โครงงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โครงงาน อนุรักษ์หนองน้ำสร้าง (จริง) from โรงเรียนบ้านหนองคูโนนแก้วหนองอีย่า .

โครงงานสิง่ แวดล้อม เรอ่ื ง การบรหิ ารจัดการส่งิ แวดล้อมในชมุ ชน เสนอ นางดาธณิ ี ตามเพิ่ม ครู กศน.ตำบลหนองน้ำใส จดั ทำโดย 1. นายสภุ ัคพงษ์ ตรโี ภคา 2. นางสาวกญั ญา โตมอญ 3. นางสาวกรชกร ภปู่ ระสาท ประจำภาคเรยี นที่ 2/2563 ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอภาชี

คำนำ โครงงานสิ่งแวดลอ้ ม เรื่อง การบริหารจัดการส่ิงแวดล้อมในชุมชน จัดทำขึ้นตามนโยบายจุดเนน้ การ ดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของ สำนักงาน กศน. เรื่องการน้อมนำพระบรมราโชบายด้าน การศกึ ษาสู่การปฏบิ ตั ิ จดั ใหม้ ี “หนง่ึ ชมุ ชน หนึ่งนวตั กรรม การพฒั นาชุมชน” เพอ่ื ความกนิ ดี อย่ดู ี มงี านทา การบริหารจดั การสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพ่อื ศึกษาสภาพปัญหาสงิ่ แวดล้อม และศึกษาประโยชน์จาก สง่ิ แวดลอ้ ม สบื สานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสรา้ งและพฒั นาศูนยส์ าธติ และเรยี นรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพ่อื เป็นแนวทางในการจดั การบรหิ ารทรพั ยากรรูปแบบต่าง ๆ ทงั้ ดนิ น้า ลม แดด รวมถงึ พชื พนั ธ์ุต่าง ๆ และส่งเสรมิ การใช้พลงั งานทดแทนอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยมวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ใหน้ ักศึกษาไดร้ ู้จกั การ จดั การปัญหาสง่ิ แวดล้อม ในชมุ ชน โดยจบั ประเดน็ ทนี่ ักศกึ ษาสนใจโดยนามาบูรณาการความรูเ้ ขา้ กบั วชิ า วทิ ยาศาสตร์ และสงั คมศกึ ษา การแก้ปัญหาผกั ตบชวาลน้ ลาคลองในอาเภอภาชี จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา การใชผ้ กั ตบชวาในการทาผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ สามารถชว่ ยรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม กศน.ตาบลหนองน้าใส อาเภอภาชี จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่า โครงงาน สง่ิ แวดล้อม เร่อื ง การบรหิ ารจดั การสงิ่ แวดล้อมในชุมชนน้ี จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ทส่ี นใจการ แก้ปัญหา ผกั ตบชวา พฒั นาเป็นผลติ ภณั ฑ์เพมิ่ มูลค่า บรหิ ารจดั การผกั ตบชวาแบบครบวงจร จดั ใหม้ ี “หน่ึงชุมชน หน่งึ นวตั กรรม การพฒั นาชุมชน” เพ่อื ความกนิ ดี อยู่ดี มงี านทา สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ชุมชน อยา่ งยงั ่ ยนื กศน.ตาบลหนองน้าใส

สารบญั ความเป็นมาของโครงงาน ...................................................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน...................................................................................................................................1 ความสอดคลอ้ งของนโยบาย...........................................................................................................................1-2 วิชาท่ีเกย่ี วขอ้ ง.....................................................................................................................................................2 ขอบเขตของโครงงาน ..........................................................................................................................................2 ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากโครงงาน.............................................................................................................................2 กระบวนการดำเนินงาน .......................................................................................................................................3 ศึกษาสภาพปัญหาสิง่ แวดล้อมในชมุ ชน.......................................................................................................4 การใชป้ ระโยชน์จากสงิ่ แวดล้อม..............................................................................................................4-9 การมีสว่ นร่วมของชุมชน........................................................................................................................9-10 การกระจายรายได้ในชุมชน...................................................................................................................... 10 OOCC ศูนยจ์ ำหน่ายสนิ คา้ และผลติ ภณั ฑอ์ อนไลน์ ............................................................................10-11 การพฒั นาต่อยอด ...............................................................................................................................12-14 ภาคผนวก ......................................................................................................................................................... 15

