Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

ระยะตัดตก (Bleed) และ ระยะปลอดภัย (margins) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการตั้งค่าไฟล์งานอาร์ตเวิร์คเพื่องานพิมพ์ที่ดีที่สุด ความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นในการตั้งค่าระยะตัดตก และ ระยะปลอดภัย

1. ระยะตัดตก (Bleed) ไม่พอดีก็อาจทำให้ไฟล์งานอาร์ตเวิร์คของคุณออกมาพร้อมกับขอบสีขาวรอบด้าน

2. ถ้าคุณวางข้อความสำคัญไว้นอก พื้นที่ปลอดภัย (Safe zone) ก็อาจทำให้ข้อความของคุณเสี่ยงถูกตัดออกระหว่างกระบวนการพิมพ์เช่นกัน

Photoshop ไม่ใช่โปรแกรมสำหรับการตั้งค่างานไฟล์งานอาร์ตเวิร์คสำหรับส่งพิมพ์ โปรแกรมนี้จึงไม่มีการสนับสนุนการตั้งค่าระยะตัดตก (Bleed) และ ระยะตัดขอบ (Margin) ที่สะดวกมากกว่าเดิม เพราะเราจำเป็นต้องเพิ่มค่าระยะตัดตก (Bleed) เองในงานอาร์ตเวิร์ค (Canvas) ของคุณ

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกพิมพ์นามบัตรขนาด 9 x 5 ซม. ในโปรแกรม Photoshop Canvas จะต้องมีขนาด 9.6 x 5.6 ซม. ซึ่งขนาดนี้มาจากระยะตัดตก 0.3 ซม. ทุกรอบด้านของงานอาร์ตเวิร์คของคุณ

คุณสามารถตรวจสอบงานอาร์ตเวิร์คของคุณได้โดยเลือก  Image > Canvas Size ตามรูปภาพด้านล่างนี้

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

เมื่อทำการตั้งค่างานอาร์ตเวิร์คเรียบร้อยแล้ว คุณจำเป็นต้องสร้างเครื่องหมายสำหรับพื้นที่ระยะตัดตก (Bleed) และพื้นที่ปลอดภัย (Safe zone) เริ่มด้วยการใช้เครื่องมือ Rectangle ในการออกแบบสี่เหลี่ยมด้วยขนาดสินค้าที่คุณต้องการ ซึ่งในบทความนี้เราจะยกตัวอย่างที่ 9 x 5 ซม.

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

สร้างกรอบสี่เหลี่ยมขึ้นมาบนส่วนไหนก็ได้ใน Canvas ของคุณ และ ตั้งค่าขนาดความกว้าง 9 ซม. และความสูง 5 ซม. (คุณสามารถพิมพ์ขนาดเหล่านี้ลงไปได้เลย)

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

เมื่อคุณได้สร้างรูปสี่เหลี่ยมเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเลือกวางตำแหน่งของกรอบสี่เหลี่ยมคุณไว้ที่จุดกึ่งกลาง วิธีการย้ายกรอบสี่เหลี่ยมมาที่จุดกึ่งกลาง สามารถทำได้โดยเลือก Align บนตำแหน่ง Canvas ใน Dropdown และ เลือกคลิกที่ Horizontal Centers จากนั้นเลือก Vertical Centers และอย่าลืมตั้งค่ากรอบสี่เหลี่ยมแบบไม่มีสี

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

เมื่อเราตั้งค่าสี่เหลี่ยมให้อยู่ในจุดกึ่งกลางเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราจะมาตั้งค่า Guideline สำหรับสิ่งที่ต้องการพิมพ์ได้โดย คลิกขวาที่รูปและเลือกตัวเลือก New Guides from Shape

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

คุณสามารถทำซ้ำขั้นตอนเดิมจากด้านบนสำหรับการตั้งค่าพื้นที่ปลอดภัย (Safe zone) โดยสร้างรูปสี่เหลี่ยมรอบงานอาร์ตเวิร์คของคุณด้วยการตั้งค่า -0.3 ซม. ในแต่ละด้าน ในตัวอย่างนี้คือตั้งค่าสี่เหลี่ยมขนาด 8.4 x 4.4 ซม. ซึ่งเป็นขนาดที่มาจากความกว้าง (9 - 0.6) ซม. และความสูง (5 - 0.6) ซม. ส่วนข้อความที่สำคัญควรใส่ไว้ใน Safe zone เท่านั้น

เมื่อได้ตั้งค่าหน้ากระดาษพร้อมระยะตัดตก และ พื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้วจะได้ไฟล์งานหน้าตาเป็นแบบด้านล่างนี้:

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

เมื่อคุณเพิ่มองค์ประกอบพื้นหลังเข้าไป (รูปภาพ รูปร่างเลขาคณิต หรือ สีพื้นธรรมดา) อย่าลืมขยายองค์ประกอบเหล่านั้นไปให้เต็มในพื้นที่ระยะตัดตกด้วย หรือขยายให้เต็มพื้นที่ Canvas นั่นเอง

การใช้อัตราส่วนทางการเงินมาวิเคราะห์ธุรกิจ เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถทำให้เราได้หุ้นที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสามารถทำให้เรารู้ว่าแนวโน้มของบริษัทเป็นอย่างไร มีกำไรที่แข็งแกร่งหรือไม่ หรือเมื่อนำไปเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันแล้ว ได้เปรียบขนาดไหน วันนี้พี่ทุยพาไปรู้จักอัตราส่วนทางการเงินตัวหนึ่งที่สำคัญ นั่นคือ Net Profit Margin คืออะไร ใช้วัดอะไรได้บ้าง

Net Profit Margin คืออะไร ?

“Net Profit Margin” (NPM) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง “กำไรสุทธิ (Net Profit)” เทียบกับ “ยอดขาย (Sales)”

Margins มีไว้เพื่อกำหนดอะไร

“Net Profit Margin” (NPM) เป็นอัตราส่วนที่บอกถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้เป็นอย่างดี คิดว่ากำไรที่ได้จริง ๆ จากการขายสินค้าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์หรือที่เรามักจะคุ้นหูกันในชื่อว่า “Margin” (สินค้าตัวนี้ได้มาร์จิ้นเท่าไหร่ ?)

ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ถ้า…

Net Profit Margin (NPM) มีค่าสูงแสดงว่าสินค้าและบริการของบริษัทนั้นมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี ซึ่งอาจจะเกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนของสินค้าได้ดี

Net Profit Margin (NPM) มีค่าต่ำแสดงว่าสินค้าและบริการของบริษัทนั้นมีความสามารถในการทำกำไรที่ต่ำ ซึ่งอาจจะเกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนของสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ข้อควรระวังในการใช้ Net Profit Margin

ซึ่ง Net Profit Margin (NPM) อาจจะบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ที่เรียกว่าสูง เท่าไหร่ที่เรียกว่าต่ำ โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้ในการเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรงหรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อบอกว่าดีหรือแย่กว่า เพราะในบางธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบริการมักจะมี Net Profit Margin (NPM) ที่สูงกว่าธุรกิจที่มีการผลิต

และการที่อุตสาหกรรมนั้นมีค่า Net Profit Margin (NPM) ที่สูงอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะ Net Profit Margin (NPM) ที่สูงจะเป็นแรงดึงดูดคู่แข่งรายใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดได้ง่าย โอกาสที่จะได้ผู้เล่นรายใหญ่กว่าเข้ามาในตลาดก็มีความเป็นไปได้ที่สูงเช่นกัน

การใช้ Net Profit Margin (NPM) เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้บอกว่าบริษัทนั้นน่าลงทุนหรือว่าเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ ดังนั้นควรพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินอื่น ๆ รวมถึงอุตสาหกรรม ลักษณะของสินค้าและบริการประกอบด้วยเสมอ

ติดตามคำศัพท์การเงินอื่น ๆ ได้ที่นี่

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile