ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

กรุงฮานอย เมืองหลวงของ ประเทศเวียดนามที่ตั้งอยู่ ภาคเหนือเป็นเมืองท่ีมี ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี เเล้วตอนนี้เเอบบอกถ้าไปนะ อากาศดีมาก ไม่มีฝนเหมือนได้ไปยุโรปเลยค่า วันนี้พวกเรา #grandtourismo จะมาเเนะนำ 6 จุดเช็คอิน ที่ควรเป็นจุด destination ในฝันของใครหลายๆคนเลยค่ะ . . ถ่ายรูปก็ปัง นั่งชมวิวก็สบาย เเละเช็คอินอวดเพื่อนๆได้อย่างเก๊ๆ พูดมาขนาดนี้ไม่ไปเเล้วจะเสียใจกันนะคะ ไปดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง เเล้วน่าสนใจกันเเค่ไหน

Show

ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป ประกาศเรื่อง “หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. 2562” จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะผู้ออกกฎดังกล่าว จึงต้องออกมาย้ำชัดๆ อีกครั้งว่า สรุปแล้วของเหลวประเภทไหนพกขึ้นเครื่องได้บ้าง และต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบไหนจึงถูกต้อง ไม่โดนตีตกลงถังขยะ ก่อนจะได้ออกเดินทาง

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

สำหรับนิยามคำว่าของเหลว เจล สเปรย์ (Liquids,Aerosols ang Gel ; LAGs) ตามประกาศใหม่ของ กพท. ก็คือของเหลวในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำ เครื่องดื่ม หรือ “อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก” อย่างซุป น้ำเชื่อม แยม น้ำจิ้ม น้ำพริก ตลอดจน “เครื่องสำอาง” ครีม โลชั่น เจลใส่ผม สเปรย์ น้ำหอม รวมถึง “วัตถุหรือสารที่มีส่วนผสมทั้งของแข็งและของเหลว” เช่น มาสค่าร่า ลิปสติก ยาหม่อง

ใครจะนำของเหลวขึ้นเครื่องต้องจำ 3 ข้อ!

  1. ของเหลว เจล สปรย์ ที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ ต้องมีปริมาตรความจุต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตร หรือ 100 กรัม หรือ 3.4 ออนซ์
  2. บรรจุภัณฑ์ต้องข้อความระบุปริมาตรและต้องปิดสนิท
  3. ผู้โดยสารสามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่มีของเหลวติดตัวไปได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดคนละไม่เกิน 1 ลิตร หรือ 1,000 มิลลิลิตร
ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet
ขอบคุณภาพจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ กพท. แนะนำว่า ผู้โดยสารควรนำบรรจุภัณฑ์ที่มีของเหลวทุกชิ้นใส่ในถุงพลาสติกใส ที่มีปริมาตรความจุของถุงไม่เกิน 1 ลิตร หรือ 1,000 มิลลิลิตร โดยขนาดถุงนั้นต้องไม่เกิน 20 เซนติเมตร × 20 เซนติเมตร และนำไปได้คนละ 1 ถุง

ก่อนเข้าจุดตรวจค้นสัมภาระในสนามบิน ผู้โดยสารควรแยกบรรจุภัณฑ์หรือถุงพลาสติกใสที่มีบรรจุของเหลว ออกจากสัมภาระติดตัวอื่น เพื่อแสดงให้พนักงานตรวจค้นได้ง่าย

ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาตรของเหลวเกินกว่าที่กำหนด บรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีข้อความบอกปริมาตร รวมถึง “อาหารท้องถิ่นหรืออาหารพื้นเมือง” ที่มีของเหลวเป็นส่วนผสมในปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ต้องลงทะเบียน โหลดลงใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

อย่างไรก็ตาม มีของเหลวบางประเภทที่ได้รับการยกเว้น ไม่ถูกจำกัดปริมาณ ได้แก่ ยา ที่มีใบรับรองแพทย์ ฉลาก หรือเอกสารกำกับยาที่ระบุชื่อผู้โดยสารที่จำเป็นต้องใช้ยานั้น ยกเว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้าน, อาหารหรือนมสำหรับเด็กทารก และ อาหารที่ต้องพกพาตามข้อกำหนดทางการแพทย์หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางโภชนาการ แต่ทั้งหมดก็ต้องมีปริมาณเหมาะสมกับระยะเวลาการเดินทางในแต่ละเที่ยวบินด้วย

