ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

เอกสารนี้เป็นของ HP และ Compaq Desktop PC ที่ใช้ Windows 7

การเอาซอฟต์แวร์ออกโดยใช้คุณลักษณะถอนการติดตั้งโปรแกรม

การเอาโปรแกรมและส่วนประกอบซอฟต์แวร์ใน Windows 7 ออกจากฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ:

  1. คลิก เริ่ม

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้
    แล้วคลิก แผงควบคุม

  2. ภายใต้ โปรแกรม คลิก ถอนการติดตั้งโปรแกรม

    หน้าต่าง ถอนการติดตั้งหรือเปลี่ยนโปรแกรม จะเปิดขึ้น

    รูปภาพ : ถอนการติดตั้งหรือเปลี่ยนโปรแกรม

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

  3. เลือกโปรแกรมที่คุณต้องการเอาออก

  4. คลิก ถอนการติดตั้ง หรือ ถอนการติดตั้ง/เปลี่ยนแปลง ที่ด้านบนสุดของรายการโปรแกรม

  5. อ่านและตอบสนองต่อข้อความใดๆ ที่อาจเปิดอยู่ขณะที่ซอฟต์แวร์กำลังถูกลบออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ

การลบซอฟต์แวร์ที่ไม่อยู่ในหน้าต่างถอนการติดตั้งโปรแกรม

โปรแกรม Windows 7 บางโปรแกรมไม่ได้แสดงอยู่ในหน้าต่างถอนการติดตั้งโปรแกรม หากโปรแกรมที่คุณต้องการถอนการติดตั้งไม่ได้แสดงอยู่ในหน้าต่างถอนการติดตั้งโปรแกรม ให้ใช้ตัวเลือก เปิดหรือปิดคุณลักษณะของ Windows ทางด้านซ้ายของหน้าต่างโปรแกรม

คลิกหัวข้อที่ขยายได้ (+) เพื่อขยายข้อมูล

เปิดหรือปิดคุณลักษณะของ Windows จากเมนูแผงควบคุม/โปรแกรม

  1. คลิก เริ่ม

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้
    , แผงควบคุม, โปรแกรม แล้วคลิก เปิดหรือปิดคุณลักษณะของ Windows

    หากคุณได้รับพร้อมท์ให้ใส่รหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือยืนยัน ให้พิมพ์รหัสผ่านหรือยืนยัน

    รูปภาพ : คุณลักษณะของ Windows

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

  2. เมื่อต้องการเปิดคุณลักษณะของ Windows ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมายที่อยู่ข้างๆ แล้วคลิก ตกลง

    เมื่อต้องการปิดคุณลักษณะของ Windows ให้ลบการเลือก และคลิก ตกลง

การถอนการติดตั้งโปรแกรมในตัวแก้ไขรีจิสทรี

ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เฉพาะในกรณีที่คุณไม่พบซอฟต์แวร์แสดงอยู่ในหน้าต่างถอนการติดตั้งโปรแกรมหรือในหน้าต่างคุณลักษณะของ Windows

  หมายเหตุ

กระบวนงานต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรีจิสทรีของ Windows หากแก้ไขรีจิสทรีไม่ถูกต้องอาจทำให้ Windows ไม่เริ่มทำงาน สร้างสำเนาสำรองของรีจิสทรีก่อนที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง

  1. คลิก เริ่ม

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้
    แล้วป้อน regedit ไว้ในฟิลด์ค้นหา คลิก regedit

    รูปภาพ : ค้นหา regedit

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

  2. หากคุณได้รับพร้อมท์ให้ใส่รหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือยืนยัน ให้พิมพ์รหัสผ่านหรือยืนยัน

    ตัวแก้ไขรีจิสทรีจะเปิดขึ้น

    รูปภาพ : ตัวแก้ไขรีจิสทรี

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

  3. หลังจากที่สำรองรีจิสทรี ให้คลิกเครื่องหมายบวกที่อยู่ติดกับชื่อคีย์ต่อไปนี้ในบานหน้าต่างด้านซ้ายของตัวแก้ไขรีจิสทรี:

    • HKEY LOCAL MACHINE
    • SOFTWARE
    • MICROSOFT
    • WINDOWS
    • CURRENT VERSION
    • UNINSTALL

  4. เลือกชื่อคีย์ภายใต้ถอนการติดตั้งที่ตรงกับชื่อซอฟต์แวร์ที่คุณต้องการถอนการติดตั้ง

  5. หลังจากที่เลือกชื่อซอฟต์แวร์ ให้ดับเบิลคลิกที่ UninstallString ในบานหน้าต่างด้านขวามือ

