ใบกํากับภาษีมีกี่ประเภท อะไรบ้าง *

📝 ใบกำกับภาษี หรือ TAX INVOICE ใบสำคัญที่ผู้ประกอบกิจการร้านค้าต้องทำความรู้จักนั้นมีกี่รูปแบบ และมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้เลยค่ะ

🌟 ใบกำกับภาษี เป็นใบสำคัญในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งผู้ประกอบการที่ทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (จด VAT) ต้องจัดทำใบกำกับภาษี และสำเนาใบกำกับภาษี ทุกครั้งในการขายสินค้าและบริการ

➡️ มี 2 รูปแบบ

1.ใบกำกับภาษีอย่างย่อ

2.ใบกำกับภาษีฉบับเต็ม

ใบกํากับภาษีมีกี่ประเภท อะไรบ้าง *

❓ แล้วใครบ้างที่ต้องออกใบกำกับภาษี

✅ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

✅ผู้ค้าขายสินค้าและบริการในระบบ VAT

💡 ข้อควรรู้ ในการออกใบกำกับภาษี ต้องไม่ลืมสิ่งนี้!

- ใบกำกับภาษีฉบับเต็ม : จํานวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดจากราคาสินค้าและบริการ

ให้แยกออกจากราคาของสินค้าและบริการให้ชัดเจน

- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ : ราคาสินค้าหรือค่าบริการ โดยต้องมีข้อความ

ระบุชัดเจนว่า ได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว

❓ไขข้อสงสัย ใบกำกับภาษี VS ใบเสร็จรับเงิน ต่างกันที่ตรงไหน

🟢ใบกำกับภาษี

1.ออกใบกำกับภาษีทุกครั้งที่ทำการซื้อ/ขาย

2.ต้องจด VAT ก่อนจึงออกใบกำกับภาษีได้

3.ต้องออกใบกำกับภาษีทันทีที่ส่งมอบสินค้า

🟠ใบเสร็จรับเงิน

1.ออกเมื่อขายสินค้า/บริการ 100 บาทขึ้นไป

2.ไม่ต้องจด VAT ก็ออกได้

3.ออกเมื่อมีการรับชำระเงินค่าสินค้า หรือบริการเท่านั้น

สนใจผู้ช่วยวางแผนโครงสร้างธุรกิจ ช่วยออกใบกำกับภาษี ติดต่อ AccRevo ได้เลยค่า

☑️☑️ ทดลองใช้ระบบ AccRevo ☑️☑️

สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน

คลิกที่ลิ้งค์เลยค่า >> https://bit.ly/2H8HqFE

➡️ ติดตามข่าวสาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ID Line : @accrevo

Facebook : Accrevo : Platform บัญชีดิจิทัล

Instagram : accrevo_ai

Youtube channel : Accrevo : Platform บัญชีดิจิทัล

โทร : 086-531-6211

Website : www.accrevo.com

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ใบกำกับภาษี (อังกฤษ: Tax Invoice) คือ เอกสารหลักฐานสำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องจัดทำและออกให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือบริการ เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการในแต่ละครั้ง

  • กรณีการขายสินค้า ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีพร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อในในทันทีที่มีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ
  • กรณีการให้บริการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีพร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้รับบริการในทันทีที่ได้รับชำระราคาค่าบริการ


ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องจัดทำใบกำกับภาษีอย่างน้อย 2 ฉบับ ดังนี้

  • ต้นฉบับ ผู้ประกอบการต้องส่งมอบให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
  • สำเนา ผู้ประกอบการต้องเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการลงรายงานภาษีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่ทำรายงาน

ประเภทของใบกำกับภาษี[แก้]

  1. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
    • ใบกำกับภาษีเต็มรูป
    • ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
  2. เอกสารอื่นที่ถือเป็นใบกำกับภาษี
    • ใบเพิ่มหนี้
    • ใบลดหนี้
    • ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
    • ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากร กรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิต เฉพาะส่วนที่เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม

อ้างอิง[แก้]

  • กรมสรรพากร

โดย ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร

ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป เป็นหลักฐานแสดงจำนวน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่คำนวณได้จากมูลค่าสินค้าหรือบริการ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีทุกครั้งเมื่อเกิดการซื้อสินค้าหรือให้บริการ1

