ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนว่า โพสนี้เป็นโพสที่เขียนสำหรับ เครื่อง LEVEL51 Gen 8 หรือรุ่นที่ใช้เป็น CPU Desktop นะ แต่ถ้าคนที่มีคอมพิวเตอร์ที่เป็น CPU K จะอ่านเอาไอเดียเพิ่มก็ได้ Show จากการที่ลองใช้ทั้ง AMD, Intel มาแล้ว (จริงๆ จะบอกว่า Cyrix ด้วย แต่คนส่วนมากคงจะไม่รู้จัก ฮือๆ) ขอบอกว่า การโอเวอร์คล็อก ของ Intel มีอะไรให้ปรับได้เยอะกว่า ปรับได้ละเอียดกว่า แล้วก็ดูน่าตื่นเต้นกว่ามากเลย โปรแกรมของ Intel ที่ใช้ในการโอเวอร์คล็อก เรียกว่า Intel XTU ซึ่งถ้ายังไม่มี ก็ไปดาวน์โหลดมาได้จากที่นี่เลยนะ และก็ถ้ายังไม่ได้อ่านโพสที่อธิบายว่า ทำไม i7-8750H ทำงานได้ความเร็วไม่ถึง 4.1GHz ก็ขอแนะนำให้ไปอ่านปูพื้นมาก่อนเลย เพื่อให้พอได้ไอเดียคร่าวๆ ว่าอะไรมันสัมพะันธ์กันยังไง แน่นอนว่าทางคนทำโน๊ตบุ้คเขาก็ได้ออกแบบระบบระบายความร้อน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของ TIM ที่เขาใช้ไว้แล้วด้วย พอเราใช้ตัวที่มันดีกว่า มันก็เลยมีผลทำให้ซีพียูมันเย็นลง ประมาณนั้น ส่วนถ้าถามว่า ทำไมเขาไม่เลือกใช้ตัวที่ดีเวอร์มาเลยแต่ต้น ก็น่าจะเพราะเหตุผลเรื่องการผลิต และก็ราคาดัวยมั๊งนะ สำหรับเครื่อง LEVEL51 จะสามารถเลือกตัวนำความร้อนที่ดีที่สุดที่เขายอมขายให้เรา (อีกเจ้าส่งเมลล์ไปเขาไม่ตอบ เชอะ!) ก็คือ LIQUID Pro ครับ ตัวนี้ทำจากโลหะล้วน และก็มีผลทดสอบจากช่อง YouTube ช่อง Play3r TV ที่เทสไว้ EPIC สะใจมาก เทียบกัน 26 ตัว!! (คลิกเพื่อเปิดวีดีโอ) สำหรับเครื่องที่เลือกใช้ตัวนำความร้อนที่มันดีขึ้นเยอะมาก เช่นอย่าง LIQUID Pro หรือ IC Diamond (ไม่ค่อยจะขายของเล้ย) ตัวซีพียูก็จะสามารถระบายความร้อนได้เร็วกว่า ทำให้มันสามารถทำงานที่ระดับ TDP ที่สูงกว่าได้ เช่น ปกติซีพียู i7-8750H จะตั้งค่าไว้ที่ 45W เราก็สามารถตั้งค่าให้มันทำงานที่ระดับ TDP สูงขึ้นได้ โดยที่ความร้อนจริงที่วัดได้ ยังไม่สูงจนเกินไปยังไงละ เอาละได้เวลาเปิด Intel XTU ขึ้นมาได้แล้ว การตั้งค่าในโปรแกรม XTU ให้กดทางซ้าย เลือก All Controls ที่อยู่ข้างใต้ Advanced Tuning ได้เลย UPDATE: 4/2019 เมื่อพอใจกับความร้อนแล้ว (เราก็มาลด Voltage Offsetกันบ้าง อันนี้เขาจะเรียกกันว่า Undervolt โดยเริ่มจาก -0.1000V ก่อนเลย เท่าที่ลองมา ไม่เคยมีเครื่องไหนไม่ได้ -0.1V มาก่อน ก็เลยแนะนำเท่านี้ อิอิ ยำ้อีกที ลด นะ ไม่ใช่เพิ่ม ต้องมีเครื่องหมาย - ข้างหน้าด้วย เช่น -0.1000V และเนื่องจากตั้งแต่นี้ต่อไป เครื่องมีสิทธิ์ค้าง ก็แนะนำให้เซฟ Profile เก็บเอาไว้ก่อนได้ จะได้ไม่ต้องมาตั้งใหม่ทุกครั้ง (โหลด Profile ได้จากเมนู Profile ซ้ายมือ) เมื่อเซฟแล้ว ก็เปิด LinX ลุย!! จะเห็นว่า พอลด Voltage Offset ไป -0.100V ความเร็วเพิ่มจาก 3.77GHz มาเป็น 4.08GHz เลย (เพิ่มขึ้น 8%) ถ้ารันไปพักนึง มันยังไม่ดับ ไม่ค้าง ไม่ Blue Screen แสดงว่ายังไหว เราก็เพิ่มไปอีก แนะนำทีละ 0.025V เช่น
ถ้าได้ถึง -0.150V โดยไม่ค่้างนี่ นับว่าโคตรโชคดีแล้วละ เหอๆๆ อันนี้ตอนลดไป -0.125V จะเห็นว่า จาก 3.77GHz มาเป็น 4.17GHz แล้ว (เพิ่มขึ้น 10%) แล้วยังไปต่ออีก เป็น -0.1500V ก็ได้ความเร็ว เพิ่มมาเป็น 4.23GHz (เพิ่มขึ้น 12%) แต่ว่าสำหรับเครื่องนี้ ไม่รอดจ้า -0.1500V แล้ว เกิด Blue Screen พอเปิดเครื่องกลับขึ้นมาใหม่ Intel XTU จะรีีเซ็ตค่าออกหมดทุกอย่าง เราต้องตั้งใหม่ หรือเปิด Profile กลับขึ้นมา เห็นมั๊ยว่า มันค่อนข้างจะปลอดภัยพอสมควร ตั้งมากไป มันก็โดนรีเซ๊ต ยังไงก็เข้าวินโดวส์ได้แน่ พอเรารู้แล้วว่า มันไม่ไหวที่ -0.1500V เราจะเลือกที่ -0.125V เลยก็ได้ ในภาพนี้ เป็นที่ -0.1350V จะเห็นว่า ความเร็วมันไม่ต่างจาก -0.125V เลย ใช้ -0.125 ดีกว่า ถ้าเกิดว่าความเร็วยังไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็ลองเพิ่ม TDP ดูได้เหมือนกัน อาจจะ 80 -> 83W เป็นต้น เอาละนะ เมื่อเจอ Maximum TDP, Minimum Voltage ก็เป็นอันว่าสิ้นสุดการ Power Limit Tuning!~ ที่สำคัญคือ อันนี้คือความเร็ว/ความร้อนที่เราจะได้ เมื่อ AVX ทำงานอยู่ด้วย ถ้าเกิดว่าโปรแกรม(ส่วนมาก)ที่ไม่ได้ใช้ AVX ก็จะได้ความเร็วสูงกว่านี้ เพราะว่า AVX มันจะใช้ไฟเยอะ ต่อไปก็คือการ Overclock จริงๆ ละ ปรับความเร็วด้วยตัวคูณ (Multiplier)การ "Overclock" ในสมัยนี้ เอาจริงแล้วมันคือการแค่ปรับ "ตัวคูณ" นี้ เท่านั้นเองแหละ ก็คือรุ่นที่บอกว่าสามารถโอเวอร์คล็อคได้ คือรุ่นที่เราสามารถปรับตัวคูณนี้ได้เท่านั้นเอง อย่าลืมว่า โดยปกติ ซีพียูที่เราใช้ทุกวันนี้ มันโอเวอร์คล็อคอัตโนมัติอยู่แล้ว อย่าง i7-8700K นั้น Base Clock คือ 3.7GHz และ Boost Clock คือ 4.7GHz นะ การปรับตัวคูณนี่คือเราแค่ไปอนุญาตให้มัน Overclock ได้มากขึ้นไปอีก การตั้งค่า ก็ยังอยู่ใน XTU เหมือนเดิม อยู่ตรงนี้ การตั้งค่าก็ตรงตัวมาก นั่นก็คือ ถ้ามี Core ที่ทำงานอยู่ X Core จะให้ตัวคูณเป็น Y เท่า ทั้งนี้คงจะพอเดาได้แล้วละ ว่า 1x คือ 100MHz นะ เพราะว่า i7-8700K ความเร็วสูงสุดที่เขาโฆษณามา อยู่ที่ 4700MHz หรือ 47x100MHz หรือ 4.7GHz นั่นเอง สำหรับเครื่องที่เป็น CPU ที่ไม่มีหรัส K แน้่นอนว่าจะปรับไม่ได้นะ จะปรับได้แค่ระบบไฟที่ผ่านมาอย่างเดียว ซึ่งถ้าเกิดว่าความเร็วเท่ากับ 6 Active Cores แล้ว ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการปรับแล้วละ ไม่ต้องทำอะไรอีก ส่วนถ้าปรับได้ แนะนำให้ปรับทุก Core เท่ากับความเร็ว 1 Active Core จะปรับสูงกว่าก็ได้ อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของดวงว่าได้ชิพดีแค่ไหน แต่ว่าหลังจากที่เราได้ลด Voltage (Undervolt) มาแล้ว โอกาสที่มันจะทำความเร็วสูงขึ้น จะเป็นไปได้น้อยลง เพราะความเร็วสูงขึ้น ก็จะต้องการแรงดันไฟสูงขึ้น และพอแรงดันไฟสูงขึ้น มันก็ร้อนอีก ติด Power Limit เร็วขึ้น วนไปแบบนี้แหละ สำหรับ PC ก็ตั้งความเร็วที่อยากได้ไว้เลย แล้วแทนที่จะไปลด Core Voltage Offset ก็ไปเพิ่มแทน หรือตั้ง Core Voltage เป็นค่า Fixed ไว้เลยได้ เช่น 1.3V (แต่มันจะร้อนขึ้นนะ) โดย PL1 ก็จะเป็นคนช่วยไม่ให้ความร้อนเกินเองจ้า ส่วนถ้าเกิดว่า ความร้อนมันยังอยู่ใน PL1 จะเพิ่ม Clock ขึ้นมาอีกก็ได้ แนะนำให้กดจาก 6 Active Cores ไป มันจะเพิ่มตัวบนๆ ให้ด้วย :) ถ้าตั้งไว้แบบนี้ หมายถึง ต่อให้ทัั้ง 6 Core ทำงาน แต่อาจจะยังไม่ได้ทำงาน 100% มันก็จะพยายามทำความเร็วที่ 4.7GHz ไปเลย ถ้า TDP ยังไม่เกิน 80W และกระแสไฟยังไม่เกิน Processor Core IccMax แล้วพอเราปล่อยมันรันไป ก็จะเห็นว่าความเร็วมาหยุดที่ 4.1GHz (เข้าใจว่า AVX ทำงาน เพราะมันจะใช้ไฟเยอะกว่า) เท่ากับตอนแรกที่เราทดสอบได้จากตอนเราทำการ Power Limit Tuning รอไว้แล้ว และสังเกตว่า เวลาลดลงจาก 69 วินาที เป็น 67 วินาทีด้วย Update: 4/2019 - ข้อมูลใหม่ จากเครื่อง NXL RTXในปี 2019 เราพบว่า เครื่องล็อตใหม่ ที่มาจากโรงงาน CLEVO นั้น มีการตั้ง Processor Core IccMax เอาไว้ ต่ำกว่าที่ตัว Processor สามารถรับได้ นอกจานี้ ยังปรับจุด Thermal Throttle ไว้เพียงแค่ 87c อีกด้วย ทำให้ผมเกิดสงสัยว่า ทำไมกันนะ คนที่ทำ BIOS เขาจึงได้ทำแบบนั้น หลังจากที่นั่งลองเล่นอยู่คืนนึงเต็มๆ ก็เลยเข้าใจแล้ว!!!! และก็ต้องเอามาเขียนให้อ่านกันเนี่ยแหละ ก่อนอื่นเลย ตัว CPU แต่ละรุ่น จะมีความสามารถในการรองรับกระแสไฟที่ต่างกันไปนะ ตาม Datasheet ของ Intel ระบุเอาไว้ตามนี้ ซึ่ง BIOS ของเครื่อง NXL รุ่น GTX ก็จะตตั้งไว้ที่ 138 Amp ตามเสปค แต่ว่าในเครื่อง NXL รุ่นที่เป็น RTX นั้น กลับมีการตั้งเอาไว้ที่ 103 Amp เท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับค่าใดๆ เลยในตารางข้างบนนี้ จะว่าเป็นของ 35W ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่ารุ่นนี้ก็ทำรองรับ CPU 65W อยู่แล้ว จากการเล่นกับ Intel XTU นี้ ผมสังเกตเห็นว่า พอความร้อนยิ่งสูงขึ้้น CPU จะต้องการ Voltage สูงขุึ้น แล้วพอ Voltage สูงขึ้น ความร้อนก็ยิ่งสูงขึ้น ทำให้มันต้องการ Voltage สูงขึ้นอีก วนไปแบบนี้ และผมก็สังเกตว่าในช่วงที่ CPU ยังไม่ค่อยร้อน ตัวมันจะสามารถทำงานที่ความเร็วสูงได้ โดยที่ Package TDP ยังต่ำอยู่อีกด้วย จะเห็นว่าตอนนี้ ที่ TDP 68W ความเร็วกลับอยู่ที่ 4.95GHz ได้สบาย ถ้าย้อนกลับไปดูภาพจากย่อหน้าที่ผ่านมาเรื่องการ Undervolt จะเห็นว่า ที่ความเร็ว 4.23GHz นั้น Package TDP ไปถึง 83W แล้ว และจะเห็นว่า มันต้องใช้แรงดันไฟถึง 1.157V ในการทำให้ได้ความเร็ว 4.23GHz ในขณะที่ ตอนที่ความเร็ว 4.95GHz ในภาพข้างบน ใช้แรงดัันไฟเพียง 1.267V ผมสังเกตเห็น Pattern นี้มาตั้งนานแล้ว และอยากจะพยายามจำกัด ไม่ให้ CPU มันเข้าไปติดลูปการเพิ่ม Volt ไม่รู้จบนี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ว่าด้วยความที่ด้อยความรู้เรื่องวิชาฟิสิกส์สุดๆ (ตกตลอด เป็นมนุษย์ที่จำสูตรอะไรไม่ค่อยได้เลย) เลยไม่ทันนึกคิดได้ว่า สูตรการคำนวณ ปริมาณงาน (Watt) หรือค่า P หรือค่า PL1 นั้น มันคือแบบนี้ จะเห็นว่า จริงๆ แล้ว การไปจำกัด P เพื่อควบคุมความร้อน น่าไม่ใช่ทางที่ถูกซะทีเดียวนัก เพราะว่า P (หรือ PL1) นั้น เป็นการทำงานของกระแสไฟฟ้า ซึ่งตัวแปรที่ทำให้เกิด P จริงๆ แล้วคือ V แรงดันไฟ (ซึ่งเราไปเล่นกับมันแล้ว คือการ Undervolt) และ I กระแสไฟ (Processor Core IccMax) การที่เราไปจำกัด PL1 (P) จึงไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุ เพราะต้นเหตุของ P มันคือ V กะ I ต่างหาก~!!! ผมจึงทดสอบโดยการ ลด Processor Core IccMax ของเครื่อง NXL GTX ที่ใช้ทดลองนู่นนี่จนเละเทะไปหมดแล้ว จาก 138Amp เหลือเพียง 115Amp และตั้ง Undervolt -0.135V พร้อมทั้งตั้งค่า Thermal Throttle ให้ต่ำลงเหลือ 92c ก็ปรากฏว่าได้ผลแบบนี้....คือ เวลาจาก 69 วินาที ลดเหลือ 40.7 และ GFLOPS เพิ่มจาก 112 เป็น 190 เพิ่มขึ้น 70% เฮ้ยยยยย~~!?!?!? (หมายเหตุ: Windows Build นี้ เป็นคนละ Build กับตอนที่เขียนบทความครั้งแรก อาจจะมีการปรับปรุงเรื่องการใช้ AVX ส่วน CPU ที่ใช้เป็น 8086K แต่ว่าปรับความเร็วไว้ที่ 4.7GHz) (หมายเหตุ 2: เครื่องที่ผมใช้อยู่นี้ น่าจะต้องเปลี่ยน Heatsink แล้วละ เพราะถูกเปลี่ยนถูกขัดผิวหลายรอบ มันน่าจะห่างจาก CPU เกินไปจนแรงกดไม่ค่อยพอ เพราะที่ TDP 50-60W ยัังความร้อนสูงอยู่เลย >.< แต่ก็คิดว่าใช้อ้างอิงได้นะ) ผมจึงได้ทดสอบปรับค่าระหว่่างจุด Thermal Throttle กับ Processor Core IccMax ดูว่า มันมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพในเครื่อง NXL ของผมอย่างไรบ้าง ก็ได้ผลออกมาตามนี้ครัับ น่าจะพอสรุปได้แบบนีี้ว่า
และจากการสังเกตตอนเทส พบว่า ถ้าปรับ IccMax ไว้ที่ 138Amp ควบคู่กับการปรับ 8086K ไปที่ 5.0GHz ทุก Core เครื่องจะดับบ่อยมากน่าจะจากโดน Thermal Trip Point (มี Core นึงถึง 100c) เพราะว่า CPU ดึงไฟเข้าไปมากแบบกระทันหัน หลังจากปรับ IccMax ไว้ที่ 103Amp แล้ว ตัว CPU ก็ยังสามารถทำงานได้ที่ 4.9-5.0GHz ได้อยู่ในจะหวะ Burst เช่น เปิดโปรแกรม Photoshop หรือเปิดหน้าเว็บใหม่ และก็ไม่มีอาการดีับเกิดขึ้นเลย ก็คิดว่า พอจะสรุปได้ว่า หนทางที่จะรีดประสิทธิภาพที่สุดออกมาจาก NXL โดยที่ความร้อนก็อยู่ในระดัับที่ไม่สูงมาก น่าจะเป็นตามนี้ครับ
ทีนี้ ในการปรับ TjMax Offset จะต้องปรับใน BIOS นะครับ ผมทำ BIOS ตัวใหม่สำหรับ NXL GTX สามารถดาวน์โหลดได้เลย วิธีการ Flash คือ เปิด Command Prompt แบบ Admin แล้วไปที่ Folder ที่มีไฟล์ FPTW64.exe กับ nxl-1.07.111-logo-mod.bin ที่ดาวน์โหลดมา แล้วพิมพ์ว่า ftpw64.exe -f nxl-1.07.111-logo-mod.bin -BIOS หมายเหตุ: NXL RTX ไม่ได้ใช้ BIOS ตัวนี้ และมีการตั้งค่า TjMax ไว้ที่ 87c, Processor Core IccMax 103A ใน BIOS ไว้แล้ว สามารถปรับค่า Multiplier, PL1/PL2 Unlimited ได้เลย หวังว่าโพสนี้ คงจะช่วยให้ทุกท่าน รีดประสิทธิภาพของเครื่องมาได้มากยิ่งขึ้นนะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าโพสนี้ดูดีมีความรู้ ก็ฝากแชร์ให้เพื่อนๆ ที่สนใจ มาอ่านกันบ้างนะครับ :D |