เฉลยแบบฝึกหัดสุขศึกษา ม.3 บทที่7

คำถามท้ายบทบทที่ 7 from นางสาวอัมพร แสงมณี

IT คน หาขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายอยา งงา ยของ การกฬี าแหง ประเทศไทย ไดท ี่ เวบ็ ไซตก องสมรรถภาพการกฬี า ฝา ยวทิ ยาศาสตร การกฬี า การกฬี าแหง ประเทศไทย http://sportscience.sat.or.th แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายอย่างง่ายของการกีฬาแห่งประเทศไทย (Sport Authority of Thailand Simplified Physical Fitness Test: SATST) ล�าดับที่ รายการทดสอบ วิธกี ารประเมิน 1 สัดส่วนร่างกาย ชง่ั นา้� หนัก วัดส่วนสูง 2 วิ่งเร็ว 50 เมตร วัดระยะทาง (วนิ าที) 3 ยนื กระโดดไกล วัดระยะทาง (เซนตเิ มตร) 4 แรงบบี มือ วัดปริมาณของแรง (กิโลกรมั ) 5 ลุก – นัง่ 30 วินาที นับจา� นวนครั้ง 6 ดงึ ขอ้ ราวเดย่ี ว(ชาย)/งอแขนหอ้ ยตวั (หญงิ ) นบั จา� นวนครง้ั จับเวลา (วนิ าท)ี 7 วงิ่ เกบ็ ของ วัดระยะทาง (วินาท)ี ผฉูสบอับน ขอ้ แนะน�าสา� หรบั ผ้เู ข้ารบั การทดสอบ นกั เรยี นสามารถทราบผลการประเมนิ ไดโ้ ดยมบี นั ทกึ ผล ของตนเอง จากนั้นเข้าโปรแกรมของกองสมรรถภาพการกีฬา ฝา่ ยวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า การกฬี าแหง่ ประเทศไทย แลว้ กรอกผล การทดสอบเข้าโปรแกรมจะประมวลผลออกมาใหท้ ราบทันที IT คน หาขอ มลู เพม่ิ เตมิ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายทสี่ มั พนั ธ์กบั สุขภาพในเดก็ อายุ 7-18 ปี เก่ียวกับดัชนีมวลกาย ของกองออกก�าลังกายเพอื่ สขุ ภาพ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ไดท่ี เว็บไซตของกอง อ อ ก กํ า ลั ง ก า ย เ พื่ อ ล�าดับท่ี รายการทดสอบ วิธกี ารประเมนิ สขุ ภาพ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข 1 สัดสว่ นร่างกาย ชั่งน�า้ หนกั (กโิ ลกรัม) วดั ส่วนสูง (เมตร) http://dopah.anamai. ดัชนีมวลกาย (กิโลกรมั /ตารางเมตร) moph.go.th 2 น่งั งอตัว วดั ระยะทาง (เซนตเิ มตร) 3 นอนยกตัว นบั จา� นวนครง้ั /นาที 4 ดนั พ้ืน นับจา� นวนครง้ั /นาที 5 เดิน/วง่ิ 1.6 กโิ ลเมตร วดั ระยะเวลา (นาที) 140

ขอ้ แนะนา� สา� หรับผู้เขา้ รับการทดสอบ เกณฑท ใี่ ชอ า งองิ แบบทดสอบนี้จัดท�าเป็นคู่มือส�าหรับครูและเจ้าหน้าท่ี สมรรถภาพทางกายมีไว สาธารณสุข โดยจะมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประเมินผล เพื่ออะไร การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ซง่ึ สามารถจดั ทา� เปน็ ฐานขอ้ มลู และรายงานผลไดเ้ ลย นอกจากนย้ี งั มแี บบบนั ทกึ ผล และมเี กณฑ์ อา้ งองิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพดงั ตวั อยา่ ง เกณฑอ์ า้ งอิงสมรรถภาพทางกาย เพื่อสุขภาพของนักเรยี นชายและหญงิ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ระดับอายุ 15 ปี คา่ ดัชนมี วลกาย นัง่ งอตวั นอนยกตวั ดันพน้ื เดนิ /ว่งิ 1.6 ระดบั กิโลเมตร (นาท)ี (กโิ ลกรมั /เมตร2) (เซนตเิ มตร) (ครัง้ /นาท)ี (คร้ัง/นาที) ตง้ั แต่ 14.04 ลงมา ตง้ั แต่ 19.2 ขึ้นไป ต้งั แต่ 51 ข้ึนไป ต้งั แต่ 35 ขึน้ ไป ตั้งแต่ 9.29 ลงมา ดมี าก 14.06-16.63 11.3-19.1 45-50 28-34 9.30-10.38 ดี ผฉูส บอับน 16.64-21.80 (-4.6)-11.2 34-44 14-27 10.39-12.17 ปานกลาง 21.81-24.38 (-12.6)-(-4.7) 28-33 7-13 12.18-13.26 ตา�่ ตั้งแต่ 24.39 ขึ้นไป ต้ังแต่ (-12.7) ลงมา ต้งั แต่ 27 ลงมา ตั้งแต่ 6 ลงมา ตง้ั แต่ 13.27 ข้ึนไป ต�า่ มาก ตง้ั แต่ 14.37 ลงมา ตั้งแต่ 20 ขึ้นไป ตง้ั แต่ 40 ข้นึ ไป ตั้งแต่ 31 ขึ้นไป ตั้งแต่ 10.13 ลงมา ดีมาก 14.38-16.80 11.8-19.9 34-39 26-30 10.14-11.17 ดี 16.81-21.67 (-4.7)-11.7 21-33 13-25 11.18-13.26 ปานกลาง 21.68-24.10 (-12.9)-(-4.8) 15-20 8-12 13.27-14.30 ต่�า ต้งั แต่ 24.11 ขนึ้ ไป ตง้ั แต่ (-13.0) ลงมา ต้งั แต่ 14 ลงมา ตั้งแต่ 7 ลงมา ตงั้ แต่ 14.31 ขึ้นไป ตา�่ มาก แทนผูช้ าย แทนผู้หญิง 141

เด็กควรรู ในการออกกําลงั กายเพอื่ สุขภาพนน้ั ควรยึดหลกั การออกกาํ ลงั กายโดยใชข อ ปฏบิ ตั ิ 4 ประการ คือ ● ออกกาํ ลงั กายบอยๆ อยางนอย 3 วนั ● ออกกําลังกายนานๆ อยางนอย 30 นาที ● ออกกาํ ลังกายใหหนกั พอ ● ออกกําลงั กายตามความพอใจ 5. แนวทางการพฒั นาสมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ การพัฒนาสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ เป็นการท่ีบุคคล พยายามท่ีจะปรับปรุงเปล่ียนแปลงตนเองให้ดีขึ้นท้ังทางด้าน รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ ์ และสงั คม มิใชเ่ พยี งแตส่ ขุ ภาพกายเทา่ นน้ั แตต่ ้องมกี ารพฒั นาไปพรอ้ มๆ กนั ในทกุ ด้าน ซ่ึงแนวทางในการ พัฒนาสมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพสามารถปฏิบัติได ้ ดังนี้ 5.1 การควบคุมตนเอง การควบคุมตนเองเป็นวิธีการพัฒนาตนเองวิธีหน่ึง นกั เรยี นจะสามารถเลอื กและพจิ ารณาตดั สนิ ใจไดด้ ว้ ยตนเองวา่ จะ เปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมที่ไมพ่ งึ ประสงคเ์ พอื่ การนา� ไปสพู่ ฤตกิ รรม การพัฒนาสมรรถภาพทางกายเป็น ท่พี งึ ประสงค์ไดอ้ ย่างไร เชน่ การออกกา� ลงั กายจนเปน็ นิสยั รู้จกั การปรับปรุงเปล่ียนแปลงตนเองใหด้ ีขน้ึ ซ่ึงบุคคลจะต้องรู้จักควบคุมตนเอง การปฏิเสธการใช้สารเสพติด การเลือกรับประทานอาหารที่มี เพ่อื น�าไปสกู่ ารพัฒนาท่ีดี ประโยชน์ ควบคุมน�้าหนัก การฝึกควบคุมอารมณ์ ความโกรธ การมรี ะเบยี บวินัย เป็นต้น ดงั ตวั อยา่ ง ผฉสู บอบั น ตารางแสดงขั้นตอนและตวั อยา่ งกระบวนการควบคุมตนเอง เดก็ ควรรู ขั้นตอน ตัวอยา่ ง ผทู ต่ี อ งการควบคมุ น้ําหนัก ควรลดปริมาณ 1. กา� หนดเปา้ หมาย - อยากผอม หนุ่ ดี - อยากเป็นนักกฬี าฟตุ บอล ในแตล ะมอ้ื ใหน อ ยลง แต ไมค วรงด ใหร บั ประทาน 2. ระบุพฤติกรรมที่ต้องการ - การออกกา� ลังกายเป็นประจา� - ฝึกสมรรถภาพทางกายทกุ วนั มอื้ ละนอ ยๆ วนั ละ 3-4 มอ้ื ควบคมุ ตนเอง อยา่ งนอ้ ย 3-5 ครงั้ ต่อสัปดาห์ - เรยี นรู้ทกั ษะฟตุ บอลทกุ วนั โดยมีอาหารหลัก 3 ม้ือ - ควบคุมอาหาร - ควบคมุ น�้าหนักและอาหาร และอาหารวา ง 1-2 มอื้ ดีกวารับประทานม้ือละ 3. เลือกเป้าหมายท่ีคาดว่า - เลอื กใช้วิธีการว่ิงรอบสนาม - ทา� ตารางฝกึ ซอ้ มและซอ้ มตาม มากๆ แตนอยครั้ง และ จะท�าได้และบรรลุผล - ก�าหนดรายการอาหาร ตารางท่ีก�าหนด ควรหาเวลาออกกาํ ลงั กาย ใหส มา่ํ เสมอ - ปรึกษาผมู้ ีความรู้ด้านทกั ษะ 4. ปฏิบัติและท�าสัญญากับ - ทา� ตามแผนที่กา� หนดไว้ - ฝกึ ซ้อมตามแผนทก่ี �าหนดไว้ ตนเอง 5. บนั ทึกพฤติกรรม - จดบันทกึ ผลและวิเคราะห์ผล - จดบันทึกผล ทดสอบความ กา้ วหน้าด้วยแบบทดสอบ 142

เหตุใดจึงเรียกวัยรุน วาเปน วยั “พายุบุแคม” 5.2 การพฒั นาตนเอง การพฒั นาตนเองเปน็ การปรบั ปรงุ และการบรหิ ารตนเอง เพอ่ื เปลย่ี นแปลงตนเองใหเ้ หมาะสม ตอบสนองความตอ้ งการและ เป้าหมายของตนเองรวมท้ังสังคมในอนาคต การพัฒนาตนเอง อาศยั หลกั ๓ ต. คอื เตม็ ใจ เตรยี มตน และเตมิ เตม็ ความสามารถ ซ่ึงมีรายละเอยี ดต่างๆ ดงั น้ี 1) เตม็ ใจ การพฒั นาตนเองจา� เปน็ ตอ้ งเกดิ จากความเตม็ ใจ การทา� กจิ กรรมรว่ มกนั นอกจากจะช่วย และความสมคั รใจโดยปราศจากการถกู บงั คบั ความเตม็ ใจเกดิ ได้ สร้างสัมพันธ์อันดีแล้ว ยังก่อให้เกิด จากการรู้ถงึ ปญั หาและความจ�าเป็นในการปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง ความสนกุ สนานและประสบการณ์ในการ 2) เตรียมตน เป็นหลักส�าคัญในการพัฒนาตนเอง โดย พัฒนาตนเองรว่ มด้วย ผู้พัฒนาจะต้องมีความรับผิดชอบและเตรียมตนเองให้พร้อมใน เร่ืองตา่ งๆ ได้แก่ 1. การตรวจร่างกาย เพ่ือตรวจสอบความพร้อมของ รา่ งกายก่อนการฝึก 2. การวางแผนการฝึก รวมถึงข้ันตอนการฝึกหรือการ พฒั นา ตลอดจนการประเมนิ ผลเพอื่ นา� ไปปรบั ปรงุ แกไ้ ขตอ่ ไป ผฉูส บอบั น 3. การจัดเตรียมอุปกรณ์และสถานท่ี ให้เหมาะสมและ ปลอดภัยในการฝึก 4. ท�ากิจกรรมท่ีเป็นหมู่คณะ เพื่อช่วยให้เกิดความ เด็กควรรู สนุกสนานและสรา้ งความสมั พนั ธ์อนั ดี ทา� ใหเ้ กดิ การเรียนรูแ้ ละ ถือเปนศาสตรท่ี แลกเปลี่ยนประสบการณร์ ว่ มกัน นําหลักทางจิตวิทยามา 5. เลอื กใชท้ กั ษะจติ วทิ ยาการกฬี า เพอื่ ฝกึ ใชก้ บั กจิ กรรม ประยกุ ตใ ชใ นสถานการณ ตามความเหมาะสม การกีฬา เพื่อการพัฒนา ความสามารถทางกีฬา ท้ังในดานการฝกซอม และในดา นของการแขง ขนั 6. มีโภชนาการทดี่ ี รวมทั้งมีการพกั ผอ่ นทเี่ พยี งพอ ใหเ กดิ ประสทิ ธภิ าพสูงสุด 3) เติมเต็มความสามารถ เป็นการเติมเต็มความสามารถ ในสถานการณต า งๆ กัน จากพรสวรรค์และพรแสวง เนื่องจากความสามารถของแต่ละ บคุ คลมคี วามหลากหลายแตกตา่ งกันออกไป ซง่ึ สามารถกระท�า ได้จากการฝึกฝนทักษะจนเกิดการพัฒนาไปในระดับท่ีสูงขึ้น การเตมิ เตม็ ความสามารถน้ันมีด้วยกันหลายวิธี เช่น การเพ่ิม การฝึกฝนทักษะจนเกิดการพัฒนาใน ความหนักของการฝึก การเพ่ิมเวลาในการฝึก การเรียนรู้จาก รสะาดมบัารทถส่ี ซงู งึ่ขตน้ึIอ้ งTอถาอื ศเยัปคน็ วกามารมเงุ่ตมมิ น่ั เตตงม็้ั ใคจวแาลมะ ประสบการณข์ องตนเองและผ้อู ่ืน เปน็ ตน้ ความอดทนตอ่ อปุ สรรคตา่ งๆ รว่ มดว้ ย 143

เด็กควรรู เปนอุปกรณท่ี 5.3 การสรา้ งเสริมสุขภาพ สําคัญในการลดความ การสร้างเสริมสุขภาพเป็นวิธีการหนึ่งของการพัฒนา รุนแรงของการบาดเจ็บ สมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ โดยหลักการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ มีดงั นี้ ท่ีเกิดข้ึนบริเวณศีรษะได 1) การสรา้ งพฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงคต์ อ่ ตนเอง เพอื่ สรา้ งเสรมิ เปน อยา งดี โดยมี 3 แบบ สขุ ภาพและปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงตนเองในทางทดี่ ขี นึ้ ซงึ่ สามารถ คือ หมวกนิรภัยแบบปด เต็มหนา หมวกนิรภัย แบบเตม็ ศรี ษะ และหมวก ปฏิบัตไิ ด้ ดังนี้ นริ ภยั แบบครงึ่ ศรี ษะ ซง่ึ 1. การเลือกรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ถูกหลัก ในป 2554 รัฐบาล อนามยั กํ า ห น ด ใ ห  เ ป  น ป  แ ห  ง ความปลอดภัย 2. การพักผอ่ นและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการที่ เหมาะสม 3. การหลีกเลี่ยงปัจจัยเส่ียง หรือพฤติกรรมเส่ียงต่อ สุขภาพ 4. สร้างความปลอดภัยในชีวิต โดยการรู้จักป้องกัน ตนเอง เชน่ การสวมหมวกนริ ภยั การดแู ลความปลอดภยั ในบา้ น 5. การตรวจสุขภาพประจ�าปี ผฉสู บอบั น 2) การก�าจัดสารพิษ เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย สามารถทา� ไดโ้ ดยการดม่ื นา�้ มากๆ การออกกา� ลงั กายเพอ่ื ขบั เหงอ่ื และสารพษิ ออกจากรา่ งกาย ทานอาหารทม่ี ีใยอาหารเพอ่ื ชว่ ยใน เดก็ ควรรู การขับถ่าย และการผ่อนคลายความเครยี ด อาหารทก่ี ากใยสงู 3) การสร้างและปรับความสมดุลของร่างกายและจิตใจ นอกจากจะมีสวนชวย โดยการควบคมุ นา้� หนกั และปรมิ าณอาหารใหอ้ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน ใหการทํางานของระบบ ทางเดนิ อาหารและระบบ ลดอาหารรสจัด และบริหารจดั การความเครยี ดอย่างเหมาะสม ขบั ถา ยเปน ปกตแิ ลว หาก 4) การสร้างจิตส�านึกที่ดี เพื่อให้เกิดความตระหนักต่อ เรารับประทานอาหารท่ี บทบาทหนา้ ท ี่ ความรบั ผดิ ชอบ การมจี ติ สา� นกึ ทด่ี ตี อ่ สงิ่ แวดลอ้ ม มกี ากใยนอ ยเกนิ ไปกเ็ ปน สาเหตุสําคัญท่ีทําใหเกิด ทองผูก ริดสีดวงทวาร เชน่ การสรา้ งคา่ นยิ มหรอื ปลกู ฝงั เจตคติในการสรา้ งสรรค ์ อนรุ กั ษ ์ และความผิดปกติอื่นๆ บ�ารงุ รักษาธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มรอบตัวให้ดีและมีคณุ ค่า ในลําไส เชน ขาวกลอง 5) ส่งเสริมการฝกึ ฝน ทั้งการฝกึ ฝนรา่ งกายและจติ ใจ โดย พืชในตระกูลถั่วตางๆ ฝึกฝนอย่างสม�่าเสมอ ฝึกความอดทนและควบคุมการฝึกให้ ในแตล่ ะวนั ควรดม่ื นา�้ ใหไ้ ดว้ นั ละ6-8 แกว้ แอปเปล ฝรง่ั องนุ ผกั บงุ สามารถกระท�าตามแผนที่วางไว้ได้ และควรค�านึงว่าควรอบอุ่น เนอื่ งจากนา�้ จะชว่ ยสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ โดย ผักคะนา ผักกวางตุง ร่างกายกอ่ นท�าการทดสอบทกุ คร้ัง การขบั ของเสยี ออกจากรา่ งกายทางเหงอื่ เปน ตน และปสั สาวะ 144

สมรรถภาพทางกาย เป็นความสามารถท่ีใช้ในการควบคุมร่างกายและ การทา� งานของรา่ งกายไดท้ นั ที และไดร้ ะยะเวลานาน โดยไมเ่ สอ่ื มประสทิ ธภิ าพ การพฒั นา สมรรถภาพทางกายเพ่อื การมสี ุขภาพทีด่ ไี ด้นั้น จา� เป็นจะต้องอาศัยการวางแผนและ จดั เวลาในการออกกา� ลงั กาย การพกั ผอ่ น รวมถงึ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย โดยมกี ารทดสอบสมรรถภาพทางด้านต่างๆ เพื่อน�าไปสู่การพฒั นาแก้ไขข้อบกพร่อง ซึง่ แนวทางการพฒั นาสมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพทด่ี ตี ้องมกี ารควบคุมตนเองท่ีดี รวมทง้ั มคี วามพร้อม ความตัง้ ใจ อันจะท�าให้ร่างกายมคี วามแข็งแรงสมบูรณ์ และมีจติ ใจที่ ร่าเริงแจ่มใส เพื่อให้สามารถดา� เนินชวี ติ ประจ�าวนั ได้อย่างเป็นสขุ ผฉูสบอบั น ฝึกคิด ฝกึ ทำ� 1. ให้นกั เรยี นวางแผนและจดั การเวลาในการออกกา� ลงั กาย การพกั ผ่อน และการสร้างเสรมิ สมรรถภาพ ทางกาย เปน็ เวลา 2 สปั ดาห์ แล้วปฏิบตั ติ ามแผนท่ีวางไว้พร้อมบันทกึ ผลส่งครผู ู้สอน 2. ให้นักเรียนทา� แบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย หลงั การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมที่ 1 ทุกครง้ั ทม่ี ีการฝึกฝน แล้วเขยี นข้อควรปรบั ปรงุ แก้ไขหลังการทดสอบ 145

แบบฝึกทกั ษะพฒั นาการเรยี นรู้ ตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรยี นจบั คกู่ ับเพอ่ื นทำ�ก�รทดสอบสมรรถภ�พท�งก�ย 2 ครัง้ แล้วเปรยี บเทยี บ มฐ./ตัวชว้ี ัด ผลก�รทดสอบ พร้อมท้งั ประเมนิ ว�่ ดขี ้ึนหรือลดลง พ 4.1 ((มม..33//45)) รายการที่ ทดสอบ ผลการทดสอบ (ผดลขี ก้ึนาหรรปือรละดเมลินง) ครัง้ ท่ ี 1 ครงั้ ท่ี 2 1 สดั ส่วนรา่ งกาย ....................... ....................... .............................................................. 2 วง่ิ เรว็ 50 เมตร ....................... ....................... .............................................................. 3 ยนื กระโดดไกล ....................... ....................... .............................................................. ผฉูสบอับน 4 แรงบบี มอื ....................... ....................... .............................................................. 5 ลุก-น่งั 30 วินาที ....................... ....................... .............................................................. 6 ดงึ ราวเดี่ยว (ชาย) ....................... ....................... .............................................................. งอแขนหอ้ ยตัว (หญิง) 7 วงิ่ เกบ็ ของ ....................... ....................... .............................................................. สรปุ ผลการทดสอบสมรรถภาพของตนเอง ..................................พ...ิจ...า..ร...ณ.....า..จ...า..ก....ค...�า..ต...อ...บ....ข..อ...ง...น....กั ...เ.ร...ยี...น........โ..ด...ย...อ...ย...ู่ใ..น...ด....ลุ ...ย...พ...ิน....จิ...ข..อ...ง...ค...ร...ูผ...สู้....อ..น......................................... .................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................. 146

ตอนที่ 2 ให้นักเรียนบอกประโยชน์ที่ไดร้ ับจ�กก�รว�งแผนและจัดเวล�ในก�รออกกำ�ลังก�ย ก�รพักผ่อน และก�รสร�้ งเสริมสมรรถภ�พท�งก�ย ลงในแผนภ�พทก่ี ำ�หนดให้ ..........ช..ว่..ย...ใ..ห...ร้...ะ..บ....บ...อ...ว..ยั...ว..ะ...ต...า่ ..ง...ๆ.... ผฉสู บอับน ......ใ..น....ร...่า..ง...ก...า..ย...ท....�า..ง...า..น....ไ..ด....้อ...ย...่า..ง...ม...ี .... .......ป...ร...ะ..ส....ิท...ธ...ิภ...า..พ.......แ..ล....ะ..ช..่ว...ย...ส...ร...้า..ง.. ....ช..ว.่ ..ย..ผ...อ่...น...ค...ล....า..ย..ค....ว..า..ม...เ.ม...อื่ ..ย...ล...า้..... ....ภ....มู ..ิค....มุ้ ...ก...ัน....ท...่ีด...ใี...ห...แ้ ..ก....ร่ ...่า..ง...ก...า..ย.. แ...ล...ะ..ช..ว่..ย...ใ..ห...ส้...ม...อ...ง..ป...ล...อ...ด...โ..ป...ร...ง่ ....ม...สี ...ม...า..ธ. ิ ................................................. ..ต...อ่ ...ก...า..ร...เ..ร..ยี...น....ร...สู้ ...งิ่...ต...า่..ง...ๆ......ร...ว..ม...ท...ง.้ั ..ย...งั.. ช.ว.่ ..ย..ใ..ห...ม.้ ..ปี...ร...ะ..ส...ท.ิ ...ธ..ภิ...า..พ....ใ..น...ก...า...ร..ท....า� ..ง..า..น... ...................ท....ดี่ ...ยี...่งิ ..ข...้ึน....................... .....ช..ว.่ ..ย..ใ..ห...เ้.ก...ด.ิ ..ก....า..ร..เ..ร..ยี...น...ร...รู้..ว่..ม...ก...นั.... .เ..ก..ด.ิ ..ก...า..ร...เ.ข..า้.ใ..จ...ผ..อ้.ู ..นื่ ....ร..จ.ู้..กั...ก...า..ร..เ.ส....ยี..ส...ล...ะ..... ...แ..ล...ะ..ก...า...ร..ม...นี....า้� ..ใ..จ..น....กั...ก...ฬี....า........................ .................................................................. ......................................................... .....ช..ว.่ ..ย..ผ...อ่...น...ค...ล....า..ย..ค....ว..า..ม................... .ต....ึง...เ.ค....ร...ีย...ด...แ...ล....ะ..ค....ว..า..ม....ว..ิต....ก...ก...ั.ง..ว...ล...... ...ท...า�..ใ..ห...จ้...ติ ...ใ..จ..ร...า่..เ.ร...งิ...แ..จ...ม่..ใ..ส......................... .................................................................. .......ท...า�..ใ..ห...ม้...บี ...คุ...ล...กิ...ภ...า...พ...ท...ด่ี...ี............ .........ช..ว่..ย...ล...ด...ป...จั...จ..ย.ั ..เ.ส....ยี่ ..ง...ข..อ...ง...................................................... ...ส...ง...่.า..ง...า..ม.......ค....ล...่อ...ง...แ...ค...ล....่ว......แ...ล...ะ........ ..อ...บุ...ตั...เิ.ห...ต....ุ .อ...นั...เ.น....อ่ื...ง..ม...า..จ...า..ก...ก...า..ร..ใ..ช...้ ..... ....ส...า..ม...า..ร..ถ...ร...กั...ษ...า..ส...ม..ด...ล.ุ ..ข..อ...ง..ร...า่..ง..ก...า..ย......... ร..า่ ..ง...ก...า..ย...เ.ป...น็ ...เ..ว..ล...า..น....า..น............................ ได้ ............................................................... .................................................................. ....................................................... ......................................................... 147

