เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ...

Posted by ชีทสรุปเพื่อน้อง on Tuesday, November 8, 2016

ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยการเริ่มต้นจากการตั้งประเด็นปัญหา จากนั้นจะศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลเพื่อคาดคะเนคาตอบของปัญหานั้นสมมุติฐาน ต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า

           สมมุติฐานการศึกษาค้นคว้า เป็นคำตอบสรุปของผลการศึกษาที่ผู้ศึกษาค้นคว้าคาดคะเน หรือพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูล คำตอบดังกล่าวได้มาจากการไตร่ตรองโดยใช้เหตุผลที่น่าจะเป็นให้มากที่สุด โดยมีรากฐานของทฤษฏี ผลการศึกษาค้นคว้า หรือผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 34) ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้ามั่นใจว่าผลการศึกษาค้นคว้าจะตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ แต่ผลการศึกษาค้นคว้าจริงอาจจะตรง หรือไม่ตรงกับสมมุติฐานก็ได้ สิ่งสำคัญ คือ ผู้ศึกษาค้นคว้าต้องอธิบายได้ว่าผลการศึกษาค้นคว้าเป็นเช่นนั้นเพราะเหตุใด

           สมมุติฐานแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้ (จรัญ จันทลักขณา และกษิดิศ อื้อเชี่ยวชาญกุล. 2551 : 38)

           1. สมมุติฐานทางสถิติ กำหนดขึ้นก่อนการทดลอง เป็นสมมุติฐานที่กำหนดเมื่อไม่รู้ว่ามีให้กำหนดในเบื้องต้นว่าไม่มีเช่น ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีความสัมพันธ์ เป็นต้น

           2. สมมุติฐานทางเลือก ในการศึกษาค้นคว้าให้ตั้งสมมุติฐานทางเลือกเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการสรุปผล ถ้าหากผลการทดสอบทางสถิติชี้ว่า


เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

เวลาใครเอ่ยถึง Atlantis ทุกคนจะรู้ว่า มันคือเมืองที่ Plato ปราชญ์กรีกได้เขียนบรรยายไว้ในบทสนทนา Timaeus กับ Critias เมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาลว่า ปู่ของ Plato ได้ความรู้เกี่ยวกับเมืองนี้จากเพื่อนชื่อ Solon ซึ่งได้รับข้อมูลจากนักบวชชาวอียิปต์อีกทอดหนึ่งว่า Atlantis ตั้งอยู่เบื้องหน้าของ Pillars of Hercules ซึ่งเป็นภูเขาสองลูกที่แยกกันอยู่บนฝั่งของช่องแคบ Gibrraltar อันเป็นเส้นทางเรือเข้า-ออกของทะเล Mediterranean

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ดังนั้นถ้าพิจารณาตามคำบอกเล่านี้ Atlantis จึงน่าจะเป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร Atlantic ซึ่งในเวลานั้น คงไม่มีใครรู้จักมาก เพราะทุกคนมีความเชื่อว่า เรือลำใดก็ตามที่แล่นใบผ่านเข้าไปในมหาสมุทรลึกลับนี้ จะถูกกระแสน้ำพัดพาไปจนร่วงตกขอบโลกอย่างแน่นอน

เมื่อไม่มีใครได้เห็นหรือมีความรู้ในรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเมือง Atlantis และสภาพแวดล้อมเลย ดังนั้น Atlantis จึงเป็นเมืองในจินตนาการของทุกคน ตลอดเวลาที่ผ่านมา Plato เอง ได้เคยบรรยายไว้ว่าบน Atlantis มีป่าไม้ เหมืองแร่ และบ่อน้ำร้อนให้ชาวเมืองได้อาบน้ำในฤดูหนาว รวมถึงมีบ่อน้ำเย็นให้ทุกคนได้อาบในฤดูร้อนด้วย ตัวเมืองมีกำแพงล้อมรอบรูปวงแหวน 5 วง และมีสะพานเชื่อมระหว่างกำแพงทุกกำแพง ชาวเมืองได้รับการศึกษา และมีวัฒนธรรมที่ดีงาม ด้านพลเมืองชายก็มีความสามารถในการเดินเรือ และการต่อสู้ในสงครามได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ ศีลธรรมและจรรยาบรรณของประชากรได้เสื่อมถอย ความขัดแย้งภายในได้ทำให้ระบบการปกครองล้มเหลว จนในที่สุดเทพ Zeus ได้ทรงบันดาลให้คลื่นยักษ์ในทะเลพุ่งเข้าท่วมทำลายเมือง จนเมืองได้จมหายไป และไม่มีใครได้เห็นนคร Atlantis อีกเลย

แม้วันเวลาจะผ่านไปนานร่วม 2,000 ปีแล้วก็ตาม ผู้คนในยุคหลัง Plato ก็ยังฝังจิตฝังใจเชื่อว่า Atlantis มีจริง และวันหนึ่งในอนาคตจะมีนักสำรวจที่ได้พบซากของเมืองจมอยู่ใต้ทะเลอย่างแน่นอน ความเชื่อเช่นนี้ได้ทำให้นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ และนักผจญภัยทั้งหลาย พยายามค้นหาเมืองใต้บาดาลเมืองนี้ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่า Plato เขียนเรื่องนี้จากความเป็นจริง และทุกคนหวังว่าหลักฐานที่พบจะเปิดเผยให้โลกรู้ว่า เมืองนี้เคยมีสภาพเช่นไร รวมถึงให้รู้สาเหตุที่ทำให้เมืองต้องอันตรธานสาบสูญไปจากโลกด้วย

ในความพยายามที่จะค้นหา Atlantis นี้ นักผจญภัยทุกคนได้เริ่มต้นศึกษาหลักฐานอ้างอิงจากบันทึกในประวัติศาสตร์ จากนั้นก็ได้ตั้งสมมติฐานของตนเองเพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายคนที่เชื่อว่า Atlantis อยู่บนเกาะ Spartel ซึ่งเคยตั้งอยู่กลางช่องแคบ Gibraltar และเกาะได้จมหายไปทะเลเมื่อ 11,500 ปีก่อน บ้างก็อ้างว่าบริเวณทางตอนใต้ของสเปน ซึ่งอยู่ติดทะเล Mediterranean เคยเป็นที่ตั้งของเมือง Atlantis และบริเวณนี้ได้ถูกคลื่นสึนามิถล่มเมื่อ 650 ปีก่อนคริสตกาล แต่การสำรวจทุกบริเวณในอดีต ก็มิได้พบซากปรักหักพังของเมืองแต่อย่างใด

แม้ความพยายามค้นหา Atlantis ในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกจะไร้ผล แต่ความพยายามเหล่านี้ก็มิได้สูญเปล่า เพราะบางการสำรวจได้ทำให้ทุกคนรู้ว่า ในอดีตโลกเคยมีเมืองหลายเมืองที่ปัจจุบันกำลังจมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมปัจจุบันไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากนี้การวิเคราะห์วัตถุโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ได้ช่วยให้เราได้รู้ และเข้าใจอารยธรรมโบราณในอดีต รวมถึงภัยธรรมชาติที่ได้ทำลายเมืองเหล่านั้นด้วย ซึ่งการศึกษาเรื่องเหล่านี้ได้ช่วยให้เราปัจจุบันมีทางป้องกัน มิให้ภัยหายนะที่ร้ายแรงได้เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการพบเมืองที่จมอยู่ในทะเลหลายเมือง เช่น Herakleion กับ Canopus ในอียิปต์, เมือง Pavlopetri ในกรีซ, เมือง Port Royal ในจาไมกา และ เมือง Atlit-Yam ในอิสราเอล เป็นต้น

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

สำหรับเมือง Herakleion กับ Canopus นั้น นักประวัติศาสตร์กรีกชื่อ Herodotus, Strabo และ Diodorus ได้เคยบันทึกไว้ว่าเมืองทั้งสองเคยเป็นสถานที่ที่เจ้าชาย Paris ได้ทรงลักพาตัวพระนาง Helen มาซ่อนพระองค์ไว้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดสงครามกรุงทรอย เพราะว่าเมืองทั้งสองตั้งอยู่บนดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ดังนั้นจึงอยู่บนตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการนาวีพาณิชย์ เพราะเรือสินค้าต่างชาติทุกลำจะต้องผ่านเข้า-ออกอียิปต์ เมืองจึงมีรายได้จากการเก็บภาษีมาก จนสามารถสร้างศาสนสถานที่สำคัญและสวยงาม ให้นักจารึกแสวงบุญได้เดินทางมาทำบุญทุกปีเป็นจำนวนนับหมื่นคน

