It follows อย าให ม นตามมา เร องย อ

เรื่องราวของเด็กสาววัย 19 ปี เจย์ (ไมก้า มอนโร) ผู้ตกหลุมรักฮิวจ์ (เจค แวรี่) หนุ่มหล่อมากเสน่ห์จนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนหนึ่ง ทว่าค่ำคืนแห่งความสุขกลับกลายเป็นความสยอง เมื่อเจย์ตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองถูกจับมัดตรึงกับเก้าอี้ แถมเธอกำลังจะเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับบางอย่างซึ่งฮิวจ์บอกกับเจย์ว่า "มัน" จะติดตามเธอไปทุกที่ แม้เธอถูกปล่อยตัวออกมาได้ แต่เธอก็ยังต้องถูกหลอกหลอนและถูกไล่ล่าจาก ... "บางสิ่ง" ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่มองเห็น และ "บางสิ่ง" นี้สามารถกลายเป็นร่างของใครก็ได้ แม้แต่คนที่เธอรู้จัก!

ตัวอย่างหนัง It Follows

หนัง : อย่าให้มันตามมา (It Follows) ประเภทหนัง : Horror จัดจำหน่ายโดย : M Picture ผู้กำกับ : David Robert Mitchell วันที่เข้าฉาย : 25 มิถุนายน 2558 ความยาวหนัง : 100 นาที นักแสดงนำ : Maika Monroe Keir Gilchrist Olivia Luccardi

ถ้าความสยองในหนังอย่าง Insidious คือการปลุกเร้าผู้ชมด้วยการใช้เสียงเป็น “ตัวกระตุ้น” หนังอย่าง It Follows กลับเลือกใช้วิธีการเร้าความน่าสะพรึงกลัวของผู้ชมด้วยการสร้างบรรยากาศสุดอึมครึมและดูมีความไม่น่าไว้วางใจ และไม่เน้นสร้างความ “ตกใจ” ให้ผู้ชม แต่หมัดเด็ดของหนังเรื่องนี้คือการทำให้คนดูหวาดระแวงตลอดทั้งเรื่องได้อย่างสัมฤทธิ์ผล

พล็อตเรื่องในหนังของ It follows นั้น บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นอย่าง เจย์ (ไมก้า มอนโร) เธอตกหลุมรักหนุ่มแปลกหน้าอย่างฮิวจ์ (เจค แวรี่) เขาเป็นหนุ่มหล่อมากเสน่ห์จนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนหนึ่ง แล้วค่ำคืนแห่งความสุขสมและแสนหวานอย่างที่หญิงคนหนึ่งจะพึงระลึกได้ก็กลายเป็นความสยอง เมื่อหลังจากทั้งคู่มีอะไรกัน เจย์ตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองถูกจับมัดตรึงกับเก้าอี้ เธอกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับบางอย่างซึ่งบอกกับเจย์ว่ามันจะติดตามเธอไปทุกที่ แม้เธอถูกปล่อยตัวออกมาได้ มันก็จะหลอกหลอนเธอไม่ว่าเธอจะอยู่ไหน และมันจะเอาชีวิตเธอได้ทุกเวลา หนทางเดียวที่เธอจะสลัด “มัน” ให้ไกลออกไปจากตัวเองได้ก็คือการที่เธอต้องไปมีเซกส์กับใครก็ได้เพื่อส่งผ่าน “มัน” ให้กับคนอื่น

องค์ประกอบทางภาพยนตร์ที่สร้างความ “น่ากลัว” ให้กับหนังเรื่องนี้ประการแรก ก็คือการเลือกใช้ดนตรีประกอบแบบเสียงซินเทไนเซอร์ ซึ่งเป็นดนตรีประกอบที่หนังสยองขวัญในยุค 70-80 นิยมใช้สร้างความไม่ชอบมาพากลของฉากนั้นๆ

องค์ประกอบประการที่สองคือการใช้ขนาดภาพในการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยสเกลภาพแบบอัตราส่วน 2.35:1 ซึ่งเรียกกันว่า Anamorphic Scope ซึ่งเป็นขนาดภาพสำหรับภาพยนตร์ซึ่งเพิ่ม “พื้นที่” ด้านความยาวออกของภาพ และจุดนี้เองที่หนังเล่นกับ “ความเวิ้งว้าง” รอบตัวของนางเอกยามที่เธอต้องอยู่ตัวคนเดียวในที่โล่งแจ้ง อาทิสวนสาธารณะยามวิกาล, ชายหาด, ตึกร้าง หรือในทะเลที่ “แผ่” ภาพออกไปดูไม่มีจุดสิ้นสุด และสร้างความไม่น่าไว้วางใจให้กับผู้ชมคิดจินตนาการไปต่างๆนาๆว่า “มัน” จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ และในรูปแบบร่างอะไร

ในฉากหนึ่งที่น่าจดจำไม่แพ้กันคือฉากที่นางเอกกำลังนอนอาบแดดอยู่ริมทะเล ระหว่างนั้นที่มุมภาพก็เหมือนจะมี “ใครสักคน” เดินเข้ามาในเฟรมภาพ จากนั้นหนังก็เปลี่ยนมุมกล้อง ผมนางเอกของเรื่องถูกดึงขึ้นฟ้า ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนๆ จนพวกเขาแตกตื่นและพบว่า “มัน” ที่นางเอกของเรื่องพูดถึงนั้นมีตัวตนอยู่จริง เพียงแต่คนที่สามารถ “เห็น” รูปร่างของมันได้นั้นมีเพียงนางเอกของเรื่องเท่านั้น

ประเด็นแยบคายที่อ้างอิงถึง “มัน” นั้นไม่เพียงแต่จะพูดแค่เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่มันยังขยายไปถึง “ความไร้เดียงสา” ของมนุษย์อันหวาดกลัวต่อสิ่งที่ตนไม่รู้และไม่สามารถหาทางออกให้กับชีวิตได้ ความกระเสือกกระสนในการมี “เพศสัมพันธ์” ก็เหมือนการ “ระบาย” ออกในสิ่งที่ตนไม่สามารถปลดปล่อยหรือระบายออกมาได้ทางคำพูดนั่นเอง

แต่อย่างที่เราได้เห็นกันในหนังก็คือถ้าหากการส่งผ่าน มัน ไปสู่ผู้รับคนอื่น หากเขา/เธอ ไม่ส่งผ่าน “มัน” ไปสู่คนต่อๆไป มันก็ยังจะคงเวียนวนกลับมา “ทำร้าย” ตัวคนก่อนหน้าเช่นเดิม นั่นหมายความว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะส่งผ่าน “มัน” หรือไม่ “มัน” จะยังจะคงอยู่ ติดตาม และมีโอกาสหวนกลับมา “ฆ่า” ได้ทุกเมื่อ

เรื่องราวของเด็กสาววัย 19 ปี เจย์ (ไมก้า มอนโร) หลงรัก ฮิวจ์ (เจค แวรี่) หนุ่มหล่อมากเสน่ห์จนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนหนึ่ง แล้วค่ำคืนแห่งความสุขก็กลายเป็นความสยอง เมื่อ เจย์ ตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองถูกจับมัดตรึงกับเก้าอี้ เธอกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับบางอย่างซึ่งบอกกับ เจย์ ว่ามันจะติดตามเธอไปทุกที่ แม้เธอถูกปล่อยตัวออกมาได้ แต่เธอก็ยังต้องหลอกหลอนจากการถูกไล่ล่าโดย บางสิ่ง ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่มองเห็น บางสิ่งนี้สามารถกลายเป็นร่างใครก็ได้ แม้แต่คนที่เธอรู้จัก

It Follows ถือว่าเป็นหนังสยองในอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้มองเห็นได้หลายมุมและเปิดโอกาสให้คนดูได้คิดเองไม่ปิดกั้นตามสูตรหนังแบบเดิมๆ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก การโผล่ออกมาแต่ละครั้งของผีที่คาดไม่ถึง จนทำให้เราเกร็งไปหมด ด้วยซาวด์ที่บีบตลอดเวลา มันจึงเหมาะที่จะเป็นหนังสยองแห่งปี 2015 ใครไปดูแล้ว ลองมาพูดคุยกันว่า คิดและตีความเหมือนกันหรือเปล่า ร่วมพูดคุยต่อได้ที่เพจ Mahorgroup หรือ รีวิวที่ http://www.majorcineplex.com/movie/it-follows

หนึ่ง..อย่าไปหาเหตุผลกับผีหรือปีศาจในเรื่อง ว่ามันทำไปเพื่ออะไร ล่าเหยื่อไปทำไมกัน ผีไทยยังค่อนข้างชัดเจนกว่าว่าทำไปเพื่อความแค้นเป็นหลัก แต่สำหรับผีฝรั่ง สุดท้ายหนังก็มักไม่ค่อยยอมบอกอยู่ดีว่าจะหลอกไปเพื่อ…

สอง..พวกเหยื่อในเรื่อง พยายามหาทางรอด หาทางทำลายผี/ปีศาจไปก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายเหยื่อและคนรอบๆ ข้างเมื่อโดนเล็งเป็นเป้าหมายแล้วก็ไม่ค่อยรอดกัน หรือถ้ารอดก็มีฉากชวนให้คิดต่อว่าคงรอดไปได้ไม่นาน และต่อให้กำจัดผีไปได้ สุดท้ายผีตัวนั้นมันก็จะกลับมาใหม่อยู่ดี

“It Follows” เป็นหนังผีฝรั่ง และอยู่ภายใต้เกณฑ์ 2 ข้อที่ว่านี้เช่นกัน ใช่แล้ว,,,ถึงตอนนี้ได้ Spoil ตอนจบหนังไปละ แต่ถึงจะไม่ Spoil คิดว่าคนที่คุ้นกับสไตล์หนังผีฝรั่งแบบนี้ ก็คงพอเดาตอนจบได้อยู่ดี แต่กระนั้นก็อย่าเพิ่งมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป เพราะแม้ It Follows จะไม่ได้แปลกใหม่ในเชิงเนื้อหา แต่ก็โดดเด่นในเชิงแนวคิดและการสร้างบรรยากาศที่หลอนได้โดยไม่ต้องตุ้งแช่

แนวคิดของ If Follows คือ เหยื่อจะถูก “ติดตาม” โดยผี-วิญญาณ-ปีศาจ หรืออะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก มันไม่มีหน้าตาหรือรูปร่างที่แน่นอน บางครั้งอาจมาเป็นผู้หญิง บางครั้งก็ผู้ชาย บางครั้งก็เป็นวัยรุ่น บางทีก็แก่ แต่เหยื่อจะรู้สึกได้ว่ากำลังโดนตาม เพราะมันจะจ้องและเดินมาทางเรา เป้าหมายของมันคือฆ่าเรา ส่วนเราที่ต้องทำยังไงก็ได้ไม่ให้มันเข้าใกล้ตัวเราได้

ที่แตกต่างจากเรื่องอื่น คือการเป็นเหยื่อในเรื่องนี้ถ่ายทอดผ่านการมี “Sex” ซึ่งนางเอกของเรื่อง “Jay Height” (Maika Monroe) ก็ได้รับส่งต่อทายาทจากการมีสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบกันไม่นาน ทางเดียวที่เธอจะรอดได้ก็ถือต้องไปมี Sex กับคนอื่นต่อ เพื่อให้เชื้อเหยื่อถ่ายทอดไปเรื่อยๆ แต่หากเหยื่อคนต่อไปโดนผีฆ่าตาย เหยื่อในลำดับก่อนหน้าก็จะกลับมาเป็นฝ่ายถูกตามอีกครั้ง และมันจะตามและฆ่าเหยื่อย้อนลำดับไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดเริ่มต้น ซึ่งก็อย่างที่ว่าไว้ ไม่รู้มันทำไปทำไมเหมือนกัน

การเอาเรื่อง Sex มาผูกกับวิญญาณตามติดแบบนี้ ถ้าไม่คิดอะไรมาก็คงเป็นแค่ความครีเอทของผู้สร้าง ที่อยากขายความแปลกใหม่ แต่ถ้าอยากวิเคราะห์เอาเรื่อง ก็อาจเป็นการเตือนให้ระมัดระวังในความสัมพันธ์ทางเพศ ไม่ใช่ว่าจะมี Sex เพื่อความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว เพราะบางทีการมี Sex กับคนที่เพิ่งรู้จักอย่างผิวเผิน ก็อาจนำเรื่องร้ายแรงตามมาได้ ในชีวิตจริงมันเอาเป็นเรื่องท้องหรือติดโรค แต่ใน If Follows มันคือผี

แต่ที่โดดเด่นและกลายเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้เลยก็คือ “บรรยากาศ” ทั้งภาพที่ดูวังเวง มุมกล้องที่ชอบหมุนเป็น 360 องคา และดนตรีที่หลอนมาก สิ่งเหล่านี้ประกอบกันทำให้กลายเป็นบรรยากาศที่แสนอึดอัด หวาดระแวง รู้สึกเหมือนถูกคุกคาม และสิ้นหวังที่จะหนี ทั้งที่ผีในเรื่องไม่ได้หน้าเละ จังหวะโผล่ก็ไม่ได้เน้นตุ้งแช่ กลับค่อยๆ โผล่มาให้เห็น แต่กลับดูน่ากลัวกว่าหนังผีแบบโจ่งแจ้งหลายเรื่องด้วยซ้ำ เป็นหนังสยองขวัญที่เล่นกับอารมณ์ความหวาดระแวงของคนได้อย่างสุดๆ

โดยเฉพาะดนตรีประกอบที่เรียกว่าเป็นตัวเอกของเรื่องเลยก็ว่าได้ คือต่อให้ปิดตาไม่ดู เพราะไม่อยากเห็นผี แต่ลำพังเสียงดนตรีที่ลอยมา ก็สร้างความสะพรึงได้มากแล้ว It Follows อาจเป็นหนังผีที่ดำเนินเรื่องไม่ใหม่ แต่ในแง่ความหลอนก็ยังโดดเด่นชวนให้ไปลองของยิ่งนัก