ทหารกองหนุนประเภทที่ 2 ชั้นที่ 1

มาตรา 9 ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ และเมื่อต้องเข้ากองประจำการจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการมีกำหนดสองปี  ส่วนผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษหรือเมื่อมีกรณีพิเศษ จะให้รับราชการทหารกองประจำการน้อยกว่าสองปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้  แต่สำหรับผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษนั้นจะอ้างสิทธิดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้แสดงหลักฐานต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือต่อหน่วยทหารที่ตนร้องขอเข้ารับราชการในวันร้องขอ วันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ให้นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจำการ ในกรณีที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการแล้ว แต่ยังขึ้นทะเบียนกองประจำการให้ไม่ได้ในวันที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการนั้น   จะขึ้นทะเบียนกองประจำการภายหลังจากวันเข้ารับราชการทหารกองประจำการก็ได้และให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการตั้งแต่วันที่เข้ารับ    ราชการทหารกองประจำการ เมื่ออยู่ในกองประจำการจนครบกำหนดแล้ว ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ดังนี้

  • กองหนุนชั้นที่ 1 เจ็ดปี
  • กองหนุนชั้นที่ 2 สิบปี
  • กองหนุนชั้นที่ 3 หกปี

ตามลำดับชั้นไปจนปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ 1

บุคคลซึ่งสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหารและมีลักษณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวง   จะให้รับราชการทหารกองประจำการน้อยกว่าสองปีหรือให้ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 โดยมิต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการก็ได้ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่จะอ้างสิทธิดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้แสดงหลักฐานต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือต่อหน่วยทหารที่ตนร้องขอเข้ารับราชการในวันร้องขอ หรือต่อหน่วยที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการ แล้วแต่กรณี ส่วนที่จะให้อยู่ในกองหนุนชั้นใด และเป็นเวลาเท่าใดนั้นให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการปลดทหารกองเกินที่ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามวรรคสอง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด   และสัสดีจังหวัด   ออกหนังสือสำคัญให้แก่ทหารที่ถูกปลดเป็นทหารกองหนุนไว้เป็นหลักฐาน   หากหนังสือสำคัญชำรุดหรือสูญหาย ให้ผู้ถือแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่เพื่อขอรับหนังสือสำคัญใหม่โดยเสียค่าธรรมเนียมฉบับละหนึ่งบาท แต่ถ้าการชำรุดหรือสูญหายนั้นเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

มาตรา 38 การปลดทหารกองประจำการเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 1 นั้น  ถ้ากระทรวงกลาโหมเห็นว่ามีเหตุจำเป็นจะเลื่อนกำหนดเวลาปลดไป ก็ให้สั่งเลื่อนไปได้ตามความจำเป็น

(อธิบาย ม.38 มาตรานี้ให้อำนาจกระทรวงกลาโหมสั่งเลื่อนกำหนดเวลาปลดทหารกองประจำการเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 1 ออกไปได้ตามความจำเป็น ซึ่งปกติทหารกองประจำการต้องรับราชการในกองประจำการมีกำหนด ๒ ปี ตามมาตรา ๙  แต่ถ้ามีความจำเป็นเช่นเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดสงครามกระทรวงกลาโหมอาจสั่งเลื่อนกำหนดเวลาปลดออกไปอีกตามความจำเป็นซึ่งอาจจะเลื่อนออกไปอีกเท่าใดก็ได้ข้อสังเกตมาตรานี้ให้อำนาจกระทรวงกลาโหมสั่งเลื่อนกำหนดเวลาปลดออกไปเท่านั้น แต่จะ    สั่งเลื่อนกำหนดเวลาปลดเข้ามาไม่ได้ แต่ก็มีอำนาจสั่งให้ลาพักรอการปลดโดยถือว่าตัวยังคงรับราชการ    อยู่ในกองประจำการได้เพราะยังไม่ได้ปลด)

มาตรา 40 ทหารกองประจำการ ถ้าต้องจำขังหรือจำคุกครั้งเดียว หรือหลายครั้ง เมื่อมีกำหนดวันที่จะต้องทัณฑ์หรือต้องโทษรวมได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก็ดี หรือทหารกองประจำการผู้ใดซึ่งกระทรวงกลาโหมเห็นว่าจะกระทำให้เสื่อมเสียแก่ราชการทหารด้วยประการใด ๆ ก็ดี จะปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 2 ก็ได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัดออกใบสำคัญให้แก่ทหารที่ถูกปลดนี้ไว้เป็นหลักฐาน ใบสำคัญนี้  หากชำรุดหรือสูญหาย ให้ผู้ถือแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่เพื่อรับใหม่ โดยเสียค่าธรรมเนียมฉบับละหนึ่งบาท  แต่ถ้าการชำรุดหรือสูญหายนั้นเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

(อธิบาย ม. 40 มาตรานี้เป็นบทยกเว้นของมาตรา 9 กล่าวคือ ผู้ที่เข้าเป็นทหารกองประจำการเมื่อรับราชการในกองประจำการครบกำหนดปลดแล้วมาตรา 9 ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 แต่ตามมาตรา 40 เป็นเรื่องปลดทหารกองประจำการออกเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 2 เหตุที่จะทำให้ทหารกองประจำการต้องถูกปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 2 ได้มี 2 ประการคือ

  • ในระหว่างที่เป็นทหารกองประจำการต้องถูกจำขังหรือจำคุกครั้งเดียวหรือหลายครั้ง และมีกำหนดวันที่จะต้องทัณฑ์หรือต้องลงโทษรวมได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ
  • ในระหว่างที่เป็นทหารกองประจำการกระทรวงกลาโหมเห็นว่าจะกระทำให้เสื่อมเสียแก่ราชการทหาร

เมื่อมีกรณีเข้าตามข้อ 1 หรือข้อ 2 ข้อหนึ่งข้อใดก็อาจปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 2 ได้ และในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้นจะปลดให้เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 1 ประเภทที่ 2 ก่อน เมื่ออายุครบ 30 ปีบริบูรณ์แล้วจึงถือตามมาตรา 39 ต่อไปการปลดนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัด จะออกใบสำคัญให้ไว้เป็นหลักฐาน ถ้าใบสำคัญชำรุดสูญหายต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับมาตรา 16)

มาตรา 41 ทหารกองประจำการ ทหารกองเกิน หรือทหารกองหนุน ซึ่งยังไม่ครบกำหนดปลด พ้นราชการทหาร  ถ้าพิการทุพพลภาพ    หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้    ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ให้ปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ 1 หรือที่ 2 แล้วแต่กรณี ถ้าเป็นนายทหารสัญญาบัตรถูกถอดหรือออกจากยศ ก็ให้ปลดเป็นพ้นราชการทหารประเภทที่ 2  ทั้งนี้   ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยสัสดีจังหวัดออกหนังสือสำคัญหรือใบสำคัญ  ให้แก่ทหารตามประเภทที่ถูกปลดไว้เป็นหลักฐาน

ทหารกองหนุนประเภท 2 คือ ปลดออกจากกองเกิน ตามมาตรา 39 หรือปลดออกจากกองประจำการตามมาตรา 40 โดยทหารเหล่านั้น ได้แก่…

  • พ้นราชการประเภท 1 คือ ถูกปลดโดยได้รับราชการในชั้นต่างๆ จนครบกำหนดวาระ จากการปฏิบัติหน้าที่แล้วเกิดทุพพลภาพ , มีโรคประจำตัวขึ้นร้ายแรงโดยไม่อาจรับราชการทหารได้ ระหว่างรับราชการทหารตามพระราชบัญญัติ
  • พ้นราชการประเภท 2 คือ ทหารกองหนุนประเภท 2 ซึ่งมีอายุ 46 ปีบริบูรณ์ , เป็นทหารกองเกิน , ทหารกองหนุนประเภท 2 ซึ่ง ทุพพลภาพ หรือมีโรคที่ไม่อาจรับราชการทหารได้ ในระหว่างการรับราชการทหารตามพระราชบัญญัติ หรือนายทหารสัญญาบัตร ซึ่งถูกปลดจากการถูกถอดยศ

สำหรับผู้ที่ได้ลงทหารกองเกินแล้ว ให้จัดว่าเป็นทหารประเภทนี้นับตั้งแต่วันที่ลงบัญชี แต่กรณีถ้ามีอายุครบกำหนดปลดแล้ว กลายมาเป็นทหารกองหนุนประเภท 2 ตามมาตรา 39 เมื่อได้ลงบัญชีกลายเป็นทหารกองเกินอย่างถูกต้องแล้ว ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภท 2 ทันที สำหรับการลงบัญชีทหารกองเกิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ , วิธี ตามกำหนดกฎกระทรวง

ไม่ว่าจะเรียนนักศึกษาทหารมาแล้ว หรือ เกณฑ์แล้วก็สามารถเป็นทหารอีกได้

กองทหารของกองทัพไทย ณ ปัจจุบันมีประมาณ 350,000 นาย ซึ่งปริมาณนี้ไม่เพียงพอต่อภารกิจของกองทัพ โดยถ้าทางกองทัพต้องการกำลังพลมากกว่านี้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณให้เพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นการใช้กำลังพลสำรองจึงเป็นทางออกที่ทางกองทัพไทยเลือกใช้ ซึ่งมาตรา 15 ได้มีการกำหนดให้กำลังพลสำรองมาจาก 2 ส่วน

ส่วน 1 มาจากการรับสมัครจากบุคคล

ส่วน 2 มีความสำคัญกับคนส่วนใหญ่มาก เพราะมาจาก…

  • คัดเลือกจากสัญญาบัตรกองหนุน
  • สัญญาบัตรนอกราชการ
  • สัญญาบัตรนอกกอง
  • กองหนุนประเภท 1 คือ ผู้ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือผู้ได้รับยกเว้น เนื่องจากเป็นนักศึกษาทหาร มีอายุไม่เกิน 40 ปี
  • กองหนุนประเภท 2 คือผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารหากแต่จับได้ใบดำ และทหารกองหนุนประเภท 1 ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไป

ปัจจุบันประเทศไทยมีทหารกองหนุนประมาณ 12,000,000 คน โดยวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 มีการประกาศออกมาว่าจะมีการเรียกกำลังพลสำรอง 2.5 % จากกองกำลังสำรองทั้งหมดเข้ารับการฝึกทหาร

และกฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดบทลงโทษ แก่กำลังพลสำรองรวมทั้งนายจ้าง ที่พยายามหลีกเลี่ยง โดยกำลังพลสำรอง มาตรา 37 บัญญัติออกมาว่า ถ้าพบว่ามีผู้ใดพยายามจะหลีกเลี่ยง ไม่เข้ารับราชการทหารกำลังพลสำรองเพื่อตรวจสอบ มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน , ปรับไม่เกิน 5,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนถ้าพบว่าพยายามหลีกเลี่ยงไม่มาเข้ารับราชการทหารในขั้นตอนเรียกมาฝึกวิชา , ปฏิบัติราชการ , ทดลองความพร้อม , ระดมพล จะต้องจำคุกไม่เกิน 4 ปีสำหรับนายจ้าง ถ้านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างที่ลาไปเพื่อรับราชการทหาร ต้องปรับ 20,000 บาท

เป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 คืออะไร

(๔) “ ทหารกองหนุนประเภทที่๑ ” หมายความว่า ทหารที่ปลดจากกองประจาการ โดย รับราชการในกองประจ าการจนครบก าหนดหรือทหารกองเกินซึ่งส าเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมาย ว่า ด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจ าการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุนตาม พระราชบัญญัตินี้

ทหารกองหนุนประเภทที่ 2 หมายถึงใคร

(๕) “ทหารกองหนุนประเภทที่ ๒” หมายความว่า ทหารที่ปลดจากกองเกินตามมาตรา ๓๙ หรือปลดจากกองประจำการตามมาตรา ๔๐ (๖) “พ้นราชการทหารประเภทที่ ๑” หมายความว่า ทหารซึ่งถูกปลดโดยที่ได้รับราชการในชั้นต่าง ๆ จนครบกำหนดหรือโดยที่พิการทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ในระหว่างรับราชการทหารตามพระราชบัญญัตินี้

ทหารกองหนุนประเภทที่ 3 คืออะไร

- อายุไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 1. - อายุ 30 ปีบริบูรณ์แต่ไม่ถึง 40 ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 2. - อายุ 40 ปีบริบูรณ์แต่ไม่ถึง 46 ปีบริบูรณ์ เป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 3. - บุคคลที่มีอายุมากกว่า 46 ปีบริบูรณ์ให้ปลดพ้นราชการทหารกองหนุนประเภทที่ 1.

ข้อใด หมายถึง ทหารกองหนุน

ทหารกองหนุน ( ผู้สำเร็จการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ ๓ ) หรือ ผู้ที่ปลดจากทหารกองประจำการ เมื่อได้รับทราบประกาศ หรือได้รับหมายเรียกพล / คำสั่งเรียกพล ต้องไปรายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารเพื่อตรวจสอบ , เพื่อฝึกวิชาทหาร , เพื่อทดลองความพรั่งพร้อม หรือการระดมพล ตามประกาศ หรือคำสั่งเรียกพล จะต้องไปให้ทันตามกำหนดไม่หลีกเลี่ยง