ส่วนขาช้อปต้องฟังทางนี้! สำหรับของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Shop) จะต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่สามารถบ่งชี้ร่องรอยการแกะหรือการเปิดปากถุง (Security Tampered-Evident Bags : STEBs) ซึ่งมีหลักฐานแสดงว่า ผู้โดยสารซื้อในวันที่เดินทาง และไม่มีร่องรอยการแกะหรือเปิดปากถุง

ในกรณีที่ผู้โดยสารแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องบิน (Transfer and Transit) ระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารก็ควรตรวจสอบข้อมูลเรื่องหลักเกณฑ์การนำของเหลวขึ้นเครื่องบินจากร้านดิวตี้ฟรีภายในสนามบินที่แวะพักและสนามบินปลายทางทุกครั้ง เพื่อจะได้ช้อปปิ้งและเดินทางได้อย่างสบายใจในทุกๆ ทริป

การเดินทางด้วยเครื่องบินสักครั้งนึง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันตั๋วเครื่องบินมีราคาถูกกว่าแต่ก่อน อีกทั้งการเดินทางใช้เวลาไม่นาน ถึงที่หมายเร็ว เมื่อเทียบกับการเดินทางประเภทอื่น


แล้วสำหรับมือใหม่หัดบิน ต้องเตรียมพร้อมและปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ไปถึงสนามบินทันเวลา ไม่ต้องกลัวจะตกเครื่องตั้งแต่ครั้งแรก วันนี้จึงขอรวบรวมขั้นตอนที่ควรรู้
รับรองว่าอ่านจบแล้วขึ้นเครื่องได้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน

  • ค้นหาเที่ยวบิน ประเทศเริ่มต้น-ปลายทาง  วันเวลาที่ต้องการ
  • ระบุเมืองที่ต้องการเดินทาง
  • ระบุสายการบินที่ต้องการเดินทาง
  • ตรวจสอบข้อมูล ราคา วันเวลาเดินทางและสถานที่ให้เรียบร้อย
  • กรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้โดยสาร (ข้อมูลในส่วนนี้ จะต้องกรอก ชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ)
  • ชำระออนไลน์ สามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้ตามเงื่อนไขของสายกินบินนั้นๆ
  • การจองสำเร็จ

**หมายเหตุ อย่าลืมพิมพ์ หรือเก็บบันทึกข้อมูลสรุปการจองเพื่อยืนยันก่อนขึ้นเครื่องไว้ด้วย

การเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน นั่งตรงไหนดีที่สุด

1.นั่งริมทางเดิน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนั่งแบบสบายๆ มีพื้นที่สามารถยืดแขนยืดขาได้ หรือคนที่ชอบลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
2.นั่งริมหน้าต่าง เหมาะสำหรับคนที่ชอบชมวิวทิวทัศน์ด้านนอก มองวิวก้อนเมฆเพลินๆ
3.นั่งตรงกับปีกเครื่องบิน ที่นั่งตรงนี้เป็นตำแหน่งที่ balance ที่สุดของตัวเครื่อง เพราะตำแหน่งลำตัวที่ตรงกับปีก จะให้ความรู้สึกที่สะเทือน และเขย่าน้อยกว่าบริเวณหางเครื่องบิน และเป็นส่วนที่มีโครงสร้างของลำตัวเครื่องบินที่แข็งแรงที่สุด เมื่อได้รับแรงกระแทกที่เกิดจากอุบัติเหตุ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง

**หมายเหตุ ตั๋วเครื่องบินที่เป็นตั๋วโปรโมชั่น จะไม่สามารถเลือกที่นั่งได้

ขั้นตอนการจองเสร็จแล้ว ไปต่อกันที่วันจริง ออกเดินทาง…

ขั้นตอนการ check in มีทั้งหมด 2 แบบ1.check in ออนไลน์

  • สามารถเช็คอินออนไลน์ เช็คอินผ่านแอพลิเคชั่นมือถือ (Mobile Phone Application) หรือเช็คอินผ่านบูธบริการของสายการบินในห้างสรรพสินค้า  เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิวนาน

2.check in ที่เคาน์เตอร์

  • เผื่อเวลามาก่อนสัก 2 ชั่วโมง  สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ไปดูหน้าจอตารางการบินขาออก เพื่อหาเคาร์เตอร์ที่จะเช็กอิน  มันจะระบุว่า เที่ยวบินของเรา ต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์หมายเลขอะไร การเผื่อเวลาช่วยให้มีเวลาแก้ไขเมื่อดูป้ายผิดแล้วไปผิดประตูทางออก คุณก็ยังมีเวลาเดินหาประตูที่ถูกต้องได้
  • เตรียมบัตรประชาชนและเอกสารหลักฐานที่เรา print ชำระออนไลน์ ยื่นแสดงเพื่อขอรับตั๋ว (Boarding Pass)
  • ถ้ามีกระเป๋าขนาดใหญ่ จะต้องให้ฝากให้สายการบิน โหลดลงใต้ท้องเครื่อง

วิธีการดูตั๋วเครื่องบิน หรือ Boarding Pass

“Boarding Pass” จะระบุว่า ให้เราไปขึ้นเครื่องที่ Gate หรือประตูหมายเลขอะไร  gate เปิดกี่โมง เครื่องออกกี่โมง ต้องรักษาเวลาอย่างเคร่งครัด ควรไปถึงก่อนเวลา มิฉะนั้นอาจตกเครื่องได้

ขั้นตอนตรวจกระเป๋า Security Check

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

  • นำกระเป๋าที่ถือติดตัวใส่ถาดเพื่อเข้าเครื่อง X-Ray หากมีแทบเลต เสื้อแจ็กเก็ต เข็มขัด ให้แยกใส่อีกถาดต่างหาก
  • ผู้โดยสารให้เดินผ่านเข้าประตูเพื่อตรวจจับโลหะ (ผู้โดยสารที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรือกำลังั้งครรภ์ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อผ่านอีกช่องทางและตรวจค้นรางกายด้วยมือ
  • ในกรณีที่เดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะแล้วมีเสียงสัญญาณเตือน เจ้าหน้าที่จะให้ผู้โดยสารเช็กสิ่งของที่เป็นโลหะออก และเดินผ่านประตูอีกครั้ง
  • เมื่อตรวจค้นร่างกายและสัมภาระทุกขั้นตอน ก็จะสามารุไปรอขึ้นเครื่องได้

สิ่งของต้องห้าม ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่อง

  • วัตถุไวไฟและสารอันตรายทุกชนิด เช่น ก๊าช
  • อาวุธปืน เครื่องกระสุน รวมถึงปืนของเด็กเล่น ปืนบีบีกันและปืนอัดลม ก็เป็นสิ่งที่ต้อง
  • ของเหลวที่ในภาชนะที่เกินกว่า 100 มิลลิลิตร หรือปริมาณของเหลวรวม มากกว่า 1,000 มิลลิลิตร
  • วัตถุระเบิด ยุทธภัณฑ์
  • อาวุธทุกชนิด เช่น กระบอง ดาวกระจายและสนับมือ
  • วัตถุแหลมคมทุกชนิด
  • สัตว์ที่เป็นอันตรายต่ออากาศยานและบุคคล

ปริมาณของเหลวที่นำขึ้นเครื่องได้

  • ของเหลว เจล และสเปย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
  • ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมกันในถุงพลาสติกใส และมีบรรจุรวมกันไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร
  • ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ นมและอาหารสำหรับเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับัดเจน
  • หากมีของเหลวเกินกว่า 1,000 มิลลิลิตร ต้องบรรจุในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องเท่านั้น

น้ำหนักกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ ของ 10 สายการบินยอดฮิตในไทย

  • กระเป๋าที่สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ เช่น กระเป๋าพกพาสำหรับใส่กระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต ต่างๆ เช่น กระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าช๊อปปิ้ง เป็นต้น (แล้วแต่นโยบายของแต่ละสายการบิน)
  • กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง โดยทั่วไปมักจะอนุญาตเป็นขนาด 16-22 นิ้ว น้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 7-10 กิโลกรัม (แล้วแต่นโยบายของแต่ละสายการบิน)

AirAsia  ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Vietjet Airline  ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

TigerAir  ขนาดกระเป๋า 54 ซม. x 38 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 10 กิโลกรัม

Thai LionAir   ขนาดกระเป๋า 30 ซม. x 40 ซม. x 20 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Thai Airway  ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Thai Smile ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Nook Scoot   ขนาดกระเป๋า 54 ซม. x 38 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Nok Air  ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Thai AirAsia X  ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 7 กิโลกรัม

Bangkok Airway ขนาดกระเป๋า 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. น้ำหนักที่อนุญาต 5 กิโลกรัม

 

พาวเวอร์แบงค์ (power bank) แบบไหนที่นำขึ้นเครื่องได้ ไม่โดนยึด

  • ห้ามนำ Power Bank ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่อง ให้ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้

เพราะหากพาวเวอร์อยู่ใต้ท้องเครื่อง จะเสี่ยงต่อการเกิดเพลินไหม้ในส่วนบรรทุกสัมภาระได้ หากแบตเตอรี่ที่ทำงานจนเกิดความร้อนสูงเกินไปและจะนำไปสู่การติดไฟและระเบิดในที่สุด

  • ไม่พกเกินจำนวนที่กำหนด Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 – 32,000 mAh (หรือมากกว่า 160 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน

  • พก Powerbank ความจุต้องไม่เกินที่กำหนด ซึ่งต้องมีขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh และ Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 mAh (หรือน้อยกว่า 10,000 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่ระบุจำนวน

  • ห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด Power Bank ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง

 

นำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน…ต้องทำอย่างไรบ้าง

  • การบินไทย : น้ำหนักสัตว์รวมกรง ไม่เกิน 10 กิโลกรัมหิ้วขึ้นในห้องโดยสารได้
  • บางกอกแอร์เวย์ส : โหลดลงใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น
  • นกแอร์ : โหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 200 บาท
  • แอร์เอเชีย : ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน หรือ โหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

 

สัตว์เลี้ยงที่จะเดินทางโดยเครื่องบินนั้นสามารถทำได้กี่วิธี

  1. บริการการนำน้องหมาขึ้นเครื่องแบบ Check Baggage (AVIH- Animal In Hold)   

เจ้าของจะต้องนำสัตว์เลี้ยงไปยังที่โหลดเป็นสัมภาระ ซึ่งบริการนี้เจ้าของสามารถนำสัตว์เลี้ยง Check-in ได้ที่ Passenger Terminals จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปโหลดไว้ที่ห้องบรรทุกสัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่องบินที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง

  1. บริการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบโหลดเป็นบรรจุภัณฑ์

ผู้ที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงเดินทางโดยวิธีนี้ ต้องพาน้องหมาไปที่อาคารคลังสินค้า ณ สถานีที่จะเดินทาง และจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนล่วงหน้า เนื่องจากบริเวณพื้นที่ในส่วนคลังเก็บสินค้ามีพื้นที่จำกัด (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยวิธีนี้จะถูกกว่าแบบ Check Baggage)

อย่่างไรก็ตาม เมื่อต้องการนำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปด้วย ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เช่นในเที่ยวบินแต่ละเที่ยวจะมีการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยง ดังนั้นควรจะต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนหรือสอบถามทางสายการบินนั้นๆ


หลังจากผ่านประตูทะลุมิติ (ประตูสแกน) เรียบร้อยแล้วก็เดินไปรอได้เลย…

 

โซน public กับ โซนผู้โดยสาร ต่างกันอย่างไร ? โซนไหนไปรอขึ้นเครื่อง…

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

  • โซน public เป็นโซนที่เปิดให้ใครก็ได้เข้าไป จะเป็นบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน คนไม่เคยขึ้นเครื่องอาจจจะงงๆ ซึ่งโซนนี้ไม่ใช่โซนรอขึ้นเครื่อง รอตรงนี้มีหวังตกเครื่องกันพอดี
  • โซนผู้โดยสาร ในโซนนี้เฉพาะผู้มี “Boarding Pass” (ผู้โดยสารที่ออกเดินทาง) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าไปได้

“สำหรับนักขึ้นเครื่องมือใหม่แนะนำว่าเมื่อเช็กอินและได้ boarding pass เรียบร้อยแล้ว  ให้เข้าไปที่โซนผู้โดยสารทันที  (หากไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหน ให้มองหาป้าย ผู้โดยสารขาออกไว้)”

 

การเตรียมตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จะเอาตัวรอดอย่างไร ?

 

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

  • คาดเข็มขัด

    ผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดตามคำแนะนำ โดยคาดเข็มขัดให้อยู่ในระดับเอว ปรับสายให้กระชับ หากห่มผ้าห่มอยู่ให้ห่มผ้าก่อนแล้วค่อยรัด เพื่อความปลอดภัยลดแรงกระแทก

  • เปิดหน้าต่าง

    เรามักได้ยินประกาศว่าต้องเปิดหน้าต่างเครื่องบิน และหากบินในเวลากลางคืนกัปตันจะปิดไฟในห้องโดยสารให้มืด ที่ต้องทำเช่นนี้มีเหตุผลว่า เพื่อที่ผู้โดยสารจะได้เห็น หากเกิดความผิดปกติที่ปีก หรือ เครื่องยนต์ จะได้แจ้งให้ลูกเรือทราบ ส่วนการปิดไฟ ก็เพื่อให้คนบนเครื่องสามารถปรับสายตาให้เข้ากับเวลากลางคืน มองเห็นในที่มืดได้ดี ตาไม่พร่ามัว

  • หน้ากากออกซิเจน

    ภายในห้องโดยสารมีการปรับความดันอากาศ เมื่อความดันอากาศในห้องโดยสารเกิดความผิดปกติ อาจมีรูรั่ว ฉีกขาดของลำตัว เราจะไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ หน้ากากออกซิเจนจะตกลงมาให้เรากระตุกแล้วสวมครอบจมูกรัดให้แน่น หากมีเด็กเราต้องสวมให้ตัวเองก่อนช่วยเด็ก หน้ากากนี้จะทำงานได้ 15 นาที

  • ทางออกฉุกเฉิน

    ในกรณีที่เครื่องลงจอดฉุกเฉินบนบก หรือ ในน้ำ ให้เดินไปตามลูกศร หรือ ไฟนำทางไปสู่ทางออก ที่มีเครื่องหมาย EXIT ผู้โดยสารต้องสังเกต และจดจำทางออกที่ใกล้ที่สุดไว้กับตัว

วิธีแก้อาการหูอื้อ สำหรับนักขึ้นเครื่องมือใหม่

ของเหลวขึ้นเครื่อง vietjet

  • บีบจมูก กลืนน้ำลาย 

    บีบจมูกทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง จากนั้นเอามือที่บีบจมูกออก แล้วกลืนน้ำลายอีก 1 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้ท่อยูสเตเซียนเปิดและปิด แก้อาการหูอื้อได้

  • นั่งหลังตรง 

    กล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณลำคออาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อได้ ในกรณีที่เรานั่ง-ยืน ผิดท่า ดังนั้นหากหูอื้อขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ลองนั่งและยืนหลังตรงเข้าไว้ค่ะ เพื่อปรับสมดุลเส้นประสาท

  • เติมวิตามินให้ร่างกาย 

    Michael Seidman หัวหน้าศูนย์แพทย์ Center for Integrative Medicine เผยงานวิจัยว่า อาการหูอื้ออาจเกิดเพราะร่างกายเราขาดวิตามิน B12 และซิงค์ ซึ่งเป็นวิตามินตัวสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท ดังนั้นเราสามารถกินวิตามิน B12 วันละ 25-50 มิลลิกรัม และซิงค์วันละ 30 มิลลิกรัม เพื่อแก้อาการหูอื้อได้

  • เอียงศีรษะเพื่อเอาน้ำในหูออก 

    ลองเอียงศีรษะข้างที่มีน้ำเข้าหูลงต่ำ ดึงใบหูให้กางออกและเฉียงไปทางด้านหลัง ซึ่งจะทำให้ใบหูราบตรงต่างจากลักษณะปกติที่ใบหูจะเป็นรูปตัว S คราวนี้น้ำก็จะไหลออกจากหูได้สะดวกและส่วนมากก็จะพาเอาอาการหูอื้อหายไปด้วย

  • กำจัดขี้หู 

    สำหรับคนที่มีอาการหูอื้อ ขอให้หลีกเลี่ยงการแคะหูด้วยตัวเอง แต่ให้พบแพทย์เพื่อทำการกำจัดขี้หูออกให้ ซึ่งจะปลอดภัยและช่วยแก้หูอื้อได้มากกว่า

เป็นยังไงกันบ้าง ขั้นตอนสำหรับคนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก อาจจะเยอะกว่าการเดินทางประเภทอื่น แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด หากได้ลองเดินทางด้วยเครื่องบินสักครั้งนึง