การบริหารความเสี่ยง คือ กระบวนการดำเนินงานขององค์กรที่เป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้องค์กรลดมูลเหตุของแต่ละโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย ให้ระดับของความเสียหายและขนาดของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ ประเมินได้ ควบคุมได้ และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ โดยคำนึงถึงการบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายขององค์กรเป็นสำคัญ Show
ความเสี่ยงจำแนกได้เป็น 4 ลักษณะ ดังนี้ ปัจจัยความเสี่ยง (Risk Factor) ปัจจัยความเสี่ยงพิจารณาได้จาก การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) การควบคุม (Control) ที่มา : เว็บไซต์ การบริหารความเสี่ยง องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ แนวทางการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (PDF) การบริหารความเสี่ยงคณะวิทยาศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ดำเนินการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในตามแนวทางข้างต้น โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานบริหารความเสี่ยง และ คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คณะวิทยาศาสตร์เป็นผู้ดำเนินการ/ควบคุม เมื่อพูดถึงการชี้บ่งอันตราย หลายๆ คนคงนึกไปถึงการประเมินความเสี่ยง แต่จริงๆแล้ว การชี้บ่งอันตราย ยังไม่ใช่การประเมินความเสี่ยง แต่เป็นเทคนิคที่เราเลือกมาเพื่อทำการชี้บ่งอันตรายในสถานประกอบกิจการของเรา ก่อนที่เราจะพุดเรื่องเทคนิคการชี้บ่งอันตรายแต่ละวิธีนั้น มาทำความเข้าใจพื้นฐานถึงความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกันก่อน คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องการชี้บ่งอันตราย (Hazard Identification) หมายถึง การแจกแจงอันตรายที่มี และ ที่แอบแฝงอยู่ในทุกงาน ทุกจุดทำงาน ทุกกิจกรรม ทุกขั้นตอนงาน ตลอดจนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง ความน่าจะเป็น (Probability) ของการเจ็บป่วย บาดเจ็บหรือสูญเสีย อันเนื่องจากอุบัติเหตุจากการทำงานในสถานประกอบกิจการ การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) หมายถึง การะบวนการวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจเป็นเหตุทำให้อันตรายที่มี และ แอบแฝงอยู่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย โรคจากการทำงาน หรือ อุบัติภัยร้ายแรง โดยพิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิด และ ความรุนแรงของอันตรายเหล่านั้น
การชี้บ่งอันตรายมีกี่วิธี อะไรบ้างระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์การชี้บ่งอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการจัดทำแผนงานบริหารจัดการความเสี่ยง พ.ศ. 2543 ได้กล่าวถึงวิธีการชี้บ่งอันตรายเอาไว้ 6 วิธี ซึ่งผู้ประกอบกิจการสามารถเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับสถานประกอบกิจการของตนได้ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้มากกว่าหนึ่งวิธี โดยแต่ละวิธีมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้
เป็นวิธีที่ใช้ในการชี้บ่งอันตรายโดยการนำแบบทดสอบไปใช้ในการตรวจสอบการดำเนินงานของโรงงานเพื่อค้นหาอันตรายตามแบบตรวจสอบที่เรากำหนดขึ้นมาซึ่งหัวข้อการตรวจสอบอ้างอิงตามการปฎิบัติตามมาตรฐานการออกแบบมาตรฐานการปฎิบัติงานหรือกฎหมายเพื่อนำผลการตรวจสอบมาชี้บ่งอันตราย
เป็นกระบวนการในการศึกษาวิเคราะห์และทบทวนเพื่อชี้บ่งอันตรายในการดำเนินงานต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรมโดยใช้คำถาม ” จะเกิดอะไรขึ้น……..ถ้า……… (What If) ” และ หาคำตอบในคำถามเหล่านั้นเพื่อชี้บ่งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงานในโรงงาน
เป็นเทคนิคการศึกษาวิเคราะห์และทบทวนเพื่อชี้บ่งอันตรายและค้นหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานในโรงงานโดยการวิเคราะห์หาอันตรายและปัญหาของระบบ อุปกรณ์ต่างๆซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่สมบูรณ์ในการออกแบบ เลือกใช้อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ความล้มเหลวของอุปกรณ์เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยการตั้งคำถามที่สมมุติสถานการณ์ของการผลิตในภาวะต่างๆโดยการใช้ HAZOP Guide Words มาประกอบกับปัจจัยการผลิตที่ได้ออกแบบไว้หรือความบกพร่องและความผิดปกติในการทำงาน เช่น อัตราการไหล อุณหภูมิ ความดัน เป็นต้น เพื่อนำมาชี้บ่งอันตรายหรือค้นหาปัญหาในกระบวนการผลิตซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยร้ายแรงได้
เป็นเทคนิคการวิเคราะห์อันตรายที่เน้นถึงอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยร้ายแรงที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดเหตุซึ่งเป็นเทคนิคในการคิดย้อนกลับที่อาศัยหลักการทางตรรกวิทยาในการใช้หลักการเหตุและผลเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหรือภัยร้ายแรงโดยเริ่มวิเคราะห์จากอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยร้ายแรงที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อพิจารณาหาเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นก่อนแล้วนำมาแจกแจงขั้นตอนการเกิดเหตุการณ์แรกว่ามาจากเหตุการณ์ย่อยอะไรได้บ้าง และเหตุการณ์ย่อยเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรการสิ้นสุดการวิเคราะห์เมื่อพบว่าสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ย่อยเป็นผลเนื่องจากความบกพร่องของเครื่องจักรอุปกรณ์หรือความผิดพลาดจากการปฎิบัติงาน
เป็นเทคนิคการชี้บ่งอันตรายที่ใช้การวิเคราะห์ในรูปแบบความล้มเหลวและผลที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นการตรวจสอบชิ้นส่วนเครื่องจักรอุปกรณ์ในแต่ละส่วนของระบบแล้วนำมาวิเคราะห์หาผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดความล้มเหลวของเครื่องจักรอุปกรณ์
เป็นเทคนิคการชี้บ่งอันตรายเพื่อวิเคราะห์และประเมินหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องเมื่อเกิดเหตุการณ์แรกขึ้น (Initiating Event) ซึ่งเป็นการคิดเพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อวิเคราะห์หาผลสืบเนื่องที่จะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องจากอุปกรณ์เสียหายหรือคนทำงานผิดพลาดเพื่อให้ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและมีโอกาสที่จะเกิดมากน้อยเพียงใดรวมทั้งเป็นการตรวจสอบว่าระบบความปลอดภัยที่มีอยู่มีปัญหาหรือไม่
การเลือกใช้เทคนิคการชี้บ่งอันตรายในการเลือกใช้เทคนิคการชี้บ่งอันตราย ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของสถานประกอบกิจการ ว่าควรใช้วิธีใด เพื่อให้ได้อันตรายที่แท้จริงออกมา และนำไปประเมินความเสี่ยงต่อ หลังจากนั้นนำผลการประเมินความเสี่ยงมาจัดทำแผนงานบริหารจัดการความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยง มีกี่ประเภทความเสี่ยงจำแนกได้เป็น 4 ลักษณะ ดังนี้. ความเสี่ยงทางด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk : SR). ความเสี่ยงทางด้านการเงิน (Financial Risk : FR). ความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติงาน (Operational Risk : OR). ความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย และข้อกำหนดผูกพันองค์กร (Compliance Risk : CR). การประเมินความเสี่ยงมีขั้นตอนอะไรบ้างประเมินความเสี่ยงได้ใน 5 ขั้นตอน. ตรวจสอบและเปิดเผยจุดเสี่ยง: การประเมินความเสี่ยงด้านข้อมูลจะสำเร็จได้โดยเริ่มที่การระบุว่าข้อมูลความเสี่ยงสูงมีอะไรบ้าง. ถามคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับความเสี่ยง: เพื่อระบุข้อมูลความเสี่ยงสูงในองค์กร คุณควรถามคำถามต่างๆ เช่น ข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลระบุตัวตนหรือไม่?. การประเมินความเสี่ยงใช้เกณฑ์กี่เกณฑ์ลาดับ ระดับของความเสี่ยง ช่วงคะแนน 1 ความเสี่ยงระดับสูงมาก (Extreme Risk : E) 15 - 25 คะแนน 2 ความเสี่ยงระดับสูง (High Risk : H) 9 - 14 คะแนน 3 ความเสี่ยงระดับปานกลาง (Moderate Risk : M) 5 - 8 คะแนน 4 ความเสี่ยงระดับต่า (Low Risk : L) 1 - 4 คะแนน
|