เฉลย ภูมิศาสตร์ ม.3 บท ที่ 2

แผนฯ ที่ 1 - หนงั สอื เรียน 1. ว ิเคราะห์ความแตกต่าง กระบวนการ - ต รวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสังเกต 1. ใฝเ่ รียนรู้

แผนทีเ่ ฉพาะเรื่อง ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ของแผนท่ีเฉพาะเรื่อง ทางภมู ศิ าสตร์ - ต รวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การแปลความ 2. มุ่งมั่นในการ

2 - แ บบฝึกสมรรถนะและ แต่ละประเภท เพ่ือใช้ (Geographic และการคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ขอ้ มูลทาง ท�ำงาน
การคดิ ภูมิศาสตร์ ม.3 ศกึ ษาลกั ษณะทาง Inquiry - ตรวจใบงานท่ี 1.1 ภมู ิศาสตร์

ชวั่ โมง - แ บบทดสอบกอ่ นเรยี น กายภาพของทวปี Process) - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน - การคดิ เชงิ พืน้ ท่ี

- PowerPoint อเมรกิ าเหนือและ - ตรวจผลงาน/ชิน้ งาน - การคิด

- ใบงานที่ 1.1 ทวีปอเมริกาใต ้ได้ (K) - ส ังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน แบบองคร์ วม

2. ระบุและเลือกใช้แผนที่ รายบคุ คล - การใช้เทคโนโลยี

เฉพาะเร่ืองเพื่อสืบค้น - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน

ข้อมูลเก่ียวกับลักษณะ กลุ่ม

ทางกายภาพของทวีป - ป ระเมินคุณลกั ษณะ

อเมริกาเหนือและทวีป อนั พึงประสงค์

อเมรกิ าใต ้ได้ (P)

3. เ ห็นความส�ำคัญของ

การใช้แผนท่ีเฉพาะ

เรอ่ื งในการสบื คน้ ขอ้ มลู

และใช้ประโยชน์ ในชีวิต

ประจำ� วนั (A)

T2

แผนการจดั ส่ือที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ
การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์

แผนฯ ท่ี 2 - หนงั สอื เรยี น 1. ว เิ คราะห์ความแตกต่าง กระบวนการ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การสังเกต 1. ใฝเ่ รียนรู้
เคร่อื งมอื
ทางภมู ศิ าสตร์ ภูมิศาสตร์ ม.3 ของระบบสารสนเทศ ทางภมู ศิ าสตร์ และการคิด ภมู ิศาสตร์ ม.3 - ก ารแปลความ 2. มงุ่ ม่ันในการ

2 - แบบฝึกสมรรถนะและ และสถิติทางภูมิศาสตร์ (Geographic - ตรวจการทำ� แบบวดั และ ขอ้ มลู ทาง ท�ำงาน

ชัว่ โมง การคิด ภูมศิ าสตร์ ม.3 เพอ่ื ใช้ศกึ ษาลักษณะ Inquiry บันทึกผลการเรยี นรู้ ภมู ศิ าสตร์

- แ บบวัดและบนั ทกึ ผล ทางกายภาพของทวปี Process) ภมู ศิ าสตร์ ม.3 - การคดิ เชงิ พ้ืนที่

การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ อเมรกิ าเหนือและ - ตรวจใบงานท่ี 1.2 - การคิด

ม.3 ทวีปอเมริกาใต ้ได้ (K) - ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน แบบองค์รวม

- แบบทดสอบหลงั เรียน 2. ระบุและเลือกใชร้ ะบบ - ตรวจผลงาน/ช้นิ งาน - การใช้เทคโนโลยี

- PowerPoint สารสนเทศและสถติ ิ - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ� งาน

- ใบงานที่ 1.2 ทางภูมศิ าสตร์ เพอื่ รายบุคคล

สืบคน้ ข้อมลู เก่ยี วกับ - ส ังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน

ลกั ษณะทางกายภาพ กลมุ่

ของทวีปอเมริกาเหนอื - ป ระเมินคณุ ลักษณะ

และทวีปอเมรกิ าใต้ ได้ อันพึงประสงค์

(P) - ต รวจแบบทดสอบหลังเรียน

3. สนใจศึกษาระบบ

สารสนเทศและสถิติ

ทางภูมศิ าสตร์ อันเป็น

หนึง่ ในเครือ่ งมือทาง

ภมู ิศาสตร์ เพ่อื การ

สืบคน้ ขอ้ มลู และใช้

ประโยชน์ในชีวิตประจำ�

วันเพม่ิ มากขึ้น (A)

T3

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั นาํ (Geographic Inquiry Process) ๑ แผนที่เฉพาะเร่อื งและหนว่ ยการเรยี นรทู ่ี
เคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตร์
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช 㹡ÒÃÈÖ¡ÉÒ
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอ่ื เรอ่ื งทจี่ ะเรยี นรู ลกั ษณะทำงกำยภำพของ
จดุ ประสงคการเรียนรู ทวีปอเมริกำเหน�อและทวีป
อเมริกำใต ้ ควรใช้เคร่อื งมือ
2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย ชนิดใดในกำรสบื ค้นข้อมลู
การเรียนรูที่ 1 เร่ือง แผนท่ีเฉพาะเรื่องและ เพรำะเหตใุ ด
เคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร

3. ครจู ดั กจิ กรรมการสบื คน “maps competition”
เพ่ือกระตุนความสนใจ/กระตุนความคิด
เกย่ี วกบั แผนทเี่ ฉพาะเรอื่ ง เพอื่ นาํ เขา สกู ารเรยี น
โดยใหนักเรียนแบงกลุม แตละกลุมมีจํานวน
สมาชิกเทาๆ กัน จากนั้นใหแตละกลุมใช
สมารตโฟนแขงขันกันสืบคนแผนที่ท่ีแสดง
ขอมูลเก่ียวกับทวีปอเมริกาเหนือหรือทวีป
อเมริกาใตในดานตางๆ จากอินเทอรเน็ต
กลมุ ใดสามารถสบื คน ไดม ากทส่ี ดุ ภายในระยะ
เวลา 5 นาที จะถือเปนผูชนะ

4. ครูใหนักเรียนวิเคราะหภาพและคําถาม (Big
Question) หนาหนวยการเรียนรูท่ี 1 จาก
หนังสือเรียน ภูมิศาสตร ม.3 แลวรวมกัน
อภิปรายเช่ือมโยงเก่ียวกับความสัมพันธ
ของภาพ คําถาม และกิจกรรมการสืบคน
“maps competition”

แผนที่เฉพาะเรื่องเป็นเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ส�าคัญใน ตวั ชีว้ ดั ส ๕.๑ ม.๓/๑
การศกึ ษาขอ้ มลู หรอื ปรากฏการณ ์ใดปรากฏการณห์ นงึ� ทเ่ี กดิ ขนึ้ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
บนพื้นที่หนึ�ง การเลือกใช้แผนท่ีเฉพาะเรื่อง การอ่านและ • การเลือกใช้แผนที่เฉพาะเร่ืองและ
แปลความหมายของแผนที่เฉพาะเรื่องอย่างถูกต้อง รวมทั้ง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูล
การเลือกใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์อ่ืน ๆ ในการสืบค้นข้อมูล ลักษณะทางกายภาพของทวีป
จะท�าให้สามารถวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพและสังคมของ อเมรกิ าเหน�อและทวีปอเมรกิ าใต้
ทวปี อเมรกิ าเหน�อและทวปี อเมริกาใต ้ได้อย่างถกู ตอ้ ง

เกร็ดแนะครู

ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรูโดยใหนักเรียนใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการรวบรวม วิเคราะห และนําเสนอขอมูลเก่ียวกับลักษณะทางกายภาพ
และสังคมของทวีปอเมริกาเหนือและทวปี อเมริกาใต โดยจัดกิจกรรม ดงั นี้

• ฝกทักษะการใชเ ครื่องมือทางภูมิศาสตร เชน การใชแผนทเ่ี ฉพาะเรื่อง หรอื เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตรประเภทอื่นๆ
• ใชก ระบวนการทํางานกลุมอยางเปน ขั้นตอนและมปี ระสทิ ธภิ าพเพือ่ เรยี นรูและสรปุ ผลเกยี่ วกับเคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร

T4

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

๑ แผนทเ่ี ฉพาะเรื่อง (thematic map) ขนั้ นาํ

พื้นท่ขี อ๑แงผ.โ๑นลกทดี่เแฉวผพยสานัญะทเลรื่อจ่ีกั งษดุ เณป2นแ(dแบoผบนtตทา mงี่แๆสaดpแงส)ขดองมบูลนขแอผงนสทิ่งต่ฐี าานง1ๆมกี หารรือนปํารเสานกฏอขกอารมณูลทดี่เังกนิด้ีข้ึนบริเวณ 5. ครนู าํ PPT ทแี่ สดงขอ มลู เกย่ี วกบั ตวั อยา งแผนที่
เฉพาะเรื่องแตละประเภทมาใหนักเรียนดู
แผนทจ่ี ดุ ใชส าํ หรบั แสดงตาํ แหนง ของสงิ่ ตา ง ๆ ตามบรเิ วณทป่ี รากฏในพน้ื ที่ ทาํ ใหไ ดข อ มลู และทายเพื่อกระตุนความสนใจและเปนการ
ความหนาแนน และแบบรปู การกระจายของส่งิ ตา ง ๆ นนั้ เชน แผนที่จุดความสูงของภมู ิประเทศ นําเขาสูบทเรียน จากน้ันใหนักเรียนดูแผนท่ี
แสดงจดุ ความสงู ของภมู ปิ ระเทศในสหรฐั อเมรกิ า
ตัวอยา่ ง แผนทจ่ี ุด ใหต วั แทนออกมาชตี้ าํ แหนง จดุ สงู สดุ และลาํ ดบั
รองๆ ลงมา ครตู งั้ ประเดน็ อภปิ ราย เชน
• จากแผนทสี่ ามารถอธบิ ายถงึ ลักษณะ
ภมู ปิ ระเทศของสหรฐั อเมรกิ าไดอ ยา งไรบา ง

แผนทจ่ี ุดความสูงของภมู ิประเทศในสหรัฐอเมรกิ า

120 Wํ 110 Wํ 100 Wํ 90 Wํ 80 Wํ 70 Wํ
แ ค น า ด า2เม,4า2น9ตโอลิมปส มาตราสวน 1 : 32,500,000 0 500 1,000 กม.
บอลด8เ ม31านเทน
4เม,3า9น2ตเ รเนย� ร ฮ2,า2ร0น7�ยพ กี
เมาน3ต,2เ 8บ6เกอร เมานต3ค,1ล9ฟี 0แลนด มอนตเ9ต6ร8มบลันต
อิชพา6ต9นิ3ารดิ จ แอดริ อน1,แ6ด2็ก9 1เม,9า1น7ตวอชิงตัน
เม3า,น42ต6ฮดู ซากา2จ,9า9เว9ยี พีก แ3,ท0ร9ป6เปอรพ3เกี ค,4ร1ซ7พี ีก อเี กิลเมา7น0ต1

2เม,7า5น1ตเ อดดี โบ3ร,า8ห5พ9 ีก แ4,ก1ร9น9ดทที อน เมานตวิตนย�  สูง 4,418 เมตร 4ส,2ไล0ด0 40 Nํ
40 ํN 4เม,3า2น2ตแ ชสตา แก4น,2น0ติ 7พกี
ยอดเขาสูงสดุ ของสหรัฐอเมริกา
ล4,อ3ง4ส6พ กี โดยไมรวมรฐั อะแลสกา
ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า1จ,นู 7เิ8พ7โรเซไอวรตร4เ าม,3พา4กีน2เทน4เม,4า1น8ตว ติ นย� วีเล3อ,ร9พ8ฮกี2เมมั าฟ3น,ร83ตีย58พคส174ิงพลี7,ส1กี 2พ 3ีกเ4ม,3า9น9ตเ อลเบิรตบอลแซ1ม,แ4บ36ร 1ส,ป4ร8ูซ2นอ็ บ
แซน3ก,อ5ร0โ5กน�โอ 2เม,0า3น7ตม ิตเชลล
อ4,นั 3ค6อ1มพาหเ กร2ฟพ,ช9กี เ3ช4อรสพีก แ83ม9กกาซีนเมาตเทน
ท3รชู,9ัส9พ3ีก คลงิ แ2,ม0น2ส5โดม

30 ํN N บอ3,ล4ด7ีพ6ีก เ3ซ,6ีย4ร9ราแบลง็ กาพีก มหาสมทุ ร 30 Nํ
ก2,ว6า6ด7าลปู พีก แอตแลนติก
ปก าโช3เ,ด0ล6เ9ดียโบล แมกกาซีนเมาตเ ทน สูง 839 เมตร
พ2,มั01เม8ิลพีก ยอดเขาสูงนอยท่สี ดุ ของสหรัฐอเมรกิ า
คำอธิบายสัญลกั ษณ เซร2โร,7ก8ร0นั เด อยูบรเิ วณทรี่ าบตอนกลางของประเทศ
จดุ ยอดเขา (เมตร) เ ม็ ก ซิ โ ก อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก
3เซ,3ร4โร8โมอโิ นรา
เขตประเทศ

120 ํW 110 Wํ 100 ํW 90 ํW 80 ํW

จากแผนที่จุดความสูงของภูมิประเทศในสหรัฐอเมริกา แสดงจุดยอดเขาและคาความสูง
มีหนวยเปนเมตร พบวา ยอดเขาที่มีความสูงท่ีสุดในสหรัฐอเมริกา คือ ยอดเขาเมานตวิตนีย
สงู ๔,๔๑๘ เมตร และยอดเขาทม่ี คี วามสงู นอ ยทสี่ ดุ คอื ยอดเขาแมกกาซนี เมาตเ ทน สงู ๘๓๙ เมตร
อยูตอนกลางของประเทศ สังเกตไดวา การกระจายของจุดยอดเขามีมากทางทิศตะวันตกของ
ประเทศ เนอื่ งจากลกั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน กลมุ เทอื กเขาสงู วางตวั แนวเหนอื -ใต สว นบรเิ วณที่ไมม ี
จดุ ยอดเขาเนอ่ื งจากลักษณะภูมปิ ระเทศเปนท่ีราบ เชน บรเิ วณตอนกลางของประเทศ

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

ขอมลู ในลักษณะใดไมนยิ มนาํ มาจัดทาํ เปน แผนทเี่ ฉพาะเร่ือง 1 แผนทฐี่ าน แผนทซ่ี งึ่ แสดงขอ มลู ขา วสารมลู ฐานบางอยา ง ใชเ ปน หลกั สาํ หรบั
1. ขอ มลู เกยี่ วกบั ระดับความสงู ตา่ํ ของพื้นท่ี นาํ ขอ มลู ลกั ษณะเฉพาะเพม่ิ เตมิ มาประกอบหรอื พมิ พท บั ลงไป อนง่ึ ยงั หมายถงึ
2. ขอมลู สถิติการเลี้ยงสตั วเ พ่อื การคาของประเทศชิลี แผนทซ่ี งึ่ มขี อ มลู ทง้ั หมดทสี่ ามารถนาํ มาใชท าํ แผนทแี่ สดงขา วสารเฉพาะไดด ว ย
3. ขอ มลู การเดนิ ทางของนกั ทอ งเทย่ี วในทวปี อเมรกิ าเหนอื 2 แผนท่ีจุด แผนท่ีภูมิศาสตรชนิดหน่ึงซึ่งแสดงใหเห็นปริมาณของสิ่งตางๆ
4. ขอมูลการเกดิ ไฟปาในรฐั แคลฟิ อรเนยี ของสหรัฐอเมรกิ า ดวยจุด โดยกําหนดใหจุดแตละจุดแทนปริมาณของสิ่งที่ตองการแสดง เชน
1 จุด แทนประชากร 500 คน หรือ 1 จุด แทนจาํ นวนสัตวเล้ยี ง 1,000 ตัว
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. เพราะขอมลู ระดับความสูงตํา่ ของ
พื้นท่มี ักแสดงลงบนแผนทภี่ มู ิประเทศ ซ่ึงทาํ ใหเห็นความแตกตา ง
ของระดบั ความสงู ของลักษณะภูมิประเทศไดช ดั เจนมากกวา)

T5

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๑.๒ แผนทส่ี ดั สวน (proportional map)

ข้นั ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภูมิศาสตร แผนท่ีแสดงด้วยสัญลักษณ์สัดส่วน ใช้ส�าหรับแสดงจ�านวนและชนิดของข้อมูลหลายชนิด

1. ครูกระตุนใหนักเรียนเชื่อมโยงความสําคัญ  พรอ้ มก๑นั )ไ ดแ ้ โดผยนใทชส้่ีสญั ัดลสกั ่วษนณแร์ ผปู นทรภงูมเริแขทาค่งณเดติ ี่ยแลว1ะ แใผชน้แภผมูนแิภบูมบิแตทา่ ่งง แๆส ใดหงม้ สขี ัญนาลดักเษปณน็ ส์แดั ผสนว่ นทก่ีวบาั งขซอ้ ้อมนลู
ของการศึกษาแผนท่ีเฉพาะเร่ืองกับการศึกษา
เก่ยี วกับทวปี อเมรกิ าเหนือและทวีปอเมรกิ าใต ในแทง่ เดยี วกนั โดยความสงู ของแผนภมู แิ ทง่ เปน็ สดั สว่ นกบั คา่ ของขอ้ มลู มกั เปน็ ขอ้ มลู ชนดิ เดยี ว
จากกจิ กรรม “maps competition” จากขน้ั นาํ แต่มีหลายช่วงเวลาท่ีมีค่าของข้อมูลเพ่ิมข้ึนจากเดิม เพ่ือเปรียบเทียบข้อมูลในแต่ละช่วงเวลา
ท่ีผานมา แลวต้ังประเด็นคําถามตอยอด ของพ้นื ท่หี นง่ึ ๆ
เพิ่มเติม เพื่อกระตุนและเช่ือมโยงใหนักเรียน
ต้ังประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรเก่ียวกับ ตวั อย่าง แผนทีส่ ดั สวนแผนภมู แิ ทง เด่ียว
แผนท่ีเฉพาะเรอ่ื ง เชน
• ทําไมจึงตองใชแผนท่ีหลายประเภทใน แผนทีก่ ำรสญู เสียพืน้ ทป่ี ำ แอมะซอนในแต่ละรฐั ของบรำซิล 40 Wํ
การสืบคนขอมูลในทวีปอเมริกาเหนือและ 70 Wํ 60 ํW 50 ํW
ทวีปอเมริกาใต
• แผนที่เฉพาะเรื่องแตละประเภทมีขอจํากัด เวเนซเุ อลา กายอานา มหาสมุทร การสญู เสยี พ้นื ทีป่ า
ดานการใชงานที่เหมือนหรือแตกตางกัน แอตแลนตกิ (ตารางกโิ ลเมตร)
อยา งไร ซรู นิ าม
• นักเรียนเคยใชแผนท่ีเฉพาะเร่ืองในชีวิต โคลอมเบีย พ.ศ.
ประจําวันบา งหรอื ไม อยา งไร 2,200 3,800 7,500 2560
จากนัน้ ใหน กั เรยี นฝกทกั ษะการอา นและ โรไรมา 11,800 อามาปา 2553
แปลความแผนทแี่ สดงการสญู เสียพ้ืนท่ี 2546
ปา แอมะซอน โดยครูตัง้ ประเดน็ คําถาม เชน 0 ํ 1,500 3,000 800
• บรเิ วณใดมีการสูญเสยี ปามากที่สุด 950 900 900 เสนศนู ยส ตู ร 0 ํ
• โดยรวมการสูญเสยี พืน้ ที่ปา เปน อยา งไร 600 มารันเยา
• เมื่อพิจารณาภาพรวมแลวสถานการณปา 1,000 1,200 ปารา
ถูกทําลายมีแนวโนมอยางไร และสงผล อามาโซนสั 450
กระทบตอสงิ่ แวดลอ มของโลกอยา งไร
800
อากรี

10 Sํ รอนโดเนย� โตกังตงิ ส 10 ํS

เ ป รู

โ บ ลิ เ วี ย มาตูโกรสซู บ ร า ซิ ล คำอธิบายสญั ลักษณ
เขตประเทศ
บราซิเลีย เขตรฐั
ทางนำ้
N มาตราสว น 1 : 40,000,000 0 500 1,000 กม.

ท่มี ำ : www.ra7i0nWํforests.mongabay.com 60 Wํ 50 Wํ 40 ํW
จากแผนทีก่ ารสูญเสียพื้นท่ีปาแอมะซอนในแตล่ ะรฐั ของบราซลิ พบว่า รฐั มาตูโกรสซูมีการ
สญู เสยี พน้ื ทีป่ าสะสมมากทสี่ ดุ ถึง ๑๔,๒๐๐ ตารางกิโลเมตร โดยเฉพาะใน พ.ศ. ๒๕๔๖ สูญเสยี
พ้ืนทป่ี าถงึ ๑๑,๘๐๐ ตารางกโิ ลเมตร โดยรวมแลว้ พน้ื ท่ปี า แถบล่มุ น้า� แอมะซอนมกี ารสูญเสียปา
เเมพอ่ืิ่มรขว้ึนมทกุกบั ป พน.ับศ.จ ๒าก๕ ๕พ๓. ศแ.ล ๒ะ ๕พ๔.ศ๖. ๒ท๕ี่ส๖ูญ๐ เขสอ้ียมพลูื้นททแี่ ่ีปสาดเงปเ็นปจน็ �าแนผวนนภมมู าแิ กทในง่ เทดุกยี่ รวัฐซแอ้ ลน2ะขสอ้ ูญมเลู สกียนั เพ ๓่ิม ชขนั้้ึน
แสดงการสญู เสยี พนื้ ทป่ี าเพม่ิ มากข้ึนจากปท่ีผา่ นมา

นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย

1 แผนภมู แิ ทง เดยี่ ว แผนภมู ทิ ใ่ี ชส าํ หรบั ขอ มลู ชดุ เดยี ว และแสดงลกั ษณะของ นกั เรยี นจบั คสู บื คน ขอ มลู ทางภมู ศิ าสตรม า 1 เรอ่ื ง แลว นาํ มา
ขอมูลทส่ี นใจเพยี งลักษณะเดยี ว เชน มูลคาการสง ออก การสูญเสียพ้ืนท่ีปา ไม จัดทําเปน แผนที่จุดและแผนท่สี ัดสวน (โดยใหเ ลือกแผนทส่ี ดั สว น
2 แผนภูมิแทงเด่ียวซอน เปนแผนภูมิแทงที่แสดงการเปรียบเทียบขอมูล แผนภมู แิ ทง เดย่ี ว หรอื แผนทสี่ ดั สว นแผนภมู แิ ทง แบบผสมอยา งใด
ต้งั แต 2 ลักษณะ หรอื 2 ชวงเวลาขน้ึ ไปบนแกนเดียวกัน ซึง่ จะทาํ ใหเห็นภาพ อยา งหนง่ึ ) จากนนั้ ทาํ การวเิ คราะหต คี วามขอ มลู แลว สรปุ ผลนาํ สง
การเปล่ียนแปลงและการเปรยี บเทียบขอมูลหลายขอมลู มากขน้ึ แทนท่จี ะนาํ มา ครูผสู อน
เปรยี บเทยี บเปนขอ ความหรอื ตาราง

T6

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

  ๒) แผนที่สัดส่วนแผนภูมิแท่งแบบผสม ใช้แผนภูมิแท่งแสดงสัญลักษณ์แผนที่ โดย ขน้ั สอน

ความสงู ของแผนภมู แิ ทง่ เปน็ สดั สว่ นกบั คา่ ของขอ้ มลู มขี อ้ มลู หลายชนดิ เปรยี บเทยี บกนั ในพน้ื ทห่ี นง่ึ ขนั้ ที่ 1 การต้งั คาํ ถามเชิงภูมศิ าสตร

ตัวอยา่ ง แผนทีส่ ัดสว นแผนภูมิแทงแบบผสม 2. ใหนักเรียนรวมกันต้ังประเด็นคําถามทาง
ภูมิศาสตรเกี่ยวกับแผนท่ีเฉพาะเรื่อง เพื่อ
แผนทีม่ ลู คำ่ ของแร่โลหะมคี ่ำในแตล่ ะรฐั ของแคนำดำ พ.ศ. ๒๕๖0 คน หาคําตอบ โดยครูแนะนําเพม่ิ เติม เชน
160 ํ W 150 ํ W 140 ํ W 120 ํ W 100 ํ W 80 ํ W 60 ํ W 40 ํ W 30 ํ W 20 ํ W • แผนที่เฉพาะเรอ่ื งและเครอื่ งมือทาง
ภมู ศิ าสตรมคี วามสาํ คญั ตอการศึกษาทวปี
มูลคา แรโลหะ อเมริกาเหนือหรือทวีปอเมรกิ าใตอ ยา งไร
(พนั ดอลลารสหรฐั ) • แผนทเี่ ฉพาะเรอ่ื งแตละประเภทมีความ
ทองแดง 60 ํ N เหมอื นหรอื แตกตา งกนั อยา งไร
จากนน้ั ใหน กั เรยี นอา นและแปลความแผนที่
อะแลสกา ทองคำ แสดงมูลคาของแรโลหะมีคาในแตละรัฐของ
เงนิ แคนาดา โดยสมุ ตวั แทนออกมาชตี้ าํ แหนง รฐั ทมี่ ี
แรท องแดง ทองคาํ เงนิ มากทสี่ ดุ และใหช ว ยกนั
151,967 $ บอกวาแรเหลาน้ีใชประโยชนในอุตสาหกรรม
150,048 $ อะไรบาง
12,836 $
60 ํ N
650,008 $ ทะเลแลบราดอร
ยคู อน 6,058 $

2,311,621 $ นอรท เวสตเทรรทิ อรสี  นนู าวุต 246,352 $ 50 ํ N
884,909 $ 33,014 $
42,508 $ อาวฮดั สนั 1,005 $

50 ํN บริติชโคลมั เบีย 1,129 $ 153,323 $ นวิ ฟน ดแ ลนดแ ละแลบราดอร
55 $
แอลเบอรต า 296,331 $ 2,802 $
299,872 $ 2,987,298 $ 17,583 $
207,871 $ 65,279 $
28,984 $
1,333,474 $
3,998,723 $
87,360 $
แมนโิ ทบา ควเิ บก นิวบรนั สวกิ
ออนแทรีโอ โนวาสโกเชยี 40 ํN
ซสั แคตเชวนั

ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า คำอแมธอบิหตาาเยแขสสลตัญมปนลรทุ ตะักรเกิทษศณ

40 ํ N เขตรัฐ

N มาตราสว น 1 : 43,000,000 0 500 1,000 กม.

120 ํ W 110 ํ W 100 ํ W 90 ํ W 80 ํ W 70 ํ W

ทม่ี ำ : www.sead.nrcan.gc.ca

จากแผนทม่ี ลู คา่ ของแรโ่ ลหะมคี า่ ในแตล่ ะรฐั ของแคนาดา พ.ศ. ๒๕๖๐ พบวา่ แตล่ ะรฐั มลู คา่
จากการผลิตแรแ่ ตกต่างกัน เชน่ รัฐออนแทรีโอมีมลู คา่ จากแร่ทองค�ามากทีส่ ดุ รัฐบริตชิ โคลัมเบีย
มมี ูลคา่ จากแร่ทองแดงมากทส่ี ดุ วิธแี สดงแผนภมู ิแทง่ ลักษณะน้เี พอ่ื ให้เกิดการเปรยี บเทียบข้อมูล
ต่างชนดิ กันหรอื ชนิดเดียวกนั แต่ตา่ งชว่ งเวลากนั

Q? euoestion
ข้อมูลสถิติทางภูมิศาสตร์ท่ีใช้แสดงผลลงบนแผนที่สัดส่วนแผนภูมิแท่งเดี่ยวมีลักษณะแตกต่างจาก
ข้อมูลท่แี สดงลงบนแผนทสี่ ดั ส่วนแผนภูมิแทง่ แบบผสมอย่างไร

ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู

ขอใดเปน วิธแี สดงขอมลู ในแผนที่สดั สวนแผนภูมแิ ทง แบบผสม ครูแนะนํานักเรียนเก่ียวกับแผนท่ีเฉพาะเรื่องวา เม่ือนักเรียนรูวาตองการ
1. ขอมูลทีแ่ สดงตองไมซํ้ากัน ศึกษาขอมูลทางภูมิศาสตรเรื่องใดแลว ยังตองมีความรู ความเขาใจเก่ียวกับ
2. ขอ มูลท่แี สดงไมค วรตง้ั ซอ นกันเกิน 3 ชั้น สัญลักษณตางๆ ที่จะใชนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตรลงบนแผนท่ีดวย เชน
3. ควรแสดงขอมูลชนิดเดียวกนั ในชวงเวลาเดียวกัน สญั ลกั ษณจ ดุ ใชน าํ เสนอขอ มลู จาํ นวนและการกระจายของประชากร จดุ หนาแนน
4. ควรแสดงเพ่อื ใหเกิดการเปรยี บเทียบขอ มูลตา งชนิดกนั ติดกันแสดงวาบริเวณนั้นมีประชากรอยูหนาแนน หากจุดอยูหางกันแสดงวา
ประชากรเบาบาง สัญลักษณเสนเทา ใชนําเสนอขอมูลปริมาณฝน อุณหภูมิ
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอ่ื งจากแผนทส่ี ดั สว นแผนภมู แิ ทง และระดบั ความสงู ของภูมิประเทศ สญั ลกั ษณวงกลมสดั สวน ใชน ําเสนอขอ มูล
แบบผสมเปนการนาํ ขอ มูลเชงิ สถิตติ ง้ั แต 2 ชนิดขนึ้ ไป มาแสดง จาํ นวนประชากร โดยขนาดวงกลมใชแ สดงคา ปรมิ าณขอ มลู เชน เมอื งทมี่ จี าํ นวน
ลงบนแผนท่ี เพื่อเปรียบเทียบใหเห็นความแตกตางของขอมูล ประชากรมาก วงกลมจะมขี นาดใหญ เมอื งทมี่ จี าํ นวนประชากรนอ ย วงกลมจะมี
ตา งชนดิ กัน) ขนาดเลก็ สญั ลกั ษณแ ผนภมู แิ ทง ใชเ ปรยี บเทยี บปรมิ าณขอ มลู เชน ขอ มลู รายได

ประชากรในเมืองตางๆ ขอ มูลเน้ือที่ปา สัญลักษณส ี ใชแ ทนปรมิ าณและความ
หนาแนน ของขอ มลู เชน บรเิ วณทม่ี ปี ระชากรอาศยั อยหู นาแนน หรอื มคี วามเสย่ี ง
เกดิ ภยั ธรรมชาตมิ ากจะมสี เี ขม สว นบรเิ วณทเี่ สยี่ งนอ ยจะมสี อี อ นตามลาํ ดบั กจ็ ะ
ชวยใหนักเรียนเลือกใชแผนที่เฉพาะเรื่องในการศึกษาขอมูลทางภูมิศาสตร
ท่ีตอ งการไดอ ยางเหมาะสม T7

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๓) แผนท่ีสัดส่วนแผนภูมิวงกลม ใช้แผนภูมิรูปวงกลมและแผนภูมิสัดส่วนรูปวงกลม1

ขนั้ ที่ 1 การต้ังคําถามเชงิ ภมู ศิ าสตร แสดงข้อมูลต่าง ๆ

ครใู หน กั เรยี นดแู ผนทแ่ี สดงจาํ นวนประชากร ตวั อย่าง แผนทแี่ ผนภมู ิขนาดวงกลม
ในเขตเมอื งของภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง ใหน กั เรยี น
ชต้ี าํ แหนง เมอื งทม่ี ปี ระชากรอาศยั อยหู นาแนน แผนที่จ�ำนวนประชำกรในเขตเมอื งของภูมภิ ำคอเมริกำกลำง
และเบาบาง ครตู งั้ ประเดน็ อภปิ รายจากการอา น
และแปลความแผนท่ี เชน 110 Wํ 100 Wํ 90 ํW 80 Wํ 70 ํW

• ทาํ ไมเมก็ ซโิ กจงึ มปี ระชากรอาศยั อยมู าก N มาตราสว น 1 : 35,000,000 0 500 1,000 กม.
• ทําไมหลายพื้นที่จึงมีประชากรอาศัยอยู
30 ํN ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า 30 Nํ
เบาบาง
จากน้ันครูต้ังประเด็นใหนักเรียนรวมกัน มหาสมทุ ร
ตอบคาํ ถามและทาํ กจิ กรรม หากบรษิ ทั นาํ เทย่ี ว แอตแลนตกิ
ตอ งการนาํ เสนอโปรแกรมทวั รท วปี อเมรกิ าเหนอื เ ม็ ก ซิ โ ก
หรือทวีปอเมริกาใต ที่ครอบคลุมท้ังดานการ บาฮามาส
เดนิ ทาง กจิ กรรมทีน่ า สนใจ อาหาร และทพ่ี ัก อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก
ควรจะตอ งใชข อ มลู และแผนทอ่ี ะไรบา งในการ 20 Nํ ฮาวานา แนสซอ โดมินิกัน 20 Nํ
นาํ เสนอ เม็กซโิ กซติ ี
คิ ว บ า ซานโตโดมิงโก

ประชากรในเมอื ง (คน) เบเลบโมลแีซพนฮอนดรู จสั าเมกา คงิ สตนั เปฮอตรโติ แปรงซ
มากกวา 5,000,000 กัวเตเมกอวั าเลตลมซาาซลลั าานซวซิตาัลี วดาดออรร  เตกซู กิ ัลปา ทะเลแคริบเบยี น

10 ํN 1,000,001-5,000,000 นกิ ารากัว ปานามาซติ ี คำอธบิ ายสัญลกั ษณ 10 ํN
110 Wํ 500,001-1,000,000
250,001-500,000 มานากัว
100,001-250,000 ซานโฮเซ
50,000-100,000
คอสตารกิ า ปานามา เมืองหลวง

โคลอเขมตเปบระยี เทศ

100 ํW 90 ํW 80 ํW

ท่ีมำ : www.citypopulation.de

จากแผนที่จ�านวนประชากรในเขตเมืองของภูมิภาคอเมริกากลาง ใช้วงกลมขนาดต่าง ๆ
แทนค่าของจา� นวนประชากรในเมืองและใชส้ ีแดงแสดงเมอื งหลวง เช่น เม็กซโิ กซิต ี ทม่ี ปี ระชากร
ในเมืองมากกว่า ๕,๐๐๐,๐๐๐ คน อย่างไรก็ดี แผนท่ีนี้ไม่ได้แสดงเมืองท่ีมีประชากรน้อยกว่า
๕๐,๐๐๐ คน เนอ่ื งจากแผนทม่ี มี าตราส่วนเล็ก จึงไม่สามารถแสดงข้อมูลได้ทง้ั หมด

Q? euoestion
ข้อมูลสถิติทางภูมิศาสตร์ใดบ้างที่นิยมน�ามาแสดงผลในรูปแบบแผนที่แผนภูมิขนาดวงกลม
เพราะเหตุใด

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด

1 แผนภมู สิ ดั สว นรปู วงกลม เปน การนาํ เสนอขอ มลู ลงในพน้ื ทว่ี งกลม โดยแบง แผนทส่ี ดั สว นแผนภมู วิ งกลม แบง สว นในวงกลมตามขนาดของ
พ้ืนท่ีในรูปวงกลมออกเปนสวนยอยๆ ตามสวนของปริมาณขอมูลที่ตองการ ขอมูลในขอ ใด
เปรียบเทียบ การแบงพื้นที่น้ีจะแบงมุมที่จุดศูนยกลางของรูปวงกลมตาม
อัตราสวนของขอมูลท่ีตองการ ซึ่งมุมรอบจุดศูนยกลางมีขนาดเทากับ 360 1. แบง เปนรปู ทรงเรขาคณติ
องศา แผนภูมิสัดสวนรูปวงกลมนิยมใชเม่ือตองการเปรียบเทียบจํานวนยอยๆ 2. แบง เปนวงกลมขนาดใหญ
กับจํานวนท้ังหมด และเปรียบเทียบจํานวนยอยๆ ดวยกันเอง เหมาะแกการ 3. แบง เปนคา รอยละของขอมลู
นําเสนอขอมลู จํานวนรอยละ (เปอรเ ซน็ ต) 4. แบง เปนขอ มลู เชิงซอนในวงกลมเดียวกนั

(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. แผนทส่ี ดั สว นแผนภมู วิ งกลมใชแ สดง
ปรมิ าณของขอ มลู โดยแสดงคา ปรมิ าณของขอ มลู ในลกั ษณะวงกลม
สัดสวนรอยละ หรอื คดิ เปน เปอรเซน็ ต)

T8

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ตัวอย่าง แผนที่แผนภมู ิสัดสวนรปู วงกลม ขน้ั สอน

แผนทพี่ ยำกรณร้อยละของประชำกรบรเิ วณทำงตอนเหนอื ของทวีปอเมรกิ ำใต้ พ.ศ. ๒๕๖๓ ขัน้ ที่ 2 การรวบรวมขอมูล

80 Wํ 70 Wํ เวเนซุเอลา 60 ํW 50 Wํ 1. จากประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรในข้ันท่ี 1
10 Nํ 28,435,943 คน คำอธิบายสัญลักษณ ครูใหนักเรียนแตละคนเลือกประเด็นคําถาม
โคลอมเบีย มหาสมุทร เขตประเทศ ทางภูมิศาสตรเก่ียวกับแผนท่ีเฉพาะเร่ืองท่ี
50,882,891 คน 13% 14% แอตแลนติก อยากเรียนรู 1 คําถาม จาก 4 คาํ ถาม แลว ให
10 ํN แยกยา ยกนั ไปหาเพอ่ื นทมี่ ปี ระเดน็ ความอยากรู
เหมอื นกันใหไดจาํ นวน 6 - 8 คน เพอื่ จัดกลมุ
11% 11% 31% 30% 7ก86า,ย5อ5า9นคาน ซูรนิ าม เฟรนชเกยี นา รวมกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับแผนที่เฉพาะ
เรื่อง จากหนงั สือเรียน ภูมิศาสตร ม.3 หรือ
33% 32% 7% 5% 14% 14% 586,634 คน 298,682 คน แหลง เรยี นรตู า งๆ ซง่ึ แตล ะกลมุ จะตอ งรบั ผดิ ชอบ
ศกึ ษาและตอบประเดน็ คาํ ถามกลมุ ละ 1 คาํ ถาม
10% 30% 31% 13%14% 16%16% ทเี่ ลอื กไว และทกุ กลมุ จะตอ งรบั ผดิ ชอบศกึ ษา
33% 31% 31% 30% 29% และตอบประเด็นคําถามขอท่ี 4 เหมือนกัน
ทุกกลุม
17เอ,6ก43ว,า0ด54อครน 7% 6% 6% 5% 6% 5% 5% 4%
11% 2. ครใู หน กั เรยี นฝก ทกั ษะการอา นและแปลความ
13% 14% เสนศนู ยสตู ร 0 ํ แผนที่เพิ่มเติม โดยการอานและแปลความ
แผนท่ีพยากรณรอยละของประชากรบริเวณ
0ํ บ ร า ซิ ล ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต โดยการ
ตง้ั ประเด็นคําถาม เชน
31% 31% 32% 212,559,409 คน • ทาํ ไมประเทศบราซลิ จงึ มขี นาดวงกลมใหญ
ท่ีสุด และสดั สว นประชากรเปน อยา งไร
6% 5% (แนวตอบ มปี ระชากรมากท่สี ุด มีวยั ทาํ งาน
12% 12% มากที่สุด)
ครอู าจแนะนาํ แหลง ขอมูลสารสนเทศ
32% 31% 8% 6% คาดการณสดั สว นประชากร พ.ศ. 2563 ทีน่ าเชอ่ื ถือ หรือใหน กั เรยี นดูตวั อยางแผนที่
เฉพาะเร่อื ง จากหนังสือเรียน ภูมศิ าสตร ม.3
เ ป รู 60 Wํ วัยเด็ก (0-14 ป) 10 Sํ ประกอบการศึกษาและรวบรวมขอ มลู เพม่ิ เติม
7% 6% 32,971,854 คน
10 ํS วัยทำงาน (15-59 ป)

N มาตราสว น 1 : 40,000,000 0 500 1,000 กม. วัยสงู อายุ (60 ปข ึ้นไป)

80 ํW 70 ํW 50 ํW

ที่มำ : www.worldometers.info

จากแผนที่พยากรณ์ร้อยละของประชากรบริเวณทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้
พ.ศ. ๒๕๖๓ ใช้ขนาดของวงกลมแทนจ�านวนประชากร พบว่า บราซิลมีวงกลมขนาดใหญ่ที่สุด
แทนประชากร ๒๑๒,๕๕๙,๔๐๙ คน ภายในวงกลมแบ่งเป็นสัดสว่ นร้อยละของประชากรเพศชาย
เพศหญิง และช่วงวัยต่าง ๆ กล่าวคือ มีเพศชายร้อยละ ๔๙ ของจ�านวนประชากรท้ังประเทศ
โดยเป็นวยั เด็กรอ้ ยละ ๑๑ วัยท�างานร้อยละ ๓๒ วัยสงู อายุรอ้ ยละ ๖ และมีเพศหญิงรอ้ ยละ ๕๑
ของจ�านวนประชากรทั้งประเทศ เป็นวัยเด็กร้อยละ ๑๐ วัยท�างานร้อยละ ๓๓ และวัยสูงอายุ
รอ้ ยละ ๘ บราซลิ เปน็ ประเทศขนาดใหญจ่ งึ มปี ระชากรมาก ในขณะทซี่ รู นิ ามเปน็ ประเทศขนาดเลก็
มปี ระชากรเพยี ง ๕๘๖,๖๓๔ คน จงึ มีวงกลมสัดส่วนประชากรขนาดเลก็ ตามสัดส่วนเมอ่ื เทยี บกบั
ประเทศอนื่ ๆ ซงึ่ สดั สว่ นโครงสรา้ งประชากรภายในวงกลมเทยี บกบั จา� นวนประชากรภายในประเทศ
เทา่ นั้น

กจิ กรรม สรา งเสริม เกร็ดแนะครู

นักเรียนสืบคนขอมูลสถิติเก่ียวกับทวีปอเมริกาเหนือ หรือ ครูอาจแนะนํานักเรียนเกี่ยวกับหลักการเขียนแผนภูมิสัดสวนรูปวงกลม
ทวีปอเมรกิ าใตใ นดา นตางๆ เชน ประชากร เศรษฐกิจ มา 1 เรอื่ ง ซึ่งมขี ั้นตอน ดังน้ี
แลว นาํ ขอ มลู มาจดั ทาํ ลงในแผนทแี่ ผนภมู สิ ดั สว นรปู วงกลม ตกแตง
ระบายสีใหสวยงามโดยแยกสีใหเห็นชัดเจน พรอมทั้งวิเคราะห 1. เมอ่ื ไดต วั เลขขอมลู สถิตมิ า นําขอมลู สถิตมิ าคาํ นวณใหเ ปนรอ ยละ
แปลความขอ มลู จากแผนท่ี 2. ทาํ การแบง พนื้ ทวี่ งกลม โดยแบง มมุ ทจ่ี ดุ ศนู ยก ลางของวงกลมใหม ขี นาด

ตามจํานวนขอ มลู ท่คี ดิ เปน เปอรเ ซ็นตห รอื รอ ยละ

T9

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๑.๓ แผนทเ่ี สน้ เทา 1(isoline map)

ข้ันท่ี 3 การจัดการขอ มูล แผนทเ่ี สน้ เทา่ แสดงเสน้ ทลี่ ากเชอ่ื มจดุ ตา่ ง ๆ ตามขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณของสง่ิ ตา่ ง ๆ ทม่ี จี า� นวน
เทา่ กนั ตลอดทั้งเส้น เชน่ ความกดอากาศ อณุ หภมู ิ ปรมิ าณฝน สามารถใชส้ ปี ระกอบได ้ โดยแบง่
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก ตามขอบเขตแตล่ ะสตี ามทข่ี อ้ มลู เทา่ กนั
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
ระหวางกนั ตัวอยา่ ง แผนทเี่ สน้ ฝนเทา

2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถี่ กู ตอ ง แผนทเ่ี ส้นฝนเทำ่ รำยปใ นทวีปอเมริกำใต้ แผนทป่ี รมิ ำณฝนเฉล่ียรำยปใ นทวปี อเมริกำใต้
มีความนาเช่ือถือ และจัดการคัดแยกขอมูล 80 Wํ 70 Wํ 60 Wํ 50 ํW 40 Wํ 80 ํWทะเลแครบิ เบยี 7น0 ํW 60 ํW 50 Wํ 40 ํW
ท่ไี มจําเปน ออก
ทะเลแครบิ เบยี น N 5ม0า0ตราส0วน 1 : 80,0010,0,00000กม. N 5ม0า0ตราส0ว น 1 : 80,0010,0,00000กม.
ขน้ั ที่ 4 การวิเคราะหแ ละแปลผลขอมลู
10 ํN 1800 16100000 มหาสมทุ รแอตแลนติก 1800 16100000 มหาสมทุ รแอตแลนติก 10 ํN
1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู 2200 2200
รว มกนั จากนนั้ นาํ เสนอขอ มลู ผา นการทาํ กจิ กรรม
“Agency tour” ตอ เนอ่ื งจากการตอบคําถาม 260030002200 3000 2200 2600
ทางภูมิศาสตร โดยใหแตละกลุมสวมบทบาท 0 ํ 228600002400
เปนบริษัททัวร ที่มีการกําหนดจุดเริ่มตนและ 228600002400 0ํ
จดุ หมายปลายทาง แลว อธบิ ายถงึ การเดนิ ทาง 10 ํS
กิจกรรมที่นาสนใจ อาหารและการพักแรม 10 ํS 2200 140102001000860000 2200 860000 20 ํS
โดยใชโปรแกรม Google Earth และแผนที่ ปรมิ าณฝน 2000 1401020010002000 30 ํS
เฉพาะเรอ่ื งประกอบการนําเสนอ (มิลลเิ มตร) 40 Sํ
จากนนั้ ใหน กั เรยี นอา นและแปลความแผนที่ 600 80100010200118410060000 ปรมิ าณฝน 600 80100010200118410060000 50 ํS
เสนฝนเทาและปริมาณฝนเฉล่ียรายปในทวีป 420000 (มลิ ลเิ มตร) 420000
อเมริกาใต ใหรวมกันวิเคราะหบริเวณท่ีมี
ฝนตกมากและฝนตกนอย โดยดูสีของเสน 20 ํS 3000 18010600 3000 2 18010600
ปริมาณฝนเทาและอภิปรายปริมาณฝนเฉล่ีย 2800 2800
รายป โดยดจู ากสีในแผนท่ี พรอ มทง้ั อภิปราย 2600 มหาสมทุ รแอตแลนติก 2600 มหาสมทุ รแอตแลนติก
ถงึ ผลจากปริมาณฝนดังกลาวตอพนื้ ท่ี 2400 มหาสมุทร 2400 มหาสมุทร
2200 แปซิฟก 2200 แปซิฟก
30 Sํ 2000 600800400 2000 600800400
1060000800 1060000800
1800 1800
1600 1600
1400 1400
40 Sํ 1200 1200

1000 200 1000 200
800 800
600 600
400 400
50 ํS 200 200

90 Wํ 80 ํW 70 ํW 60 Wํ 50 Wํ 40 ํW 30 ํW 20 Wํ 90 Wํ 80 ํW 70 ํW 60 ํW 50 Wํ 40 Wํ 30 Wํ 20 Wํ

ที่มำ : www.esrl.noaa.gov 2

จากแผนที่เส้นฝนเท่า เป็นการลากเส้นผ่านพ้ืนที่ท่ีมีค่าปริมาณฝนตกเฉลี่ยต่อปเท่ากัน
โดยใช้เสน้ สตี า่ ง ๆ ตามคา่ ปรมิ าณฝน สอี ่อนมปี ริมาณฝนตกนอ้ ย สีเข้มมีปรมิ าณฝนตกมาก และ
มเี ลขกา� กบั คา่ เสน้ ปรมิ าณฝน โดยแตล่ ะเสน้ มคี า่ หา่ งกนั ๒๐๐ มลิ ลเิ มตร ซง่ึ
สามารถใชส้ เี พอ่ื แสดงพนื้ ทที่ ไี่ ดร้ บั ปรมิ าณฝนเฉลย่ี เทา่ กนั ไดอ้ ยา่ งชดั เจนยงิ่ ขนึ้ 1014
1016
1014 1014

iepo 10 14
101201
6 1001180221014 1014
1018 1018
1016
  เส้นเท่าเกิดจากการประมาณค่าของข้อมูลในต�าแหน่งต่าง ๆ เช่น ค่าเฉลี่ย 1020 1018
101100800406
ความกดอาก3าศในแต่ละสถานีตรวจอากาศจะท�าให้สามารถลากเส้นความ 110010100611801106018014 11001220022410262101
L 988 1000 1018
กดอากาศเท่า (isobar) ผา่ นสถานตี า่ ง ๆ จนเกิดเป็นแผนทีค่ วามกดอากาศเท่า H L
1018 1026
๘ เพอ่ื บอกลักษณะของอากาศ ทิศทางการเคล่อื นทขี่ องลมและพายุ

นักเรียนควรรู กิจกรรม สรา งเสริม

1 แผนที่เสนเทา สามารถนําไปใชในการพยากรณอากาศ และยังสามารถ ครูเตรียมแผนท่ีเสนฝนเทาและแผนที่แสดงปริมาณน้ําฝน
นําไปใชวิเคราะหหาพ้ืนที่เสี่ยงตอการเกิดภัยพิบัติตางๆ ไดดวย เชน ภัยแลง ในทวีปอเมริกาใต หรือจากหนังสือเรียน มาอธิบายสัญลักษณ
ดนิ โคลนถลม อทุ กภัย ท่ปี รากฏในแผนท่ี แลวใหนักเรยี นอา นและแปลความ สุมนกั เรยี น
2 เสนฝนเทา เสนที่เชื่อมจุดตางๆ ในแผนที่ท่ีมีปริมาณน้ําฝนเทากันในชวง ออกมาช้ีตําแหนงในแผนท่ี เชน บริเวณท่ีมีฝนตกมาก บริเวณ
เวลาทก่ี าํ หนดไว ที่มีฝนตกนอย บริเวณที่มีปริมาณน้ําฝนมาก บริเวณท่ีมีปริมาณ
3 เสนความกดอากาศเทา เสนท่ีเช่ือมจุดตางๆ ที่มีความกดอากาศที่ระดับ นาํ้ ฝนนอ ย จากนนั้ ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถาม ใหน กั เรยี นชว ยกนั อภปิ ราย
ผิวพ้นื เทากนั จากการอานและแปลความในแผนที่ เชน บริเวณใดของทวีป
ที่เหมาะกบั การทําเกษตรกรรมเพ่อื การคา พรอมอธิบายเหตุผล

T10

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๑.๔ แผนที่แสดงการเคลื่อนที ่ (movement map) ขนั้ สอน

แผนท่ีแสดงการเคลื่อนที่แสดงให้เห็นข้อมูลท่ีมีการเคล่ือนย้ายจากต�าแหน่งหนึ่งไปยังอีก ขนั้ ที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมลู
ต�าแหนง่ หนง่ึ โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์เส้นและศรทศิ ทาง เช่น แผนทีเ่ สน้ ทางการจราจร
2. สมาชิกแตละกลุมรวมกันตรวจสอบความ
ตัวอยา่ ง แผนท่ีเส้นไหลเวยี น ถูกตองของขอมูล

แผนทีก่ ระแสน้�ำในมหำสมทุ รแปซิฟก 4,000 กม. 3. ตัวแทนกลุมนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน
40 ํE 60 ํE 80 Eํ 100 ํE 120 Eํ 140 ํE 160 ํE 180 ํ 160 Wํ 140 ํW 120 Wํ 100 Wํ 80 Wํ 60 ํW 40 ํW 20 ํW 60 Nํ สมาชิกกลุมอ่ืนผลัดกันใหขอคิดเห็น หรือ
60 Nํ N มาตราสวน 1 : 160,000,000 0 1,000 2,000 ขอเสนอแนะเพ่ิมเติม ตลอดจนอภิปราย
ความรูร วมกัน
40 ํN ทวีปเอเชยี โอยะชิโอ แปซฟิ ก เหน�อ แคลฟิ อทรวเ นีปย� อเมรกิ าเหน�อ 40 ํN
กโุ รชโิ อ 20 ํN 4. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและเชื่อมโยงขอมูล
20 ํN ศูนยสตู รเหนอ� เพมิ่ เตมิ ผา นการทาํ ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ทอ งเทย่ี ว
ทั่วทวีป ไปกับแผนท่ีเฉพาะเรื่อง และรวมกัน
ศนู ยสตู รสวนกลบั เฉลยคาํ ตอบ โดยครแู นะนําเพิม่ เติม
จากน้ันใหนักเรียนฝกทักษะการอานและ
0 ํ ศูนยส ตู รใต 0ํ แปลความแผนท่ีเฉพาะเร่ืองเพิ่มเติม โดยให
ตะวนั ออก นักเรียนอานและแปลความแผนท่ีกระแสน้ํา
20 Sํ ทวีปออสเตรเลีย ออสเตรเ ีลย ทวีป ในมหาสมทุ รแปซฟิ ก โดยการอา นและแปลความ
เปรู อเมริกาใต สขี องลูกศร
• สีชมพู กระแสนา้ํ อุน
20 ํS • สีฟา กระแสนํ้าเยน็
อานและแปลความทิศทางการไหล และ
และโอเชียเนย� อิทธิพลจากกระแสน้ําตอลักษณะภูมิอากาศ
ของทวปี
40 Sํ 40 ํS

กระแสน้ำอุน แอนตารก ตกิ า
กระแสน้ำเยน็

60 ํE 80 Eํ 100 ํE 120 ํE 140 ํE 160 Eํ 180 ํ 160 ํW 140 ํW 120 ํW 100 Wํ 80 Wํ 60 ํW 40 Wํ 20 ํW

ท่ีมำ : Perthes World Atlas, 2017

จากแผนท่ีกระแสน้�าในมหาสมุทรแปซิฟิก ใช้สัญลักษณ์เส้นสีชมพูแทนกระแสน�้าอุ่น
และเสน้ สฟี า้ แทนกระแสน้า� เยน็ มีหวั ลกู ศรแสดงทิศทางการไหลของกระแสนา้�

iepo

  แผนท่ีเส้นไหลเวียนอาจแสดงสัดส่วนของข้อมูลได้ด้วยความหนา โคโบลโอกมตเาบยี
ของเสน้ หรอื สเี สน้ เชน่ แผนทเี่ สน้ ทางการจราจร แสดงความหนาแนน่
ของการจราจรชว่ งระยะเวลาหนึง่ ๙
เส้นสแี ดง หมายถึง การจราจรหนาแน่น
เส้นสีส้ม หมายถงึ การจราจรตดิ ขดั
เส้นสีเขียว หมายถึง การจราจรคล่องตวั

ขอสอบเนน การคดิ บูรณาการอาเซียน

เพราะเหตใุ ดขอ มลู ทศิ ทางการไหลของกระแสนา้ํ ในมหาสมทุ ร ครูอาจใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการอพยพยายถิ่นของ
จึงตองนําเสนอลงบนแผนท่ีในรูปแบบเสน ไหลเวยี น ประชากรในอาเซยี น แลว นาํ ขอ มลู มาจดั ทาํ ลงในแผนทแี่ สดงการเคลอ่ื นที่ จากนนั้
วิเคราะหแปลความขอมูลจากแผนที่ รวมถึงแนวโนมการอพยพของประชากร
(แนวตอบ เพราะกระแสนํ้าในมหาสมุทรมีการเคล่ือนท่ีจาก อาเซียนในอนาคต และขอ ดี-ขอ เสยี ท่ีจะไดรับ
บรเิ วณหน่งึ ไปยังอกี บริเวณหน่ึง ดังนั้น เพื่อใหเ ห็นทิศทางการไหล
ของกระแสนํ้าไดอยางชัดเจน จึงเหมาะที่จะแสดงขอมูลโดยใช
เสน ไหลเวยี นทม่ี ีลูกศรทศิ ทางมากกวาเสน เทา)

T11

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ตวั อยา่ ง แผนที่เสน้ การเคลื่อนท่ี 2,000 กม.
แผนทจ่ี �ำนวนผูอ้ พยพจำกเวเนซุเอลำไปส่ปู ระเทศตำ่ ง ๆ พ.ศ. ๒๕๖๑
ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอมลู
120 Wํ 100 Wํ 80 Wํ 60 Wํ 40 Wํ
5. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห N มาตราสว น 1 : 90,000,000 0 500 1,000
ขอมูลเพ่ิมเติมเพื่อตอยอดประเด็นความคิด
ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใชในชวี ติ ประจาํ วนั 40 ํN สหรัฐอเมรกิ า มหาสมุทรแอตแลนตกิ 40 ํN
ในประเดน็ เชน
• แผนที่เฉพาะเร่ืองแตละประเภทเม่ือนํามา 290,224
รวมกนั สามารถนาํ ไปใชป ระโยชนใ นดา นใด
ไดอ กี บาง 20 Nํ เม3ก็2,ซ5ิโ8ก2 ปา7โคนค5อ,าล99สมอ93ตา0ม58า,เ,5รบ89ิก9ีย3า2 2ส5า,ธ8า7ร2ณรฐั โดมนิ กิ ัน 20 ํN
(แนวตอบ สามารถนาํ มาใชป ระโยชนใ นการ เวเนซุเอลา 0ํ
วิเคราะหศักยภาพเชิงพื้นท่ีไดในกรณีท่ีเปน มหาสมุทรแปซิฟก
บรเิ วณพน้ื ทเ่ี ดยี วกนั เชน บรเิ วณพนื้ ทห่ี นง่ึ ๆ
มีแผนท่ีเฉพาะเร่ืองหลายเรื่อง ท้ังในดาน 0ํ เอก2ว0า94ด,10อ40,ร00เ0ป0รู 7บ5ร,า0ซ00ลิ
อากาศ ดิน น้ํา ทรัพยากรธรรมชาติ
ประชากร สงั คม เศรษฐกจิ การเพาะปลกู จำนวนผอู พยพ (คน) โบ5ล,1ิเว9ีย4
เล้ียงสัตว การคมนาคม ฯลฯ ซ่ึงหากนํา
แผนท่ีเฉพาะเร่ืองทุกประเภทมาศึกษา 20 ํS 105,7ช5ลิ6ี คำอธบิ ายสญั ลักษณ 20 Sํ
รวมกัน ก็จะสามารถทําใหเราทราบถึง อุรกุ วัย เขตประเทศ 40 Sํ
ศักยภาพท่ีเหมาะสมของพื้นที่ดังกลาว มากกวา 200,000 ประเทศตน ทาง
นําไปสูการพัฒนาหรือการลงทุนที่ถูกตอง 9อ5า,ร0เ0จ0นตนิ า 8,589 ประเทศปลายทาง
และเหมาะสมกับพนื้ ทนี่ นั้ ตอ ไป) 50,001-200,000
จากนั้นใหนักเรียนฝกอานและแปลความ 80 Wํ 60 Wํ 40 Wํ
แผนที่แสดงจํานวนผูอพยพจากเวเนซุเอลา 10,001-50,000
ไปสปู ระเทศตา งๆ เชน ประเทศตน ทางอพยพ
ไปสปู ระเทศปลายทาง พรอมยกตัวอยาง เชน 40 Sํ
เสนทางการอพยพจากเวเนซุเอลาไปสหรัฐ
อเมรกิ า วเิ คราะหสาเหตกุ ารอพยพ ผลกระทบ 0-10,000
จากการอพยพดงั กลา ว
120 ํW 100 ํW

ท่ีมำ : www.europarl.europa.eu

จากแผนที่ผู้อพยพจากประเทศต้นทาง คือ เวเนซุเอลาไปสู่ประเทศต่าง ๆ1 ในทวีป
อเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้ พ.ศ. ๒๕๖๑ เนื่องจากเวเนซุเอลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ มีอัตรา
เงินเฟ้อขั้นรุนแรง ท�าให้ประชาชนจ�านวนมากขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค จึงอพยพไปสู่
ประเทศตา่ ง ๆ โดยใชส้ ญั ลกั ษณเ์ สน้ ความหนาและสแี ทนคา่ จา� นวนผอู้ พยพไปสปู่ ระเทศตา่ ง ๆ เชน่
เสน้ สมี ว่ งมปี ระชากรมากกวา่ ๒๐๐,๐๐๐ คน อพยพไปสหรฐั อเมรกิ า โคลอมเบยี เอกวาดอร ์ และเปรู
เส้นสีเขียวมีประชากร ๑๐,๐๐๑-๕๐,๐๐๐ คน อพยพไปเม็กซิโกและสาธารณรัฐโดมินิกัน
เสน้ การเคลอื่ นทเ่ี หลา่ นเี้ น้นแสดงปรมิ าณของขอ้ มูลจากต้นทางไปปลายทาง ควรแสดงดว้ ยแผนท่ี
มาตราส่วนให้เหมาะสมต่อการน�าเสนอ เพ่อื ใหค้ รอบคลุมทกุ พนื้ ท่ที ่ขี ้อมลู กล่าวถึง

๑0

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ

1 วิกฤตเศรษฐกิจ เวเนซุเอลาเปนประเทศหนึ่งท่ีมีแหลงน้ํามันดิบสํารอง จากแผนท่ีจํานวนผูอพยพจากเวเนซุเอลาไปสูประเทศตางๆ
มากท่ีสุดในโลก โดยมีมูลคาการสงออกน้ํามันของประเทศกวารอยละ 90 ขอ ใดใชแ สดงจํานวนผูอพยพจากเมืองหนงึ่ ไปสูประเทศตางๆ
และครั้งหนึ่งเคยเปนประเทศท่ีเคยร่ํารวยที่สุดในลาตินอเมริกา โดยนับต้ังแต
ค.ศ. 2015 เปนตนมา เวเนซุเอลากลับตองเผชิญกับสภาพปญหาภาวะเงินเฟอ 1. จดุ
รนุ แรง (ซงึ่ มสี าเหตมุ าจากแนวคดิ ประชานยิ มกบั การทรี่ ะบบเศรษฐกจิ มงุ เนน ไป 2. ลูกศรเสน ประ
ทอี่ ตุ สาหกรรมนาํ้ มนั ซงึ่ เปน แหลง รายไดห ลกั ของประเทศเพยี งอยา งเดยี ว) จนถงึ 3. ความหนาของเสนลูกศร
ค.ศ. 2018 อัตราเงินเฟอพงุ สูงถงึ 1,087 เปอรเ ซน็ ต ปญหาเงินเฟอทาํ ใหร าคา 4. เสนท่แี สดงความตอ เนื่อง
สนิ คา ในประเทศเพมิ่ สงู ขน้ึ อยา งรวดเรว็ สง ผลใหเ กดิ การกกั ตนุ สนิ คา หลายชนดิ
และสนิ คา ทมี่ คี วามจาํ เปน ในชวี ติ ประจาํ วนั เรมิ่ ทจ่ี ะขาดแคลน นาํ มาสอู ตั ราการ (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 3. ความหนาของเสนลูกศรใชแสดง
เกดิ อาชญากรรมสงู ขน้ึ มากและประชาชนบางสว นพากนั อพยพออกนอกประเทศ จาํ นวนของผอู พยพ หากความหนาของเสน มากแสดงวา มผี อู พยพ
จํานวนมาก ความหนาของเสนนอยแสดงวามีผูอพยพไปนอย
สวนลูกศรใชแสดงทิศทางการอพยพจากสถานที่หนึ่งไปยังอีก
สถานทหี่ น่งึ )

T12

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๑.๕ แผนที่โคโรเพลท (choropleth map) ขน้ั สอน

แผนที่โคโรเพลทแสดงขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณในพนื้ ท ่ีโดยใชส้ อี ยา่ งมรี ะบบ เชน่ สเี ขม้ แสดงขอ้ มลู ขัน้ ที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคาํ ถาม
ที่มีปริมาณมากหรือหนาแนน่ สอี อ่ นแสดงข้อมลู ทีม่ ปี ริมาณน้อยหรือเบาบาง เป็นเทคนคิ การท�า
แผนทที่ น่ี ยิ มใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย สามารถใชเ้ ปน็ แผนทฐ่ี านรว่ มกบั แผนทป่ี ระเภทอน่ื ๆ ได ้ ทง้ั ขอ้ มลู 1. รวมกันอา นและแปลความแผนทแี่ สดงจํานวน
แผนทจ่ี ดุ ขอ้ มูลแผนท่เี ส้น และขอ้ มูลแผนท่สี ัดสว่ น ประชากรในรัฐตางๆ ของสหรัฐอเมริกา
ในประเดน็ เชน เมอื งทม่ี จี าํ นวนประชากรมาก
ตวั อยา่ ง แผนที่โคโรเพลท เมอื งทม่ี จี าํ นวนประชากรนอ ย พรอ มสง ตวั แทน
ชี้ตําแหนง แลววิเคราะหผลจากการมีจํานวน
แผนทจ่ี ำ� นวนประชำกรในรฐั ตำ่ ง ๆ ของสหรัฐอเมรกิ ำ 70 Wํ ประชากรดังกลาว และนักเรียนในช้ันเรียน
120 Wํ 110 Wํ 100 ํW 90 ํW 80 Wํ รว มกนั สรปุ เกยี่ วกบั แผนทเี่ ฉพาะเรอื่ งประเภท
ตา งๆ
แ ค น า ด า มาตราสว น 1 : 32,500,000 0 500 1,000 กม.
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ
วอชิงตัน เมน สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู
แนะนําเพิ่มเตมิ
มอนแทนา นอรทดาโคตา มินนิโซตา โอไเฮวโสอตเวเอพรนเจวซิเอนิลแรียนเจมวิวิเรเนนยิแียเอียลวรนอนกเดรดิวมแลนคเจอมาิวออนแสแโนรตรวฮซเซดรนมาียไตชปอ เูทเแซชิคลตียัตนสรด 
เซาทดาโคตา วิสคอนซิน มิชิแกน 3. ครูอาจถามคําถามปลายเปด หรือใหนักเรียน
ออริกอน ดู PPT ทแี่ สดงขอ มลู เกยี่ วกบั แผนทเี่ ฉพาะเรอื่ ง
เนแบรสกา ไอโอวา แตล ะประเภทเพอื่ เปน การสรปุ ความรเู พมิ่ เตมิ
ไอดาโฮ แคนซัส อินดีแอนา 40 ํN
4. นกั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3
40 Nํ ไวโอมิง มิสซูรี อิลลินอยส เร่ือง แผนท่ีเฉพาะเรื่อง เพื่อทดสอบความรู
ทีไ่ ดศกึ ษามา
เนวาดา ยูทาห โคโลราโด เคนทักกี
แคลิฟอรเนีย ขนั้ สรปุ
นอรทแคโรไลนา
เทนเนสซี ครูและนักเรียนรวมกันสรุปประเด็นสําคัญ
แอริโซนา โอคลาโฮมา อารคันซอ เซาทแคโรไลนา เกี่ยวกับแผนท่ีเฉพาะเรื่อง ตลอดจนความสําคัญ
N จอรเจีย มหาสมุทร ของแผนที่เฉพาะเรื่องท่ีมีอิทธิพลตอการศึกษา
30 Nํ นิวเม็กซิโก มิสซิสซิปแปอ ละแบมา แอตแลนติก 30 Nํ และการดําเนนิ ชวี ติ หรือใช PPT สรปุ สาระสาํ คัญ
ของเนอ้ื หา
จำนวนประชากรในเมอื ง (คน) เท็กซัส ลุยเซียนา
ขน้ั ประเมนิ
1,052010500050,00,0,0,00,00000000000 ฟลอริดา
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
เ ม็ ก ซิ โ ก อ า ว เ ม็ ก ซิ โ ก การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
หนาชน้ั เรยี น
110 ํW 100 ํW 90 Wํ 80 Wํ
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงานและแบบฝก
ทีม่ ำ : www.citypopulation.de สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3

จากแผนทจี่ า� นวนประชากรในรฐั ตา่ ง ๆ ของสหรฐั อเมรกิ า พบวา่ เมอื งทม่ี ปี ระชากรมากกวา่
๑,๐๐๐,๐๐๐ คน ใชส้ ญั ลกั ษณส์ แี ดงเขม้ โดยพน้ื ทสี่ ว่ นใหญอ่ ยบู่ รเิ วณชายฝง่ั ตะวนั ออกและชายฝง่ั
ตะวนั ตกของประเทศ สว่ นเมอื งทมี่ ปี ระชากรนอ้ ยกวา่ ๕๐,๐๐๐ คน อยบู่ รเิ วณตอนบนและตอนกลาง
ของประเทศ แสดงสญั ลกั ษณส์ โี ดยใชส้ อี ่อนซง่ึ มีจา� นวนมากทีส่ ดุ

Q? euoestion
ขอ้ มลู สถติ เิ ชงิ ภมู ศิ าสตรท์ เ่ี กบ็ ขอ้ มลู ในรปู แบบตารางจา� นวนหลายรอ้ ยหนา้ สามารถแสดงใหเ้ หน็ ภาพ
ไดง้ า่ ยด้วยเครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์ใด ใหย้ กตัวอย่าง ๑ ตัวอยา่ ง

11

กจิ กรรม ทาทาย แนวทางการวัดและประเมินผล

นักเรียนนําขอมูลประชากรของประเทศในทวีปอเมริกาใต ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง แผนทเี่ ฉพาะเรอ่ื ง ไดจ าก
จากหนังสือเรียน ภูมศิ าสตร หนา 84 มาจดั ทําแผนทโี่ คโรเพลท การตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน
โดยกําหนดจํานวนประชากรออกเปน 5 ชว งช้ัน ไดแ ก โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงาน
ที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 1 เร่ือง แผนท่ีเฉพาะเรื่องและ
• ชว งชน้ั ท่ี 1 0-1,000,000 คน เคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร
• ชวงชั้นที่ 2 1,000,001-2,000,000 คน
• ชวงชน้ั ที่ 3 2,000,001-3,000,000 คน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
• ชว งชั้นที่ 4 3,000,001-4,000,000 คน
• ชว งชั้นท่ี 5 4,000,001 คนข้ึนไป คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี
จากนั้นกําหนดสีในแตละชวงชั้น แลวระบายลงในแผนที่ ตรงกับระดบั คะแนน
โครงรา งทวปี อเมรกิ าใต พรอมท้ังวเิ คราะหแ ปลความขอมูล
ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา
2 การลาดับขน้ั ตอนของเรื่อง
3 วิธีการนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์

4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ

5 การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลุม่

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............/................./................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่

ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้ T13

ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ นาํ (Geographic Inquiry Process) ๒ Iรnะfบorบmสaาtรioสnน เSทyศsภtูมemศิ า: สGตISร ์ )(Geographic1

1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เป็นระบบท่ีใช้ ในการจัดเก็บ รวบรวม น�าเข้าข้อมูล
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอ่ื เรอื่ งทจ่ี ะเรยี นรู วิเคราะห์ แสดงผลสรปุ ขอ้ มลู ทางภมู ิศาสตร์ และแสดงผลขอ้ มลู เชิงพนื้ ทด่ี ว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์
จดุ ประสงคการเรียนรู
๒.๑ ขอ้ มลู ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์
2. ครแู ละนักเรยี นรว มกนั ทบทวนความรเู กีย่ วกบั
แผนที่เฉพาะเรื่อง ท่ีไดศึกษาเมื่อช่ัวโมงท่ี ข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น ๒ ลักษณะ ดงั น้ี
ผา นมา
๑) ขอ้ มลู เชงิ พนื้ ท ่ี(spatial data) เปน็ ขอ้ มลู ทแี่ สดงลกั ษณะทปี่ รากฏบนพน้ื โลก สามารถ
3. ครูจัดกิจกรรมการสืบคน “ลูกเตาชางสงสัย”
เพ่ือกระตุนความสนใจ/กระตุนความคิด อ้างองิ พิกดั หรือตา� แหนง่ ทางภูมิศาสตร ์ได ้ แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ดังนี้
เก่ียวกับเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร นอกเหนือ
จากแผนท่ีเฉพาะเร่ือง เพ่อื นาํ เขาสกู ารเรียน ขอ้ มูลเวกเตอร์ (vector data) เปน็ ข้อมูลทีม่ ลี กั ษณะ ดงั นี้

๑. จุด (point) ๒. เส้น (line) ๓. พื้นท่ ี (polygon)
ใช้แสดงต�าแหน่งที่ต้ังของส่ิง เป็นได้ทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง เปน็ เสน้ ปดิ ใชอ้ ธบิ ายขอบเขตของ
ตา่ ง ๆ โดยใชจ้ ดุ แสดงทตี่ ง้ั เชน่ เช่น แม่น้�า ถนน ทางรถไฟ ขอ้ มลู เชน่ ขอบเขตรฐั ขอบเขต
ทีต่ งั้ อาคาร ทว่ี ่าการรัฐ เส้นแบง่ เขตการปกครอง ประเทศ การใชป้ ระโยชนท์ ่ีดิน

ขอ้ มลู แรสเตอร ์ (raster
data)  เป็นข้อมูลเชิงพ้ืนท่ีที่มีค่า
เชิงเลข (Digital Number: DN)
ประจา� เซลลภ์ าพ (pixel) เชน่ ขอ้ มลู
ภาพจากดาวเทียม
 ข้อมูลภาพจากดาวเทียมควิกเบิร์ด (QuickBird) ทม่ี ำ : Google Earth,
บริเวณแมน่ า้� โคลมั เบยี รัฐวอชิงตนั สหรัฐอเมริกา 2019
๒) ข้อมูลเชิงอรรถำธบิ ำย (attribute data) เปน็ ข้อมลู ทอ่ี ธิบายคุณลักษณะตา่ ง ๆ ใน
พืน้ ทน่ี ้นั ในรูปแบบตาราง เชน่ ขอ้ มูลรายช่อื รฐั เมอื ง จ�านวนประชากร เนอื้ ท ี่ โดยในพื้นท่มี ีข้อมลู
จา� นวนประชากรในรัฐ เมืองในพ้นื ทตี่ วั อยา่ งอยู่ดว้ ย
ตาราง

ประชากรทวีปอเมรกิ า ประเทศ รัฐ รหสั รฐั เมอื ง ตัวยอ ประเทศ.รฐั .เมือง ปร2ะ05ช15า86ก0ร1 เน้อ� ท่ี
ลำดบั รปู รา ง United States Alabama 34789 Autauga US.AL.AU 218022 .149916
0 Polygon United States Alabama 34790 Baldwin US.AL.BD 24881 .399685
1 Polygon United States Alabama 34791 Barbour US.AL.BR 22400 .221918
2 Polygon United States Alabama 34792 Bibb US.AL.BI 57840 .156362
3 Polygon United States Alabama 34793 Blount US.AL.BU 10138 .165045
4 Polygon United States Alabama 34794 Bullock US.AL.BL 19680 .154980
5 Polygon United States Alabama 34795 Butler US.AL.BT 41239 .191457
6 Polygon United States Arkansas 34943 Mississippi US.AR.MS .237480
7 Polygon United States Arkansas 34944 Monroe US.AR.ME 6900 .157320
8 Polygon

๑๒

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ

1 ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (Geographic Information System: GIS) บคุ คลใดนาํ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) มาประยกุ ตใช
หรือจีไอเอส เปนระบบขอมูลขาวสารท่ีเช่ือมโยงกับคาพิกัดภูมิศาสตรและ ใหเ กิดประโยชนใ นชวี ิตประจาํ วนั มากทีส่ ดุ
รายละเอียดของวัตถุบนพ้ืนโลก โดยใชคอมพิวเตอรที่ประกอบดวยฮารดแวร
และซอฟตแวร เพื่อการนาํ เขา จดั เก็บ ปรับแก แปลง วิเคราะหข อมูล และแสดง 1. นุยใชต ดิ ตามสถานการณน้ําทวม
ผลลพั ธในรปู แบบตา งๆ เชน แผนท่ี ภาพ 3 มิติ สถติ ิ ตารางขอ มูล เพ่อื ชว ย 2. หนึ่งใชจ ัดทําคลปิ วิดีโอสารคดีทองเทย่ี ว
ในการวางแผนและตัดสินใจของผใู ชใ หมคี วามถูกตอ งแมนยาํ 3. โหนงใชต รวจสอบวงโคจรของดาวเทยี ม
4. เหนง ใชต ิดตามบริการส่งั อาหารเดลิเวอรี่

(วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. GIS สามารถนาํ ไปใชใ นดา นตา งๆ ได
เชน ดานการจัดการภัยธรรมชาติ โดยการจัดทําแผนที่เส่ียงเกิด
อทุ กภยั เพอ่ื นาํ ไปใชว เิ คราะหแ ละวางแผนการสรา งแนวคนั กนั้ นาํ้
และพืน้ ทเี่ หมาะสมสําหรับรบั น้ําเพ่ือแกปญ หาอทุ กภัย)

T14

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๒.๒ การวเิ คราะหข์ ้อมูลและการนําเสนอ ขน้ั สอน
ข้อมูลใน GIS จะถกู จัดเกบ็ แยกกันเปน็ ชั้นข้อมูล
(layer) และมรี ะบบพกิ ดั เดยี วกนั เพอื่ งา่ ยตอ่ การวเิ คราะห์ LANDUSE การใชป้ ระโยชน์ที่ดิน ขัน้ ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ิศาสตร
และแสดงผล ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถท�าได้โดย ZONING การจดั เขตทด่ี นิ
การนา� ชนั้ ข้อมลู แต่ละชนั้ มาซอ้ นทบั กนั เชน่ การหาพนื้ ท่ี ภูมิประเทศ 1. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นเชอ่ื มโยงความสาํ คญั ของ
เส่ียงต่อการเกิดอุทกภัย ผู้วิเคราะห์จะต้องมีข้อมูล TOPOGRAPHY พน้ื ท่ชี ุ่มน้�า การศกึ ษาและเลอื กใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร
ภูมิประเทศแสดงระดับความสูงของพื้นท่ี ข้อมูลการใช้ WETLANDS ขอ้ มูลประชากร ประเภทอน่ื ๆ นอกเหนอื จากแผนทเ่ี ฉพาะเรอื่ ง
ประโยชน์ทดี่ ิน ข้อมลู แมน่ ้�า และปริมาณฝน เมอื่ ซอ้ น DEMOGRAPHICS สงิ่ ปกคลุมดนิ เชน ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร สถิติทาง
ทับข้อมูลแล้ว จะรู้ว่าพื้นท่ีส่วนใดมีโอกาสเกิดอุทกภัย LAND COVER ภาพจากดาวเทียม ภูมิศาสตร แลวต้ังประเด็นคําถามตอยอด
บา้ ง กลายเป็นข้อมลู ใหมจ่ ากผลการวิเคราะห์ แผนทีฐ่ าน เพ่ิมเติมเพ่ือกระตุนและเชื่อมโยงใหนักเรียน
IMAGERY ต้ังประเด็นคาํ ถามทางภมู ศิ าสตร เชน
• นกั เรยี นคดิ วา ในชวี ติ ประจาํ วนั ของนกั เรยี น
BASEMAP หรอื คนใกลช ดิ ไดเ กยี่ วขอ งกบั ระบบสารสนเทศ
ภูมิศาสตร และสถิติทางภูมิศาสตรบาง
๒.๓ การใช้ประโยชนจ์ ากระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ หรือไม อยางไร
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์มีการใช้งานอย่าง
แพร่หลายมากขึ้น เพื่อวางแผนการบริหารจัดการ Coronavirus COVID-19 2. ใหน ักเรียนรวมกันต้ังประเด็นคําถามทาง
Global Cases ภมู ศิ าสตรเ กยี่ วกบั ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร
และสถิติทางภูมิศาสตร เพ่ือคนหาคําตอบ
นโยบายดา้ นต่าง ๆ ของหนว่ ยงานทัง้ ภาครฐั และเอกชน จี น เกาหลเี หนอ� ญปี่ นุ โดยครูแนะนาํ เพิ่มเตมิ เชน
เชน่ ดำ้ นคมนำคมขนสง่ ใชว้ างแผนเสน้ ทางเดนิ รถ เพอ่ื เนปาล เกาหลใี ต • การมเี ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรห ลายประเภท
ทําใหเกดิ ประโยชนอยา งไร
วางแผนการสรา้ งเส้นทางคมนาคม ดำ้ นสำธำรณสุข ใช้ อนิ เดีย ไตหวนั • ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และสถิติทาง
ภมู ศิ าสตร สามารถแสดงขอ มลู ใดไดบาง
แผนท่ีแสดงการกระจายที่ตั้งโรงพยาบาล เพ่ือวางแผน ศรลี งั กา ไทย • ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และสถิติทาง
การใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชน ดำ้ นกำรจดั เกบ็ ภำษ ี ใช ้ในการ เวยี ดนาม ภูมศิ าสตร มีความสาํ คญั ตอการศกึ ษาทวีป
ประเทศไทย อเมริกาเหนือและทวปี อเมรกิ าใตอ ยา งไร
กัมพชู า ฟล ิปปนส จากน้ันใหนักเรียนดูภาพ จากหนังสือเรียน
มาเลเซยี หนา 13 การใชร ะบบ GIS แสดงจาํ นวนผตู ดิ เชอ้ื
สิงคโปร ไวรสั COVID -19 อา นและวเิ คราะหข อ มลู พน้ื ท่ี
โรคระบาด
จดั ทา� ฐานข้อมลู ตา� แหนง่ สถานประกอบการ แปลงท่ดี ิน ตCิดaเsชe้อืs l Comfirmed อิ น โ ด นี เ ซี ย
เพื่อการจัดเก็บภาษี ด้ำนส่ิงแวดล้อม ใช้ติดตาม 37 ราย
0เสยีราชยีวติ l Deaths

สถานการณ์พื้นที่เกิดไฟปา แสดงเป็นจุดความร้อน  การใช้ระบบ GIS แสดงจ�านวนผู้ติดเชื้อไวรัส
(hotspot) โดยในภาพจากดาวเทียมจะแสดงเป็นค่า COVID-19 แบบเรยี ลไทม ์(วนั ท ่ี ๒๕ กมุ ภาพนั ธ์
จดุ ความร้อนทมี่ คี ่าอณุ หภูมิสงู พ.ศ. ๒๕๖๓)
ท่มี ำ : www.gisanddata.maps.arcgis.com

๒.๔ การเช่อื มโยง GIS กบั ภูมิศาสตรด์ า้ นตาง ๆ 1
ระบบสาร2สนเทศภูมิศาสตร์แสดงให้เห็นความเช่ือมโยงระหว่างภูมิศาสตร์กายภาพกับ
ภมู ศิ าสตรม์ นษุ ย ์ ซง่ึ งา่ ยตอ่ การวเิ คราะหป์ จั จยั ทางพน้ื ทแี่ ละสามารถเชอ่ื มโยงกบั รปู แบบเศรษฐกจิ
ของประเทศต่าง ๆ
จากแผนทที่ ่ตี ั้งของเมอื งเศรษฐกิจ บอสตนั

ส�าคญั ของสหรัฐอเมริกา สว่ นใหญต่ ัง้ อยูท่ าง แซคราเมนโต ดิมอยนชคิ อานิโกเดยี ดแิทนรโอพยลตสิ  นิวยอรก
ตะวนั ออกและตะวันตกของประเทศ เนอ่ื งจาก แซนแฟรนซิสโก เซนตล ูอสิ ฟลาเดลเฟย
ลอสแอนเจลิส ลาสเวกสั โอคลาโฮมาซติ ี
วอชงิ ตัน ด.ี ซ.ี

มีลกั ษณะเป็นทร่ี าบใกลช้ ายฝ่ังทะเล เหมาะแก่ แซนดเีิ อโก ฟนกิ ซ แนชวิลล ราลี
แอตแลนตา

การเปน็ เมอื งทา่ ส�าคัญ แดลลัส ออรแลนโด
ออสตนิ ฮิวสตนั
๑๓ไมแอมี

กิจกรรม เสริมสรางคณุ ลักษณะอันพึงประสงค นักเรียนควรรู

นักเรียนรวมกันวิเคราะหขอมูลจากภาพการใชระบบ GIS 1 ภูมิศาสตรกายภาพ เปนการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะกระบวนการและ
แสดงจํานวนผูติดเชื้อไวรัส COVID-19 วิเคราะหพ้ืนที่ระบาด การกระจายของปรากฏการณธรรมชาติในโลกท่ีอยูแวดลอมตัวมนุษย เชน
พนื้ ทเี่ สยี่ งการระบาดของโรค คาดการณแ นวโนม การระบาดของโรค ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ ธรณีสัณฐาน อุทกวิทยา ปจจุบัน
และการระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทย พรอมทั้งบอกขอดี ใชขอมูลจากการสํารวจพื้นที่ การรับรูจากระยะไกล (remote sensing) และ
จากการศกึ ษาขอ มลู จากการใชร ะบบ GIS จากนนั้ ใหน กั เรยี นสบื คน เทคนคิ อ่นื ๆ ดานคณิตศาสตร สถติ ิ และการทําแผนท่ี
การใชร ะบบ GIS แสดงขอ มลู สถติ ทิ างภมู ศิ าสตรใ นทวปี อเมรกิ าเหนอื 2 ภูมิศาสตรมนุษย ภูมิศาสตรแขนงใหญแขนงหน่ึงที่ศึกษาเก่ียวกับความ
และทวีปอเมริกาใตในรูปแบบตางๆ เชน Infographic แผนผัง เปนอยูของมนุษยในดานสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการปกครอง เชน
แผนภูมิ นํามาอานและวิเคราะหขอมูล พรอมบอกขอดีของการ ภมู ศิ าสตรเ ศรษฐกจิ ภมู ิศาสตรก ารเมอื ง
นําเสนอขอ มลู ดงั กลา ว

T15

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน ๓ สถติ ทิ างภมู ิศาสตร์

ขัน้ ที่ 2 การรวบรวมขอมลู หลายชขว่ อ้งเมวูลลสา ถมิตที ิทงั้ าขงอ้ ภมูมลู ิศเชาสงิ คตณุร์เปภน็าพข1แอ้ ลมะลู ขขอ้ อมงลูปเรชางิ กปฏรกมิ าารณณ2 สเ์ ชาิงมพาน้ืรถทใ่ตีชา่เ้ ปง น็ๆห ณล กั ชฐว่ างนเใวนลกาาหรนอ่งึ า้ หงรอืองิ
วเิ คราะหข์ ้อมลู เพ่ือนา� เสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ
1. ครูยกตัวอยางการนําเสนอขอมูลสถิติจาก
หนังสอื เรียน หนา 14 ใหนกั เรียนชว ยกนั อา น ตัวอยา่ ง ข้อมูลสถติ ิทางภมู ศิ าสตร์
และวิเคราะหขอมูล และบอกขอดีของการ
นาํ เสนอขอ มลู ในรปู แบบแผนภมู ิ แผนผงั ตาราง ขอ้ มูลการส�ารวจการเล้ียงสกุ รประจา� ปข องประเทศแคนาดา
Infographic พรอมยกตัวอยางเพิ่มเติม และ ตำรำงจ�ำนวนสกุ รในแต่ละรัฐของแคนำดำ (ตวั )
จากประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรในขั้นที่ 1
ครูใหนักเรียนจัดกลุมใหไดจํานวน 6-8 คน รฐั พ.ศ. ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑
เพื่อรว มกันสบื คน ขอมลู เกยี่ วกับระบบ
สารสนเทศภมู ศิ าสตร และสถติ ทิ างภมู ศิ าสตร พรินซ์เอ็ดเวริ ์ดไอแลนด์ ๕๒,๐๐๐ ๔๗,๙๐๐ ๔๒,๒๐๐ ๓๕,๔๐๐ ๓๗,๗๐๐
ท่ีแสดงขอมูลเกี่ยวกับทวีปอเมริกาเหนือหรือ
ทวปี อเมรกิ าใตใ นดา นตา งๆ จากหนงั สอื เรยี น นิวบรันสวกิ ๕๕,๐๐๐ ๓๖,๔๐๐ ๓๓,๙๐๐ ๓๓,๐๐๐ ๒๘,๕๐๐
ภมู ศิ าสตร ม.3 หรือแหลง เรียนรูอ ่ืนๆ
ควิเบก ๔,๑๗๐,๐๐๐ ๔,๒๒๕,๐๐๐ ๔,๓๔๕,๐๐๐ ๔,๓๔๕,๐๐๐ ๔,๔๐๕,๐๐๐
2. ครูใหความรูเพ่มิ เตมิ โดยใช PPT เรอื่ ง ระบบ
สารสนเทศภูมิศาสตรและสถิติทางภูมิศาสตร ออนแทรีโอ ๓,๐๓๗,๐๐๐ ๓,๐๙๘,๓๐๐ ๓,๓๗๗,๕๐๐ ๓,๓๗๕,๓๐๐ ๓,๕๗๓,๑๐๐
และใหนักเรียนแตละกลุมนําขอมูลที่ได
รวบรวมมา บนั ทกึ ผลลงในใบงานที่ 1.2 เร่ือง แมนิโทบา ๒,๙๖๕,๐๐๐ ๓,๐๔๕,๐๐๐ ๓,๑๐๐,๐๐๐ ๓,๑๘๐,๐๐๐ ๓,๔๙๕,๐๐๐
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และสถิติทาง
ภมู ิศาสตร ซัสแคตเชวนั ๑,๑๑๐,๐๔๐ ๑,๐๖๓,๗๐๐ ๑,๑๗๕,๐๐๐ ๑,๐๘๕,๐๐๐ ๑,๐๗๕,๐๐๐

แอลเบอร์ตา ๑,๑๔๕,๐๐๐ ๑,๔๕๕,๐๐๐ ๑,๔๘๐,๐๐๐ ๑,๕๐๕,๐๐๐ ๑,๕๑๕,๐๐๐

บริตชิ โคลมั เบยี ๘๘,๐๐๐ ๙๑,๐๐๐ ๘๖,๐๐๐ ๘๗,๐๐๐ ๙๑,๐๐๐

หมำยเหตุ : รฐั อน่ื ๆ ไมพ่ บการเลยี้ งสกุ ร
ทมี่ ำ : www.cpc-ccp.com/hog-farm-data

แผนภมู จิ �ำนวนสกุ รในแตล่ ะรัฐของแคนำดำ พ.ศ.
2557 2558 2559 2560 2561

ลา นตัว
5

4
3

2
1

0 แมนโิ ทบา ออนแทรีโอ ควิเบก นิวบรันสวกิ พรนิ ซไเออแ็ดลเนวริดด 

บโครลติ มัชิ แเบอียลเบอรตาซสั แคตเชวัน

๑๔

นักเรียนควรรู กิจกรรม Geo - Literacy

1 ขอมูลเชิงคุณภาพ เปนขอมูลท่ีแสดงถึงสถานภาพ คุณลักษณะ หรือ นักเรียนอานและแปลความขอมูลการเล้ียงสุกรประจําปของ
คุณสมบัติ เชน เพศ เชื้อชาติ สถานภาพสมรส ศาสนา กลุม เลอื ด ประเทศแคนาดา แลวตั้งคําถามทางภูมิศาสตรเพ่ือคนหาคําตอบ
2 ขอมูลเชิงปริมาณ เปนขอมูลท่ีอยูในรูปตัวเลขที่แสดงถึงปริมาณ อาจเปน เชน ทําไมรัฐควเิ บกจึงมีการเล้ียงสกุ รมากทสี่ ดุ จากน้ันใหน กั เรยี น
คาท่ีเปนจํานวนเต็มหรือจํานวนนับ เชน จํานวนรถยนตในกรุงเทพมหานคร สืบคนขาวขอมูลสถิติทางภูมิศาสตรของทวีปอเมริกาเหนือและ
จํานวนบตุ รในครอบครัว หรอื เปน คาท่มี ีจดุ ทศนยิ มได เชน ความสงู นาํ้ หนัก ทวีปอเมริกาใตท ี่นาสนใจ เชน ดา นเศรษฐกจิ ประชากร เทคโนโลยี
อายุ อัตราเงินเฟอ ปรมิ าณฝนเฉล่ยี ในปตางๆ แลวต้ังประเด็นคําถามเพ่ือการสืบคน โดยใชกระบวนการทาง
ภมู ิศาสตรเ พื่อคน หาคําตอบ

T16

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

จากข้อมลู การส�ารวจการเลย้ี งสกุ รประจา� ปของประเทศแคนาดา เมอ่ื น�ามาจัดทา� เป็นแผนภมู แิ ท่งเพอ่ื ขน้ั สอน
เปรยี บเทยี บในแตล่ ะป  พบวา่ แตล่ ะรฐั มแี นวโนม้ การเลยี้ งสกุ รเพมิ่ ขน้ึ ทกุ ป  ยกเวน้ ในรฐั พรนิ ซเ์ อด็ เวริ ด์ ไอแลนด์
ข้ันที่ 3 การจดั การขอ มูล
และรฐั นิวบรนั สวิก มแี น1วโน้มการเลยี้ งสกุ รลดลงทกุ ป
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
จากแผนภมู แิ ทง่ พบวา่ ม ี ๓ รฐั ทม่ี ปี รมิ าณการเลยี้ งสกุ รเปน็ จา� นวนมาก คอื รฐั ควเิ บก รฐั ออนแทรโี อ การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
และรัฐแมนิโทบา ในขณะทร่ี ฐั อื่น ๆ มีจ�านวนนอ้ ยมาก จึงเลือกใช้ขอ้ มลู ของปล ่าสดุ คือ พ.ศ. ๒๕๖๑ นา� มาจดั ระหวางกัน
ช่วงชั้นข้อมูลและระบุต�าแหน่งของแต่ละรัฐ เพื่อหาความเช่ือมโยงเป็นเหตุเป็นผลของศักยภาพในการ
เล้ยี งสุกรในรัฐต่าง ๆ ได ้ ดงั น้ี 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถี่ กู ตอ ง
นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไี่ มจ าํ เปน
แผนทจี่ �ำนวนสุกรในแต่ละรัฐของแคนำดำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ออก

