เรื่อง ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีผลิตสินค้าเพื่อขายและผลิตสินค้าตามคำสั่งลูกค้าข้อเท็จจริง1. นางสาว อ. เป็นผู้รับจ้างทำบัญชีให้แก่บริษัทฯ แห่งหนึ่งประกอบกิจการผลิตเครื่องประดับ Show ทำด้วยเงินเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปเป็นปกติธุระ และรับจ้างผลิตโดยลูกค้าจะสั่งให้ทำงานตามแบบ ขนาด จำนวนตามที่ต้องการ เช่น สั่งทำสร้อยลาย A จำนวน 1,000 กรัม บริษัทฯ นำวัตถุดิบ (เม็ดเงิน 100%) เข้าสู่ขบวนการผลิตตามแบบและจำนวนที่ลูกค้าสั่ง โดยมีขั้นตอนการผลิตเช่นเดียวกับ เครื่องประดับเงินที่บริษัทฯ ผลิตจำหน่ายเป็นปกติ (1) กรณีลูกค้าสั่งให้บริษัทฯ ผลิตเครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวนที่ต้องการโดย ลูกค้าจัดหาวัตถุดิบ (เม็ดเงิน 100%) มาเอง จากนั้นบริษัทฯ นำวัตถุดิบดังกล่าวเข้าสู่ขบวนการผลิต เมื่อบริษัทฯ ผลิตเสร็จ ลูกค้าจะชำระค่าแรงงานรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และหักภาษี ณ ที่จ่าย บริษัทเอาไว้ กรณีนี้ถือเป็นการรับจ้างทำของ ใช่หรือไม่ (2) มีลูกค้าบางรายได้ติดต่อทำธุรกิจกันมานานและรู้จักกันเป็นอย่างดี สั่งให้บริษัทฯ ผลิต เครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวนที่ต้องการ บริษัทฯ ได้นำวัตถุดิบ (เม็ดเงิน 100%) ของบริษัทฯ มาผลิตก่อน เมื่อบริษัทฯ ผลิตเสร็จ ลูกค้าจะชำระค่าแรงรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และหักภาษี ณ ที่จ่ายใน อัตราร้อยละ 3.0 พร้อมกับคืนวัตถุดิบ (เนื้อเงิน 100%) ให้แก่บริษัทฯ ตามจำนวนสินค้าที่ผลิต กรณีนี้ถือ เป็นการรับจ้างทำของ ใช่หรือไม่ (3) เมื่อภาวะการแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงขึ้นทุกวัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องนำวัตถุดิบ (เม็ดเงิน 100%) ของบริษัทฯ มาผลิตก่อนและลูกค้าขอเครดิตทั้งค่าแรงงานและวัตถุดิบ โดยให้ credit ลูกค้า 15, 30, 45, 60 วัน เมื่อครบกำหนด ลูกค้าจะชำระค่าแรงงานรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 พร้อมกับคืนวัตถุดิบ (เนื้อเงิน 100%) ให้แก่บริษัทฯ ตาม จำนวนสินค้าที่ผลิต กรณีนี้ถือเป็นการรับจ้างทำของ ใช่หรือไม่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องมาตรา 3 เตรส, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯแนววินิจฉัย1. กรณีบริษัทฯ ผลิตเครื่องประดับที่ทำด้วยเงินเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปเป็นปกติธุระ ต่อมา บริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลให้ผลิตเครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวน ที่ลูกค้า กำหนด โดยในการผลิตได้ใช้วัตถุดิบที่ลูกค้าจัดหามาให้ กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการรับจ้างทำของ ตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อลูกค้าจ่ายค่าจ้างให้บริษัทฯ ลูกค้ามีหน้าที่ต้อง หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 เฉพาะค่าจ้างหรือค่าบริการ ตามข้อ 8 ของ คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 2. กรณีบริษัทฯ ผลิตเครื่องประดับที่ทำด้วยเงินเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปเป็นปกติธุระ ต่อมา บริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลให้ผลิตเครื่องประดับตามแบบ ขนาดและจำนวนที่ลูกค้า กำหนด โดยในการผลิตบริษัทฯ ได้ใช้วัตถุดิบของบริษัทฯ ผลิตก่อน เมื่อผลิตเสร็จแล้วลูกค้าจะชำระ ค่าบริการพร้อมคืนวัตถุดิบให้ตามปริมาณที่ใช้ผลิตสินค้า กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า ไม่อยู่ ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ที่มา:หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0706/3854 ลงวันที่ 21 เมษายน 2547ข้อนี้เป็นปัญหาที่ค้างคาใจทั้งฝ่ายลูกค้าผู้จ้างและร้านตัดชุดมานาน จากเวปของกรมสรรพากร สรุปใจความสำคัญได้ดังนี้ 1.หากลูกค้าจ้างร้านตัดชุด ที่ตัดชุดเป็นปกติธุระอยู่แล้ว โดยให้ร้านตัดชุดเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นแบบของทางร้านตัดชุดหรือของลูกค้า ให้ถือว่าเป็นการซื้อสินค้า ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 2.หากลูกค้าจ้างร้านตัดชุด ที่ตัดชุดเป็นปกติธุระอยู่แล้ว โดยจัดหาวัตถุดิบมาให้และจ้างร้านตัดชุดเย็บให้อย่างเดียว ให้ถือว่าเป็นการการจ้างทำของ ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% 3.หากลูกค้าจ้างร้านที่ไม่ได้ตัดชุดเป็นปกติธุระ เช่นร้านขายผ้า หรือออกาไนซ์ ให้ถือเป็นการจ้างทำของทุกกรณี ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายหาวัตถุดิบมา ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% แหล่งที่มา กค 0702/5546, กค0706/9054 ข้อมุลเพิ่มเติมจากเวปกรมสรรพากร
pkpadmin2021-02-13T11:12:24+00:00February 13th, 2021|ชุดยูนิฟอร์ม| แชร์บทความนี้FacebookEmail Related Postsธุระ1. ไม่ใช่ผู้ผลิตที่ขายเป็นปกติแต่รับจ้าง ผลิตสินค้าตามคำสั่งของลูกค้าเท่านั้น2. แม้จะมีผู้ว่าจ้างได้ว่าจ้างให้ผู้ขายผลิต สินค้าที่มีรูปแบบ ขนาด แตกต่างจากที่ ผู้ขายผลิตขายอยู่แล้วเป็นปกติ2. ถ้าไม่มีคำสั่งจ้างก็ไม่ได้ผลิตขายกรณีก็ยังคงถือว่าเป็นการผลิตสินค้าขาย ไม่อยู่ในบังคับต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯการรับจ้างผลิตสินค้าดังกล่าวถือเป็น การรับจ้างทำของอยู่ในบังคับต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากร ท.ป.4/2528ฯ ผู้ประกอบการขายสินค้าเป็นปกติธุระ ต่อมาลูกค้าสั่งทำตามรูปแบบจุดสังเกตดูที่ "วัตถุดิบ" • วัตถุดิบเป็นของผู้ขาย ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย • วัตถุดิบเป็นของลูกค้า หัก ณ ที่จ่าย 3 % แม้ลูกค้าสั่งให้ทำแบบพิเศษในตัวสินค้า เช่น ใส่ชื่อ โลโก้ บริษัท ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย เพราะจุดมุ่งหมายคือ “สินค้า” ตัวอย่าง 1 ตัวอย่าง 2 ตัวอย่าง 3 เกร็ดความรู้กับธรรมนิติ : ประเด็นการหักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีลูกค้าสั่งทำสินค้าตามรูปแบบ จ้างทำของ ต้องหัก ณ ที่จ่ายไหมค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งป้ายโฆษณาทั้งหมด จึงเข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามข้อ 12/1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หัก
ค่าจ้างทำของ หัก ณ ที่จ่ายกี่%: กรณีการรับจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้จ่ายเงินที่ เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ของจำนวนเงินค่าจ้างทำของที่จ่ายให้บริษัทฯ ตามข้อ 8 (2) แห่งคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.
ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้อง ทํา อย่างไร1.ต้องหักภาษีตามกฎหมายกำหนด 2.ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ม.50ทวิ) 3.ต้องจัดทำบัญชีพิเศษ 4.ต้องนำส่งภาษีต่อกรมสรรพากร
ค่าสติ๊กเกอร์ต้องหัก ณ ที่จ่ายไหม2. กรณีบริษัทฯ ผลิตสติกเกอร์ตามคำสั่งของลูกค้า โดยพิมพ์ตรา ยี่ห้อหรือเครื่องหมายการค้า ของลูกค้าเพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้า จะถือเป็นการผลิตหรือรับจ้างทำของ และจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย
|