• ควรจัดวางเครื่องมือให้เป็นระเบียบ อย่างมีระบบ ไม่วางระเกะระกะ เครื่องมือที่มีคมไม่ควรวางให้คมของเครื่องกระทบกัน Show
และหันคมออกจากผู้ปฏิบัติงานเสมอ • การใช้ไขควง เลือกไขควงที่ถูกต้องกับชนิดของงานและมีสภาพดีอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการพลาดขณะขันตะปูเกลียว • ด้ามของเครื่องมือต่างๆ เช่น ด้ามค้อน ด้ามมี ด้ามสิ่ว ต้องได้รับการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพดีและติดแน่นอยู่กับตัวเครื่องมือเสมอ • ใช้เครื่องมือให้ถูกกับลักษณะของงาน เพราะการใช้เครื่องมือผิดวัตถุประสงค์อาจก่อให้เกิดความเสียหายและเป็นอันตรายได้ • จัดเก็บและตรวจสภาพเครื่องมืออยู่เสมอ หากพบเครื่องมือที่ชำรุด ควรนำไปซ่อมแซมก่อนนำมาใช้งาน • ทุกครั้งหลังปฏิบัติงานต้องทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ และเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบอย่างมีระบบอยู่เสมอ • ความปลอดภัยด้านการใช้วัสดุหรือชิ้นงานต่างๆหรือแยกออกไป เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้เครื่องมือที่มีความบกพร่อง การใช้วัสดุหรือชิ้นงานต่างๆ อย่างปลอดภัยมีหลักปฏิบัติ ดังนี้ • ยึดวัสดุหรือชิ้นงานต่างๆ ให้แน่นอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน • เศษวัสดุหรือเศษไม้ต่างๆ ให้ทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย ไม่ควรทิ้งไว้บริเวณพื้นโรงงาน หรือห้องปฏิบัติงาน • วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงต้องเก็บรักษาอย่างมิดชิด ภายในถังที่มีฝาปิดและจะต้องอยู่ในที่ที่ปลอดภัย • เศษผ้าที่เปื้อนน้ำมัน หรือเศษผ้าที่ใช้กับงานตกแต่งผิวชิ้นงานเสร็จแล้ว ควรทำลายหลังเลิกงาน หรือเก็บอย่างมิดชิดภายในถังขยะที่มีฝาปิด ความปลอดภัยด้านการใช้โรงฝึกงาน • โรงฝึกงานทั่วไป ( Comprehensive General Shop) เป็นโรงฝึกงานที่มีช่างหลายสาขาอยู่รวมกันจัดเก็บเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ร่วมกันอย่างเป็นระบบ เช่น ช่างไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างเขียนแบบ เป็นต้น • โรงฝึกงานแบบประสม ( General Unit Shop) โรงฝึกงานประเภทนี้แยกประเภทของช่างที่มีการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้คล้ายๆ กันมารวมกัน เช่น ช่างเชื่อมรวมกับช่างยนต์ ช่างไม้รวมกับช่างก่อสร้าง ช่างปูน เป็นต้น • โรงฝึกงานเฉพาะ (Unit Shop) จะมีเฉพาะช่างสาขาใดสาขาหนึ่งเท่านั้นถ้าเป็น โรงฝึกงานของช่างไม้ก็จะมีเฉพาะอุปกรณ์ของช่างไม้ ช่างปูนก็จะมีเฉพาะอุปกรณ์ของช่างปูนไม่นำมาปะปนกัน กฎแห่งความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและโรงฝึกงาน • ปฏิบัติตามคำแนะนำของครูผู้สอนอย่างเคร่งครัด • เมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องแจ้งให้ครูหรือเพื่อนทราบทันที เพื่อจะสามารถปฐมพยาบาลได้ทันที • ภายในโรงฝึกงาน ควรมีแสงสว่างเพียงพอและมีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา • ต้องรักษาความสะอาดของพื้นห้องไม่ให้มีคราบน้ำมันหรือวัสดุที่ก่อให้เกิดการลื่นไหลได • ไม่ควรหยอกล้อหรือวิ่งเล่นกันขณะปฏิบัติงานควรเดินด้วยความระมัดระวัง • ในการจับหรือถือเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ควรถือเพียงน้อยชิ้นเพราะอาจทำให้เกิดการตกหล่น เป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น รวมทั้งทำให้อุปกรณ์เกิดการชำรุดเสียหายได้ • เมื่อต้องขนย้ายวัสดุที่มีขนาดยาวหรือใหญ่มากควรทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และส่งเสียงเตือนให้ผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นให้ออกจากแนวการขนย้าย • ควรให้ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานในการขอความช่วยเหลือหรือขนย้ายวัสดุต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในทุกๆกรณี • ต้องสวมชุดฝึกปฏิบัติงานและเครื่องป้องกันอันตรายต่างๆ ทุกครั้ง เช่น หน้ากาก แว่นตา เป็นต้น • ไม่สวมเครื่องประดับขณะปฏิบัติงานช่าง • ใช้เครื่องมือให้ถูกต้องเหมาะสมกับชนิดของงานในแต่ละประเภท • ตรวจซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือให้อยู่ในสภาพดี ถ้าชำรุดควรแจ้งให้อาจารย์ทราบทันที • ปฏิบัติตามคำเตือนและสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงอันตรายในการปฏิบัติงานช่าง • เมื่อหมดชั่วโมงเรียนให้ทำความสะอาดสถานที่ปฏิบัติงาน จัดเก็บเครื่องมือและวัสดุ อุปกรณ์ให้เรียบร้อยตามกฎระเบียบข้อบังคับของโรงฝึกงาน สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 1. เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เนื่องจากความประมาทมักง่าย เผอเรอ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 2. เกิดจากการใช้เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะเครื่องจักรที่ชำรุดเสียหายจะก่อให้เกิดอันตรายได้มาก อุบัติเหตุในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากโรงงานหรือสถานที่ทำงานไม่ได้มีมาตรการการป้องกันรักษาความปลอดภัยที่ดี อาจจะเกิดอุบัติเหตุสามารถสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สิน เครื่องจักร วัตถุดิบ และบุคลากรได้ บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวความหมายที่แท้จริงของคำว่า ความปลอดภัยในการทำงาน ว่าจริงๆ แล้วความปลอดภัยในการทำงานหมายถึงอะไร ครอบคลุมถึงอะไรบ้าง ลองมาหาคำตอบไปพร้อมกัน ในบทความนี้ ความปลอดภัยในการทำงาน หรืออีกชื่อคือ ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (OHS) หมายถึง สภาพการทำงานที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุการณ์ (Incident) ซึ่งในที่นี้รวมไปถึงอุบัติเหตุ (Accident) ที่อาจจะเกิดขึ้นในที่ทำงาน และเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near miss) พร้อมทั้งไม่เกิดโรคจากการทำงาน โดยความปลอดภัยในการปฏิบัติงานในทีนี้ ไม่ได้หมายถึงเพียง เจ้าที่พนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ แต่รวมไปถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัยของผู้บริหาร ครู นักเรียน เจ้าหน้าที่ด้านต่างๆ ลูกจ้าง คนงาน พนักงานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น ความปลอดภัย คือความปลอดภัย (Safety) คือ ร่างกายของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานปราศจากภัย หรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมไปถึงการไม่มีโรคที่เกิดจากการทำงาน นอกจากร่างกายแล้วความปลอดภัยยังร่วมไปถึงทรัพย์สินต่างๆ อีกด้วย ซึ่งความปลอดภัยนับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนควรได้รับ โดยความปลอดภัยในที่ทำงานจะมากหรือน้อยไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่กับมาตรฐานรักษาความปลอดภัยของโรงงานเพียงเท่านั้น แต่ทุกคนในบริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของทั้งตนเองและส่วนร่วม หลักความปลอดภัย 3 หลักสากลที่ควรมีในการทำงานความปลอดภัยในการทำงานนับว่าเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการทำงาน โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการกำหนดให้ทุกองค์กรควรมีหลักความปลอดภัย 3 หลักสากลที่ควรจะมีในการทำงาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน ได้แก่
อันตรายที่อาจเกิดจากการทำงานอันตราย หรือ อุบัติเหตุที่อาจจะเกิดจากการทำงาน เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดไม่ว่าจะทั้งกับตนเองหรือผู้อื่นก็ตาม แต่ว่าการทำงานนั้นแฝงไปด้วยอันตรายในสถานที่ทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
จากที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้น ทุกคนน่าจะเริ่มเข้าใจกันบ้างแล้วว่าทำไมความปลอดภัยในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ความปลอดภัยในสำนักงาน ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆ องค์กรต้องคำนึง สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆในปัจจุบันสามารถแบ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Act)
การเกิดอุบัติเหตุจากสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Condition)
ความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหากไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดี อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุและเกิดความสูญเสียในที่ทำงานได้ โดยที่ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในที่ทำงานสาเหตุ แบ่งออกเป็น 2 อย่างหลักๆ ได้แก่ ความสูญเสียทางตรง และ ความสูญเสียทางอ้อม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
มาตรฐานการป้องกันอุบัติเหตุเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องทำให้ในปัจจุบันมีการแบ่งมาตรฐานการป้องกันอุบัติเหตุออกเป็น 3 หัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่ การป้องกันจากแหล่งกำเนิดเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่และพนักงานในจุดที่อาจจะเกิดอันตรายได้ตั้งแต่ต้น เช่น สร้างที่กันบังครอบส่วนที่เป็นอันตรายหรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งดูแลรักษาและตรวจสอบคุณภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์อยู่เสมอ การป้องกันที่ทางผ่านการป้องกันทางผ่านเป็นการแบ่งพื้นที่ระหว่างพื้นที่อันตรายและพื้นที่ปลอดภัยอย่างชัดเจน ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าบริเวณใดจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์เซฟตี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุ โดยการป้องกันทางผ่านรวมไปถึงการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ทำงานด้วย การป้องกันโดยตัวบุคคลเป็นการเพิ่มความปลอดภัยโดยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากตัวบุคคล เช่น การสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์มาตรฐานรักษาความปลอดภัยที่ทางองค์กรอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น การป้องกันอุบัติเหตุเพื่อความปลอดภัยโดยวิธีอื่นๆการใช้กฎ 5 ส เพื่อความปลอดภัยกฎ 5ส เป็นพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่ทำงานที่ทุกหน่วยงานสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ และเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยในที่งาน ได้แก่
การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคล สามารถช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดความรุนแรงของอันตรายที่อาจจะเกิด เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติหน้าที่จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น นักผจญเพลิงจำเป็นต้องสวมชุดดับเพลิง หมวก ถุงมือ และรองเท้าเซฟตี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น สามารถอ่านรายละเอียดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก การจัดการพื้นที่ให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการทำงานการจัดพื้นให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการทำงาน นอกจากจะช่วยให้ทำงานได้คล่องและง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณภาพชีวิตในที่ทำงานของพนักงานทุกคนดีขึ้น ทั้งนี้การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงานยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานหรือองค์กร การเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานเฉพาะด้าน เช่น ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ปฏิบัติงานทุกหน่วยงานจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น การให้ข้อมูลและความรู้ที่จำเป็นทั้งขั้นตอนการทำงานและวิธีใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ มีการจัดฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ และมีการจัดฝึกซ้อม (หากจำเป็น) เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น การทำงานบนที่สูง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า และการทำงานบนที่สูง ต้องมีการเตรียมความพร้อมของร่างกายและจิตใจ และอื่นๆ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย ที่บทความ การทำงานบนที่สูง ความปลอดภัยในการทำงานรูปแบบต่างๆนอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยในการทำงานรูปแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ และอาจจะเป็นประโยชน์กับหลายคน ไม่ว่าจะเป็น
หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์เซฟตี้ที่สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะปฏิบัติหน้าที่ สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Santo Fire.co.th เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เซฟตี้ทุกประเภท และรับติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย ประตูหนีไฟ รวมไปถึงระบบ Fire Alarm ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาพิเศษ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-245-9560, 02-248-3087 เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำสินค้าทุกชิ้น |