ปัจจุบัน จป.วิชาชีพ เป็นระดับเดียวที่ต้องจบสายตรงวุฒิการศึกษาสาขา อาชีวอนามัยและความปลอดภัย หรือ เทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยที่เปิดสอน จป.วิชาชีพ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ Show สถานประกอบกิจการตอนนี้เริ่มให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น เพราะกฎหมายมีความเข้มข้นจนนายจ้างต้องปรับตัวให้ทันต่อเหตุการณ์ปฏิบัติตามที่กฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการตนเองให้ครบถ้วนมากที่สุดเพื่อป้องกันถูกดำเนินคดีจากทางราชการไม่ให้เสียค่าปรับ และ เสียชื่อเสียงของบริษัท จป.วิชาชีพ คือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หลักในการป้องกันอุบัติเหตุ เตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆในองค์กร ดูแลทุกกิจกรรมการทำงานของบริษัทเกิดความปลอดภัย เป็นบุคคลที่มีความชำนาญในการให้คำแนะนำปรึกษาในด้านต่างๆ แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในบริษัทให้สามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง จป.วิชาชีพ หรือ จป.ว จะคอยติดตามกฎหมายใหม่ๆที่เกี่ยวข้องของบริษัทเสมอ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องได้รับการประเมินความสอดคล้องลงในแผนการทำงาน (Action plan) และ นำไปสู่การปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน คุณสมบัติของ จป วิชาชีพ ตามกฎหมายใหม่ล่าสุดปี 2565 มีอะไรบ้างข้อ 21 เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทางานระดับวิชาชีพต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
จป.วิชาชีพ มีหน้าที่อะไรหน้าที่ของ จป.วิชาชีพ ตามกฎกระทรวง การจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากรหน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 มีทั้งหมด 13 ข้อ ดังนี้
นอกจากหน้าที่ของ จป.วิชาชีพ ตามกฎหมายแล้วแต่ละสถานประกอบกิจการ จป.วิชาชีพ ยังมีหน้าที่อื่นที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของสถานประกอบกิจการ จป.วิชาชีพ มีความสำคัญอย่างไรจป.วิชาชีพ ถือเป็นบุคลากรหลักในเรื่องของความปลอดภัยในองค์กร ผู้ซึ่งดำเนินงานขับเคลื่อนให้สถานประกอบกิจการสามารถเดินหน้าทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นต่อเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่างๆที่จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจหยุดชงัก เช่น การเกิดอัคคีภัย อุบัติเหตุร้ายแรงต่างๆในสถานประกอบกิจการ แต่ละกิจกรรมในสถานประกอบการล้วนมีอันตรายแฝงอาจเกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย (unsafe Act) หรือ สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย (unsafe condition)
OSHA (The Occupational Safety and Health Administration) ได้ประมาณการว่าในแต่ละปี จะมีการบาดเจ็บและเจ็บป่วยทำให้ต้องเสียค่าชดเชยเพิ่มมากขึ้นแต่ทั้งหมดนี้ จป.วิชาชีพ สามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บจากการทำงานได้ หากมีอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บในงานเกิดขึ้นอาจนำไปสู่ผลผลิตที่ลดลงของสถานประกอบกิจการ หรือทำให้เบี้ยประกันภัยของบริษัทสูงขึ้น นั่นก็หมายถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย สรุปจป.วิชาชีพในแต่ละสถานประกอบกิจการอาจมีหน้าที่นอกเหนือกฎหมายที่แตกต่างกันตามประเภทของสถานประกอบกิจการ แต่โดยทั่วไปแล้ว จป.วิชาชีพ มีหน้าที่หลักในการดูแลด้านความปลอดภัย ดูแลสุขภาพของพนักงานรวมถึงการบังคับใช้ และ ดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายด้านความปลอดภัยขององค์กรเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน |