ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ

หลายคนชอบผูกเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือ PR เข้ากับการสร้างภาพลักษณ์ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องซักทีเดียว จริงอยู่เป้าหมายของการประชาสัมพันธ์คือมุ่งให้เกิดภาพลักษณ์เชิงบวกในสายตา Stakeholder ทั้งภายในและภายนอกองค์กร แต่กว่าภาพลักษณ์จะดีได้ รู้ไหมนักประชาสัมพันธ์ต้องทำอะไรบ้าง?

สาระสำคัญของงาน PR คือ การให้ข้อมูล ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองค์กรในแง่มุมต่างๆ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เกิดทัศนคติที่ดี จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับ Stakeholder แต่ละกลุ่ม เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าภาพลักษณ์ขององค์กรย่อมดีงามเช่นกัน ภาพลักษณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการมโนหรือคิดเอาเอง แต่เป็นการสะสมความไว้เนื้อเชื่อใจ สุดท้ายชื่อเสียงจะตามมาในที่สุด

ฉะนั้น อย่าบอกว่างาน PR เน้นเรื่องสร้างภาพลักษณ์ สร้างชื่อเสียงให้รู้จักในวงกว้าง เพราะกว่าภาพลักษณ์จะเกิด ชื่อเสียงจะมา นักประชาสัมพันธ์ต้องทำงานอย่างหนักในการหาข้อมูล จัดกิจกรรมต่างๆ และเผยแพร่ข้อมูลนั้นๆ ไปสู่ Stakeholder หลายกลุ่ม

สำหรับกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ โดยทั่วไปมี 2 กลยุทธ์หลัก เริ่มจากกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุก (Proactive Public Relations) พูดง่ายๆ ก็คือ ชิงทำประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ชิงทำก่อนที่จะมีผลกระทบบางอย่างเกิดขึ้น กิจกรรมที่อยู่ภายใต้กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุก อาทิ การเปิดตัวสินค้า การจัดแถลงข่าว การส่งข่าวแจก การจัดกิจกรรมพิเศษ การวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดจนการทำซีเอสอาร์

ผู้เขียนขอยกตัวอย่างซักสองกิจกรรมเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพ สมมติ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ต้องการปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ “มาม่า”  ขึ้นอีกซองละ 2 บาท บริษัทอาจใช้วิธีจัดแถลงข่าวเพื่อบอกเหตุผลของการปรับขึ้นราคาสินค้า หรืออาจใช้วิธีซื้อพื้นที่ในสื่อหนังสือพิมพ์ล่วงหน้าเพื่อเขียนบทความ แจ้งข้อเท็จจริงว่า “ด้วยต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งจากค่าแรงงาน ค่าขนส่ง ค่าวัตถุดิบ บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า”  ซึ่งการเผยแพร่บทความดังกล่าวจะลดความรู้สึกไม่พอใจของลูกค้าได้ดีกว่าขึ้นราคาเสร็จสรรพแล้วค่อยมาแจ้งภายหลัง

ถัดมาคือกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรับ (Reactive Public Relations) เป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างองค์กรกับ Stakeholder รวมถึงการปกป้องแบรนด์และชื่อเสียงขององค์กรไม่ให้เสียหายมากขึ้น พูดง่ายๆ การประชาสัมพันธ์เชิงรับมักใช้ตอนเกิดวิกฤติหรือพบเจอปัญหาแล้ว เพราะการเป็น “ผู้ตั้งรับ” ย่อมบาดเจ็บน้อยกว่าอยู่ในสถานะ “ผู้ตอบโต้” ตัวอย่างกิจกรรมที่อยู่ภายใต้กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรับ อาทิ การจัดการข่าวลือ การแก้ไขข่าวสารเชิงลบ

ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกหรือเชิงรับ อันดับแรกผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในเครื่องมือนี้อย่างถ่องแท้ ตอบคำถามเบื้องต้นให้ได้...ทำไมต้อง PR มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร นำมาใช้เมื่อใด กลยุทธ์ไหนเหมาะสำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำคัญสุดน่าจะอยู่ตรงการปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ว่า งาน PR ไม่ใช่แค่ การสร้างภาพ!!!

UPDATE: ‘อีลอน มัสก์’ เสียแชมป์มหาเศรษฐีระดับโลกในชั่วข้ามคืน หลังราคาหุ้น Tesla ร่วง
.
นิตยสาร Forbes เปิดเผยว่า ‘อีลอน มัสก์’ เสียตำแหน่งแชมป์มหาเศรษฐีระดับโลกในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน เนื่องจากราคาหุ้น Tesla ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ผนวกกับความน่าเชื่อถือที่ลดลงหลังจากมัสก์สวมบทซีอีโอของ Twitter
.
สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานอ้างอิงการจัดอันดับมหาเศรษฐีพันล้าน หรือ รายชื่อ ‘Real Time Billionaires’ ของทางนิตยสาร Forbes ที่เปิดเผยว่า จากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์และความมั่งคั่ง ณ วันที่ 7 ธันวาคม พบว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ได้เสียบัลลังก์แชมป์ให้กับ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซึ่งเป็นซีอีโอวัย 73 ปี ของ LVMH ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Christian Dior และ Givenchy และยังเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องสำอางค์ Sephora ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 184,700 แสนล้านดอลลาร์
.
รายงานระบุว่า การเสียตำแหน่งในครั้งนี้เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปของมัสก์ หลักๆ มาจากการมูลค่าหุ้นของ Tesla ที่ร่วงลงอย่างมาก และกรณีการเข้าซื้อกิจการ Twitter มูลค่า 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ยังมีเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างและการหาโมเดลรายได้อยู่ในเวลานี้
.
อย่างไรก็ตาม ต่อมาไม่นาน มูลค่าทรัพย์สินของมัสก์จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 184,900 ล้านดอลลาร์ รั้งตำแหน่งอันดับ 1 เหมือนเดิม
.
Forbes ระบุว่า ด้วยความต่างของมูลค่าทรัพย์สินเพียงแค่ 200 ล้านดอลลาร์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกในปี 2023 จะมีการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างมัสก์กับอาร์โนลต์
.
ทั้งนี้ มัสก์ช่วงชิงตำแหน่งเศรษฐีโลกมาจาก เจฟฟ์ เบโซส์ นักธุรกิจผู้ก่อตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกตามการจัดอันดับของ Forbes มาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2021
.
รายงานระบุว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ อีลอน มัสก์ ลดลงต่ำกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา (7 ธันวาคม) หลังจากที่บรรดานักลงทุนต่างแห่เทขายหุ้น Tesla เนื่องจากกังวลว่าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Tesla จะทุ่มเทให้กับ Twitter มากเกินไป
.
กระนั้น Forbes ยอมรับว่าการประเมินความั่งคั่งของมัสก์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากทรัพย์สินส่วนใหญ่ของมัสก์ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นของบริษัทที่เจ้าตัวก่อตั้งและบริหารเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Tesla, SpaceX, Boring และ Neuralink
.
ขณะเดียวกัน แม้จะร่ำรวยลดลง แต่ทรัพย์สินของมัสก์ก็ยังคงมีมูลค่ามากกว่า โกตัม อดานี มหาเศรษฐีอันดับ 3 ชาวอินเดีย ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ 134,800 ล้านดอลลาร์ และ เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง Amazon ซึ่งมีทรัพย์สินประมาณ 111,300 ล้านดอลลาร์
.
ขณะที่ในดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg นั้น มัสก์ยังคงอยู่ในอันดับที่ 1 ด้วยมูลค่าสุทธิ 179,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนอาร์โนลต์รั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าสุทธิ 165,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม มัสก์สูญเสียเงินไปแล้วประมาณ 1.30 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ตามการคำนวณของ Bloomberg
.
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/.../elon-musk-wealth/index.htm
https://www.reuters.com/.../elon-musk-loses-title-worlds.../
.
#TheStandardWealth

     

    รัฐบาลจีนเผยปริมาณทองคำสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 และในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว ซื้อทองคำเพิ่ม 32 ตัน
    .
    สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ธนาคารประชาชนจีน ( พีบีโอซี ) เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับทองคำสำรองของประเทศ ว่าอยู่ที่ประมาณ 1,980 ตัน นับจนถึงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 112,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์
    .
    ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2562 ที่จีนยืนยันว่า ปริมาณทองคำสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น
    .
    ขณะที่เว็บไซต์เทรดดิ้ง อีโคโนมิกส์ ระบุว่า จีนอยู่ในอันดับ 6 ของกลุ่มประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก รองจากสหรัฐ ซึ่งมีมากที่สุด 8,133 ตัน นับจนถึงเดือนก.ย. ปีนี้ ตามมาด้วย เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 22 มีทองคำสำรองปริมาณ 244 ตัน
    .
    เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สภาทองคำโลก รายงานว่า ความต้องการทองคำทั่วโลก (ไม่รวมตลาด OTC) ฟื้นตัวขึ้น นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 เพราะทองคำถูกมองในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ความต้องการทองคำในสิ้นปี 2564 ขึ้นมาอยู่ที่ 4,021 ตัน
    .
    โดยเฉพาะไตรมาส 4 ความต้องการทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้นเเตะ 1,147 ตัน ถือเป็นระดับรายไตรมาสที่สูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ในปี 2562 และเพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบรายปี
    .
    .
    #ทองคำ #จีน #ทองคำสำรอง #สภาทองคำโลก
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website: http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok: https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/bangkokbiznews
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    ส่องมุมมอง ‘ซีอีโอ’ ชั้นนำสหรัฐ ฟันธง ‘เศรษฐกิจโลก’ ปีหน้า ถดถอย?
