ฉันต้องการคุยกับคุณ ภาษาอังกฤษ

บทสนทนาทางโทรศัพท์ภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษการพูดคุยทางโทรศัพท์ มีดังนี้

Show

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์

Good morning, EduFirst Language School, Lily speaking. How can I help you?

สวัสดีค่ะ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ ดิฉันลิลลี่รับสาย

Hello, (this is) EduFirst Language School. May I help you?

สวัสดีค่ะ นี่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ

การสอบถามผู้ที่โทรศัพท์มาว่าต้องการติดต่อใคร

• Who would you like to speak to?
• Who are you calling for?

การสอบถามชื่อของผู้ที่โทรศัพท์มา

• May I ask who is calling, please?
• May I have your name, please?
• Who is calling, please?

ประโยคภาษาอังกฤษ บอกให้รอสาย

• Just a moment, please.
• Just a second, please.
• Hold on, please.
• Hold the line, please.
• Could you wait for just one moment, please?
• One moment please, I’ll see if Mr. Peter is available.

โปรดรอสักครู่ค่ะ ฉันจะดูให้ว่าคุณปีเตอร์อยู่ไหม

บทสนทนาภาษาอังกฤษ เมื่อโอนสายโทรศัพท์ไปให้ผู้อื่น

• I’ll put you through to Mr. Peter.

ฉันจะต่อสายคุณไปยังคุณปีเตอร์นะคะ

• I’ll put Mark on the line.

ฉันจะต่อถึงคุณมาร์คซึ่งกำลังรออยู่ในสายค่ะ

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ เมื่อคนรับสายไม่อยู่ ให้โทรกลับมาใหม่วันหลัง

• I’m sorry. Mr. Smith is in the meeting.

ขอโทษค่ะ คุณสมิธกำลังประชุมอยู่

• I’m sorry. There’s no reply from Mr. Smith.

ขอโทษค่ะ ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณสมิธ

• Thank you for waiting. I’m afraid Mr. Smith is not in at the moment.

ขอบคุณที่รอสาย แต่ตอนนี้คุณสมิธไม่อยู่

• Could you call back later in the day?

กรุณาโทรกลับมาใหม่นะคะ

• He/She is not available at the moment.

ตอนนี้เขา/เธอไม่อยู่ค่ะ

• His/Her line is busy right now.

ตอนนี้สายของเขา/เธอไม่ว่าง

• He/She is on another line right now.

ตอนนี้เขา/เธอกำลังติดอีกสายหนึ่งอยู่

• He/She is on the phone at the moment.

ตอนนี้เขา/เธอกำลังใช้สายอยู่

• Can he/she call you back when he/she gets in?

จะให้เขา/เธอโทรกลับไป เมื่อเขา/เธอกลับมาไหมคะ?

ประโยคสนทนาโทรศัพท์ภาษาอังกฤษ ขอให้เขาฝากข้อความไว้

• Can I take a message?

ให้ฉันรับข้อความไว้ได้ไหม?

• Would you like to leave a message?

คุณต้องการฝากข้อความไว้ไหม?

• Can I give him/her a message?

ให้ฉันรับข้อความไว้สำหรับเขา/เธอไหม?

• I’ll tell Mr. John that you called.

ผมจะบอกคุณจอห์นให้ว่าคุณโทรมา

• I’ll make sure Mr. John rings you as soon as possible.

ฉันจะบอกให้คุณจอห์นโทรกลับหาคุณให้เร็วที่สุด

• At what number can you be reached?

ขอหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อคุณกลับได้

เมื่อมีปัญหา ในการพูดโทรศัพท์

• Could you speak up, please?

กรุณาพูดดังขึ้นสักหน่อย

• I’m sorry, I don’t understand.

ขอโทษด้วย ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด

• Sorry, I didn’t catch that.
• Could you speak more slowly, please?

ขอโทษ ฉันฟังไม่ทัน กรุณาพูดช้าลงหน่อย

• I cannot hear you very well.

ฉันไม่ค่อยได้ยินที่คุณพูดเลย

• You must have dialed the wrong number.

คุณคงโทรมาผิดเบอร์

• Could you spell that please?

กรุณาสะกดคำด้วย

• I’ve tried to get through several times, but it’s always engaged/busy.

ฉันพยายามต่อโทรศัพท์อยู่หลายครั้งแต่สายไม่ว่างเลย

ที่จริง Talk to me กับ Talk with me ใช้แทนกันได้ในความหมายว่า พูดคุยกับฉัน

แต่ Talk to me ติดปากเจ้าของภาษามากกว่านะครับ

Let’s talk about horror movies. มาคุยเรื่องหนังสยองขวัญกันดีกว่า

tell พูด/บอก

เช่น Tell me more about yourself.

บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องของตัวคุณอีกสักหน่อย

Can you tell me more about yourself?

บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องของตัวคุณอีกสักหน่อย

หลายคนอาจจะยกมือขอผ่าน หากต้องพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างประเทศ บอกเลยว่าน่าเสียดายมากๆ หากคุณละทิ้งโอกาสที่จะได้ฝึกสกิลภาษา หรือผูกมิตรกับคนในบริษัท  เอ๋ แล้วแบบนี้เราจะเริ่มต้นยังไงดี ถ้าอยากจะคุย หรือต้องพูดคุย ทำงานรวมกับชาวต่างนะ ?

มาพิชิตความกลัว ทลายกำแพงภาษา กับ วอลล์สตรีทอิงลิช ด้วย 10 ประโยคง่ายๆ สำหรับคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติดีกว่า

1. Sorry to bother (disturb) you, but… (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่…)

หากคุณต้องการขอความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องงานที่ต้องรบกวนอีกฝ่าย ลองเริ่มต้นด้วยประโยคขอโทษที่รบกวน ตามด้วยเรื่องที่ต้องการจะให้ช่วยดูสิ เช่น

Sorry to bother you, but could you check this report for me? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม ?)

Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler? (ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้ไหม ? )

2. Do you have a minute? (ว่างคุยซักนิดไหม ? / มีเวลาซักเดี๋ยวไหม ?)

ถ้าให้แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย ประโยคเหล่านี้ มักจะใช้ในเวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ อาจจะเป็นการถามงานสัก 2 – 3 นาที  หรือถ้าใครเบื่อประโยคเดิมๆ จะลองใช้ประโยคต่อไปนี้ ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ เพราะให้ความหมายที่ไม่แตกต่างกันเลย

“Can I have a word with you?”

“Can I talk to you for a minute/a second ?”

3. Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง ? (ขอสายคุณ…หน่อยได้ไหมคะ/ครับ)

ประโยคข้างต้น เป็นประโยคที่เหมาะกับใคร ที่ต้องติดต่องานทางโทรศัพท์กับชาวต่างชาติมากๆ หรือจะใช้ติดต่อสื่อสาร ขอพบ หรือขอพูดคุยก็ได้ เช่น ไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อยก็ได้เหมือนกันนะ

4. When (What time) can I call you back ? (ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร)

ไหนๆ ประโยคก่อนหน้านี้ก็เป็นการขอพูดคุย ขอพูดสายด้วยแล้ว ประโยคนี้จะเป็นประโยคต่อเนื่องกัน เมื่ออีกฝ่าย หรือคนที่เราต้องการคุยด้วบ ยังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น  

โดยปรกติแล้ว ประโยคนี้ หากเราถามกลับไปได้ ส่วนมากคำตอบส่วนมากอีกฝ่าย (หรืออาจจะตัวเราเอง) ก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมา เพื่อเป็นการนัดหมายในการโทรครั้งต่อไปนั่นเอง

ฉันต้องการคุยกับคุณ ภาษาอังกฤษ

5. Can you join the meeting on + วันที่ + at + เวลา? (คุณเข้าร่วมประชุมวันที่…เวลา…ได้ไหม ?)

เรื่องการนัดหมายประชุม หรือมีตติ้ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำงานบริษัท แต่ถ้าใครที่ยังงงๆ ลองดูประโยคเต็มๆ นี้ ได้ เช่น “Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้ไหม?)

หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ “Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?” (คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าไหม ?)

6. Would you mind helping me with … ? (รังเกียจไหม ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ…)

อีกหนึ่งรูปแบบประโยค ที่ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือ ที่แตกต่างจากประโญคก่อนหน้านี้คือ นี่เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ โดยใจความหลักของประโยคนี้ เหมือนถามรวมๆ ว่า ช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย ถ้าอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย เช่น

“Would you mind helping me with this document ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้)

“Would you mind helping me with the project ?” (รังเกียจไหม ? ถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้)

หรือถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง เพราะบางคนคงนึกจั๊กจี้ไม่น้อย ถ้าต้องคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท คุณอาจจะเปลี่ยนใช้คำว่า  “Can you help me with + N.?”  ก็ได้เหมือนกัน จะดูเป็นกันเองมากกว่า

7. Would you mind if + ประโยค  (จะเป็นอะไรมั้ยถ้า…)

เอ๋ ? แลวประโญคนี้ แตกต่างจากประโยคก่อนหน้ายังไงนะ ? เพราะทั้งคู่เล่นใช้คำว่า “Would you mind…” ทั้งคู่เลย ? เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ประโยคดั่งกล่าว สามารถ “จะเป็นอะไรไหม ?” ได้ด้วย  ส่วนมากประโยคนี้ จะเน้นใช้โยนหินถามทาง (สังเกตได้จากคำว่า if ตามด้วยสิ่งที่ต้องการจะทำ) เช่น

“Would you mind if I skip the meeting?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม)

“Would you mind if I postpone the deadline?” (จะเป็นอะไรไหม ? ถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน)

ฉันต้องการคุยกับคุณ ภาษาอังกฤษ

8. Can I take + วันที่อยากลา off? (ฉันขอลาในวัน…ได้ไหม?)

เรื่องป่วย ลา เป็นเรื่องปรกติมากๆ แหม ก็มนุษย์นี่น่า ต่อให้แข็งแรงมากแค่ไหน ก็ต้องมีบ้างทีต้องลาป่วย หรือติดธุระอื่นๆ จนต้องลาได้ โดยการลา คุณอาจจะบอกเพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านาย ได้ว่า

Can I take Monday off? (ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย)

Can I take this Friday off? (ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย)

หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาสักวันได้ไหม (แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า “Can I take a day off?” (ฉันขอลาซักวันได้ไหม ?) ก็ได้เช่นกัน

9. Did you catch the news today? (คุณอ่านข่าววันนี้หรือยัง)

พูดถึงเรื่องงานกันมาก็มากแล้ว สำหรับใครที่อยากจะลองผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานที่มาใหม่ หรืออยากจะเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องงานบ้าง ลองชวนเขาคุยในเรื่องสัพเพเหระทั่วไป เริ่มง่ายๆ อย่างเรื่องข่าวสักข่าว ในเช้าวันนี้สิ! แต่ก่อนจะทักอะไร อย่าลืมเช็กด้วยล่ะ ว่าเพื่อนร่วมงานต่างชาติของคุณสนใจไปในทิศทางเดียวกับคุณบ้างไหมด้วยนะ

10. I’d like you to meet someone (ฉันอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับใครบางคน)

ประโยคนี้ นอกจากจะเป็นประโยคง่ายๆ สำหรับแนะนำเพื่อนใหม่ของเราให้กับรู้จักกับคนอื่นๆ แล้ว คุณยังสามารถใช้ประโยคดังกล่าวได้ในที่ทำงาน ในกรณีที่ มีพนักงานใหม่เข้ามา และคุณต้องการจะแนะนำให้กับคนอื่นๆ ในแผนก ในที่ทำงาน  หรืออาจจะเป็นการแนะนำลูกค้าให้รู้จักกับคนในทีม ก็สามารถทำได้เช่นกันนะ

ภาษาอังกฤษในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องยาก อย่าอายที่จะใช้ภาษาอังกฤษ ครั้งแรกอาจจะไม่ได้ดี สมบูรณ์แบบไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหมั่นใช้ หมั่นฝึกฝนเองบ่อยๆ ภาษาของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน!  

Post Views: 18,420