ครั้นเมื่อ Frank Goddio (1947-ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการด้านโบราณคดีใต้น้ำแห่ง European Institute for Underwater Archaeology ได้อ่านบันทึกของนักประวัติศาสตร์กรีก ซึ่งได้กล่าวถึงเมืองทั้งสอง เขาก็ได้รับแรงดลใจให้ออกค้นหาเมืองที่โลกลืมนี้ทันที

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

Goddio เป็นนักสำรวจคนสำคัญคนหนึ่งของโลกที่สนใจวิทยาการด้านประวัติศาสตร์มาก และได้เคยประสบความสำเร็จในการพบซากเรือสินค้าหลายลำที่จมลงในทะเลตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11-16 และได้พบซากพระราชวังส่วนหนึ่งของฟาโรห์ Ptolemy ที่ 3 ซึ่งจมอยู่ในอ่าวนอกเมือง Alexandria ของอียิปต์ อีกทั้งยังได้พบซากเรือธงชื่อ Orient ของจักรพรรดิ Napoleon Bonaparte (1769-1821) ที่ได้จมลงในอ่าวนอกเมือง Alexandria เมื่อปี 1798 ด้วยเพราะกราบเรือถูกกระสุนปืนใหญ่เจาะทะลุ ขณะฝรั่งเศสทำสงครามทางเรือกับกองทัพอังกฤษ ภายใต้การนำของนายพล Horatio Nelson (1758-1805) ในสงคราม Battle of the Nile การมีจิตวิญญาณเป็นนักโบราณคดีผู้ทำงานวิจัยเพื่อความรู้ล้วน ๆ ได้ทำให้ Goddio ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่าง ๆ มากมาย รวมถึงจากองค์การ UNESCO ด้วย อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์หลายสาขา เช่น นักโบราณคดี นักอียิปต์วิทยา นักประวัติศาสตร์ นักธรณีวิทยา วิศวกรคอมพิวเตอร์ และนักสมุทรศาสตร์ เป็นต้น

ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิ Hilti และคณะโบราณคดีของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ในอังกฤษ Goddio ได้เริ่มค้นหาเมือง Herakleion กับ Canopus ที่บริเวณอ่าว Abe Qir ซึ่งอยู่ในทะเล Mediterranean ที่มีน้ำลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 10-12 เมตร และลึกที่สุด 18 เมตร อ่าวมีพื้นที่ประมาณ 550 ตารางกิโลเมตร โดยการใช้เทคโนโลยี sonar ที่ให้เรือส่งคลื่นเสียงออกไป แล้วรับฟังเสียงสะท้อน เพื่อช่วยนำทาง วัดระยะทาง และสำรวจหาวัตถุใต้น้ำ เช่น เสาหรือสิ่งก่อสร้างที่จมอยู่ในโคลน และเมื่อใดก็ตามที่เครื่องรับสัญญาณ sonar รายงานการ “เห็น” วัตถุที่ต้องสงสัย Goddio ก็ให้นักประดาน้ำดำน้ำลงไป เพื่อนำวัตถุนั้นขึ้นมาดูกันทันที

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ความพยายามของ Goddio ได้บรรลุผลในอีก 3 ปีต่อมา เมื่อเขาพบซากของเมือง Canopus จมอยู่ใต้ทะเล ณ ตำแหน่งที่ห่างจากฝั่ง 1.6 กิโลเมตร โดยอยู่ในน้ำที่ลึก 6-8 เมตร อีก 1 ปีต่อมา เขาก็พบซากของเมือง Herakleion จมอยู่ห่างจากฝั่ง 6.5 กิโลเมตร โดยกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ 1,000x800 ตารางเมตร และได้พบแท่นบูชาที่ทำด้วยหินแกรนิต ซึ่งชาวเมืองใช้ในพิธีบูชาฟาโรห์ Nectambo ที่ 1 เพราะบนแท่นบูชามีอักษรจารึกพระนามของพระองค์ และมีอักษรที่แกะสลักตามมา ซึ่งบรรยายเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อ 380-362 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากนี้ก็ยังได้พบเหรียญทองคำหลายเหรียญที่แกะสลักเป็นพระพักตร์ของพระนาง Cleopatra และอนุสาวรีย์ที่ปราศจากพระเศียรของเทพธิดา Isis ด้วย การวัดอายุของอนุสาวรีย์เหล่านี้ได้แสดงว่า มันมีอายุประมาณ 1,200 ปี และ Goddio ยังได้พบอนุสาวรีย์ของเทพธิดา Hapi แห่งแม่น้ำไนล์ ผู้ทรงบันดาลให้น้ำในแม่น้ำท่วมทุกปีด้วย ซึ่งอนุสาวรีย์นี้ทำด้วยหินแกรนิตเช่นกัน ท้ายที่สุดนักประดาน้ำยังได้นำแผ่นหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่มีอักษรจารึกว่า เมืองนี้ชื่อ Herakles ซึ่งก็สอดคล้องกับชื่อ Herakleion ที่โลกรู้จักในปัจจุบัน