    .
    บรรดาซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ ของสหรัฐ ร่วมรายการ Squawk Box ของซีเอ็นบีซีเมื่อเช้าวันอังคาร (6 ธ.ค.) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงมุมมองต่อปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทมองภาพรวมในปีหน้าแตกต่างหลากหลายกันไป เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีโอกาสถดถอยในปี 2566 บริษัทในอเมริกาต่างต้องเตรียมรับมือกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซาลง ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ดังนี้
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    เจมี ไดมอน ซีอีโอเจพี มอร์แกน
    .
    “อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เงินเฟ้อพุ่ง ความกดดันจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัจจัยอื่น ๆ อาจก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้”
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    แมรี บาร์รา ซีอีโอเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม)
    .
    “เศรษฐกิจจะมีอุปสรรคในปีหน้าแต่ยังไม่ถึงขั้นถดถอย เราจะไม่เรียกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย นั่นเป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้ เพราะตอนนี้ เราเห็นว่าการบริโภคยังคงแข็งแกร่ง”
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    ดั๊ก แม็กมิลลอน ซีอีโอวอลมาร์ท
    .
    “ลูกค้าของเราใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น เช่น ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและของเล่น เพราะพวกเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเงินเฟ้อมาหลายเดือน เฟดควรทำในสิ่งที่ต้องทำหรือไม่”
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    สก็อตต์ เคอร์บี ซีอีโอยูไนเต็ด แอร์ไลน์
    .
    “เรากำลังเริ่มปีใหม่ด้วยการมองโลกในแง่ดี แต่ในปี 2566 อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย เพราะเฟด”
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    แลนซ์ ฟริตซ์ ซีอีโอยูเนียน แปซิฟิก เรลโรด
    .
    “เป็นหน้าที่ของเฟดในการตัดสินใจว่า การสร้างแรงกดดันต่อการใช้จ่ายของประชาชนและทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้านั้น ยังคุ้มค่าแก่การลดเงินเฟ้อหรือไม่”
    .
    .
    อ่านบทความเต็ม: https://www.bangkokbiznews.com/world/1041772?anm=
    .
    กราฟิก: วิชัย นาคสุวรรณ
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท การ(ตลาด)นำการเมือง | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
    .
    กลายเป็นประเด็นถกเถียงถึงความเป็นได้ สามารถทำได้หรือไม่ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมขึ้นมาทันที่ สำหรับแนวคิดการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือนในปี 2570 ของพรรคเพื่อไทยที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับแวดวงแรงงานได้มากเลยทีเดียว แม้ว่าธรรมเนียมปฏิบัติ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะมีคณะกรรมการไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา บนพื้นฐานผู้ประกอบต้องมีความสามารถในการแข่งขันด้านการลงทุนและการส่งออก ลูกจ้างแรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีและต้องสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีค่าครองชีพ ราคาสินค้า ฯลฯ ทั้งภายในและต่างประเทศ
    .
    ก่อนหน้านี้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งประกาศใช้ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา มี 9 อัตรา โดยสูงสุดอยู่ที่ 354 บาท 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต ค่าจ้าง 353 บาท มี 6 จังหวัด กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ค่าจ้าง 345 บาท มี 1 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ค่าจ้าง 343 บาท มี 1 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ค่าจ้าง 340 บาท มี 14 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี หนองคาย อุบลราชธานี พังงา กระบี่ ตราด ขอนแก่น เชียงใหม่ สุพรรณบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ลพบุรี และสระบุรี
    .
    ค่าจ้าง 338 บาท มี 6 จังหวัด คือ มุกดาหาร กาฬสินธุ์ สกลนคร สมุทรสงคราม จันทบุรี และนครนายก ค่าจ้าง 335 บาท มี 19 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี บึงกาฬ ชัยนาท นครพนม พะเยาสุรินทร์ ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย พัทลุง อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก อ่างทอง สระแก้ว บุรีรัมย์ และเพชรบุรี ค่าจ้าง 332 บาท มี 22 จังหวัด คือ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ตรัง ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุทัยธานี ลำปาง ลำพูน ชุมพร มหาสารคาม สิงห์บุรี สตูล แพร่ สุโขทัย กำแพงเพชร ราชบุรี ตาก นครศรีธรรมราช ชัยภูมิ ระนอง และพิจิตร และ ค่าจ้าง 328 บาท มี 5 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส น่าน และอุดรธานี
    .
    ปี 2555-2556 พรรคเพื่อไทยได้ผลักดันค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศเป็นการปรับแบบก้าวกระโดดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 141 บาทหรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 70-88 ว่ากันครั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการลงทุนและการส่งออกชะลอตัว โดยเฉพาะ SMEs ส่วนธุรกิจหรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่บางรายย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น มีการตั้งคำถามว่าหากทยอยขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวันจริงๆ จะทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อสูงทั่วโลก และมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จะมีผลกระทบมากมายหรือไม่
    .
    แน่นอนว่าหากค่าแรงเพิ่มขึ้นจะกระทบกับภาคธุรกิจที่ใช้แรงงานอย่าง ภาคการเกษตร และ ภาคบริการ และอาจจะมีผลทำให้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทบทวนแผนการจ้างงาน การชะลอการลงทุนในระยะสั้น หรืออาจจะนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้แทนแรงงาน ที่สำคัญจะทำให้ต้นทุนค่าแรงของไทยสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การลงทุนตรงจากต่างประเทศอาจชะลอลง กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ ที่สำคัญการขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อแรงงานไทย เพราะภาคอุตสหกรรมต่างๆปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้แรงงานต่างด้าว
    .
    แม้ว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะดำเนินการโดยกลไกของทวิภาคีและต้องพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมอีกมาก ทว่าการที่พรรคเพื่อไทยออกมาประกาศ ก็กลายเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมไปแล้ว แม้ว่าในอนาคตอาจจะไม่ทำได้จริงก็ตาม แต่วันนี้ก็ถือได้ว่าเป็น“ชัยชนะ”ทางการตลาดแล้ว เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายต้องนำไปขบคิดต่อ ที่สำคัญการปรับขึ้นค่าค่าแรงในระดับที่เหมาะสมจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และควรทำควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้และประสิทธิภาพของแรงงาน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
    .
    .
    #ค่าแรงขั้นต่ำ #พรรคเพื่อไทย #หาเสียง #ผลักดันนโยบาย
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจPolitics
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    “ความโกรธ” เป็นอารมณ์ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะดีกว่าไหม? หากเราสามารถควบคุมมันได้ก่อนจะปล่อยให้อารมณ์ร้ายเป็นนายเรา จนทำให้กลายเป็นคนขี้โมโห ด้วย 6 วิธีทางจิตวิทยา
    .
    ความโกรธ (Anger) คือหนึ่งในอารมณ์ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าไม่ว่าจะเป็นจากผู้คนรอบข้างหรือในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีข้อดีคือช่วยให้มีโอกาสปลดปล่อยความรู้สึกทางลบออกมา ไม่เก็บกดอารมณ์เอาไว้ แต่ก็มีผลเสียมากมายเช่นกัน เมื่อมีความโกรธมากเกินไปจนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ร่างกายก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความโกรธซึ่งแตกต่างไปจากร่างกายในสภาวะปกติ
    .
    ถ้ามีความโกรธเกิดขึ้นมากไปหรือนานเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต เช่น ความจำแย่ลง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานแย่ลง เป็นผลจาก “ฮอร์โมนความเครียด” ที่หลั่งออกมามากในชั่วขณะที่เรากำลังโกรธ ส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงเชื่อมโยงไปสู่ผลกระทบด้านสังคมและความสัมพันธ์ที่จะทำให้ใช้ชีวิตในสังคมยากขึ้น
    .
    สาเหตุของความโกรธนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ถูกคุกคาม หรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไปจนถึงกรณีที่คนอื่นไม่เคารพความรู้สึกหรือสิทธิของเรา นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่มาช่วยกระตุ้นอารมณ์โกรธให้เพิ่มขึ้นอีกไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัว เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเรื่องการเรียนหรือการงาน และเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น รถติด ฝนตก ลิฟต์เสีย ไปจนถึงเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ เช่น ตกงาน หรือ สูญเสียคนรัก เป็นต้น
    .
    นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางจิตวิทยาก็อาจมีอารมณ์โกรธต่างไปจากคนอื่น เช่น โรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) สมาธิสั้น (ADHD) พฤติกรรมเกเรรุนแรง (Conduct Disorder) ภาวะระเบิดอารมณ์ชั่วคราว (Intermittent Explosive Disorder) หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ก็ส่งผลให้มีความโกรธมากขึ้นได้เช่นกัน
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    ทำอย่างไรไม่ให้ “อารมณ์โกรธ” เป็นนายเรา
    .
    จากบทความของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (American Psychological Association: APA) ได้ให้คำแนะนำเไว้ดังนี้
    .
    1. ใช้เทคนิคการผ่อนคลายต่างๆ เช่น การฝึกหายใจ การจินตนาการถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เพื่อให้ความโกรธลดลง
    .
    2. ปรับมุมมองความคิด เมื่อเราโกรธมักจะใช้คำที่รุนแรงแรงกับผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งคำพูดเหล่านั้นมักสะท้อนภาพความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น วิธีแก้ไขคือ อาจทดแทนความคิดในทางลบด้วยการคิดเชิงบวกมากขึ้น เช่น จากที่เคยคิดว่า “ทำไมมันต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉัน” ให้ลองเปลี่ยนเป็น “เกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว จากนี้จะแก้ไขอย่างไร”
    .
    3. ฝึกทักษะการแก้ปัญหา เพราะ ไม่ใช่ทุกความโกรธเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล บางครั้งความโกรธก็เกิดจากสถานการณ์บางอย่างที่หลีกหนีไม่ได้ และไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ถ้ามีการฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็สามารถช่วยให้จัดการกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ และเมื่อจัดการได้ความโกรธจะลดลง
    .
    4. ฝึกทักษะการสื่อสาร บางครั้งความโกรธมาจากความรู้สึกอึดอัด หรือรู้สึกว่าไม่พอใจที่ผู้อื่นไม่ได้ดั่งใจ ส่งผลให้โกรธเพราะรู้สึกไม่พอใจ หากมีการสื่อสารและรับฟังคนอื่นมากขึ้น ก็จะทำให้เข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งมากขึ้น ส่งผลให้ความโกรธลดน้อยลง
    .
    5. ใช้อารมณ์ขัน หมายถึงการฝึกให้มีเมตตาต่อตัวเอง ให้อภัยตัวเองในวันที่ทำพลาด และยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง
    .
    6. พบนักจิตวิทยา เมื่อสุดท้ายแล้วรู้สึกว่ายังทำอย่างไรก็ยังเป็นคนที่โกรธง่ายหายยาก จนกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การไปพบนักจิตวิทยาเพื่อพูดคุยปรึกษาและหาสาเหตุที่แท้จริงของอารมณ์โกรธนี้ เพื่อหาทางรักษาแก้ไขต่อไปอย่างถูกต้อง
    .
    .
    อ่านรายผลกระทบจากความโกรธเพิ่มเติม : https://www.bangkokbiznews.com/health/social/1041117?anm=
    .
    #ความโกรธ #อารมณ์ของมนุษย์ #จิตวิทยา
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจLifestyle
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    ท่านผู้อ่านได้เคยสังเกตไหมว่าวันหนึ่งใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมือถือนานแค่ไหน? หรือ ท่านสามารถออกนอกบ้านโดยลืมนำโทรศัพท์มือถือไปด้วยได้หรือไม่? และท่านคิดว่าโทรศัพท์มือถือเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งของท่านหรือยัง?
    .
    [บทความโดย: รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์]
    .
    แอปพลิเคชั่นและสังคมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย และสถานการณ์โควิดที่ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องอยู่กับตนเองมากขึ้น โทรศัพท์มือถือและสังคมออนไลน์ก็ได้กลายเป็นทางออกที่สำคัญของชีวิตในช่วงโควิด ทั้งในด้านการทำงาน ความบันเทิงและชีวิตส่วนตัว แม้โควิดจะคลี่คลาย แต่อัตราการใช้มือถือและสังคมออนไลน์ก็ไม่ได้ลด
    .
    ล่าสุดในอเมริกามีการสำรวจและพบว่า ผู้ใหญ่วัยทำงานนั้นจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยวันละ 11 ชั่วโมงกับหน้าจอมือถือ ส่วนวัยรุ่นนั้นจะใช้เวลาเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน แม้กระทั่งเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 8 ปีก็จะใช้เวลาวันละ 2.5 ชั่วโมงอยู่กับหน้าจอ (พบเห็นได้ทั่วไปว่าถ้าผู้ใหญ่ต้องการให้บุตรหลานอยู่อย่างสงบแล้วก็ จะหยิบหน้าจอไม่มือถือหรือ tablet มาเปิดให้บุตรหลานดู)
    .
    โทรศัพท์รุ่นใหม่ในปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานได้แล้ว ดังนั้น ท่านผู้อ่านลองตรวจสอบจากโทรศัพท์ของท่านดูได้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วท่านใช้เวลากับหน้าจอโทรศัพท์วันละกี่ชั่วโมง แล้วท่านอาจจะตกใจเมื่อพบว่าในหนึ่งวันท่านได้ใช้เวลาไปกับโทรศัพท์มากเพียงใด
    .
    จริงๆ ข้อดีของเทคโนโลยี โทรศัพท์มือถือ และสังคมออนไลน์ก็มีอยู่มากมาย ตั้งแต่เป็นเครื่องมือในการทำงาน การสื่อสาร การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น การซื้อของ การประกาศให้โลกรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เป็นแหล่งความรู้ ความบันเทิง รวมถึงแหล่งพักพิงเมื่อเบื่อ เหงา และเครียด ฯลฯ
    .
    แม้ข้อดีจะมีมากมาย แต่การใช้ก็ควรจะเป็นไปในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน การอยู่กับและใช้โทรศัพท์มือถือที่มากเกินไป ก็ส่งผลเสียได้ ทั้งทางด้านกายภาพและจิตใจของคนได้
    .
    พบเห็นบ่อยๆ ที่คนกำลังข้ามถนนหรือเดินอยู่ในสถานที่อันตรายก็ยังก้มหน้าเล่นและไถมือถืออยู่ คนจำนวนไม่น้อยที่ก่อนนอนก็จะอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อเข้าไปส่องดูชีวิตผู้อื่น หรือ เข้าไปช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้า และความน่ากลัวคือเมื่อเข้าไปแล้วก็มักจะเพลิดเพลินจนลืมเวลานอนไปก็บ่อย
    .
    จากผลของการใช้เวลากับมือถือและสื่อออนไลน์ที่มาก ทำให้ปัจจุบันสมาธิของคนจะสั้นลง ความสามารถในการมุ่งเน้นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะน้อยลง (อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมือถือทุกครั้งที่มี notification) และความอดทนก็น้อยลง
    .
    จึงไม่แปลกใจว่าทำไมโทรศัพท์รุ่นใหม่ในปัจจุบันถึงมีฟังก์ชั่นที่จะพยายามช่วยให้คนมีสมาธิมากขึ้น ตัดการรบกวน หรือ การแจ้งเตือนต่างๆ ออกไปเมื่อต้องทำงานที่มีสมาธิ
    .
    อย่างไรก็ดี ปัญหาสำคัญที่สุดของการติดเทคโนโลยี มือถือ และสังคมออนไลน์ คือปัญหาสุขภาพจิต ในต่างประเทศได้มีงานวิจัยต่างๆ ที่มองความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เทคโนโลยี มือถือ และสังคมออนไลน์ และทั้งหมดนั้นพบตรงกันว่า ทั้งเทคโนโลยี มือถือ และสังคมออนไลน์ มีความสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพจิต
    .
    ในอเมริกามีงานวิจัยที่พบว่า ภาวะการซึมเศร้าและความวิตกกังวลจะเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้สังคมออนไลน์จำนวนหลายแพลตฟอร์ม มากกว่าวัยรุ่นที่ใช้เพียงแค่สองแพลตฟอร์ม
    .
    นอกจากนี้ยังพบว่าพัฒนาการทางด้านจิตใจของเด็กจะช้าลงจากการที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และยังพบหลักฐานว่าในกลุ่มวัยรุ่นนั้น ความสุขนั้นจะลดลงจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
    .
    ความน่ากลัวคือ ผลของเทคโนโลยี มือถือ และสังคมออนไลน์ที่มีต่อสุขภาพจิตของคนนั้นมักจะเป็นไปในรูปแบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น การเข้าใจในตนเองที่ผิดไป (โพสต์ไปมีแต่คนชื่นชม) ความรู้สึกด้อยกว่าผู้อื่น ความอิจฉา ความอยากจะได้ อยากจะมี เหมือนผู้อื่น (เห็นโพสต์ของผู้อื่น)
    .
    การใช้เทคโนโลยี มือถือ หรือสังคมออนไลน์ก็ต้องหาความพอดีหรือเหมาะสมให้เจอ ขณะเดียวกันท่านที่เริ่มรู้สึกตัวก็อาจจะเริ่มทำ Detox หรือ Fasting จากเทคโนโลยีเหล่านี้บ้างก็ได้ ไม่ว่าการไม่หยิบมือถือขึ้นมาทั้งวัน หรือ การไม่เข้าสังคมออนไลน์เลยทั้งสัปดาห์ แล้วลองดูว่ามีความสุขมากกว่าเดิมไหม.
    .
    .
    #เทคโนโลยี #โทรศัพท์มือถือ #สังคมออนไลน์ #สุขภาพจิต
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจHealth
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    แม้เงินที่อยู่ในโลกออนไลน์จะมีโอกาสถูกโจรกรรมได้เสมอ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราปิดประตูโอกาสของบรรดาแฮกเกอร์หรือพวกโจรออนไลน์ให้อย่างน้อยก็มาเปิดกระเป๋าสตางค์เราได้ยากขึ้น
    .
    KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ขอแนะนำ 4 สิ่งที่อย่าหาทำ ถ้าไม่อยากให้เงินของเราถูกโจรกรรมไปจากการชอปปิงออนไลน์ที่ประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันได้ทุกแอพ
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    ไม่ควรผูกบัญชีธนาคาร
    .
    ถึงแม้ Shopee จะออกมาชี้แจงแล้วว่าช่องทางที่แจ้งปิดไป เป็นคนละช่องทางกับที่มีผู้ได้รับความเสียหาย โดยช่องทางที่ปิดไปเป็นช่องทางที่แอพ Shopee ผูกกับบัญชีธนาคาร แล้วให้ลูกค้าไปจ่ายได้ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเป็นช่องทางที่ Shopee วางแผนจะปิดตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยล่าสุด Shopee ชี้แจงว่าจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้ร้องเรียนอาจเป็นผู้เสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ (Phishing Scam)
    .
    ซึ่งทางช้อปปี้ระบุว่าลูกค้าที่ผูกบัญชีกับ ShopeePay ยังจ่ายจากบัญชีธนาคารได้ตามปกติ แต่เพื่อความสบายใจ เบื้องต้นการใช้ ShopeePay ให้อุ่นใจขึ้นมานิดหนึ่ง คือเติมเงินใส่ ShopeePay Balance แค่ตามราคาสิ่งของที่จะซื้อ หรือถ้าหากใช้ช่องทางการผ่อนชำระแบบ SPayLater แล้วให้เงินตัดผ่าน ShopeePay ก็ควรเติมเงินไว้ในนั้นแค่ตามราคาที่ต้องชำระ
    .
    หรือถ้าใครมีบัตรเครดิต การผูกบัญชีไว้กับบัตรเครดิตจะค่อนข้างปลอดภัยกว่า เพราะนอกจากต้องใส่รหัสผ่านในขั้นตอนยืนยันการชำระเงิน อีกทั้งยังมีข้อความแจ้งเตือนจากผู้ให้บริการบัตรเครดิตด้วยเมื่อมีการใช้จ่าย จึงรู้ตัวและตรวจสอบได้ไวกว่าเมื่อเกิดความผิดปกติ
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    อย่าเข้าลิงค์ที่ไม่รู้จัก
    .
    นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะลิงค์ปลอม แต่มิจฉาชีพจะหลอกลวงเอาเงินของคุณจริงๆ ซึ่งมิจฉาชีพจะฉวยโอกาสนี้ปลอมแปลงสวมรอยเป็นองค์กรแล้วส่งลิงค์ไม่ว่าจะทางอีเมลหรือทางข้อความโทรศัพท์ด้วยข้อความดึงดูดให้ได้รับผลประโยชน์บางอย่าง เช่น เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล หรือได้รับส่วนลดบางอย่าง ถ้าหากพลาดพลั้งกดลิงค์เข้าไป มิจฉาชีพเหล่านี้หลอกล่อต่อด้วยหน้าเว็บปลอมที่คล้ายกับเว็บจริง เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดี
    .
    ความเสียหายจากการเข้าลิงค์ปลอม มีตั้งแต่ถูกขโมยข้อมูลบัญชีและรายละเอียดบัตรเครดิต, ปลอมแปลงเป็นเจ้าของบัญชีเพื่อก่ออาชญกรรมออนไลน์ หรือแม้กระทั่งนำบัตรเครดิตไปซื้อสิ่งผิดกฎหมาย
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    ห้ามเปิดไฟล์แนบที่ไม่รู้จัก
    .
    นอกจากมิจฉาชีพจะมาในรูปแบบลิงค์ ยังมีอาวุธอันร้ายกาจที่เรียกว่า Trojan เป็นซอฟต์แวร์อันตรายที่จะเข้ามาคุกคามระบบความปลอดภัยในอุปกรณ์ของเราได้เลยไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์
    .
    Trojan มักจะแฝงตัวด้วยหน้าตาของไฟล์แนบ เมื่อเปิดไฟล์จะเท่ากับเปิดให้ซอฟต์แวร์ตัวร้ายนี้เข้ามาบุกทำลายล้างหลังบ้านของคุณ ซึ่งความรุนแรงจาก Trojan อาจถึงขั้นถูกลบ แก้ไข หรือบล็อกข้อมูลในอุปกรณ์ได้เลย เสมือนถูกเข้ายึดครองจากมิจฉาชีพโดยปริยาย นั่นหมายความว่าทุกข้อมูลในอุปกรณ์มีโอกาสถูกขโมยและนำไปใช้แทบทั้งหมด
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง
    .
    ขึ้นชื่อว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวก็ต้องเป็นเรื่องส่วนตัว ควรรับรู้แค่คนเดียว ยิ่งกับการทำธุรกรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมข้อมูลไปใช้ ให้พึงระลึกเสมอว่าไม่ว่าข้อมูลอะไรต้องไม่ให้ใครรู้
    .
    ยกตัวอย่างข้อมูลที่จะเป็นการเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพเข้ามากระทำผิดต่อเรา เช่น รหัสผ่านเข้าสู่ระบบ นี่คือประตูบานแรกที่จะเปิดช่องให้โจรเข้ามาเอาเงินของเราได้ ตั้งแต่กระบวนการแรกของการตั้งรหัสผ่าน ควรเป็นรหัสที่คาดเดาได้ยาก แต่ตัวเราเองต้องจดจำได้ มิเช่นนั้นแทนที่โจรจะเข้าไม่ได้ เจ้าของบ้านเองก็อาจจะเข้าบ้านไม่ได้เองด้วย และที่สำคัญรหัสผ่านมีประโยชน์เวลาที่บัญชีถูกแฮ็ก ถ้าจำรหัสผ่านได้ก็มีโอกาสกู้คืนบัญชีได้ง่ายกว่า
    .
