การประเมินคุณค่าเรื่องสั้น ควรประเมินครอบกลุ่ม ๔ ประเด็นคือ ๑. เนื้อหาและแนวคิด มีความเป็นสากลและมีลักษณะเฉพาะ ๒.๕ ตัวละคร ต้องสอดคล้องกับแนวเรื่อง ตัวละครมีการพัฒนานิสัยอย่างสมเหตุสมผลและมีบทบาทสัมพันธ์กับเรื่อง ๓. การใช้ภาษา เหมาะสมกับลักษณะของเรื่องและภาษามีลีลาเฉพาะตัว การประเมินคุณค่าสารคดี การประเมินคุณค่าสารคดี ควรพิจารณาประเมินให้ครอบคลุม ๔ ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้ ๑. เนื้อหา มีเนื้อหาสะท้อนแนวคิดสร้างสรรค์ที่เป็นสากล และแนวคิดเฉพาะตน รวมทั้งพิจารณาความถูกต้องของเนื้อหาที่นำเสนอ มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ๒. วิธีการนำเสนอ พิจารณาชื่อเรื่องต้องมีความน่าสนใจ กระชับตรงประเด็น เปิดเรื่องอย่างมีศิลปะ ลำดับเรื่องชวนติดตาม ปิดเรื่องอย่างน่าประทับใจ กลวิธีในการนำเสนอเหมาะสมกับเนื้อหาและน้าสนใจ กลั่นกรองข้อมูลและนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสมถูกต้อง นำเสนอข้อเท็จจริงที่ผู้อ่านควรรู้และเกิดประโยชน์ต่อสังคม ไม่สอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัว ๓. การใช้ภาษา ใช้ภาษาถูกต้องชัดเจน การใช้สำนวนภาษามีพลังในการส่งสาร ใช้ภาษาที่สื่อความหมายได้อย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งเลือกใช้ศัพท์เฉพาะหรือศัพท์บัญญัติได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับเรื่อง หากจำเป็นต้องใช้ภาษาต่างประเทศควรมีการอธิบายให้ชัดเจนด้วย เพื่อให้ผู้อ่านซึ่งมีความรู้พื้นฐานแตกต่างกันเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ตรงกัน ๔. คุณค่าของสารคดี เป็นงานที่เรียบเรียงขึ้นจากเรื่องจริงที่ให้ทั้งความรู้ ความคิด และสอดแทรกความบันเทิงไว้ด้วย ช่วยเพิ่มพูนความรู้ความคิดให้กับผู้อ่าน รวมทั้งช่วยเปิดโลกทัศน์ของผู้อ่านให้กว้างไกล ทำให้เป็นคนที่มีความรู้ที่ทันสมัยทันโลกตลอดเวลา การประเมินคุณค่างานกวีนิพนธ์ ๔. คุณค่ากวีนิพนธ์ บทกวีก่อให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ สร้างจินตนาการ ให้ข้อคิด ทำให้ตระหนักและเข้าใจชีวิตอย่างลุ่มลึก หรือเสนอแนวคิดแก่ผู้อ่านและมีโครงเรื่องจรรโลงสังคม อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ คนอยากเป็นนักเขียนยังมีอยู่มาก คนอ่านก็มีไม่น้อย แต่คนที่อ่านแล้วให้ความเห็นออกมาดังๆ ที่เรียกกันว่า นักวิจารณ์ นับวันดูจะหาได้ยากเต็มที ทั้งที่เป็นอีกบทบาทสำคัญของวงการวรรณกรรม ในการเป็นสะพานเชื่อมคนอ่านกับงานเขียน และเป็นคล้ายกระจกสะท้อนให้คนเขียนได้มองเห็นงานตัวเองจากอีกมุมหนึ่ง แต่ความพยายามในการปลุกพลังสังคมการณ์วิจารณ์ก็ยังมีอยู่เป็นระยะ หลังสุดเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จัดโครงการเพิ่มพูนความรู้ภาษาไทย เป็นกิจกรรมพิเศษให้กับนักศึกษา ครู อาจารย์ และผู้สนใจทั่วไป ในหัวข้อการวิจารณ์ ๗ กลุ่มงานเขียน ได้แก่ วรรณคดี กวีนิพนธ์ เรื่องสั้น นวนิยาย วรรณกรรมเยาวชน สารคดี และบทละครโทรทัศน์ โดยเชิญผู้สร้างสรรค์งานแต่ละประเภทประกบคู่นักวิจารณ์ พูดถึงการสร้างงานและเปิดการวิจารณ์เป็นกรณีศึกษาให้ผู้ร่วมประชุมได้ความรู้ควบคู่ไปพร้อมกัน กลุ่มสารคดีผมอยู่คู่กับคุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นกวิจารณ์มือเก๋าผู้คลุกคลีกับงานนี้มายาวนาน ผู้เข้าร่วมกระบวนการส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเอกไทย และครูอาจารย์จากทั่วประเทศรวมราว ๔๐ คน พูดถึงการวิจารณ์สารคดีก็เริ่มจากการทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้นว่าด้วยเรื่องจริง (Nonfiction) เรื่องแต่ง (Fiction) องค์ประกอบของงานสารคดี กลุ่มข้อมูล กลวิธีการนำเสนอ ฯลฯ ในการวิจารณ์เบื้องต้นก็วิจารณ์ผ่านหลักการและกรอบเกณฑ์ต่างๆ นี้ หรือแม้เมื่อจะเป็นผู้สร้างสรรค์งานเอง ก็สามารถทำผ่านหลักวิธีการนี้ได้เลย อย่างไรก็ตาม ความรู้ทั้งหลายจะกลายเป็นความรู้ของตนได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อได้ลงมือทำเอง ช่วงหนึ่งของการเข้าร่วมกิจกรรมจึงเป็นการเปิดให้สมาชิกทุกคนมีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติการวิจารณ์ด้วย นอกเหนือจากฟังการสนทนา ถาม-ตอบข้อสงสัย โดยใช้ตัวอย่างงานเขียนสารคดีขนาดสั้น ๓-๔ หน้า เป็นแบบฝึกหัดจับใจความของเรื่อง พร้อมให้คำวิจารณ์ นำเสนองาน แล้วซ้อนการวิจารณ์จากวิทยากรและผู้ฟังทั้งห้อง หมุนเวียนกันครบทุกผลงาน ก็ได้การเรียนรู้ร่วมกันจากมุมมองที่หลากหลาย เป็นบันไดขั้นต้นที่พอเป็นความหวังได้ว่า จะเป็นการเพาะกล้าและหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ให้ดำเนินอยู่ในวงการวรรณกรรม ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมการอ่านการเขียน วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนประจำกองบรรณาธิการ นิตยสาร สารคดี ที่มีผลงานตีพิมพ์ทั้งในนิตยสาร และตีพิมพ์รวมแล่มมากมาย อาทิ แผ่นดินนี้ที่อีกฟากเขา และแสงใต้ในเงามรสุม และ อีสานบ้านเฮา |