แม้การขุดพบซากโบราณนี้จะได้ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกตื่นเต้น แต่ทุกคนก็ยังมีประเด็นสงสัยว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เมืองทั้งสองต้องจมบาดาล ในการตอบคำถามนี้ Goddio ได้เชิญนักธรณีวิทยา 2 ท่าน มาเข้าร่วมโครงการสำรวจของเขาด้วย

คนแรกชื่อ Amos Nur (1938-ปัจจุบัน) จากมหาวิทยาลัย Stanford ในอเมริกา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว และคนที่สอง เป็นนักโบราณคดีเชิงธรณีวิทยาชื่อ Jean-Daniel Stanley จากสถาบัน Smithsonian ที่ Washington DC. ซึ่งเชียวชาญเรื่องการเลื่อนไถลของดินดอนสามเหลี่ยมในบริเวณปากแม่น้ำ

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ในที่สุด Nur และ Stanley ก็มีความเห็นพ้องกันว่า อาคารในเมืองทั้งสองได้ทรุดตัวลงเป็นระยะทางลึกถึง 8 เมตรอย่างทันทีทันใด โดย Nur คิดว่า สาเหตุหลักเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ Stanley คิดว่าสาเหตุเกิดจากน้ำท่วมหนัก นอกจากนี้คนทั้งสองก็ยังรู้ว่าเมืองทั้งคู่ได้ล่มสลายในเวลาที่แตกต่างกัน คือ Herakleion ได้ทรุดก่อนเมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1 และ Canopus ได้ล่มสลายในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 เหตุการณ์บ้านทรุดเมืองพังพินาศอย่างปัจจุบันทันด่วนนี้ เป็นเรื่องที่อนุมานได้จากการเห็นอัญมณีและเครื่องใช้ต่าง ๆ ของชาวเมืองถูกทิ้งขว้างอย่างไม่เป็นระเบียบ เพราะเจ้าของไม่มีเวลาจะเก็บนำติดตัวไปด้วย หลังจากที่ได้เห็นเสาขนาดใหญ่ในเมืองล้มระเนระนาด ซึ่งอาจจะล้มทับชาวเมืองจนเสียชีวิตได้

Nur ยังได้พบอีกว่า สถานที่ตั้งของเมืองทั้งสองได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งมีความรุนแรงถึงระดับ 8.5 บ่อย (ที่ระดับ 8.0 หรือสูงกว่า บริเวณโดยรอบศูนย์การสั่นสะเทือนจะถูกทำลายจนหมดสิ้น) และได้มีคลื่นสึนามิเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 8 ครั้งในระหว่างปีค.ศ. 320-1301 เพราะได้เห็นที่ใต้ซากของอาคารมีรอยแยกของแผ่นดินที่ลึก 2 เมตร เป็นระยะทางหลายร้อยเมตร ดังนั้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกที่รองรับตัวเมืองได้เลื่อนไถลไปในแนวนอน เมืองทั้งเมืองก็จะเลื่อนลงทะเลในทันที

ด้าน Stanley กลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไปว่า ดินดอนปากแม่น้ำไนล์น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เมืองทั้งสองต้องล่มสลาย เพราะเมื่อครั้งที่มีการสร้างเมืองใหม่ ๆ นั้น ภูมิประเทศของดินดอนมีความแตกต่างไปจากปัจจุบันมาก การเปลี่ยนทิศทางการไหลของแม่น้ำไนล์ ได้ทำให้น้ำท่วมฝั่งเป็นบริเวณกว้างบ่อย และกระแสน้ำได้พัดพาโคลนตมไปด้วยในปริมาณมาก เวลาน้ำไหลลงสู่ทะเล เพราะดินตะกอนที่อยู่ใต้เมืองเป็นดินอ่อนที่มีความหนาประมาณ 20 เมตร และดินสามารถอุ้มน้ำได้ในปริมาณมากตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อน้ำท่วมมาก ดินก็จะยุบตัวอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์สภาพดินใต้เมือง Canopus ในสามมิติ แสดงให้เห็นว่า ชั้นดินตะกอนได้ถูกดันขึ้นเป็นโดมโค้งที่สูงหลายเมตร เมื่อเป็นเช่นนี้อาคารใดก็ตามที่ตั้งอยู่บนตะกอนก็จะล้มคว่ำอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

Stanley ยังได้ศึกษาชั้นตะกอน และวัดอายุของสารอินทรีย์ที่แฝงอยู่ในโคลนใต้ซากปรักหักพัง และได้ข้อมูลที่แสดงว่า ได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักจริง ๆ และอุทกภัยประเภทนี้ได้เกิดขึ้นบ่อย เพราะนักประวัติศาสตร์อียิปต์ได้บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมทุกปี ดังนั้นการล่มสลายของเมืองจึงเกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก หาได้เกิดจากแผ่นดินไหวไม่ โดย Stanley ได้วิเคราะห์เหรียญทองคำที่พบในเมือง และได้ข้อมูลซึ่งแสดงว่า เหรียญถูกทำขึ้นเมื่อค.ศ. 731 หลังจากที่กองทัพอาหรับได้บุกเข้ายึดครองอียิปต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แล้ว ก็ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่อีกเมื่อค.ศ. 741-742 และเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในอีก 63 ปีต่อมา

แต่ Stanley ก็ได้สรุปว่า อะไรที่เกิดขึ้นที่เมือง Canopus ก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นที่เมือง Herakleion ดังนั้นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ก็อาจจะเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดการจมใต้บาดาลของเมือง Herakleion ก็ได้

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

นอกจากเมือง Herakleion กับ Canopus แล้ว โลกก็ยังมี เมือง Port Royal ก็ยังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่จมอยู่ใต้น้ำด้วย เมืองนี้อยู่บนเกาะ Jamaica ในทะเล Caribbean และมีชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ว่าเป็นเมืองบาปที่สุดในโลก เพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะโจรสลัด และมีซ่องโสเภณีเกลื่อนกลาด

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ในปี 1494 กองทัพสเปนได้จัดตั้งเมืองนี้ขึ้น เพื่อเป็นเมืองอาณานิคมที่มีพลเมืองอาศัยอยู่ประมาณหมื่นคน ความรุ่งเรืองของเมืองเกิดจากเงินและทรัพย์สมบัติที่โจรสลัดปล้นเรือสินค้าที่ขนทองคำจากอเมริกาใต้ไปสเปน และสาเหตุการล่มสลายของเมืองเกิดจากการที่เมืองตั้งอยู่บนดินดอนที่เป็นดินปนทราย โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลน้อยกว่า 1 เมตร ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในวันที่ 7 มิถุนายน ปี 1692 ดินทรายที่อยู่ใต้อาคารได้ทรุดตัวลงถึง 5 เมตร และ 2 ใน 3 ของเมืองได้จมลงไปในทะเล ทำให้มีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 2,000 คน การขุดสำรวจซากเมืองเมื่อปี 1981-1990 ได้แสดงให้เห็นว่า ซากเมืองที่เหลือได้ถูกพายุเฮอริเคนพัดกระหน่ำอีก จนทำให้บ้านเรือนหลายหลังพังทลาย และอุปกรณ์เครื่องใช้ของชาวบ้านแตกกระจาย นาฬิกาเรือนหนึ่งของชาวบ้านได้หยุดเดินเมื่อเวลา 11:43 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมือง

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

อีกหมู่บ้านหนึ่งที่จมอยู่ใต้น้ำ คือ หมู่บ้าน Atlit-Yam ใน อิสราเอล ซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างจากเมือง Haifa ออกไปในทะเลเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร และเป็นหมู่บ้านโบราณที่อยู่ในสภาพดีมาก เพราะมีการพบกระดูกคนและกองหินวางเรียงกันเป็นวงกลม ตัวหมู่บ้านมีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร โดยได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 7,000 ปีก่อนคริสตกาล จึงเป็นหมู่บ้านที่โบราณมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในหมู่บ้านไม่มีถนนหนทาง พื้นบ้านปูด้วยอิฐ ในบ้านมีเตา และห้องเก็บของ

