Show หากพูดถึงข้อกฎหมายที่ลูกจ้างและผู้รับทำบัญชีควรรู้นอกจากกองทุนประกันสังคมแล้ว “กองทุนเงินทดแทน” ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีบทบาททั้งต่อนายจ้างและลูกจ้างแต่จะมีความแตกต่างกันกับประกันสังคมในการนำไปใช้งานในกรณี อีกทั้งยังมีการระบุถึงกิจการที่ต้องดำเนินการจ่ายเงินทดแทนและประโยชน์ที่ได้รับรวมไปถึงข้อกฏหมายต่าง ๆ เพื่อให้ลูกจ้างไม่ถูกเอาเปรียบจากการทำงาน โดยวันนี้เราได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับกองทุนเงินทดแทนมาฝากแแก่ทุกคนเพื่อไขข้อสงสัยในหัวข้อดังต่อไปนี้ สารบัญ Add a header to begin generating the table of contents กองทุนเงินทดแทนคืออะไรกองทุนเงินทดแทน คือกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างประสบอันตราย เจ็บป่วย สูญหาย หรือถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โดยนายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเงินสมทบเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นซึ่งการจ่ายเงินสมทบจะเก็บจากนายจ้างตามลักษณะกิจการที่มีความเสี่ยงต่างกัน อาทิเช่น
สะท้อนให้เห็นได้ว่า กิจการใดมีความเสี่ยงมากอย่างการก่อสร้างย่อมจะต้องจะจ่ายเงินสมทบในอัตราที่สูงขึ้นตามลักษณะความเสี่ยง ดังนั้น ในกรณีที่นายจ้างจ่ายเงินสมทบครบ 4 ปี ในปีที่ 5 อัตราการจ่ายเงินสมทบจะเพิ่ม หรือลดขึ้นอยู่กับค่าอัตราการสูญเสียจากการเก็บบันทึกข้อมูลด้านสถิติโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กิจการใดบ้างที่ต้องจ่ายเงินทดแทนตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561[1]บล ซึ่งเป็นพรบ.ฉบับล่าสุดที่ได้ถูกประกาศออกมาโดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2561 ซึ่งได้กำนหนดกิจการทุกประเภทที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปจะต้องจ่ายเงินสมทบได้แก่ ลูกจ้างเอกชน ลูกจ้างราชการ (ไม่รวมข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ) องค์กรไม่แสวงหากำไรและบุคคลที่ได้รับจ้างงานในต่างประเทศของเอกอัคราชฑูตและองค์กรระหว่างประเทศ อีกทั้งยังไม่รวมถึงพนักงานเอกชนตามพรบ. องค์การมหาชน พ.ศ.2549 มาตรา 38 [2] [1] พระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 เป็นพระราชบัญญัติฉบับล่าสุดโดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยเงินทดแทน [2] กิจการขององค์การมหาชนไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน ทั้งนี้ ผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างขององค์การมหาชนต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน กองทุนเงินทดแทนต่างกับประกันสังคมอย่างไรมาถึงประเด็นที่หลายคนสงสัยกับความแตกต่างระหว่างกองทุนเงินทดแทนและประกันสังคมซึ่งเราจะแยกประเด็นออกเป็น 3 ประเด็นหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้
หน้าที่ของนายจ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนเงินทดแทนมาต่อกันที่ประโยชน์ที่ลูกจ้างจะได้รับจากกองทุนเงินทดแทนซึ่งจะแบ่งเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงานและค่าทำศพโดยมีรายละเอียด ดังนี้
ใช้ในกรณีที่ลูกจ้างประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยจากการทำงานโดยได้รับการช่วยเหลือทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายและค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงวัสดุที่นำมาใช้แทนอวัยวะต่าง ๆ อันเกิดจากการทำงานโดยมีอัตรากำหนดสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท
สำหรับค่าทดแทนจะแบ่งออกเป็น 4 กรณี ดังนี้
ลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุและได้รับการรักษาพยาบาลสิ้นสุดลง แต่ทั้งนี้สภาพร่างกายและจิตใจไม่เหมือนเดิมจึงจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ดังนี้
โดยทั้งนี้ ลูกจ้างจะได้รับค่าฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานก็ต่อเมื่อเข้ารับการฟื้นฟูที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานสำนักงานประกันสังคมเท่านั้น
ในส่วนของค่าทำศพผู้จัดการทำศพของลูกจ้างจะได้รับเป็น 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างรายวันขั้นต่ำ[3]ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน [3] ค่าแรงในแต่ละจังหวัดจะมีอัตราสูงสุดที่แตกต่างกันออกไป วิธีการแจ้งการประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยทำอย่างไร
หลักฐานที่ใช้แจ้งการประสบอันตรายและการขอรับเงินทดแทน
กรณีใดบ้างที่สิทธิไม่คุ้มครองหากมีการตรวจสอบและพบว่าการประสบอันตราย หรือการเจ็บป่วยมีสาเหตุมาจากของมึนเมา หรือสารเสพติด รวมไปถึงการจงใจให้เกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ ลูกจ้างจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการดูแลจากกองทุนเงินทดแทนแต่อย่างใด บทสรุปกองทุนเงินทดแทนจึงถือเป็นผลประโยชน์ของลูกจ้างที่ควรรู้และควรศึกษาเพื่อปกป้องสิทธิ์และเพื่อได้รับความเท่าเทียมไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการทำงาน ตามพรบ.ว่าด้วยกองทุนเงินทดแทนฉบับล่าสุดปี 61 ซึ่งได้รวบรวมและตอบคำถามที่น่าสนใจไว้ครบตั้งแต่การทำความรู้จักกองทุนเงินไปจนถึงเงื่อนไขสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองในกรณีต่าง ๆ รวมไปถึงการแจ้งเรื่องและยื่นเอกสารขอรับสิทธิซึ่งทางเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ลูกจ้างเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนเงินทดแทนได้ดีมากยิ่งขึ้น |