หัวเชื้อน้ำมันเกียร์ยี่ห้อไหนดี

สารเคลือบระบบเกียร์อัตโนมัติและพวงมาลัยพาวเวอร์นี้จะช่วยปกป้องชิ้นส่วนที่เป็นยางและพลาสติกในระบบขับเคลื่อนและพวงมาลัยพาวเวอร์ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิถาพให้กับระบบขับเคลื่อนและการเข้าเกียร์ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับระบบเกียร์อัตโนมัติให้ยาวนาน

โดยปกติแล้วรถยนต์ที่มีระบบเกียร์อัตโนมัตินั้นจะมีการระบุในคู่มือว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในช่วงไหน เมื่อถึงช่วงเวลาดังกล่าวคุณควรทำการเปลี่ยนถ่ายทันที ไม่ควรทิ้งไว้นานเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหากับระบบเกียร์ในภายหลังได้ ซึ่งรถยนต์ทั่ว ๆ ไปนั้นจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในทุก ๆ 25,000 - 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าหากคุณขับรถในพื้นที่ที่มีการใช้งานระบบเกียร์ค่อนข้างบ่อยก็อาจจะลดระยะในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์มาอยู่ในช่วง 10,000 - 20,000 กิโลเมตรแทนได้ 

ที่สำคัญคุณควรตรวจเช็กสถานะรถยนต์ในทุก ๆ ปีหรือตามที่คู่มือกำหนด ซึ่งคุณสามารถทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในช่วงเวลาตรวจเช็กในแต่ละปีเลยก็ได้ครับ

น้ำมันเกียร์จะมีการจัดระดับความหนืดเพื่อแบ่งประเภทการใช้งานอย่างชัดเจน โดยน้ำมันเกียร์จะถูกแบ่งเป็นน้ำมันเกียร์โมโนเกรดและน้ำมันเกียร์มัลติเกรด ซึ่งน้ำมันเกียร์โนโนเกรดนั้นจะมีตัวเลขแสดงถึงอุณหภูมิที่กำหนด ยิ่งตัวเลขสูงก็หมายความว่าเป็นน้ำมันที่มีความหนืดสูงตามเช่นกัน ในขณะที่น้ำมันเกียร์มัลติเกรดจะมีความหนืดกับความเสถียรของสารโพลิเมอร์มากขึ้น ตัวเลขที่แสดงจะเป็นตัวเลข 2 ชุด ชุดแรกจะเป็นการแสดงความหนืดในอุณหภูมิที่เย็นส่วนชุดที่สองจะเป็นการแสดงความหนืดในอุณหภูมิที่สูงนั่นเองครับ

โดยปกติแล้วจะมีการกำหนดมาตรฐานสำหรับความหนืดของน้ำมันเกียร์อยู่ 2 แบบ คือมาตรฐาน ISO 68, 100, 150 , 220, 320, 460, 680 และ 1000 กับ มาตรฐาน SAE ได้แก่ SAE 90 และ 140 ซึ่งความหนืดของน้ำมันเกียร์นั้นจะแบ่งออกเป็นเบอร์ต่าง ๆ โดยในการพิจารณาเบอร์ที่เหมาะสมกับรถที่คุณขับก็ควรพิจารณาจากประเภทของเกียร์ ความเร็วรอบ และอุณหภูมิการใช้งาน แต่ถ้าหากรถรุ่นนั้น ๆ มีแจ้งเกี่ยวกับเรื่องของน้ำมันเกียร์ในคู่มือก็สามารถเลือกใช้น้ำมันเกียร์ตามที่คู่มือแนะนำได้เลยครับ

น้ำมันเกียร์ออโต้ ยี่ห้อไหนดี สำหรับรถยนต์ทุกแบรนด์ พร้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ออโต้กัน ว่าควรเปลี่ยนตอนไหนบ้าง

น้ำมันเกียร์ อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญกับรถยนต์ โดยในปัจจุบันคนมักใช้น้ำมันเกียร์ออโต้กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องหมั่นตรวจเช็ก โดยไม่ปล่อยให้แห้งหรือเกินกำหนด เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ลดลงและนำไปสู่การเกิดอันตรายในขณะขับขี่ได้

น้ำมันเกียร์ คือ ของเหลวที่จะช่วยให้การทำงานของระบบเกียร์ไหลลื่น ทำหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเกียร์ขณะขับขี่ ป้องกันเกียร์สะดุดและมีเสียงดังในเวลาที่มีการเปลี่ยนเกียร์ นอกจากนี้น้ำมันเกียร์ยังสามารถช่วยชะล้างเศษโลหะที่เกิดจากการเสียดสีของหน้าฟันเกียร์ เพื่อป้องกันสนิมจากการกัดกร่อนของชิ้นส่วนภายในได้อีกด้วย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ น้ำมันสำหรับรถเกียร์ออโต้และน้ำมันสำหรับรถเกียร์ธรรมดา

น้ำมันเกียร์ เปลี่ยนตอนไหน

การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ควรเปลี่ยนตามคู่มือของรถยี่ห้อและรุ่นนั้น ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก ๆ 30,000-40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นรถที่ต้องมีการเปลี่ยนการเข้าเกียร์บ่อย ๆ เช่น รถที่ขับในกรุงเทพฯ ควรเปลี่ยนที่ระยะทาง 10,000-20,000 กิโลเมตร หรือประมาณปีละครั้ง ซึ่งถือเป็นระยะเหมาะสมที่สุด

น้ำมันเกียร์ออโต้ ยี่ห้อไหนดี

1. PTT Automat ATF LV-1 ราคา 250 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์สังเคราะห์ 100% สามารถใช้ได้กับระบบเกียร์อัตโนมัติของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป และอเมริกา ที่ใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติความหนืดต่ำ มีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งช่วยป้องกันการสั่นสะเทือน หรือป้องกันการสะดุด (Anti-shudder) ในระหว่างการใช้งาน ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและแม่นยำ นอกจากนี้ยังช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วน และยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์อีกด้วย

ภาพจาก : caltex.com

2. Caltex Texamatic 1888 ราคา 175 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์ออโต้และน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ที่มีความคงตัวต่อแรงเฉือนได้ดี มีสารรับแรงกดสูงจึงช่วยลดการสึกหรอ พร้อมสารลดแรงเสียดทานในน้ำมันพื้นฐาน รวมทั้งสารเพิ่มดัชนีความหนืดและความคงตัวต่อแรงเฉือน โดยจะปรับให้มีแรงเสียดทานที่เหมาะสม ทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้น ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น

ภาพจาก : caltex.com

3. Castrol Transmax ATF MULTIVEHICLE ราคา 330 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์สำหรับเกียร์ออโตเมติกในรถยนต์โซนญี่ปุ่นสมัยใหม่ ที่มีระยะการเปลี่ยนถ่ายยาว สามารถใช้ได้กับรถยนต์หลากหลายยี่ห้อ มี Smooth Drive Technology ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและยาวนานขึ้น พร้อมทั้งปกป้องและยืดอายุการใช้งานของชุดเกียร์

ภาพจาก : castrol.com

4. Bangchak FURiO ATF 1A ราคา 150 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์สำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัยพาวเวอร์ และระบบส่งกำลังอัตโนมัติของเครื่องจักร พัฒนาจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสังเคราะห์ผสมสารเพิ่มคุณภาพพิเศษ ช่วยป้องกันการรวมตัวกับออกซิเจน ทำให้มีอายุการใช้งานยืนนาน มีดัชนีความหนืดสูง พร้อมค่าสัมประสิทธิ์ความฝืดต่ำ จึงให้การส่งกำลังที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าเครื่องร้อนหรือเย็น ต้านทานการสึกหรอ การเกิดฟอง รักษาความสะอาดและป้องกันสนิม

ภาพจาก : bangchaklubricants.com

5. Valvoline MAXLIFE ATF ราคา 250 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์ออโต้แบบ STEP (Planetary Gear Set AT) สำหรับรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อ ทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์แท้ 100% ผสมสารฟื้นฟูสภาพซีลสูตรพิเศษ พร้อมสารลดแรงเสียดทานประเภทลองไลฟ์ สารป้องกันการสึกหรอและสารคงสภาพความหนืดที่ทนต่อแรงเฉือนได้ดี

ภาพจาก : valvoline.com

6. ENEOS PREMIUM CVT FLUID SUSTINA ราคา 1,100 บาท (4 ลิตร)

น้ำมันเกียร์ออโตเมติคที่ผลิตจากน้ำมันสังเคราะห์แท้ ร่วมกับสารเพิ่มคุณภาพที่คัดสรรเป็นพิเคษ เหมาะกับระบบเกียร์ CVT แบบสายพานโลหะ (Metal Belt) ที่ใช้ในรถญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และระบบเกียร์ออโตเมติคในรถญี่ปุ่นทั่วไป ที่เป็นระบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ และรถยุโรปที่ต้องการมาตรฐานนี้ 

ภาพจาก : eneosthailand.com

7. Sun'soil ATF Dexron VI ราคา 330 บาท (1 ลิตร)

น้ำมันเกียร์หล่อลื่นสังเคราะห์สำหรับเกียร์ออโต้ มีส่วนประกอบของสารเพิ่มคุณภาพ ที่ให้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานสูงกว่าน้ำมันเกียร์ชนิดสังเคราะห์ทั่วไป เหมาะสำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติและพวงมาลัยเพาเวอร์ของรถยนต์เกือบทุกชนิด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับรถยนต์ที่ระบุให้ใช้น้ำมันเกียร์ชนิด Dexron III และ Dexron II อีกด้วย

ภาพจาก : sunsoils.com

รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมตรวจหมั่นเช็กและเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ตรงตามเวลาที่กำหนด เพื่อการใช้งานและการขับขี่ที่ราบรื่น ปลอดภัย รับรองว่าเกียร์ไหน ๆ ก็ไม่สะดุด