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

นักโบราณคดีผู้พบหมู่บ้านนี้ คือ Ehud Galili (1950-ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสมาคมมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยได้พบหมู่บ้านนี้ ขณะไปสำรวจค้นหาซากเรืออับปาง เมื่อปี 1984 และได้เห็นหมู่บ้านที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานร่วม 9,000 ปี การสำรวจสภาพของหมู่บ้านใต้น้ำ แสดงให้เห็นความเป็นอยู่ของคนในยุคหินใหม่ Neolithic ซึ่งเป็นเวลาที่มนุษย์เริ่มนำพืชมาปลูก และนำสัตว์มาเลี้ยง ชาวบ้าน Atlit-Yam ได้รู้จักล่าสัตว์ป่า เลี้ยงแกะ แพะ หมู รู้จักปลูกพืช เช่น ข้าวสาลี ถั่ว และปอ ด้านคนที่มีอาชีพประมงก็รู้จักใช้เบ็ดที่ทำจากกระดูกสัตว์ ชาวบ้านผู้ชายดำน้ำเก่ง เพื่อหาอาหารจากทะเล และมีการพบศพที่ตายด้วยวัณโรคด้วย ในหมู่บ้านมีบ่อน้ำ กองหินใหญ่ที่หนัก วางเรียงกันเป็นรูปครึ่งวงกลม (Stonehenge) แต่มีขนาดเล็กกว่า เมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นๆ หลังจากที่ยุคน้ำแข็งสิ้นสุด น้ำทะเลได้ท่วมเข้าไปในเกาะ จนทำให้ผู้คนต้องทิ้งถิ่นอาศัยไปอย่างถาวร

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

เมืองสุดท้ายที่จะกล่าวถึง คือ เมือง Pavlopetri ใน กรีซ โดยนักโบราณคดีชื่อ Nicholas Flemming คือ นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัย Southamton ในอังกฤษ ได้พบเมืองโบราณนี้จมอยู่ในน้ำเมื่อปี 1967

ในยุคทองสำริด เมืองนี้เคยรุ่งเรือง แต่ปัจจุบันกลับจมอยู่ใต้น้ำที่ลึก 4 เมตร ในอ่าว Laconia ของกรีซ การสำรวจเมืองใต้น้ำได้พบถนนหนทาง พื้นบ้านถูกปูด้วยหิน เมืองมีหลุมฝังศพอยู่กระจัดกระจายหลายแห่ง มีเครื่องปั้นดินเผาที่ถูกทำขึ้นตั้งแต่ยุค Mycenaen คือเมื่อ 1,600-1,100 ปีก่อนคริสตกาล ความเก่าแก่โบราณของเมืองนี้ได้ทำให้นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า เมื่อครั้งที่เกิดสงครามกรุง Troy กองทัพกรีกได้ยกทัพเรือออกจากท่าของเมืองนี้ เพราะได้เห็นซากเรือหลายลำที่มีความยาวตั้งแต่ 10 -20 เมตร

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ในปี 2009 คณะนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัย Nottingham ในอังกฤษได้ใช้ laser และ sonar ศึกษาพื้นที่ 150 ตารางเมตรของเมือง และพบห้องโถงกับหลุมฝังศพ ความกว้างใหญ่ของอาคารได้ทำให้ทุกคนคิดว่านี่คงเป็นราชสำนักของกษัตริย์ แต่ก็มีคำถามที่น่าสงสัย คือ เมืองนี้ได้จมน้ำไปเพราะสาเหตุใด ซึ่งการเลื่อนไถลของดินใต้เมืองได้ทำให้ชาวเมืองต้องทิ้งเมืองไปเมื่อ 1,100 ปีก่อนคริตกาลใช่หรือไม่ และนักโบราณคดีก็ยังไม่มั่นใจว่า การล่มสลายของเมืองได้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว หรือจากครั้งเล็กๆ หลายครั้ง

อ่าน “เกาะในอนาคตที่กำลังจะจมน้ำทะเล” ในวันศุกร์หน้า

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา is

ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน : ประวัติการทำงาน - ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ และ ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์ ประวัติการศึกษา-ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย

อ่านบทความ "โลกวิทยาการ" ได้ทุกวันศุกร์



  • เกาะ
  • Atlantis