  6. เลือกข้อความทั้งหมดในฟิลด์ข้อมูลค่า

  7. คลิกขวาที่ข้อความที่ไฮไลต์ และเลือก คัดลอก

  8. คลิก ยกเลิก แล้วปิดหน้าต่างตัวแก้ไขรีจิสทรี

  9. คลิก เริ่ม

    ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

  10. ในฟิลด์ค้นหา ให้คลิกขวาและเลือก วาง

    ข้อมูลค่า UninstallString ที่คุณคัดลอกก่อนหน้านี้จะถูกวางลงในฟิลด์

  11. กดปุ่ม Enter

  12. ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

คุณอาจติดตั้งโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นประจำ ซึ่งถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไป เมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์จะมีการติดตั้งไฟล์หลายไฟล์ และอาจเป็นการติดตั้งรายการ Registry ในระบบของคุณ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยโปรแกรมเพิ่มเติมแต่ละโปรแกรมที่คุณติดตั้งบนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป อาจทำให้คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานช้าลง และช้าลงไปอีกเมื่อใช้ไปในระยะเวลาหนึ่ง แล็ปท็อปอาจมีความอ่อนไหวต่อทำให้ระบบช้าลงได้มากขึ้น เนื่องจากโดยทั่วไปเครื่องคอมพิวเตอร์แบบแล็ปท็อป ส่วนใหญ่มักมีประสิทธิภาพน้อยกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป

แต่นี่คือปัญหาเมื่อคุณเลือกที่จะถอนการติดตั้ง เนื่องจากมีซอฟต์แวร์เหลืออยู่ โดยปกติคุณจะถอนการติดตั้งแอปจาก Control Panel แต่ไม่สามารถลบรายการไฟล์ได้ทั้งหมดได้และส่วนที่เหลือบางส่วน อาจจะถูกเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ หรือใน Registry

หากคุณต้องการจัดการการลบโปรแกรมต่าง ๆ คุณมีอิสระที่จะล้างระบบของคุณเอง นี่คือคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการลบซอฟต์แวร์ที่เหลือในเครื่องของคุณ:

ขั้นตอนที่ 1: ใช้ Control Panel ถอนการติดตั้งโปรแกรม

  1. เปิด Start menu ของคุณ และทำการเลือกค้นหาใน Control Panel.
  2. คลิกที่ Control Panel.
  3. คลิกที่ Programs and Features.
  4. ค้นหาซอฟต์แวร์ที่คุณต้องการถอนการติดตั้ง และคลิกขวาที่ซอฟต์แวร์ดังกล่าว

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

5. คลิกที่ Uninstall รอจนกว่ากระบวนการถอนการติดตั้งจะแล้วเสร็จ

6. ถอดถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์จนสำเร็จ เพื่อดำเนินการต่อและออกจาก Control Panel

ขั้นตอนที่ 2: ลบไฟล์และโฟลเดอร์ที่ยังคงเหลืออยู่ของโปรแกรมที่ถอดถอนการติดตั้ง

ถึงแม้ว่าคุณจะถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ของคุณสำเร็จแล้ว แต่ข้อมูลบางส่วนของไฟล์อาจยังคงอยู่ในบางโฟลเดอร์ของระบบ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องตรวจสอบไฟล์โปรแกรม และข้อมูลซอฟต์แวร์เพื่อลบออกที่นี่คุณควรตรวจสอบโฟลเดอร์เหล่านี้เพื่อหาสิ่งที่เหลือด้วยคำสั่ง:% programfiles% และ % appdata%

  1. กดปุ่ม Windows logo key + S บน Shortcuts ที่คีย์บอร์ดของคุณ
  2. พิมพ์คำว่า %programfiles% ไปยังช่อง Search box.
  3. โปรแกรมโฟลเดอร์จะถูกเปิดขึ้นมา
  4. ดูว่ามีโฟลเดอร์ใดบ้างที่มีชื่อของซอฟต์แวร์ที่ได้ถอนการติดตั้งไปแล้ว ให้ลบโฟลเดอร์ดังกล่าวทิ้ง
  5. พิมพ์คำสั่ง %appdata% ในกล่อง Search คุณจะถูกนำทางไปที่โฟลเดอร์ AppData

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

หากคุณพบโฟลเดอร์ที่มีชื่อของโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ที่คุณถอนการติดตั้งปรากฎขึ้น (ที่เป็นไปตามขั้นตอนที่ 1) ให้ทำการลบออก

หมายเหตุ: ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิตจะต้องตรวจสอบพาธไปยังโฟลเดอร์C:Program Files (x86) โดยในที่นี่เราถือว่า Windows ของคุณติดตั้งในไดรฟ์ C: หากคุณติดตั้ง Windows ในไดรฟ์อื่นให้แทนที่ C: ด้วยอักษรระบุไดรฟ์นั้น

ขั้นตอนที่ 3: ทำความสะอาด Windows Registry ของคุณ

เมื่อคุณถอนการติดตั้งโปรแกรมซอฟต์แวร์หลาย ๆ ครั้งรายการใน Windows Registry จะไม่ถูกลบโดยอัตโนมัติ โปรแกรมถอนการติดตั้ง อาจเพิ่มขนาด Windows Registry ได้

หากคุณต้องการถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์อย่างสมบูรณ์ คุณจำเป็นที่จะต้องลบคีย์ออกจาก Windows Registry

หมายเหตุ:  เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างใน Windows Registry ของคุณ ให้โปรดระวังการกระทำที่อาจผิดพลาดต่อ Registry Key แม้เพียงผิดพลาดแค่เพียงครั้งเดียว นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ระบบของคุณไม่สามารถใช้งานได้อีก

