้ตรวจสอบยืนยันออเดอร์ เท่านี้ก็สะดวกสบายทั้งผู้ซื้อผู้ขาย ลดปัญหามากมายที่คุณเคยมีมา

  • บริการ Dropship ช่วยจัดการตัวแทนขาย

เพิ่มช่องทางการขายผ่านตัวแทนอย่างเป็นระบบเพิ่มโอกาสสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด ช่วยลดงานที่ต้องทำซ้ำๆ ป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อปัญหาน้อยลง เวลาที่ใช้ในการทำงานลดลง คุณก็จะไม่ถูกจำกัดด้วยปริมาณตัวแทนจำหน่ายที่รับไม่ไหวอีกต่อไป

ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

  • เชื่อมโยงร้านค้า Offline – Online ด้วย Mobile POS

ไม่ว่าคุณจะขายผ่านหน้าร้าน ออกบูธ Event หรือ ขายออนไลน์ผ่านหน้าเว็บของตัวเอง, LINE, Facebook ข้อมูลการขายทุกที่จะเชื่อมต่อกันหมด ช่วยให้คุณตัดสต๊อกไม่ผิดพลาด ดูสรุปยอดขายทุกช่องทางก็ง่าย


ช่อง ทาง ออนไลน์ มีอะไรบ้าง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-026-6417 อีเมล [email protected] หรือกรอกข้อมูลเพื่อรอการติดต่อกลับได้ที่นี่

ช่อง ทางสื่อออนไลน์ มี อะไร บ้าง

Digital Marketing มีอะไรบ้าง?.
เว็บไซต์ (Website Marketing).
ช่องทางเสิร์ช (Search Engine Marketing).
อีเมล (Email Marketing).
Social Media Marketing (SMM).
โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย (Social Media Ads).
วิดีโอ (Online Video).
คอนเทนต์ (Content Marketing).

ช่องทางการตลาดออนไลน์มีกี่ช่องทาง อะไรบ้าง

ช่องทางทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) มีอะไรบ้าง?.
1. SEO (Search Engine Optimization) ... .
2. Google Ads (Google AdWords) ... .
3. SMM (Social Media Marketing) ... .
4. Content Marketing. ... .
5. Video Marketing. ... .
6. Influencer Marketing. ... .
7. Affiliate Marketing. ... .
8. Email Marketing..

การทําการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง

การทำการตลาดหรือธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ เช่น โฆษณา Facebook, โฆษณา Google, โฆษณา Youtube, โฆษณา Instagram โดยอาจมีการจ้างยิงแอดโฆษณากับทางเอเจนซี ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยใช้วิธีต่างๆ ในการ โฆษณาเว็บไซต์ หรือ โฆษณาขายสินค้าที่จะนำสินค้าของเราไปเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ ...

ตลาดออนไลน์เรียกว่าอะไร

อันที่จริงแล้ว คำว่าการตลาดออนไลน์ หรือ online marketing มีหลากหลายคำเรียกมากมาย เช่น การตลาดบนอินเทอร์เน็ต (Internet marketing) หรืออาจใช้ว่า i-marketing, web-marketing แต่ที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ Digital Marketing ซึ่งก็หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มาผสมผสาน ...