88แบบทดสอบหนว่ ยท่ี 1 คำ�ช้ีแจง ใหน้ กั แเรบียบนทเลดือสกอคบำ�หตนอว่บยททถ่ี ่ีูก1ตอ้ งที่สดุ เพยี งค�ำ ตอบเดียว 1. ข้อใดไม่ใชห่ ลกั 4 พ.ค�ำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเลอื กค�ำตอบท่ถี ูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งค�ำตอบเดยี ว กค.. บพอ่อยใ1จพ. อขกค..้อ ใ ดพบไอ่อมยใใ่จพช ห่อ ลกั 4 พ. ขง.. ขง หเ.ห. น น ัก อ่ื พหเยหอพนอนกั อื่ พยอพอ 2. กสงิ่. ส �ากคาัญร2เทต. ี่สรกขส่งิ..ียดุ สมใ�ำกกคนำำตญัรรกเเนทตตา่สีรรเรียยีอุดมมวใงนกตากิจนงำกเรแอรวงรผำมงนแผแนลและะจจัดัดเเววลำลในากใำนรอกอากรกอำ� ลอังกกำกยค�าือลองัะไกรายคืออะไร ข. กกาารร3เเตต. รรขคง..้อยยีี ใมมดกกเำำกกปรร็นาเเิจตตหรกรรลปยีียรักมมปรอ้ งกฏมบงำิบรปกปตัรนัอ้ิทะมง่ีใกชำณัน้ในกำรวำงแผนและจัดเวลำในกำรออกก�ำลงั กำย ค. ง. การเต รก.ยี มหลงักบ 3ป ตร. ะมาณ ข. หลกั 3 อ. 3. ข้อใ ดเป็น4.ห คกลำ. รักวหปำลงฏกัแ ผบิ4น ตัพแล.ิท ะจ่ีใัดชเว้ใลนำใกนากำรรวอาอกงกแำ� ผลังนกงำแ. ย ลม หคีะลวจักำ ดัม5ส เส�ำวค.ลญั าอใยน่ำงกไรารออกกา� ลงั กาย ก. หลัก 3ก .ต .ช ่วยเตอื นควำมจ�ำ ข. หลกั 3 อ. ค. หลัก 4คข ..พ ชส. ำว่ มยหำรลถีกตเลรวยี่ จงสกอำรบบไดำด้วเ่ำจปบ็ ฏแบิ ลตั ะไิปดญั ้ตหำมำทเปเ่ี ก้ำงหดิ .มข ึน้ำ ยไ หดท้ี่วลำงกั ไว 5้หร ือสไม. ่ 4. การ วางแผ นง. แลขอ้ ะ จข.ดั แเลวะล คา. ใถนูกการออกกา� ลังกายมคี วามสา� คญั อยา่ งไร ผฉูสบอับน ก. ชชว่่วยย5หเ.ต ลนอกอื ีกอ.ัก นกเเรเกลคียป�ำน็นี่ยวลคไังางปิดกมกไวำดำ่ยาจ้ ผเร�าทู้พบี่เรจำาบ็ ะดปกำว่ เรยจอบ็บออ่ กยแกๆล�ำ ลเะปังปกน็ ำไญัปยจไหดะท้หาำ�รทใือหไเี่เ้มรกท่ำิดล่จี ืมะขมคสีน้ึวำำไมเหดเจต้บ็ุหปน่ว่ึงยมำจำกกำรไม่ค่อย ข. ค. สขา้อม ขา ร. คงขถ.แ.. ต ลเเเรปปปะวน็น็็น ไไไจคปปปส.ไไไ มมดอถ้ ไ่่ไเดดบพูก ้ ้ เไรเพพำดระรำก้วำะำะา่กรกำปอำรอรอฏอกออกบิกกำ� กัตกลำ�ังำ� ไิลกลงัดำงั กยก้ตำถำยยาอื ไไเมมมปไ่ ่ม็นเดปผีกม้ ำลอี้ารอทิหสะธรไมพิ้ำรงกลาเบัมสยรรำ่ำิมกทงพสกี่วมอำารจยระงอถทยไภำ�ูแ่วใำลห้หพ้วเ้ ทรรำำือเงจกไบ็ ำมปยว่ท่ ยี่ดไีด้ ง. 5. นออักกเ รกยี �านลค6ัง. ิดก ขขกวา.อ้. า่ยในปดผอวไดนมู้ทศไใ่ มเี่ชีรจษ่ห่สะญับ็ลหับญปรหือำ่วลณเวังยอกียบนันำรตศ่ออรีรอำษยกยะๆอกหนั�ำ ลลเเงั นงัปอกอ่ือำน็งกยมกไำำ�ปจลำไงักกดกำำ้หยรอรออื กไกม�ำลท่ งั กจ่ี ำยะมีสาเหตุหนง่ึ มาจากการไมค่ ่อย ก. เเปปน็็นไไปป งคไไ.. มด อป ้ตั่ไวเรดดพำร ้ก้ำรเำวพราบหระรำเิ กวยาณใาะจหรกแนลอา้ำะอรกอำกอกรรอเกะตหกน้�าวขกล่ำองงัา�องกหลอกวัาังใกจยกำ� แลจารังยงะกแทไำลยมะ�าหเม่ใรรห็วอื ีผขหเ้ณลลรงัะาอออลออะกกไืมกกรค�ำ�ำกลลวังังับากกรำำมยยา่ เงจก็บาปยว่ อยยแู่ ลว้ ข. 1. ตอบ กง ..คง.เใเ. หปห ็นน้ก อ่ืสับเเปปยิ่งตพสนน็็นอ�าเคอไไไงัญปปมใ่ทไไช่ีสมด่หุดล ้ไ่ ใักเดนพ4ก ้ เารพพรา.วระาทงากี่ถแะกูาผตกนรอ้ าแองลรคอะอือจกัดอนกเกวาา�ลนกาลพา� อังโลดกงัยาเกตยารถียยมอื ไรเม่าปงไ่ก็นดายกม้ ใาหอี ร้พทิ สร้อธรมพิ้างแลเลมสะสรารมิก้างพสแรมองรจจรูงะใถทจใภา� นใากหพารเ้ ทอรอาากเงกจก�าบ็ลาังปยกว่ทายยด่ีทไ่ีดี ดี ้ 2. ตอบ 3. ตอบ6.ค . ขมค้อีกอื ใาหดรลกไกั า�มปหฏ่ในิบชดตั ร่สิเะพัญยอ่ืะนเญว�าลมาาาไณใวช้เทใ้ อน่าใันกดาตรสวราามางาแยรผถอนปันแฏลเบิ ะนจตั ดัไิ่อื ดเวง้ตลมาามใาเนปจก้าาหารมกอากอยกทาก่ีวรา�างอลไงัอวกห้ การยือกไใ�ามห่ลต้ นงั กเอางรยูว้ า่ ในการออกก�าลงั กายแต่ละครง้ั 4. ตอบ ง . ขกจถเ..พ นา้ รเนปเรากะาอวิดกมดนเีกาปราศ็นไอรมอครีวกาวษห่งกาแมะา�ลผเลหคนับงั ยแกรหชลาือินยะลจแเเปวลงัดั น็ ะเกียวตวลธนาิดิ าหี รเศใปนนอ็นรีงึ่ กอทนษาช่ีกสิรวะ่ อยัยกหอเสกา� ลรกลมิังา� ังสลอกรังอา้กางกาสยยกมทรดี่า� รีลถกภงั ็ยาก่อพมาทสายง่งกผาลยใหส้ตรนา้ งเอภงมู มคิ ีพมุ้ ฤกตนั ิกโรรครมแกลาะรรอะบอกบกก�าลลา้ ังมกเนาอื้ยใทห่ีเหแ้ ขมง็ าแะรสงม 5. ตอบ ค . 6. ตอบ ก .คกก. าาปรรอนวออดกนกรไ�าม้าล่หวังลกบัาบรยิเมวีสณาเหหตนุมา้าจอากกครวะาหมเวคา่รงียดออสกภกาพา� แลวดงั ลก้อามยหลักรษอื ณหะลทัง่าทอาองขกอกงกา� าลรังนกอนายไม่ใช่เป็นผลมาจาก ง. อตั ราการหายใจและการเตน้ ของหัวใจแรงและเร็วขณะออกก�าลังกาย 148

7. การพักผอนทีด่ ที ่สี ุดคอื อะไร ก. กกาารรนเดอนิ น7เ.หลกคกนลา.. รบัพกกกัาารรผนเอดอนนิ นทเหล่ดี นลที บั ีส่ ุดคืออะไร งข..งข.กก.าารรทดกกูหอ าางนเงัรรทยี่ทดฟวงหูอเพงนลเงงั ทย่ีฟวงเพลง ค. 8. อาการใดทีค่ 8ว. รกอหา.กยาแรตุดใงดเโทมลีค่ วรนสูรหกึกยสฬี ดุดเชาล่นื นหหกลรฬี งั าอืจหาอรกอืเอตอนอกแกกอกโาํํารลบลังกิกังากยทานั ยทีทนั ที ก. แตงโม วริง่ สู คงข.3..กึ สนหแกอ้าํนดฝปโิดู ชนลเี ปมนื่เลวีชมงิ่ ีพหเ3หจตลนรกรเอื่ โิตังลยแนจเผมอตดิายตปไกทูรกมแ่ี เ6ตตต0ริไมสู-นแ1รลึก0ูสแะ0ึกหเอเาหคหยโรนนใง้ัรจอ่ืตบตยือ่อ ิดวิกยขนิ ดัาที ข. น้าํ ฝน หลงั ออกกําลังกาย หแอนปูดเี ปมล9ชี . ีพกขเเพห..จรานเเระพพเเ่อื่ือ่ือหตปกตยานอใุ ดรผงมเอกริดสีนัายขุถกปภูทาึงตรากลพี่อ6ตมืงทมท0่ีดิ กีาี ทา-แรา1ทงลตด0าสะ0งอหๆบาสคมยรรใรั้งถจตภตาอ พดิ วทขินางดั ากาทยอี ยหูเสลมองั ออกกาํ ลงั กาย ค. ง. 9. เพราะเหตุใดเรงค.า. ถเเพพงึ ื่ออื่ตใไชมอเใวหงลมมาเีววกีาลงาาใวหราเ งปทมน าดปกรสเะกโอินยไชบปนส มรรถภาพทางกายอยเู สมอ ก. เพ่ือกา1ร0ม. กีสาุขรงภอแาขนพหทอยด่ี ตวัี เปน การทดสอบสมรรถภาพทางกายตามองคป ระกอบใด ข. เพอ่ื ปองกคกนั .. กคคาววาารมมลเอรอมืว็ นทตัวา ทางตางๆ ข. การทรงตัว ง. ความทนทานของกลา มเนือ้ ค. เเพพือ่ื่อใไชม1เใ1วห.ลมขขกา.อ.ีเวใวดชชาไววลมงยยใาใใใชหหวหป มดารนูีบเะงปาุคโยหลมนชลกิ นางภปใขากหอพรลเงทะกกด่ีโาินีรยสไชราปนงเส รมิ สมรรถภาพทางกาย ง. ผฉสู บอบั น 10. การงอแขนหอ คงย.. ตททวัําําใใเหหปรมาีสนงขุ กกภาายาพเรจดรทีญิ ปดเรตาสิบศโจอตาอกบยโราสคงแมภขัยรง็ไแขรรเถจงบ็ไภดส าดั พสว ทน างกายตามองคป ระกอบใด ก. ความเ1ร2ว็ . ในการสรางสมรรถภาพทางกายทด่ี ี จะตอ งปขฏ.ิบตั ิตกนอายรา งทไรรงตัว ค. ความออ นขกต.. วั พรับักปผรอ ะนทใาหนเเพนียอื้ งสพตั อวมากๆ ง. ความทนทานของกลามเนือ้ 11. กข.อ ใดชไวมยใใชหป1ด3ร.ูนะกคงา.โา.รยหพรอชลับฒัอปกนงนรกาใขะาํตหทลนอางั ลเนกองาผงกยกัจเาํผาปเลปนรไนปมสตรมระอาจงากาํอๆทงาุกศเวสยั นัหรลมิกั กสารมใดรรถภาพทางกาย 7. ตอบ ค. คขงอเ...ปยน า งกทชทนารวอําําพยยใใกัหห8ใผ-หมรอ 1น0ามีสทงชีบุขดี่ว่ักกคโทีภุค..ามสี่ งลายหหดุ พกิลเลเจักกันภดร43อื่ าี ิญงพตปพจ..าเรทกตารดี่บิ ศา งีโจกตาายอกไยดโผรา อ คงนแภคขลยั าง็ไยแขจขงา.ร.เกจงคหหบ็ไวลลาดกักั มสเ53หัดนสอ..สอื่ ยวลนา ซงึ่ ปกตแิ ลว ในแตล ะวนั ควรไดร บั การพกั ผอ น 8. ตตออ1บบ2.กค.. ในกเพากรราทาะดเรมสสอื่ อรรบาางสกงมาสรยรมสถูญรภเราสพถยี ทเภหางงากอ่ื พใานยทจปะารชิมงวายกณใาหมยเารกทาไแด่ีดลทะี รมจาอี ะบากตถาึงอรรเงะหดปนับือ่ฏคยวหบิ าอมตั บสิตาหมนาายรอใถจยเผพาดิ ่ืองปนกไํารตไปิ อสาูกจากรอ พใหัฒเ นกดิาตอนากเอารงอชกัยาไดงต อเนื่อง 9. 10. ตอบ ง. ขกอกค..ันลวามุเมปเพรทดนับนยีทกั วทปมี่ กผาาันรนขออเะขปนงอทนสงใราุขกหภะลนยาเา ะพเพมเนวกเนลียาือ้ ยาอื้ งนทสพเาี่ดปัตนนีอวคๆมณุ าสกมบๆตั ทิ บี่ คุ คลสามารถเพยี รพยายามทาํ งานในกจิ กรรมทจ่ี าํ เปน ตอ งใชก ลมุ กลา มเนอ้ื 11. ตอบ ก. คแป.ตรสะโาํรยหชับรนบัปข บอรางะงกคทารนาสนนรัน้ าผองาเกัสจรเผปมิ ลนสเไมหมรตรุผมถลภาหากนพ่งึทๆางเนกอื่ายงจชากวยกใาหรม อบี อุคกลกิกําลภังาพกาดยี จสะงชาว งยาใมหมไีรมปู ใรชาเหงตดผุี ลในการชว ยใหด ูนาหลงใหล 12. ตอบ ง. กงทกห.าาล่ีดรรกัีดพออวอ3ยัฒกอตหกก.นลาํ เลกักปางักนําตกาลหารนยลองั เเกัอปกอขกน าอกงปงยําจรกลเะําาังปจรเกาํพปนทาฒัยกุนปทนวเ่ีตนัราหตะอมจนจาะงะเชาํอสอว งทมยาใปุกคศหรอืกวัยะคลกันหวาอรมบลอเนดอักอื้วกกยมกคี าําเตวลราม็ังมใใกแดจาขยง็เตอแรยรียางงมทนตนอนทยาแสนลัปะแดเลตาะหม็ ยลคงั ะวสา3งมผสคลารใม้งัหามรคสีถรขุ้ังภลาะพ3ก0ายนแาลทะีสขุ ภาพจติ 13. ตอ1บ3.ก. ก. หลกั 3 ต. ข. หลัก 3 อ. ค. หลัก 4 พ. ง. หลัก 5 ส. 149

14. แบบทดสอบในข้อใดท่ีสว่ นใหญ่นยิ มใชใ้ นโรงเรยี น ก. แบบ ทด1ส4.อ กแบบ. บขแทอบดบสงทอกดบสใอนอขบงอ้ขอใอดงอทกีส่กอ่วงนกอใอหา� กญลกน่�ำงัลิยงัมกกใำาชย้ใยนเพโเรอื่ พงสเขุร่อืยีภนำสพขุ ภาพ ข. แบบ ทดสอ คขบ.. สแแมบบบบรททรดดสสถออภบบสสามมพรรรรถถทภภำำาพพงททกำำงงากกำำยยยแอแยบบำ่บง งSบ่ำAย TขSSอTงAกำTรกSฬี Tำแหง่ ประเทศไทย ค. แแบบบบ ทท ดด1สส5.ออ กงสบบ.ม. รสสรเแลถมมบน่ภบกรรำทีฬพรรดำทสถถไำอดงภภบ้เกกสำง่าามย หพรพรมถททำภยำาาถพงึ งงทขกกอ้ำงใดาากำยยยทอทสี่ ยัม่ีสพา่ัมนั งธพงก์ ับา่นั สยขุธภขก์ ำพอบั สง�ำสหกุขราับภเรดาก็กไพทฬี ยสาอำ�าแยห ุห7-ร1่ง8ับป ปเรี ดะ็กเทไทศยไทอยาย ุ 7-18 ปี ง. 15. สมรรถภา พทา งขคก.. ารมำ่ยคี เวรหำงิ ม แมแจขม่า็งใแยสรถงขึงองขรำ่ ้องกใำดย ก. เรล่า่นเรก งิ ฬี แา1จไ6.ด่ม งขก้เใ..้อ ก สใ ดวมง่ ไัดีกม คล่ใวำ้ชำม่จมเดุ แนปขื้อรง็มะแำสรกงงคแขล์ขอะองยงรกกำ่ ขำงรกอทำงยหดสนอกั บๆส ไมดร้ รถภำพทำงกำย ข. ค. มีควา มแข ง็ คขแ.. รเเพพง่อือื่ ขเทสรรอำมิ บงสสรรม้ำดา่งคุลงวขำกอมงาแร่ำขยงง็ กแ ำรยง ง. มกี ล ้ามเ1น7. ือ้ สง.มม รเารพถกื่อภปำแรพบัลทปำะรงงุกยขำ้อกยบดขกำ้ นพอใรดอ่งมงหปีขอรนะงโรยกัำ่ ชงนกๆำ์ต ยอ่ ไชดวี ิต้ประจำ� วันมำกทีส่ ุด 16. ขก.อ้ ใ ดวไดั มค่ใว ชา่จมดุ1แ8ป. ขกกครง็ำ.. ะรแ บคคสีบรววงำำมงมมคือขอคซดข์ล้ำออ่ทยองนหงต รงรวัอื กมา่ อืางขรกวำทา ยดเป็นสกอำรบทดสสอมขง.บ. รสคคมรววรถำำรมมถภอสภม่อำาพนดพตลุดหัวำ้ นทรือใดากำงรทกรางตยวั ข. เพ่อื ท ราบ สคกม.. ดคคววุลำำมมขอแดขอทง็ งแนรร ง ่างกาย ข. ควำมออ่ นตวั ง. ควำมทนทำน ผฉสู บอบั น งค.. เเพพื่ออ่ื ปเ สรรบั ิม1ป9ส. ร รขกขงุ .้อ.า้ ขใ ดงเเพพอ้กคื่อ่อืลบก่ำปววำรกาไรับมมมปพ่ถสี รูกมแุงรตแร่อขอ้รลถงะงง็เภสกรำขแย่ีำ้พวงอรทกเสำงับงรงกมิกรำำสร่ายมททงรดี่ดรกสถี อภาบำยสพมทรำรงถกภำำยพทำงกำยด้วยตนเอง 17. สมรรถภา พทา งงค.ก. าเเพพย่อือ่ื ตดจรดั วา้ลจำ�นสดอบัใบทดคส่ี วมมำรมีปรสถมรภบำะรูพโณทย์แำลงชกะคำนวยำขต์ มอสอ่งำนชมักำเวีรรยีถติ นในปกำรรเะคจลอ่ื า� นวไหันวรม่ำงากำกยทส่ี ดุ กค.. คคววาามม อคดล2อ่ท0. งน กคกตำ.. ร วัทพกี่ค ำรนรสฝเวรกึรำฝรจคนะ ์ม สี มรรถภำพทำงกำยดีได้นขงน้ั.. งขปมมัจ..ีตีค จ วน้ยั ำแใมดคคบพสบวว�ำรคอ้ าาัญมมมท่สี สอดุ มอ่ นดตุลหัว รือการทรงตัว ตอ1บ8.ง . กกแเา.น ลรอ่ื ะบงพคจัฒีบวากนามเามปอืเพน็ อซอื่แดบใ้าหบทย้เทหนหดมาส ระอสอื บมมทกนี่ือับกัคขเนรวยีไาทนย สม าามเกปารย็นถง่ิ ขปกนึ้ฏาบิ รตั ไิทดงด้ า่ สย อขไมบ.ต่ อ้สงคมมอีวรปุ ารกมถรณอภใ์ ่อานพกนาตดรทวัา้ ดนสใอดบมากนกั 14. โดยไดม้ กี ารปรบั เปลยี่ น 15. ตอบ ค .คเค.ช อืน่ คคกวาวามราแงขมอง็ ศแแอรขกงขยง็ อกแงนกรา�้ ลหง้าน มักเนสอ้ื งู สหุดมไาดย้ ถ10งึ กคโิ วลากมรสมั ามเพารยี ถงสคูงรงสง้ั .เดุ ดใียนวคกแาวตราส่คมรร้ัง้าทงตแอ่นรไงทปขไอามงส่นกาลม้าามรเถนยอ้ืกในน�า้กหานรักทไา� ดงาอ้ นกี เแพลยี ้วงคเปร็นั้งตเด้นียว 16. ตตออ1บบ9.กก .. ขกเใค.้อนห วใ่ือ ้ดาดมงเีขพจอึน้กดากือ่ลทเนก่าราหวาจรไระอืตมมค้อถ่วสีงาปูกมมรทตระนเ้อรมทินถงาสนเภุขกขภาอยี่างพพกวททลกาา้ างมับรเงนก่ากงอื้ ากาครายยอืททขคอดดี่งณุ สเีรสอามกบบ่อตัสนทิ เมปบ่ี ็นรคุ ลคร�าลถดสภับาแมาราพรกถทเเพพายี ่ืองรหพกายจาาุดยยบาดมกท้วพา�รยง่อาตงนนใแนเลกอ้วจิ นงก�ารมรามปทรต่ีับอ้ปงรใุงชแก้ กล้ไมุ่ข 17. 18. ตอบ ค .ขกห. ลม าา้ เยมพถเนึงื่อือ้ กปคลวรุ่มาบัมเดสปยี าวมรกางุนัรแถเปใลน็นะรกะสายรระใเ้าชว้แลงราเงนสสารนูงสมิ ๆุดสใเชนม่นกราดรรึงทถข�า้อภงาาดนพันเพพทียน้ื งาคงลรกกุ้ังเนาด่งัยียวเปน็ซึ่งตมน้ ีอยู่ 2 ลักษณะ คือ ความแข็งแรงแบบ ค .คง.ปอก. ยญัา รู่กหเเจับพาพดั ททลือ่่ีือ่าแา�งตดลจสบัะรัดมคสรวลวมราจรถา�มสรภแดถขาอับ็งพภบแาททรพาคงงท่ีสแวกาบมงาาบยกรมทไารมยเ่ีสก่อถจมยิดภะู่กขเบนึ้ปับาน็รูทพเพขี่ณน้ัทอ่ื ตน์แาอา� ลงมนากะใสนคา่กู กวยาาราขรแแมกอกไ้สไ้งขขาปนปญัมรักบัหาเปารรตรยีถ่องุ ไสนใปมนรกรถาภราเพคทลางอ่ื กนายไเหชน่ วจรดั่าลงา� กดบัาคยวามสา� คญั ของ 19. ตอบ 20. ตอ2บ0.ค . กากสามรรรทฝรกึถ่คี ฝภนนาพรเรท่างาากงจกายะาอยมยด่าีสขี ง้ึนมสมร่า� รเสถมภอ าโดพยทปฏาบิ งตั กิกาิจกยรดรไีมนดนั้น้ ซน้ั �า้ ๆ ปจนจั เกจิดัยเปใดน็ คสว�าามคเคัญยชทินี่สแดุ ละติดจนเปน็ นสิ ัยจะสง่ ผลให้มี ก. พรสวรรค์ ข. มีตน้ แบบ ค. การฝึกฝน ง. มคี วามพรอ้ ม 150

9หนว่ ยท่ี พฤติกรรมเสี่ยง ตอ่ สขุ ภาพและ ความรุนแรง การด�าเนินชวี ิตอย่างปกตสิ ุขของคนเรา อาจเกดิ ปญั หาข้ึนได้ ถ้าหากบคุ คล ผฉูสบอับน มีปัจจัยเส่ียงหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพต่างๆ ซ่ึงมีผลกระทบทั้งต่อตัวบุคคล ผมู้ พี ฤตกิ รรมเสย่ี ง รวมถงึ ครอบครวั ชมุ ชน และสงั คมดว้ ย การศกึ ษาทา� ความเขา้ ใจ หลกี เลยี่ งปจั จยั เสยี่ งและพฤตกิ รรมเสยี่ งต่างๆ โดยรู้จกั หลกี เลย่ี งการใช้ความรนุ แรง ในการแก้ปัญหา ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสื่อท่ีจะน�าไปสู่การท�าให้เกิดความรุนแรง รวมท้ังตระหนักถึงผลกระทบของเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ที่มีต่อสุขภาพและการเกิด อบุ ัตเิ หตุ จะทา� ให้ชวี ิตด�าเนนิ ไปอย่างมคี วามสขุ และปลอดภัย ตวั ชวี้ ัดชนั้ ปี KEY QUESTION ม••••า ต วหววริเเิเิลฐคคคีการรรนเาาาละะะ่ียพหหหง์ปค์อ์ ก5วิทัจา.า1จรธมใยัิพช(สเมลค้สมั .ขวย่ี3พอาง/1ันมงแ,สธลรอื่3นุ์ขะ/อตพแ2งร่อฤ,กงพต3ฯาิกฤ/ร3รตด,ริกมื่ 3มรเ/เคร4สมร)ยี่ ือ่สงงุขทดภีม่ ่มืาผี ทพล่มีแตลแี ่อะอสคลุขวกภาอามฮพรอุนฯล แฯ์ ร ง 1. ปัจจัยเสี่ยงและพฤตกิ รรมเสี่ยงน้ัน ส•••••• า รปคอแปวะิธนวทิัจัญกหีาจวธหมาลทัยพิ าสรกีเาลแสมัเเงขลรลยี่กพอ่ยีะยีงานั งแผงรนสธกลปลรข์ื่อาะกอ้ อู้แรตพรงใงกอ่ะกฤชกทนพันค้ตาบวกิคฤรกดาจรตวลมรมาื่ากิ ามกมรเรคงุนเกรเสสรมาแ่ียอื่ีย่รรสงงใงงขุชตดตภค้อ่ม่ื่อาวสทสพาุขม่ีุขมแภภแี ลราอาุนะพพลคแกรวองาฮมอรนุลต์แรอ่ งสฯขุ ภาพและการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ มีผลตอ่ สขุ ภาพอยา่ งไร 2. นกั เรยี นมแี นวทางเสนอแนะอยา่ งไร 151 ในการปอ้ งกนั ความเสย่ี งที่สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพ Teacher’s Guide ประเด็นท่จี ะศึกษาในหนว ยน้ี ไดแ ก 1. ปจจยั เส่ียง พฤติกรรมเส่ยี ง และแนวทางการปอ งกัน ความเสีย่ งตอสุขภาพ 2. เคร่ืองดืม่ แอลกอฮอลตอ สขุ ภาพและอบุ ัติเหตุ 3. ความรนุ แรง 4. อิทธิพลของสอ่ื ตอพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง ทกั ษะการคดิ ทส่ี มั พนั ธก บั ตวั ชว้ี ดั ในหนว ยน้ี ไดแ ก ● ทักษะการวิเคราะห ● ทกั ษะการประยกุ ตใชค วามรู

มฐ. พ 5.1 Teacher’s Guide ตวั ชว้ี ัด ม. 3/1,2,3,4 ใหนักเรียนแบงกลมุ กลมุ ละ 5-6 คน ศึกษาเร่ืองปจ จัยเส่ยี ง พฤตกิ รรมเสยี่ ง และ แนวทางการปองกนั ความเสย่ี งตอ สุขภาพ แลวสรุปสาระสําคัญ จากนนั้ ใหน ักเรียนยกตัวอยาง พฤติกรรมเสี่ยงตอ สขุ ภาพ โดยมคี รชู ว ยเสนอแนะเพม่ิ เตมิ 1. ปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง และแนวทาง ลบั สมอง การปอ้ งกนั ความเสยี่ งตอ่ สุขภาพ ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเส่ียงต่อ ในการด�าเนินชีวิตประจ�าวัน เราจ�าเป็นต้องเผชิญกับ สขุ ภาพมอี ะไรบ้าง พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพหลายอยา่ ง โดยอาจมตี ง้ั แตพ่ ฤตกิ รรม IT คนหาขอมูลเพิ่มเติม ที่เสี่ยงเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงการมีพฤติกรรมเสี่ยงท่ีอาจก่อให้ เก่ียวกับพฤติกรรมการ เกิดอันตรายถึงชีวิต ดังน้ันจึงจ�าเป็นต้องมีแนวทางการป้องกัน รับประทานอาหารเพ่ือ ความเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ เพ่อื ประโยชน์สุขในการดา� รงชวี ติ สุขภาพ จากบทความ “กินเพ่ือสุขภาพดีอยาง 1.1 พฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ ยงั่ ยนื ” ไดท ี่ www.your- พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ หมายถึง พฤติกรรมหรือ healthyguide.com การกระทา� ของบคุ คลทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพตนเอง ครอบครวั สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม ซงึ่ ในทน่ี ขี้ อยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมเสย่ี งท่ี ผฉูส บอับน พบเหน็ ไดบ้ ่อย ดงั นี้ 1) พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ถือเป็นปัจจัยส�าคัญ เดก็ ควรรู ทมี่ ผี ลตอ่ สขุ ภาพ ซง่ึ หากมพี ฤตกิ รรมในการรบั ประทานอาหารทดี่ ี จ ะ ทํ า ใ ห  เ กิ ด คอื รบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชน์ไดส้ ดั สว่ นตามทรี่ า่ งกายตอ้ งการ โรคพยาธิใบไมในตับ ย่อมส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งระยะแรกมักจะไมมี ในขณะเดียวกัน หากบุคคลมีพฤติกรรมการรับประทานอาหาร อาการ แตเมื่อมีพยาธิ ท่ีเส่ียงต่อสุขภาพ เช่น การรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ การ สะสมมากขึ้น จะทําให รับประทานอาหารจ�าพวกหมักดอง การรับประทานอาหารท่ีมี ทองอืด แนนทอง เจ็บ สารปนเปอ้ื น การรบั ประทานอาหารฟาสตฟ์ ดู้ เปน็ ประจา� เปน็ ตน้ บริเวณชายโครงขวา จะสง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ โดยกอ่ ใหเ้ กดิ ความผดิ ปกตขิ องรา่ งกาย ถาปลอยเอาไวนานๆ ทา� ใหเ้ กิดโรคภยั ไขเ้ จ็บตา่ งๆ ได้ง่าย เช่น โรคความดันโลหิตสูง จะมีอาการอักเสบของ โรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลอื ดสูง โรคพยาธติ ่างๆ เป็นตน้ ทอน้ําดี ดีซาน ตับโต นอกจากนกี้ ารรบั ประทานอาหารจบุ จบิ มากไปหรอื นอ้ ยไป มไี ข ผทู ปี่ ว ยระยะสดุ ทา ย ก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้นควรปรับเปล่ียน จะผอมซดี บวม บางราย พฤติกรรมในการรับประทานอาหารเพื่อการมีสุขภาพที่ดี เปนตับแข็ง เปนมะเร็ง ดังค�ากล่าวท่ีได้กล่าวว่า “คุณจะเป็นเหมือนที่คุณกิน (You are ทอนํ้าดีในตับ และอาจ what you eat)” ซ่ึงเราจะมีสุขภาพดีได้ การรบั ประทานอาหาร เสยี ชวี ิตได นับไดว้ า่ เปน็ ปัจจยั ส�าคัญอันดับแรกๆ ซง่ึ เราจ�าเปน็ ต้องมีความรู้ การรับประทานอาหารจ�าพวกฟาสต์ฟู้ด เด็กควรรู เป็นประจ�า ถือเป็นพฤติกรรมเส่ียงต่อ เพื่อเสริมสรา้ งสขุ ภาพทีด่ ี และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจบ็ สขุ ภาพ ซ่งึ ทา� ใหเ้ กิดภาวะอ้วนได้ง่าย ในอาหารมีมากมายหลายชนดิ ท่คี วรระวงั มากเปน พเิ ศษ ไดแก โลหะในอาหารสําเร็จรูปและภาชนะบรรจุอาหาร เชน ตะกั่ว สารหนู ปรอท ดีบกุ แคดเมยี ม ฯลฯ สารตกคางจากเคมกี ําจัดศตั รพู ชื สารตกคางจากอุตสาหกรรมการผลิต ไดแก โลหะเปนพษิ เชน แมงกานสี ตะก่วั ปรอท ฯลฯ สารพษิ จากเช้ือรา จุลนิ ทรีย และสิง่ แปลกปลอมอืน่ ๆ 152

นกั เรยี นมแี นวทางอยา งไรในการปอ งกนั ความเสยี่ งทสี่ ง ผลตอ สขุ ภาพ 2) พฤติกรรมการติดสารเสพติด นับเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพสังคม และเป็น ปัญหาส�าคัญของประเทศ เพราะสารเสพติดนั้นเป็นบ่อเกิดของ ปัญหาอื่นๆ หลายด้าน นับต้ังแต่ตัวผู้เสพเอง ซ่ึงจะก่อให้เกิด ปัญหาต่างๆ ท่ีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกายและใจ เช่น เด็กควรรู เปน็ โรคตบั แขง็ จากการดมื่ สรุ า โรคถงุ ลมโปง่ พองจากการสบู บหุ ร่ี หรือยากระตุน เกดิ อบุ ัตเิ หตจุ ากการเมาแลว้ ขับ เปน็ ต้น และเมือ่ หาเงินมาซ้อื เปน ยาที่ ใชเ พอื่ เพม่ิ ระดบั สารเสพติดไม่ได้ก็อาจจะไปประกอบอาชญากรรม โดยสร้าง ความต่ืนตัวหรือการรับรู ความเดอื ดร้อนให้แกพ่ ่อแม่ พี่น้อง และสงั คม ซ่ึงตอ้ งสญู เสีย ช่ัวคราว มักทําใหเกิด เงินทอง เสียเวลาท�ามาหากิน รวมถึงประเทศชาติต้องสูญเสีย สารเสพติดเป็นบ่อเกิดของปัญหาต่างๆ อาการไมพ งึ ประสงคจ าก แรงงานและสูญเสียเงินงบประมาณในการปราบปรามและรักษา ซง่ึ ไมเ่ พยี งแตก่ ระทบตอ่ ตวั ของผเู้ สพเอง การออกฤทธิ์มากเกินไป ผู้ติดสารเสพติด โดยในปัจจุบันมีผู้ติดสารเสพติดจ�านวนมาก ยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัว จึงมักเปน ยาผดิ กฎหมาย ทงั้ น้ยี ังไมร่ วมถงึ จา� นวนผู้ติดบหุ ร่ ี สุรา สารกระต้นุ หรอื สารทีก่ ด สงั คม และประเทศชาตดิ ว้ ย หรอื ตอ งอยภู ายใตก ารสง่ั ของแพทย ระบบประสาทท่ผี สมอยู่ในเครอ่ื งด่ืมตา่ งๆ 3) พฤติกรรมเส่ียงทางเพศ เป็นสาเหตุส�าคัญท่ีท�าให้เกิด ผฉสู บอับน โรคติดต่อที่ส�าคัญต่างๆ ได้แก่ โรคเอดส์ กามโรค โรคซิฟิลิส IT เดก็ ควรรู โรคหนองใน ซงึ่ เกดิ จากการทบ่ี คุ คลไปมพี ฤตกิ รรมทเ่ี สยี่ ง เชน่ มี ทาํ ใหเ มด็ เลอื ดแดง เพศสมั พนั ธ์โดยไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั สา� สอ่ นทางเพศ มเี พศสมั พนั ธ์ แตกงาย ในทารกพบวา กบั บุคคลที่มีพฤตกิ รรมเส่ียง เปน็ ต้น มีอาการดีซานยาวนาน ผิดปกติ สวนในผูใหญ 1.2 ปจั จัยเสีย่ งตอ่ สุขภาพ ภาวะพร่องเอนไซม์ จี-6-พีดี เป็น จะมีอาการไขสูง หนาว โรคทางพนั ธกุ รรม ซึ่งจะมีอาการ ส่ัน ซีดเหลือง ออ นเพลยี ปัจจัยเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ เปน็ สถานการณ์ การกระทา� หรือ เกดิ ขึน้ ทันทีหลังเป็นโรคติดเช้อื ปสสาวะสีคลายนํ้าปลา ส่ิงแวดล้อมท่ีมีผลท�าให้ประชาชนมีโอกาสเส่ียงต่อการเป็นโรค หรือหลังไดร้ บั ยาท่ีแสลง หรือ ซ่ึงอาการมักจะเกิดข้ึน ซึ่งปัจจัยเส่ียงต่อสุขภาพน้ันมีมากมาย แต่ในที่นี้จะขอน�าเสนอ ทันทีหลังเปนโรคติดเชื้อ เพียงบางส่วนท่ีนับว่าเป็นปัจจัยส�าคัญต่อการด�าเนินชีวิตของ หลังรับประทานถ่ัวปากอา้ หรือหลังไดรับยาที่แสลง คนเราอยา่ งมาก ดงั นี้ ตอ โรค หรอื กนิ ถว่ั ปากอา IT อาจมอี าการเปน ๆ หายๆ 1) พันธุกรรม เป็นลักษณะของความผิดปกติท่ีได้รับ ไดบอย ถารุนแรงจะมี การถ่ายทอดจากยีน ซึ่งลักษณะของความผิดปกติบางอย่าง ภาวะไตวายแทรกซอน อาจไมก่ ระทบตอ่ สขุ ภาพนกั แตบ่ างอยา่ งกท็ า� ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ รวมดว ย สขุ ภาพโดยตรง เช่น โรคธาลัสซเี มยี โรคเบาหวาน ภาวะพร่อง เอนไซม์ จี-6-พีดี เป็นตน้ 153

เดก็ ควรรู (Global Warming) หมายถงึ การเปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศทเ่ี กิดจากการกระทาํ ของมนษุ ย ทีท่ ําให อุณหภมู ิเฉลยี่ ของโลกเพ่มิ สูงข้นึ กิจกรรมของมนุษยท ีท่ ําใหเ กดิ ภาวะโลกรอ น คือ กจิ กรรมท่ที ําใหป รมิ าณ กา ซเรอื นกระจกในบรรยากาศเพ่มิ มากขึ้น เชน การเผาไหมเ ชอื้ เพลิง การตดั ไมท าํ ลายปา เปนตน จากปญหาทาง 2) สงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ สิ่งที่อยรู่ อบตวั เรา ซ่งึ มอี ิทธพิ ลตอ่ เศรษฐกิจ หากรายได การดา� เนนิ ชวี ติ เปน็ อยา่ งมาก โดยจะมที งั้ สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพ นอย ไมมีเงินที่จะซ้ือ เช่น ภาวะโลกร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีผลกระทบต่อสุขภาพ อาหารจําพวกเนื้อสัตว เปน็ ต้น และสิง่ แวดลอ้ มทางชวี ภาพ เชน่ การขาดความอบอ่นุ นกั เรยี นคดิ วา ควรบรโิ ภค ในครอบครัว การอยู่อาศัยในชุมชนแออัดท่ีมีปัญหาสารเสพติด ส่งิ ใดทดแทน และอาชญากรรม เปน็ ตน้ 3) เศรษฐกิจ เป็นปัจจัยเส่ียงท่ีส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้เช่นกัน อันเนื่องมาจากการมีรายได้น้อย จึงมีเงินมาใช้จ่าย ไม่พอเพียงกับการบริโภค หรือได้รับอาหารท่ีมีคุณภาพต่�า ขาดแคลนเคร่ืองนุ่งห่ม ท่ีอยู่คับแคบ หรือไม่สามารถจะเข้ารับ บรกิ ารสาธารณสขุ ได ้ บางคนอาจใชว้ ธิ หี ารายไดจ้ ากการประกอบ อาชญากรรม หรือขายบรกิ ารทางเพศ ซึ่งยังสง่ ผลถงึ การได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาในระดับสูงอีกด้วย ผฉสู บอบั น แผนผงั แสดง ความจน เดก็ ควรรู ปัจจัยเสยี่ งต่อสุขภาพ หรอื Junk Food ทางเศรษฐกจิ หมายถึง อาหารท่ีให ประโยชนท างโภชนาการ ความรวย ขาดแคลนเงนิ ในการดา� เนินชีวิต นอ ย และถา กนิ มากหรือ ● ความกดดัน กินประจําจะเปนโทษ มเี งนิ มากในการดา� เนินชวี ติ ● ความเครยี ด ตอรางกาย สวนใหญ ● ความกดดนั จะประกอบดวย น้ําตาล ● ความเครยี ด ก่อให้เกิด อาหารการกนิ เท่าที่มี ไขมัน และแปง แตจะมี ผลกระทบต่อสุขภาพ ในชีวติ ประจา� วนั สวนประกอบที่เปนของ อาหารการกนิ อดุ มสมบรู ณ์ โปรตีน วิตามิน และ ● รบั ประทานเกินความต้องการ ● ไมม่ ีเงินมากพอจะซ้อื อาหาร เกลือแรนอยมาก เชน มารบั ประทานในบางวัน ลูกอม อาหารจานดวน ของร่างกาย ขนมขบเคี้ยว น้ําอัดลม ● อาหารขยะ ● รับประทานอาหารค้างวนั บะหม่ซี อง เปนตน ● ขาดความสมดุล ● ขาดความสมดุล ในการรบั ประทาน ในการรบั ประทาน ● โรคความดนั โลหิตสูง ● โรคเครยี ดสะสม ● โรคเบาหวาน ● โรคเกย่ี วกับระบบทางเดนิ อาหาร ● โรคทพุ โภชนาการ ● ฆา่ ตัวตาย ● โรคพษิ สุราเรือ้ รงั ● ปัญหาสขุ ภาพจติ ● โรคหวั ใจและหลอดเลือด ฯลฯ เด็กควรรู ผทู ี่เปนโรคน้ีจะมลี กั ษณะ ดงั นี้ ● ตอ งการด่มื สุราตลอดเวลา และดมื่ ปรมิ าณมากข้นึ เร่อื ยๆ จนไมส ามารถควบคุมได ● เมื่อหยุดจะมอี าการลงแดง เชน คล่นื ไส เหง่อื ออก มือสัน่ เปนตน ● ตอ งเพิม่ ปริมาณการด่ืมสรุ ามากข้นึ เพ่ือใหม ีความสุข 154

Teacher’s Guide ใหน ักเรียนรว มกนั อภปิ รายเร่ืองแนวทางปองกนั และแกไขความเสี่ยงตอ สุขภาพ ใน ประเดน็ ดงั น้ี ● สิง่ สาํ คัญท่สี ุดในการปองกันและแกไขความเสี่ยงตอสุขภาพ คืออะไร ● ทักษะชีวิตดา นใดท่มี สี ว นชว ยในการปองกนั และแกไขความเสยี่ งตอ สขุ ภาพ 1.3 แนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขความเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ IT เดก็ ควรรู (life Skill) เปน แนวทางการป้องกันและแก้ไขความเสี่ยงต่อสุขภาพมี คุณลักษณะหรือความ หลายแนวทาง ขึ้นอยู่กับปัจจัยเส่ียงและพฤติกรรมเสี่ยงนั้นๆ สามารถทางสติปญญา ซ่งึ หลกั ปฏิบัตโิ ดยทั่วไป บุคคลควรมแี นวคดิ ดงั น้ี ของแตละบุคคลที่พึงมี 1. ตระหนักถึงคุณค่าของการมีสุขภาพดี โดยควรมี และสามารถจะนํามาใช พฤติกรรมสุขภาพท่ีเอ้ือต่อการมีสุขภาพดี และพยายามหม่ัน ในยามท่ีตองเผชิญกับ ศกึ ษาหาความรเู้ ก่ยี วกับสุขภาพอยเู่ สมอ สถานการณ ท่เี กิดขนึ้ ใน 2. มที กั ษะชวี ติ จดั การกบั ปจั จยั เสย่ี งและพฤตกิ รรมเสย่ี ง ชีวิตประจําวันไดอยางมี ต่อสุขภาพต่างๆ โดยใช้ประสบการณ์ในการด�าเนินชีวิตให้เกิด ประสิทธิภาพย่ิงข้ึน ซ่ึง ประโยชน ์ คดิ วเิ คราะหอ์ ยเู่ สมอวา่ สงิ่ ใดควรทา� ตอ่ การมสี ขุ ภาพที่ดี ทักษะชีวิตจะพัฒนาขึ้น และสิ่งใดก่อให้เกิดความเส่ียงต่อสุขภาพ ทั้งน้ีเพื่อหลีกเลี่ยง ดวยการเรียนรู ฝกฝน ปัจจัยเส่ียงและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพได้เป็นอย่างดีและมี หรือปฏบิ ตั ิซํ้าๆ จนกอ ให ชีวิตอยู่ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ เกดิ ความคลอ งแคลว และ 3. มที กั ษะการปฏเิ สธทด่ี ี หรอื ทเ่ี รยี กเปน็ ภาษาองั กฤษวา่ เคยชนิ “Just Say No” ซึ่งเป็นทักษะส�าคัญในการเอาตัวรอด หรือ หลีกเลี่ยงต่อปัจจัยเส่ียงและพฤติกรรมเส่ียงท่ีส่งผลกระทบต่อ ผฉสู บอบั น สุขภาพของตนเอง เช่น การปฏิเสธไม่อยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ต่อการมีเพศสัมพันธ์ การหลีกเล่ียงเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ เด็กควรรู ในงานร่นื เริงต่างๆ เป็นต้น เปนสารเสพติด ชนิดหน่ึง เกิดจากการ การมที กั ษะในการปฏเิ สธทด่ี ี เปน็ ทกั ษะทช่ี ว่ ยหลกี เลย่ี งตอ่ ปจั จยั เสย่ี งและพฤตกิ รรมเสยี่ งทส่ี ง่ ผลกระทIบTตอ่ สขุ ภาพของตนเองได้ หมักผัก ผลไม เมล็ดพืช ชนิดตางๆ มีผลรายแรง ตอรางกาย สมอง และ ระบบประสาท เชน ทาํ ให เปนตับอักเสบ ตับแข็ง กระเพาะอาหารอักเสบ มะเร็งทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูง เส่ือม สมรรถภาพทางเพศ ค ว า ม จํ า เ สื่ อ ม ก า ร ทรงตัวไมดี เลือดออก ในสมอง ปลายประสาท พิการ ทําใหชาตามมือ ตามเทา เปน ตน 155

เมอ่ื เพอื่ นชกั ชวนใหสูบบุหร่ี นกั เรียนจะทาํ อยางไร IT คนหาขอมูลเก่ียวกับ กรณีศึกษา ประกาศกระทรวง สาธารณสุข ตามพระ- รณรงคล์ ดการสบู บุหร่ีและดืม่ สุรา ร า ช บั ญ ญั ติ คุ  ม ค ร อ ง สุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่และการดื่มสุรานั้นถือเป็นพฤติกรรมเส่ียง ที่ พ.ศ. 2535 ไดจ าก www. ส่งผลกระทบตอ่ สุขภาพของบคุ คลโดยตรง รวมท้ังบคุ คลรอบขา้ ง ronghosp.org ตลอดจนชุมชน สังคม และประเทศชาติด้วย ซึ่งพฤติกรรมเส่ียง ดงั กลา่ วนน้ั อาจมอี ยใู่ นคนเดยี วกนั หรอื บางคนมอี ยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ผฉสู บอบั น คือ สูบบุหรี่แต่ไม่ดื่มสุรา หรือด่ืมสุราแต่ไม่สูบบุหรี่ หรือท้ังดื่ม สุราและสูบบุหร่ี ดังนั้น แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา Teacher’s Guide เรอื่ งการสบู บหุ รแี่ ละการดม่ื สรุ านน้ั จงึ ตอ้ งแยกกลมุ่ เสยี่ งใหช้ ดั เจน ครูอาจแนะนําให เพื่อหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขได้อย่างเหมาะสม โดยทาง นักเรียนเลนเกมเก่ียวกับ ราชการได้ใชม้ าตรการซ่ึงมตี วั อยา่ ง ดงั นี้ โครงการของสํานักงาน ค้มุ ครองสุขภาพของผู้ไมส่ ูบบหุ ร่ี คณะกรรมการควบคุม เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล จากประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ใหส้ ถานทสี่ าธารณะเปน็ ข อ ง ก ร ม ค ว บ คุ ม โ ร ค เขตปลอดบุหร่ี ได้แก่ โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย วัด กระทรวงสาธารณสุข สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ท่าเรือ ป้ายรถประจ�าทาง สนามบิน โดยสามารถดาวนโหลด รถประจา� ทาง รถไฟ รถแทก็ ซี ซงึ่ หากมผี ฝู้ า่ ฝนื สบู บหุ รใ่ี นเขตพน้ื ท่ี ไดจ าก www.thaiantial- ปลอดบุหรี่ จะมโี ทษปรับไมเ่ กนิ 2,000 บาท cohol.com ส่งเสริมกิจกรรมรณรงคล์ ดเหลา้ โดยจดั กจิ กรรมรณรงค์ “วนั พระใหญไ่ มข่ ายเหลา้ เบยี ร”์ ซงึ่ จัดข้ึนโดยส�านักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ส�านกั งานต�ารวจแห่งชาติ และหน่วยงานอน่ื ๆ ท่ี เกยี่ วขอ้ ง รว่ มรณรงคแ์ จกสอ่ื ตดิ สตก๊ิ เกอร์ ตดิ ปา้ ย “หา้ มขายเหลา้ วันพระใหญ่” ท่ีหน้าร้านขายเหล้า และบนรถแท็กซี ซึ่งหากผู้ใด ไม่ปฏิบัติตามถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซ่ึงมีโทษจ�าคุกไม่เกิน 6 เดอื น ปรบั ไมเ่ กิน 10,000 บาท หรือทง้ั จ�าท้งั ปรับ การรณรงคล์ ดการดมื่ เหลา้ ของสา� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) โดยมกี ารโฆษณาทง้ั ในโทรทศั นแ์ ละ สอ่ื อน่ื ๆ ทว่ี า่ “ใหเ้ หลา้ = แชง่ ” ซง่ึ ตอนนเ้ี รม่ิ จะอยใู่ นความรสู้ กึ ของ คนไทยแล้ว ท�าให้หลายคนไม่กล้าท่ีจะให้ของขวัญกันด้วยเหล้า เพราะกลัวคนรบั จะคิดมาก เลยเล่ียงไปให้อยา่ งอืน่ ซ่ึงถอื ว่าการ รณรงคใ์ นประเดน็ นีไ้ ดผ้ ลดที เี ดยี ว เด็กควรรู เปนหนวยงานของรัฐท่ีมิใชสวนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ จัดตั้งข้ึนตามพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสรางเสริม สขุ ภาพ พ.ศ. 2544 อยภู ายใตก ารกาํ กบั ดูแลของนายกรัฐมนตรี โดยมเี วบ็ ไชตค อื http://www.thaihealth.or.th/สสส. นบั เปนองคก ร ดานสุขภาพรปู แบบใหมที่สอดคลองกับมตขิ องสมัชชาสุขภาพโลก ดานการสนับสนนุ การสรางเสรมิ สขุ ภาพ 156

Teacher’s Guide ครนู าํ ภาพบคุ คลทด่ี ื่มแอลกอฮอลจนรา งกายทรุดโทรมหรอื อบุ ัติเหตจุ ากการเมาแลว ขบั มาให นกั เรียนดู จากนั้นใหน กั เรียนแบงกลมุ กลุมละ 5-6 คน รว มกันอภปิ รายในประเด็น ดงั น้ี ● ผลจากการด่มื เครื่องดื่มแอลกอฮอลต อสขุ ภาพ ● ผลจากการดม่ื เครอื่ งดื่มแอลกอฮอลต อการเกิดอบุ ตั ิเหตุ 2. เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลต์ อ่ สขุ ภาพและอบุ ตั เิ หตุ IT คนหาขอมูลเพิ่มเติม เก่ียวกับ พ.ร.บ. ควบคุม เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล ์ หมายถงึ สรุ าตามกฎหมายวา่ ดว้ ย เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ. สรุ า ทงั้ นไ้ี มร่ วมถงึ ยา วตั ถอุ อกฤทธต์ิ อ่ จติ ประสาท และสารเสพตดิ 2551 ไดท่ี www.thai- ใหโ้ ทษตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการนนั้ (มาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ควบคมุ landlawyercenter.com เครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551) 2.1 ความสมั พนั ธข์ องการดื่มเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ตอ่ เดก็ ควรรู สุขภาพ เปนสภาวะที่ตับ เกิดแผลขึ้นหลังจากมี เครื่องด่ืมที่มีแอลกอฮอล์เป็นสารเสพติดชนิดหน่ึง ที่มี การอักเสบของเนื้อตับ ผลต่อการท�างานของระบบในร่างกาย ซ่ึงความสัมพันธ์ของ และเกิดพังผืดแข็งแทรก การดมื่ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลต์ อ่ สขุ ภาพสามารถสรปุ ได้ ดงั แผนผงั ภายในตับ ทําใหเลือด ตับ ตบั อ่อน ไ ห ล เ วี ย น ไ ม  ส ะ ด ว ก เนอ่ื งจากถกู อดุ กนั้ การดม่ื เครอื่ งดม่ื ท่ีมี เซลล์ของตบั อ่อนจะเกดิ แอลกอฮอล์เป็นประจา� อาการระคายเคือง สง่ ผล จะส่งผลใหต้ ับซงึ่ เป็น ให้เซลลเ์ กดิ การบวมขึน้ อวยั วะทคี่ อยรบั พษิ และมีเลอื ดออกอยา่ ง จากสรุ ามากทส่ี ดุ นนั้ เฉยี บพลนั เกดิ อาการ ท�างานหนกั ก่อใหเ้ กดิ อกั เสบ ทา� ใหก้ ารสรา้ ง ผฉูสบอับน ภาวะตบั แขง็ และอาจ อนิ ซูลินขาดประสิทธภิ าพ กลายเป็นโรคมะเรง็ ตบั ซ่งึ เป็นสาเหตขุ องการเกิด โรคเบาหวาน ไดใ้ นทสี่ ดุ ITกระเพาะอาหาร สมอง เมือ่ ด่มื ในปรมิ าณมากๆ จะท�าใหม้ เี ลอื ดออก เม่อื ดมื่ เครอื่ งดมื่ ทมี่ ี ในกระเพาะอาหาร แอลกอฮอลใ์ นปริมาณมาก เป็นประจา� เอทิลแอลกอฮอล์ อาเจียนเป็นสดี �า และ ท่มี ีอย่ใู นสรุ าจะเร่มิ ออกฤทธ์ิ มีอจุ จาระเปน็ สดี �า ซึง่ กดประสาทส่วนกลาง ซงึ่ เปน็ สัญญาณของการ สง่ ผลให้เปน็ โรคสมองพกิ าร เกิดโรคกระเพาะอาหาร มอี าการสมองเส่อื ม หแู ว่ว รวมทง้ั อาจเปน็ โรคมะเร็ง และเป็นโรคพิษสรุ าเร้ือรัง คือ ในกระเพาะอาหารร่วมด้วย มอี าการพูดไมช่ ดั ทรงตัวล�าบาก สายตาพร่ามัวและขาดสติ หัวใจ เดก็ ควรรู เอทลิ แอลกอฮอล์ท่ีมีอยู่ใน คื อ ส ภ า ว ะ ที่ เกิดจากการท่ีเลือดไม สรุ าน้จี ะไปกระต้นุ ให้หวั ใจ สามารถไปเล้ียงสมอง เตน้ เร็ว ส่งผลทา� ใหค้ วาม ดันโลหติ สงู หลอดเลือด ทําใหการทํางานของ ขยายตวั มีการไหลเวียนของ โลหติ เพิม่ มากขึน้ จึงทา� ให้ผ้ดู ม่ื สมองหยุดชะงัก ซึ่งอาจ มใี บหนา้ แดงก�า่ มเี ลือดไปเล้ยี ง มีอาการออนแรงซีกใด สมองมาก ทา� ใหส้ มองบวม มีอาการ ซีกหน่ึงหรือทั้งสองซีก ปวดศีรษะ อาจท�าใหเ้ สน้ เลือดในสมอง ของรางกาย รวมถงึ อาจ แตกจนเป็นอัมพาตหรอื เสียชีวิตได้ มีอาการรวมกับตามอง ไมเห็น หูไมไดยิน หรือ อาจจะพูดไมไดดว ย 157 IT

เดก็ ควรรู เดก็ ควรรู ปจจบุ ันมลู นิธเิ มาไมข ับ มโี ครงการ “คนหว งหัว” โดยไดมี ระดบั แอลกอฮอล การรณรงคใหสวมหมวกนิรภัยทุกคร้ังที่ขับขี่หรือโดยสาร (มลิ ลกิ รมั /100 มลิ ลลิ ติ ร) รถจักรยานยนต สง ผลตอ รางกาย ดงั นี้ ● 30 mg% ทาํ ให เกดิ ความสนกุ สนานรา เรงิ ● 50 mg% เสีย 2.2 ความสัมพันธ์ของการด่ืมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อ การเคล่อื นไหว อบุ ตั เิ หตุ ● 100 mg% เดนิ ไมตรงทาง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เมื่อด่ืมเข้าไปจะมีผลกระทบ ● 200 mg% เกดิ ตอ่ สมองสว่ นทคี่ วบคมุ การประสานงานของแขน ขา และสายตา อาการสบั สน ● 300 mg% เกดิ ท�าให้เกิดการท�างานที่ไม่สมดุลกัน ประสิทธิภาพการขับข่ีลดลง บางรายจะมีอาการคึกคะนอง ไม่สามารถจะควบคุมยานพาหนะ อาการงว งซึม ● 400 mg% เกดิ อาการสลบ แIละTอาจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท�าให้มีอัตราของความเส่ียงต่อการเกิด ถงึ แกชวี ิตได อุบัตเิ หตุสูง ทุกปีในช่วงเทศกาล หน่วยงานต่างๆ ท้ังหน่วยงาน ราชการและหน่วยงานภาคเอกชน ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรม รณรงค์ในโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “โครงการเมาไม่ขับ” เมาแลว้ ขับ สาเหตจุ ากการดืม่ สุรา อาจ “โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา” “โครงการสงกรานต์ปลอดเหล้า” ท�าให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่งผลให้ตนเอง ครอบครวั และผอู้ น่ื ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น เพื่อช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอันเกิดจากการเมา แลว้ ขบั ซงึ่ ขอยกตวั อยา่ งความสมั พนั ธข์ องการดม่ื เครอื่ งดมื่ ทมี่ ี แอลกอฮอล์ต่อการเกิดอบุ ตั เิ หตุมาเปน็ กรณศี กึ ษา ดังน้ี ผฉสู บอบั น กรณีศึกษา เด็กควรรู สามารถขอขอมูล เมาแล้วขบั ของโครงการเมาไมขับ ชายอายุ 22 ปี ประสบอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเมาสุราขณะขับรถ ส่งผลให้ ไดจ ากสายดว นเมาไมข บั ต้องตัดขาข้างซ้ายทงิ้ ปจั จุบันสามารถเดนิ ได้โดยอาศยั ขาเทยี ม จากเหตุทป่ี ระสบข้นึ ชายคนนไี้ ดเ้ ลา่ เบอรโทรศัพท 1717 ประสบการณ์ในช่วงทีเ่ กดิ อุบตั ิเหตุ ซึ่งมใี จความว่า หรอื ตู ปณ. 1717 ปณฝ. “...ชักชวนเพ่ือนรุ่นน้อง 2 คน ไปฉลองปีใหม่ทางภาคเหนือ สถานที่แรกที่ไปดื่มได้พบกับ นานา กรงุ เทพฯ 10112 เพื่อนรุ่นพ่ซี ่งึ ชักชวนใหไ้ ปนั่งฟังเพลงและดม่ื ท่รี า้ นอาหารตอ่ ก่อนออกจากงานทั้ง 3 คน ดม่ื หมดไป แล้ว 2 กลม ตอนทอี่ อกจากงานฤดหู นาวมานั้นผมยังไม่เมาเลยยงั เฉยๆ อยู่ สามารถขบั รถไดส้ บาย เม่ือมาถึงที่ร้านอาหารจึงได้สั่งเหล้ามาต่ออีก 1 กลม และด่ืมเบียร์กันอีก จนประมาณเที่ยงคืน หลงั จากนน้ั จงึ ขบั รถไปยงั ผบั แหง่ หนงึ่ แลว้ ดมื่ เบยี รต์ อ่ กนั อกี คนละ 1 ขวดใหญ่ จนกระทงั่ ถงึ ตี 3 รา้ นปดิ จึงพากันกลบั ตอนที่ออกจากผับ ยอมรบั วา่ ตัวเองเมามากจนแทบไม่ได้สติ นอ้ งคนนงึ บอกว่าจะเป็น คนขบั รถเอง แต่ผมยืนยนั วา่ จะขับเอง จากนัน้ จึงพากันขับรถเพอ่ื เดนิ ทางกลบั บ้าน เม่ือขบั ออกมา ได้ประมาณ 4-5 กิโลเมตร ไม่รู้สึกตัวอะไรเลย มารู้สึกตัวอีกทีเม่ือถึงบริเวณ 4 แยก ขับมาได้ ระยะหนง่ึ เหน็ มแี สงไฟจากรถบรรทกุ 4 ลอ้ สอ่ งสวา่ งเขา้ ตา รสู้ กึ ขณะนน้ั วา่ ตอ้ งหกั หลบ แตไ่ มส่ ามารถ หลบได้ จึงพงุ่ ชนเข้ากับรถบรรทกุ 4 ล้อ จากน้ันก็ไม่รสู้ ึกตัวอีกเลย...” ท่ีมา : จันทิมา ไทรงามและก่งิ กาญจน์ จงสุขไกล. 2551 : 12 158

Teacher’s Guide IT คน หาขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ปญ หา ครูยกตัวอยางสถานการณ เชน นกั เรยี นมีเร่ืองโตเ ถียง ความรุนแรง ไดจากเว็บไซต http:// ทะเลาะวิวาทกัน นกั เรียนคนหนึ่งพดู จาลอ เลยี นปมดอยของเพื่อน health.exteen.com เปน ตน แลว ใหนกั เรียนรว มกนั แสดงความคดิ เห็นวา หากปญหา ดังกลาวแกไ ขดวยการใชความรนุ แรง จะเกิดสงิ่ ใดขึน้ 3. ความรนุ แรง ลบั สมอง ความรนุ แรง (Violence) หมายถึง การแสดงออกหรือ นักเรียนคิดว่า เม่ือเกิดปัญหาข้ึน การกระท�าโดยเจตนาท่ีจะใช้ก�าลังกาย ค�าพูด หรืออ�านาจ แล้วถูกแก้ไขด้วยการใช้ความรุนแรง ข่มขู่ในการต่อต้านตนเอง ผู้อื่น หรือชุมชน ซ่ึงมีผลท�าให้เกิด จะส่งผลกระทบอย่างไร การกระทบกระเทอื นทง้ั ทางรา่ งกายและจติ ใจ ตลอดจนการจา� กดั สทิ ธเิ สรภี าพสว่ นบคุ คล หรอื ทา� ใหบ้ คุ คลเกดิ การสญู เสยี อสิ รภาพ เด็กควรรู บางประการ สิทธิ หมายถึง 3.1 ประเภทของความรุนแรง อํานาจหรือผลประโยชน ของบุคคลที่มีกฏหมาย ส�าหรับความความรุนแรงที่มักจะเกิดขึ้นและพบได้บ่อย ใหความคุมครอง โดย ในสงั คมไทยน้นั สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึง่ สามารถ บุคคลอ่ืนจะตอ งใหค วาม อธิบายได้ ดังแผนผัง เคารพ จะละเมิดลว งเกิน หรือกระทําการใดๆ อัน ระหวา่ งกลมุ่ กอใหเกิดการกระทบ กระเทือนตอสิทธิของ ความรนุ แรงทางสังคม ความรนุ แรงทางการเมอื ง IT บุคคลไมได สว นเสรีภาพ ● การใช้ความรนุ แรงจากความเกลยี ดชงั ● สงคราม หมายถงึ ความมอี สิ ระใน ● การใช้ความรุนแรงของรัฐ การกระทาํ ของบคุ คล ซง่ึ เหยยี ดสถานะ เชอ้ื ชาติ ● การข่มขืนระหวา่ งสงคราม การกระทําน้ันจะตองไม ● การกระท�าของผ้กู อ่ การรา้ ย ● การทรมานเชลยทางการเมอื ง ขัดตอกฎหมาย ● การใช้ความรนุ แรงโดยกลมุ่ ประทว้ ง ผฉูส บอบั น ความรนุ แรงทางเศรษฐกจิ ตอ่ ตนเอง ● การกระท�าทก่ี อ่ ใหเ้ กิดการแตกแยกทางเศรษฐกจิ ● การโจมตีทางเศรษฐกจิ ความรุนแรง พฤติกรรมการท�ารา้ ยตนเอง ในสงั คมไทย ● การกระท�าใหต้ นเองบาดเจ็บ ● ท�ารา้ ยตนเองหรอื ทา� ใหต้ นเอง ระหว่างบคุ คล อยูใ่ นภาวะเส่ียงอันตราย พฤติกรรมการฆ่าตวั ตาย ● มคี วามคดิ จะฆา่ ตวั ตาย ● ความพยายามฆ่าตวั ตาย ● การฆา่ ตัวตายโดยสมบูรณ์ ความรุนแรงในครอบครัว ความรนุ แรงในชุมชน ● ความรนุ แรงต่อเดก็ ● การใชค้ วามรุนแรงทางเพศ ● ความรุนแรงระหวา่ ง ● การถกู ขม่ ขนื ● การใชค้ วามรนุ แรงแบบสมุ่ กระทา� ตอ่ ใครก็ได้ สามภี รรยา ● การใช้ความรนุ แรงทางกายระหวา่ งวัยรุน่ ● ความรุนแรงต่อผสู้ ูงอายุ ● ความรนุ แรงที่เกิดขึน้ ในครู่ กั ● ความรนุ แรงในโรงเรยี น ทท่ี �างาน หรอื โรงงาน เช่น การถกู ลวนลามทางเพศ เปน็ ตน้ ● ความรนุ แรงในสถานพยาบาลคนชรา เช่น การถูกทอดทง้ิ ไม่ดแู ล ทา� รา้ ยรา่ งกาย เป็นต้น 159

เด็กควรรู เปนพฤติกรรมการใชความรุนแรงของวัยรุนในยุคปจจุบัน ซ่ึงถือเปนเรื่องที่บั่นทอน อนาคตของวัยรุนไทยใหตองไปใชชีวิตในสถานพินิจฯ แทนท่ีจะไดเอาเวลามาศึกษาเลาเรียนเพ่ือ จะไดส ามารถศึกษาตอในมหาวิทยาลัยหรอื การไดง านดีๆ ทาํ ในอนาคต เดก็ ควรรู จากแผนผังดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความรุนแรง ซึ่งเปนการถูก ทั้ง 3 ประเภท อันจะประกอบไปด้วยความรุนแรงต่อตนเอง กระทาํ หลากหลายรปู แบบ ความรนุ แรงระหวา่ งบคุ คล และความรนุ แรงระหวา่ งกลมุ่ สา� หรบั อาจจะดวยวาจา เชน ในทนี่ จ้ี ะขอกลา่ วถงึ ความรนุ แรงทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั นกั เรยี นในรปู แบบ การเกี้ยวพาราสี ลามก ของความรนุ แรงในโรงเรยี น (School Violence or Institutional การพูดจาทะลึ่ง การ Violence) เชน่ การตบต ี ชกตอ่ ย ยกพวกตีกัน การทา� ร้าย วิพากษวิจารณ หรือ รา่ งกายจนถงึ แกช่ วี ติ การลอ้ เลยี นปมดอ้ ยของเพอ่ื น การพดู จา การพดู คยุ กนั ดว้ ยเหตผุ ล และแกป้ ญั หา การกระทําท่ีไมถูกเน้ือ เยาะเยย้ ดูหมิน่ เสียดส ี การขม่ ขู่รีดไถเงนิ การถูกล่วงละเมิด โดยสันติวิธี จะช่วยให้ปัญหาท่ีเกิดข้ึน ตอ งตวั เชน การจอ งมอง ผา่ นพ้นไปไดโ้ ดยไม่ใชค้ วามรุนแรง หนาอกหรืออวัยวะเพศ การมีพฤติกรรมถํ้ามอง ทางเพศ เปน็ ต้น กกIาาTรรกโชรวะอทวาํ ัยทวช่ี ะดัเพแศจง หเชรนือ 3.2 ปญั หาและผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใชค้ วามรนุ แรง ปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนจากการใช้ความรุนแรง แตะเนื้อตองตัว เสียดสี ถอื เปน็ พฤตกิ รรมทมี่ กี ารกระทา� ในทางลบ ซงึ่ อาจเรยี กไดว้ า่ เปน็ รางกาย การบังคับใหมี พฤตกิ รรมข่มขู ่ โดยมีการแสดงออก เช่น การล่วงละเมดิ สทิ ธิ เพศสัมพนั ธ เปนตน ของนักเรยี นคนอ่นื การรุกราน ทบุ ตี การใชถ้ ้อยค�าหยาบคาย ในการด่าทอ ลอ้ เลยี น ดูถกู เหยยี ดหยาม การทา� ลายทรัพยส์ ิน ผฉูสบอบั น การทะเลาะวิวาท เป็นต้น โดยมีผลกระทบท่ีสามารถสรุปได้ ดงั แผนผัง นักเรียนคิดวา รา่ งกาย ผ ล ก ร ะ ท บ ที่ เ กิ ด จ า ก การใชความรุนแรงเปน ผลกระทบ ● พิการ อยางไร ทีเ่ กดิ ขวนึ้ ัยแกรเ่ ดุ่น็กและ ● มบี าดแผลตามรา่ งกาย ● เป็นโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ ● บาดเจ็บ ● ตัง้ ครรภไ์ ม่พงึ ประสงค์ ● เสยี ชีวติ ● เสียอนาคต ฯลฯ จติ ใจ ● มีนสิ ัยก้าวร้าว ● เกดิ ปมดอ้ ย ● ขาดความอบอนุ่ ● หนอี อกจากบา้ น ฯลฯ 160

กรณศี กึ ษา Teacher’s Guide ใหนักเรียนแตละ รมุ ท�ารา้ ยจนอาการโคมา่ กลมุ จดั ปา ยนเิ ทศเกยี่ วกบั จากกรณี ด.ช.เอ (นามสมมต)ิ อายุ 14 ปี นกั เรยี นชน้ั ม.3 โรงเรยี นชอ่ื ดงั แหง่ หนงึ่ ถกู นกั เรยี น วิธีการหลีกเลี่ยงการใช รนุ่ นอ้ ง ม.2 ยกพวกรมุ ทา� รา้ ยไดร้ บั บาดเจบ็ สาหสั ตอ้ งผา่ ตดั เนอื่ งจากเลอื ดคง่ั ในสมอง ขณะนกี้ า� ลงั ความรุนแรง ติดภายใน รกั ษาตัวอยู่ทีโ่ รงพยาบาล หองเรียนเปนเวลา 2 ผ้ปู กครองของ ด.ช.เอ ได้เปิดคลิปเสียงซึ่งเปน็ คลิปเสยี งของเพ่ือน ด.ช.เอ 1 ใน 6 คนทถี่ ูก สปั ดาห รุมทา� รา้ ย โดยหลังเหตกุ ารณ์ได้อัดคลิปเสยี งเลา่ เหตกุ ารณ์ทง้ั หมดไว้ ซง่ึ ในคลิปเสยี งเพ่อื นนกั เรียน กล่าววา่ ในวันเกดิ เหตเุ ป็นชว่ งพักกลางวนั ด.ช.เอ นัง่ อยทู่ ่ีชั้น 3 ต่อมา ด.ช.บี (นามสมมต)ิ เดินเขา้ มาทา้ ต่อย แต่ ด.ช.เอ ลุกหนีไปทช่ี น้ั 5 จากน้นั ด.ช.บี ไดพ้ าพวก 20 คน มารุมท�าร้าย จน ด.ช.เอ ล้มหัวฟาดพ้ืน หลังจากเกิดเหตุเด็กมีอาการปวดหัว แพทย์ตรวจดูอาการให้ยาแล้วอนุญาตให้กลับ จากน้ันอีก 2 วัน เด็กมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แพทย์สแกนสมองพบเลือดค่ังในเยื่อหุ้มสมอง จึงรีบผา่ ตัดทนั ที ล่าสดุ เม่ือวันที่ 4 พฤศจิกายน ผูอ้ า� นวยการโรงเรียนได้เชญิ ผู้ปกครองของนักเรยี นกล่มุ ที่กอ่ เหตทุ ง้ั หมดมาพบ เพ่อื ให้ทราบถึงพฤติกรรมของบตุ รหลาน โดยทางโรงเรียนทา� หนังสอื ทณั ฑ์บน เพราะถอื วา่ ตอ้ งรับผดิ ชอบตอ่ เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขึน้ รว่ มกัน และจะอบรมเด็กกลุ่มนใ้ี หม่ ทีม่ า : หนงั สือพมิ พค์ ม ชัด ลึก ฉบับวนั ท่ี 5 พฤศจิกายน 2552 ผฉสู บอับน 3.3 วธิ หี ลีกเลย่ี งการใชค้ วามรนุ แรง เมือ่ เกดิ ความขัดแยง้ ขึน้ ควรแสดง เด็กควรรู ความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผลและรบั ความเครียดมี ความขัดแย้งเป็นเร่ืองธรรมชาติ สามารถเกิดข้ึนได้ ผลทั้งตอรางกายและ กบั ทกุ คน หากความขดั แยง้ มมี ากเกนิ ไป อาจสรา้ งความรนุ แรง ฟังซง่ึ กันและกันโดยสนั ตวิ ิธี จติ ใจ เพราะเมอื่ เครยี ดจะ ให้เกิดขึ้นได้ ซ่ึงการใช้ความรุนแรงไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ เพอ่ื หลีกเลี่ยงการใช้ความรนุ แรง ทําใหจ ิตใจวา วุน หนา ตา มีแต่จะท�าให้เกิดปัญหาเพ่ิมมากขึ้น ซึ่งนักเรียนควรจัดการกับ หมนหมอง ดังนั้นเม่ือ ความขัดแย้งอย่างมีเหตุผลด้วยสันติวิธี โดยประเด็นส�าคัญจะ นะครับ รสู กึ วา เรม่ิ เครยี ด กใ็ หห า อยู่ที่การระงับหรือหลีกเล่ียงความรุนแรงให้ได้เร็วที่สุด ก่อนท่ี ทางออกโดยทํากิจกรรม ปญั หาจะบานปลาย ซ่ึงวธิ ีหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง มีดังน้ี IT ที่ทําใหเพลิดเพลินและ รูส กึ สบายใจ 1) การจัดการความเครียด ความเครียดนับเป็นสิ่งท่ี ทุกคนต้องประสบอยู่เสมออย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ โดยเม่ือเกิด ความเครียดขึ้นก็อาจจะส่งผลท�าให้เกิดความขัดแย้งข้ึนด้วย ส่วนใหญ่มักจะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้น ซงึ่ เป็นวิธีทีผ่ ดิ ดงั นนั้ จึงตอ้ งหาแนวทางจัดการกบั ความเครยี ดท่ี เกดิ ขึน้ ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ ตวั อยา่ งเช่น 161

เดก็ ควรรู 1. การพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลาย การจัดการความ ถือว่าเป็นวิธีการฝึกจิตท่ีดีอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยท�าให้จิตใจสดช่ืน โกรธ สามารถทาํ ดังนี้ คลายความวิตกกังวล สามารถที่จะคิดหาทางแก้ไขปัญหาและ ● ยอมรับวากําลัง เผชญิ กับสภาวการณต์ า่ งๆ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รูสึกโกรธ และพิจารณา 2. การออกก�าลังกาย เป็นการเสริมสร้างสมรรถภาพ วากําลังเกิดอะไรข้ึนกับ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพกายและการมีชีวิตที่ยืนยาว นอกจากน้ียัง ตนเอง โดยไมจ าํ เปน ตอ ง เป็นการผ่อนคลายกล้ามเน้ือ และช่วยลดความเครียดท่ีเกิดข้ึน รสู กึ ผดิ หรอื ละอายทรี่ สู กึ จากการด�าเนินชีวิตประจา� วันดว้ ย การอา่ นหนงั สอื ถอื เปน็ อกี กจิ กรรมหนง่ึ โกรธ ที่จะช่วยจัดการกับความเครียดเพื่อลด ● พิจารณาสาเหตุ 3. การทา� กจิ กรรมตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การผอ่ นคลาย เชน่ ความขดั แยง้ และการใชค้ วามรุนแรงได้ ของความโกรธท่ีเกิดขึ้น การอ่านหนงั สอื การฟังเพลง การฝึกสมาธิ เปน็ ตน้ โดยไมเ ขาขา งหรือตําหนิ 2) การจัดการความโกรธ เร่ืองราวเกี่ยวกับความขัดแย้ง ตนเองเกนิ เหตุ การใชค้ วามรนุ แรงในสงั คมทกุ วนั น ี้ มกั จะมาจากสภาพอารมณท์ ี่ ● พยายามเปด เรยี กวา่ “โทสะ” หรือ “อารมณ์โกรธ” ซ่ึงเปน็ หนง่ึ ในอารมณต์ า่ งๆ ความคิดใหกวางและ ที่เกิดข้ึนกับทุกคน ดังน้ันจึงจะต้องมีการจัดการกับความโกรธ ยดื หยุน เพอื่ หลีกเลี่ยงการใชค้ วามรนุ แรงท่เี หมาะสม คือ ● ตดั สนิ ใจแกป ญ หา 1. ต้ังสติให้ม่ันคง ท�าใจให้สงบ โดยระงับอารมณ์ อยา งสรา งสรรคแ ลว ลอง ที่พลุ่งพล่านก่อนท�าความตกลง หรือลงมือท�าอะไร เพราะอาจ ปฏบิ ตั ิ ทา� ใหต้ ดั สนิ ใจผดิ พลาด และอาจกอ่ ใหเ้ กดิ การใชค้ วามรนุ แรงได้ หากมีการเจรจาหรือแก้ปัญหาขณะมีอารมณ์ ให้ถามตนเอง ผฉูสบอับน วา่ “ตอ้ งการเอาชนะ” หรอื “ตอ้ งการแกป้ ญั หา” ถา้ ค�าตอบคอื “การเอาชนะ” ให้หยุดการเจรจาไว้ แล้วหาทางระงับอารมณ์ IT คนหาขอมูลเพิ่มเติม และความคดิ เอาชนะให้ไดก้ อ่ น เพอื่ การมสี มั พันธภาพทด่ี ีต่อไป เก่ียวกับวิธีจัดการความ 2. แสดงความรสู้ กึ และความตอ้ งการของตนเองดว้ ยทา่ ที โกรธ ไดจากเว็บไซต www.thaihealth.or.th ของสํานักงานกองทุน สนับสนุนการสรางเสริม สขุ ภาพ (สสส.) ท่ีไม่กา้ วรา้ ว ไมข่ ่มขู่ หรือละเมดิ สิทธิของคนอนื่ 3. หาทางระบายความโกรธออก หากไมส่ ามารถจดั การ กบั ความโกรธของตนเองได ้ ใหพ้ ดู คยุ กบั เพอ่ื นที่ไวใ้ จ และคอยให้ คา� ปรกึ ษาแนะน�าได ้ 4. หากทา� ใจเลา่ ใหค้ นอน่ื ฟงั ไมไ่ ด ้ อาจใชว้ ธิ เี ขยี นเรอื่ งที่ เมื่อเกิดความเครียดหรือความโกรธข้ึน โกรธลงบนกระดาษ จะทา� ใหค้ วามโกรธลดลง เนือ่ งจากไดม้ ีการ ควรหาทางระบายความโกรธด้วยการ ระบายออกมา พูดคุยหรือปรึกษาผู้ท่ีไว้ใจได้ เพ่ือช่วย ใหค้ วามโกรธลดลง 162

5. อย่าเก็บความขุ่นมัวโกรธเคืองไว้เงียบๆ ตามล�าพัง เพราะจะท�าใหเ้ ปน็ คนเครยี ดงา่ ย และมคี วามอดทนกบั เรอื่ งตา่ งๆ รอบตวั น้อยลงเรอ่ื ยๆ 6. ท�ากิจกรรมท่ีช่วยระงับอารมณ์ เช่น ตีแบดมินตัน เทนนิส เตะบอล ว่ิง ว่ายน�้า เป็นตน้ 7. รจู้ ักใชเ้ ทคนคิ การผอ่ นคลายท่ีเหมาะกบั ตนเอง เชน่ นับตวั เลขในใจ กา� หนดลมหายใจ ผ่อนคลายกลา้ มเนอื้ หรอื อาจ สวดมนต ์ ท่องคาถาสั้นๆ ท่เี ปน็ การช่วยผ่อนคลายและต้งั สติ การน่งั สมาธิ เป็นอีกวธิ หี น่งึ ทกี่ ่อใหเ้ กดิ การผ่อนคลาย เม่ือมีอารมณ์โกรธได้ 8. สนั ติวิธ ี คอื วธิ ีจัดการกับความขัดแยง้ โดยหลกี เลยี่ ง เปน็ อย่างดี การใช้ความรุนแรงวิธีหน่ึง ซ่ึงเป็นวิธีที่มีการสูญเสียน้อยท่ีสุด ทงั้ ระยะสนั้ และระยะยาว ทง้ั รปู ธรรมและนามธรรม เชน่ การไกล่ นกั เรยี นคดิ วา สอื่ เกลย่ี การผอ่ นปรน การลดอคต ิ การเคารพในสทิ ธมิ นษุ ยชน เปน็ ตน้ มีอิทธิพลตอพฤติกรรม ซ่ึงจ�าเป็นต้องอาศัยความเข้าใจอันดีและความสามัคคีปรองดอง สุขภาพและความรุนแรง อยางไร รว่ มดว้ ยจึงจะทา� ใหเ้ กดิ สันติวธิ ที สี่ มบูรณ์แบบอย่างแทจ้ ริง 4. อคิวทาธมิพรลุนขแอรงง สื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพและ ผฉูสบอับน ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยก�าลังถูกแวดล้อมไปด้วย เดก็ ควรรู อิทธิพลของส่ือมากมาย เช่น คลิปวิดีโอ อินเทอร์เน็ต เกม เปนกิจกรรมที่ ซ่ึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมสุขภาพและความรุนแรง เ ล  น บ น ค อ ม พิ ว เ ต อ ร  ของเยาวชนไทย ทั้งน้ีเน่อื งจากพฤตกิ รรมการเลียนแบบนนั่ เอง หรือมีการออนไลนทาง อินเทอรเน็ต มีท้ังผลดี กรณศี ึกษา และผลเสีย ซ่ึงผลเสียจะ มผี ลกระทบไดใ นระยะสนั้ คลปิ วิดโี อทะเลาะวิวาท และระยะยาว เชน ทาํ ให ภาพของความรุนแรงในเด็กทตี่ ้องเรง่ แก้ไข เสียการเรียน กอใหเกิด ปญหาดานสุขภาพกาย เม่อื วันท่ี 10 ม.ิ ย. ผ้สู อ่ื ขา่ วรายงานว่า มีคลิปภาพตบตกี ันของ 2 นกั เรียนจาก 2 สถาบนั ดังใน และจติ ใจ เกดิ พฤตกิ รรม จงั หวดั แหง่ หนงึ่ ทก่ี า� ลงั ไดร้ บั ความนยิ มสง่ ตอ่ กนั ในกลมุ่ นกั ศกึ ษา นกั เรยี น โดยเปน็ คลปิ การตบตกี นั ลอกเลียนแบบ อันกอให ระหวา่ งนักเรียนหญิงชัน้ มัธยมปลาย โรงเรยี นสตรีประจา� จงั หวดั กับนกั ศึกษาหญิงระดับ ปวช.ของ เกิดปญหาสังคมตามมา วทิ ยาลยั แหง่ หนง่ึ ในชดุ นกั เรยี นนกั ศกึ ษา ความยาวประมาณ 5 นาที โดยในคลปิ ไดแ้ สดงการตบตี มี เปนตน ดังน้ัน พอแม ผปู กครอง และครจู งึ ควร ตกา่างรชดว่ ึงยผกมนั กเชรยี ะรช์ าแกลเะสลอ้ื อ้ จมนวลงม้ถกา่ ยลคิ้งลลงปิ ไกปนั นออยนา่ กงบัสพนกุ้นื สโนดายนมกีไมลม่ ุ่มใี เคพรือ่ หนา้ มทหั้งชราอื ยช-ว่ หยญยIตุงิ Tเขิ หอตงกุทา้งั รสณอง์ จสนถเาวบลนั า ตองคอยช้ีแนะดูแลอยาง ใกลชิด ควรหากิจกรรม ผา่ นไปจะมกี ารรมุ เขา้ มาชว่ ยจากเพอื่ นๆ ของคกู่ รณี แตก่ ม็ กี ารหา้ มปรามกนั จงึ ไดเ้ ปลยี่ นจากการตบตี ท่ีจะชวยในการเบี่ยงเบน มาเป็นดา่ ทอกนั โดยฝ่ายหญงิ ท่ีตบกัน บังคบั ให้มีการกราบขอโทษเรื่องท่ีเคยทา� กนั ไว้ ความสนใจอื่นๆ ดวย 163

IT คนหาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการใชอินเทอรเน็ตอยาง สรา งสรรคแ ละถกู วธิ ี และมารยาทในการใชอ นิ เทอรเ นต็ ไดจ ากเวบ็ ไซต http://report.thaihotline.org ของมลู นธิ ิ อนิ เทอรเ นต็ รว มพฒั นาไทย ผฉูสบอบั น กรณศี ึกษา เดก็ ควรรู โรคติดอนิ เทอรเ์ น็ต ห า ก มี ป  ญ ห า ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีความส�าคัญต่อชีวิตประจ�าวันของคนเราหลายๆ ด้าน บางคนเล่น การติดเกม สามารถขอ อินเทอร์เน็ตเพ่ือความเพลิดเพลิน ในขณะท่ีบางคนใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตนานมากจน คําปรึกษาไดจากศูนย กลายเปน็ ความหมกม่นุ ควบคุมตนเองไม่ได้ ซ่ึงก่อให้เกดิ พฤติกรรมเสีย่ งตอ่ สขุ ภาพ จนเป็นโรคตดิ ปองกันและแกไขปญหา อนิ เทอรเ์ นต็ ในท่ีสดุ เด็กติดเกมไดท่ี สถาบัน โรคติดอินเทอรเ์ นต็ (Webaholic) เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งนกั จิตวทิ ยา ได้ศกึ ษาและ สุขภาพจิตเด็กและวัยรุน วเิ คราะห์ไว้วา่ บคุ คลใดท่ีมีอาการดงั ต่อไปน้ี อยา่ งนอ้ ย 4 ประการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี แสดง ราชนครินทร โทรศัพท วา่ เป็นอาการติดอนิ เทอรเ์ น็ต 0-2354-8305-7 1. รสู้ กึ หมกม่นุ กบั อนิ เทอร์เนต็ แมใ้ นเวลาทไี่ มไ่ ดต้ อ่ เขา้ ระบบอินเทอรเ์ น็ต 2. มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้นอยู่เรื่อยๆ โดยไม่สามารถควบคุมการใช้ อนิ เทอรเ์ น็ตได้ 3. ร้สู กึ หงุดหงดิ เมื่อใชอ้ นิ เทอร์เน็ตน้อยลง หรือหยดุ ใช้ 4. คิดว่าเมอื่ ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ แล้ว จะท�าให้ตนเองรสู้ กึ ดีขึน้ 5. ใช้อินเทอรเ์ นต็ ในการหลกี เล่ยี งปัญหา 6. หลอกคนในครอบครัวหรอื เพื่อน เร่ืองการใชอ้ ินเทอร์เน็ตของตนเอง 7. มีอาการผิดปกตเิ ม่อื เลิกใช้อนิ เทอรเ์ น็ต เชน่ หดหู่ กระวนกระวายใจ เปน็ ต้น ซึง่ อาการดงั กล่าว หากเกดิ ข้ึนแล้วอาจสง่ ผลเสียตอ่ ระบบรา่ งกายทง้ั การกิน การขบั ถ่าย และ กระทบตอ่ การเรียน รวมทัง้ สภาพสงั คมของบุคคลนน้ั ๆ ตอ่ ไป กรณศี กึ ษา พฤตกิ รรมเลียนแบบ เซน่ เกมคอมพวิ เตอร์ เหตุสลด ด.ช.วัย 9 ขวบ หรอื น้องเอ (นามสมมต)ิ คลงั่ เกมคอมพิวเตอร์ “เคาน์เตอร์ สไตรก์” คว้าปนื ขนาด .38 มม. ของพอ่ จ่อยิงหวั เพอื่ นวยั เดยี วกัน เข้าทหี่ วั ค้ิวซ้ายทะลศุ ีรษะด้านขวาเสยี ชวี ติ เลียนแบบเกมอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซ่ึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้เป็นอย่างดี ว่านับจากน้ีไปพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพ่ือป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ การใช้ความรุนแรง รองอธบิ ดีกรมสขุ ภาพจติ ออกมากลา่ วถงึ พฤติกรรมเลียนแบบของเด็กวยั ซนว่า เด็กในชว่ งประถม ศกึ ษาถือว่ามีความเสยี่ งในการทา� พฤติกรรมเลยี นแบบ เพราะเดก็ ยังไมเ่ ข้าใจในเร่ืองจินตนาการกับ ความจรงิ โดยตง้ั แต่ช่วงเด็กเลก็ จนถงึ จบช้ันประถมศึกษาจะมพี ฤติกรรมเลียนแบบสงิ่ ตา่ งๆ รอบตัว ส่วนเรอ่ื งอาวธุ ไมว่ า่ วยั ใดหากเข้าถงึ อาวุธปนื ไดก้ ็ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี่ งท้งั ส้ิน 164

เพื่อการด�าเนินชวี ติ ทเี่ ป็นปกตสิ ุข บุคคลจะต้องสามารถวเิ คราะห์ปัจจยั เส่ียง และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลต่อสุขภาพของตนเองและหาแนวทางป้องกันได้ มวี ธิ หี ลกี เลยี่ งการใชค้ วามรนุ แรงในการแก้ปญั หาทเ่ี ข้ามาในชวี ติ ตระหนกั ในอทิ ธพิ ล ของสอื่ ซง่ึ จะสง่ ผลใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมสขุ ภาพทไี่ มถ่ กู ตอ้ งหรอื ทา� ใหเ้ กดิ ความรนุ แรงขน้ึ ได้ สามารถท่ีจะเลือกใช้สื่อได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตลอดจนเข้าใจถึงความสัมพันธ์ ของการดมื่ เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลว์ า่ มผี ลตอ่ สขุ ภาพและน�าไปสกู่ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ ม่ี ผี ล ท้ังต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม ซ่ึงการศึกษาเร่ืองน้ีจะช่วยสร้างความเข้าใจและมี พฤติกรรมสขุ ภาพทถ่ี ูกต้องเพอ่ื ประโยชน์ต่อการด�ารงชวี ติ อย่างมีคณุ ภาพสืบไป ผฉูสบอบั น ฝกึ คิด ฝึกทำ� 1. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มค้นคว้าหาข้อมูลถงึ พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพและความรุนแรงภายในชมุ ชน จากนน้ั ให้นกั เรยี นสรุปสาระสา� คัญแล้ววเิ คราะห์ทา� เป็นรายงานส่งครผู ู้สอน 2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มช่วยกันจัดป้ายนิเทศแสดงอุบัติเหตุท่ีเกิดจากพฤติกรรมเมาแล้วขับแล้วน�าไป แสดงบรเิ วณมุมห้องเปน็ เวลา 2 สปั ดาห์ 165

Ẻ½ƒ¡·¡Ñ Éо²Ñ ¹Ò¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ µÍ¹·èÕ 1 ãËŒ¹¡Ñ àÃÕ¹ÇàÔ ¤ÃÒÐË¡ óÈÕ Ö¡Éҵ͋ 仹Õáé Ōǵͺ¤íÒ¶ÒÁãËŒ¶¡Ù µÍŒ § มฐ./ตัวช้ีวดั กรณศี กึ ษา รุมทาํ รายจนอาการโคมา พ 4.1 (ม.3/1) ((มม..33//23)) (ม.3/4) จากกรณี ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ป นกั เรยี นชั้น ม.3 โรงเรยี นช่ือดังแหงหนึ่งถูกนักเรียน รุนนอง ม.2 ยกพวกรุมทํารายไดรับบาดเจ็บสาหัสตองผาตัดเนื่องจากเลือดคั่งในสมอง ขณะนี้ กาํ ลังรกั ษาตวั อยทู ่ีโรงพยาบาล ผปู กครองของ ด.ช.เอ ไดเ ปด คลปิ เสยี งซงึ่ เปน คลปิ เสยี งของเพอื่ น ด.ช.เอ1 ใน 6 คนทถี่ กู รมุ ทาํ รา ย โดยหลังเหตุการณไดอัดคลิปเสียงเลาเหตุการณท้ังหมดไว ซึ่งในคลิปเสียงเพ่ือนนักเรียนกลาววา ในวันเกิดเหตเุ ปน ชวงพกั กลางวนั ด.ช.เอ น่งั อยูทช่ี ้ัน 3 ตอ มา ด.ช.บี (นามสมมต)ิ เดินเขามา ทาตอ ย แต ด.ช.เอ ลกุ หนไี ปทชี่ ้นั 5 จากนน้ั ด.ช.บี ไดพ าพวก 20 คน มารุมทาํ ราย จน ด.ช.เอ ผฉูสบอับน ลม หวั ฟาดพ้นื แพทยสแกนสมองพบเลอื ดค่งั ในเยื่อหุมสมองจึงรีบผาตดั ทนั ที ที่มา : หนังสือพมิ พค ม ชดั ลกึ ฉบับวนั ท่ี 5 พฤศจกิ ายน 2552 1. ประเดน็ สาํ คญั ของกรณีศึกษาคืออะไร ………ด….ช….เ…อ……ถ…ูก…น…กั……เร…ยี …น…ร…ุน …น……อ …ง……ม….2……ร…มุ …ท…ํา…ร…า…ย…บ…า…ด…เจ…บ็ …ส……าห…ัส……ต…อ …ง…ผ…า ต…ัด……เน…ือ่ …ง…จ…า…ก…เล……อื ด……ค…ั่ง…ใน……ส…ม…อ…ง….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. จากกรณีศึกษา ถา นกั เรยี นเปน ด.ช.บี นักเรยี นจะมวี ธิ ีหลีกเลย่ี งการใชค วามรุนแรงอยางไร …1.…ต…ง้ั…ส…ต……ิให…ม…ั่น……ค…ง…ท…าํ…ใ…จ…ให……ส…ง…บ……ร…ะ…ง…ับ…อ…า…รม…ณ……ท…พ่ี …ล…งุ…พ…ล…า…น…ก……อ …น…ท…ํา…ค…ว…าม…ต…ก…ล……ง…ห…ร…อื …ล…ง…ม…ือ…ท…ํา…อ…ะ…ไร……….. …2.…แ…ส……ด…ง…ค…วา…ม…ร…สู …กึ…แ…ล…ะ…ค…ว…า…ม…ต…อ …ง…ก…า…รข…อ…ง…ต…น……เอ…ง…ด…ว …ย…ท…า …ท…ที …ไี่ ม…ก……า ว…ร…า …ว…ไ…ม…ข …ม …ขู…ห…ร…อื …ล…ะ…เม…ดิ…ส……ทิ …ธ…ขิ อ…ง…ค…น……อ…นื่ . …3.…ห…า…ท…า…ง…ร…ะ…บ…าย…ค……วา…ม…โ…ก…ร…ธ…อ…อ…ก……ซ…ง่ึ …อ…า…จ…ใช…ว …ธิ …เี ข…ยี …น…เ…ร…อ่ื …ง…ท…โี่ ก…ร…ธ…ล…ง…บ…น……ก…ร…ะด……าษ………ห…ร…อื …อ…าจ…พ……ดู …ค…ยุ …ก…บั …เพ……อื่ …น. ……ท…ีไ่…ว…ใ…จ……แ…ล…ะ…ค…อ…ย…ให…ค……าํ ป…ร…กึ…ษ……าแ…น……ะน……าํ ไ…ด… …………………………………………………………………………………………………………. 3. จากกรณศี ึกษาใหขอคดิ อะไรบาง ……ก…า…ร…ใ…ช…ค…ว…าม…ร…นุ …แ…ร…ง…ไ…ม…ส …า…ม…า…รถ……แก…ป……ญ…ห…า…ใด……ๆ……ได………ม…แี ต……จ ะ…ท…ํา…ใ…ห…เ ก…ิด……ป…ญ…ห…า…เพ…ิ่ม…ม…า…ก…ข…น้ึ ………ด…งั …น…้นั …จ…งึ …ค…ว…ร.. …จ…ดั …ก…าร…ก……บั …ค…ว…าม…ข…ดั …แ…ย…ง …ท…เี่ ก……ดิ …ขน้ึ……ใน……ชวี…ติ…อ…ย…า…ง…ม…เี ห…ต……ผุ ล……โด…ย…ส…นั……ต…วิ …ธิ ี…โ…ด…ย…ป…ร…ะ…เด…น็ …ส……าํ ค…ญั……อ…ย…ทู …ก่ี …า…ร…ระ…ง…บั …ห…ร…อื…. …ห…ล…ีก…เล…ี่ย…ง…ค…ว…า…ม…ร…ุน…แ…ร…ง…ใ…ห…ไ ด……เ ร…ว็ …ท…่ีส…ดุ …ก…อ…น……ท…ป่ี …ญ …ห…า…จ…ะ…ล…ุก…ล…า…ม…บ…า…น…ป…ล…า…ย…………………………………………………………. ...พจิ ารณาจากคาํ ตอบของนกั เรียน โดยอยูในดุลยพนิ ิจของครผู ูส อน... 166 166

ตอนที่ 2 ให้นกั เรยี นวิเคร�ะหก์ รณีศกึ ษ�ต่อไปน้ีแล้วตอบค�ำ ถ�มใหถ้ ูกต้อง ผฉูสบอบั น กรณีศึกษา พฤติกรรมเลียนแบบ เซน่ เกมคอมพิวเตอร์ เหตสุ ลด ด.ช.วยั 9 ขวบ หรอื นอ้ งเอ (นามสมมต)ิ คลง่ั เกมคอมพวิ เตอร ์ “เคานเ์ ตอร ์ สไตรก”์ คว้าปืนขนาด .38 มม. ของพ่อจอ่ ยงิ หวั เพ่อื นวยั เดยี วกัน เข้าทห่ี วั ค้ิวซ้ายทะลศุ ีรษะดา้ นขวา เสยี ชวี ติ เลยี นแบบเกมอยา่ งรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ ์ ซงึ่ เปน็ อทุ าหรณส์ อนใจไดเ้ ปน็ อยา่ งดวี า่ นบั จากน้ี ไปพ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบการใช้ ความรุนแรง รองอธบิ ดีกรมสขุ ภาพจิต ออกมากลา่ วถงึ พฤติกรรมเลยี นแบบของเดก็ วยั ซนว่า เดก็ ในชว่ ง ประถมศึกษาถือว่ามีความเสี่ยงในการท�าพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะเด็กยังไม่เข้าใจในเร่ือง จินตนาการกับความจริง โดยต้ังแต่ช่วงเด็กเล็กจนถึงจบช้ันประถมศึกษาจะมีพฤติกรรมเลียน แบบสง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั สว่ นเรอ่ื งอาวธุ ไมว่ า่ วยั ใดหากเขา้ ถงึ อาวธุ ปนื ไดก้ ก็ อ่ ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งทงั้ สนิ้ ที่มา : หนังสอื พิมพ์คม ชดั ลกึ ฉบับวนั ที ่ 5 พฤศจกิ ายน 2552 1. นกั เรยี นมคี วามคดิ เห็นต่อเรื่องนอ้ี ย่างไร .......เ.ป....็น...เ..ห...ต....ุส...ล....ด...ท....ี่ไ..ม...่ค....ว..ร...เ..ก...ิด...ข...้ึน........ซ..ึ่.ง..น....ับ....ว..่า...เ.ป....็น....อ...ุท...า...ห...ร...ณ.....์ส...อ...น....ใ..จ...ไ...ด...้เ..ป...็น....อ...ย...่า...ง..ด....ีว..่า...น....ับ...จ...า...ก...น....้ีไ..ป....พ...่อ...แ...ม...่ ผ...ปู้....ก...ค...ร...อ...ง...ต...อ้...ง...ด...ูแ...ล...บ....ุต...ร...ห...ล...า...น....อ..ย...่า...ง..ใ...ก...ล...้ช...ดิ .....เ.พ....่ือ...ป...้อ...ง...ก...นั....พ...ฤ...ต....ิก...ร...ร...ม...เ.ล....ยี ..น....แ...บ...บ....ก...า...ร..ใ...ช..้ค....ว..า..ม...ร...นุ....แ..ร...ง............... ................................................................................................................................................................................................................ 2. ถ้านักเรียนเป็นพ่อแม ่ นักเรยี นจะมแี นวทางป้องกนั อทิ ธพิ ลของสื่อตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพและ ความรุนแรงอยา่ งไร 1.......ใ..ห...ค้....�า..แ..น....ะ..น....�า......ค...อ...ย...ช...้แี ..น....ะ..ถ...งึ...ข..้อ...ด....ขี ..อ้...เ.ส....ีย...ข..อ...ง...เ.ก....ม...ค...อ...ม...พ...ิว...เ.ต...อ...ร...ใ์..ห...แ้...ก...่ล....กู ...อ...ย...่เู .ส....ม...อ.................................................. 2.......ต....ั้ง..ก....ฎ...ก...ต....กิ ...า......แ..ล....ะ..ข..้อ...ต....ก...ล...ง...ใ..น....ก...า...ร..เ..ล...น่....เ.ก....ม...ค...อ...ม...พ...วิ...เ.ต....อ...ร..์ใ...ห...้แ..ก....ล่ ...กู............................................................................ 3. สือ่ ตา่ งๆ เชน่ อินเทอร์เน็ต เกม คลิปวดิ โี อทะเลาะววิ าท ฯลฯ มผี ลตอ่ พฤติกรรมสขุ ภาพ และความรนุ แรงของเยาวชนไทยในปัจจบุ ันอยา่ งไร .....เ..น...ื่อ...ง...จ...า...ก...ป...ัจ...จ...ุบ....ัน.......ว...ัย...ร...ุ่น....ไ..ด...้ร...ับ....ข..่า...ว..ส....า..ร...ต...่า...ง..ๆ.......จ...า..ก...ส....่ือ...ม...า..ก....ม...า..ย.......ซ...ึ่ง...ส...่ือ...ต...่า...ง...ๆ......น....้ัน.......ม...ีท....ั้ง..ด....ีแ..ล....ะ..ไ..ม...่ด....ี . ป...ร...ะ...ก...อ...บ....ก...ับ....ว...ัย...ร...ุ่น....ม...ัก...ม...ีพ....ฤ...ต....ิก...ร...ร...ม...ก....า..ร...เ..ล...ีย...น....แ...บ....บ.......ด....ัง...น...้ัน....ส....่ือ...จ...ึง...ม...ีอ...ิท....ธ...ิพ...ล....ต...่อ...พ....ฤ...ต....ิก...ร...ร...ม...ส....ุข...ภ...า..พ....แ...ล...ะ.... ความรนุ แรงอย่างมาก ................................................................................................................................................................................................................ ...พิจารณาจากคา� ตอบของนักเรยี น โดยอยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน... 167

99Ẻ·´Êͺ˹Nj ·Õè 1 ¤Òí ªéáÕ ¨§ ã˹Œ Ñ¡แàÃบÂÕ บ¹ทàÅดÍ×ส¡อ¤บíÒหµนÍ่วºย·ทÕè¶ี่Ù¡1µŒÍ§·ÕèÊ´Ø à¾ÂÕ §¤Òí µÍºà´ÂÕ Ç 1. พฤตคำ�กิ ชรี้แจรงมใเหสน้ ย่ีกั เงรยีตนอเลสอื กขุ คภำ� ตาอพบที่ถกู หตอ้มงทาส่ี ยดุ ถเพึงียองคะำ� ไตรอบเดยี ว ก. กกาารรก1ก. รรพขกะะ..ฤทท ตาําํกกิกาาขขรรรรกกออมรรเงงะะสททบบีย่ �า�างุคคุขขตออ่อคคงงสลลบบุขุคคุภททคคาีส่่ีสลลพททงง ี่สส่ี ผผห่ง่งผผมลลลลากกยกกถรรรระะึงะะททอททบบะไตตบบรอ่อ่ ตตสส่ิงขุออ แภสสวาดพิ่งุขลแภอ้ มวาดพลอ ม ข. กกาารรกก2. รรคงขะะ..้อ ทท ใดาาํํกกเาาขขปรรน็กกออพรรงงะะฤททบบตา�า� กิุุคคขขรออคครงงมลลบบเสุคคุททยี่คคงีสีส่่ลลตททงงอ่ ่่สสีี ผผกงง่่ าผผลลรลลเกกกกกิดรรรระะโะะททรททคบบไตตบบด่ออ่ม้ ตตกสาุขาออกรภทเกสาร่สี วยีขุาุดะนรทภสเาขุารงศจวยี ึกติ ะนษทาสาขุ งศจึกิตษา ค. ง. 2. ขก.อ ใ ด สเูบปบน 3หุ.พ รกคพฤ..่ีเฤ ปต ตรสิกกินบับูรปรรบปมรรหุ ะรขรมทอะีเ่ ปาเงจน็นสบําอปคุ่ยี าครหงะลจาตใร�าดท อม่ีไีโกมอส่ากะารอสเาเกกดดิ ิดอโบุ รตั คิเหงขไ.ต. ด ุม ข มสรา.บักวามทปกถรีส่ ระุงดุททบัยาาส่ี ปนงุดออรนาะหาทมาัยราทเมนมี่ ่อื รีอมสาเีจพัดหศสาัมรพทนั ีม่ ธ์ ีรสจดั ค. รับปร ะกท. า สนมอหมาาหยดามื่รสทุรา่ีไแมลว้สขะบั อรถาไดปส่งของ ง. สวมถุงยางอนามัยเมอื่ มีเพศสัมพันธ 3. พฤต ิกรรม ขขค..อ งสสบมมปหุคอญคงงิ ตลรรสู้ ใวกึ ดจงเว่มชง็กจีโสงึอภแกาวพะาพรสถกั กเทกอ่ีป่ นิดมั๊ ในชอ้า�้ทุบมกุ ันตัคกริเอ่ง้ั หนตมุ ากท่ีสดุ ก. สมหม งา. ย ดสมื่มชสายรุ ขาบั แรถลกวลบัขบบั า้ นรทถีต่ ไ่าปงจสงั หงวขดั อชว่งงตรษุ จีน ข. สมป4อ. งกข.ต้อ ใรดกเวาปรจน็ดเพืม่ ชฤนตก็้�าวกิ สันรรภลมะาท 8พ่เี-ส1ีย่ร0ง ถตแอ่กกสว้อ ุข นภาใพชทกุข.ค รกางั้ รนอนหลับวนั ละ 8 ชัว่ โมง ค. สมหญ คงิ . รสูกากึ รรงบั วปงรจะทงึ าแนอวาะหพารกัหมทักีป่ ดอม ง นํา้ มงัน. กกอารนออกก�าลังกายวยั ละ 30 นาที ผฉูสบอบั น 4. งข.อใ ดสเมปชน5า.พ ยปกคฤข..จั ตจ บั พยัเิกศเรนั สรรธถษ่ยี ุกรงฐกรตมกรล่อิจมทส ับ ขุี่เบภสาา่ียพนงในตทขอ้อ่ีตใสดา ทขุงเ่ีจภปงั็นาลหพกั วษัดณขงชะ.. ค ว ว พสาง่ิงมฤตแตผวรกิิดดรุษปลรก้อมจตม นีิท ี่ได้รับการถา่ ยทอดจากยีน ก. กกาารรด6ร.ับ ม่ื กขขปน.อ.้ รใาํ้ ดกปะวไาัจทมรันจ่ถมายั ลกูีทเนสตะกั ยี่อ้อษงง8ะาตใ-่อนห1สกาุข0ารภรปาหแฏพมกเิ ส วักเธปทด็น่ดี สอ ี งิ่ งถแือวดเปล็น้อทมกัทขงษ่ีม..ะีผสลา� ทคกกา�ญั าาใหใรรน้เปนอก็นาออรโเรกนอคาก หต ําวัลรลบัอังดวกนั าลยะวยั 8ลชะ ัว่ 3โ0มงนาที ค. 5. กป.จ จ ยัเศเสรษ่ยี7.งฐ ตคงกก.า. อ จิรมสโครพีวุขครฤธหภตามิกลาน่ัรัสพรศซมกึเีใเมษสนียาย่ี ห ขง าทเอคปาวน็ใงาเดโมพรทครศเู้ท ก่เี ายี่ปเงปวพนกน็ นับัสลธสาุกกัเขุ หรภษรตามุสพณทา� อขคน่ี ะยญั.ับเู่คสวทมว่าี่ทพเอาปา� ใม ฤ็นหเพปต้เผกอ่ืจั กิิดดิใจหัยโรปรร้เครเ้สู ทกตี่ยมา่ งดิตทตตนทิัอ่่อเสทก่ีไขุ ี่สยี่ดภว�าราคกพบัญับั โใกรนคาขต้อรา่ ใงถดๆา ยทอดจากยีน 6. คข.อ ใ ดพไนั มธถ ุก กู รกคตร.. อมโโงรรคคธเอาดลสัส์ ซเี มยี ขง.. ง ภโ.ราควเะบสพารห่งิ อ่ วแงาเวนอ ดน ไลซอม ์มจ-ี 6-พดี ี 1. ตอบ ก. ขกไเห..นฮมโื่อาดงยกปรจถเาจาจงึ กรนจบมไพัยซุหฤีทยเรตาส่ีนกักิไ่ียนั้นรษรดงมะปตหไใรนอรนะอืโกสกตกอรุขาาบเรจภรไกปนปราดไะฏพดวทยอาํเิ สอขสอกาเธรงไปซบเทคดคุนมีด่คีตสแลีาอง่ิทงมๆถสี่แโมงอืวเทผนดเล่ีมยีปีอกลันรน อ ะตแททมลรบะากัทสตยษตอาี่มรสอะกีผสขุ สมัภุขลมาภําพนัทาคขพตําอัญภงใาไตหใพดนนแรเเกังปกอสงนาีนรโคิโซเรครึง่อคตอกาบินาคตรรรทวั วับั ารปรอสรงัะดคทคาามรนบอแอาลนหะมาสรองิ่ ทนแมี่วอรีดกสลไจซอ ดัดม 2. ตอบ ก. 3. ตอบ ก.คแเ.นลอ่ืะกงโจารราคกรขับธอ ปารขล.ะทสัแาลซนะอเี คมา.หยีเาปรน ทกี่ไเมาปรสปนะออ โางรดกกคนั ถ็ คทือวเาาปมงนเสพพยี่ ฤันงตตธกิ อ รุกกรารมรรเเสกมี่ยดิ ทงอตบุ ี่นอตั กับเิ หารวตเาุกเขิดอปโรงนค.เปชไน จมกไ จดนั ยับ งเแบสตอน่ียกองวยาตกเปอวนาสกพาขุฤรตภสกิ บู ารบรพหุมทรี่กี่ อ ใหเ กดิ 4. ตอบ7.ค.กง.อใทานบุกุรกตัขมคอาเิ หรเพีวปตขนับรแุฤตพขหตลี่อฤมดยตกิ าลกิน่ัรงงรใรศดรมมซกึ ทึ่งสเษอด่ีสว าตีนาจี่ยอขหกงสอ อ าทขุ ใภคกหาา.เวพกงเาปดิเนพมอยบุกพรศเตัฤวเู เิตนกหกิขตย่ีเอรุไปวรดคมกนง .ทาบัสมยี่เนโี สาออ่ื กเขุงหาจภสาตเกากสุอพดิ าาํอหอบุคายรตั ญั หเิเูหมสทตกั มมุด่ที าออกํางทใเปส่ีหเนพดุ เอกอ่ืาเหพิดใารหรโารทะร กไ่ีคเู มาทตรม ดาปี ิดม่ืรทสตะโนัรุยอาชเจทกนะท่สีย่ี าํซําวใงึ่ หคกเมม ัญบัอื่ปี รรโใบัะรนสปคทิรขตธะทอภิ า าาใงนพดๆ 5. ตอบ ค.กพเ.ขันา ไธปโุกจรระครสมเงอผเลดปกนสรคะ ทวาบมตผอิดสปขุกภตาิทพ่ีไดโรดับยกจาะกรถอาใหยทเกอดิ ดคจวาากมยผีนดิ ขป.สกตวนขิ โอเรศงรครษา เงฐบกกาาิจยหเทวปาํนาในปหจเกจิดัยโเรสค่ียภงอัยันไขเเนจื่บ็องตมาางจๆาไกดมง ีราายยไดนอย คตส.องิ่ กแวโาดรรลมคีสอ ธมุขภาาลเปวะัสนทสซด่ี ่งิหีเี ทมรี่ออื ียยไรูมอดบีกต็ไดัวเ รา ซึ่งมอี ทิ ธพิ ลตอการดงําเ.นินชภีวติาวแะลพะพรฤอตงกิ รเอรมนเปไน ซกมาร กจระ-ี ท6ํา-ขพองดีบุคี คลที่จะสง ผล 6. ตอบ ก. ปจ จัยเส่ยี งตอสขุ ภาพ เปน สถานการณ การกระทําหรอื ส่งิ แวดลอมท่ีมผี ลทาํ ใหประชาชนมีโอกาสเส่ียงตอ การเปน โรค 7. ตอบ ก. ซึ่งเกิดจากบุคคลไปมีพฤติกรรมที่เส่ียง เชน มีเพศสัมพันธโดยไมใชถุงยางอนามัย สําสอนทางเพศ มีเพศสัมพันธ กบั บุคคลท่มี ีพฤตกิ รรมเสย่ี ง เปน ตน 168

8. เมอ่ื ดม่ื เครอื่ งดม่ื ทม่ี แี อลกอฮอลเ์ ขา้ ไปในปรมิ าณทมี่ ากเปน็ ประจา� จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไร ตก.อ่ สทม�าอ ใงห้เป8น็. เตกโมร.่อ อ่ื สคดทมมื่จ�าอเใงคิตหรเ้ อ่ืปง็นดโมื่รคทจมี่ ิตแี อลกอฮอลเ์ ขา้ ไปในปรมิ าณทมี่ ากเปน็ ประจา� จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไร ข. ท�า ใหเ้ ป็น ขคโร.. คททสา�า� ใใมหห้เเ้ ซปอล็นงลโรพเ์ คกิดสิกมกาาอรรงบพวกิ มาขรึน้ ค. ทท�าา� ใใหห้เเ้ ซป9ลน็. ลงเโภพค. ์เราื่อกงชทวกว่ดิา�าะยใรกหกพใด้เันาปทรป็นรห่ีอ้่อภบนงางกว่ ววนัยเะองแมพาลรนนขะอ่ รแงไึ้นากเชซอไ้ กขนม าปไรซัญ์ แมลจห์ ะาจี-หอ-ี6น6ุบ-่ว-ัตพยิเพหดีงา ีตีดน อุ ภ ีนั า เกคดิเอจกาชกนก าไรดเมร้ ว่ามแลมว้ือขกับันจัดต้ังข้ึน ง. 9. เโพคร่ืองชกว่ าย รกใดัน1ทป0.ี่ห อ้ เคกมนง.. ือ่ ก่วพโโคคันยบรรเงงงแหกกา็นลาาเนรรพะเสมื่อรแงานกาไกรกมชาา�้ไ่ขนลกขบัตงั จ ์ปาปะลรเอญัขแด้าไเลหหปละใาน้าหอแ หนุบล่วง่ัตอยงขิเบ..ห งา ยาตโถมคนูกุขอุรท งภอันงั้กันขาาเดอ้รกคเบั รกแ่อืดิเ.ร งอกแจเลทกลา่าะีน่ เช กชกัคา้เนก.รนีย า้ี นไรคดเวมร้รท่วาา� คมแอื ลมข้อว้ือใดขกบั นั จัดตง้ั ขึ้น ก. โคร งการ เกขม.. ามรไีบอมแงจด่ขง้ดู ใับ้วหยค้ ครวูอาามจสานรยุก์ทสรนาาบนทันที ข. โครงการเรือ่ งเลา่ เช้าน้ี ค. โคร งการ สคง. กโรทราบนอกตคป์ณุ พลอ่ อคณุดแเมห่ขลองา้ เพ ่ือนใหม้ ารงบั . ถกู ทง้ั ข้อ ก. และ ค. 10. เม่อื พบ เหน็ 1เ1พ. เงอื่ม. อ่ืนนหกัก้าเม�ารเียลพนอ่ืงัมนคีจโวดะายมเบขคอิด้ากเวหไ่า็นปเปไมใ็นน่ตสรถแงากนหับทเลี่พไมอื่ง่ ด่ นอ ี นบแกัลาเะรบยียอนมกจถะุขงึแโ กทอป้ ษัญนัขหอดงาออบั บยแา่างยรไมรกุข ท่ีนักเรียนควรท�าคือข้อใด ก. มรบี อแ งจดงู้ดใ้วห ย้คคขกค... รวอูไพเหามยา็น่แมาจดสยสด้วาายมงนรคกเอวบัยกุ าาคชม์ทสวนคารนะมดิ ใาเคหาหดิบ้ไนน็ ขดอทอ้ กี งนัเพท่อื นี ข. ผฉูสบอบั น ค. โทร บอ1ก2.ค พงณุ .ฤ ตพแกิ สรอ่ ดรมงคคเสวุณย่ีามงแขค้อิดมใเดห่ขทน็ ่อีออนัยงต่าเรงพามยีเหอ่ืมตานกุผทลใ่สีหุดม้ ารับ ง. หา้ มเพอ่ื นกโ. ดขยบั บรถอยนกตว์ขณ่าะเมปนึ น็เมสา ถานที่ไมด่ ี และบอกถึงโทษของอบายมุข 11. เม่อื นักเ รยี นม ีคขค..ว าขขบัับมรรถถคยยดินนตตเ์์หใไนมข็นค่ ณาไดะมเทข่ีฝ็มต่ นขรตดั กงนถิรกนภบันยั ลเื่นพือ่ น นักเรียนจะแกป้ ญั หาอยา่ งไร ก. พไมย่แ าสยดา1มง3.ค เบกงอว..ุค าาคขวชมลยับักนครรลนุ่ถมุ่ะดิ จใใดกัเหรทหย่ีม้ไาน็ พีนดฤอย้ตนีกิกตร์ไรมมส่ เวสมย่ี หงมมาวกกทนีส่ิรดุภขัย. วัยเดก็ ข. ค. เห็น ดว้ ยก คบั . ค ววยั ผาูใ้ มหญค่ ิดของเพอื่ น ง. วัยชรา 8. ตอบ ข . ง.เอ ทลิ แแอสลดกงอฮคอวลาท์ มมี่ อี คยใู่ิดนเสหรุ าน็ จอะอยอก่าฤงทมธก์ิเี หดปตรผุะสลาทสว่ นกลาง ซงึ่ สง่ ผลทา� ใหเ้ ปน็ โรคสมองพกิ าร มอี าการสมองเสอ่ื ม 9. ตอ1บ2.ง . พปทฤรุกตะปสใีิกานทรชห่วรงลมเอทเนศสกยี่หาลูแงวข่วหอ้ นแใลว่ ดยะเงทปา็นนอี่ โตนัร่าคงตพๆริษทาส้งั ยรุหามนเร่วาือ้ยรกงงัาทนรีส่ าุดชการและหน่วยงานภาคเอกชน ได้ร่วมมอื กันจัดกิจกรรมรณรงค์ งง .. ขกกใเ..พน ารรโคามขขะรีคเปงบับั วก็นารรมากรถถคาติดรยยา่ ชเงหนน่วๆ็นยตตไเไตมม์์ขไว่อื ่ตาม่นณจรส่คะงเะตกปามแิันน็ ดลึน“ะเโอขเคาหมร็มจางทากขก�าตาใดั่ารหงเนเ้มฝพา่าิรื่อไยนมภตข่ ต่าบััยรง”ะตห้อ“นโงคกักรถางรึงกทโาที่จรษะงเขอดอาเหงชอลนบา้ะเาขยา้ พมอุขรารจษจนนา�า”หไปล“สโกี คู่กเลรางี่ยรกงใาทชร้ค่จี สวะงาไมมกเ่รรขุนาา้ นไแปตรทงป์ ี่แใลนหอ่งกดนาเหรนั้ ลแไกา้ด”้ป้ ัญฯลหฯา 10. ตอบ 11. ตอบ 12. ตอบ ก . คดเ.น งั ื่อนงข้ันจจาับกึงรคไมถว่สรยมามกีนาารตรถแ์ใคสนวดบขงคคณมุวตาะมนคทเอดิ ่ีฝงเหไนดน็ ้ตออยกา่าจงถมทนเี�าหในตหผุ้เลกลดิ่ืนแอลุบะรัตบัเิ หฟตังุซซึง่ ก่งึ อนั าแจลบะากดันเจบ็ หรอื เสยี ชีวิต 13. ตอบ ก . บง.เเุคพป ็นรคากขะลลเปบักุ่มน็ บรลวุคถยัุม่ คทจใลคี่ ดักทกึ ่ีมรทคพียะีม่นฤาตอพี นงกิ ฤรยรแตนลมิกเะตสทร่ีย์า�ไรตงมมามมา่สกใเวจสทมส่ีย่ี ตุดหงามมมคาววากกมรทนสู้ ่สี ริกึ ดุขภอัยงตนเองมากกวา่ การคา� นงึ ถงึ ผลทต่ี ามมา ดงั นน้ั จงึ ถอื วา่ วยั รนุ่ 13. ก. วัยรุ่น ข. วยั เด็ก ค. วัยผใู้ หญ ่ ง. วยั ชรา 169

14. ขอ้ ใดเป็นวิธีการจัดการกบั ความโกรธ ก. ทา� ลา ยข14า้ . วกขข.อ้ ใอดทเง�าปลน็ าวยิธขีก้าาวรขจอดั งก ารกับความโกรธ ข. ขไม.่พ ูดจไามกบั ่พใคดูร จากับใคร ค. พดู ค ยุ กบั15เ. พบค.คุอื่ คนพลใดู ดทคตยุ ่ีไ่อกไวบั ปเใ้นพจ้ีออื่ ยไนู่ใทดนี่ไส ้วถใ้ จาไนดก ้ ารณ์ทคี่ ับขนั งม.า กงแท.ส่สี ดดุ งอแารสมณดอ์ งอกอมาาโรดมยไมณส่ นอ์ ใจอใคกร มาโดยไมส่ นใจใคร 15. บก.คุ คนล�า้ใดฝต นอ่ ถไูกปเ นพกขคี้อ...อ่ื ยนนนนา�้าภู่ในบฝานานถใังูกถสชคกูคค้ ถนเ�าพับเพามื่อดูใานนโยหบตากัง้ตบ้สคอ้าาบับูบจใรกบัหบับเณ้สปเูบพุหน็ บ์ทือ่ตหุรนวั ค่ีรปอี่ ่ีรยับะา่ กงขนัดดุนั นั มากท่ีสดุ ข. นภา ถูกค16น. หงเ.มา กนาวิภกัยาเรถายี ูกนบโจต้ารอ้ กงจรกะาบั ชราพเกกัปกผรน็อ่ะนเปต นา๋ ถัวกั ือเปรบยี นรนสคะะวพกราไนัปนสลถอายนที่ใด เพอ่ื หลกี เลยี่ งสถานการณเ์ สย่ี ง ค. นวภิานาถา ใูกชโ1ค้จ7.รา� กบคกพ..คุ รคดู สสะลถวโใชดนาตหนสา้ตเลารกธีกิงอาเรกลรมบณี่ยรยงะต์กพะ า่ ฤเงับตๆปิก เรา๋พรถม่อื เือสนี่ยบงอแนลยะสสา่ ถะงาขงนพ.ด. กาาดุ รบร้าน่อณันนนเ์คลสกอ่ยีาอมรงพพตยอ่นิวอเันตนั อ ตรร์ ายได้อยา่ งเหมาะสม ง. 16. หากนกั เร ยี นตอ ้ ขกง.. ก สสาานวรชไอปพบเทนกั ยี่ดั วผเพกอ่บัอื่ นเนพไื่อป นดนๆ่ืม สกั เุรปเาน็ ใรนกยีลตุม่กึนรให้าคงญว่เสรมไอปสถานที่ใด เพอื่ หลกี เลยี่ งสถานการณเ์ สย่ี ง ก. สวนสาธารณะ ข. บอ่ นการพนัน ค. นนุ่ ชอบไปเท่ียวสถานที่ที่มคี นเยอะๆ เพราะท�าใหร้ ู้สกึ คึกคัก ง. นิ่มคบเพ่ือนทมี่ ีความประพฤติดแี ละอยู่ในท�านองคลองธรรม 17. บค.ุค คสลถใดาหน เลรีก1งิ 8เร.ล ม คกข่ยี ว.. ย างมกก์ตพราานุรรา่ วถฤแง่ากูรกตงลๆล งหกิ่า โทวมรตษาักยรดเถว้มตึงยอือกเนะาสไใรหรก่ยี ้รกั สู้ งบึกรแเเิสวยีลณใจะสถางน. การร้าณนเ์คสอย่ี มงพต่อวิ อเตนั อตรร์ ายไดอ้ ย่างเหมาะสม ก. สนช อบนัด งคเ.. พ กกือ่ ราะรนทกรา�ไะใหปท้เา� กดทดิ ี่ท่มืก�าาใรสหกเ้ รุรสะียาทคบใวนกามระตรเู้สทกึึกือ นร ทา้ ้งั งทางรา่ งกายและจิตใจ ผฉสู บอับน คข.. สนาุน่ วชไ อปบเท1ไ9ปย่ี. เวบขกท..คุ กค ่ยี ออลบั ้ออใวนมมเขสพไไปปอ้ ถใเทอื่รด�าียามนบนีพนญุ ดๆฤทนทต ี่วตกิ ัดรี่ทเรีไกปรทับม่ีมย็นคททคีุณ่ีเกุสกยนวีย่ าลันงยตเอใมุ่ยอ่านทอวใอันตินั หยตพะ์รรญๆาะย ่เเสพมรอาะท�าให้ร้สู ึกคึกคัก ง. น่มิ ค บเพือ่ นงค.. ท ออ่ีมมั้้นชชีคอวนบวเไพาปือ่เมลน่นๆปเ กมรมาคะเลอพ่นมฟพฤุติวตบเตออดิ ลรหท์แี ลีร่ งัล้าเนละอิกอนิเรเยยีทนอู่ใรนเ์ นท็ตเปา� ็นนปรอะจง�าคลองธรรม 18. คกว. ามกราุนรถแ กูรงล2 ง0ห.โ ททกคม..กั ษาษททะยดใกัักนถษษ้วกะะางึยกกราาอปกรร้อตคะาง่ิดอไกรร นัรอกแง ลกั ะหบลีกรเิเลวี่ยงณสถานกาขงร.. ณเ์ททสกัักี่ยษษงะะมกกหี าาลรราปตย่อฏปสิเรสู้ ะธก าร ยกเว้นข้อใด ค . ขคตก.. นารเอจกกงัดาาไกดรราใ้รวกหก่าห้รับากะคททลวาาง�าา่ มรทวโะกบตีท่รากัธย�าเคปเใวต็นหาวมอื เ้ ิธโสนกีกียราใรธหคหอวอลร้ กีกาูส้ เมกึลดี่ยรเ้วงสยู้สกกยีึกาารใร ใจพช ้คดู วคายุ มกรับุนเแพร่อื งนทท่ีเหไ่ี วมใ้ าจะสแมละคหอายกใหไม้ค่ส�าาปมราึกรษถาจแัดนกะานร�ากไับดค้ วามโกรธของ 14. ตอบ 15. ตอบ ข . ง.กเน า อื่รงเกมจารายกะาผบททู้ า้ กี่า�จอ่นใเหทห�าต้เรกไุ า้มยิดส่ ผาก้ทูมาีถ่ารกูรถจกคบั รวเบปะน็คทมุตบคัวปวการมระรกะสู้ันเกึทในหอื ไ้กึ ดนค้รดิ ทับบั้งหาทรดอืเาจย็บงบั รยงั้ห่าชรงงั่ ือกใเจสาขียอยชงวีแติตนลไดเะอ้ จงไิตด้ใจอาจเกดิ ภาพหลอนอนั เนอ่ื งมาจาก 16. ตตออ1บบ9.งก .. บกทกก.ุค าีส่าครร ดุ พหอลักลอเใพผีกนม่อรเลนาขไี่ยะเเปปอ้งตพ็น็มใเฤกรดไปตายี มรดิกนท้วรพี ย�ารดใตฤมหนน้ เต้รสไต่ามี่ยิกง้งรกรแคไีารลยวทมะาแสมยลทรถะทม่สาเ่ี รนมกุสืน่ อกวี่ยงาันไงรแดณลตอ้ผะ์เ่อ่อาคสนวทอ่ียาคงมนัติ ลตเงายต่อยยี อ์รบันาสตยงซรบึ่งากยาจเหระไมชป่าวะพยแทักก�าผ่กใ่อหานร้บทพุคี่สกั ควผลน่อสนสามามธาาากรรทถณสี่ ระดุอถดือพเป้น็นจสาถกาพนฤทตี่ทิก่ีเรหรมมาะแสลมะ 17. ขสท. ่ีดถ าี น อเพกอ้ ราามระณนไ์เปอสกย่ีทจงา�าไกดบจเ้ ปะุญช็นว่ อทยยใ่วีา่หงัดเ้ ดรากี รบัอซดึง่ คกพณุา้นรจคยาบกาเอพยันื่อใตนนรทวามี่ยนัีคแวลพาว้ มรปยะรงั ะชพ่วฤยตใหดิ ้เแีรลาตะอ้ังยมู่ในั่ นอทยา� ใู่ นนอพงฤคตลกิ อรงรธมรทรี่ดมกงี า็ถมอื ตเปาม็นไกปาดร้วหยลกี เลี่ยง 18. ตอบ ง . คง.ทชห. มุ มา� ชใ าหนย ออบ้ถม้ั้นงึคุซคง่ึชชกมลอวผาีเกรลนบแดิทสเไกา� พดใปาหงร่ือเเ้อสกลอนญูดิ กน่ เกๆหสเาร ยีรกอือมกกมสิราาระครเทภกลอบารพน่กมะบรทฟพาะา� เงโทตุดวิปอื ยรบเนเะตจกอทตอาง้ัลนรทรหาาท์ใงชลรรี่ก้ า่ังา�้างลเกนลงั ากอยิกาแินยเลระเจียคทติา�นอพใจดูร์เตนหลรต็ออื ดอเจปา� นนน็ กาจาปขรม่จรข�าะใู่กนจดั ก�าสาทิรธตเิอ่สตรา้ ภี นาตพนสเว่ อนงบคุผคอู้ นื่ล หรอื หรอื 19. ตอ2บ0.ง . ทมเักน่วั อ่ืสษงมุ ะจตาใา่กนงรๆกา้ นซาง่ึอรอนิ าปเจทอ้กอ่อรงใเ์ กนหต็เ้ันกใิดนแอปลนัจั ะตจหบุรานั ลยเไปีกดน็ เ้งสลา่ ยถยี่ านงทสเี่ ถปดิ าในหค้ กนาหรลณาก์เหสลาย่ี ยงรปูมแหีบบลเขาา้ ยมาปใชรบ้ ะรกกิ าารรซ ง่ึ ใยนบกาเงวทน้อ่ี าขจใ้อชเ้ใปดน็ แหลง่ 20. ตอบ ข . กคจเ..น ะอชื่ ว่งททยจปากัักก้อษษเงปกะะน็ ันกกทกัาาษรระตคทกี่อด่ิ อ่ ร ใหอเ้ กงดิ ความรนุ แรงจนอาจนา� ไปสกู่ งขา.ร. มพี ททฤตกัักกิ ษษรระะมกกเสาาย่ี รรงแปตลอ่ฏะสสเิ ถสู้านธก าร ณเ์ สย่ี งตอ่ อนั ตรายไดแ้ ทนท่ี 170

10หนว่ ยท่ี การชว่ ยฟน้ื คืนชพี อบุ ตั เิ หตเุ ปน็ สง่ิ ทสี่ ามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากเราพบเห็นหรือก�าลังตกอยู่ใน ผฉูสบอับน สถานการณ์น้ันๆ การมีทักษะปฏิบัติในการช่วยฟื้นคืนชีพ จะสามารถท�าให้เราหรือ ผปู้ ว่ ยรอดชวี ติ หรอื ชว่ ยลดความรนุ แรงของการบาดเจบ็ ลงได้ ดงั นนั้ การศกึ ษา เรยี นรแู้ ละ ฝึกทักษะปฏิบัติในการช่วยฟื้นคืนชีพให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งจ�าเป็น เพอื่ จะได้นา� ความรู้ดงั กล่าวไปช่วยเหลือผู้อนื่ ให้ปลอดภัยได้ในสถานการณ์ต่างๆ ตวั ชี้วัดชัน้ ปี KEY QUESTION •ม าตแรสฐดางนวิธพีกา5ร.ช1่ว(ยมฟ.3้ืน/5ค)นื ชีพอยา่ งถูกวธิ ี 1. เหตุใดเราจึงควรที่จะเรียนรู้วิธีการ ช่วยฟื้นคืนชพี •ส ารวะธิ กีกาารรชเว่รยียฟน้นื รคู้แืนกชนีพก ลาง 2. หากพบเจอผู้ท่ีอยู่ในสถานการณ์ ท่ีเป็นอันตรายต่อชีวิต นักเรียนจะ Teacher’s Guide สามารถชว่ ยเหลอื ไดห้ รอื ไม ่ อยา่ งไร ประเด็นทีจ่ ะศึกษาในหนวยนี้ ไดแก 1. ความรทู ่วั ไปเกีย่ วกบั การชว ยฟนคนื ชีพ 2. หลกั การชว ยฟน คนื ชพี 3. ข้ันตอนปฏบิ ตั ใิ นการชวยฟน คนื ชีพ 4. วิธีการชว ยฟนคนื ชีพในสถานการณต า งๆ ทักษะการคิดท่สี ัมพนั ธก บั ตัวช้วี ดั ในหนว ยนี้ ไดแ ก ● ทกั ษะการนาํ ความรไู ปใช 171

มฐ. พ 5.1 Teacher’s Guide ตัวชีว้ ดั ม. 3/5 ใหนักเรยี นศึกษาความรูทว่ั ไปเกยี่ วกับการชวยฟนคนื ชีพจากหนังสือเรยี น หรือแหลง เรียนรูเพ่ิมเตมิ ตางๆ โดยครรู ว มอธิบายเพม่ิ เตมิ ในรายละเอียดเพอ่ื ใหเ กิดความเขา ใจมากขน้ึ เดก็ ควรรู 1. ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั การชว่ ยฟน้ื คนื ชพี ผปู้ ่วยทหี่ ัวใจหยดุ เตน้ กะทนั หัน เปนภาวะท่ีการ จำ� เปน็ ต้องไดร้ ับกำรชว่ ยเหลือให้ ไหลเวียนเลือดหยุดลง การช่วยฟื้นคืนชีพ หรือ CPR (Cardiopulmonary เรว็ ทีส่ ดุ เนื่องจำกสมองและหวั ใจ อยางสิ้นเชิง ทราบได Resuscitation) หมายถงึ การชว่ ยเหลอื ผทู้ ห่ี ยดุ หายใจหรอื หวั ใจ จะหยดุ ท�ำงำน ถ้ำขำดออกซิเจน จากการหมดสติไมมีการ หยุดเต้น ให้มีการหายใจและการไหลเวียนกลับคืนสู่สภาพเดิม นำนเกนิ กวำ่ 5-8 นำที เคลอื่ นไหว ไมม อี าการไอ อกี ทง้ั ยงั ปอ้ งกนั เนอ้ื เยอื่ ไม่ใหไ้ ดร้ บั อนั ตรายจากการขาดออกซเิ จน คลาํ ชีพจรไมได ไมม กี าร อยา่ งถาวร โดยมวี ิธกี ารช่วยฟืน้ คืนชีพ 2 วธิ ีร่วมกนั ซง่ึ เรียก หายใจอยางที่เปนตาม รวมกันว่า “การฟน้ื ปอดและหัวใจ” ดังน้ี ปกติ ซ่ึงเกิดจากหลาย 1) การฟน้ื ปอด (Pulmonary Resuscitation) เปน็ การชว่ ย สาเหตุ เชน หัวใจวาย ผ้ปู ว่ ยทางดา้ นระบบหายใจ ให้ผปู้ ว่ ยหายใจไดต้ ามปกติภายหลงั หรืออาจเกิดขึ้นตามหลัง ทห่ี ยดุ หายใจ เพอื่ กา� จดั ภาวะการขาดออกซเิ จนของอวยั วะตา่ งๆ ภาวะหยดุ หายใจ เปน ตน 2) การฟน้ื หวั ใจ (Cardiac Resuscitation) ตัวซดี ผฉูส บอับน และเขียว เป็นการชว่ ยผ้ปู ่วยที่หวั ใจหยดุ เต้น หอบ เดก็ ควรรู ใหห้ ัวใจทา� งานไดป้ กตภิ ายหลงั ที่ หายใจล�าบาก ฟงั เสียงหัวใจ คืออาการหายใจ หรอื หำยใจกระตุก และคลำ� หวั ใจเต้น รมู า่ นตาขยาย ลํ า บ า ก แ ล ะ มั ก จ ะ มี หยุดหำยใจ ไม่ได้ อาการหายใจเร็วรวม หยดุ หายใจ ซึ่งเริ่มเกดิ ดว ย ซงึ่ สงั เกตไดจ ากการ การชว่ ยฟน้ื คนื ชพี เมอ่ื หวั ใจหยดุ ไป 45 วินำที หายใจท่ีเร็วขึ้น ซี่โครง ดงั กล่าวขา้ งตน้ ถอื เปน็ ไม่รู้สติ วัดความดันโลหิต บานออก ทรวงอกยก การชว่ ยชวี ิตขนั้ พ้นื ฐาน และขยำยกวำ้ งสดุ ข้ึ น ข ณ ะ ห า ย ใ จ เ ข  า เกดิ ขึน้ เมื่อ คล�ำชีพจรข้ำงๆ คอ เมอ่ื ถึง 1 นำที ชองที่อยูระหวางและ หัวใจหยุดเตน้ ไป ข้อพับ หรือขำหนีบ เหนอื ซโี่ ครงบมุ ลง หายใจ ซึ่งผปู้ ฏบิ ัตกิ ารชว่ ยเหลือ 3-5 วินำที หรืออำจมอี ำกำรชกั เสยี งดัง ไม่ได้ และตำค้ำง จา� เป็นตอ้ งรู้ถงึ อาการและอาการแสดง โดยสามารถสงั เกตลกั ษณะของผปู้ ว่ ยทห่ี วั ใจ หยดุ ทา� งานได ้ ดงั แผนภาพ 172 172

Teacher’s Guide ใหน กั เรยี นออกมาสาธิตและอธิบายวธิ กี ารเปด ทางเดินหายใจ ซง่ึ ครู อาจนําหนุ จําลองมาใหน ักเรียนฝก สาธติ เพ่ือความปลอดภยั และเนนย้าํ จดุ ท่ี อาจจะผดิ พลาดไดงา ย เชน การจดั วางศีรษะ เปน ตน 2. หลักการช่วยฟ้นื คืนชพี ลบั สมอง การช่วยฟื้นคืนชีพข้ันพ้ืนฐานน้ันมีหลักการใหญ่ๆ ท่ี หลกั การชว่ ยฟน้ื คนื ชพี ทผ่ี ชู้ ว่ ยเหลอื ผชู้ ว่ ยเหลือจา� เปน็ ต้องทราบ ซงึ่ ประกอบด้วย การเปดิ ทางเดิน จา� เปน็ ตอ้ งทราบ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง หายใจ การช่วยหายใจ และการนวดหัวใจ หรือท่ีรวมเรียกว่า ABC (The ABC of Resuscitation) ดงั นี้ เดก็ ควรรู หมายถึง ชอง 1) การเปดิ ทางเดินหายใจ (Airway : A) เปน็ การชว่ ยเปิด ทางทอ่ี ากาศเขา และออก ทางเดินหายใจให้โล่ง ไมม่ สี ง่ิ กดี ขวางหรืออุดตนั ทางเดนิ หายใจ ในระบบทางเดินหายใจ ซึง่ เป็นการปฏิบตั ขิ ้ันแรกท่ตี อ้ งท�าอย่างรวดเร็ว เพราะเน่อื งจาก ไดแ ก โพรงจมกู ชอ งปาก โคนลิ้นและกลอ่ งเสียงจะตกลงไปอดุ ทางเดินหายใจ ซงึ่ การเปดิ ชองคอ และหลอดลม ทางเดนิ หายใจมแี นวทางปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1. จดั ศรี ษะผปู้ ว่ ยใหอ้ ยตู่ ำ�่ กวำ่ IT ผฉูส บอับน ล�ำตัว โดยหันหน้ำตะแคง ไปทำงด้ำนใดด้ำนหนึ่ง ให้ ผู้ช่วยเหลือใช้น้ิวพันด้วย ผำ้ บำงๆ กวำดในปำก เพื่อ ก�ำจัดส่ิงท่ีกีดขวำงทำงเดิน หำยใจออก 2. เม่ือแน่ใจว่ำไม่มีส่ิงติดค้ำง เด็กควรรู อยู่ในล�ำคอให้ยกคำงขึ้น เพอื่ ปอ งกนั ไมใ ห ร่วมกับกำรกดหน้ำผำกให้ ลน้ิ ตกลงไปปด กนั้ หลอดลม หน้ำแหงน เรยี กว่ำ “Head Tilt Chin Lift” แล้วจึงช่วย หำยใจต่อไป IT 173 173

IT คน หาขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั การดแู ลระบบทางเดนิ หายใจ โดยสมาคมเวชศาสตรฉ กุ เฉนิ แหง ประเทศไทย ไดท ี่ www.taem.or.th เดก็ ควรรู 2) การชว่ ยหายใจ (Breathing : B) เปน็ การชว่ ยเนอ่ื งจาก เพ่ือชวยไมใหลม การหยุดหายใจ เพราะถึงแม้ว่าร่างกายจะมีออกซิเจนคงอยู่ใน ทเี่ ปา เขา ทางปากไหลออก ปอดและกระแสเลือด แต่ไม่มีส�ารองเอาไว้ใช้ เมื่อช่วยให้ผู้ป่วย ทางจมูกของผปู วย มีทางเดินหายใจโล่งแล้ว ให้ตรวจสอบดูว่าผู้ป่วยหายใจได้เอง หรอื ไม่ ถ้าผปู้ ว่ ยหยุดหายใจ หรือหายใจเบามาก จะต้องทา� การ ช่วยหายใจทันท ี ดงั น้ี 2.1) ปากตอ่ ปาก (Mouth to mouth) ปฏิบตั ิได้ ดงั นี้ การชว่ ยหายใจ : แบบปากตอ่ ปาก 1 ผ้ชู ่วยเหลอื 2 ใช้นิ้วหวั แม่มือและนิว้ ชี้ จบั ศรี ษะ ของมอื ท่ีวำงบน ผู้ป่วย หน้ำผำกผูป้ ว่ ย แหงนข้นึ บบี จมกู ของ เพ่ือเปิด ผปู้ ว่ ยไว้ ทำงเดิน ผฉูสบอบั น หำยใจ ใหโ้ ลง่ เด็กควรรู 3 ใหผ้ ูช้ ว่ ยเหลอื สูดหำยใจเข้ำใหเ้ ตม็ ท่ีแลว้ 4 ฟงั เสยี งลมหำยใจและสงั เกตดวู ำ่ หน้ำอก เปนลักษณะของ การรับอากาศเขาไปเพื่อ ประกบปำกให้แนบสนทิ กับปำกของผู้ปว่ ย ของผู้ป่วยยุบลงหรอื ไมห่ ลงั จำกเป่ำปำก ใหไดออกซิเจน และเปา พรอ้ มทัง้ เปำ่ ลม ครั้งแรก ถำ้ หำกได้ผลดคี วรท�ำซ้ำ� กนั อีก ออกซิเจนเขาไปบริเวณ เข้ำไปในปำก ประมำณ ทางเดินหายใจ ซ่ึงอาจ ของผ้ปู ่วย 4 คร้งั มีคารบอนไดออกไซด เสรจ็ แลว้ ติดต่อ เจือปนอยูบาง แตก็จะมี ถอนปำก กนั ปริมาณท่ีนอยกวาการ ออก เปาลมออกจากรางกาย โดยตรง 2.2) ปากตอ่ จมกู (Mouth to nose) ใชใ้ นรายทม่ี กี าร บาดเจบ็ ในปาก หรอื ในเดก็ เลก็ ซง่ึ ตอ้ งปดิ ปากผปู้ ว่ ยกอ่ น แลว้ เปา่ ลมหายใจเขา้ ทางจมูกแทน 174 174

เดก็ ควรรู เดก็ ควรรู ระวังอยากดบริเวณ เพอื่ ใหแ รงกดเกดิ กระดกู ซีโ่ ครง เพราะอาจทําให ทจ่ี ดุ ๆ เดยี วเทา นน้ั ทาํ ให กระดูกหักและเปนอันตรายได แรงดังกลาวเขาไปบีบ ใหหัวใจบีบตัวและสูบฉีด 3) การนวดหวั ใจ (Circulation : C) เปน็ การกดนวดหวั ใจ เลือด ให้มีการไหลเวียนของเลือดในรายท่ีภาวะหัวใจหยุดเต้น โดยมี หลกั การ คอื ต้องกดใหก้ ระดกู หนา้ อกลงไปชดิ กบั กระดูกสนั หลงั ผฉสู บอับน ซึ่งจะท�าให้หัวใจท่ีอยู่ระหว่างกระดูกท้ังสองอันน้ีถูกกดไปด้วย ท�าให้มีการบีบเลือดออกจากหัวใจไปเล้ียงร่างกายเสมือนกับการ 175 บีบตวั ของหัวใจ ซึ่งมวี ธิ กี าร ดงั นี้ 1. จดั ใหผ้ ปู้ ว่ ยนอนหงำยรำบบนพนื้ ทแ่ี ขง็ แตถ่ ำ้ พนื้ ออ่ นนมุ่ ใหส้ อด ไมก้ ระดำนแขง็ ใตล้ ำ� ตวั เพ่ือให้เกดิ แรงต้ำนขณะที่นวดหวั ใจ 2. บริเวณที่ท�ำกำรนวดหัวใจ คือ กระดูกหน้ำอกเหนือรอยต่อ IT ของกระดกู ลน้ิ ป่ี โดยคลำ� หำปลำยกระดกู ลน้ิ ปแ่ี ลว้ วดั จำกปลำย กระดูกลิน้ ปีข่ ้ึนมำประมำณ 3 น้วิ มือ 3. ใหว้ ำงสนั มอื ซอ้ นกนั บนกระดกู หนำ้ อกทตี่ ำ� แหนง่ นนั้ ซง่ึ อำจใช้ น้วิ มอื ประสำนกนั เพื่อปอ้ งกนั ไม่ใหก้ ดกระดกู ซ่โี ครงจนหกั 4. ขณะนวดหัวใจผู้ช่วยเหลือต้องยืดไหล่และแขนเหยียดให้ตรง โนม้ ตวั ไปขำ้ งหนำ้ กดไหลล่ งโดยไมง่ อขอ้ ศอก ปลอ่ ยนำ้� หนกั ตวั ผำ่ นจำกไหลไ่ ปสูล่ ำ� แขนทั้งสองขำ้ ง และลงไปสกู่ ระดกู หน้ำอก ในแนวตง้ั ฉำกกบั ลำ� ตวั ของผปู้ ว่ ย กดลงไปในแนวดง่ิ ลกึ ประมำณ 1.5–2 น้วิ 30 ครัง้ โดยนับเป็นจงั หวะ 1 และ 2 และ 3 และ 4 ไปจนครบอยำ่ กระแทก 5. ผ่อนมือหยุดค้ำงไว้เล็กน้อย ไม่ต้องยกมือออกจำกหน้ำอกของ ผปู้ ่วย เปน็ กำรปอ้ งกนั กำรกระแทกรนุ แรงในกำรนวดครัง้ ตอ่ ไป โดยให้เวลำที่กดเท่ำกับเวลำที่ปล่อย เพื่อให้กระดูกหน้ำอก กลบั คืนสู่ท่เี ดมิ อกี ทง้ั ยังเป็นกำรให้เลอื ดไหลคนื สหู่ ัวใจ จำกนนั้ ใหเ้ ร่ิมต้นนวดอีกครง้ั 175

Teacher’s Guide ใหน ักเรยี นเขยี นสรุปขัน้ ตอนการปฏิบตั ใิ นการชวยฟนคืนชพี เปน แผนผังความคิด 3. ขั้นตอนปฏบิ ตั ใิ นการช่วยฟ้ืนคืนชพี การชว่ ยฟน้ื คนื ชพี ผชู้ ว่ ยเหลอื จ�าเปน็ ตอ้ งทราบขน้ั ตอน ในการปฏบิ ัต ิ เพ่ือให้ทราบว่าควรเร่มิ ตน้ ชว่ ยเหลอื อย่างไร และ ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรตอ่ ไป ใหผ้ ปู้ ว่ ยไดร้ บั การชว่ ยเหลอื อยา่ งถกู วธิ ี และปลอดภยั มากท่ีสดุ ซึ่งขน้ั ตอนปฏบิ ัติในการช่วยฟน้ื คืนชีพมี ดงั นี้ 1. ดูการตอบสนองของผู้ป่วย โดยดวู า่ ผปู้ ว่ ยยงั ร้สู ึกตวั การประเมินการหายใจของผู้ป่วย โดย หรอื ไม ่ โดยอาจจะใชก้ ารเขยา่ ตวั เบาๆ หรอื ถามเสยี งดงั ๆ หาก วิธีการฟัง ซ่ึงเป็นการประเมินว่าได้ยิน ผู้ป่วยไม่มีการตอบสนองกลับมาแสดงว่าไม่รู้สึกตัว หรืออาจใช้ เสียงอากาศผ่านออกมาทางจมูกหรือ ปากของผู้ป่วยหรอื ไม่ วิธีการประเมินการหายใจของผู้ป่วย “ตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส” (Look Listen and Feel) ● Look คอื ดูการเคล่อื นไหวของทรวงอก และท้อง ว่ามกี ารยกตัวข้ึนหรอื ไม่ หรือมกี ารหายใจหรือไม ่ เพอ่ื ประเมนิ การหายใจของผูป้ ่วย ● Listen คือ ฟังเสียงลมหายใจ โดยเอียงหูของ ผฉสู บอบั น ผชู้ ว่ ยเหลอื เขา้ ไปใกลบ้ รเิ วณจมกู และปากของผปู้ ว่ ยวา่ ไดย้ นิ เสยี ง อากาศผา่ นออกมาทางจมูกหรอื ปากหรอื ไม่ ● Feel คอื สมั ผสั โดยการใชแ้ กม้ ของผชู้ ว่ ยเหลอื เดก็ ควรรู เพื่อชวยลดการ สมั ผสั กบั ความรสู้ กึ วา่ มลี มหายใจผา่ นออกจากปากหรอื จมกู ของ ทํางานของหัวใจ และ ผู้ปว่ ยหรอื ไม่ ชวยใหเลือดสามารถไป 2. ขอความช่วยเหลือจากผู้อ่ืนท่ีอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เล้ยี งสมองได แต่ถ้าไม่มีใครอยู่ในบริเวณน้ัน ก็จะต้องท�าการช่วยเหลือด้วย ตนเอง โดยจดั ทา่ ของผปู้ ว่ ยใหอ้ ย่ใู นทา่ นอนหงายราบบนพนื้ เรยี บ ทแี่ ขง็ พอสมควร จากนน้ั กท็ า� การจดั ใหศ้ รี ษะของผปู้ ว่ ยอยตู่ า�่ กวา่ ระดบั หวั ใจ 3. เร่ิมข้ันตอนตามหลักการช่วยฟื้นคืนชีพข้ันพ้ืนฐาน ABC คือ ● ขัน้ ตอนที่ 1 Airway : การเปิดทางเดินหายใจ ลบั สมอง ● ขนั้ ตอนท ี่ 2 Breathing : การชว่ ยหายใจ เม่ือพบผู้ป่วยท่ีจ�าเป็นต้องช่วย ● ขั้นตอนท ่ี 3 Circulation : การนวดหัวใจ ฟื้นคืนชีพ นักเรียนควรปฏิบัติสิ่งใด เปน็ อันดบั แรก 176 176

4. กรณีที่มีผู้ช่วยเหลืออยู่คนเดียว ผู้ช่วยเหลือจะต้อง นวดหวั ใจและชว่ ยหายใจดว้ ยวธิ ปี ากตอ่ ปากสลบั กนั โดยนวดหวั ใจ ด้วยการนับจา� นวนครง้ั ทก่ี ดเป็น 1 และ 2 และ 3 ไปจนครบ 30 คร้ัง แล้วจึงสลับกับการช่วยหายใจด้วยวิธีปากต่อปาก 2 คร้ัง ซง่ึ ถือเปน็ 1 รอบ หลงั จากท่ีปฏิบตั ิครบ 4 รอบ ให้ตรวจชพี จร และการหายใจอกี ครงั้ แตถ่ า้ คลา� ชพี จรไมพ่ บใหก้ ดหนา้ อกตอ่ ไป หรอื ถา้ คลา� ชพี จรไดแ้ ตผ่ ปู้ ว่ ยไมห่ ายใจ ใหช้ ว่ ยหายใจดว้ ยวธิ กี าร ปากตอ่ ปากต่อไป ในการช่วยฟื้นคืนชีพ จะต้องให้การ 5. กรณที ี่มีผูช้ ว่ ยเหลือ 2 คน ใหผ้ นู้ วดหวั ใจกด 5 ครั้ง ชว่ ยเหลอื อย่างรวดเร็วและต่อเน่อื ง อยา่ ตดิ ตอ่ กนั เปน็ จงั หวะโดยไมห่ ยดุ สว่ นผชู้ ว่ ยหายใจตอ้ งชว่ ยหายใจ หยดุ การชว่ ยชวี ติ นานเกนิ กวา่ 5 วนิ าที ใหไ้ ด้จังหวะพอเหมาะ โดยเม่อื ผ้นู วดหัวใจกดครั้งท ี่ 4 ใหผ้ ู้ช่วย เป็นอนั ขาด หายใจสดู หายใจเตม็ ท ี่ จบั ศรี ษะผปู้ ว่ ยแหงน ประกบปากกบั ปาก ผปู้ ่วยให้สนิท พอผู้นวดหวั ใจกดครัง้ ท ี่ 5 ให้ผู้ช่วยหายใจเป่าลม เข้าปากผู้ป่วย แล้วผู้นวดหัวใจก็จะนับครั้งที่ 1 ใหม่ จนถึง 5 ซึ่งผ้ชู ่วยหายใจกช็ ่วยหายใจเวียนไปเรื่อยๆ หากมกี ารสับเปลีย่ น หนา้ ทกี่ นั ระหว่างผู้นวดหวั ใจ และผู้ช่วยหายใจ ควรตอ้ งมกี ารให้ ผฉูสบอับน สญั ญาณลว่ งหนา้ และเปลยี่ นหนา้ ทก่ี นั อยา่ งรวดเรว็ โดยไมท่ า� ให้ การช่วยฟน้ื คืนชพี หยุดชะงกั การช่วยฟ้นื คืนชีพในกรณที ่ีมผี ้ชู ว่ ยเหลือ 2 คน 177 177

สงิ่ สาํ คญั ในการชว ยฟน คนื ชพี Teacher’s Guide คอื อะไร ใหน ักเรียนจบั สลากเลอื กวิธีการชว ยฟน คืนชพี ในสถานการณต า งๆ เพ่ือนาํ เสนอใน รูปแบบบทบาทสมมติ 4. วธิ ีการช่วยฟื้นคืนชพี ในสถานการณ์ต่างๆ ผ้ปู ว่ ยทีป่ ระสบอบุ ตั เิ หตอุ ำจไดร้ บั อนั ตรำยรุนแรง จนถึงขน้ั เสียชีวิต การช่วยฟื้นคืนชีพจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยท่ีก�าลัง หำกไม่ไดร้ บั กำรชว่ ยเหลืออยำ่ ง จะเสียชีวิตในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การจมน้�า ส�าลักควันไฟ ไฟฟ้าช็อต หัวใจวาย ภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ให้สามารถ ทันทว่ งทีนะครบั ฟน้ื คนื ชพี ขนึ้ มาได ้ กอ่ นจะนา� ผปู้ ว่ ยสง่ แพทยห์ รอื สถานพยาบาล ต่อไป เดก็ ควรรู 4.1 จมน้�า เปน อาการทบ่ี อก การจมน�้า (Drowning) โดยท่ัวไปผู้ป่วยจะเกิดอาการ ถงึ การขาดออกซเิ จนและ หายใจไมอ่ อกหรอื หายใจไมเ่ ขา้ เพราะหายใจเอานา้� เขา้ ไปแทนท ่ี หยุดหายใจ ผูชวยเหลือ ซง่ึ เปน็ ภาวะทเี่ สย่ี งตอ่ การเสยี ชวี ติ สงู หากไมไ่ ดร้ บั การชว่ ยเหลอื ตอ งทาํ การชว ยหายใจกนั อยา่ งทนั ทว่ งที อยางเรงดวน ทั้งน้ีควร จะต้ังสติและตรวจสอบ อาการ ชอ งทางเดนิ หายใจกอ น 1. ปากซดี หนา้ และลน้ิ บวม ผฉูส บอบั น 2. หายใจตดิ ขดั และตอ่ มาหยุดหายใจ ชีพจรเบาลงจนหัวใจหยุดเตน้ และเสียชีวติ ได้ เด็กควรรู การช่วยฟ้ืนคนื ชพี เพ่ือปองกันการ 1. ตรวจสอบการหายใจและคล�าชพี จรทนั ท ี ถา้ ไมห่ ายใจให้ชว่ ยหายใจดว้ ยวิธปี ากตอ่ ปาก เกิดปวดบวมเนื่องจาก หรอื ถ้าหัวใจหยดุ เตน้ ใหป้ ฏิบัติการนวดหวั ใจตามที่ไดก้ ลา่ วมาแล้วในหลักการชว่ ยฟ้ืนคนื ชีพ การจมน้ํา 2. ถา้ ตอ้ งการเอาน�า้ ออกจากกระเพาะอาหารและปอด ใหป้ ฏบิ ตั โิ ดยวิธีใดวธิ หี น่ึง ดงั น้ี - ใช้นิ้วมือล้วงคอให้อาเจียน - จบั แบกพาดบ่า ให้บรเิ วณท้องอยบู่ นบ่า ศีรษะหอ้ ยลงไปด้านหลงั และพาวง่ิ ซึ่งจะ ชว่ ยเขย่าให้น�า้ ออก - ใหผ้ ูป้ ว่ ยนอนคว�่า ผชู้ ว่ ยเหลือยืนคร่อมผู้ป่วยตรงระดับสะโพก โดยหนั หนา้ ไปทาง ศรี ษะของผปู้ ่วย จากนั้นใชม้ ือท้ังสองขา้ งจับบริเวณใตช้ ายโครงทงั้ สองขา้ งของผ้ปู ว่ ยแล้วยกขน้ึ และวางลงสลับกัน ซงึ่ จะทา� ใหน้ า้� ออกทางปากและจมูก โดยจะชว่ ยใหผ้ ู้ปว่ ยเร่มิ หายใจไดบ้ า้ ง 3. เรม่ิ ผายปอด เม่อื ผปู้ ว่ ยเร่ิมหายใจ 4. ใหค้ วามอบอุ่นแกร่ า่ งกาย โดยการใช้ผา้ หรือเสอื้ หนาๆ คลุมร่างกายของผู้ปว่ ยไว้ และ คอยหม่นั เชด็ ตวั ผูป้ ว่ ยให้แห้ง 178 178

5. เมอ่ื ผปู วยฟนหรือเร่ิมรูสึกตัวใหจ ิบกาแฟดาํ หรอื บรั่นดีเล็กนอ ย เพอ่ื ชว ยกระตุนหัวใจ เด็กควรรู แตถา ยงั ไมฟน อยา ใหผปู วยดื่มอะไรไปท้งั ส้ิน และอยาเลิกใหค วามชวยเหลอื โดยจะตอ งทําการ เน่ืองจากระบบ ชวยฟนคืนชีพตอไป ไหลเวยี นโลหติ และระบบ ห า ย ใ จ มี ก า ร ทํ า ง า น 6. รีบนําสงสถานพยาบาล ที่ สั ม พั น ธ  กั น โ ด ย ต ร ง ขอ ควรระวัง การกระตุนใหหัวใจเตน ภายหลังท่ปี ระเมนิ การหายใจแลว พบวา ผูปวยหมดสติเมื่อทาํ การเปดทางเดินหายใจแลว จึงเปนการไปกระตุนให ผูปวยยังไมหายใจ และถาไมส ามารถชว ยชวี ติ ดว ยวธิ ีปากตอปากได ใหเ ริม่ ปฏบิ ัติการ ดงั น้ี เกิดการหายใจดวย และ 1. จดั ทา ศรี ษะใหมใหถ ูกตอ ง พยายามชว ยหายใจดวยวธิ ีปากตอ ปากอกี คร้ัง ในทางกลับกนั หากหยุด 2. ถาชว ยหายใจแลว ยังเปา ลมไมเ ขา ใหจับผปู ว ยนอนตะแคงแลวตบบริเวณหลัง 4 ครงั้ หายใจเปนเวลานาน ก็ ตดิ ตอ กัน อาจจะมีการสงผลให 3. กดบรเิ วณหนาทองหรือหนาอก 4 ครงั้ ตดิ ตอ กัน หวั ใจหยุดเตนได 4. ยกคางขึ้น ใชน้วิ มอื ลวงเอาสงิ่ แปลกปลอมออกจากปาก 5. เริ่มชวยหายใจดว ยวธิ ีปากตอปากใหมอ กี คร้ัง IT ผฉสู บอบั น หลงั การชวยหายใจ ควรใหความอบอนุ แกรางกายของผูป ว ย โดยการใชผาหนาๆ คลุมรางกายไว และคอยหมน่ั เชด็ ตัวใหแหง 179 179

IT คน หาขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั วธิ ชี ว ยเหลอื ตนเองเบอื้ งตน เมอ่ื ประสบเหตุ เพลงิ ไหมไ ดท ี่ www.thaifirealarm.com เด็กควรรู 4.2 ส�าลกั ควันไฟ มีสารพษิ ตา งๆ ท่ี สําคัญ ซ่ึงบางชนิดอาจ การสา� ลกั ควนั ไฟสว่ นใหญเ่ กดิ ขน้ึ ทําใหเปนลม หมดสติ กรณีที่เกิดเพลิงไหม้ โดยผู้ป่วยหายใจสูดเอา และบางชนิดอาจทําให ควันไฟที่ถือเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต เสียชีวิตไดภายในเวลา อันเน่ืองมาจากอัคคีภัยในอาคารสถานท่ี ซึ่ง อนั รวดเร็ว ควันสามารถคร่าชีวิตของผู้คนได้โดยความร้อน สารพิษจากการสูดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซงึ่ เปน็ แกส๊ ทมี่ อี นั ตรายตอ่ สขุ ภาพเขา้ ไป แกส๊ น้ี จะรวมตวั กบั เฮโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงได้ดี กวา่ ออกซเิ จน เลอื ดจะไมม่ อี อกซเิ จนไปสเู่ นอื้ เยอื่ เป็นเหตุให้หายใจล�าบาก และอาจเป็นอันตราย ถงึ แกช่ วี ติ ได้ ผฉูสบอับน อาการ 1. ผูป้ ่วยเกิดอาการมนึ ศรี ษะ คลน่ื ไส้ อาเจยี น และร้สู ึกวา่ มเี สียงดังเหมือนเสียงระฆังอยู่ ในหูตลอดเวลา 2. มีอาการออ่ นเพลยี หนา้ มดื วงิ เวยี น กระสบั กระสา่ ย 3. ชีพจรเตน้ เร็วในระยะแรก แล้วจะค่อยๆ ช้าและเบาลงในภายหลงั 4. ตวั ซีด เย็น ไม่รู้สึกตัว หมดสติ และอาจเสยี ชีวติ ไดห้ ากไม่ไดร้ บั การช่วยเหลือ การชว่ ยฟืน้ คืนชีพ 1. ยา้ ยผปู้ ว่ ยออกจากสถานทเี่ กดิ เหตโุ ดยเรว็ โดยยา้ ยผปู้ ว่ ยไปอย่ใู นทมี่ อี ากาศบรสิ ทุ ธ ิ์ และ ถ่ายเทไดส้ ะดวก 2. คลายเสอื้ ผา้ ของผูป้ ว่ ยใหห้ ลวม เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจไดส้ ะดวก 3. ถ้าผูป้ ่วยหายใจไม่สะดวก ใหช้ ว่ ยฟน้ื คนื ชพี ดว้ ยการผายปอด 4. ให้ความอบอนุ่ แกร่ า่ งกายของผ้ปู ว่ ยอยา่ งเพยี งพอ 5. คอยสังเกตและระวงั อาการเปล่ยี นแปลงทางดา้ นการหายใจ และชพี จร 6. รบี น�าผู้ป่วยสง่ สถานพยาบาลโดยเรว็ ทส่ี ุด 180 180

IT คนหาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับอันตราย IT คนหาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับการ จากไฟฟา ดดู ไฟฟา ชอ็ ต ไดท เ่ี วบ็ ไซตข อง ปฐมพยาบาลเบอื้ งตน บาดแผลไฟลวก ไดท ี่ คณะแพทยศาสตร ศริ ริ าชพยาบาล www.thaihealth.or.th 4.3 ไฟฟ้าชอ็ ต แมว้ า่ อนั ตรายจากไฟฟา้ ชอ็ ต จะพบไดน้ อ้ ยกวา่ อนั ตราย จากไฟลวก หรือบาดเจ็บเน่ืองจากความร้อน แต่กระแสไฟฟ้า ท่ีผ่านร่างกายของมนุษย์นับว่าเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงเพราะ สามารถท�าใหศ้ นู ยก์ ลางการท�างานของสมองหยุดลงทนั ที หัวใจ ไมส่ ามารถสบู ฉดี โลหติ ไปเลยี้ งรา่ งกายได ้ กลา้ มเนอ้ื หวั ใจสนั่ หรอื หยดุ เต้น ซึง่ เป็นผลจากการหยดุ หายใจ ยิ่งกระแสไฟฟ้าท่ีผ่านร่างกายมีความแรงสูงเท่าไหร ่ ย่ิงมีผลท�าให้ร่างกายไหม้เกรียม เนื้อเย่ือถูกท�าลาย อาจท�าให้ แขนขาบวมตึงส่งผลให้ขาดเลือดอย่างรุนแรงจนต้องเสียอวัยวะ สว่ นนนั้ ไป และหยุดหายใจเร็วมากขึน้ เท่านั้น ลักษณะการช่วยเหลือผู้ถูกไฟฟ้าช็อต ซึ่งควรต้องค�านึงถึงความปลอดภัยของ ตนเองเปน็ สงิ่ สา� คญั อาการ ผฉสู บอับน 1. ชัก กลา้ มเนื้อเกรง็ ตัวทัว่ รา่ งกาย 2. การหายใจหยดุ ชะงัก หัวใจหยุดเต้น หมดสติ เด็กควรรู 3. อาจมแี ผลไหมเ้ กรียมบริเวณทีก่ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น เปนหมายเลข โทรศพั ทข องหนว ยแพทย การช่วยฟน้ื คืนชีพ ฉุกเฉิน มีหนาท่ีกูชีพฟรี 1. รีบตัดวงจรไฟฟ้า แลว้ รบี น�าผู้ป่วยออกจากกระแสไฟฟ้าใหเ้ ร็วที่สุด 24 ชว่ั โมง เปน หนว ยงาน 2. พยายามอย่าถูกเนือ้ ตอ้ งตวั ผูป้ ่วยโดยตรงด้วยมือเปล่า ของรัฐท่ีจัดต้ังขึ้นตาม 3. สวมรองเทา้ และใหใ้ ชไ้ มย้ าวๆ หรอื วตั ถทุ ไ่ี มเ่ ปน็ สอ่ื คลอ้ งดงึ ผปู้ ว่ ยออกจากกระแสไฟฟา้ นน้ั พระราชบญั ญตั กิ ารแพทย 4. ผ้ชู ่วยเหลือจะตอ้ งกระท�าอยา่ งระมัดระวงั เพราะผูป้ ว่ ยในขณะนัน้ อาจจะไม่รูส้ ึกตัว และ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 เมอ่ื อาจจะถกู กระทบกระเทือนจนมอี าการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นได้ วนั ท่ี 7 มนี าคม พ.ศ. 2551 5. เมื่อช่วยผู้ป่วยให้พ้นจากกระแสไฟฟ้าแล้ว ให้ตรวจดูชีพจรและการหายใจของผู้ป่วย โดยยกฐานะมาจาก แลว้ รบี ทา� การชว่ ยหายใจและนวดหัวใจ ศนู ยน เรนทร และ เปน 6. ใหค้ วามอบอนุ่ แก่รา่ งกายผู้ป่วยดว้ ยการหาเส้อื หนาๆ หรือผ้าหม่ มาคลุม องคกรอิสระอยูภายใต 7. รบี น�าผปู้ ่วยส่งสถานพยาบาลโดยเรว็ การควบคมุ ของรฐั มนตรี กระทรวงสาธารณสุข หมาย8เ.ล ขในโทกรรศณพั ที ทต่ี ์ใอ้ หงส้กอาบรคถวาามมไชดว่ท้ ย ี่ 1เห1ล33อื สามารถโทรขอความชว่ ยเหลอื ไดIท้ T ี่ 1669 ถา้ ไมท่ ราบ บริหารจัดการโดยคณะ ทํางาน และผูเชี่ยวชาญ หลายสาขา 181 181

Teacher’s Guide IT คนหาขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับโรคหัวใจวาย ไดที่เว็บไซตของสํานักงานกองทุน ครอู าจเพ่ิมเติมความรูเก่ยี วกบั การทํางานของหัวใจ สนบั สนนุ การสรา งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) www.thaihealth.or.th พรอมทัง้ โครงสรา งและหนา ท่ีคราวๆ เพอ่ื ใหน ักเรยี นเขา ใจ ถึงลักษณะของหวั ใจและอาการหัวใจวายมากขึ้น เดก็ ควรรู 4.4 หวั ใจวาย คือ หลอดเลือดที่ หลอ เลย้ี งกลา มเนอื้ หวั ใจ หวั ใจวาย (Heart failure) หรอื เรยี กอีกอยา่ งหนึง่ ว่า อยูบริเวณผนังดานนอก ภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นภาวะท่ีหัวใจสูญเสียหน้าท่ี ของหัวใจ การท�างาน ส่งผลให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยง ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ตามท่ีร่างกายต้องการ โดยสาเหตอุ าจจะมาจากความผดิ ปกตขิ องหวั ใจแตก่ า� เนดิ หรือจากสาเหตุอนื่ ๆ เชน่ ผนงั หลอดเลือดแดง โคโรนารแี ข็งตัว กลา้ มเนื้อหัวใจตาย เป็นต้น ซ่งึ เปน็ ผลทา� ให้หวั ใจทา� งานไมป่ กติหรือท�างาน หนกั มากเกนิ ไป อาการหวั ใจวายจะแตกตา่ ง จากอาการหวั ใจหยดุ เตน้ เพราะเกดิ จาก ความผดิ ปกตทิ ก่ี ลา้ มเนอื้ หวั ใจโดยตรง สว่ นอาการหวั ใจหยดุ เตน้ อาจเกดิ จากสาเหตหุ ลกั อน่ื ๆ ได ้ ดงั ที่ไดก้ ลา่ วมาแลว้ เชน่ เปน็ ลม หมดสติ ถกู ไฟฟา้ ดูด หรอื สา� ลกั ควนั ไฟ เปน็ ต้น ผฉูส บอบั น อาการ 1. เจบ็ หนา้ อกอย่างรนุ แรงเหมอื นถกู รดั ถูกบบี 2. มีอาการปวดรา้ วไปทางไหล่ซ้าย 3. เหงอื่ ออกมาก หายใจตดิ ขดั หนา้ มดื และเปน็ ลมสลบไป การชว่ ยฟ้ืนคนื ชพี 1. ใหผ้ ปู้ ่วยนอนในทท่ี ีอ่ ากาศถา่ ยเทสะดวก 2. คลายเส้ือผา้ ของผปู้ ่วยให้หลวม 3. สงั เกตอาการของผปู้ ว่ ย ถา้ ผปู้ ว่ ยยงั รสู้ กึ ตวั ด ี แตม่ อี าการเจบ็ หนา้ อกเลก็ นอ้ ย หรอื รสู้ กึ วา่ ไมม่ แี รงควรพยุงให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนจนร่างกายปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล แต่ถ้าพบว่าผู้ป่วยมี อาการรุนแรง ไมร่ ูส้ ึกตัวตอ้ งตรวจสอบการหายใจ ถ้าไม่หายใจใหช้ ่วยหายใจและนวดหวั ใจทนั ที 4. รบี น�าผปู้ ่วยส่งสถานพยาบาลโดยเร็ว 182 182

4.5 ทางเดินหายใจอุดตัน ภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ส่วนใหญ่เกิดจากการที่มี วัสดุแปลกปลอมไปอุดตันทางเดินหายใจ มักพบในเด็กเล็ก ซึ่ง ชอบเอาสิ่งแปลกปลอมใส่ไปในช่องต่างๆ ของร่างกาย ได้แก ่ รจู มกู และปาก ประกอบกบั ฟนั กรามทยี่ งั ขน้ึ ไมค่ รบสมบรู ณท์ า� ให้ ไมส่ ามารถบดเคี้ยวอาหารให้ละเอยี ดได ้ จงึ อาจเกิดอาการส�าลัก ในระหวา่ งการรบั ประทานอาหาร ส�าหรับในผ้ใู หญ่ก็สามารถเกิด ปัญหาส�าลักได้เช่นเดียวกัน ท�าให้อากาศไม่สามารถผ่านเข้าสู่ ปอดไดส้ ะดวก ซึ่งอาจท�าให้เสียชีวิตได้ อาการ ผฉสู บอับน 1. หายใจติดขัด และหายใจไมอ่ อก 2. กระสบั กระส่าย และตวั เขียวคลา�้ 3. หวั ใจหยุดเต้น และอาจเสียชวี ติ ได้ การช่วยฟน้ื คนื ชีพ 1. กรณที ม่ี ขี องตดิ จมกู ใหป้ ดิ รจู มกู ขา้ งหนง่ึ แลว้ สง่ั นา้� มกู อยา่ งแรง ซง่ึ ของทตี่ ดิ อยอู่ าจจะ ออกมาเองได้ อย่าพยายามใช้น้วิ หรอื ของอน่ื แคะออกเอง เพราะจะท�าให้ส่งิ น้นั ถูกดันลกึ เข้าไป หากยังไมอ่ อกใหส้ ง่ แพทย์เพ่อื ใช้เครอ่ื งมอื คีบออก 2. กรณีของแปลกปลอมติดลึกลงไปบริเวณล�าคอ ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ให้จับเท้าท้ังสองข้าง ห้อยศรี ษะลงแลว้ ตบกลางหลงั อยา่ งแรงพอสมควร เพ่อื ใหส้ �าลกั และไอออกมา ถา้ เป็นเดก็ โตหรือผูใ้ หญ่ให้ยนื กม้ ตัวมากๆ เพอื่ ให้หัวหอ้ ยลง โดยผูช้ ่วยเหลอื เข้าไปทาง ข้างหลังของผู้ป่วย ใช้แขนข้างหนึ่งสอดรั้งพยุงตัวของผู้ป่วยไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหน่ึงตบไปที่ กลางหลงั แรงๆ หรอื อาจใชว้ ธิ กี า� มอื ขวาในลกั ษณะใหน้ วิ้ หวั แมม่ อื แนบชดิ กบั ทอ้ ง วางลงบนหนา้ ทอ้ งเหนือสะดอื ของผปู้ ่วย แล้วใชม้ อื ซ้ายมาวางขดั กนั ให้แนน่ พอประมาณ จากน้นั ใช้แรงกด ลงบนหนา้ ท้องและดันข้นึ ซ่งึ อาจทา� ให้ผู้ปว่ ยไอและส่งิ แปลกปลอมหลุดออกมาได้ อกี วธิ ีหน่งึ คอื ให้ผู้ปว่ ยนอนคว�า่ หรือตะแคงศรี ษะต่�า ผู้ช่วยเหลือตบหลังผู้ปว่ ยระหว่าง ไหล่ 2 ข้าง ให้แรงพอสมควร ซ่ึงถ้าสิ่งแปลกปลอมยังติดอยู่ให้รีบน�าส่งสถานพยาบาลเพ่ือ ท�าการรักษาต่อไปโดยเร็ว 3. ถา้ ผปู้ ่วยหายใจติดขัด หรือไมห่ ายใจ ให้ชว่ ยหายใจและนวดหวั ใจรว่ มด้วย แล้วรบี นา� สง่ สถานพยาบาลโดยเร็ว 183 183

เมื่อพบเหตุการณ์ท่ีมีผู้ป่วย เช่น จมน�้า ส�าลักควันไฟ ไฟฟ้าช็อต หัวใจวาย มีภาวะทางเดินหายใจอุดตัน ส่ิงท่ีผู้พบเห็นควรปฏิบัติ คือ การช่วยฟื้นคืนชีพเพ่ือให้ ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นปอดหรือการฟื้นหัวใจก็ตาม ซ่ึงการ ช่วยฟื้นคืนชีพนี้เป็นส่ิงที่ทุกคนควรศึกษาและฝึกปฏิบัติจนเกิดความช�านาญ เพราะ ถือว่าเป็นความรู้และทักษะที่มีประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ในการ ช่วยเหลือผู้อ่ืนให้มีชีวิตรอดหรือช่วยลดอันตรายลงได้ก่อนน�าส่งสถานพยาบาลเพื่อ ทา� การรักษาต่อไป ผฉสู บอับน ฝึกคิด ฝกึ ท�ำ 1. ให้นักเรียนแต่ละคนออกมาแสดงการปฏิบัติช่วยเหลือผู้ป่วยให้ฟืน้ คนื ชพี ด้วยการท�า CPR โดยใช้หลกั ABC ตามลา� ดบั ข้ันตอนของการปฏบิ ัตใิ ห้ถูกต้อง 2. ให้นักเรียนเขยี นแสดงความคิดเห็นว่า “การมีทักษะในการช่วยฟืน้ คนื ชพี ” มีประโยชน์ต่อตนเองหรือ ผู้อนื่ อย่างไร แล้วออกมาน�าเสนอหน้าชน้ั เรียน 184 184

แบบฝกึ ทกั ษะพัฒนาการเรียนรู้ ตอนที่ 1 ให้นักเรียนเขยี นวิธีก�รชว่ ยฟ้นื คนื ชีพให้ตรงกับรปู ภ�พท�งด�้ นซ้�ยมือให้ถกู ตอ้ ง มฐ./ตวั ช้วี ัด พ 5.1 (ม.3/5) กำรนวดหวั ใจ...................................................................................................... .ก...ำ..ร...ช...่ว..ย...ฟ...้ืน....ค....นื ...ช...ีพ...ใ..น....ก...ร...ณ.....ที ...ม่ี...ีผ...ชู้ ..่ว...ย...เ.ห...ล....ือ....2.....ค...น....... ผฉูส บอับน .ก...ำ...ร...ช..่ว...ย..ห....ำ..ย...ใ..จ...แ...บ...บ....ป...ำ..ก....ต...อ่ ...ป...ำ...ก...................................... ก....ำ..ร...เ.ป....ิด...ท...ำ..ง...เ..ด...นิ ....ห...ำ..ย...ใ..จ..................................................... ก....ำ..ร...ด....ูก...ำ...ร...ต...อ...บ....ส....น....อ...ง...ข..อ...ง...ผ...ู้.ป...่ว...ย.......โ..ด...ย...ว...ิธ...ีก...ำ...ร...ฟ...ั.ง.. เสียงลมหำยใจ.................................................................................................. 185 185

ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรียนเขยี นวธิ ีชว่ ยฟื้นคืนชีพในสถ�นก�รณ์ต่�งๆ ลงในกรอบท�งด�้ นขว�มือ ให้สมบูรณ์ สา� ลกั ควัน วิธกี ารช่วยฟน้ื คืนชพี ..1.......ย...้ำ..ย...ผ...ูป้...่ว...ย...ไ..ป...อ...ย...ใู่ ..น....ท...ี่ท...ี่อ...ำ..ก....ำ..ศ...ถ...่ำ...ย...เ.ท...ไ..ด....ส้ ...ะ..ด....ว..ก............................................ ..2.......ค....ล...ำ..ย...เ.ส....้อื...ผ...ำ้ ..ข..อ...ง...ผ...ปู้...่ว...ย..ใ...ห...ห้ ...ล...ว...ม.....เ.พ...ือ่...ใ..ห....ผ้ ...ู้ป...่ว..ย...ห...ำ...ย...ใ..จ...ไ..ด...้ส...ะ...ด...ว..ก............. ........ถ...ำ้...ผ..ู้ป....ว่ ..ย...ห...ำ...ย..ใ...จ..ไ...ม..่ส....ะ..ด...ว...ก...ใ..ห....ช้ ..ว่..ย...ฟ....ืน้ ...ค....ืน....ช..พี....ด...ว้ ..ย...ก...ำ...ร...ผ..ำ...ย...ป...อ...ด................ ..3.......ใ..ห....ค้ ...ว..ำ...ม...อ..บ....อ...ุ่น....แ..ก...ร่...ำ่...ง..ก....ำ..ย...ข..อ...ง...ผ...ูป้ ...่ว..ย.....ค...อ...ย...ส....งั ..เ..ก...ต...แ...ล...ะ...ร..ะ...ว..งั...อ...ำ..ก...ำ..ร...... ........เ..ป...ล...ย่ี...น....แ..ป....ล...ง...ด...้ำ..น....ก...ำ...ร..ห....ำ..ย...ใ..จ...แ..ล....ะ..ช..พี....จ...ร........................................................ ..4.......ร...ีบ....น...�ำ...ผ..ู้ป....ว่ ..ย...ส...่ง...ส....ถ...ำ..น....พ...ย...ำ..บ....ำ..ล...โ..ด....ย...เ.ร...ว็..ท....่สี ...ุด................................................. ผฉูสบอับน วิธกี ารช่วยฟ้นื คืนชพี หวั ใจวาย ..1.......ใ..ห....ผ้ ..ปู้....ว่ ..ย...น....อ...น...ใ..น....ท...ที่....อ่ี ...ำ..ก...ำ..ศ....ถ...ำ่ ..ย...เ.ท....ส...ะ..ด....ว..ก.....แ...ล...ะ..ค....ล...ำ..ย...เ.ส....อื้ ...ผ...ำ้ ..ใ..ห...ห้....ล...ว..ม. ..2.......ส....งั ..เ..ก...ต...อ...ำ...ก...ำ..ร.....ถ...้ำ..ผ...้ปู...่ว...ย...ย...งั ..ร...ู้ส....กึ ...ต...ัว...ด...ี..ม...ีอ...ำ..ก...ำ..ร...เ..จ...็บ...ห...น....้ำ..อ...ก....เ.ล...ก็....น...อ้...ย.... ........ห....ร..อื...ร...ู้ส....กึ ...ไ..ม...ม่...แี ..ร...ง.....ค...ว...ร...ช..ว่..ย...พ....ย...งุ ..ใ..ห....้ผ...ู้ป...ว่ ..ย...ไ..ด....้พ...ัก...ผ...อ่...น....จ...น...ร...่ำ...ง..ก....ำ..ย.......... ........ป...ร...บั....ต...วั..เ..ข..้ำ...ส...ภู่...ำ...ว..ะ..ส....ม...ด...ลุ .....แ..ต....่ถ...ำ้..ผ...ปู้...่ว...ย...ม..ีอ...ำ...ก...ำ..ร...ร...ุน....แ..ร...ง.....ไ..ม...ร่ ...ู้ส...กึ...ต....วั ....... ........ต...อ้...ง...ต...ร...ว...จ...ส...อ...บ....ก...ำ..ร...ห...ำ...ย..ใ...จ....ถ...ำ้...ไ..ม...ห่ ...ำ..ย...ใ..จ...ใ..ห....้ท...ำ�..ก....ำ..ร...ช..ว่...ย..ห....ำ..ย...ใ..จ...แ...ล...ะ...... ........น....ว..ด....ห...ัว..ใ..จ...ท....นั ...ท....ี ..แ..ล...ะ...ร..บี....น....ำ� ..ผ...้ปู ...่ว..ย...ส....ง่ ...ส...ถ...ำ..น....พ....ย..ำ...บ...ำ...ล...โ..ด...ย...เ.ร...็ว...ท...ี่ส....ดุ ........ จมน้า� วธิ ีการชว่ ยฟื้นคืนชพี ..1.......ต...ร...ว..จ...ส....อ..บ....ก...ำ..ร...ห...ำ...ย...ใ..จ...แ..ล...ะ..ค....ล...ำ�..ช...พี ...จ...ร...ท...นั....ท...ี..ถ...ำ้..ไ..ม...ห่...ำ...ย..ใ..จ...ใ..ห....ช้ ..ว่...ย..ห....ำ..ย...ใ..จ. ........ด...ว้..ย...ว...ธิ ..ีป....ำ..ก...ต....อ่ ..ป....ำ..ก.....แ...ล...ะ..น....ว..ด....ห...วั ..ใ..จ................................................................... ..2.......เ.อ...ำ..น....ำ้�..อ...อ...ก....จ...ำ..ก...ก...ร...ะ..เ..พ...ำ...ะ..อ...ำ..ห...ำ...ร..แ...ล...ะ..ป....อ...ด.....แ...ล...ว้ ..ล...ง...ม...ือ...ท...�ำ...ก...ำ..ร...ผ...ำ..ย...ป...อ...ด.. ........เ.ม...่อื ...ผ...้ปู ...ว่ ...ย..เ..ร...ิ่ม...ห...ำ..ย...ใ..จ............................................................................................... ..3.......ใ..ห...ค้....ว..ำ..ม...อ...บ....อ..นุ่....ร...ำ่..ง...ก...ำ...ย..แ...ก...่ผ...ู้ป....่ว..ย.....แ..ล...ะ...ห...ม...ัน่ ....เ.ช...็ด...ต...วั...ผ..ปู้....่ว..ย...ใ..ห...้แ...ห...้ง............. ..4.......เ.ม...อื่...ผ..ปู้...ว่..ย...เ.ร...มิ่...ร..ส้.ู ...กึ ...ต...วั..ใ..ห...จ้...บิ...ก...ำ..แ...ฟ...ด...ำ�..ห...ร...อื...บ...ร...น่ั...ด....ี .เ..พ...อ่ื...ก...ร..ะ..ต...น้.ุ ...ห...วั..ใ..จ.............. 186 186

1010Ẻ·´Êͺ˹‹Ç·Õè 1 ¤íÒªáéÕ ¨§ ãËŒ¹¡Ñ แàÃบÕÂบ¹ทàÅด×Íส¡อ¤บÒí หµนÍว่ºย·ท¶èÕ ่ีÙ¡1µŒÍ§·ÕèÊ´Ø à¾Õ§¤íҵͺà´ÕÂÇ 1. CPR หมายถงึ อะไรคำ� ชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเลอื กค�ำตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งคำ� ตอบเดียว ก. กกาารรชก1. ดวCกขยห..P เวัRปกก ใาาหดจรรมชกทใาหด่วยายหถมเงัวปึงใเกีอดิจดะทใาหไินารร้มงหไเีกดหาานิรลยหไหาเใลยวจเใียวจใียหในหนโ้โขขลลอง่องง เงลเอื ลดอื ด ข. กกาารรช2ช. ววสคงยย.่ิง. เเสหห�ากกคาาลลัญรรชชอือื ท่วว่ ผส่ีผยยุดเเปููทหหในลลวีห่ กอืือยายผผรทปู้ทู้ดุชว่หี่ว่าหยยยงทฟดุาดาหนื้ยงาาคดใยนืนา้จในชจรใีพรใหหะะคบก้บกอื บลอบลับกะาสับไกรรสู่ หาสภาราสูยวหใภะจปาากยวตใิะจปกติ ค. ง. 2. กส่งิ. ส ําชควญั ยใทห ีส่ขคกม...ดุ ีคใชชชวน่ว่วว่ ายยยกฝใใมหหากึ ้มม้ดรทคีปี กัชีควรษาววะะมสายใบดหมฟกีคเ้ กาวชนิดราณอมคควช์ชบาืนอวี มบิตชชม�าพีานกาคขญึ้นอื อะไร ข. ชวยฝ ก ง.ท ักช่วษยะเหใลหอื เผกู้อนื่ิดใคห้มวีชาีวมิตรชอําดแนลาะปญลอดภยั ค. ชวย3ใ.ห สกม่งิ. แีปรเคกรลทะื่อี่คสนวบรยป้ากยฏผาิบ้ปูรตั ่วิเณมย ่อื ช พวีบผติ ูป้ มว่ ยาหกมขดสึ้นติคขอื .ข อ้ นใวดดหวั ใจและผายปอด ง. ชวยเห คล. ือดผกู อูาร่ืนตอใบหสมนอีชงวีขอิตงรผ้ปูอว่ ดย และปลอง. ดภคลัยายเส้อื ผ้าใหห้ ายใจสะดวก 3. สิง่ แ รกท4ี่ค. วผภรูป้าปยว่ ใยฏนทเบิีห่วลยตั าุดกิเหี่นมาาย่อืทใจีพหบรอื ผหัวปู ใจวหยยหดุ เมตน้ ดกสะทตนั ิคหันือตขอ้ งอไดใดร้ บั การช่วยเหลือให้เรว็ ทีส่ ุด ก. เคล่ือ นกย. า 4ย-5ผ ูป นวาทย ี ข. ข ค.ร่งึ ชนว่ั โวมงดหวั ใจและผายปอด 4. คผ.ูปว ดยกูทาห่ี 5ร.ย ต ดุคกกอา..ห รบ จ 6นาดัส-อย8ทนน ่าใค ผจอนวู้ปาห�่างว่ทบขยร ีนเอือพพห้นืง่อื ชเผวัร่วยีปูใยบจฟวนื้หยคยืนุดชีพเต คนวรกจัดะงใ.ทห ง้อัน 9.ย-หู่ใ1น0นัท คนา่ตลใาดอทาีงยไเดสรื้อบั ผกา าใหรชห วายยเใหจลสือะดใหวกเ ร็วทีส่ ดุ ผฉสู บอับน ภก.าย ใ4น-5เวล นาขคง.กา.. ท นี่ นนนีาอออทนนนคหหี วงง�า่าาบยยรรนาาพบบ้นื บบทนนน่ี พพมุ่ ืน้นื้ เเรรียยี บบทท่อี่แี อ่ขน็งนุ่ม ข. คร่ึงช่วั โมง 5. คกา. ร จ6ัด-8ท6า. ผน ตขกูปา.�า. แวท หจจยีาานกกเ่งพปปทลล่ถี ่ือาากู ยยชตกกอ้วรรงะะยใดดนฟูกกู กลลานน้ิ้ินรวปปคาขี่ข่ี งืนึ้นน้ึ มมมชอื าาเพีปปพรรอื่ ะะทคมมา� าาวกณณารร จ21น ัดวนนงดิ้วิ้วใ.หมมหวั ืออื ใอ จ9 ยค-ูใือ1นบ0รทเิ วนา ณใาใดดที ก. นนออนนคค ววคง..่าํํ่า บบ จจาานนกกพพปปลล้ืนนื้ าายยเทกกรรรน่ี ยี ะะดดมุบูกกู ลลิน้้นิ ปปข่ีีข่ ึ้น้ึนมมาาปปรระะมมาาณณ 34 นนิ้วิว้ มมืออื ข. 1. ตอบ ง. คง.เหก.นมา้ือราเยชนนยวถอ่ื ยอองึ ไฟกมนนนาใ รหหหคชไ นืวดงงยชราาเพี ับหยยเลอปรรันอืน าาผตสทูบบริง่ห่ี าทบบยย่ีสดุจนนาําหคกพพาัญกยื้น้ืนใาทจร่ีสเเหขรรดุารดียียอื เอหพบบอวัรใกททาจซะห่ีอแี่ไเิ ดจยอขนดุช วนเง็อตยยนเนาหงลมุใถหอื ามผวกีูอราืน่ รใหหาม ยีชใีวจติ แรลอะกดาปรลไอหดลภเวัยยี จนากกลสบัิ่งคทนืเ่ี ปสน สู อภันาตพ1รเ8ดา7มิยตแาลงะๆยงัทป่ีเกอ ดิงกขึ้นนั 2. ตอบ ง. 3. ตอบ6.ค.ตแโําดสแยดดหงวูวนาา ผไงมปู รทว สูยถ่ียกึ งักูตรวั ตสู อกึอ าตจงัวใใหชนกรอืากรไมาส รังโเวดกยาตองกามจารจอื ฟะใเง ชพกแาอื่ลระทเแขกยาํ มา กตสัวาัมเผรบัสานๆวหดรหืออวั าใจจจะถคามอื เสบยี รงิเดวงั ๆณหใาดกผปู วยไมมกี ารตอบสนองมา 4. ตอบ ก. ขกคตเ..นาํว่ือแรงหใจจหจนาาาผ งกกกปู ทสวปปีถ่ ยมูกนอลลตงอาาอแนยยงลหใะกกนงหารรกวั ยใะะารจรดดาจวบะาูกกู หงบลลมยนือดุ้ิ้นนิพเทพนื้ ปปาํื่อเงรทขขาียํานน้ึึน้บกทาถมมร่แีานาาขขาง็วปปดดทอรรหง้ัอะะวั นกใมมจี้เซพเิาาจือ่คณณนใือหนเ กกา21นริดะเแกนนดรินูกง้้ิิววหกตมมนวา นา ออืืาอข5ณก-8เะหทนนนี่ าือวทรดีอหยัวตใอจของกระดูกล้นิ ป 5. ตอบ ค. คก.ระดจูกาลก้นิ ปปแลลาว วยดั กจารกะปดลกูายลก้ินระปดกู ข ลนึ้้ินปมขานึ้ ปมารปะรมะมาาณณ33นิว้ นมอื ว้ิ มือ โดยคลําหาปลาย 6. ตอบ ค. ง. จากปลายกระดูกลิ้นปข นึ้ มาประมาณ 4 นิว้ มือ 187 187

7. ในการนวดหัวใจควรกดหนาอกใหม คี วามลกึ เทา ใดจึงเหมาะสมที่สดุ ก. 31.น5 วิ้ - 27. นคกใน..วิ้ ก า 31ร .นน5ว ิว้ -ด ห2 ัวนใจิ้วค ว รกดหน้าอกใหม้ ีความลขงึก.. ขง เ ท . เ4.า่ท ใน่าดใวิ้จ4เดึงทกเห็ไนาดม้ ใาวิ้ ดะสกมท็ไ่สีดดุ  ค. 8. การทํา C PR8. คกกา.ว รทรป�าทา กCาํตPอ่ดRป วาคกยว ร1อท คา�ตั ดรัง้ร้ว ยา อนอตั วรดยาหอา วัยงใา่จงไ 1ไรร5 ครัง้ ก. ปปาา กกตตออปป าางคขกก... ปปป11าาากกกคคตตตอ่อ่อ่ รรปปปงัง้ั้ าาากกก 122นน คคคววรรรงั้งั้ั้งดด หหนนนวววััววดดดหหหใใจจัววัวั ใใใจจจ31 31305050 คคคคครรรั้งั้งัง้ รรง้งัั้ ข. ปปาา กกตตออ 9ปป. าากหกกก.าา รย ชชใ22จ่ว่ว ยย คคหเผหา้ชู รรลย่วือั้งงั้ใยจผเดหู้ป้วล่วยนนือยวคววทธิ วีนี่ไดดรมวปดหห่รฏูห้สิบวััวึกวั ัตใตใใจิอจจัวยจ่าา13งกไ50กรารคคจมรรน้งัง้ั �้า ซ่ึงสามารถคล�าชีพจรได้แต่ไม่มีการ ค. ง. 9. การชวย เหลือ คขผ.. ูป ชช่ว่ววยยยหหาาทยยใใ่ีไจจมดดว้ว้ รยยววูสิธิธกีีปึกาารตกเตขัว่อยปจ่าตาากวั กแรกงๆารจมนํ้า ซึ่งสามารถคลําชีพจรไดแตไมมีการ หายใจ ผชู ว ยงเ. ห ชลว่ ยือหคายวใจรดปว้ ยฏวธิ ิบกี าตั รเิอปิดยทาางงเดไนิรหายใจ ก. ชว ย หา1ย0.ใ จขก.้อด ใ ดปวไอยมด่ใวฉชกี่ภธิ าีนวะวแดทรหกซัวอ้ ในจจากการวางมือขท.่ีไ ม ตถ่ ับูกแตตอ้ กงในการนวดหัวใจ ข. ชชววยย หหาา1ยย1.ใ ใ จจหคก..ลดด กั กวaวสรiา�rยยะwคดววaัญกู yิธิธใซ นbี่โกีปีกrคaาราาiรnงรป กหcฏเกัeตขิบ ntตัอ eยิกrปาารตาช่วกัวยแฟ้ืนรคงนื ๆชีพงข. ้นั พเส้นื ้นฐเาลนือคดอืในขส้อมใดองแตก ผฉูสบอับน ค. ง. ชว ย หายใ จคขด.. ว aaiiยrrwwวaayyิธ bbีกrraeาainรt hcเiinปrcgu ดclaeทtnioteาnrงเดินหายใจ 10. ขอ ใดไม ใชภา วง.ะ แ aทirwรayก bซreอatนhinจg าciกrcกulaาtiรonวางมือที่ไมถ ูกตอ งในการนวดหวั ใจ ก. ปอ ดฉีก12. สก�า. ห รบบั รผเิ ว้ปู ณว่ คยอท ่ีไมร่ ูส้ กึ ตวั ควรจับชพี จรบรขเิ ว.ข ณ บ.ใดรจเิ วะตณสะับขดอ้ วแมกอืตแลกะง่ายที่สดุ 11. หค.ลักกสรําะ คดญั กู 1ใซ3น.่ีโ ก คคลกกัา..ร ษ รงมบณปหรึนะิเงอฏวักงาณ กิบซขาึมาตัรห ใด ิกนทีบาอี่ ราจชแสว ดยงวฟ่าผน ปู้ ว่คยืนหัวชใจงขีพห.. ง ย ข. ดุบปท้นัรลิเ�ากุ วพงเไณามสน้นืข่ตน ้อน่ื ฐพ เาับลแนอื ขคนดอื ในขสอ มใดองแตก ก. airw ay b rคa. i nรูมcา่ นeตnาขteยาrย ง. กระสับกระส่าย 7. ตอบ ค. ขค.วร1กa8ด8irหwนาaอyกใหbม rคีaวiาnมลcกึ iปrcระuมlาaณti1o.5n-2 นวิ้ 30 ครงั้ โดยนบั เปน จงั หวะ 1 และ 2 และ 3 และ 4 ไปจนครบอยา กระแทก 8. ตอบ ง. คโก.ดายรนทaาํวiเดrชwหน วั นaใจ้จีyดะชวbวยยrกใeาหรaมนtีกhบั าiรจnบาํ นgีบวเลนcอืคeดรnอ้ังtอทeกกี่ rจดาเกปหน วั ใ1จไแปลเะล้ีย2งแรลางะก3ายไเปสจมนือคนรกบับก3า0รบคบีรต้ังวั แขลองวจหงึวั สใจลับกบั การชว ยหายใจดว ย 9. ตอ1บ2.ข. สง.เตวาํนธิอหปีอ่ื ปงารaากจกับiาตrกแwอผผตปปูปูaถาวกาyวยผจ2ยปู bะวทเคrกยeรหดิ่ีไัง้ aวัอมใาซtจรกh่งึ หาถสูiยรnือกึดุหเgปเาตตยน cนใวั จi1rไใcมรคหออuปวอบฏlรกaิบหจtัตiรบัoิดอื วnชหยากพี ยาใจรจนไรมวบเดขาหรัวเิเพใวจรณาะหใาดยจใจะเอสาะนดาํ้ เขวา กไปแแทลนะทงี่ าจงึยสทามีส่ ารดุ ถชว ยเหลอื ดว ยวธิ ปี าก 10. ตอบ ง. กกส.ามรอนบงแวรตดเิกหวัวใณจจคะเอปนการกดท่ีบริเวณหนาอกหรือหนาทองขขอ.งผูปบวรยิเวซณ่ึงไมขเกอี่ยมวขอืองกับภาวะแทรกซอนของเสนเลือดใน 11. ตอบ ง. ลคกaคัก.iาอืrษรwกจบaณบัาyรรชะนคพีิเอวอืวจดราณกหทกาัว่สีขรใาเะจาปรดดหเวใปทกดนนแาทขงลบี ้นัเะด่อี งตินาาอยหจนทาทแยี่สี่ใดุส3จดคซอืง่ึงเวปบานรผเิขวัน้ ณปู ตขวออนยมทอื หี่ 1เัวนbใือ่ rจงงeจaห.าthกยiสnุดบgามทรคาิเือํารวถงกณหาาารนเขสชวนอยเหพลาอื ยบั ดใแแจดขเงปไนนดขง้ันา ยตทอ่ีสนดุ ที่ 2 และ circulation 12. โดยใชน ิว้ 3 นว้ิ ของ ตอ1บ3.ข. 13. ตอบ ค. กเม.ปือน ออกีมาขกนึางางรคทงอื เี่นรซวิ้ิม่ ชเมึก้ี นิด้วิขกึ้นลเมา่อืงหแวั ลใะจนหว้ิยนดุ าทงํางสามั นผไัสปก4า5รเวตนิ นาขทอีงแขชลพี .ะจรรมู าปนลตาุกจไะขมยตาย่ืนกวางสดุ เมือ่ ถึง 1 นาที หรืออาจมีอาการชกั คแ.ละตรามูคาา งนรว ตมดาวขยยาย ง. กระสับกระสา ย 188 188

14. ในกรณีที่มีผู้ช่วยเหลือ 2 คน จะต้องทา� การชว่ ยฟ้ืนคืนชพี โดยปฏิบัตอิ ยา่ งไร ก. เปา่ ป าก1 41. กในค. ก รรเณป้ังำ่ที ปมี่ ำีผกนู้ช 1ว่ว ยคดเรหง้ัหล ือ ัวน 2วใ ดคจหนัว 5ใจจะ ต5คอ้ คงรรทง้ั ำ�้งั กำรช่วยฟนื้ คนื ชีพ โดยปฏิบตั ิอย่ำงไร ข. เป่าป าก 2 ขคค.. รเเปปง้ั ่ำำ่ ปป ำำกกน 22ว คคดรรงง้ั้ัห วันนววใดดจหหัวัว 5ใใจจ 51ค5 ค รครงั้ร้งั งั้ คง.. เเปป่่าาปป าากก1 552. งใกนคค.. ก รรำผเรป้้ัังงำช่ำย ่วปปย ำอเกนนหด 5ลใววห อื คผ้ดดผรปู้ปู้ ้งัหห่วว่ ย ยววััน ทวใใี่ถดกูจจหไัว ฟ11ใฟจ 55้ำ1ช5 อ็ คคคตรครร้งัวง้งั้ัรขป .ฏ บิ รัตบี ิสนิง่ �ำใสดง่เปโร็นงอพันยดำบับแำลรกทนั ท ี 15. ในการชว่ ยเห16ล. อื คถ้ำ.ผ ม ีสตู้ป่ิงรแว่วจปยดลชูกทพีปจลี่ถรอแูกมลหไะลกฟุดำลรฟหงไำป้ายใใชนจ ลอ็ ำ� คตอขคอวงงเ.ดร ็กปผ คำฏวยรปิบปอฏดตั บิสตัลิสอิบั ่งิยกำ่ใบั งดกไำรเรปนวน็ดหอัวใันจ ดับ แ รก กค.. ผตราวยจป ดอชู ดีพใ หจกคขผ้...ร แปู้ จใอหบัอ้ ลว่้เมเดดะกย็ก็กอนกอ ดอ้ำาดนปำ้รคำนกวหหแ่�ำตลลาังบว้ แยใทชลห่ี ใ้คะลรจมี ังัดคเ แบบี รำองๆอๆ ก ข. รบี น�าส่งโรงพยาบาลทันท ี ง. ผายปอดสลับกับการนวดหัวใจ 16. ถ้ามีสง่ิ แป ลก17ป. ลงก.ำ อร ช จม่วับยขหฟำนื้ขลค้ึนดุืน ใชหลีพห้ งผัวปู้ไห่ว้อปยยหใลมงน ดตลสบตา�หิ หลคังยเอดุบหำขำๆยอใจงจำเกดก็กำรจ มคนว้�ำ รข้อปใดฏไดิบผ้ ลัตดีทิอ่ีสยุด า่ งไร ก. ให้เด ็กนอน ขกค.. วจช�่าับ่วยแตหบำบกยใสใทจ่บสำ่ี่หลแบัลลกว้ งัับวงิ่นเกวบรดะหาแวัทๆใกจ แรงๆ ข. ออ้ ม กอดด คา้ . น จหบั ผลูป้ ัง่วยแนลอนะหรงำดั ย แยกรขงำใๆหส้ งู ขนึ้ ค. จบั เด ็กอ1้า8.ป งขา.้อ ใกดใหไแมน้ ใ่ล้�ำชออ่้วอำกใกทชำำร้คงขปอมีำงกผค ู้ปจ่วีบบั ยผสอปู้ �ำว่ลอยักนกคอว ันนไคฟว�่ำ กด หลังแรง ๆ ง. จบั ข าข้ึน ใกคห.. ห้ มตวันึัวซศหีดีร ษ้อเะย น็ยอ ำลไเมจงร่ยี สู้น ึก ตตวับ ห ลังเบาขงๆ.. หหนนำ้้ำมดำ�ดื เกลรอะะสเบัทกอระะส่ำย 17. กกา. ร ชช่วว่ ยยฟห ้ืนายค19ใืน.จ ชกใคสน.. ีพกล ำ คครผบัววใำำหู้ปกมมค้ รปวว่บับัลำผมยอนดิดชหชภว่วยอัยมดเบขหขอหดลองอื ตงสวัผบนปู้ใตุคเอว่จคยิ งล ทห ีถ่ กูยไุดฟฟหำ้ ชงขา.อ็. ยตคค ใ ววจคำำวมมจรเปคสาล�ำียอกนหดึงำกถภยึงยัขาสขอิ่งรองใงทดจผเรปมูป้พั ็น่วยนอย์สันนิ�้าด ับแขรก้อใดได้ผลดที สี่ ดุ ผฉูสบอับน ข. จบั แ บกใ20ส. ่บ กหำรา่ รือแใรหสู้ ลค้ ึกวไว้ำมมว่มชีแิ่ง่วรยกงเ หรคลวะือรแผปปู้ฏทว่บิ ยตักหอิ ัวแยใ่ำจรงวไำงรยๆท่ีย ังรูส้ กึ ตวั ด ี แต่มีอำกำรเจบ็ หนำ้ อกเล็กน้อย คง.. จใหบั ้นผ้า� ปู้ อว่ อยกน ทอคก..า น งชชหป่ว่วยยงาเพปายกดิ งุยทใ หำ จง้ผยเปู้บัด่วกินผยหขไำดูป้ ยาพ้ ใ่วจกัใ ผหยอ่ นน้ส องู ขนึ้นควขง.. า่� ชช่ว่วกยยดหนวำหดยใผจล่อแนงัลคะแลนำวรยดงใหห ัว้แใๆกจผ่ทปู้ัน่วทยี 189 18. ข้อใดไม่ใชอ่ าการของผ้ปู ่วยส�าลกั ควนั ไฟ 14. ตอบ คก ..คกเเ.ใ.ปพ ห่ำ่อื ผ้ ลตน ู้ มตมรววัเึนวดขจซ้ำหศกปวั ีดำำรีใกรจ ษหกผเำปู้ะดยยว่ ็นใ5ยอจ คข1าอไรคเงมงั้ จรผง้ัตรู่้ปียดิ่วู้สนยตกึ อ่ เนกตน่ือั วั งเ ปจ น็ำก จเงัปหน็ วกะโำดรยปไอ้ มงห่ กยันดุ เนงขส้ือ.ล. เ บัย ือ่กไหหบั มกนนใ่ หำา้้าร้ไดเมดป้รำ่�าืดับป อ ำเนักกลตรเอมระอ่ืำะสยผเจนู้ ับทำวกกดอกหระำวั ะรใขจสำกด่าดอยคอรกงั้ ซทิเจี่ 5นอใหยผ้ำ่ งชู้ ถว่ ยำหวรำยใจ 15. ตอบ 16. ตตออ1บบ9.งก .. ในเเนนกอื่่ือางงจจรำำใกกหเเดป้คน็ก็ วจวิธาะตีกมัวำเรชลชก็่วว่ ยยจฟึงเื้นใหชคว้ลนื ิธือชดี พีังผพกปู้ล้นื ่ำฐว่ วำใยนนททกี่ดำีถ่ แีรูกลชว่ะไยถฟเูกหตลฟ้ออื ง้าทซชึ่ง่สี อ็กดุ ำตรโดก ยร ใะคชทห้ว�ำลเรชัก่นคกน�าำ้ีจรนะขชงึอ่วงถยใAงึ หBส้เCดิง่ ็ก(ใTสดh�ำeลเปักAแBน็ ลCอะไoอนัfอRดอeกบัsuมsแำciรtaกtion) 17. กข ..กคเก.ก.ช ำำ่น รร ททคคมหี่่จีนึววะนศาาไำ้ปีรมมดชษำ�ว่รปะยเับลอลเหำอผอลเะจือเดิดยีทผนชอภอู้ ะืน่อไนยั มนบน้ัข่รัน้ ู้สขอเปกึ ตองน็ตอ้ ตงลัวงกับคนเปษำ� ุคเน็นณอคตงึ ะงถ้นภลงึ ำ เคยปนว็นำอมอกปำทกลสี่ำอรำดแมภสำัยรดงขขถงอ.มข.ง ออตงงนเผคคหเูป้ อน็ววว่งไายากดมม่อท้ แนสี่เปลสเ่งปะลผไียน็ มลอลหม่ใดหผีำ� าดล้เภกยับกิดยัแรขอระขันอทกอบตงเรในงทดำผ่ือยๆรงถปู้ัพตจึงอ่ำชว่ ยกรีวยติจำ่ส์ งะไนิตกด้อำ้ ยงเแปตน็ อ่ ผำูช้ กว่ ำยรเหอนื่ลือๆ 18. ตอบ 19. ตอบ 20. ตอ2บ0.ค . กาซก่งึำรรถใชำ้หว่เกยค้ ิดเหวคลวาอืำมผมปู้ปชว่รยว่ะหมยวัำทใเจหวกำล็ยยอ่อืทมยี่ผสงั ง่รู้ปผสู้ ่วลกึ ใยตหวัห้ตดนัวี คเใอวจงรเวชกว่าดิยยกเหำทลรอืบยี่ โำดังดยรเจกู้ส็บำรึกแพตลยะวังุ อใดำหจผ้ี สปู้แง่ว่ ผตยลไม่ดกพ้รอี กัะาทผกบอ่ นไาปจรยนเงั รจผำ่ ู้ป็บงว่กหยำไยนดป้ ้ารบัอตกวั เเขลำ้ สก็ ภู่ นำวอ้ะสยม ด ลุ หเรนอื อ่ื งรจูส้ ำกกึ ผไ้ปู ม่วยม่ ยงัแี สรำงมำ รคถวดแูรลปตฏนเิบองัตไดอิ ใ้ ยนร่าะงดไับรหนึง่ ก. ชว่ ยเปิดทางเดนิ หายใจ ข. ชว่ ยหายใจและนวดหวั ใจทันที ค. ชว่ ยพยงุ ให้ผ้ปู ่วยได้พกั ผ่อน ง. ช่วยนวดผ่อนคลายให้แก่ผ้ปู ว่ ย 189 189