1. พิม์คำว่า regedit ในคำสั่ง RUN หรือ Start Menu กด search box และกด Enter วินโดวส์ก็จะเปิด Registry Editor ขึ้นมาให้ใช้งาน

2. ตอนนี้ ให้ไล่ไปที่คีย์ต่อไปนี้ทีละรายการ :

HKEY_CURRENT_USERSoftware
HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWARE
HKEY_USERS.DEFAULTSoftware

ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต จะต้องตรวจสอบคีย์พิเศษต่อไปนี้:

HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREWow6432Node

3. สำรวจคีย์ที่กล่าวถึงข้างต้น และสังเกตดูว่าคุณสามารถหาคีย์ที่มีชื่อของโปรแกรมที่คุณถอนการติดตั้งได้หรือไม่ หากพบเจอ ให้ทำการลบคีย์ดังกล่าวทิ้ง

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดขณะลบคีย์รีจิสทรี ซึ่งคุณอาจได้รับข้อความดังต่อไปนี้: “Cannot delete key: Error while deleting key”  อย่าเพิ่งเป็นกังวลไป เนื่องจากคุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่คุณต้องทำคือหาสิทธิ์การเป็นเจ้าของคีย์ และเราจะแสดงวิธีสำหรับการดำเนินการดังกล่าว ตามขั้นตอนด้านล่างนี้:

  1. คลิกขวาที่คีย์ที่คุณลบไม่สำเร็จแล้วเลือก Permissions.
  2. จากนั้นเลือกตัวเลือกขั้นสูง Advanced option.
  3. ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งาน Windows 7:
  • ปที่แท็บเจ้าของ Owner
  • ค้นหาคำว่า ‘Change owner to:’ และเลือกชื่อผู้ใช้งานของคุณ
  • นอกจากนี้ให้ตรวจสอบ ‘Replace owner on subcontainers and objects’.
  • คลิก Apply และกด OK เพื่อบันทึกค่าการเปลี่ยนแปลง
  • สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10:
  • ไปที่ไฟล์ Owner และคลิกบนคำสั่ง Change.
  • เมื่ออยู่ในหน้าต่าง Select User or Group ไปยังคำสั่ง ‘Enter the object name to select’ และป้อนชื่อผู้ใช้งานของคุณ
  • อย่าลืมคลิกที่ไฟล์ Check Names button. และคลิก OK.
  • การขออนุญาต Permissions สำหรับแสดงหน้าต่างจะเปิดขึ้น เมื่ออยู่ในแท็บ Security ให้ไปยัง Group หรือกล่อง user names และเลือก username ของคุณจากรายการที่แสดง
  • ไปยังหน้า Permissions for Administrators เลือก Allow for Full Control
  • คลิก Apply และกด OK เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ตอนนี้คุณสามารถลบคีย์รีจิสทรีที่คุณเป็นเจ้าของได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 4: ล้างไฟล์ชั่วคราวบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

ในการดำเนินการนี้คุณควรล้างไฟล์ในโฟลเดอร์ Temp ดังขั้นตอนต่อไปนี้:

1. เปิดกล่อง Search

2. พิมพ์คำว่า %temp% ลงในช่อง Search กด Enter เพื่อทำการล้างโฟลเดอร์

3. หลังจากนั้นให้พิมพ์คำว่า temp ลงไปในแถบ Search กด Enter ล้างโฟลเดอร์นี้ให้หมด

และนี่ก็จะทำให้ไม่มีร่องรอยของซอฟต์แวร์ที่ถูกลบ หลงเหลือไว้ในระบบของคุณ

หากคุณใส่ใจในความเป็นส่วนตัวเราอยากแนะนำให้ใช้ Bitdefender Total Security ด้วยฟังก์ชันคุณสมบัติ “File Shredder” ซึ่งช่วยให้คุณสามารถลบไฟล์ได้อย่างถาวร เมื่อคุณใช้ “File Shredder” คุณจะไม่สามารถกู้คืนไฟล์ที่ลบได้ แม้ว่าจะใช้ซอฟต์แวร์กู้คืนไฟล์ระดับมืออาชีพแล้วก็ตาม

วิธีใช้โปรแกรมลบอย่างถาวรโดยใช้ Bitdefender Total Security

เปิด Bitdefender Total Security ของคุณ > คลิกบน Utilities > คลิกที่ File Shredder

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

เพิ่มไฟล์ที่คุณต้องการที่จะลบ > คลิก OK

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

คลิกเลือกไปยัง Delete Permanently

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

ถอนการติดตั้งโปรแกรม windows 7 ไม่ได้

เพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็จะทำการลบไฟล์ของคุณออกได้อย่างถาวร

หากคุณไม่เคยใช้ Windows Registry Editor มาก่อน วิธีข้างต้นอาจจะยากสำหรับคุณเล็กน้อย แต่ Bitdefender Total Security นั้น เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับคุณในการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นทั้งหมดของคุณได้อย่างถาวร คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่