องค์ประกอบของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป

ใบกํากับภาษีมีกี่ประเภท อะไรบ้าง *

โดยปกติ ใบกำกับภาษีที่ถูกต้องจะต้องประกอบด้วยรายการดังต่อไปนี้2

  • คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
  • ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
  • ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
  • หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี (และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี)
  • ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
  • จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้า/บริการให้ชัดแจ้ง
  • วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
  • ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด

เรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อย

ลูกค้าไม่แจ้งชื่อ อย่าใส่ชื่อผู้ซื้อว่า ‘สด’ หรือ ‘ไม่ระบุ’

ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป จำเป็นต้องมีชื่อของผู้ซื้อ หากไม่ระบุชื่อหรือใช้ข้อความอื่น เช่น ‘สด’ หรือ ‘ไม่ระบุ’ จะทำให้ผู้ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปนั้นถูกลงโทษได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องระบุชื่อลูกค้าให้ถูกต้อง

แต่ในกรณีที่เป็นกิจการขายปลีกกับผู้บริโภคโดยตรงและลูกค้าไม่สะดวกให้ชื่อไว้ สามารถใช้วิธีออก “ใบกำกับภาษีอย่างย่อ” แทนการออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ เนื่องจากใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่บังคับให้ต้องกรอกชื่อผู้ซื้ออยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ลูกค้าให้ชื่อไว้ แต่ไม่ได้ให้เลขบัตรประชาชนหรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีไว้ ฝ่ายผู้ขายที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะไม่มีความผิด แต่ฝ่ายผู้ซื้อที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะไม่สามารถนำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปดังกล่าวไปเคลมภาษีซื้อได้ เนื่องจากใบกำกับภาษีที่ไม่ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อจะทำให้กลายเป็นภาษีซื้อต้องห้าม3

พิมพ์ชื่อที่อยู่ผู้ซื้อผิดเล็กน้อยยังให้ถือว่าระบุชื่อที่อยู่ครบถ้วนแล้ว

กรณีระบุชื่อผู้ซื้อตรงตัวสะกด สระ วรรณยุกต์ การันต์ ผิดพลาด แต่ยังไม่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผู้ประกอบการรายอื่น ให้ถือว่าได้ระบุชื่อครบถ้วนแล้ว4

ส่วนที่อยู่ของผู้ซื้อต้องใช้ที่ตั้งของสถานประกอบการตามที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีระบุที่อยู่ไม่ครบถ้วนตามที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่รายการที่อยู่ที่ระบุไว้ถูกต้อง และสามารถบอกตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดเจนได้ ให้ถือว่าได้ระบุที่อยู่ครบถ้วนแล้วเช่นกัน5

ใบกำกับภาษีไม่จำเป็นต้องเซ็นด้วยปากกาเท่านั้น

หลายคนเข้าใจผิดว่าใบกำกับภาษีต้องมีลายเซ็นซึ่งเซ็นด้วยปากกาเท่านั้น มิเช่นนั้นจะทำให้กลายเป็นใบกำกับภาษีที่ใช้ไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว ใบกำกับภาษีจะเซ็นลายเซ็นด้วยปากกา ใช้แสกนลายเซ็นผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือต่อให้ไม่มีลายเซ็นเลยก็ได้ เพราะกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดให้ลายเซ็นเป็น 1 ใน 8 องค์ประกอบสำคัญที่ใบกำกับภาษีต้องมี

ดังนั้น จะมีลายเซ็นหรือไม่จึงไม่ใช่สาระสำคัญ ขอเพียงใบกำกับภาษีมีรายการครบถ้วนแล้วก็ย่อมเป็นใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์แล้ว ผู้ออกใบกำกับภาษีจึงไม่มีความผิด ในขณะที่ผู้รับก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

หลายคนเข้าใจผิดว่าการแต่งตั้งผู้ที่มีอำนาจเซ็นในใบกำกับภาษีต้องมีการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ความจริงแล้วผู้ประกอบการจะแต่งตั้งโดยทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละกิจการ


อ้างอิง

  1. ^

    มาตรา 86 ประมวลรัษฎากร

  2. ^

    มาตรา 86/4 ประมวลรัษฎากร

  3. ^

    คำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง การระบุเลขประจาตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในใบกากับภาษีแบบเต็มรูป ลว. 25 มี.ค. 2558

  4. ^

    ข้อ 4 (3) คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป

  5. ^

    ข้อ 4 (3) คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป