สารพัดโรคร้ายที่มาจากออฟฟิศซินโดรม
1. โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทการนั่งนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยนท่า เป็นต้นเหตุของอาการปวดที่บริเวณด้านหลัง หากมีความเครียดด้วย ก็จะเกิดการเกร็งและทำให้ปวดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยจะมีอาการปวดหลังยาวนานกว่า 2-4 สัปดาห์ ปวดหลังร้าวลงขาหรือปวดคอร้าวลงแขน ซึ่งเวลาไอ จาม หรือเบ่งจะรู้สึกปวดลึก เนื่องจากเกิดแรงดันในไขสันหลัง หากปล่อยทิ้งไว้ มีความเสี่ยงเป็นอัมพาต 2. กระดูกสันหลังคด
เวลาเรานั่งทำงานนานๆ มักจะห่อไหล่ นั่งหลังโก่ง จึงทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อของไหล่ หลัง และคอจะค่อยๆเปลี่ยนรูป นานวันเข้าก็จะอยู่ผิดรูป และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อจะเสียสมดุล หากทิ้งไว้นาน ๆ อาจนำไปสู่ภาวะโรคกระดูกเสื่อมได้ 3. แขนขาอ่อนแรงการนั่งนานเกินไปจนทำให้มีการกดทับเส้นประสาทหรือการไหลเวียนเลือดผิดปกติ หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้กล้ามเนื้อหด ยึด ตึง เดินไม่ได้ ต้องทำกายภาพบำบัด 4. เสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าอันเนื่องมาจากความเครียดสะสม ความกดดัน และบรรยากาศไม่ดีในที่ทำงาน 5. เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆเช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง จากการรับประทานขนมจุบจิบในเวลาทำงาน และไม่มีเวลาออกกำลังกาย 6. กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังมักมีอาการปวดกล้ามเนื้อ กดแล้วรู้สึกเจ็บ ปวดร้าวลึกๆ บางครั้งปวดจนแทบขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป มีการเกร็งค้างอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ หรือซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นขาดเลือดและออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงจนทำเกิดการอักเสบ
1. เมื่อไรที่เริ่มรู้สึกเมื่อยล้า ควรพักทุก 1 ชั่วโมงจากการทำงานเพื่อผ่อนคลายร่างกายและสมอง เช่น กะพริบตาบ่อยๆ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายประมาณ 5 นาที หรือเดินไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง เพื่อเป็นการพักไม่ให้กล้ามเนื้อตึงเกินไปจนเกิดอาการปวด 2. ปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง รวมไปถึงปรับอุปกรณ์ในออฟฟิศให้เหมาะกับศีรษะ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ หรือการจัดวางคอมพิวเตอร์ล้วนมีผลต่อท่านั่ง ควรปรับองศาให้พอดี ไม่รู้สึกว่าต้องยกตัวหรือโน้มตัวจนเกินไปเวลาทำงาน เวลานั่งเท้าต้องวางบนพื้นได้พอดี หากไม่ถึงควรมีที่รองเท้ามาช่วยเสริม 3. ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ทำให้โอกาสเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมน้อยลง 4. ฝึกการเหยียดยืดกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว โดยการประสานมือเข้าด้วยกันแล้วยืดมือออกไปด้านหน้า จากนั้นค่อยยกขึ้นด้านบน โยกไปด้านซ้ายและขวา
5. หากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อยังไม่ดีขึ้น ปวดเรื้อรัง ปวดจนนอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ มีแขนขาอ่อนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจประเมิน รักษาด้วยยา และกายภาพบำบัดร่วม 3-7 ครั้ง แล้วแต่สาเหตุและความรุนแรงของโรค
|