ฝ่ายขาย/ทั่วไป/ธุรการ ค่าใช้จ่าย, ทั้งหมด863871889924การวิจัยและการพัฒนา----ค่าเสื่อม/ค่าตัดจำหน่าย----ค่าใช้จ่าย (รายได้) ดอกเบี้ย - การดำเนินงานสุทธิ----ค่าใช้จ่าย (รายได้) พิเศษ173-824--12ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอื่นๆ , รวม-1-11- Show
เข้าถึงตัวชี้วัดกว่า 1,000 รายการ ด้วย InvestingPro ดูข้อมูลเชิงลึกขั้นสูงเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุนซึ่งรวมถึง อัตราการเติบโตและตัวชี้วัดที่ให้ภาพรวมเชิงลึก เกี่ยวกับผลการดำเนินงานย้อนหลังและคาดการณ์ของบริษัท ติดตามรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัทด้วยเทมเพลตสเปรดชีตกำไรขาดทุนสิบสองเดือนสำหรับ Excel นี้ คําแนะนําในการอ้างอิงและการเตรียมการจะรวมอยู่ในเท็มเพลตงบกําไรขาดทุน นี่คือเท็มเพลตการคาดการณ์กําไรขาดทุนที่สามารถเข้าถึงได้ Excel ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นโดยใช้เทมเพลตกำไรขาดทุนในการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัทของคุณ ทุกอย่างที่คุณต้องการ รวมถึงเทมเพลตงบกำไรขาดทุน การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน งบกำไร/ขาดทุน และงบดุลพร้อมอัตราส่วนทางการเงินนั้นพร้อมใช้งานแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เทมเพลตกำไรขาดทุนให้ข้อมูลที่คุณต้องการเมื่อคุณต้องใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อความอุ่นใจและความโปร่งใส เพียงใส่รายได้และค่าใช้จ่ายลงในเทมเพลตงบกำไรขาดทุนของคุณเพื่อคำนวณกำไรของบริษัทของคุณตามเดือนหรือตามปี และการเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาก่อนหน้า คุณจะพบว่าเทมเพลตกำไรขาดทุนใน Excel นั้นใช้งานง่ายและกำหนดค่าให้กับธุรกิจใดๆ ได้ในไม่กี่นาที โดยไม่จำเป็นต้องมีปริญญาด้านบัญชี คุณสามารถเข้าถึงและปรับเปลี่ยนเทมเพลตกำไรขาดทุนเพื่อใส่ชื่อบริษัทและโลโก้เพื่อสร้างเอกสารที่ดูเป็นมืออาชีพเพื่อแชร์กับผู้จัดการ คู่ค้า ผู้ลงทุน และสถาบันการเงิน ดาวน์โหลดเทมเพลตกำไรขาดทุนฟรี และเริ่มติดตามการเงินของบริษัทของคุณได้แล้ววันนี้ นักบัญชีสามารถใช้โปรแกรมบัญชี FlowAccount ช่วยในการปิดบัญชีได้อย่างมีระบบ และประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้นได้ในหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น
ลองอ่านขั้นตอน การปิดบัญชี ด้วย New FlowAccount ได้ที่นี่ งานที่โหดและทรมานใจที่สุดสำหรับผู้ทำบัญชี คงหนีไม่พ้นการปิดบัญชีประจำปี เพราะนอกจากจะต้องตรวจทานงานทั้งหมดในปีที่ผ่านมาแล้ว ยังจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อที่จะยื่นงบการเงินให้ทัน Deadline ตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อให้งานปิดบัญชีเป็นไปอย่างราบรื่น การวางแผนการปิดบัญชีที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเช็กลิสต์ขั้นตอน การปิดบัญชี ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้นักบัญชีสามารถปิดงบการเงินได้อย่างมีระบบ และประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้น เลือกอ่านได้เลย!
1. กำหนดวันปิดงวดบัญชีสำหรับลูกค้ารายใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้ว ธุรกิจในประเทศไทยมักจะถือวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันปิดงวดบัญชี แต่ก็จะมีบางธุรกิจที่ต้องการปิดบัญชีในเดือนอื่นๆ ซึ่งก็สามารถทำได้ โดยต้องตัดสินใจในปีแรกที่เปิดทำการว่าจะปิดงวดบัญชีเมื่อใด และต้องระมัดระวังว่างวดบัญชีปีแรกต้องปิดภายใน 12 เดือน นับแต่วันเริ่มทำบัญชี จากนั้นยึดวันเดิมในการปิดงวดบัญชีสำหรับปีถัดๆ ไป เช่น เปิดบริษัทเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้ประกอบการจะเลือกปิดบัญชีวันที่ 31 มกราคม 2563 ก็ได้ และหลังจากนั้นจะยึดวันที่ 31 มกราคม ของทุกปีเป็นวันปิดงวดบัญชี เป็นต้น
วิธีการตั้งค่างวดบัญชีง่ายๆ ในระบบ New FlowAccount
เมนูการตั้งค่า > ตั้งค่าด้านบัญชี > ตั้งค่างวดบัญชี > เลือกวันที่ต้องการปิดงวดบัญชี 2. กระทบยอดลูกหนี้ และส่งรายงานยืนยันยอดให้ลูกหนี้
วิธีการกระทบยอดลูกหนี้การค้ากับงบทดลอง ในระบบ New FlowAccount
เมนูรายงาน > บัญชี > ลูกหนี้ตามเอกสาร > เลือกวันที่ปิดงวดบัญชี เพื่อดูรายงานหรือดาวน์โหลด Excel file
จากนั้นนำยอดมาเปรียบเทียบกับยอดลูกหนี้การค้าในงบทดลอง โดยไปที่เมนูบริหารบัญชี > รายงานด้านบัญชี > งบทดลอง > เลือกวันที่สิ้นงวดให้ถูกต้อง
ส่วนการส่ง Statement ยืนยันยอดลูกหนี้คงค้างนั้น สามารถทำได้โดยไปที่
เมนูรายงาน > เมนูยอดขายตามลูกค้า > เลือกช่วงเวลา และลูกค้าที่สนใจ > เลือกสถานะรอเก็บเงิน
เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว กดดาวน์โหลด Statement ลูกหนี้คงค้าง และส่งยืนยันยอดไปยังลูกค้า วิธีนี้นอกจากจะเป็นการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของรายการขายและรับเงินระหว่างบริษัทกับลูกหนี้แล้ว ยังเป็นวิธีทวงหนี้แบบกลายๆ ในอีกแง่หนึ่งด้วย 3. กระทบยอดเจ้าหนี้
วิธีการกระทบยอดเจ้าหนี้กับงบทดลอง ในระบบ New FlowAccount
เมนูรายงาน > บัญชี > เจ้าหนี้ตามเอกสาร > เลือกวันที่ปิดงวดบัญชี เพื่อดูรายงานหรือดาวน์โหลด Excel file
จากนั้นนำยอดมาเปรียบเทียบกับยอดเจ้าหนี้การค้า (สำหรับการซื้อสินค้า) และเจ้าหนี้อื่นๆ (สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ) ในงบทดลอง โดยไปที่เมนูบริหารบัญชี > รายงานด้านบัญชี > งบทดลอง > เลือกวันที่สิ้นงวดให้ถูกต้อง 4. ปรับปรุงสินค้าคงเหลือ
ในระบบ New FlowAccount ผู้ทำบัญชีและผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดรายงานสินค้าคงเหลือมาตรวจนับกับสินค้าจริงได้ โดยเข้าไปที่
เมนูรายงาน > สินค้าคงเหลือ > สรุปสินค้าคงเหลือ
หลังจากตรวจนับสินค้าคงเหลือจนมั่นใจแล้วว่ายอด ณ วันที่สิ้นงวดในรายงานนี้ถูกต้อง ก็ทำรายการปรับปรุงสินค้าคงเหลือปลายงวดให้ถูกต้องในงบการเงิน โดยเข้าไปที่
เมนูบริหารบัญชี > สมุดรายวัน > สมุดรายวันทั่วไป
เพื่อปรับปรุงบัญชีสินค้าคงเหลือปลายงวดให้เท่ากับความเป็นจริง และส่วนที่เหลือจะเป็นต้นทุนการขายในงบกำไรขาดทุน
5. กระทบยอดเงินสดและเงินฝากธนาคาร
การกระทบยอดเงินสดในมือ และเงินฝากธนาคารนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยการกระทบยอดเคลื่อนไหวเงินสดควรทำทุกๆ เดือน เพื่อที่ตอนปลายปีจะได้ลดภาระงานลง แต่อย่างไรก็ตามตอนปลายปีก็ควรตรวจสอบการกระทบยอดอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ
วิธีกระทบยอดเงินสดในมือและเงินฝากธนาคารกับโปรแกรม New FlowAccount เริ่มต้นได้ง่ายๆ จากการดาวน์โหลดรายการแยกประเภทของบัญชีเงินสดและเงินฝากธนาคาร โดยไปที่
เมนูผังบัญชี > เลือกหมวดบัญชีสินทรัพย์ > เลือกเลขที่บัญชีเงินสด หรือเงินฝากธนาคาร > กดปุ่มเพิ่มเติม และดาวน์โหลด Excel
ใน File Excel ที่ดาวน์โหลดมาจะแสดงยอดการบันทึกรายการเข้าออกของเงินสด ผู้ทำบัญชีสามารถเปรียบเทียบกับเงินสดที่มีอยู่จริงในมือ หรือเงินสดคงค้างในสมุดบัญชี ณ วันสิ้นงวดได้ และปรับปรุงรายการให้ถูกต้องหากพบข้อผิดพลาด
ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน
6. กระทบยอดรายการอื่นๆ และตรวจดูการจัดประเภทรายการ
โดยเริ่มต้นจากการกระทบยอดคงค้างในงบทดลองก่อน จากนั้นหากมีรายการผิดปกติจึงไปดาวน์โหลดรายการแยกประเภทของบัญชีต่างๆ มาตรวจสอบ ดังนี้
เมนูผังบัญชี > เลือกบัญชีที่สนใจ กดปุ่มเพิ่มเติม และดาวน์โหลด Excel
ในส่วนของงบกำไรขาดทุน ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆ คือ การจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายผิด ตอนที่ผู้ประกอบการสร้างเอกสารค่าใช้จ่าย
ผู้ทำบัญชีอาจจะตรวจสอบแบบคร่าวๆ จากเมนูบริหารบัญชี งบทดลอง หรือเมนูงบกำไรขาดทุน แล้วจึงดาวน์โหลดรายการแยกประเภทจากบัญชีที่ผิดปกติ ตามขั้นตอนข้างต้น จากนั้นกลับไปแก้ไขการเลือกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายในเอกสารต้นทาง หรืออาจจะสร้างรายการในสมุดรายวันทั่วไปเพื่อแก้ไขการจัดประเภทในคราวเดียวก็ได้ 7. กระทบยอด Vat และคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
และจากนั้นขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นที่สุดของการปิดบัญชีประจำปีก็คือ การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ถ้าหากในระหว่างปีมีการจัดประเภทหมวดหมู่รายการบวกกับหักออกทางภาษีไว้อย่างเป็นระเบียบแล้ว การคำนวณภาษีปลายปีก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เมื่อบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลในสมุดรายวันทั่วไปเป็นรายการสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะสร้างงบการเงินได้ทันทีในขั้นตอนถัดไป 8. สร้างงบการเงิน
เมนูบริหารบัญชี > รายงานด้านบัญชี > เลือกสร้างงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุน
ซึ่งฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการปิดบัญชี เพราะผู้ทำบัญชีไม่ต้องมานั่งเสียเวลานั่ง Grouping งบทดลองและทำงบการเงินใน Excel อีกต่อไป
เพียงแค่กดพิมพ์หรือดาวน์โหลดงบการเงินหน้าตาสวยงามตามรูปแบบที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับรอง แล้วส่งให้ผู้บริหารดู หรือผู้สอบบัญชีตรวจสอบ ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นกระบวนการนี้แล้ว
เริ่มต้นใช้งานฟรี
9. ส่งงบการเงินให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบ
สิ่งที่ผู้ทำบัญชีควรส่งให้ผู้สอบบัญชีนั้น ประกอบด้วย
และผู้สอบบัญชีอาจจะสุ่มตัวอย่างเพื่อขอตรวจเอกสารเพิ่มเติม ก่อนที่จะเซนต์รับรองในหน้างบการเงิน
หากเราใช้งานโปรแกรมบัญชี New FlowAccount การแชร์ข้อมูลให้ผู้สอบบัญชีก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดย
10. ลงประกาศหนังสือพิมพ์สำหรับประชุมผู้ถือหุ้น กฎหมายได้กำหนดไว้ว่า บริษัทจะต้องมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนหลังจากวันที่สิ้นงวด และต้องประกาศข้อความหนังสือเชิญประชุมลงใน หนังสือพิมพ์ท้องที่อย่างน้อย 1 ฉบับ และต้องส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นทางไปรษณีย์ตอบรับถึงผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันประชุม หรือมติพิเศษอย่างน้อย 14 วันก่อนวันประชุม
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าบริษัทมีรอบปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562 ต้องจัดการประชุมภายในวันที่ 30 เมษายน 2563 เป็นวันสุดท้าย นั่นหมายความว่า หากกำหนดประชุมวันที่ 30 เมษายน 2563 วันสุดท้ายของการลงประกาศ ก็คือ วันที่ 22 เมษายน 2563 นั่นเอง
ในปัจจุบันการลงประกาศหนังสือพิมพ์ไม่ได้ยุ่งยากอย่างในอดีต เพราะเราสามารถลงประกาศหนังสือพิมพ์แบบออนไลน์ได้แล้ว
11. นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ภายใน 14 วันหลังจากประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
12. นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลต่อกรมสรรพากร
ที่บอกว่าขั้นตอนนี้น่าตื่นเต้น ก็เพราะว่า หากนำส่งงบไม่ทันหรือยื่นภาษีไม่ทันภายใน Deadline ที่กำหนดแล้วละก็ ค่าปรับราคาแพงจะเกิดขึ้นทันที
ลองมาทบทวน Deadline ของการยื่นงบการเงินแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากันสักหน่อยว่าเป็นอย่างไร
การยื่นงบการเงิน ในปัจจุบันสามารถยื่นได้แบบง่ายๆ ผ่านระบบ DBD e-filing ของกรมพัฒก์ คลิก http://efiling.dbd.go.th/index.html
ในส่วนของการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ต้องนำส่งต่อกรมสรรพากร ภายใน 150 วันหลังจากวันสิ้นงวด ซึ่งก็คือ วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีนั่นเอง (แต่สำหรับปีที่มี 29 วันในเดือนกุมภาพันธ์ Deadline จะเลื่อนขึ้นมา 1 วันเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม) และหากเราส่งงบผ่านระบบ DBD e-filing แล้วก็ไม่จำเป็นต้องส่งให้แก่กรมสรรพากรอีก นำส่งเพียงแค่แบบ ภงด.50 เท่านั้น
ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ออนไลน์ คลิก https://rdserver.rd.go.th/publish/index.php?page=taxonline&type=pnd50
ข้อดีของการยื่นงบการเงินและยื่นภาษีออนไลน์ ก็คือ ความรวดเร็วและสะดวกสบาย ที่สำคัญการยื่นแบบออนไลน์มักจะได้รับการขยายเวลา Deadline เพิ่มขึ้น เช่น กรมพัฒน์มักขยายเวลาเพิ่มเติมให้อีก 7 วัน และกรมสรรพากรขยายเวลาเพิ่มเติมให้อีก 8 วัน ช่วยต่อลมหายใจผู้ทำบัญชีอย่างเราได้อีกเฮือกหนึ่ง
ในอดีตผู้ทำบัญชีใช้เวลาส่วนใหญ่กับการปิดบัญชีประจำปีและจัดทำงบการเงิน แต่ถ้าหากเรามีการวางแผนปิดบัญชีอย่างเป็นระบบบวกกับตัวช่วยดีๆ อย่าง New FlowAccount แล้วละก็ งานปิดบัญชีประจำปีอาจจะไม่ใช่งานที่หนักและยากอีกต่อไป
สร้างเอกสารฟรี About AuthorYonlawan C. นักบัญชี ผู้สอบบัญชี และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ cpdacademy.co คอร์สอบรมบัญชี CPD ออนไลน์สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพมากกว่า 10 ปี และอยากส่งต่อความรู้เพื่อเพื่อนนักบัญชีให้มีทักษะอย่างมืออาชีพและก้าวทันโลกดิจิทัล |