160 ํ W 150 ํ W 140 ํ W 120 ํ W 100 ํ W 80 ํ W 60 ํ W 40 ํ W 30 ํ W 20 ํ W ขน้ั ที่ 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอ มลู

อะแลสกา ทะเลโบฟอรต คำอธบิ ายสญั ลกั ษณ จำนวนสกุ ร (ลา นตัว)60 ํ N 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
เขตประเทศ มากกวา 4 รวมกัน จากนั้นนําขอมูลที่ไดบันทึกผลลงใน
60 ํ N เขตรฐั ใบงานที่ 1.2 มานาํ เสนอในรูปแบบตา งๆ
ทางน้ำ 3-4
ยูคอน รฐั ทีม่ ีการเลย้ี งสกุ ร 2. สมาชกิ แตล ะกลมุ รว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง
รฐั ที่ไมม กี ารเล้ยี งสกุ ร 1-3 ของขอมูล

นนู าวตุ นอ ยกวา 1 3. ตัวแทนกลุมนําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน
โดยสมาชกิ กลมุ อนื่ ผลัดกนั ใหข อคดิ เห็น หรือ
นอรทเวสตเ ทรริทอรสี  ทะเลแลบราดอร 50 ํ N ขอ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ตลอดจนอภปิ รายความรู
รว มกัน
50 ํN บรติ ิชโคลมั เบยี อาวฮัดสัน นิวฟน ดแ ลนดและแลบราดอร
4. ครูถามคําถามเพื่อใหนักเรียนไดวิเคราะห
แอลเบอรตา พรนิ ซเ อด็ เวิรดไอแลนด ขอมูลเพ่ิมเติมเพื่อตอยอดประเด็นความคิด
แมนโิ ทบา ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใ ชใ นชวี ติ ประจาํ วนั
ออนแทรโี อ ควิเบก นวิ บรนั สวิก โนวาสโกเชีย
ซัสแคตเชวนั 5. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ
มหาสมทุ ร ภมู ศิ าสตร ม.3 เรอ่ื ง ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร
มาตราสว น 1 : 42,000,000 40 ํ N และสถิติทางภูมิศาสตร เพ่ือทบทวนความรู
0 500 1,000 กม. ความเขาใจ เปนการบานสง ครใู นชวั่ โมงถดั ไป
N สหรฐั อเมริกา แอตแลนติก

120 ํ W 110 ํ W 100 ํ W 90 ํ W 80 ํ W 70 ํ W

จากแผนทจ่ี า� นวนสกุ รในแตล่ ะรฐั ของแคนาดา พ.ศ. ๒๕๖๑ พบวา่ รฐั ทอ่ี ยเู่ หนอื ละตจิ ดู ๖๐ องศาเหนอื

ข้ึนไป ไม่มีการเลี้ยงสุกร เนื่องจากมีสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนรัฐท่ีมีการเลี้ยงสุกรมาก ได้แก่ รัฐควิเบก

เนอ่ื งจากเปน็ รฐั ขนาดใหญ ่ มพี น้ื ทส่ี ว่ นใหญเ่ ปน็ ทรี่ าบ และมแี หลง่ นา�้ ทเี่ ปน็ ทะเลสาบกระจายอยมู่ าก จงึ เหมาะแก่

การเลย้ี งสตั ว ์ รัฐออนแทรีโอ เน่ืองจากมีที่ราบ มีแหล่งน�้าขนาดใหญ่ทางตอนใต้ และเป็นเขตอากาศอบอุ่น

รฐั แมนโิ ทบำ เนื่องจากอยบู่ ริเวณที่ราบรอบอา่ วฮดั สนั มีทะเลสาบขนาดใหญ่บริเวณตอนกลาง

จงึ เห็นได้วา่ ขอ้ มลู สถิติทีม่ ีความเช่อื มโยงกับพื้นท่มี กั มีความเก่ียวข้องทางภูมศิ าสตร ์ ทั้งเรอื่ งลักษณะ

ทางกายภาพ เศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง วัฒนธรรม และการแพทย ์ เชน่ การระบาดของโรคสุกร ซง่ึ สามารถ

ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภูมศิ าสตร ์ในการศึกษาและน�าเสนอข้อมูลไดท้ ั้งสิน้ ๑๕

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
อตั ราสวนผใู ชเฟซบุกตอประชากรท้ังหมดในทวีปอเมริกาเหนือ ป 2017
1 แผนภูมแิ ทง (bar charts) เปน แผนภมู ทิ ่ีประกอบดว ยแกนนอน (แกน x)
ออัตตั รราาสสวว นน5ผผอููใใชันชตดตอับอปปขรรอะะงชชโลาากกรรททัง้ ง้ั หหมมดด และแกนต้ัง (แกน y) ท่ีนิยมแสดงออกมาในรูปแทงส่ีเหล่ียมท่ีสามารถบอก
ยูเออี 85.1 ความสงู ได เหมาะสาํ หรบั ใชเ ปรยี บเทยี บจาํ นวนของขอ มลู ในแตล ะชดุ ซง่ึ ชดุ ขอ มลู
ไทย 82.4 ทางภมู ศิ าสตรใ นแกนนอนมกั ใชเ ปน ตวั แทนของชอื่ สถานท่ี ขนาดพนื้ ที่ ชว งเวลา
รอ ยละ 64.1 ไตหวัน 76.9 ในแตล ะเดอื นของป หรอื สดั สว นของชว งป เปน ตน สว นแกนตง้ั มกั ใชเ ปน ตวั แทน
ของคา ความถ่ี หรอื เปอรเ ซน็ ตข องชดุ ขอ มลู ทวี่ ดั ไดใ นพน้ื ที่ เชน จาํ นวนประชากร
สหรฐั อเมรกิ า 73.4 ความหนาแนนของประชากร
ชิลี 71.4
T17
รอยละ 73.4 เพราะเหตุใดประเทศไทย
240 ลา นคน
รอยละ 42.1 100
30 มีสัดสวนประชากรผูใชเฟซบุก

ถึงรอยละ 82.4 ของจํานวน
ประชากรทงั้ หมดในประเทศ มากกวา ประเทศในทวปี อเมรกิ าเหนอื

(แนวตอบ เนื่องจากคนไทยสวนใหญใหความนิยมกับเฟซบุก
ในการเสพขาวสาร และสถานะของบุคคลตางๆ ซึ่งแตกตาง
จากคนในอเมริกาเหนือท่ีสวนใหญหันไปใหความสําคัญกับ
YouTube, Instagram และการเลน Twitter มากกวา )

นาํ สอน สรุป ประเมิน

ขนั้ สอน ๑สรปุ สาระสาํ คญั

ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม หนว่ ยการเรียนรทู ี่

1. นักเรียนในช้ันเรียนรวมกันสรุปเก่ียวกับระบบ แผนที่เฉพาะเร่ือง แสดงข้อมูลหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนพื้นท่ีด้วยสัญลักษณ์ชนิดต่าง ๆ
สารสนเทศภมู ศิ าสตร และสถติ ทิ างภมู ศิ าสตร
มีรปู แบบการนา� เสนอขอ้ มูล ดงั น้ี
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ
สําคัญเพ่ือตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู แผนทจ่ี ดุ แสดงความหนาแนน่ และรปู แบบการกระจายของขอ้ มลู เชน่ ประชากร โดยใชจ้ ดุ เปน็ สญั ลกั ษณ ์
แนะนําเพิ่มเตมิ
แผนที่สัดส่วน แสดงจ�านวนและชนิดของข้อมูลหลายชนิดพร้อมกันได้ โดยใช้สัญลักษณ์
3. ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ มอบหมายใหท าํ ชนิ้ งาน/ รูปทรงเรขาคณิตและแผนภูมแิ บบตา่ ง ๆ ท่ีมีขนาดเปน็ สัดส่วนกับขอ้ มูล
ภาระงาน (รวบยอด) คือ การใชแ ผนทเ่ี ฉพาะ
เรื่องและเครื่องมือทางภูมิศาสตร สืบคน แผนทีเ่ ส้นเท่ำ แสดงขอ้ มูล โดยใช้สญั ลักษณ์เส้นลากผ่านต�าแหนง่ ที่มี
ประเทศที่นาสนใจในทวีปอเมริกาเหนือและ ข้อมลู บนพื้นทีเ่ ท่ากันตลอดท้งั เสน้ เช่น ความกดอากาศ อุณหภูม ิ
ทวีปอเมริกาใต 1 ประเทศ โดยจัดทําเปน ปรมิ าณฝน สามารถใชส้ ปี ระกอบได ้ โดยแบง่ ตามขอบเขตทขี่ อ้ มลู
รายงานการคนควา ครแู นะนาํ เพิม่ เติม เทา่ กัน

4. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบวดั ฯ ภมู ศิ าสตร ม.3 เรอ่ื ง แผนท่ี แผนที่แสดงกำรเคลื่อนที่
แผนทเ่ี ฉพาะเรอ่ื งและเครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร เฉพาะเรอ่ื ง แสดงข้อมูลการเคล่ือนย้ายจากต�าแหน่งหนึ่งไปอีก
เพือ่ วดั และประเมินผลตามตัวชีว้ ดั และเครือ่ งมือ ตา� แหนง่ หนง่ึ โดยใชส้ ญั ลกั ษณเ์ สน้ และลกู ศรทศิ ทาง เชน่
ทางภูมิศาสตร์ แผนทแี่ สดงจา� นวนผอู้ พยพ
ขนั้ สรปุ
แผนท่ีโคโรเพลท
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ แสดงข้อมลู เชิงปริมาณในพนื้ ท ่ี โดยใช้สัญลักษณส์ ีและ
แผนท่ีเฉพาะเรื่อง และเครื่องมือทางภูมิศาสตร แสดงระดับความเขม้ ของสี เช่น สีเขม้ แสดงขอ้ มลู ที่มี
ซ่ึงไดแก ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร และสถิติ ปรมิ าณมากหรอื หนาแนน่ สอี อ่ นแสดงขอ้ มลู ทม่ี ปี รมิ าณ
ทางภูมิศาสตร ตลอดจนความสําคัญท่ีมีอิทธิพล นอ้ ยหรือเบาบาง
ตอการดําเนินชีวิตประจําวัน และใช PPT สรุป
สาระสําคญั ของเน้อื หาทา ยหนวย ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร ์ (GIS) เปน็ ระบบขอ้ มลู

ขนั้ ประเมนิ ทีเ่ ช่ือมโยงกับคา่ พกิ ดั ภมู ศิ าสตร์และรายละเอียดของพ้ืนท ่ี โดย
ใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละแสดงผลลพั ธ ์ในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ แผนท ี่ สถติ ิ
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ภาพ ๓ มติ ิ ตารางขอ้ มลู รอ้ ยละ เพอ่ื ใช ้ในการวางแผนและตดั สนิ ใจของ
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน ผ้ใู ชใ้ ห้มีความถกู ต้องและเหมาะสม
หนา ชน้ั เรยี น
สถติ ทิ างภมู ศิ าสตร์ ขอ้ มลู ของปรากฏการณเ์ ชงิ พนื้ ทต่ี า่ ง ๆ ณ ชว่ งเวลาหนง่ึ หรอื หลายชว่ งเวลา แลว้ นา� เสนอ
2. ครูตรวจสอบผลจากการทําใบงาน แบบฝก
สมรรถนะฯ และแบบวัดฯ ภูมศิ าสตร ม.3 หลากหลายรปู แบบ เพอ่ื ง่ายต่อการวิเคราะหข์ ้อมูล

3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย ๑๖
การเรียนรูท่ี 1 เรื่อง แผนท่ีเฉพาะเรื่องและ
เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตร

แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม 21st Century Skills

ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอ้ื หา เรอ่ื ง เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร นักเรียนแบงกลุมสืบคนขาวสถานการณของโลกท่ีสงผล
ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น กระทบตอประเทศในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต หรือ
โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอผลงาน เหตุการณท่ีเกิดขึ้นแลวสงผลกระทบตอประเทศตางๆ ท่ัวโลก
ท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 1 เร่ือง แผนท่ีเฉพาะเร่ืองและ ในวงกวา ง เชน สถานการณก ารระบาดของโรคโควดิ -19 (COVID-19)
เครอื่ งมอื ทางภมู ิศาสตร วิเคราะหเสนทางการเกิดและเชื่อมโยงสถานการณโ ดยใชเ ครอ่ื งมือ
ทางภูมิศาสตร เชน แผนที่ ลูกโลก ภาพจากดาวเทียม ระบบ
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน สารสนเทศภูมิศาสตร แลววเิ คราะหในประเดน็

คาชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี • สถานการณ
ตรงกบั ระดบั คะแนน • สาเหตุ
• ผลกระทบตอประเทศตางๆ
ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 • การเปลี่ยนแปลงหรือแนวโนมการเปลี่ยนแปลงหลังจาก
32 เหตกุ ารณน นั้ ยุติลง
สรุปสาระสําคัญเปนแผนผังความคิดนําเสนอหนาชั้นเรียน
1 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา ในรปู แบบตา งๆ โดยใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรป ระกอบการนาํ เสนอ

2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเรื่อง

3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์

4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลุ่ม

รวม

ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............/................./................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี

T18 8 - 11 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

คําถามเน้นการคิด เฉลย คาํ ถามเนนการคิด

๑.   แผนทเี่ ฉพาะเรือ่ งมลี ักษณะสา� คญั อย่างไร และมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 1. แผนท่ีเฉพาะเรื่องเปนแผนที่ที่ใชศึกษาขอมูล
๒.  แผนทเ่ี ฉพาะเร่อื งแตล่ ะประเภทใหข้ อ้ มลู เหมอื นหรือแตกตา่ งกันอย่างไร เรอื่ งใดเรอื่ งหนงึ่ ของพนื้ ทท่ี ตี่ อ งการศกึ ษา เชน
๓.  การอา่ นและแปลความหมายแผนทเี่ ส้นเทา่ แตกต่างจากแผนท่ีแสดงการเคลื่อนทีอ่ ยา่ งไร ขอมูลสภาพอากาศ ปริมาณฝน แหลงแรที่มี
๔.   หากต้องการศกึ ษาภมู ิประเทศแบบเทอื กเขาในภูมภิ าคอเมรกิ ากลาง ควรเลือกใช้แผนท่แี ละ ความสําคัญทางเศรษฐกิจ เสนทางคมนาคม
จาํ นวนประชากร และมปี ระโยชนโ ดยสามารถ
เครื่องมือภมู ิศาสตร์ใด เพราะเหตใุ ด นาํ มาใชร ว มกบั แผนทล่ี กั ษณะภมู ปิ ระเทศหรอื
๕.   การเลือกใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ของทวีปอเมริกาเหนือ แผนท่ีเฉพาะเรื่องอ่ืนๆ เพื่อใชวิเคราะหและ
วางแผนในดานตางๆ เชน วางแผนจัดการ
และทวีปอเมริกาใต ้ ควรคา� นงึ ถึงส่งิ ใดบ้าง เพราะเหตใุ ด ภัยพิบัติ พยากรณอ ากาศ หรอื วิเคราะหค วาม
เหมาะสมของพน้ื ทเี่ พอื่ วางแผนกอ สรา งตา งๆ
กิจกรรมพฒั นาทักษะ
2. ใหขอมูลแตกตางกัน โดยขึ้นอยูกับความ
๑. น ักเรียนสืบค้นแผนท่ีเฉพาะเรื่องเก่ียวกับประเทศในทวีปอเมริกาเหนือหรือทวีปอเมริกาใต้ เหมาะสมในการนําเสนอขอมูลลงบนแผนท่ี
๑ แผน่ อ่านและแปลความหมายแผนทีด่ งั กลา่ ว แลว้ นา� เสนอหน้าช้นั เรียน และการนําไปใชวิเคราะห เชน แผนท่ีจุด
โดยสว นใหญจ ะแสดงขอ มลู เกย่ี วกบั ทตี่ ง้ั เมอื ง
๒.   นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ถึงการน�า GIS ไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาลักษณะ และจาํ นวนประชากร เพื่อใหเห็นปริมาณและ
ทางกายภาพ สังคม และวฒั นธรรมของทวีปอเมรกิ าเหนอื และทวปี อเมรกิ าใต้ แล้วน�าเสนอ การกระจายของขอมูล แผนทแี่ ผนภูมวิ งกลม
และอภปิ รายสรุปรว่ มกนั สดั สว น โดยสว นใหญจ ะแสดงขอ มลู มากกวา
2 ชนิดข้ึนไป เพื่อเปรียบเทียบสัดสวนขอมูล
๓.   นักเรียนสืบค้นข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประเทศในทวีปอเมริกาเหนือหรือทวีปอเมริกาใต้ ๑ เร่ือง ตา งๆ เชน ขอมูลปริมาณการสงออกแรเ หล็ก
แลว้ น�าเสนอข้อมูลในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น อนิ โฟกราฟิก แผนภูม ิ แผนท่เี ฉพาะเร่อื ง ทอง ทองแดง

๑๗ 3. แผนทเ่ี สน เทา และแผนทแี่ สดงการเคลอ่ื นทใี่ ช
นาํ เสนอขอ มลู ทแ่ี ตกตา งกนั โดยใชส ญั ลกั ษณ
ท่ีแตกตา งกัน ซ่ึงการแปลความแผนที่เสนเทา
จะตองดูสัญลักษณเสนและสี ที่มีการไลเฉด
สีแทนปริมาณขอมูล สวนแผนที่แสดงการ
เคลือ่ นท่ีจะตองดูสญั ลักษณทิศทางของลกู ศร
และความหนาของเสน ลกู ศรทใี่ ชแ สดงปรมิ าณ
ขอ มลู ท่ีเคลอ่ื นทจ่ี ากจดุ หนง่ึ ไปยงั อีกจุดหน่ึง

4. แผนทภี่ มู ปิ ระเทศ ภาพจากดาวเทยี ม เนอ่ื งจาก
แสดงใหเ หน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในแบบตา งๆ
ไดอ ยางชัดเจน

5. คํานึงถึงความทันสมัยและความถูกตองของ
ขอ มลู เชน ขอ มลู ประชากร ภาพจากดาวเทยี ม
และขอมูลสถิติตางๆ ของทวีปอเมริกาเหนือ
และทวีปอเมริกาใต เพื่อใหผลลัพธท่ีไดจาก
การวเิ คราะหข อ มลู มคี วามถกู ตอ งแมน ยาํ ทสี่ ดุ

เฉลย แนวทางประเมินกจิ กรรมพัฒนาทักษะ

ประเมินความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป
งานหรอื ชิ้นงานใชเ วลาไมนาน งานสาํ หรับประเมนิ รูปแบบนอ้ี าจเปน คําถามปลายเปด หรือผงั มโนทศั น นิยมสําหรับประเมนิ ผเู รยี นรายบคุ คล

ประเมินความสามารถ
• เชน ความคลอ งแคลว ในการใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร การแปลความหมายขอ มลู ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการแกป ญ หา งานหรอื ชน้ิ งานจะสะทอ นถงึ
ทักษะและระดบั ความสามารถในการนาํ ความรไู ปใช อาจเปน การประเมนิ การเขยี น ประเมนิ กระบวนการทํางานทางภมู ศิ าสตรต า งๆ หรือการวเิ คราะห
และการแกปญ หา

ประเมนิ ทกั ษะ
• มีเปาหมายหลายประการ ผเู รยี นไดแสดงทักษะ ความสามารถทางภูมศิ าสตรตางๆ ท่ีซบั ซอนขน้ึ งานหรือชน้ิ งานมกั เปน โครงงานระยะยาว ซง่ึ ผูเรียน
ตองมกี ารนําเสนอผลการปฏิบตั งิ านตอ ผูเ กย่ี วขอ งหรือตอสาธารณะ
สิ่งที่ตองคํานึงถึงในการประเมิน คือ จํานวนงานหรือกิจกรรมที่ผูเรียนปฏิบัติ ซ่ึงผูประเมินควรกําหนดรายการประเมินและทักษะที่ตองการประเมินให

ชัดเจน

T19

Chapter Overview

แผนการจัด สอื่ ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมนิ ทักษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์

แผนฯ ท่ี 1 - หนงั สือเรยี น 1. วเิ คราะหท์ �ำเลท่ีตั้ง กระบวนการ - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - การสงั เกต 1. ใฝเ่ รยี นรู้
ท�ำเลทต่ี ้ัง ขนาด
อาณาเขต ภมู ิศาสตร์ ม.3 ขนาด อาณาเขต และ ทางภมู ศิ าสตร์ - ต รวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การแปลความ 2. ม ุ่งม่ันในการ
และลกั ษณะ
ภูมิประเทศ - แบบฝึกสมรรถนะและ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของ (Geographic และการคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ขอ้ มลู ทาง ทำ� งาน

3 การคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (K) Inquiry - ตรวจใบงานท่ี 2.1 ภมู ศิ าสตร์

ชั่วโมง - แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ใ ชเ้ ครอื่ งมอื ทาง Process) - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน - การคิดเชิงพน้ื ที่

- PowerPoint ภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูล - ตรวจผลงาน/ชน้ิ งาน - ก ารคดิ

- ใบงานท่ี 2.1 เกี่ยวกบั ทำ� เลทต่ี ้งั - สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน แบบองคร์ วม

ขนาด อาณาเขต และ รายบุคคล - การใชเ้ ทคโนโลยี

ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของ - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน

ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (P) กล่มุ

3. เหน็ คณุ คา่ ของการศกึ ษา - ประเมินคณุ ลักษณะ

เกย่ี วกบั ทำ� เลทต่ี ง้ั ขนาด อันพงึ ประสงค์

อาณาเขต และลกั ษณะ

ภมู ิประเทศของทวีป

อเมรกิ าเหนอื (A)

แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น 1. วิเคราะห์ลกั ษณะ กระบวนการ - ต รวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การสงั เกต 1. ใฝเ่ รียนรู้
ลักษณะ
ภูมอิ ากาศและ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ภมู อิ ากาศและ ทางภมู ศิ าสตร์ และการคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 - การแปลความ 2. ม ุ่งม่ันในการ
พชื พรรณ
ธรรมชาติ - แ บบฝึกสมรรถนะและ พชื พรรณธรรมชาตขิ อง (Geographic - ตรวจใบงานท่ี 2.2 ขอ้ มลู ทาง ท�ำงาน

2 การคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (K) Inquiry - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน ภมู ศิ าสตร์

ชว่ั โมง - PowerPoint 2. ใช้เครอื่ งมอื ทาง Process) - ตรวจผลงาน/ชิน้ งาน - การคดิ เชงิ พ้นื ท่ี

- ใบงานท่ี 2.2 ภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูล - ส งั เกตพฤติกรรมการท�ำงาน - การคดิ

เกยี่ วกับลกั ษณะ รายบุคคล แบบองคร์ วม

ภมู อิ ากาศและ - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน - การใชเ้ ทคโนโลยี

พชื พรรณธรรมชาตขิ อง กลุ่ม

ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (P) - ประเมนิ คุณลักษณะ

3. เ ห็นคณุ คา่ ของ อนั พึงประสงค์

การศกึ ษาเกยี่ วกับ

ลักษณะภูมิอากาศและ

พชื พรรณธรรมชาตขิ อง

ทวีปอเมรกิ าเหนอื (A)

T20

แผนการจัด สอื่ ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์

แผนฯ ท่ี 3 - หนังสอื เรยี น 1. ว ิเคราะหล์ กั ษณะ กระบวนการ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การสังเกต 1. ใฝ่เรยี นรู้
ลักษณะ
ทรัพยากร ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ทรพั ยากรธรรมชาตขิ อง ทางภมู ศิ าสตร์ และการคิด ภมู ศิ าสตร์ ม.3 - ก ารแปลความ 2. มุ่งมั่นในการ
ธรรมชาติ
- แบบฝึกสมรรถนะและ ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (K) (Geographic - ตรวจใบงานท่ี 2.3 ข้อมลู ทาง ท�ำงาน
2
การคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 2. ใชเ้ ครอ่ื งมือทาง Inquiry - ประเมินการน�ำเสนอผลงาน ภูมิศาสตร์
ชัว่ โมง
- PowerPoint ภูมิศาสตร์สืบค้นข้อมูล Process) - ตรวจผลงาน/ช้ินงาน - การคิดเชงิ พื้นท่ี

- ใบงานท่ี 2.3 เก่ยี วกับลกั ษณะ - ส ังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - การคดิ

ทรพั ยากรธรรมชาตขิ อง รายบคุ คล แบบองค์รวม

ทวปี อเมรกิ าเหนอื ได้ (P) - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน - การใช้เทคโนโลยี

3. เหน็ คุณคา่ ของการ กลมุ่

ศึกษาเกี่ยวกับลักษณะ - ประเมินคณุ ลักษณะ

ทรพั ยากรธรรมชาตขิ อง อันพึงประสงค์

ทวีปอเมรกิ าเหนอื

เพ่มิ มากข้นึ (A)

T21

แผนการจัด สอื่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ
การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์

แผนฯ ที่ 4 - หนงั สอื เรียน 1. อธบิ ายการตงั้ ถิ่นฐาน กระบวนการ - ตรวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การสงั เกต 1. ใฝ่เรียนรู้
ลักษณะ
ประชากร ภมู ศิ าสตร์ ม.3 การกระจายและการ ทางภมู ศิ าสตร์ และการคิด ภูมิศาสตร์ ม.3 - การแปลความ 2. ม ุ่งมั่นในการ
สงั คมและ
วัฒนธรรม - แบบฝึกสมรรถนะและ เปลย่ี นแปลงประชากร (Geographic - ตรวจใบงานท่ี 2.4 ข้อมูลทาง ท�ำงาน

3 การคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 ในทวีปอเมริกาเหนือได้ Inquiry - ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน ภูมิศาสตร์

ชวั่ โมง - PowerPoint (K) Process) - ตรวจผลงาน/ชนิ้ งาน - การคิดเชงิ พนื้ ที่

- ใบงานที่ 2.4 2. อ ธิบายลกั ษณะทาง - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน - ก ารคิด

สังคมและวัฒนธรรม รายบุคคล แบบองคร์ วม

ของประชากรในทวปี - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน - การใช้เทคโนโลยี

อเมรกิ าเหนือได้ (K) กล่มุ

3. ส �ำรวจและระบทุ �ำเล - ป ระเมินคณุ ลักษณะ

ทีต่ ัง้ ของกิจกรรม อนั พึงประสงค์

ทางสงั คมในทวปี

อเมรกิ าเหนอื ได้ (K)

4. ว เิ คราะหป์ ัจจัยทาง

กายภาพและปจั จัยทาง

สังคมที่ส่งผลต่อท�ำเล

ทีต่ ง้ั ของกิจกรรมทาง

สังคมในทวีป

อเมรกิ าเหนอื ได้ (K)

5. ใช้เครื่องมือทาง

ภมู ศิ าสตรส์ ืบค้น

เก่ยี วกับลักษณะ

ประชากร สงั คมและ

วฒั นธรรมของทวีป

อเมรกิ าเหนือได้ (P)
6. เหน็ คณุ คา่ ของ

การศึกษาลกั ษณะ
ประชากร สงั คมและ
วฒั นธรรมของทวปี
อเมรกิ าเหนอื (A)

T22

แผนการจดั ส่ือท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลักษณะ
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์

แผนฯ ท่ี 5 - ห นังสือเรียน 1. อธิบายลักษณะทั่วไป สืบเสาะ - ต รวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ - การสังเกต 1. ใฝ่เรียนรู้
ลกั ษณะ
เศรษฐกจิ ภูมิศาสตร์ ม.3 ทางเศรษฐกิจของทวีป หาความรู้ และการคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 - การแปลความ 2. ม ุ่งมั่นในการ

4 - แบบฝึกสมรรถนะและ อเมริกาเหนอื ได้ (K) (5Es - ตรวจการท�ำแบบวดั และ ขอ้ มูลทาง ท�ำงาน

ชว่ั โมง การคดิ ภมู ศิ าสตร์ ม.3 2. ส �ำรวจและระบุท�ำเล Instructional บันทกึ ผลการเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์

- แ บบวดั และบนั ทกึ ผล ทีต่ ้ังของกจิ กรรมทาง Model) ภูมศิ าสตร์ ม.3 - การคิดเชงิ พ้ืนที่

การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ เศรษฐกจิ ของทวปี - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - ก ารคดิ

ม.3 อเมริกาเหนือได้ (K) - ป ระเมินการน�ำเสนอผลงาน แบบองค์รวม

- แบบทดสอบหลังเรยี น 3. วเิ คราะห์ปจั จยั ทาง - ตรวจผลงาน/ชิ้นงาน - การใชเ้ ทคโนโลยี

- PowerPoint กายภาพและปัจจยั ทาง - สังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน

- ใบงานท่ี 2.5 สังคมที่ส่งผลต่อท�ำเล รายบุคคล

ทต่ี ั้งของกิจกรรมทาง - สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน

เศรษฐกิจในทวีป กล่มุ

อเมรกิ าเหนอื ได้ (K) - ประเมินคณุ ลักษณะ

4. ใช้เครือ่ งมือทาง อนั พงึ ประสงค์

ภมู ิศาสตรส์ บื คน้ - ต รวจแบบทดสอบหลังเรยี น

เกีย่ วกับลักษณะ

เศรษฐกจิ ของทวปี

อเมรกิ าเหนอื ได้ (P)

5. เห็นคุณคา่ ของการ

ศกึ ษาลกั ษณะเศรษฐกิจ

ของทวีปอเมริกาเหนือ

เพิม่ มากขึน้ (A)

T23

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั นาํ (Geographic Inquiry Process) ๒ ทวีปอเมริกาเหนือหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
»¨˜ ¨ÂÑ ทางกายภาพ
1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช และปจั จยั ทางสงั คมสง่ ผล
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอ่ื เรอ่ื งทจี่ ะเรยี นรู ตอ่ ทา� เลทต่ี งั้ และกจิ กรรม
จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ทางเศรษฐกจิ และสงั คม
ในทวปี อเมรกิ าเหนอื
2. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย อยา่ งไร
การเรยี นรทู ่ี 2 เรอื่ ง ทวีปอเมรกิ าเหนือ

3. ครใู หน กั เรยี นวเิ คราะหภ าพ โดยครตู งั้ คาํ ถามนาํ
เชน
• ตัง้ อยูในประเทศอะไร
• มีลักษณะทางกายภาพอยา งไร
• มีความสาํ คญั ตอ ทวีปอเมริกาเหนอื อยา งไร
จากน้ันรวมกันอภิปรายประเด็นสําคัญจาก
คาํ ถาม (Big Question) หนา หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2
จากหนังสือเรยี น ภูมิศาสตร ม.3

ทวีปอเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ มีพ้ืนที่ตั้งอยู่ ตวั ช้วี ัด ส ๕.๑ ม.๓/๑
ทางซีกโลกเหนอื ท้งั หมด ล้อมรอบดว้ ย ๓ มหาสมุทร ไดแ้ ก่ ส ๕.๒ ม.๓/๑-๒
มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทร
อารก์ ตกิ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ ทร่ี าบกวา้ งใหญบ่ รเิ วณตอนกลาง สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
มเี ทอื กเขาสงู ทางดา้ นตะวนั ตก และมหี มเู่ กาะในทะเลแครบิ เบยี น • ท่ตี ้งั ขนาด และอาณาเขตของทวีป
ลักษณะภูมิอากาศมีความหลากหลาย และมีทรัพยากร อเมริกาเหนอ�
ธรรมชาตอิ ดุ มสมบรู ณ์ นอกจากน้ี ยงั เปน็ ทวปี ทม่ี กี ลมุ่ คนหลาย • การเลือกใช้แผนท่ีเฉพาะเรื่อง
เช้ือชาติ ท้ังชนพ้ืนเมืองดั้งเดิม และผู้ท่ีอพยพเข้ามาอยู่ใหม่ และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์สืบค้น
จงึ ทา� ใหม้ สี งั คมและวัฒนธรรมทแ่ี ตกต่างและหลากหลาย ข้อมูลลักษณะทางกายภาพของ
๑8 ทวปี อเมริกาเหน�อ
• ทา� เลทตี่ ง้ั ของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ
และสังคม เช่น พ้ืนที่เพาะปลูก
และเลี้ยงสัตว์ แหล่งประมง การ
กระจายของภาษาและศาสนาในทวปี
อเมริกาเหนอ�
• ปัจจัยทางกายภาพและปัจจัยทาง
สังคมที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง
โครงสรา้ งทางประชากร สง�ิ แวดลอ้ ม
เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมใน
ทวปี อเมรกิ าเหน�อ

เกร็ดแนะครู

ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรูโดยเนนความสามารถในการใชทักษะ กระบวนการ และความสามารถทางภูมิศาสตร เชน ทักษะการแปลความขอมูล
ทางภมู ศิ าสตร ทักษะการใชเทคนิคและเครอื่ งมอื ทางภูมศิ าสตร ประกอบการเรียนการสอน โดยจัดกจิ กรรม ดังนี้

• ใชเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร เชน แผนท่ีเฉพาะเรื่อง ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร สถิติทางภูมิศาสตร เพื่อสืบคนและนําเสนอขอมูลทางภูมิศาสตร
เกีย่ วกบั ลกั ษณะทางกายภาพ ประชากร สงั คมและวัฒนธรรม และเศรษฐกจิ ของทวปี อเมรกิ าเหนือ

• ตั้งประเดน็ และรว มกนั อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับทวปี อเมรกิ าเหนอื ในดานตา งๆ
• จดั ทาํ แผนผงั ความคดิ เกยี่ วกบั การเปลย่ี นแปลงทางดา นเศรษฐกจิ ของทวปี อเมรกิ าเหนอื เพอ่ื ใหน กั เรยี นมคี วามเขา ใจและตระหนกั ถงึ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จาก

การเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจ
• การจดั กจิ กรรมตา งๆ ควรเนน กจิ กรรมทก่ี ระตนุ ความสนใจของนกั เรยี น ใหน กั เรยี นรจู กั คดิ และมสี ว นรว มในกจิ กรรมตา งๆ รวมทงั้ สง เสรมิ ประสบการณ

และความสามารถของผูเรียน

T24

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

๑ ทตี่ ้งั ขนาด และอาณาเขต ขนั้ นาํ

ทวีปอเมริกาเหนือมีพ้ืนท่ีต้ังอยูทางซีกโลกเหนือท้ังหมด ต้ังอยูในภูมิอากาศเขตรอน เขต 4. ครใู หน กั เรียนดูแผนทท่ี วปี อเมรกิ าเหนือ
อบอุน และเขตหนาว จึงสงผลใหมีความหลากหลายท้ังดานปรากฏการณธรรมชาติและสภาพ บอกทําเลท่ตี งั้ อาณาเขต แลวจัดกิจกรรมเกม
สิ่งแวดลอม “ท่ีนี่ที่ไหน” เพื่อกระตุนความสนใจ/กระตุน
ความคิดเก่ียวกบั ทําเลท่ีต้งั ขนาด อาณาเขต
๑.๑ ท่ีตัง้ และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื
ทวีปอเมริกาเหนอื มที ่ตี งั้ ตามพิกดั ทางภูมิศาสตรร ะหวางละตจิ ดู ๗ ํ ๑๕’ เหนือ ถึงละติจดู เพอื่ นาํ เขา สกู ารเรยี น โดยครนู าํ รปู ภาพปรศิ นา
๘๓ ํ ๓๘’ เหนือ และระหวา งลองจิจูด ๑๗๒ ํ ๓๐’ ตะวนั ออก ถงึ ลองจจิ ูด ๑๒ ํ ๐๘’ ตะวนั ตก เมื่อ มาใหนักเรียนทายชื่อประเทศ สถานที่ หรือ
พิจารณารายละเอียดจุดตําแหนงท่ีตั้งของแผนดินใหญทวีปอเมริกาเหนือและดินแดนซึ่งเปนเกาะ ลักษณะภูมิประเทศที่อยูในทวีปอเมริกาเหนือ
ตาง ๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ มตี ําแหนง ทางภมู ิศาสตร ดังน้ี พรอมทั้งระบุตําแหนงของสถานที่ดังกลาว
ตาํ แหนง ทีต่ ้ังของทวปี อเมรกิ าเหนอื บนแผนที่ท่อี ยใู นหนงั สือเรยี น ภูมศิ าสตร ม.3
1 ใหถูกตอง (เชน ภาพสุนัขพันธุแลบราดอร
จุดเหนอื สุด คอื แหลมมอรรสิ เจซัป เกาะกรนี แลนด ประเทศเดนมารก กาํ ลงั คาบสมดุ หมายถงึ การใบค าํ ถงึ คาบสมทุ ร
จดุ ใตสดุ คือ คาบสมุทรอาซวยโร ประเทศปานามา แลบราดอร, ภาพดอกแค-ทุงนา-นักรองชื่อ
จุดตะวนั ออกสดุ คอื แหลมนอรด ออสตุนดินเกน เกาะกรนี แลนด ประเทศเดนมารก ดา เอ็นโดฟน หมายถงึ การใบคาํ ถึงประเทศ
จดุ ตะวนั ตกสุด คอื เกาะแอตตู หมูเกาะอะลเู ชียน สหรฐั อเมริกา แคนาดา ฯลฯ) ภายในระยะเวลาภาพละไมเ กนิ
2 นาที ใครตอบไดถ กู ตอ งและรวดเรว็ ทส่ี ดุ เปน
๑.๒ ขนาด ผชู นะ

ทวีปอเมรกิ าเหนอื มีเนอ้ื ท่ี ๒๔,๒๔๗,๐๓๙ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณรอยละ ๑๖.๕ ของ
เนือ้ ทีท่ งั้ หมดของโลก มขี นาดใหญเ ปน อนั ดบั ๓ รองจากทวปี เอเชยี และทวีปแอฟริกา มลี กั ษณะ
รปู รา งกวา งทางตอนเหนอื และเรยี วแคบลงทางตอนใต วดั ระยะความกวา งของแผน ดนิ จากชอ งแคบ
เบริงถึงเกาะนิวฟนดแ ลนดได ๔,๘๒๘ กิโลเมตร สวนท่แี คบทส่ี ดุ ของแผนดนิ อยทู ่คี อคอดปานามา
กวา งประมาณ ๕๐ กโิ ลเมตร

 เทือกเขาร็อกกีต้ังอยูทางตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ มีแนวทอดตัวยาวจากแคนาดา สหรัฐอเมริกา ๑๙
จนถึงเม็กซโิ ก ยาวประมาณ ๔,๘๐๐ กโิ ลเมตร

ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับที่ตั้งและอาณาเขตของทวีป 1 กรนี แลนด ไดม กี ารลงประชามตเิ พม่ิ ความเปน อสิ ระจากประเทศเดนมารก
อเมรกิ าเหนือ เพอ่ื สรา งเศรษฐกจิ ดว ยตนเองบนพนื้ ฐานของแหลง ทรพั ยากรธรรมชาติ เมอ่ื วนั ท่ี
25 พฤษภาคม ค.ศ. 2009 โดยผลการลงประชามตปิ ระกาศในวนั ที่ 26 พฤษภาคม
1. ปานามาเปนเพียงประเทศเดยี วที่มพี ้นื ทีอ่ ยูในซกี โลกใต ค.ศ. 2009 ปรากฏวา รอ ยละ 75.54 เห็นดว ย ขณะทีร่ อยละ 23.57 ไมเ ห็นดว ย
2. เสน เมรเิ ดียนแรกลากผา นเมอื งนิวยอรกของสหรฐั อเมริกา ผลรบั รองดงั กลาวทําใหประชาชนกวา 56,000 คน บนเกาะกรีนแลนดจ ะยังได
3. ชายฝง ดา นตะวันตกของทวีปตดิ ตอ กับมหาสมุทร รับเงินอุดหนุนประจําปจากเดนมารก และกรีนแลนดมีสิทธิขาดในการบริหาร
แหลงทรัพยากรธรรมชาติ ซงึ่ รวมถึงนา้ํ มนั ทองคํา สังกะสี และตะกวั่
แอตแลนตกิ เหนือ
4. แมน ้าํ รีโอแกรนดเปน พรมแดนธรรมชาตทิ ี่กั้นระหวา ง

ภมู ภิ าคอเมรกิ าเหนือและอเมริกากลาง

(วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 4. แมน ้ํารโี อแกรนดเ ปนเสน แบงเขต
ดานตะวันตกและตะวันตกเฉียงใตของรัฐเท็กซัส และระหวาง
รัฐเท็กซสั กับประเทศเม็กซิโก)

T25

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๑.๓ อาณาเขต

ขัน้ ที่ 1 การตั้งคาํ ถามเชิงภูมิศาสตร ทวีปอเมริกาเหนือมีอาณาเขตจดนานน้ํา คือ มหาสมุทร ทะเล และอาวตาง ๆ ทุกทิศ
โดยรอบพนื้ ทท่ี วปี มเี พยี งทางใตบ รเิ วณปานามาทมี่ พี นื้ ทตี่ ดิ ตอ กบั ทวปี อเมรกิ าใต อาณาเขตตดิ ตอ
1. ครใู หนักเรียนดูแผนท่ีทวปี อเมริกา ชต้ี าํ แหนง มีดังนี้ 12
ทาํ เลทตี่ งั้ ของทวปี อเมรกิ าหนอื และใหน กั เรยี น ทศิ เหนอื จดมหาสมุทรอารกตกิ ทะเลโบฟอรต อาวแบฟฟน อา วฮัดสนั และทะเล
เชื่อมโยงความสําคัญของการศึกษาทําเลท่ีต้ัง ทศิ ตะวันออก แลบราดอร
ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมิประเทศของ ทิศใต จดมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ตอนเหนือ
ทวีปอเมริกาเหนือ จากกิจกรรม “ท่ีน่ีท่ีไหน” จดมหาสมุทรแปซิฟก ติดตอกับทวีปอเมริกาใต จดอาวเม็กซิโก และ
จากข้ันนําที่ผานมา แลวต้ังประเด็นคําถาม ทะเลแคริบเบยี น
ตอยอดเพ่ิมเติม เพ่ือกระตุนและเชื่อมโยง ทศิ ตะวนั ตก จดมหาสมุทรแปซิฟก ตอนเหนอื อาวอะแลสกา และมชี องแคบเบรงิ กน้ั
ใหนักเรียนต้ังประเด็นคําถามทางภูมิศาสตร แแผผนนทท่ทีที่ ่ีตีต่ งั้ง้ั แแลละะออาาณณาาเเขขตตขตรอิดะงตหทอววขาีปององทเทวมวปี รปี อกิ อเามเเมหรรนกิ กิา�อาเหเหนนอื อืกับทวปี เอเชยี
เกี่ยวกับทําเลที่ตั้ง ขนาด อาณาเขต และ 180 ํ 100 ํW
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื เชน 140 ํE เหน�อสุด
• แอปเปลวอชิงตันที่รูจักกันในไทยมาจาก มหาสมุทรอารกติ แหลมมอรร ิสเจซัป ตะวันออกสุด 20 ํE
สหรฐั อเมรกิ าจรงิ หรือไม 7เ0สน Nํ อาทรกวตปี กิ เเซออรเเชคลิีย เกาะกรนี แลนด แหลมนอรดออสตุนดนิ เกน 10 ํE
• ปอู ะแลสกาเกย่ี วขอ งกบั รฐั อะแลสกาหรอื ไม 150 ํE ก 83 ํ 38' N เ ก า ะ ก รี น แ ล น ด
160 Eํ 60 ํN เกาะกรีนแลนด
2. ครูใหนักเรียนรวมกันตั้งประเด็นคําถามทาง ทะเลโบฟอรต 12 ํ 08' W
ภมู ศิ าสตรเ กย่ี วกบั ทาํ เลทต่ี งั้ ขนาด อาณาเขต 50 Nํ
และลักษณะภูมิประเทศ เพื่อคนหาคําตอบ งแคบเบรงิ ทวีปยโุ รป 0 ํ
โดยครูแบงนกั เรยี นออกเปน 6 กลุม กลุมละ เสนแบงเขตวันสากล อา วแบฟฟน
6 - 8 คน ตามลักษณะภูมิประเทศของทวีป ชอ เหนอ� สุดของแผน ดิน
อเมรกิ าเหนอื ไดแก 30 ํN 40 ํNคาบสมทุ รบเู ทีย
• เขตกลมุ เทือกเขาดานทิศตะวนั ตก 170 Eํ 71 ํ 59' N 10 Wํ
• บริเวณที่สูงและภูเขาดานทศิ ตะวันออก ทะเลแลบราดอร ตะวันออกสดุ ของแผน ดนิ 20 ํW
• บรเิ วณท่รี าบตํ่ารอบอา วฮัดสนั า
• ทรี่ าบเกรตเพลนส 40 ํN
• ทร่ี าบตาํ่ ตอนกลางและทร่ี าบชายฝง ทะเล ตะวนั ตกสดุ อะแอลา สวก อา วฮดั สัน ปลายแหลมของอา วแบตเทลิ
• เกาะและหมเู กาะ 180 ํ เกาะแอตตู
ทวปี อเมริกาเหนอื
หมเู กาะอะลูเชียน
สหรฐั อเมรกิ า ตะวันตกสดุ ของแผน ดนิ 55 ํ 42' W
Wํ 30 Nํ 172 ํ 30' E แหลมพรนิ ซออฟเวลส มเุลสน ททนรอปรก ตออิ ฟกแคนเซอร
170 30 ํW
160 มห 168 ํ 05' W ส 40 ํW

20 ํN แป า ส มุ ท ร ม ห า 20 ํN
ํW ซิ ฟ ก แ อ ต

หมเู กาะฮาวาย

10 Nํ อา วเมก็ ซิโก หมูเกาะเวสตอินดีส 10 Nํ

150 Wํ ทะเลแคริบเบียน 50 ํW
N
ใตสุด ทวปี คำอธบิ ายสัญลกั ษณ
0ํ คาบสมุทรอาซวยโร อเมริกาใต เขตประเทศ
ทางน้ำ
500มาต0ราสว5น001 1: ,8000,00010,5,00000กม. ปานามา แหลงนำ้
Pro1je40ctiWํ on: Lambert1C30onWํ formal Coni1c20 Wํ 7 ํ 15' N
90 Wํ C8O0PYWํ RIGHT © Akso7r0nWํCharoenTat ACT6.0CํWo.,Ltd
๒๐ 110 ํW 100 ํW

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด

1 ทะเลโบฟอรต ทะเลในมหาสมทุ รแอตแลนติก อยูทางตะวนั ออกเฉียงเหนือ ถานักเรียนนั่งเรือขา มชอ งแคบเบริงจากสหรฐั อเมรกิ าไปทาง
ของรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา ทิศตะวนั ตกจะพบกับประเทศใด
และทางตะวันตกของเกาะแบงสใ นกลมุ เกาะอารก ติก ลกึ ประมาณ 4,600 เมตร
2 อาวแบฟฟน อาวในมหาสมุทรแอตแลนติก ต้ังอยูระหวางดานตะวันตก 1. ญีป่ ุน
ของเกาะกรีนแลนดกับดานตะวันออกของเกาะแบฟฟน เชื่อมตอกับมหาสมุทร 2. รัสเซยี
แอตแลนตกิ ทางชองแคบเดวสิ 3. เดนมารก
4. โคลอมเบีย

(วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ชองแคบเบริงเช่ือมมหาสมุทร
อารกติกกับทะเลเบริง และกั้นระหวางประเทศรัสเซียกับทวีป
อเมรกิ าเหนือ)

T26

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

แผนนทท่ีเเ่ีขขตตกการาปรกปคกรคอรงอขงอขงทองวีปทอวเีปมอรกิเมารเหิกนาอืเหน�อ ขน้ั สอน

500 ม0าตราสว น 1 : 501,,000000,0001,500 กม. มหาสมุทรอารกติก เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล 70 ํN 3. ครูใหนักเรียนดูแผนที่เขตการปกครองของ
ทวีปอเมริกาเหนือ สุมตัวแทนบอกช่ือมลรัฐ
80 ํN และช้ีตําแหนงที่ตั้ง แลวเปรียบเทียบขนาด
N ของสหรัฐอเมริกากับประเทศไทย จากน้ันครู
ท ะ เ ล โ บ ฟ อ ร ต ก รี น แ ล น ด นําแผนท่ีแสดงลักษณะภูมิประเทศของทวีป
ท7ว0 ปีNํ เอเชียทะเลชุค (ดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมารก) อเมรกิ าเหนอื มาใหแ ตล ะกลมุ นาํ ไปศกึ ษาและ
งแคบเบรงิ ชี รวมกันตั้งประเด็นคําถามจากแผนที่ท่ีแตละ
60 ํN ชอ อ า ว แ บ ฟ ฟ น กลุมไดรับ กลุมละ 1 คําถาม โดยคําถาม
60 Nํ จะตองแสดงความสัมพันธระหวางท่ีตั้งและ
อะแลสกา ลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ
ทะเลเบรงิ ชอ งแคบเดวสิ กับกิจกรรมของประชากรในทวีป ซ่ึงครูอาจ
ทาํ การแนะนําเพิม่ เติม เชน
ยคู อน นนู าวตุ นิวฟนดแ ลทนะดเแลละแแลลบบรราาดอร • ลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ
สง ผลตอ กจิ กรรมของคนในทวปี อยา งไร
50 Nํ อา วอะแลสก นอรทเวสตเ ทรรทิ อรีส • ปจจัยใดที่ทําใหลักษณะทั่วไปของทวีป
อเมริกาเหนอื แตล ะพ้นื ท่ีแตกตา งกนั
า อา วฮัดสัน 50 Nํ • ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิประเทศ
ท่ีโดดเดนแตกตางจากทวีปอนื่ อยางไร
แ ค น า ด าบรติ ชิ โคลมั เบยี แอลเบอรต า ดอร • ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิประเทศ
ที่คลายคลึงกับประเทศไทยบางหรือไม
มหาสม ซสั แคตเชวนั แมนิโทบา ควิเบก อยางไร (เชน แกรนดแคนยอนในสหรัฐ
อเมริกากับออบหลวงที่จังหวัดเชียงใหม
ทุ รแปซ40 Nํ วอชงิ ตัน ออนแทรโี อ นวิ บรนั สวกิ พรนิ ซเ อ็ดเวริ ด ไอแลนด มีกระบวนการเกิดเหมือนกันหรอื ไม)

โนวาส.
ฟิ ก ส ห รั ฐ อ เ ม ริ ก า30 เมน 40 ํN
22นฮ00คอิกNํ ำํNนาสอรดหธาูริบกรัสฮาฐััวาทเแเเยอขขมวคหาสเเาตตอืกิมงยญัลาวรปงนรจะง ฐัหลคริก้ำนาเบก1ากัะลเาำ้ห6ไาเมษวว0ะทามโงกณเูอศํWบกาวาาาะฮฮฮู าเเกฮวาาาตมยะเเกซฮิ าสาานะโวสาตเ7ดามธ0เวยมาซินาอํWนินรเี ซตณกิ นคอนัติอรตรสฐัแมกิแลอเอนลนะเเนตซะวกดเเนานซรอดอนตวมารลิสแาไนิรดเูออัตกีซีนรด6ายีปยโิ0สาซแบทูโซ กํWฮนอาามฟิมวรนหาาอบาบกทเรนดนิวาตกี ไอดแรวิีนาวลทเาเโีกแบโมูปคนอลโก็ โามดะลซสิงรโิ ากเมเโนซดก็เอานซ1รทแทโิ0ดออเเมเเบกวพว0ทแดโินิลราสอซรอโนค.ก็.าดโสํWร.คิตค.โนซ.จกคลีต.ิซสักาตามาัสโาอเเอแเนิ ฮวพวมนลิินอสอไมนลรดอรติโาซแิินแีจซกอโเมลลิวออาเิอวลาัวตนนกิสอเยนวิสรวเุยาียดรซสตาคเาัวคเวจนูรซมันเิอเเียีนียาซอซนตอยีเลนาอลซลิามนานิ.มซซซเามทิตลัอลั็เิชลีนคินววกิแนเาดาานกดท.ดสนโซเเอกัเตฮออซบบรกอกไิีจรลอลีฮอโซูอโโีซนตมริกอเฮนเนตแวกลัจอดาสาพอปียสกิมวเ.วรนูรวนเาเาตาาทซพอวิาสันทซนยราาแนวรจมาอาาทรคอ..ิครนรากิโแกชก.ะรวัโกคิิงาฮไววตบโลัวเ.รเซันปนไาบจลาดลฮนเานดแี.ปาซวิ ลามนนาาาเเ.ีาจแคปสมนมหแคโนแอาซงิรอามวอรวิากดสามรอรซมแสนคไสตโาสียฮซเาอตนานัซมาเแมแตเชปฮติลรสปทเูุทนเีนซิชติครดอตทยีรบงตั ิสรรซแเอ  มอปสเซทโกเตาาดรปอธบนแวมออกิาโฟลีนิรีปตแรแยาณนโซกิโ คดตนในัตนรมนฮรัฐเติกิงซวโิ โอกนก ร0321000ํ
ํN แคลิฟอรเ นีย ํN
ํN
ฟลอริดา ํN
แอละแบมา
มิสซิสซปิ ป

เ ม็ ก ซิ
มหาสมทุ รแ

เซเแนหอปตมูงเอมกกราวิาโรละติตเลวนิราอโรกจิน ค

คอสตาริกา กรเี นดา 10 ํN ว. เวอรมอนต เสนศูนยส ตู ร
โนวาส. โนวาสโกเชยี
90 ํWCOPYRIGHT © Aksorn C8h0aroํWenTat ACT. Co.,Ltd
Projection: Lambert Conformal Conic

๒๑

กจิ กรรม สรางเสริม เกร็ดแนะครู

ครูนําแผนที่โครงรางของทวีปอเมริกาเหนือมาใหนักเรียน ครูควรนําแผนท่ีแขวนขนาดใหญที่แสดงที่ต้ังและอาณาเขตของประเทศ
ระบายสี พรอ มเขยี นรายละเอยี ดตา งๆ ลงบนแผนที่ เชน ชอื่ ประเทศ ในทวปี อเมรกิ าเหนอื มาใชป ระกอบการเรยี นการสอน เพอื่ ใหน กั เรยี นไดเ หน็ ภาพ
เมอื งหลวง ทะเล อา ว เกาะ หมเู กาะ มหาสมทุ ร ทีช่ ดั เจนและเขา ใจในรายละเอยี ดของแผนทไ่ี ดงา ยขึ้น

กจิ กรรม ทา ทาย ส่ือ Digital

นกั เรยี นฝก ทกั ษะการใชแ ผนท่ี การอา นแผนที่ โดยใหจ บั สลาก ศึกษาคนควาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับแผนที่ท่ีตั้งและอาณาเขตของทวีป
ชื่อประเทศในทวีปอเมรกิ าเหนือ คนละ 1 ประเทศ แลว ออกมาชี้ อเมริกาเหนือ ไดที่ https://legacy.lib.utexas.edu/maps/americas.html
ตาํ แหนง บนแผนทโ่ี ครงรา ง พรอ มบอกอาณาเขตตดิ ตอ ของประเทศ สาํ นักหอสมุดมหาวิทยาลยั เท็กซสั
ดังกลาว

T27

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๑.๔ ภมู ภิ าคทางภมู ศิ าสตรข์ องทวีปอเมริกาเหนือ

ขั้นท่ี 2 การรวบรวมขอ มลู ทวีปอเมริกาเหนือแบ่งออกเป็นประเทศต่าง ๆ รวม ๒๒ ประเทศ แบ่งย่อยออกเป็น
๓ ภูมิภาค และดนิ แดนในการปกครองของประเทศต่าง ๆ ดังนี้
1. จากประเด็นคําถามทางภูมิศาสตรในขั้นที่ 1
ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล ภมู ิภาคอเมรกิ าเหนอื ประเทศ เนอื้ ท่ี  ประชากร  เมอื งหลวง
โดยใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร เชน แผนทแี่ สดง
ลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ ๑๙,๓๕๑,๙๐๕ ตร.กม. แคนาดา (ตร.กม.) (ล้านคน)
เว็บไซตเกี่ยวกับทวีปอเมริกาเหนือ และจาก ๓๖๕.๒ ลา้ นคน สหรฐั อเมรกิ า
Aksorn World Geography Atlas เกีย่ วกับ ๙,๙๗๖,๑๘๕ ๓๗.๒ ออตตาวา
ทตี่ งั้ ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ๙,๓๗๕,๗๒๐ ๓๒๘.๐ วอชิงตนั ด.ี ซี.
ของทวีปอเมริกาเหนือ ตามเขตภูมิประเทศ
ทก่ี ลมุ รบั ผิดชอบ จากหนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร เบลซี ๒๒,๙๖๕ ๐.๔ เบลโมแพน
ม.3 หรือแหลงเรียนรูอ่ืนๆ รวมทั้งแตละกลุม
จะตองศึกษาและตอบประเด็นคําถามทาง คอสตารกิ า ๕๐,๘๙๙ ๕.๐ ซานโฮเซ
ภมู ิศาสตรจ ากข้นั ท่ี 1 ดวย
ภมู ภิ าคอเมรกิ ากลาง เอลซัลวาดอร์ ๒๑,๓๙๓ ๖.๕ ซานซลั วาดอร์
2. ครใู หความรเู พม่ิ เติมเกย่ี วกับทําเลทีต่ ้ัง ขนาด
อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ โดยใช PPT ๒,๔๙๙,๐๐๓ ตร.กม. กัวเตมาลา ๑๐๘,๘๘๙ ๑๗.๒ กวั เตมาลาซติ ี
ประกอบเปนความรูพื้นฐาน และเสริมความรู ๑๗๙.๔ ลา้ นคน
เกี่ยวกับภูมิภาคของทวีปอเมริกาเหนือ ให ฮอนดรู สั ๑๑๒,๐๘๗ ๙.๐ เตกซู ิกัลปา
นกั เรยี นชว ยกนั บอกชอ่ื ประเทศ และเมอื งหลวง
ของประเทศตางๆ พรอมสุมตัวแทนออกมา เม็กซโิ ก ๑,๙๖๗,๑๘๓ ๑๓๐.๘ เม็กซโิ กซติ ี
ชี้ตําแหนงในแผนท่ี และแนะนําแหลงขอมูล
สารสนเทศท่ีนาเช่ือถือประกอบการศึกษา นิการากวั ๑๒๘,๔๑๐ ๖.๓ มานากัว
และรวบรวมขอมลู เพ่ิมเตมิ
ปานามา ๘๗,๑๗๗ ๔.๒ ปานามาซติ ี

ดนิ แดนในการปกครอง ดินแดนของสหราชอาณาจักร ดินแดนของเนเธอรแ์ ลนด์
ของประเทศต่าง ๆ
๒๒ แองกวิลลา เบอร์มิวดา1หมู่เกาะเวอร์จิน อารบู า เนเธอรแ์ ลนด์แอนทลิ ลสี 2

มอนต์เซอร์รัต หมู่เกาะเติกส์และเคคอส (ประกอบดว้ ยเกาะคูราเซา เกาะโบแนร์
หมูเ่ กาะเคย์แมน พื้นทต่ี อนใต้ของเกาะเซนต์มาร์ตนิ
เกาะเซนตย์ สุ เตเชียส เกาะซาบา)

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ

1 เบอรมิวดา อยูในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ประกอบดวยเกาะตางๆ ขอ ใดกลา วถงึ ดนิ แดนในทวปี อเมรกิ าเหนอื ทอ่ี ยใู นการปกครอง
ประมาณ 300 เกาะ ในจํานวนน้มี ีผูอ ยูอ าศัยเพยี ง 20 เกาะ เกาะทใ่ี หญที่สุด คือ ของชาตติ ะวันตกไดถ กู ตอ ง
เบอรม วิ ดา หรือเกรตเบอรม ิวดา หรอื ลองไอแลนด เมืองหลวงชอ่ื แฮมลิ ตัน
2 เนเธอรแลนดแอนทิลลีส ดนิ แดนปกครองตนเองของประเทศเนเธอรแลนด 1. กรีนแลนด : สหรัฐอเมรกิ า
ประกอบดว ยเกาะหลายเกาะในหมเู กาะเวสตอ นิ ดีส ไดแก เกาะครู าเซา เกาะ 2. อารูบา ครู าเซา ซาบา : ฝรัง่ เศส
โบแนร นอกจากน้ี ยงั มเี กาะเซนตม ารต นิ (สว นทางตอนใต) เกาะเซนตย สุ เตเชยี ส 3. เกาะคลิปเปอรต นั กวาเดอลปู : เดนมารก
และเกาะซาบาซ่ึงอยูปลายสุดทางตอนเหนือของหมูเกาะลีเวิรด เมืองหลวงชื่อ 4. เบอรม ิวดา แองกวลิ ลา : สหราชอาณาจกั ร
วลิ เลมสตดั
(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เบอรม วิ ดา แองกวลิ ลา เปน ดนิ แดน
ในการปกครองของสหราชอาณาจกั ร และยงั มอี กี 3 ดนิ แดน ไดแ ก
หมเู กาะเวอรจ นิ ขององั กฤษ มอนตเ ซอรร ตั และหมเู กาะเตกิ สแ ละ
เคคอส)

T28

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ประเทศ เนอ้ื ที่ ประชากร เมอื งหลวง ขนั้ สอน

(ตร.กม.) (ลา้ นคน) ข้นั ท่ี 3 การจัดการขอ มลู

แอนทีกาและบารบ์ ิวดา ๔๔๓ ๐.๑ เซนตจ์ อนส์ ภูมิภาคแครบิ เบยี น 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
๐.๔ แนสซอ การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
บาฮามาส ๑๓,๙๕๐ ๐.๓ บรดิ จ์ทาวน์ ๒๑๕,๗๐๓ ตร.กม. ระหวางกัน
๑๑.๑ ฮาวานา ๓๖.๙ ล้านคน
บาร์เบโดส ๔๓๐ ๐.๐๗ โรโซ 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถ่ี กู ตอ ง
๑๐.๘ ซานโตโดมิงโก นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไี่ มจ าํ เปน
๐.๑ เซนต์จอรเ์ จส ออก
๑๐.๘ ปอร์โตแปรงซ์
ควิ บา ๑๑๐,๘๖๒ ๒.๙ คงิ สตัน
๐.๐๕ บาสแตร์
ดอมนิ ีกา ๗๔๙ ๐.๒ แคสตรีส์
๐.๑ คิงสทาวน์
สาธารณรัฐโดมินิกัน ๔๘,๓๒๒

กรีเนดา ๓๔๔

เฮติ ๒๗,๗๔๙

จาเมกา ๑๑,๕๘๐

เซนตค์ ติ สแ์ ละเนวสิ ๒๖๙

เซนต์ลูเชยี ๖๑๖

เซนตว์ ินเซนต์ ๓๘๙
และเกรนาดนี ส์

ทีม่ า : • ข้อมลู เนือ้ ทจี่ ากพจนานุกรมชอื่ ภูมิศาสตรส์ ากล เล่ม ๑ (อักษร A-L), ๒๕๔๙
และพจนานุกรมช่อื ภูมศิ าสตร์สากล เล่ม ๒ (อกั ษร M-Z), ๒๕๕๐
• ข้อมูลจา� นวนประชากร พ.ศ. ๒๕๖๑ จาก www.prb.org (2018)

ดนิ แดนของฝรัง่ เศส ดินแดนของสหรัฐอเมริกา ดนิ แดนของเดนมารก์

กวาเดอลูป มาร์ตีนีก แซงปีแยร์ เเกปาอะรน์โตารแโิ วกส1ซหามู่เเกคาระือเรวัฐอร์จนิ กรีนแลนด์
และมีเกอลง เกาะคลิปเปอร์ตัน
ร์ แซงบาร์เตเลมี พ้ืนท่ีตอนเหนือ

ของเกาะเซนตม์ าร์ติน

๒๓

ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู

ประเทศใดตอ ไปนม้ี ีขนาดเนอื้ ท่แี ตกตา งกันมากทีส่ ดุ ครูใหนักเรียนศึกษาตารางจากหนังสือเรียน หนา 22-23 แลวใหนักเรียน
1. นกิ ารากวั : ฮอนดรู สั รวมกันอภิปรายถึงจํานวนประชากรตอพ้ืนท่ีของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ภูมิภาค
2. เมก็ ซิโก : บารเ บโดส อเมริกากลาง และภูมิภาคแครบิ เบียน
3. เอลซลั วาดอร : เบลซี
4. สหรฐั อเมริกา : แคนาดา นักเรียนควรรู

(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เมก็ ซโิ ก มเี นอื้ ท่ี 1,967,183 ตร.กม. 1 เครอื รฐั เปอรโ ตรโิ ก เปน เกาะในหมเู กาะเวสตอ นิ ดสี เมอื งหลวงชอื่ ซานฮวน
สวนบารเบโดส มเี นอื้ ทเี่ พยี ง 430 ตร.กม. สว นขอ 1. นกิ ารากัว คริสโตเฟอร โคลมั บัส เดนิ ทางมาถึงเกาะนใี้ น ค.ศ. 1943 พบวา มชี นพ้นื เมือง
มเี น้อื ที่ 128,410 ตร.กม. ฮอนดูรัส มเี น้อื ท่ี 112,087 ตร.กม. ขอ 3. เผาอาราวักอาศัยอยู สเปนไดต้ังอาณานิคมขึ้นเม่ือ ค.ศ. 1508 สหรัฐอเมริกา
เอลซลั วาดอร มเี นอื้ ที่ 21,393 ตร.กม. เบลซี มเี นอื้ ท่ี 22,965 ตร.กม. ไดค รอบครองดินแดนนเ้ี ม่อื ค.ศ. 1898 และไดป ระกาศใหเปน เครอื รัฐปกครอง
และขอ 4. สหรัฐอเมริกา มีเนื้อท่ี 9,375,720 ตร.กม. แคนาดา ตนเองของสหรฐั อเมรกิ าเมือ่ ค.ศ. 1952
มีเนื้อท่ี 9,976,185 ตร.กม. ซ่ึงลวนแตมีขนาดเนื้อที่ใกลเคียงกัน
ดงั นนั้ คาํ ตอบขอ 2. จงึ เปน ประเทศทมี่ เี นอ้ื ทแ่ี ตกตา งกนั มากทสี่ ดุ ) T29

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๒ ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ

ข้นั ท่ี 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอ มลู ทวปี อเมรกิ าเหนอื มลี กั ษณะทางกายภาพเปน แผน ดนิ ใหญแ ละเกาะขนาดตา งกนั จาํ นวนมาก
มีพืน้ ท่ีที่เปนอา วและทะเล ซง่ึ เปน สว นของมหาสมทุ รอารก ตกิ มหาสมุทรแปซิฟก และมหาสมุทร
1. นักเรียนแตละกลุมวิเคราะหขอมูลรวมกัน แอตแลนติก ลักษณะของทวีปอเมริกาเหนือท่ีมีความสูงตางกันและแสดงลักษณะภูมิประเทศ
จากน้ันสมาชิกแตละกลุมรวมกันตรวจสอบ ตา งกัน ไดแ ก เทือกเขา ทวิ เขา ทร่ี าบสงู ท่รี าบ คาบสมุทร เกาะ หมเู กาะ และกลุมเกาะ เปน
ความถกู ตองของขอมลู ลักษณะภมู ปิ ระเทศท่ีเกิดจากพนื้ ทีท่ ม่ี ีโครงสราง การกาํ เนิด และการเปลย่ี นแปลงตา งกัน ลักษณะ
ภูมปิ ระเทศและโครงสรางของแผน ดนิ ทวปี อเมรกิ าเหนือแบงไดเ ปน ๖ เขต ดังนี้
2. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายถึงลักษณะ
ภมู ปิ ระเทศเขตกลมุ เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตก ๒.๑ เขตกลมุ เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตก (The Western Cordillera)
และยกตัวอยางลักษณะภูมิประเทศสําคัญ
สถานที่ทองเที่ยวทางธรรมชาติท่ีสําคัญที่เปน เขตกลุมเทือกเขาดานทิศตะวันตกประกอบดวยเทือกเขาขนาดใหญหลายเทือกทอดตัว
เอกลักษณ เชน พุน้ํารอนท่ีอุทยานแหงชาติ ตามชายฝงมหาสมุทรแปซิฟก นับจากรัฐอะแลสกาลงไปทางใตจนสุดดินแดนอเมริกากลางท่ี
เยลโลวสโตน ใหนักเรียนใชสมารตโฟนสองดู ปานามา ประกอบดวยเทือกเขาสูงสลับซับซอน ไดแก เทือกเขาอะแลสกา มียอดเขาสูงท่ีสุด
QR Code เร่อื ง ทะเลทรายสขี าวทสี่ วยท่ีสดุ ชื่อ เมานตแ มกคินลีย สงู ๖,๑๙๔ เมตร เทอื กเขารอ็ กกี มยี อดเขาสูงทสี่ ุด ชื่อ เมานตเ อลเบิรต
ในโลก จากหนงั สอื เรยี น ภมู ศิ าสตร ม.3 ประกอบ สมทูงาาเงดต๔ระอ,ว๓อัน๙กอ๙ซอเิกดเนมเรตตียัลรก2วบาแรลเเิ ทวะณือมกีแตเอนขนวาเกเซทลียือารงกรเเปาขมน าาทเเซี่รดาียรบโรอสรเงูารเมยีมนาก็ เตซดลัิโร1กเทปแานงลตสะะทววานนั งตตใตอกเเนเรร่ือียียงกกจววาาากเเเทททอืือือกกกเเขขเขาาเเาซซรียยี็อรรกรรกาาี
การวเิ คราะหและแปลผลขอมูลเพิม่ เติม มาเดรเดลซูร มียอดเขาสงู ทสี่ ดุ คอื ภูเขาไฟซีตลลั เตเปเติล สงู ๕,๗๐๐ เมตร

3. ครูใหแตละกลุมต้ังคําถามจากขอมูลลักษณะ เขตกลุมเทือกเขาดานทิศตะวันตกเกิดจากแผนเปลือกโลกแปซิฟกเคล่ือนที่ชนแผนเปลือก
ภูมิประเทศตามประเด็นหัวขอที่กลุมของ โลกอเมริกาเหนือเม่ือประมาณ ๘๐ ลานปที่ผานมา ทําใหแผนดินยกตัวสูงข้ึนและเกิดเทือกเขา
ตนเองรับผิดชอบ กลมุ ละ 10 คาํ ถาม ขนานกับชายฝงมหาสมุทรแปซิฟก ซึ่งสงผลใหเกิดปรากฏการณธรรมชาติและภูมิประเทศที่มี
ลกั ษณะเดน ไดแ ก แผน ดนิ ไหว เนอ่ื งจากการเลอื่ นตวั ของแผน ดนิ ตามแนวรอยเลอ่ื นทมี่ พี ลงั ขนาด
ใหญช อ่ื “แซนแอนเดรยี ส” ในรฐั แคลฟิ อรเ นยี สหรฐั อเมรกิ า มคี วามยาว ๑,๓๐๐ กโิ ลเมตร ภเู ขาไฟ
ในพน้ื ทพ่ี บภเู ขาไฟทง้ั ประเภทภเู ขาไฟทมี่ พี ลงั และภเู ขาไฟดบั สนทิ ตงั้ แตห มเู กาะอะลเู ชยี น ชายฝง
ตอนใตในรัฐอะแลสกา รัฐวอชิงตัน ชายฝงเม็กซิโก กัวเตมาลา 3เอลซัลวาดอร นิการากัว และ
คอสตารกิ า พนุ า้ํ รอ นและบอ นาํ้ รอ น ทอี่ ทุ ยานแหง ชาตเิ ยลโลวส โตนในรฐั ไวโอมงิ และรฐั มอนแทนา
ของสหรฐั อเมรกิ า เปน ขอบงชี้ถึงพลงั งานความรอ นใตพ ภิ พ

 ทะเลทรายสีขาว (White Sands Desert) เปนทะเลทรายยิปซัม มีพื้นท่ีประมาณ ๗๘๐ ตารางกิโลเมตร ต้ังอยูใน
รัฐนิวเมก็ ซิโก สหรัฐอเมริกา เปน แหลง ยิปซัมท่ีใหญท่ีสุดในโลก

๒๔ White Sands Desert ทะเลทรายสีขาวท่ีสวยทีส่ ดุ ในโลก

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด
เขตกลุมเทือกเขาดา นทิศตะวนั ตกของทวปี อเมริกาเหนือ
1 เทือกเขาเซียรรามาเดรโอเรียนตัล เทือกเขาในประเทศเม็กซิโก พาดผาน มีลกั ษณะสาํ คัญอยา งไร
ขนานไปกับชายฝง อาวเม็กซิโก และเขตแดนท่รี าบสงู ตอนกลางของเมก็ ซิโก
2 เทอื กเขาเซยี รร ามาเดรออกซเิ ดนตลั เทอื กเขาในประเทศเมก็ ซโิ ก พาดผา น 1. ยอดเขาทสี่ งู ที่สุดในเขตน้ี คอื เมานตว ติ นยี 
ขนานไปกบั มหาสมทุ รแปซิฟก และเขตแดนที่ราบสูงตอนกลางของเมก็ ซิโกทาง 2. บรเิ วณท่ีราบสงู ที่มีแมนาํ้ มิสซรู ีไหลผา นเพียงสายเดยี ว
ดานตะวันตก 3. เปน เขตเทอื กเขาหนิ ใหม มชี อ่ื เรยี กอกี อยา งวา เขตเทอื กเขา
3 อุทยานแหงชาติเยลโลวสโตน ไดรับการจัดต้ังเปนอุทยานแหงชาติ เม่ือ
วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1872 เปนอุทยานแหงชาติแหงแรกของสหรัฐอเมริกา ร็อกกี
และของโลก มีพ้นื ท่คี รอบคลุมระหวา งรฐั ไวโอมิง รฐั มอนแทนา และรฐั ไอดาโฮ 4. เปน เขตกลุม เทอื กเขาที่วางตัวเปน แนวยาวไปตามชายฝง
ภายในอุทยานประกอบดวยบอนํ้ารอนและพุน้ํารอนจํานวนมาก ปาเขาและ
แมนาํ้ ลาํ ธารท่ีอดุ มสมบรู ณ รวมถงึ สตั วป านานาชนดิ มหาสมทุ รแปซฟิ ก
(วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. กลมุ เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตกหรอื
เทอื กเขารอ็ กกี เปน เขตเทอื กเขาหนิ ใหม ประกอบดว ยเทอื กเขาสงู
สลบั ซับซอน มยี อดสูงสุด คอื เมานตแ มกคนิ ลยี )

T30

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

แแผผนนททีล่ ่ลี กั ักษษณณะภะภูมมูิปรปิ ะรเทะเศทขศอขงทอวงปีทอวเีปมอรกิเมาเรหกิ นาอืเหนอ� ขนั้ สอน
500 ม0าตราสว น 1 : 501,,000000,0001,500 กม.
มหาสมุทรอารกติก ก.เอล สเมียร ข้ันที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล
80 ํN ชองแคดบเด เนสมนาอารรกกติกเซอ รเ ิคล 70 ํN
ท7ว0 ปีNํ เอเชียทะเคล.ชชุคคุ ชี ก.อัไกฮเ เบ 4. ครใู หน กั เรยี นอภปิ รายลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของ
ทวีปอเมริกาเหนือโดยดูแผนท่ีประกอบแลว
N ครูนําจ๊ิกซอวแผนท่ีแสดงที่ต้ังและอาณาเขต
6 1 ปซฟิ ก 3อ54 า ว เ ม็ ก6ซิ โ ก2ท ะ เ ล แ6ค ริอบเมทเรวบิกีปี ายใตนมก.อะลูเช252ทลกกม1มออ00ยี0ะคา5า.ก.เกหวนํNลํNว0อำํNเ..าบะบ1อนแหเกWํสรร0กาทธงิคิสหลดมมมกาNํีริบ.ตภทเภแมุอลทุูเ.ขะกอโาหกะาูเเูเมะครตลขขแ.ยกงาลเแดลมภกาานสกะาคงปีแสง.นไเะมูญัำ้คแรนกกอำกซฟคก.วิเตเา.กปิยมบย้ำม1นลอฟิบ..เคสนทลจเา4ูาคอบีเรเา1ักตานฮกนฮาร0..อ.ท.ะ6รงิกาวตษเตอดนื0เเคทแมชา6.ํWอแแทอแทรโณี1กกามบอเWํมะแวมก9ะลศอื.วกบาเลกค4นาอ.แลาโา.กเก็คนาสลคฮฮนลำ้กชบสเไินข1ซต4าเยบปมูมวมสทากขล9ไ3าโลากเาริกกาน9ร.กุทลฮ0.ียขนก.บเานิลอโร6มล.5.อแาคมฮเร9กะ.นํWาลอิกดมเโว5ิสเ.ลกโตนลลทเลอี3ล4เบส9ดนี.มมาป.บ.นบไ6แตฮ0รก็ซเสาาสกม7บ7นระ.ารนิโอพร01เงักํNาว1เนซุเโโีตโนซลรเาอก2.ยกนเทWํวเแย.ต0รปซลลอตืฟเสคอราอาเรํWรฮวบิ4นเ2 โรนเกเ3ไ5วมแตลโ4เพยีนี95เม2ตบาทนเ3ร2อห0ม0ยาเ2รขมอ.ยนูจก2นโิาราฟเNํตกีเ4เ.นมกนสเ4ทแม3วตาคยีร1ทชนม9อนกอลนร8ติสล5สีร่มอัอ็ต.รุท.4.ลเาาต1โจเบเวลรบนวเีบกบาค1ิตนิวรสสอน.ีซยสรี0ริกเนโาตแนั.6ลนดต.นิทเนโลมลิียแ0ก.นํWคอ.ซกซันนราี่รอ.รเโํWอาาสดอาตซทตกลรนโบเล.าะแทด.แซเรลทแตกสซากูบนลซนสรังูโมสสังั.ตแสดนเ4ม.สแ4มคแเส3แก2อกิสตาตกอ9เ็มค0ซนท3นลเซ9นท.ชค7กิ.ติ9เวฟตรเด.ูลรนะ9เกิเซชูคซเเนซูีเแ3อตามตัสรียตยีบนลตอกรวโนพัลเเนเสพบรเป.ี.ีก.รตหสแกรากีนริโยีสม11ยีเบาตปร312ฟว0า0โ5ก็กะเ,,,กเ04อ24000ดดาสNํ5อ00000รรเต0Wํับดเ000000นชนมดเปลครอ..ลกแอุลตัปิงเเทซวาซ5น.สิรมซซแซล7กนัา.นีตูรอคตอซล0รนมรอบลล0.าเซโเนาอัลแบสตรดคอโ.ลเเเูวกฮมตทจูงีอเงวกยสิ.ียเบคอแปเนมซซ(ัอมคเเนานเตสตดาทสรมเ.ม.วลิอเแสิปเปชกตอตกกฮพุทนกเ.ีอเร.ชลเีมลบัาดอ.รรอบ)ลซูปลแยี สก.าูดเกตอชานชบันาันแลอีอโลบวกรตฟง.9สาชซเแน..ชช0าแฟ(านคนเงมอ.สนอกนกเคบโํWนบงาาน.บส..อนะชนยวอแชลส2น.ลอกฮิอังกูอรตค1ีราซฟสสั.กเอิาร4าาแรโเ2รงพอีบนี.มีารน3ตอีโอ0เูแลก.นตอวาฟพฮโาป3าดอดคกการลนรกน7ตัดิร2กรูนิโนนวับเติต.กซน2ตสัแดรสา3ดแฟม5รนิสนั8มวัทน9ลิตาลโ2ลเานูลกจดล0เ.ออกชคลอก.าเกรคเมล.เอะท.กปต.ชนสร.ิดลครแลคาสแเี่าสดินานน)น.ลอกา1วิกเนกเเบฟูศงตเค.6ซบดลเลวีาโร5กชคูนยอยียกตอรอามา22มนึูบรดสดียยงร2.ามกเตนออจัลวลสม5ลนป.รกิา.6าบูตบ.ปหาคอเเดาอนเบรเีาค38าอามนอ3โีตาาฮต6รน0ดวลอท3ริากต9วโาสส6อนามอล4ฟมะนัํWา0ดมงมฟ.าเเาเแรรสาาลเสฟกุทยชลกน แลแรอ..ทนฮรเลดลงกวรสิแวิ.อแบ.ลชอเคปฟลบาอรปบนกนลนาอกแต.สโกดดเรคอทยปแ.มแบอไลิ อฟลออิวลลารตดนซแนโลคาดตแีตนสรลเิโิกซนกอร ของทวีปอเมริกาเหนือที่มีรูปภาพสถานที่
60 ํN ทิ ว ชอ งแคบ สําคัญของทวีปอเมริกาเหนือซอนอยูดานหลัง
มาประกอบการวิเคราะหพรอมท้ังนําเสนอ
ชอ ค.ซูเอิ 60 Nํ ขอ มลู ของนกั เรยี น แลว ใหท าํ กจิ กรรม “บอกใบ
50 Nํ ทายภาพ”
น กค.อพ.อโรบฟนิ รเซวเลดคสออ.ารบว ูเคท.ียเมลวิลล ชอ งแคบเดวสิ 40 ํN
30 ํN 5. ตวั แทนกลมุ นาํ เสนอขอ มลู หนา ชนั้ เรยี นทลี ะกลมุ
น.ยูคอน น.แา มแกมเคกนเซคี บร วนัท่ี ร า อร 20 ํN แลวใหถามคําถามกลุมอ่ืน หากตอบถูกจะ
10 Nํ สามารถเปด ปา ยตามจก๊ิ ซอวแ ผนทที่ คี่ รเู ตรยี ม
เะ แ ล ส 0ํ มาได และไดตอบคําถามขอตอไปเรื่อยๆ มี
ก คะแนนคาํ ถามละ 1 คะแนน จนสามารถเหน็
ภาพที่ซอนอยูและทายไดวาเปนภาพอะไร
า จะไดร บั คะแนนพเิ ศษเพม่ิ อกี ภาพละ 5 คะแนน
จากนั้นสมาชิกกลุมอื่นผลัดกันใหขอคิดเห็น
น หรือขอเสนอแนะเพิ่มเติม ตลอดจนอภิปราย
ความรรู ว มกนั
ซที ื

เ ทื

อ น. ีพซ ค ะ เ ส.วนิ นเิ พก็
แบสกา
ก น.เ .นเรนเดียร

า อาวเจมส

ิทวเขาแคสเคดกเ ชวัน เน.เชีซยน ตนลอ วเรนซค.โนวาสโกเ ีชลย ออาวเวเรซนซน ต
น.โ เฟรเซอ ร
คก.แสวตนคเู วอร

บ น.อ ฮรู อน ราีโเอล

สิ ซปิ ป ทล่ี มุ ตอนกลาง น.ว ส. ิม ิชแกน
มสิ ซรู ี รค ั เ ไขฮโาอแ อ ป พ

กรตเพลน ก

า ร็ อ ก อ

น.ส

เซียรราเนวาดา
น. ิมส ิซส ิซปป
บรซสั น.น.แแอชละตแทบาม ูฮานีช.เเททื
ค.ฟลอรดิ า
กสทีค่ี .รบโี าอาฮกเซารเบซแ3นัียคร3อรเสโ4ลดารร8ูิฟวางแรโมอรมคเราาเอลมเมนดิโมฟิา�ย็นรเอกดหอรรรอาโซเากนอิสเยีโรมยีกนทุ ตรลัแ
ค. ูยกาต
รีเอน
อาวม า
มาซนี ต

มก.

มก.วนิ ดเ วริ ด

1 เขตกลมุ เทอื กเขาดา นทศิ ตะวนั ตก 2 บรเิ วณทส่ี งู และภเู ขาดา นทศิ ตะวนั ออก 3 บรเิ วณทร่ี าบตำ่ รอบอา วฮดั สนั
4 ทร่ี าบเกรตเพลนส 5 ทร่ี าบตำ่ ตอนกลางและทร่ี าบชายฝง ทะเล 6 เกาะและหมเู กาะ
Projection: Lambert Conformal Conic ๒๕COPYRIGHT © Aksorn CharoenTat ACT. Co.,Ltd

ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู

ขอ ใดกลา วถงึ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดถ กู ตอ ง ครูใหนักเรียนศึกษาลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือเพิ่มเติม
1. ทะเลสาบสุพเี รยี อยใู นเขตกลุมเทอื กเขาดา นตะวนั ตก โดยใชโ ปรแกรม Google Earth เพอ่ื ชว ยใหน กั เรยี นเขา ใจและเหน็ ความแตกตา ง
2. เกรตเลกส ไดแ ก ทะเลสาบสพุ ีเรีย มชิ ิแกน ฮูรอน อิรี ของเขตภมู ปิ ระเทศทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดเดน ชัดมากยิง่ ขน้ึ แลว รว มกันอภปิ ราย
ในชั้นเรยี น
และออนแทรโี อ
3. แมนํ้ามิสซูรีและแมน้ํามิสซิสซิปปเปนแมนํ้าสายสําคัญของ บูรณาการอาเซียน

ประเทศแคนาดา นักเรียนสืบคนลักษณะภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือ จากนั้นรวมกัน
4. แมนํ้าที่เปนเสนกั้นพรมแดนระหวางสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก วเิ คราะหเ ปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา งกบั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของ
อาเซียน
คอื แมน ้ํามสิ ซสิ ซิปป
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เกรตเลกส หรือทะเลสาบท้ัง 5 T31
ประกอบดวย ทะเลสาบสพุ ีเรยี มชิ ิแกน ฮูรอน อิรี และออนแทรีโอ
เปน กลมุ ของทะเลสาบนาํ้ จดื ทม่ี ขี นาดใหญท ส่ี ดุ ในโลก อยรู ะหวา ง
พรมแดนสหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา มเี พยี งทะเลสาบเดยี วทอี่ ยใู น
สหรฐั อเมริกา คือ ทะเลสาบมิชแิ กน)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน   ที่ราบสูงและแอ่งแผ่นดิน  ท่ีเกิดขึ้น
ระหวา่ งแนวกลมุ่ เทอื กเขาตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ทร่ี าบสงู
ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมูล อะแลสกา ท่ีราบสูงบริติชโคลัมเบีย ท่ีราบสูง
โคโลราโด ที่ราบสูงเม็กซิโก ส�าหรับท่ีราบสูง
6. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและเช่ือมโยงขอมูล โคโลราโดในรัฐแอริโซนามีลักษณะภูมิประเทศ
เพม่ิ เตมิ โดยการทาํ ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ทาํ เลทต่ี ง้ั แบบโกรกธารของแมน่ า้� โคโลราโดท่ีไหลกดั เซาะ
ขนาด อาณาเขต และลักษณะภูมปิ ระเทศของ จนเปน็ หน้าผาลกึ มากกวา่ ๑.๖ กิโลเมตร กว้าง
ทวีปอเมริกาเหนือ และรวมกันเฉลยคําตอบ ๖-๒๙ กโิ ลเมตร มรี ะยะทางยาวประมาณ ๔๕๐
โดยครูแนะนําเพ่ิมเติมและตรวจสอบความ กิโลเมตร บางบริเวณมียอดเขาและโกรกธาร
ถูกตอ ง “ขแนการดนเดลแ์ ็กคนลย้ออนม”1ร(อGบrดan้วdยCทaี่รnาyบoสnูง) เรียกว่า
 แกรนด์แคนยอนเกิดจากแม่น�้าโคโลราโดไหลกัดเซาะหิน
7. ครูใหนักเรียนดูภาพแกรนดแคนยอนจาก และดินบริเวณที่ราบสูงโคโลราโดต่อเนื่องมานานหลาย
หนงั สอื เรยี น ภมู ศิ าสตร ม.3 ใหบ อกลกั ษณะเดน ลา้ นปี ท�าให้กลายเปน็ ร่องหุบเขาลกึ
การเกิดลักษณะภูมิประเทศดังกลาว และ
อภิปรายถึงลักษณะภูมิประเทศบริเวณท่ีสูง ๒.๒ บรเิ วณที่สูงและภเู ขาดา้ นทิศตะวันออก (The Highland and
และภูเขาดานทิศตะวันออก บริเวณที่ราบต่ํา The Eastern Mountains)
รอบอา วฮดั สนั และเขตทรี่ าบเกรตเพลนส แลว ครู
ถามคาํ ถาม เพือ่ ใหน กั เรียนไดว ิเคราะหขอมูล บรเิ วณทสี่ งู และภเู ขาดา้ นทศิ ตะวนั ออกประกอบดว้ ยบรเิ วณทส่ี งู กบั กลมุ่ ทะเลสาบเกรตเลกส์
เพม่ิ เตมิ เพอ่ื ตอ ยอดประเดน็ ความคดิ ตลอดจน และเทอื กเขาแอปพาเลเชยี น บริเวณ ทีส่ ูงลอเรนเชยี น (Laurentian Plateau) เปน็ พน้ื ท่ีเหลืออยู่
การนํามาประยุกตใชในชีวิตประจําวัน เชน จากการกร่อนโดยธารน�้าแข็งท่ีเคยปกคลุมเคล่ือนที่ครูดไถในอดีต เมื่อ2๒,๐๐๐ ล้านปีที่ผ่านมา
• จากตําแหนงท่ีต้ังและลักษณะภูมิประเทศ กลมุ่ ทะเลสาบเกรตเลกส ์ (Great Lakes) เปน็ พน้ื ทซ่ี งึ่ ในอดตี มพี ดื น�า้ แขง็ (ice sheet) ปกคลุมและ
ของทวีปอเมริกาเหนือสงผลตอลักษณะ เกิดกระบวนการกร่อน ท�าให้ผิวเปลือกโลกส่วนน้ันหลุดไปจากการครูดถูและการน�าพาไปจนเกิด
ภูมิอากาศของทวีปอยางไร เป็นแอง่ รบั น้�าขนาดใหญ่ เทือกเขาแอปพาเลเชยี น (Appalachian Mountains) เกิดจากการยกตวั
(แนวตอบ สง ผลใหทวปี อเมริกาเหนอื มีพ้ืนที่ ขึ้นของแผ่นดินสูงขึ้นโค้งเป็นเทือกเขาเม่ือ ๔๐๐ ล้านปีท่ีผ่านมา เป็นแนวขนานกับชายฝั่ง
อยูใ นทุกเขตอากาศ เชน มหาสมุทรแอตแลนติก มยี อดเขามิตเชลลเ์ ป็นยอดเขาสูงทสี่ ุด สงู ๒,๐๓๗ เมตร
• เขตรอ น บรเิ วณภมู ภิ าคอเมรกิ ากลางและ
หมเู กาะแครบิ เบยี นมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศ ๒.๓ บ ริเวณทีร่ าบต�่ารอบอา่ วฮัดสัน (Hudson Bay Depression)
แบบคาบสมทุ รและหมเู กาะ ทาํ ใหม ลี กั ษณะ
อากาศแบบรอนชื้น ไดรับอิทธิพลจาก บรเิ วณทร่ี าบตา่� รอบอา่ วฮดั สนั ลกั ษณะพนื้ ทเี่ ปน็ ฐานทวปี เดยี วกนั กบั ทส่ี งู ลอเรนเชยี น เคยมี
ทะเลเขตรอ น มีปริมาณฝนชกุ ตลอดป พดื นา้� แขง็ ปกคลมุ ปจั จบุ นั เปน็ ลานทวปี บรเิ วณกวา้ ง ประกอบดว้ ยตะกอนธารนา�้ แขง็ สะสมอยู่ และ
• เขตหนาว บริเวณตอนบนของประเทศ พบทะเลสาบนา้� จดื ขนาดเลก็ ทหี่ มิ ะละลายอยทู่ วั่ ไป เรยี กโดยรวมวา่ คะเนเดยี นชลี ด ์ (CanadianShield)
แคนาดามีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งป
มฤี ดรู อนเพยี งชว งเวลาส้ันๆ) ๒.๔ ทีร่ าบเกรตเพลนส์ (The Great Plains)

ที่ราบเกรตเพลนส์ลักษณะเป็นที่ราบลาดเขาขนาดใหญ่ ด้านทิศตะวันออกของเขตกลุ่ม
เทอื กเขาดา้ นทศิ ตะวนั ตก พบเปน็ เนนิ ตะกอนทแี่ มน่ า�้ สายตา่ ง ๆ พดั พาตะกอนกรวด หนิ และทราย
สะสมตวั พนู สูง เนอื่ งจากกระแสน้า� ลดความเรว็ และปรมิ าณน�า้ ลง แม่นา้� สายตา่ ง ๆ จะไหลสู่ทร่ี าบ
ตอนเหนือของแคนาดา ตอนกลางของสหรฐั อเมริกา และด้านทศิ ตะวันออกของเมก็ ซโิ ก
๒๖

นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ

1 แกรนดแ คนยอน โกรกธารของแมน ํา้ โคโลราโดชวงทีไ่ หลผานมมุ ตะวันตก ขอ ใดกลา วถงึ เขตคะเนเดยี นชลี ดข องทวปี อเมรกิ าเหนอื ไดถ กู ตอ ง
เฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา ครอบคลุมบริเวณจากปากแมนํ้าลิตเทิลโคโลราโด 1. เขตหมเู กาะมแี ผน ดนิ ไหวเสมอ
ถึงหนาผาแกรนดวอชคลิฟส ใกลเขตแดนรัฐแอริโซนากับรัฐเนวาดา บางคร้ัง 2. เขตทีร่ าบใหญมแี มน ้าํ หลายสาย
จะนบั รวมมารเ บลิ แคนยอนซงึ่ อยทู างตอนเหนอื ไวด ว ย ทาํ ใหม คี วามยาวประมาณ 3. เขตหนิ เกาผานการสึกกรอนมานาน
450 กิโลเมตร ภายในโกรกธารมียอดเขาและโกรกธารขนาดเล็กหลายแหง 4. เขตที่ราบสูงมแี องแผน ดินหลายแหง
จดั ต้งั เปนอทุ ยานแหงชาติเมอื่ ค.ศ. 1919
2 พืดนํ้าแข็ง นํ้าแข็งที่ปกคลุมพ้ืนดินเปนบริเวณกวางใหญแถบข้ัวโลก (วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เขตคะเนเดียนชีลด หรือเขต
โดยเฉพาะท่เี กาะกรีนแลนดแ ละทวปี แอนตารกติกา หินฐานทวีปคะเนเดียน เปนเขตหินเกาอยูทางตอนบนของทวีป
อเมรกิ าเหนอื โครงสรา งเปน หนิ ทม่ี คี วามแขง็ แรง ผา นการสกึ กรอ น
มานานจากการกระทาํ ของธารนาํ้ แขง็ ลกั ษณะพนื้ ผวิ จงึ เปน ทรี่ าบ
และเนินตะกอนธารน้ําแขง็ แองทะเลสาบ และอา ว)

T32

นาํ สอน สรปุ ประเมิน

  ๒.๕ ท ่ีราบต�า่ ตอนกลางและท่รี าบชายฝงทะเล (The Central ขนั้ สอน
Lowland and Coastal Plain)
ขัน้ ที่ 5 การสรปุ เพ่อื ตอบคําถาม
๑)  ทร่ี าบลมุ่ นา้� มที ร่ี าบลมุ่ นา�้ ของแมน่ า�้ มสิ ซสิ ซปิ ปี แมน่ า้� แอละแบมา แมน่ า้� แชตทาฮชู ี
1. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายลักษณะ
แม่น�า้ แบรซัส และแมน่ ้�ารโี อกรนั เดหรือรีโอแกรนด์ ซง่ึ ไหลลงสู่อา่ วเมก็ ซโิ ก แม่น้�าไดพ้ ัดพาทราย ภูมิประเทศเขตที่ราบตํ่าตอนกลางและที่ราบ
ดนิ และอินทรียวตั ถอุ น่ื ไปสะสมจนเป็นท่ีราบตะกอนนา�้ พาขนาดใหญ่ เปน็ แผ่นดินทีอ่ ุดมสมบรู ณ์ ชายฝงทะเล เขตเกาะและหมูเ กาะ พรอมยก
และตรงบริเวณปากแม่น�้าสายต่าง ๆ เป็นดินดอนสามเหลี่ยมและกลายเป็นแผ่นดินท่ีเพ่ิมขึ้น ตวั อยา งความโดดเดน ของลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
จากการทบั ถมของตะกอนบริเวณปากแมน่ �้า และสถานท่ีทองเท่ียวทางธรรมชาติที่สําคัญ
เชน หมเู กาะเวอรจ นิ หมเู กาะบาฮามาส แลว ให
๒) ที่ราบชายฝงทะเล  ประกอบด้วยท่ีราบชายฝั่งทะเลด้านมหาสมุทรแอตแลนติก นกั เรียนในชั้นเรียนรว มกันสรปุ ประเด็นสําคญั
เก่ียวกับทําเลท่ีต้ัง ขนาด อาณาเขต และ
มหาสมุทรแปซิฟก และทะเลแคริบเบียน เกิดจากกระแสน�้าพัดพาตะกอนมาทับถมและแม่น้�า ลกั ษณะภูมิประเทศของทวปี อเมรกิ าเหนือ
สายส้นั ๆ ภายในแผน่ ดนิ พัดพาตะกอนมาผสมกับตะกอนจากทะเล
2. ครใู หส มาชกิ แตล ะกลมุ ชว ยกนั สรปุ สาระสาํ คญั
๒.๖ เกาะและหมูเกาะ (The Island and Islands) เพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร จากแผนท่ี
๑) เกาะกรีนแลนด์และหมู่เกาะตอนเหนอื ของแคนาดา ได้แก่ เกาะแบฟฟน เกาะ เฉพาะเร่ืองและการสืบคนโดยใชเคร่ืองมือ
ทางภมู ศิ าสตรทวปี อเมริกาเหนือ
วกิ ตอเรยี เกาะเอลสเ์ มียร์ เกาะนิวฟันด์แลนด์ บริเวณตอนเหนอื ของมหาสมุทรแอตแลนตกิ และ
ตอนใตข้ องมหาสมทุ รอารก์ ตกิ ลกั ษณะทว่ั ไปเปน็ เกาะทเ่ี คยมพี ดื นา�้ แขง็ ปกคลมุ มายาวนาน จงึ พบ 3. นกั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศแบบฟอี อร์ด (fiord) คล้ายอา่ วเล็ก ๆ ทเ่ี วา้ ลึกเขา้ ไปในแผน่ ดนิ เปน็ หนา้ ผาชัน เรือ่ ง ทําเลทต่ี งั้ ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะ
ทยี่ าวและแคบ โครงสรา้ งทางธรณวี ทิ ยาเปน็ หนิ ฐานธรณี มเี กาะกรนี แลนดท์ างตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภมู ิประเทศของทวปี อเมริกาเหนือ
ของทวปี เปน็ เกาะใหญท่ ่สี ุดของโลก (ไม่นบั รวมทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี )
ขน้ั สรปุ
๒) หมู่เกาะฮาวายและหมู่เกาะอะลูเชียน ในมหาสมุทรแปซิฟก เป็นหมู่เกาะที่อยู่ใน
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ
แนวเขตสนั เขากลางสมทุ รและแนววงรอบแปซิฟก จงึ เปน็ เกาะท่ีมีแผน่ ดนิ ไหวและภูเขาไฟมพี ลัง ทาํ เลทตี่ ง้ั ขนาด อาณาเขต และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ของทวีปอเมริกาเหนือ ตลอดจนความสําคัญที่มี
๓) หมเู่ กาะเวสตอ์ นิ ดสี หมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ประกอบด้วย ๓ หมู่เกาะ ได้แก่ อิทธิพลตอการศึกษาและการดําเนินชีวิต หรือใช
PPT สรุปสาระสาํ คัญของเน้ือหา
(๑) หมเู่ กาะเกรตเตอร์แอนทิลลีส ประกอบดว้ ยเกาะคิวบา เกาะจาเมกา เกาะเปอร์โตริโก และเกาะ
ฮิสปนั โยลา (ดินแดนเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกนั ) (๒) หมเู่ กาะเลสเซอร์แอนทลิ ลีส ประกอบดว้ ย ขน้ั ประเมนิ
หมเู่ กาะเวอรจ์ นิ หมเู่ กาะลเี วริ ด์ และหมเู่ กาะวนิ ดเ์ วริ ด์ ซง่ึ ทง้ั ๒ หมเู่ กาะน้ี มภี เู ขาไฟทยี่ งั มพี ลงั อยู่
และ (๓) หม่เู กาะบาฮามาส เป็นหม่เู กาะตอนเหนือใกลร้ ฐั ฟลอรดิ าของสหรฐั อเมรกิ า 1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
P25 หนา ชน้ั เรียน

 หมู่เกาะเวอร์จิน ต้ังอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะเวสต์อินดีส ห่างจากดินแดนเปอร์โตริโกไปทาง ๒๗ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
ทศิ ตะวันออก ๙๕ กโิ ลเมตร หมเู่ กาะนถ้ี กู แบง่ เป็นของสหราชอาณาจกั รกบั สหรัฐอเมริกา สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ม.3

กิจกรรม Geo - Literacy แนวทางการวัดและประเมินผล

นกั เรยี นใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรป ระเภทตา งๆ ทต่ี นเองสนใจ ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเน้ือหา เรื่อง ทําเลที่ต้ัง ขนาด
สืบคนขอมูลลักษณะภูมิประเทศท่ีโดดเดนของทวีปอเมริกาเหนือ อาณาเขต และลักษณะภูมปิ ระเทศ ไดจากการตอบคําถาม การรว มกนั ทํางาน
เชน และการนาํ เสนอผลงานหนา ชนั้ เรยี น โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจาก
แบบประเมินการนําเสนอผลงานท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยท่ี 2
• เทอื กเขาร็อกกี เรือ่ ง ทวปี อเมรกิ าเหนือ
• คะเนเดียนชีลด
• แกรนดแ คนยอน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
• กลุม ทะเลสาบเกรตเลกส
โดยสืบคนในประเด็นของกระบวนการเกิด และลักษณะทาง คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในชอ่ งที่
กายภาพท่ีสงผลตอการดําเนินกิจกรรมตางๆ ของมนุษย จากน้ัน ตรงกับระดบั คะแนน
สรุปขอมลู แลว นําเสนอในช้นั เรียน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32

1 ความถกู ต้องของเน้อื หา
2 การลาดบั ข้นั ตอนของเร่ือง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกล่มุ

รวม

ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
............/................./................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่

ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

T33

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั นาํ (Geographic Inquiry Process) ๓ ลักษณะภูมิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติ

1. ครูแจงใหนักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยใช ทวีปอเมริกาเหนือมีลักษณะภูมิอากาศแตกตางกันหลายเขต เน่ืองจากปจจัยควบคุม
กระบวนการทางภมู ศิ าสตร ชอ่ื เรอื่ งทจี่ ะเรยี นรู ภมู อิ ากาศท่แี ตกตา งกัน
จุดประสงคก ารเรียนรู
๓.๑ ปจจยั ควบคุมภมู อิ ากาศ
2. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั ทบทวนความรเู ก่ยี วกบั
ทําเลท่ีต้ัง ขนาด อาณาเขต และลักษณะ ทวปี อเมรกิ าเหนอื มลี กั ษณะภมู อิ ากาศแตกตา งกนั ตามฤดกู าล โดยมปี จ จยั ทเ่ี ปน ตวั ควบคมุ
ภูมิประเทศของทวีปอเมริกาเหนือที่ไดศึกษา ภูมิอากาศในแตล ะเขตของทวปี ดังนี้
แลวใหดูภาพเขตความกดอากาศตามละติจูด ๑) ตาํ แหนง ที่ต้งั ตามละตจิ ูด
และทศิ ทางลมประจาํ ซกี โลกเหนอื เพอ่ื อภปิ ราย 60 ํ N เขตหนาว
ถงึ ปจ จยั ควบคมุ ภมู อิ ากาศของทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าเหนอื ตง้ั อยรู ะหวา งละตจิ ดู ๗ -ํ ๘๓ ํN1
จงึ มอี ณุ หภ2มู ติ ามลกั ษณะ3ภมู อิ ากาศแบบเขตรอ น 30 ํ N 90Hํ N เขตอบอนุ
L ล(eมaขsวั้teโลrliกeฝsา pยoตlaะrวันwอinอdก) L

เขตอบอุน และเขตหนาว จงึ ทาํ ใหด นิ แดนของ 0ํ H (wลมesฝtาeยrlตieะsวwนั ตinกd) H เขตรอน
แคนาดามีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ําตลอดป ซ่ึงตางไป
จากปานามาที่มีอณุ หภูมิเฉล่ยี สูง
๒) ทิศทางของลมประจํา ลมประจํา L เสนศูนยสูตรลม(nคoาrtตhะeวaนั sLอt อtrกaเdฉe�ยwงเinหdน)อ�
30 ํ S (ลsมouคtาhตeะaวsนั t อtrอaกdeเฉw�ยiงnใdต) L
ทพี่ ดั จากทะเลเขา สฝู ง จะนาํ ความชน้ื และฝน เชน
ในชว งฤดรู อ นลมฝา ยตะวนั ตก(westerlieswind) เขตรอน

พัดจากมหาสมุทรแปซิฟกเขาสูชายฝงแผนดิน H เขตอบอุน

แคนาดาและสหรัฐอเมริกาเกือบตลอดป จึงทําให  เขตความกดอากาศตามละตจิ ดู และทศิ ทาง
บรเิ วณดังกลา วมปี ริมาณฝนเฉลยี่ รายปม ากกวา ลมประจาํ ซีกโลกเหนือ
๒,๕๐๐ มลิ ลเิ มตร
๓) ความสูงของพ้ืนที่ สภาพของพ้ืนท่ีท่ีมีความสูงตามแนวตั้งของบรรยากาศชั้น
โทรโพสเฟย ร เมื่อข้ึนสงู จากระดบั ทะเลปานกลางข้นึ ไป อุณหภมู ิจะลดลงเฉลย่ี ประมาณ ๖.๔ Cํ
ตอ ระยะสงู ๑,๐๐๐ เมตร เชน ในเขตรอ นช้นื ของ
เมอื งเวรากรุซในเม็กซิโก มชี ายหาดสวยงาม
ณ ละตจิ ดู ๙ ํN อณุ หภมู ิ ๓๒ Cํ ขณะทที่ าง
ทิศตะวันตก ภูเขาไฟซีตลัลเตเปเติล
ซ่ึงอยูในละติจูดเดียวกัน ปรากฏวา
บริเวณยอดเขามีหิมะปกคลุม
เนื่องจากอุณหภูมิบนยอดเขา
ตาํ่ กวา บรเิ วณทร่ี าบตามความสงู
ที่เพิม่ ขึ้น เหลือเพยี ง -๔.๔๘ Cํ

 ภูเขาไฟซตี ลัลเตเปเตลิ ในเทือกเขาเซียรร ามาเดรเดลซรู  ต้ังอยูทางตอนใต
ของเมก็ ซโิ ก มีความสงู ๕,๗๐๐ เมตร บรเิ วณยอดเขามีหิมะปกคลมุ

๒๘

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด
เพราะเหตุใดบริเวณหมูเกาะเวสตอินดีสของอเมริกากลางจึงมี
1 เขตรอน เขตท่ีมีภูมิอากาศรอน โดยกําหนดตามละติจูด ต้ังแตเสน ฝนตกชกุ ตลอดป
ทรอปก ออฟแคนเซอรถ งึ เสน ทรอปก ออฟแคปริคอรน
2 เขตอบอุน เขตที่มีภูมิอากาศอบอุน โดยกําหนดตามละติจูด ต้ังแตเสน 1. มปี าไมค ลมุ พนื้ ทที่ ัว่ หมเู กาะ
ทรอปก ออฟแคนเซอรถ ึงเสน อารก ติกเซอรเ คลิ และเสนทรอปก ออฟแคปริคอรน 2. ไดร ับอิทธพิ ลจากลมคา ตลอดป
ถงึ เสน แอนตารก ตกิ เซอรเ คิล 3. มีกระแสนํ้าอนุ ไหลเลยี บชายฝง
3 เขตหนาว เขตที่มีภูมิอากาศหนาว โดยแบงตามวิธีการสมัยโบราณ ซึ่ง 4. ไดร ับผลกระทบจากปรากฏการณลานีญา
กําหนดตามละติจูดต้ังแตเสนอารกติกเซอรเคิลถึงขั้วโลกเหนือ และเสน (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 2. หมูเกาะเวสตอินดีสตั้งอยูบริเวณ
แอนตารก ตกิ เซอรเคิลถึงขั้วโลกใต เขตรอนในซีกโลกเหนือกลางทะเลแคริบเบียน ไดรับอิทธิพลจาก
ลมคา ตะวันออกเฉียงเหนือตลอดป ทําใหมฝี นตกชกุ จากความชืน้
ทะเล)

T34

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ

๔) การวางตัวของเทือกเขา เขตกลุมเทือกเขาดานทิศตะวันตกท่ีวางตัวแนวเหนือ-ใต ขน้ั นาํ

หางจากชายฝงมหาสมุทรแปซิฟกเขาไปในแผนดินใหญ ประกอบดวยเทือกเขาร็อกกีและ 3. ครูใหนักเรียนดูภาพการวางตัวของเทือกเขา
เทอื กเขาตา ง ๆ และยงั มที ร่ี าบสงู หลายแหง เปน ตวั ขวางกนั้ ความชน้ื ทล่ี มพดั พามาจากทะเล ทาํ ให ร็อกกีกับทิศทางการพัดของลมชีนุก ซ่ึงสงผล
เทกรี่ ิดาฝบนตตอกนมกลากางในมดีปารนมิ ราับณลมฝนสตวกนนดอ ายนแทละี่รมาบีลสมูงรแอลนะดเชานนปลลมาชยนีลุกม1(cไhดinแoกo kท)่ีราบเกรตเพลนสและ ตอปริมาณน้ําฝน แลวอภิปรายถึงทิศทางลม
และผลจากปรากฏการณด งั กลา วตอ ทวปี แลว
ทิศทางลม ต้ังประเด็นคําถามใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
เพ่อื กระตุน ความสนใจ/กระตุนความคดิ เชน
มหาส ุมทรแป ิซฟก ที่ราบเกรตเพลนส • นกั เรยี นคดิ วา ปจ จยั ใดบา งทมี่ ผี ลตอ ลกั ษณะ
รอนแ ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป
อเมรกิ าเหนอื
รอน (แนวตอบ ตําแหนงท่ีต้ังตามละติจูด ระยะ
อุนและชื้น และแหเกงรตเบซิน ละแหง ความสูงของพื้นที่ ทิศทางของลมประจํา
ลมชีนกุ การวางตวั ของเทอื กเขา พายหุ มนุ ระยะหา ง
จากทะเล กระแสนา้ํ ในมหาสมุทร)
เทือกเขารอ็ กกี
4. ครจู ัดกิจกรรม ใชกจิ กรรมเกม “ไปปุบ เจอปบ ”
 ลมชีนุกพัดมาจากทิศตะวันตกของเทือกเขาร็อกกีในสหรัฐอเมริกา แลวตกลงทางดานตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี เพอ่ื กระตนุ ความสนใจ/กระตนุ ความคดิ เกย่ี วกบั
ลมน้เี ปนลมรอนและแหง แลง มักจะพดั มาอยางรวดเรว็ ทาํ ใหอากาศดา นลางมีอณุ หภมู สิ ูงข้นึ กวาเดิมมาก และบางครงั้ ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ
ทาํ ใหหมิ ะละลายอยางรวดเรว็ ของทวีปอเมริกาเหนือ เพ่ือนําเขาสูการเรียน
โดยใหนักเรียนกลุมเดิม (จากชั่วโมงที่แลว)
๕) พายุหมุน เปนปจจัยหนึ่งท่ีทําใหทวีปอเมริกาเหนือมีปริมาณฝนเพิ่มสูงข้ึนจากฝน จับคูบัตรภาพพืชพรรณกับลักษณะภูมิอากาศ
จาํ นวน 5 ภาพ ภายในระยะเวลากลมุ ละ 1 นาที
ที่เกิดตามอิทธิพลของลมประจําฤดู พายุหมุนนําฝนมาตกปริมาณมากในชวงเวลาส้ันประมาณ มีคะแนนภาพละ 1 คะแนน เม่ือครบตาม
๓-๕ วนั จงึ อาจมีปริมาณฝนสูงกวา ฝนตามฤดูที่ตกถงึ ๒-๓ เดอื น พายหุ มุนในทวปี อเมริกาเหนอื กําหนดเวลา ครูบอกคะแนนที่แตละกลุมได
ทีส่ ําคญั ไดแ ก แตยังไมเฉลยคําตอบ จากน้ันครูสรุปผล
กจิ กรรมและเช่อื มโยงเขาสบู ทเรียน
• พายุเฮอรริเคน เกิดขึ้นในทะเลแคริบเบียนและอาวเม็กซิโก สงผลตอหมูเกาะเวสต
อนิ ดีสและสหรัฐอเมริกา แถบอาวเมก็ ซโิ ก และชายฝง ตะวนั ออกเฉียงใต
คิวมูโลนิมบ•ัส2หพมายุนทุเปอนรนงวาโงดสูพเก้ืนดิ โจลากกพเปายนฝุ พนาฟยาุหคมะุนนทอ่ีงรอุนยแารงงรนุ เแกริดงบแรลิเะวมณแี ทน่ีรวาเบมตฆ่ําพตงุ อจนากกฐลาานงขเมอฆง
สหรัฐอเมรกิ า

๖) ระยะหา งจากทะเล ทวปี อเมรกิ าเหนอื มอี ณุ หภมู แิ ละความชน้ื ตา งกนั คอื นา นนาํ้ ของ

ทะเลโบฟอรต อา วฮดั สนั และอา วแบฟฟน มอี ากาศหนาวเยน็ ตลอดป บรเิ วณหมเู กาะไดร บั อทิ ธพิ ล
จากลมขวั้ โลกทว่ั ทง้ั พน้ื ทเี่ กาะ สว นดา นทศิ ใตแ ถบอเมรกิ ากลางและหมเู กาะเวสตอ นิ ดสี เปน นา นนา้ํ
มหาสมุทรแปซิฟกและมหาสมุทรแอตแลนติกขนาบพื้นที่แคบกวาตอนเหนือของทวีปท่ีกวาง
อกี สาเหตหุ นง่ึ ดนิ แดนตอนใตข องทวปี อยใู นเขตรอ น ดงั นนั้ จงึ ไดร บั อทิ ธพิ ลของลมประจาํ ทพ่ี ดั ผา น
ไดท วั่ ทั้งพืน้ ที่ ทําใหมีความช้นื และมีพืน้ ทแ่ี หงแลง นอ ยกวาทางตอนเหนอื ของทวีป

๒๙

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

การวางตัวของเทือกเขามอี ทิ ธพิ ลตอสภาพภูมอิ ากาศในทวีป 1 ลมชีนุก ลมรอนและแหงแลงพัดมาจากทิศตะวันตกของเทือกเขาร็อกกี
อเมรกิ าเหนืออยา งไร ในสหรัฐอเมริกาตกลงทางดานตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี ลมนี้มักจะพัด
มาอยา งรวดเรว็ ทาํ ใหอ ากาศเบอื้ งลา งมอี ณุ หภมู สิ งู ขน้ึ กวา เดมิ มาก และในบางครงั้
(แนวตอบ เทือกเขาในทวีปอเมริกาเหนือสวนใหญวางตัว สามารถละลายหิมะไดอยา งรวดเร็ว
ทอดยาวจากทศิ เหนอื ลงสูท ิศใต เชน แนวเทอื กเขาทางตะวันตก 2 เมฆคิวมูโลนิมบัส เมฆกอนขนาดใหญ เกิดโดยการไหลข้ึนของกระแส
ซ่ึงเปนตัวขวางกั้นความชื้นและลมมรสุมจากมหาสมุทรแปซิฟก อากาศ มีรูปลักษณะคลายภูเขาหรือเปนทรงหอคอยขนาดใหญ อาจเกิดขึ้น
ทาํ ใหพ น้ื ที่ทอ่ี ยูดา นหลงั เทือกเขากลายเปน เขตอบั ฝน ปริมาณฝน อยา งโดดเดยี่ ว หรอื เกดิ รวมกบั เมฆชนดิ อน่ื เปน เมฆทแี่ สดงถงึ สภาวะอากาศไมด ี
เฉล่ียตลอดปจึงอยูในเกณฑตํ่า ไดแก บริเวณที่ราบเกรตเพลนส เมอ่ื กอ ตวั เตม็ ท่ี ยอดเมฆมกั จะแผต วั แบนออกจนมลี กั ษณะคลา ยรปู ทงั่ ฐานเมฆ
ของสหรฐั อเมรกิ า ทรี่ าบสงู เมก็ ซโิ ก ขณะทแ่ี นวเทอื กเขาทางตะวนั ออก ทห่ี นาทบึ จะเปน สดี าํ และมกั จะมฝี นตกลงมาดว ย บางครงั้ ฝนทต่ี กจากเมฆชนดิ นี้
ซง่ึ เปน ดา นรบั ลม ไดแ ก บรเิ วณทร่ี าบชายฝง ตะวนั ออกและตะวนั ออก เปน ฝนซู แตถา เปน ฝนหนักและรนุ แรงมกั จะมีฟา แลบและฟารองเกิดขนึ้ ดว ย
เฉียงใตของสหรัฐอเมริกา จะมีปริมาณฝนเฉลี่ยสูงกวาบริเวณอ่ืน
โดยฝนที่ตกสวนใหญจะเปนฝนปะทะภูเขาท่ีเกิดจากลมพัดพา T35
ความชื้นมาปะทะกับแนวเทอื กเขาทีข่ วางก้ันทศิ ทางลม)

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ๗) กระแสนาํ้ ในมหาสมทุ ร1ในมหาสมทุ รแปซฟิ ก กระแสนา้ํ อนุ อะแลสกาและกระแสนา้ํ อนุ

ข้นั ที่ 1 การตัง้ คําถามเชิงภูมิศาสตร แปซฟิ ก เหนอื ทาํ ใหช ายฝง ทะเลตอนใตอ า วอะแลสกามคี วามชน้ื สงู เขา สแู ผน ดนิ และกระแสนา้ํ เยน็
แคลฟิ อรเ นยี ทเ่ี กดิ การลอยตวั ของมวลนาํ้ เยน็ ขน้ึ มาสเู บอื้ งบน ทาํ ใหช ายฝง ทะเลไดร บั ความชนื้ ลดลง
1. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นเชอื่ มโยงลกั ษณะภมู อิ ากาศ สวนในมหาสมุทรแอตแลนตกิ กระแสนํ้าอนุ กัลฟสตรมี ไหลเลียบชายฝง ตะวันออกของทวปี ขึน้ ไป
และพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี อเมรกิ าเหนอื ทาํ ใหพืน้ ทบี่ ริเวณนน้ั อากาศมคี วามช้นื ตลอดป ทะเลไมเป2นนํ้าแขง็ กระแสน้าํ เยน็ แลบราดอรแ ละ
จากกจิ กรรม “ไปปบุ เจอปบ ” จากขน้ั นาํ ทผ่ี า นมา กระแสน้ําอุนกลั ฟสตรีมไหลไปบรรจบบริเวณแกรนดแ บงส เปนแหลง ทีม่ ีปลาจาํ นวนมากใกลเกาะ
แลวตั้งประเด็นคําถามตอยอดเพิ่มเติมเพ่ือ นวิ ฟนดแ ลนด
กระตุนและเชื่อมโยงใหนักเรียนตั้งประเด็น
คาํ ถามทางภมู ศิ าสตรเ กย่ี วกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ แแผผนนททกี่ ีก่ รระะแแสสนน้ำํา้ ใในนมมหหาาสสมมุททุ รรททม่ี ่ีมีอีอทิ ทิ ธธพิ ิพลลตตออททววปี ปี ออเเมมรริกกิ าาเเหหนน�ออื
และพชื พรรณธรรมชาติ เชน
• จากแผนทก่ี ระแสนา้ํ ในมหาสมทุ รทม่ี อี ทิ ธพิ ล มหาสมุทรอารกติก
ตอทวีปอเมริกาเหนือ นักเรียนคิดวาสงผล 7เ0สน ํNอารกตกิ เซอรเคลิ แอตแกลรนนี ตแกิ ลเหนนดอ� 
กระทบใหเ กดิ ลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณ 60 Nํ ราด
ธรรมชาติแบบใดบาง
• หากนกั เรยี นมโี อกาสไดไ ปเรยี นตอ ทฮี่ ารว ารด 50 Nํ
ในชว งเดอื นตลุ าคม จะตอ งเตรยี มตวั อยา งไร
• จากกรณีที่สโมสรลิเวอรพูลจะมุงหนาสู โอยะชิโอ อะแลสกา แลบ 40 Nํ
อเมรกิ าโดยเปน สว นหนง่ึ ของปรซี ซี น่ั ฤดกู าล อร
2019-20 ในการเตรยี มตวั ชว งเดอื นกรกฎาคม 40 Nํ
โดยจะลงเลน 3 เกม ในสนามที่บอสตัน
นิวยอรก และอินดีแอนา นักเรียนคิดวา แคลฟิ อรเ น�ยเหน�ออา วอะแลสกา อา วฮัดสัน แแกบรงนสด  ตเสสน ทแรมอปุลก ทออนฟแรคตนเิซอร
นกั ฟตุ บอลจะตอ งปรบั ตวั อยา งไรเพอื่ ใหพ รอ ม แปซิฟก
ตอ การแขงขนั ดังกลาว 30 ํN ม หา ส ร แคนาดา มอนทรอี อล ักล ฟสต ีรมหา 30 ํN
20 Nํ แ ป ซิ ฟ แวนคูเวอร กแอ 20 Nํ

มุ ท นวิ ยอรกซิตี ม
ก ฟลาเดลเฟย
แซนแฟรนซิสโก
ฮาวาย ลอสแแซอนนดเจเี อลโสิ ก สหรัฐอเมริกา แอตแลนตา

นวิ ออรลีนส
เมก็ ซเโิมก็กซิโกซอิตา ี วเมก็ ซิโไกมแอมฮี าวปาอแนราคโ ตรแปิบรงเซบ ียซแาซนนนโฮตวโดนมงิ โคกำอธศบิ าูนยยสญัสลูตักรษณ 10 Nํ
10 ํN กวั เตซมานาลซาลั ซวติาดี อร มานาซกาวั นโฮเซ เมอื งสำคัญ
ปานามาซิตี เขตประเทศ 0ํ
N ศนู ยส ตู รเหนอ�
ศนู ยส ตู รสวนกลบั กระแสน้ำอุน
0ํ กระแสน้ำเย็น
110 Wํ 100 Wํ 90 ํW C8O0PYWํ RIGHT © Akso7r0nํWCharoenTat ACT6.0CํWo.,Ltd
500มาต0ราสว5น001 1: ,8000,00010,5,00000กม.

Pro1je40ctiWํ on: Lambert1C30onWํ formal Coni1c20 ํW

๓๐

นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด

1 กระแสนา้ํ ในมหาสมทุ ร กระแสนาํ้ ทไ่ี หลประจาํ อยใู นมหาสมทุ รตา งๆ ซงึ่ เกดิ สาเหตใุ ดที่ทาํ ใหช ายฝง แคลฟิ อรเ นียมีลักษณะภูมิอากาศ
จากการหมนุ เวยี นของมวลนา้ํ ในมหาสมทุ รตามระบบเวลาและฤดกู าลทแี่ นน อน แบบแหง แลง
เนื่องจากสาเหตุตางๆ เชน ลมที่พัดประจําตามฤดูกาล การเกิดน้ําข้ึนนํ้าลง
และความแตกตางระหวางอุณหภูมิ ความหนาแนนหรือความเค็ม ซ่ึงจะกอให 1. ทศิ ทางลมประจาํ
เกิดกระแสน้ําในมหาสมทุ รท่มี ีลักษณะแนนอนตามสาเหตุนนั้ 2. การวางตวั ของเทอื กเขา
2 แกรนดแ บงส บรเิ วณนา้ํ ตนื้ ของไหลท วปี อเมรกิ าเหนอื ในมหาสมทุ รแอตแลนตกิ 3. อยูบรเิ วณเขตละติจดู สูง
อยทู างตะวนั ออกและทางใตข องเกาะนวิ ฟน ดแ ลนด ประเทศแคนาดา ครอบคลมุ 4. อทิ ธิพลจากกระแสน้าํ ในมหาสมทุ ร
พนื้ ท่กี วางประมาณ 320 กิโลเมตร ยาวจากตะวนั ออกไปทางตะวนั ตกประมาณ
560 กิโลเมตร มีความลึกเฉล่ีย 92 เมตร มีกระแสน้ําเย็นแลบราดอรจาก (วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. กระแสนํา้ เยน็ แคลิฟอรเ นยี ทีไ่ หล
ทางเหนือไหลไปรวมกับกระแสน้ําอุนกัลฟสตรีม ทางขอบดานตะวันออกของ บรเิ วณชายฝง แคลฟิ อรเ นยี ทาํ ใหพ น้ื ทบี่ รเิ วณชายฝง ไดร บั ความชนื้
บริเวณนํ้าตื้นนีเ้ ปน แหลง จับปลาค็อดท่สี ําคัญ นอยลง เนื่องจากอัตราการระเหยมีนอย เปนสาเหตุหนึ่งที่ทําให
เกิดความแหง แลง บริเวณชายฝง แคลิฟอรเนยี )
T36

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

๓.๒ เขตภูมิอากาศและพชื พรรณธรรมชาติ ขน้ั สอน

ทวีปอเมริกาเหนือจ�าแนกเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปิน-ไกเกอร์ (Koppen-Geiger climate ขั้นที่ 1 การตั้งคาํ ถามเชงิ ภมู ิศาสตร
classification) แบง่ ตามสภาพภูมอิ ากาศ (อณุ หภูมแิ ละปริมาณฝน) ลกั ษณะพืชพรรณธรรมชาติ
(Peel et al., 2007) น้นั ภายหลงั เมอื่ สภาวะของภูมิอากาศโลกมกี ารเปลยี่ นแปลง นกั วิทยาศาสตร์ 2. นกั เรยี นรว มกนั ตงั้ ประเดน็ คาํ ถามทางภมู ศิ าสตร
สิ่งแวดล้อมจงึ มกี ารน�าข้อมูลภมู อิ ากาศระหวา่ ง พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๕๙ มาจ�าแนกใหม่ จงึ ปรากฏ เก่ียวกับลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณ
เขตภมู ิอากาศโลกปจั จุบนั (Beck et al., 2018) ดงั นี้ ธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ เพ่ือคนหา
คาํ ตอบ โดยครแู นะนําเพมิ่ เติม เชน
ภูมอิ ากาศเขตร้อน (A: tropical climates) • ลักษณะภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติ
ลกั ษณะเฉพาะ คอื มอี ณุ หภมู สิ งู อยา่ งตอ่ เนอื่ งเกนิ กวา่ ๑๘ � C ทกุ เดอื น มปี รมิ าณฝนมากนอ้ ยตามลกั ษณะ ของทวีปอเมรกิ าเหนอื มลี ักษณะอยางไร
และทตี่ ัง้ ของพ้นื ที่ • ทําไมทวีปอเมริกาเหนือจึงมีเขตภูมิอากาศ
ที่หลากหลาย
ภ มู อิ ากาศแบบรอ้ นชน้ื แถบศนู ยส์ ตู ร (tropical rainforest climate:1 Af) มอี ณุ หภมู สิ งู และปร2มิ าณฝนสงู • ลักษณะภูมอิ ากาศสง ผลตอพชื พรรณ
ธรรมชาตใิ นทวปี อยา งไร
เฉลย่ี เกนิ ๖๐ มลิ ลเิ มตรตอ่ เดอื น จากฝนทเี่ กดิ จากการพาความรอ้ นและฝนภเู ขาจากลมมรสมุ ตะวนั ออก • ปจ จยั ใดบา งทท่ี าํ ใหล กั ษณะภมู อิ ากาศและ
เฉยี งเหนอื พบบรเิ วณดา้ นทศิ ตะวนั ออกของอเมรกิ ากลางและหมเู่ กาะเวสตอ์ นิ ดสี พืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ
 พ  ืชพรรณธรรมชาต ิ :  มลี กั ษณะเปน็ ปา่ ดบิ ชนื้ มพี รรณไมห้ ลายชนดิ ทม่ี ีใบเขยี วตลอดปี และมพี รรณไม้ แตล ะพืน้ ท่แี ตกตางกัน
พนื้ ลา่ งจา� พวกบอน หวาย เฟนิ มอสส์ ถดั ขนึ้ ไปมพี ชื จา� พวกปาลม์ และไมพ้ มุ่ ตน้ ไมใ้ หญส่ ามารถสงู เกนิ • ทาํ ไมจงึ จบั ปลาไดม ากบรเิ วณแกรนดแ บงส
๒๐ เมตร บางพนื้ ทม่ี ตี น้ ไมข้ น้ึ หนาแนน่ จนแสงอาทติ ย์ไมส่ ามารถสอ่ งถงึ พน้ื ดนิ • ทวปี อเมรกิ าเหนอื มลี กั ษณะภมู อิ ากาศและ
ภมู ิอากาศเขตมรสมุ (tropical monsoon climate: Am) ไดร้ ับอทิ ธิพลจากลมมรสุม มปี ริมาณฝนเฉลยี่ พชื พรรณธรรมชาติท่ีโดดเดน อยา งไร
เกิน ๑๐๐ มิลลิเมตรต่อเดือน ยกเว้นช่วงเปล่ียนลมมรสุมจะมีฝนตกน้อย พบใกล้พ้ืนที่ภูมิอากาศ • พ้ืนที่ใดของทวีปอเมริกาเหนือท่ีมีลักษณะ
แบบรอ้ นชน้ื แถบศูนย์สตู ร ภมู อิ ากาศหรอื พชื พรรณธรรมชาตทิ คี่ ลา ยคลงึ
  พชื พรรณธรรมชาต ิ : มลี กั ษณะเปน็ ปา่ โปรง่ และมกี ารทงิ้ ใบในชว่ งฤดแู ลง้ มพี รรณไมเ้ ดน่ จา� พวกไผแ่ ละปาลม์ กับประเทศไทย อยา งไร
ภูมอิ ากาศแบบสะวันนา (tropical savanna climate: Aw) มีชว่ งฝนตกชุกจากอทิ ธพิ ลลมมรสมุ ๖ เดอื น
และมชี ว่ งแลง้ ฝนอยา่ งเดน่ ชดั อกี ๖ เดอื น พบบรเิ วณอเมรกิ ากลางและหมเู่ กาะเวสตอ์ นิ ดสี เปน็ บรเิ วณกวา้ ง
 พชื พรรณธรรมชาต ิ : มปี า่ หญา้ สลบั กลมุ่ ไมใ้ หญท่ ท่ี นตอ่ ความแหง้ แลง้ กระจายอยทู่ วั่ ไปในลกั ษณะปา่ ละเมาะ

iepo

การจา� แนกเขตภมู อิ ากาศแบบเคปิ เปนิ -ไกเกอร์ ไดอ้ า้ งองิ คา่ เฉลยี่ ของอณุ หภมู แิ ละปรมิ าณหยาดนา�้ ฟา้
เชน่ ฝน หิมะ ลูกเห็บ ท่ปี รากฏตามพ้ืนท่ี โดยใชอ้ กั ษรโรมันตวั ใหญอ่ ธบิ ายอณุ หภูมิ แบง่ เปน็ ๕ เขตหลกั
ดังน้ี

A : ภูมิอากาศเขตรอ้ น B : ภูมิอากาศเขตแห้งแล้ง C : ภูมอิ ากาศเขตอบอนุ่
D : ภมู อิ ากาศเขตหนาว E : ภมู ิอากาศเขตขว้ั โลก
ภมู อิ ากาศหลกั นี้ ยงั แบง่ เปน็ กลมุ่ ยอ่ ยโดยใชอ้ กั ษรโรมนั ตวั เลก็ และตวั ใหญต่ อ่ ทา้ ยแทนการแสดงขอ้ มลู
ละเอยี ดของอุณหภมู ิและปรมิ าณฝน นอกจากนี้ การแบง่ เขตภูมอิ ากาศแบบอน่ื มีการเพมิ่ อักษร H แทน
เขตภูมิอากาศแถบภูเขา ท่ีลกั ษณะภมู อิ ากาศเปลยี่ นแปลงตามความสูง

๓๑

ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

บรเิ วณใดของทวปี อเมรกิ าเหนอื ทม่ี ลี กั ษณะภมู อิ ากาศคลา ยคลงึ 1 ฝนท่ีเกิดจากการพาความรอน ฝนท่ีเกิดจากเมฆท่ีกอตัวข้ึนจากการที่
กบั ประเทศไทย กระแสอากาศลอยข้ึนสูเบื้องบน เชน เมฆจําพวกคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัส
ฝนซูก็เปน ฝนทเ่ี กดิ จากการพาความรอ นเชน เดยี วกัน
1. หมเู กาะเวสตอ นิ ดีส 2 มรสุม หรือลมประจําฤดู เปนคําท่ีมาจากภาษาอาหรับ คือ mausim
2. ชายฝง เกาะกรีนแลนด แปลวา ฤดกู าล ในคร้ังแรกใชเรยี กลมที่เกิดข้นึ ในยา นทะเลอาหรบั ซ่ึงพัดจาก
3. แถบทะเลสาบเกรตเลกส ทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนือเปนเวลา 6 เดอื น และทิศตะวนั ออกเฉียงใตเ ปนเวลา
4. บรเิ วณคาบสมทุ รแคลิฟอรเ นีย 6 เดือน ตอมาไดน าํ คาํ นี้ไปใชเ รียกลมท่ีพดั เปลย่ี นทิศทางตามฤดกู าลในรอบป
(วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากมีภูมิอากาศเขตรอน อันเน่ืองมาจากความแตกตางของหยอมความกดอากาศเหนือภาคพื้นทวีป
มีฝนตกชุกตลอดป มีปริมาณฝนมากกวา 2,500 มิลลิเมตรตอป กบั มหาสมทุ รทอ่ี ยูขา งเคียง
อุณหภูมิเฉล่ียสูงกวา 27 องศาเซลเซียส พืชพรรณธรรมชาติ
เปน ปา ฝนหรอื ปา ดบิ ชื้น)

T37

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขน้ั สอน แแผผนนททีเ่เ่ีขขตตภภมู มู อิ อิากากาศาขศอขงอทงวทปี วอีปเมอรเิกมารเกิหนาเอื ห (นแอ�บบ(เแคบปิ บเปเคนิป-ไเกปเนกอ-ไรก์ ปเกรบัอปรร ปงุ )รบั ปรงุ )

ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอมูล 500 ม0าตราสว น 1 : 501,,000000,0001,500 กม. มหาสมุทรอารกติก

1. ครูแบงนักเรียนออกเปน 5 กลุม ตามเขต N EF EF
ภูมิอากาศและพืชพรรณธรรมชาติของทวีป ทะเลชุค
อเมรกิ าเหนอื แลว จบั ฉลากเลอื กเขตภมู อิ ากาศ ET EF เ สนอา รก ิตกเซอ รเ ิคล
จากบัตรภาพในกิจกรรมเกม “ไปปุบเจอปบ”
ไดแ ก ชี ET ท ะเล โ บ ET อ าว
• ภูมิอากาศเขตรอ น Dsc ET ET ET
• ภมู ิอากาศเขตแหงแลง 60 Nํ ฟ อ ร ต ET แ บ ฟ EF 60 ํN
• ภูมอิ ากาศเขตอบอนุ ทะเลเบรงิ Dwc ET 50 Nํ
• ภูมิอากาศเขตหนาว Dfc ฟ น
• ภูมอิ ากาศเขตข้วั โลก 50 ํN ทะเลแลบราด
จากนั้นแตละกลุมรวมกันสืบคนขอมูล Dwc Dsc
ประกอบการใชเ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร และให
สอดคลอ งกับ 3 ประเดน็ ไดแก ปจจัยควบคุม อา วอะแลสก ET Dsc ET Dsc ET อร
ภูมิอากาศ เขตภูมิอากาศ และพืชพรรณ
ธรรมชาตทิ พี่ บจากหนงั สอื เรยี น ภมู ศิ าสตร ม.3 า Dfc ET Dfc ET
หรอื แหลง เรยี นรอู น่ื ๆ เชน หอ งสมดุ อนิ เทอรเ นต็ อา วฮัดสัน
เขตภูมอิ ากาศ
2. ครใู หค วามรเู บอ้ื งตน เกยี่ วกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศ Cfb Dsc Dfc Dfc Dfb
ของทวีปอเมริกาเหนือ โดยใช PPT และอาจ เขตรอน
แนะนําแหลงขอมูลสารสนเทศท่ีนาเชื่อถือ Af รอนชน้ื แถบศูนยส ตู ร
ประกอบการศกึ ษาและรวบรวมขอ มลู เพม่ิ เตมิ Am เขตมรสุม ET
40 ํN Aw สะวนั นา Cfb Dfb Dfb 40 ํN

เขตแหง แลง Dsb BSk Dwb Dfa มหาสมุทรแอตแลนติก 30 Nํ
Csb Dwa Cfa
Dsb BSk Dfc
BWh ทะเลทรายเขตรอน
BWk ทะเลทรายเขตอบอุน
BSh กึ�งแหง แลงเขตรอน Csa Dfa
30 Nํ BSk กงึ� แหง แลงเขตอบอุน BWk
BWk
เขCตsอaบอเแนุ มหดงิเแตลองรแเรลเะนร�ยอนนแในบฤบดรู อ น BWh BSk
Csb แเมหดงเิแตลอง รแเ รลเะนอ�ยบนอแุน บในบฤดรู อน BWk Cfa Cfa เสน ทรอปก ออฟแคนเซอร20

BSh BSh อ า ว เ ม็ ก ซิ โAกm Af

20 ํN Cwa ชแห้ืนงส แลลับงแใลนงฤเดขูหตอนบาวอแุนลแะบรบอนในฤดูรอน Cwb BWh Aw ค ริ บ เ บี ย น Nํ
10 Nํ Nํ
Cwb ชแห้ืนงส แลลับงแใลนงฤเดขูหตนอบาวอแุนลแะบอบบอนุ ในฤดรู อน Aw BSk Aw Aw Aw 10
Cfa ชืน้ กง�ึ เขตรอน Cwa Af
Cfb ชายฝง ตะวนั ตกภาคพ้ืนสมุทร ACwwb ท ะAmเ
Af CAwmbAf ลแ
เขตหนาว Aw Af
Dsb ภาคพน้ื ทวปี แบบแหงแลงและอบอนุ ในฤดูรอน Aw Am
Dsc ภาคพื้นทวีปแบบแหง แลงและหนาวในฤดูรอ น
Dwa ภาคพน้ื ทวปี แบบแหง แลงในฤดหู นาวและรอ นในฤดูรอน Af Am
Dwb ภาคพน้ื ทวปี แบบแหงแลงในฤดูหนาวและอบอนุ ในฤดรู อ น Aw

Dwc ภาคพื้นทวีปแบบแหงแลงในฤดหู นาวและฤดูรอน เขตข้ัวโลก 1
Dfa ชื้นภาคพืน้ ทวปี แบบไมมฤี ดูแลงและรอ นในฤดรู อน
0ํ Dfb ชืน้ ภาคพื้นทวีปแบบไมมฤี ดูแลงและอบอนุ ในฤดรู อ น ET ทนุ ดรา เสนศูนยส ตู ร 0 ํ

Dfc ชน้ื ภาคพ้นื ทวปี แบบไมมีฤดูแลงและหนาวในฤดูรอน EF ทุง น้ำแข็ง

Projection: Lamb1e20rtWํConformal Conic 110 ํW 100 Wํ 90 ํW COPYRIGHT © Aksorn C8h0aroํWenTat ACT. Co.,Ltd

๓๒

เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรางเสริม

ครูอธิบายความรูเพิ่มเติมใหนักเรียนเขาใจวา การแบงเขตภูมิอากาศของ ครูใหนักเรียนศึกษาแผนที่เขตภูมิอากาศจากหนังสือเรียน
ทวีปอเมริกาเหนือหรือทวีปตางๆ แตละแหลงจะมีการแบงเขตท่ีแตกตางกัน หนา 32 จากนน้ั แจกแผนทโี่ ครงรา งทวปี อเมรกิ าเหนอื ใหน กั เรยี น
ออกไป หรืออาจมชี ่ือเรยี กแตกตา งกนั ได ข้ึนอยกู ับหลกั เกณฑท ี่นํามาแบง ระบายสแี บง เขตภมู ิอากาศ เสรจ็ แลวนําสงครูผูส อน

นักเรียนควรรู กจิ กรรม ทาทาย

1 ทุนดรา (tundra) เปนคําภาษารัสเซียและภาษาของชาวแลปปในยุโรป นักเรียนแบงกลุมศึกษาคนควาลักษณะภูมิอากาศของทวีป
ภาคเหนือ หมายถึง บริเวณพ้ืนที่ซ่ึงปราศจากตนไม มีแตพืชจําพวกมอสส อเมริกาเหนือจากแหลงเรียนรูตางๆ จากนั้นจัดปายนิเทศแสดง
และไลเคน โดยพน้ื ทด่ี งั กลา วอยูในเขตชายฝง มหาสมทุ รอารก ตกิ ใกลข วั้ โลกเหนอื ผลงานหรือเร่ืองนารูเกี่ยวกับลักษณะภูมิอากาศท่ีไดไปศึกษา
มีลักษณะภมู ิอากาศ ทเ่ี รยี กวา ภมู อิ ากาศแบบทุนดรา คนความา และนําผลงานเก็บรวบรวมใสเ ปน แฟม สะสมผลงาน

T38

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ภมู อิ ากาศเขตแหงแลง (B: arid climates) 1 ขนั้ สอน
ลักษณะเฉพาะ คือ มีฝนตกนอยกวาอัตราการระเหยตลอดป จนไมพอสําหรับการเพาะปลูก ในท2วีป
ขั้นที่ 3 การจัดการขอมลู
อเมรกิ าเหนอื มีเขตแหงแลงแถบท่สี ูงระหวางเขตกลุมเทอื กเขาดานทิศตะวนั ตก เนือ่ งจากเปน พนื้ ที่อับฝน
ภมู อิ ากาศแบบทะเลทรายเขตรอ น (hot desert climate: BWh) มอี ณุ หภมู เิ ฉลย่ี สงู กวา ๑๘ ํC อากาศรอ น 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
และมปี รมิ าณฝนรายปเ ฉลยี่ ๒๕๐ มลิ ลเิ มตร พบบรเิ วณทะเลทรายโซนอรนั ทอ่ี ยโู ดยรอบอา วแคลฟิ อรเ นยี การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
พชื พรรณธรรมชาติ : มพี รรณไมจ าํ พวกกระบองเพชร ไมพ มุ ไมห นาม และหญา ระหวางกัน
ภมู อิ ากาศแบบทะเลทรายเขตอบอนุ (cold desert climate: BWk) มอี ณุ หภมู ิเฉลย่ี ตา่ํ กวา ๑๘ ํC อากาศ
เยน็ เนอ่ื งจากอยูในพน้ื ทสี่ งู และตงั้ อยแู นวละตจิ ดู ๓๕ ํ-๔๐ ํN มปี รมิ าณฝนรายปต า่ํ กวา ๒๕๐ มลิ ลเิ มตร 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทถ่ี กู ตอ ง
พบบรเิ วณทะเลทรายโมฮาวี รฐั แคลิฟอรเ นยี ของสหรฐั อเมรกิ า นา เชอื่ ถอื และจดั การคดั แยกขอ มลู ทไ่ี มจ าํ เปน
พืชพรรณธรรมชาติ : มพี รรณไมจ าํ พวกกระบองเพชร ไมพ มุ ไมห นาม และหญา ออก
ภมู ิอากาศแบบกึ่งแหงแลง เขตรอ น (hot steppe climate: BSh) มอี ุณหภูมเิ ฉล่ียสูงกวา ๑๘ ํC อากาศ
รอ นและมปี รมิ าณฝนรายปต ง้ั แต ๒๕๐-๕๐๐ มลิ ลเิ มตร พบบรเิ วณตอนลา งของทรี่ าบเกรตเพลนสร ะหวา ง ข้นั ท่ี 4 การวเิ คราะหและแปลผลขอมูล
รฐั เท็กซัสของสหรฐั อเมรกิ ากับชายแดนเม็กซิโก
พืชพรรณธรรมชาติ : มีพรรณไมจาํ พวกกระบองเพชร ปาลม ไมพมุ ไมห นาม และหญา 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
ภมู อิ ากาศแบบกง่ึ แหง แลง เขตอบอนุ (cold steppe climate: BSk) มอี ณุ หภมู เิ ฉลยี่ ตา่ํ กวา ๑๘ ํC มปี รมิ าณ รวมกัน จากน้ันใหแตละกลุมนําเสนอขอมูล
ฝนรายปต ง้ั แต ๒๕๐-๕๐๐ มลิ ลเิ มตร พบบรเิ วณทรี่ าบเกรตเพลนส ซง่ึ เปน พนื้ ทอี่ บั ฝนของเทอื กเขารอ็ กกี ประกอบการใชแผนที่เขตภูมิอากาศท่ีครูจัด
พชื พรรณธรรมชาติ : มีพรรณไมจําพวกกระบองเพชร ปาลม ไมพมุ ไมหนาม และหญา เตรียมมา พรอมโยงลูกศรแสดงตําแหนงและ
ขอมูลท่ีพบในบริเวณเขตภูมิอากาศดังกลาว
ภมู ิอากาศเขตอบอุน (C: temperate climates) จนครบทั้ง 5 เขต
ลักษณะเฉพาะ คือ ไมมีพ้ืนท่ีใดเปนเขตแหงแลง มีฝนตกตามฤดู อุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนที่หนาวท่ีสุด
ต่าํ กวา ๑๘ ํC และไมตาํ่ กวา ๑๐ ํC ถงึ -๓ ํC มากกวา ๔ เดือน ในรอบป 2. สมาชิกกลุมอ่ืนผลัดกันใหขอคิดเห็น หรือ
ขอ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ตลอดจนอภปิ รายความรู
ภมู อิ ากาศแบบเมดเิ ตอรเ รเนยี น (mediterranean climate: Cs) ฤดรู อ นอากาศแหง แลง เนอ่ื งจากมลี มพดั รว มกัน
ออกจากแผน ดนิ ใหญ บรเิ วณทรี่ าบสงู โคโลราโดและทรี่ าบเกรตเบซนิ สชู ายฝง มหาสมทุ รแปซฟิ ก ทาํ ให
พนื้ ทชี่ ายฝง ตะวนั ตกรอ นและแหง แลง เมอ่ื ถงึ ชว งฤดหู นาวจะไดร บั อทิ ธพิ ลของลมประจาํ ตะวนั ตกทพ่ี ดั 3. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ทาํ ใบงานท่ี 2.2
จากมหาสมทุ รแปซฟิ ก เขา สแู ผน ดนิ จงึ มคี วามชน้ื มากตงั้ แตเ ดอื นตลุ าคมเปน ตน ไป เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาติ
ของทวีปอเมรกิ าเหนอื
• ลกั ษณะภูมอิ ากาศแบบ Csa มีอากาศแหงแลง และรอนในฤดรู อ น พบแถบชายฝง แคลิฟอรเ นียของ

สหรฐั อเมรกิ าลงไป และบางสว นของคาบสมทุ รบาฮากาลฟี อรเ นยี ทางตอนบนของเมก็ ซโิ ก

• ลักษณะภูมิอากาศแบบ Csb มีอากาศแหงแลงและอบอุนในฤดูรอน พบแถบชายฝงแคลิฟอรเนีย

ขนึ้ ไปจากภมู อิ ากาศแบบ Csa บรเิ วณพนื้ ทล่ี ะตจิ ดู ๔๐ ํ-๔๕ ํN
พืชพรรณธรรมชาติ : มีพรรณไมใบหนาเล็ก ผิวมัน เพื่อปองกันการระเหยของนํ้าในชวงฤดูรอนซึ่ง
อากาศแหง เชน พืชสกุลสม มะกอก เลมอน

๓๓

ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู

บริเวณใตสดุ ของแหลมฟลอริดาจะพบพชื พรรณธรรมชาติแบบใด 1 อัตราการระเหย ข้ึนอยูกับปจจัยตางๆ เชน การรับแสงแดด ความชื้น
1. ตน เมเปล ความเรว็ ลม สภาพของพนื้ ผวิ อตั ราการระเหยจะสงู ถา ไดร บั แดดมาก อากาศแหง
2. ตน สนใบยาว ลมแรง และพื้นผิวเปดโลง ในทางตรงกันขาม อัตราการระเหยจะลดลง
3. ปา ไมไ มผลัดใบ ถาไดร ับแสงแดดนอย ลมออ น ความช้นื สูง หรอื พ้นื ผิวมีสิง่ ปกคลุม
4. ทุงหญาสะวนั นา 2 พื้นท่ีอับฝน พื้นท่ีที่โดยเฉลี่ยแลวมีปริมาณฝนตกนอย เน่ืองจากเปนดาน
ปลายลมของพื้นท่ีซึ่งมีภูเขาสูงตั้งขวางอยู เมื่ออากาศชื้นทางหนาเขาซึ่งเปน
(วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. บรเิ วณใตส ดุ ของแหลมฟลอริดามี ดานรับลมยกตัวสูงข้ึน จึงทําใหมีฝนตก ความชุมช้ืนของอากาศท่ีผานไปทาง
ภมู อิ ากาศแบบสะวนั นา พชื พรรณเปน ปา ไมผ ลดั ใบตา งๆ และเปน ดานหลงั เขาจะลดลงและอุนข้นึ ฝนดานปลายลมทางหลังเขาจึงมปี รมิ าณนอ ย
ทงุ หญา สะวนั นา ซงึ่ เปน ทงุ หญา ยาวและมไี มพ มุ ปะปนอยู เรยี กวา
ทงุ หญาปนปา โปรง)

T39

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ

ขนั้ สอน ภูมิอากาศแบบชื้นสลับแลงเขตอบอุน (temperate wet-dry climate: Cw) มีพื้นที่สูงจึงมีอุณหภูมิต่ํา
เสมือนเขตอบอนุ แตมีฝนตกชว งฤดฝู นและมอี ากาศแหง แลงในชว งฤดูหนาว คลายกับภมู ิอากาศแบบ
ขั้นที่ 4 การวิเคราะหและแปลผลขอมลู สะวันนา (Aw) แตตา งกันทอี่ ุณหภมู ิเฉล่ียทต่ี าํ่ กวา ๑๘ ํC

4. ครูถามคําถามเพ่ือใหนักเรียนไดวิเคราะห • ลกั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Cwa คอื มอี ากาศแหง แลง ในฤดหู นาวและรอ นในฤดรู อ น พบบรเิ วณทส่ี งู แถบ
ขอมูลเพ่ิมเติมเพื่อตอยอดประเด็นความคิด
ตลอดจนการนาํ มาประยกุ ตใชในชวี ติ ประจาํ วนั เมอื งซาโปปน และเมอื งกวาดาลาฮาราของเม็กซโิ ก
ในประเด็น เชน
• พชื พรรณธรรมชาติมคี วามสมั พันธก ับ • ลักษณะภูมิอากาศแบบ Cwb คอื มอี ากาศแหงแลง ในฤดูหนาวและอบอุนในฤดรู อ น พบบริเวณท่ีสงู
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศและภมู อิ ากาศอยางไร
(แนวตอบ ลักษณะพืชพรรณธรรมชาติ แถบเทือกเขาเซียรรามาเดรออกซิเดนตัลในเม็กซิโก และเทือกเขาสูงแถบกรุงกัวเตมาลาซิตีของ
มคี วามสมั พนั ธกับลักษณะภมู อิ ากาศ กัวเตมาลา
โดยขึ้นอยูกับอุณหภูมิและความชื้น ซึ่ง พชื พรรณธรรมชาติ : มีพรรณไมเดน เชน โอก
ลักษณะภูมิอากาศขึ้นอยูกับทําเลท่ีตั้งและ บชี เฮมล็อก
ลักษณะภูมิประเทศ เชน ในเขตรอนมี ภมู อิ ากาศแบบชน้ื กงึ่ เขตรอ น (humid subtropi-
อุณหภูมิและความชื้นสูง ทําใหมีลักษณะ cal climate: Cfa) ลกั ษณะอากาศทวั่ ไปไมม ฤี ดู
พืชพรรณธรรมชาติแบบปาดิบชื้น แตใน
เขตรอ นแถบตะวนั ตกของทวปี มอี ณุ หภมู สิ งู แลง ไดร บั ความช้ืนตลอดปจ1ากมวลอากาศอุน
แหง แลง ทาํ ใหพ ชื พรรณเปน แบบทะเลทราย
อณุ หภมู แิ ละความชน้ื อาจมกี ารเปลยี่ นแปลง และกระแสนํ้าอุนกัลฟสตรีม ในชวงฤดูรอน
ไดจากปจจัยตางๆ เชน ท่ีตั้งตามละติจูด อุณหภูมิสงู กวา ๒๒ ํC พบบรเิ วณทีร่ าบเหนือ
ความสูงตํ่าของพื้นที่ กลางวัน-กลางคืน อาวเม็กซิโกและบริเวณชายฝงตะวันออกของ
ฤดูกาล ทศิ ทางของลมประจาํ อิทธพิ ลจาก สหรัฐอเมริกา
กระแสน้าํ )
พืชพรรณธรรมชาติ : มพี รรณไมว งศส นชนดิ  บรเิ วณอทุ ยานแหง ชาตเิ กรตสโมกกเี มาตเ ทน รฐั เทนเนสซี
5. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ตา งๆ เชน ไพน สปรซู เฟอร ของสหรฐั อเมรกิ า มพี รรณไมส าํ คญั ไดแ ก สนชนดิ ตา ง ๆ
ภูมิศาสตร ม.3 เร่ือง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและ
พืชพรรณธรรมชาติของทวีปอเมริกาเหนือ ภูมอิ ากาศแบบชายฝงตะวันตกภาคพืน้ สมุทร (marine west coast climate: Cfb) มฝี นตกตลอดป ไมมี
เพื่อทบทวนความรูความเขาใจ เปนการบาน ฤดแู ลง ไดร บั อทิ ธพิ ลจากกระแสนาํ้ อนุ แปซฟิ ก เหนอื และลมตะวนั ตก ชว งฤดรู อ นอากาศอบอนุ อณุ หภมู ิ
สงครูในช่ัวโมงถัดไป ๔ ํ-๒๒ ํC พบบริเวณชายฝง ตะวันตกเฉยี งเหนอื ของรฐั วอชิงตนั ของสหรฐั อเมรกิ า และชายฝง ตะวนั ตก
เฉยี งใตรฐั บรติ ชิ โคลมั เบยี ของแคนาดา

พืชพรรณธรรมชาติ : โอก และไมวงศส นชนดิ ตา ง ๆ

ภูมอิ ากาศเขตหนาว (D: cold climates)
ลกั ษณะเดน คอื มอี ณุ หภมู เิ ฉลยี่ สงู กวา ๑๐ ํC ในชว งฤดรู อ นเพยี ง ๔ เดอื น โดยทวั่ ไปมอี ณุ หภมู เิ ฉลย่ี ๐ ํC
หรือต่ํากวา -๓ ํC ไดรับอทิ ธิพลจากนา นนา้ํ จงึ มีความช้ืนตลอดปแ ละไมแ หง แลง

ภมู อิ ากาศแบบกง่ึ อารก ตกิ ภาคพนื้ ทวปี (continentalsubarcticclimate:Ds,Dw) มคี วามแหง แลง เนอื่ งจาก
มฝี นตกนอ ยและความชนื้ ท่ไี ดร บั เปน หมิ ะจาํ นวนนอ ย

• ลกั ษณะภมู อิ ากาศแบบ Dsb มคี วามแหง แลง และอบอนุ ในฤดรู อ น มปี รมิ าณฝนตาํ่ กวา ๔๐ มลิ ลเิ มตร