1. ความเป็นมาของโครงงาน ปัญหาสง่ิ แวดล้อมเปน็ ปญั หาทส่ี ำคญั ในโลกปัจจบุ ันซึง่ เป็นผลโดยตรงจากการกระทำของมนษุ ย์ อนั เน่ืองมาจากความต้องการพื้นฐานและความต้องการความสะดวกสบายในด้านตา่ ง ๆ กระตุ้นใหม้ นุษย์ พัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวทิ ยาการในการนำทรัพยากรธรรมชาติใช้อย่างสะดวกสบาย และง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งมีการพัฒนากระบวนการผลิตทางด้านอตุ สาหกรรมเพื่อผลิตสินค้าทั้งที่เป็นสนิ ค้า ประเภททุน (Capital Goods) และสินค้าบริโภค (Consumer Goods) ซึ่งกระบวนการผลิตนี้เอง ที่ก่อให้เกิดของเสียออกสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาอากาศเป็นพิษ ปัญหาด้านเสียง และผล ของการบริโภคก็ทำให้เกิดของเสียกระจายสู่สิ่งแวดล้อมในรูปของขยะมูลฝอย น้ำเสีย อากาศเป็นพิษ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทางตรง ซึ่งปฏิบัติได้ในระดั บบุคคล องค์กร และระดับประเทศ ที่สำคัญ คือ การใช้อย่างประหยัด การนำกลับมาใช้ซ้ำอีก การบูรณะซ่อมแซม การบำบัดและการฟื้นฟู การใช้สิ่งอื่นทดแทน การเฝ้าระวังดูแลและป้องกัน การอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มโดยทางออ้ ม สามารถทำไดห้ ลายวิธี นโยบายจุดเน้นการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของ สำนกั งาน กศน. เร่อื งการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา สู่การปฏิบัติ จัดให้มี “หนึ่งชุมชน หนึ่งนวัตกรรม การพัฒนาชุมชน” เพื่อความกินดี อยู่ดี มีงานทำ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพื่อศึกษาสภาพปัญหาสิ่งแวดล้อม และศึกษาประโยชน์จาก สิ่งแวดล้อม สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล”เพอ่ื เปน็ แนวทางในการจดั การบรหิ ารทรพั ยากรรปู แบบตา่ ง ๆ ทง้ั ดนิ นำ้ ลม แดด รวมถงึ พชื พนั ธุ์ ต่าง ๆ และส่งเสริมการใชพ้ ลังงานทดแทนอย่างมปี ระสิทธภิ าพ โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่อื ให้นกั ศกึ ษาได้รู้จัก การจัดการปัญหาสงิ่ แวดลอ้ ม ในชุมชน โดยจับประเด็นทน่ี ักศกึ ษาสนใจโดยนำมาบรู ณาการความรเู้ ขา้ กบั วิชาวิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา การแก้ปัญหาผักตบชวาล้นลำคลองในอำเภอภาชี จังหวัด พระนครศรีอยุธยา การใช้ผกั ตบชวาในการทำผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ สามารถช่วยรกั ษาสิง่ แวดล้อม 2. วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน 2.1 เพื่อศกึ ษาสภาพปญั หาสง่ิ แวดล้อม 2.2 เพ่อื ศกึ ษาประโยชนจ์ ากสิง่ แวดลอ้ ม 2.3 เพ่อื เผยแพรค่ วามรู้ เรือ่ ง การบรหิ ารจดั การสงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน ให้ผทู้ ่ีสนใจได้ศกึ ษา 3. ความสอดคลอ้ งของนโยบายจดุ เนน้ การดำเนนิ งานประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ของ สำนกั งาน กศน. 3.1 เรอื่ งการนอ้ มนำพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาสกู่ ารปฏบิ ตั ิ จัดให้มี “หนง่ึ ชุมชน หน่งึ นวตั กรรม การพฒั นาชมุ ชน” เพอื่ ความกนิ ดี อยดู่ ี มงี านทำ

3.2 ศกึ ษาสภาพปัญหาสงิ่ แวดลอ้ ม และศกึ ษาประโยชน์จากสง่ิ แวดล้อม สบื สานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสรา้ งและพัฒนาศนู ยส์ าธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล”เพอื่ เปน็ แนวทางในการจัดการ บรหิ ารทรพั ยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดนิ น้ำ ลม แดด รวมถึงพชื พันธตุ์ า่ ง ๆ 3.3 สง่ เสริมการใชพ้ ลงั งานทดแทนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ใหน้ กั ศกึ ษาได้รจู้ ัก การจดั การปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม ในชุมชน 4. วชิ าทเี่ กี่ยวขอ้ ง 4.1 วชิ าเศรษฐกิจพอเพียง เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาชุมชน สาระทักษะการดำเนนิ ชีวิต 4.2 วชิ าการเรยี นรูส้ ู้ภยั ธรรมชาติ เร่ือง ภยั แล้ง สาระพัฒนาสงั คม 4.3 เพ่ือเผยแพรค่ วามรู้ เรอื่ ง การบรหิ ารจดั การสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชน ใหผ้ ู้ที่สนใจได้ศกึ ษา 5. ขอบเขตของโครงงาน 5.1 เปน็ โครงงานสง่ิ แวดลอ้ ม เรอื่ ง การบรหิ ารจัดการสงิ่ แวดล้อมในชุมชน 5.2 ขอบเขตเนือ้ หา ศึกษาปัญหาภายในชมุ ชนตำบลหนองนำ้ ใส อำเภอภาชี จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา โดยศกึ ษาเกย่ี วกบั ปัญหาสงิ่ แวดล้อมจากผักตบชวา การแก้ปญั หา ผักตบชวาล้นลำคลองในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การใช้ผักตบชวาในการทำ ผลิตภัณฑต์ ่างๆ สามารถชว่ ยรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม 6. ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากโครงงาน 6.1 มโี ครงงานสง่ิ แวดลอ้ ม เรื่อง การบรหิ ารจดั การสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน 6.2 เผยแพรค่ วามรเู้ ร่อื ง การบริหารจัดการสิง่ แวดล้อมในชมุ ชน จะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ้ทู ่ีสนใจการ แก้ปัญหาผักตบชวา พัฒนาเปน็ ผลิตภณั ฑ์เพ่มิ มูลคา่ บรหิ ารจดั การผกั ตบชวาแบบครบวงจร จดั ใหม้ ี “หนึง่ ชมุ ชน หนึง่ นวตั กรรม การพฒั นาชุมชน” เพื่อความกนิ ดี อย่ดู ี มงี านทำ สรา้ ง รายได้ให้กบั ชมุ ชน อย่างยงั่ ยืน 6.3 นกั ศกึ ษามที กั ษะในการคิดค้นนวตั กรรม การแก้ปญั หา และการจัดทำโครงงานสงิ่ แวดลอ้ ม

7. กระบวนการดำเนินงาน 7.1 ศกึ ษาสภาพปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน ปญั หา ปัญหานำ้ เสยี จากผกั ตบชวาท่ีมจี ำนวนหนาแน่น เกดิ ผลเสยี ตอ่ การเกษตร เกดิ ปญั หาขาดแคลน น้ำในลำคลอง ปรมิ าณน้ำไมเ่ พยี งพอต่อการเกษตร จากปรมิ าณผักตบชวาทีเ่ พมิ่ ข้ึนทุกปี ทำให้เกดิ ปญั หาด้านระบบนิเวศ ขาดการดแู ลรกั ษาแมน่ ้ำลำคลองจากคนในชุมชน สถติ ิ จำนวนแหล่งน้ำในในชมุ ชน 20 แหลง่ ปริมาณผกั ตบชวา 36,762 ตารางเมตร ดำเนินการเอง คดิ เปน็ 11,680 ตารางเมตร โดยกลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชนแปรรปู ผักตบชวาแบบครบวงจร ตำบลหนอง น้ำใส อำเภอภาชี จงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา อกี 25,082 ตารางเมตร ยังรอการดำเนินงานแกไ้ ข ปญั หาตอ่ ไป (สถติ จิ ากคณะทำงานเพ่อื ปฏบิ ตั กิ ารแกไ้ ขปญั หาผกั ตบชวา ระดับจังหวัด ปี 2564) 7.2 การใช้ประโยชนจ์ ากสงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน โครงงานการบรหิ ารจดั การสง่ิ แวดล้อมในชุมชน จะเปน็ ประโยชน์แกผ่ ทู้ ส่ี นใจการ แกป้ ญั หา ผกั ตบชวา พฒั นาเป็นผลติ ภณั ฑเ์ พม่ิ มลู คา่ บรหิ ารจัดการผกั ตบชวาแบบครบวงจร จดั ใหม้ ี “หนง่ึ ชมุ ชน หน่ึงนวัตกรรม การพฒั นาชมุ ชน” เพอ่ื ความกนิ ดี อยดู่ ี มงี านทำ สร้างรายได้ใหก้ บั ชมุ ชน อยา่ ง ย่ังยืน ด้วยนวตั กรรมส่งิ แวดลอ้ มแปรรูปผักตบชวาเปน็ ระบบ 1 ต้น สามารถพฒั นาได้ ดังน้ี ภาพประกอบ 1

ภาพประกอบ 2

1. กา้ นผักตบชวา (ก้านยาว) ตแี ยกเสน้ ใยนำไปทอผ้า ภาพประกอบ 3 2. ก้านผักตบชวา (กา้ นสั้น) หั่นทำกนั กระแทก ทรี่ องฉหี่ นู ฉ่ีแมว ภาพประกอบ 4

กา้ นผกั ตบชวา (ก้านส้นั ) หัน่ ทำกันกระแทก ทรี่ องฉห่ี นู ฉแ่ี มว ภาพประกอบ 5 3. กา้ นออ่ นผกั ตบชวา ทำอาหาร เช่น บะหมหี่ ยกชวา ภาพประกอบ 6

4. ใบทำจาน ภาพประกอบ 7 5. รากทำกระถาง , ปุย๋ แหง้ ภาพประกอบ 8

7.3 การมีส่วนร่วมของชมุ ชน การจัดการศึกษาให้เกิดผลดี มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของประชาชน ต้องอาศัย กระบวนการนำกระบวนการมีส่วนร่วมมาใช้ ซึ่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม(ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 กลา่ วถงึ การมสี ว่ นรว่ มไวใ้ นมาตรา 8 (2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 58 ได้บัญญัติเรือ่ งการมีส่วนร่วมไว้วา่ บุคคลย่อมมีสิทธิมสี ว่ นร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจา้ หน้าทข่ี องรฐั ในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมี ผลหรอื อาจมผี ลกระทบต่อสทิ ธิและเสรีภาพของตนพระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาตสิ ถานศกึ ษาที่จดั การศกึ ษา ทุกระดบั จึงตอ้ งปฏิบตั ติ ามโดยการเปดิ โอกาสให้ประชาชนชมุ ชนเข้ามามีสว่ นรว่ มในการจัดทำโครงงาน การเปดิ โอกาสให้ชุมชน เข้ามาร่วมดำเนินกิจกรรม ตั้งแต่การศึกษาปัญหา การวางแผนดำเนินการ การตัดสินใจ การ แกไ้ ขปัญหา และการประเมินร่วมกนั เพื่อขบั เคลอื่ นใหก้ จิ กรรมน้ันดำเนนิ ไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพโดยยึดหลกั การ มสี ่วนรว่ ม คือ หลกั รว่ มคดิ ค้น รว่ มลงมือทำ รว่ มตรวจสอบและทดสอบ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมกนั พัฒนานวตั กรรม ชมุ ชนรว่ มคิดค้น รว่ มลงมือทำ ภาพประกอบ 9

ชมุ ชนร่วมคดิ คน้ รว่ มลงมอื ทำ ภาพประกอบ 10 7.4 การกระจายรายไดส้ ู่ชมุ ชน การกระจายรายได้ของคนในชุมชน ซึง่ อาชีพหลักส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม และประกอบอาชพี ทอผ้า อาชีพรองคือค้าขาย รายได้เฉล่ยี ต่อครวั เรอื น 5,956.41 บาทตอ่ เดือน จากมีการทำโครงงานการบริหาร จัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชน ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา ลดปัญหาผักตบชวาล้นลำคลอง ช่วยรักษา สิง่ แวดลอ้ ม อกี ทั้งยังมีส่วนในการกระจายรายได้ลงสชู่ ุมชนจากผักตบชวา เดิมชุมชนมรี ายได้เฉลีย่ ต่อครัวเรือน 5,956.41 บาทต่อเดือน สามารถพัฒนานวตั กรรม มีความกินดี อยู่ดี มีงานทำ สร้างรายได้ให้กบั ชุมชน อย่าง ยั่งยืน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน 18,650 บาทต่อเดือน (สถิติจากคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหา ผักตบชวา ระดับจังหวดั ปี 2564) ภาพประกอบ 11

การกระจายรายได้สูช่ มุ ชน ภาพประกอบ 12 7.5 OOCC ย่อมาจาก Onie Online Commerce Center OOCC ศูนย์จำหน่ายสินคา้ และผลติ ภัณฑอ์ อนไลน์ ของ กศน.เปน็ สถานท่ีสำหรบั ประชาชนใน การแสดงสินค้า ประชาสัมพันธ์ วางจำหน่ายหรือสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ตลอดจนให้ คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตและการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยไม่เก็บค่าใชจ้ ่าย ซึ่งจะเน้นไปที่ กลุม่ ผ้มู ีรายได้น้อยเพอ่ื เป็นการเพม่ิ รายไดแ้ ละยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนใหด้ ีขน้ึ ตามแนวทางโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน”ตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ ทาง กศน.ตำบลหนองน้ำใส จึงได้ตั้งเพจนี่ขึ้นมาเพื่อ สนองนโนบายเพ่ือขับเคลอื่ น OOCC ในระดบั ตำบล ภาพประกอบ 13

OOCC ศนู ยจ์ ำหน่ายสินค้าและผลิตภณั ฑ์ออนไลน์ ภาพประกอบ 14 ภาพประกอบ 15

7.6 การพัฒนาต่อยอด การพฒั นาตอ่ ยอดอาชพี หมายถงึ การพฒั นาทักษะอาชพี ด้านต่าง ๆ ให้ทันตอ่ การเปล่ยี นแปลงของตลาด การพัฒนาอาชีพมีความสำคญั ใน ด้านเศรษฐกจิ มกี ารพฒั นาสินคา้ ให้สามารถใหส้ ามารถเขา้ ส่ตู ลาดการแข่งขนั และเปน็ ท่ยี อมรบั ของ ตา่ งประเทศ ด้านสงั คม ประเทศที่มเี ศรษฐกจิ ดจี ะสง่ ผลใหส้ ภาพของสังคมดีข้ึน ด้านการศึกษา ครอบครัวทม่ี ีเศรษฐกิจ ดจี ะสามารถมงุ่ สง่ บตุ รหลานเขา้ รบั การศกึ ษาไดต้ ามความต้องการการพฒั นาอาชพี จงึ มีความจำเปน็ ในการ พฒั นากระบวนการผลติ และ กระบวนการตลาดโดยการนำภมู ิปญั ญานวัตกรรม / เทคโนโลยี มาประยกุ ตใ์ ช้ กระบวนการผลติ เป็นการบรหิ ารจดั การด้านทนุ แรงงาน ทีด่ ินหรอื สถานท่ใี หเ้ กดิ ผลผลิต ทม่ี กี ารพฒั นา อย่างต่อเนอ่ื ง กระบวนการตลาด เปน็ การบรหิ ารจัดการด้านการตลาด เริม่ ต้ังแตก่ ารศกึ ษาความต้องการของลกู ค้า การ กำหนดเป้าหมาย การทำแผนการตลาด การสง่ เสรมิ การขาย การกำหนดราคาขาย การขาย การสง่ มอบสินคา้ ใหก้ ับลูกค้า เพ่ือนำข้อมูลมาใช้พฒั นาอาชีพ ภมู ปิ ญั ญา หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ความชาญฉลาด อันเกดิ จากพ้นื ความรทู้ ผ่ี ่านกระบวนการสบื ทอด ปรบั ปรงุ พฒั นา สะสมมาเปน็ เวลานานอย่างเหมาะสม นวัตกรรม หมายถึง ความคดิ การปฏบิ ตั หิ รอื สงิ่ ประดษิ ฐ์ใหม่ หรอื เป็นการพฒั นามาจากของเดิมทมี่ ีอยแู่ ล้ว เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งทม่ี นษุ ย์พัฒนาขนึ้ เพื่อชว่ ยในการทำงานหรือแกป้ ัญหาต่าง ๆ ตอ้ งพิจารณา ประสิทธิภาพของนวัตกรรม / เทคโนโลยี ดจู ากองคป์ ระกอบ 4 ด้าน คือ 1. ความสามารถในการทำงาน 2. ประหยดั ค่าใช้จ่าย 3. ทำงานได้รวดเรว็ 4. ไมท่ ำลายสิง่ แวดลอ้ ม การพัฒนาต่อยอด โครงการนวัตกรรม การแปรรูปผักตบชวา เกิดจากนักศึกษา กศน.ตำบลหนองน้ำใส ร่วมกับ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และประชาชนในชุมชน ร่วมกันคิดที่จะนำต้นอ่อน ผักตบชวามาแปรรูปอาหาร และมีการบูรณาการศาสตร์ระหว่างศาสตร์การจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่กับ ศาสตร์เทคโนโลยีการอาหาร ที่มีกระบวนการตัง้ แตต่ ้นน้ำ กลาง ปลายน้ำ ประกอบด้วย การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ บรรจภุ ัณฑ์ และการคา้ สมัยใหม่

การพฒั นาตอ่ ยอดผลิตภัณฑ์ โดยการนำนวัตกรรม ศาสตรเ์ ทคโนโลยกี ารอาหาร ทมี่ ีกระบวนการตงั้ แต่ ต้นน้ำ กลาง ปลายน้ำ ประกอบด้วย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการค้าสมัยใหม่ ภายในห้องวิจัย อาหาร ของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยธุ ยา ภาพประกอบที่ 16 ภาพประกอบท่ี 17

กระบวนการพฒั นาต่อยอดผลติ ภัณฑ์ การแปรรปู อาหารจากผักตบชวา โดย มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา 1. นำต้นออ่ นผักตบชวา ล้างใหส้ ะอาด 2. ห่ันเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 2 เซนตเิ มตร 3. ผ่านกระบวนการเขา้ เครอ่ื งบดละเอยี ด ปรงุ รสตามชอบ 4. นำเขา้ เตาอบ ไฟกลางค่อนขา้ งออ่ น เสร็จพร้อมรบั ประทาน ภาพประกอบ 18 ชื่อผลติ ภัณฑ์ “ชวาอบกรอบ” Crispy Hyacinth ผลติ ภณั ฑท์ ่ีได้รบั การพฒั นาต่อยอดจากเดมิ ทีน่ ำผักตบชวามาทอผ้า ทำกันกระแทก ทำจาน และทำป๋ยุ ภาพประกอบ 19