    ต่อมาคือรหัส OTP หรือย่อมาจาก One Time Password เป็นรหัสสั้นๆ ที่ส่งมาเพื่อใช้ยืนยันตัวตนหลังจากทำธุรกรรมหรือซื้อสินค้าเสร็จแล้ว เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เงินจะไหลออกจากกระเป๋าเรา ซึ่งรหัสเหล่านี้มักจะส่งไปยังข้อความทางโทรศัพท์หรือไม่ก็ในอีเมล เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับรหัส OTP แล้ว ให้รีบเปิดดูแล้วใส่รหัส โดยที่อย่าให้ใครเห็น OTP มิเช่นนั้น เงินของเราอาจะเป็นเงินของเขาทันที
    .
    หรือถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ควร Log Out ออกจากบัญชีทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ใครมาสวมรอยใช้บัญชีที่เปิดค้างไว้ในอุปกรณ์
    .
    .
    ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1041756?anm=
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #OnlineShopping #PhishingScam #Shopee #KTReview #กรุงเทพธุรกิจIT #กรุงเทพธุรกิจTech
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

     

    จากวิกฤติ "การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ" ส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงอันดับที่ 9 ของโลก เรียกได้ว่ากระทบอันดับต้นๆ แม้จะเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 0.8% เป็นอันดับที่ 22 ของโลกก็ตาม
    .
    ประเด็นสำคัญการประชุม COP27 ที่ "วราวุธ ศิลปอาชา" ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ผลักดันให้เกิดขึ้นจริงๆ คือ การส่งเสริมค่าเสียหายและการสูญเสีย (Loss and Damage) ให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบ หลายประเทศกำลังพัฒนา หรือประเทศที่ไม่พัฒนา เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกองทุนเฉพาะ และประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องลงงบประมาณปีละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพื่อนำไปช่วยประเทศที่กำลังพัฒนาและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
    .
    อีกทั้งการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050 และ ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2065 สิ่งสำคัญ คือ ต้องได้รับการสนับสนุนจากนานาอารยประเทศ ไม่ว่าจะการเงิน เทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพของไทย
    .
    ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีการผลักดันให้มีการจัดตั้ง “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” หรือ กรม Climate Change ขึ้นมาเป็นหนาวยงานหนึ่งในสังกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อแสดงให้นานาอารยประเทศได้เห็นถึงความตั้งใจ และความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายเพื่อดูแล ศึกษา และรับมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และปกป้องสิ่งแวดล้อม
    .
    ภารกิจหลักและหน้าที่ของกรมน้องใหม่ คือ การจัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการเกี่ยวกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ และลดก๊าซเรือนกระจก ประเมินความเสี่ยง และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดำเนินการ และเสนอแนวทางตามพันธกรณีของอนุสัญญา พิธีสาร และความตกลงระหว่างประเทศ และระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งองค์กรในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ รวมถึงวิจัย พัฒนา ถ่ายทอด และส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
    .
    ปัจจุบัน “กรม Climate Change” มีการจัดตั้งใน 26 ประเทศทั่วโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    “ทวีปเอเชีย” ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน เกาหลี ปากีสถาน บังคลาเทศ กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    “ทวีปยุโรป” ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน เดนมาร์ก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ไอแลนด์ ตุรกี
    .
    ยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์เชิงรุกมีกี่ประการ
    “ทวีปแอฟริกา” ได้แก่ เคนยา และ ไนจีเรีย “ทวีปอเมริกา” สหรัฐอเมริกา และ ไมโครนีเซีย
    .
    นายวราวุธ เผยว่า กรมฯ ใหม่นี้ ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของหน่วยงานให้มีความชัดเจน รองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่กระทบต่ออัตรากำลังในภาพรวม และงบประมาณของประเทศชาติ
    .
    นอกจากนี้กระทรวง ทส. อยู่ระหว่างผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นกฎหมายฉบับแรกของไทย ยกระดับจากภาคสมัครใจ (Voluntary) เป็นภาคบังคับ (Mandatory) มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารคาร์บอนเครดิต กลไกการเงิน การกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก คาดว่าจะสามารถนำกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี ภายในต้นปี 2566
    .
    "สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทย ไปถึงเป้าหมายที่ได้ประกาศเอาไว้ โดยเฉพาะประชาชนคนรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพ แนวคิดของพวกเขาเหล่านั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของประเทศ คำว่า Sustainability ทุกฝ่ายต้องทำงานร่วมกันเท่านั้น ถึงจะเกิดผลสำเร็จและเป็นไปได้"
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/%40rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
    Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
    Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR