การวัดค่าความชื้นในอากาศเมื่อ : วันอังคาร, 27 กุมภาพันธ์ 2561 สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุดและมีความสำคัญกับเรามากเช่นกัน แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองไม่เห็น คืออะไร คำตอบคือ อากาศ วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องใกล้ตัวแต่มองไม่เห็นอย่างอากาศ ภาพที่ 1 ความชื้น ในสภาวะอากาศที่อยู่รอบตัวเรา เราสัมผัสกับอากาศที่มีปริมาณไอน้ำอยู่ในอากาศ ในบริเวณที่อากาศมีความชื้นมาก นั่นหมายความว่าอากาศมีปริมาณไอน้ำปะปนอยู่มาก เช่นเดียวกันว่า ถ้าในบริเวณที่มีความชื้นน้อย หมายความว่าอากาศบริเวณนั้นมีไอน้ำปะปนอยู่น้อย ความชื้นของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความดันและอุณหภูมิ ค่าความชื้นในบรรยากาศนิยมวัดกันใน 2 รูปแบบดังนี้ 1. การวัดความชื้นสัมพัทธ์ (relative humidity) คือ การวัดอัตราส่วน (เป็นร้อยละ) ของปริมาณไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศในขณะนั้น ต่อ ปริมาณไอน้ำที่อาจจะมีอยู่ได้ เมื่ออากาศนั้น อิ่มตัวด้วยไอน้ำที่อุณหภูมิเดียวกัน หรือ“อัตราส่วนของความดันไอน้ำที่มีอยู่จริง ต่อ ความดันไอน้ำอิ่มตัว” มีหน่วยวัดเป็น % โดยอากาศอิ่มตัวจะมีค่าความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ 100 % หมายถึงความชื้นที่มีไอน้ำอยู่เต็มอากาศ สังเกตจากช่วงฝนตกใหม่ ๆ อาจจะมีความชื้นที่สูงเกือบ 100% 2. การวัดความชื้นสัมบูรณ์ (absolute humidity) คือการวัดปริมาณของไอน้ำในอากาศเป็นกรัมต่อ อากาศชื้นหนัก 1 กิโลกรัม หรือ อัตราส่วนระหว่างมวลน้ำที่มีอยู่จริง ต่อ ปริมาตรอากาศ ความชื้นและการวัดความชื้นในอากาศมีความสำคัญอย่างไร เพราะปริมาณไอน้ำ เป็นสิ่งที่ช่วยบอกสภาพหรืออุณหภูมิของอากาศปัจจุบัน และในอนาคตล่วงหน้าได้ ความชื้นในอากาศมีส่วนสำคัญในหลาย ๆ ด้านในการใช้ชีวิตประวันอย่างไม่รู้ตัว อนึ่งมีความสำคัญมากในด้านการเกษตร ซึ่งมีความสำคัญมากต่อสภาพแวดล้อมและการเพาะปลูกพืชต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการตากผ้า ในสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำ น้ำจะระเหยได้มากทำให้เสื้อผ้าที่ตากไว้แห้งได้เร็ว แต่ถ้าอากาศที่มีความชื้นสูงน้ำจะระเหยได้น้อยเสื้อผ้าที่ตากไว้จะแห้งช้า ความชื้นที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตมีค่า 60 % ซึ่งเป็นความชื้นที่รู้สึกสบายตัวหากความชื้นสัมพัทธ์มีค่าน้อยกว่า 60 % จะรู้สึกว่าอากาศแห้งผิวแห้งหรือว่าแตกไปเลยก็เลยมักจะเกิดขึ้นในฤดูหนาว แต่ถ้ามากกว่า 60% จะทำให้อากาศร้อนและมีเหงื่อ เหนียวตัว อึดอัด เครื่องมือวัดความชื้น เครื่องมือที่นิยมใช้วัดความชื้นในอากาศมีอยู่ 2 แบบที่ด้วยกัน ดังนี้ 1. ไฮโกรมิเตอร์ชนิดกระเปาะเปียกและกระเปาะแห้ง (Wet and dry hygrometer) เป็นเครื่องมืดวัดความชื้นโดยอาศัยหลักการระเหยของน้ำจะดูดความร้อนไปด้วย โดยที่การระเหยนั้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กัยความชื่นในอากาศขณะนั้น มีลักษณะ ประกอบไปด้วยเทอร์มอมิเตอร์ 2 อันคู่ มีอันหนึ่งใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ เป็นกระเปาะแห้ง ส่วนอีกอันใช้วัดความชื้น การหาค่าความชื้นสัมพัทธ์ทำได้โดยอ่านค่าจากตารางความชื้นสัมพัทธ์ที่แนบมาให้พร้อมเครื่องวัด วิธีใช้จะนำผ้ามามัดด้วยจุ่มน้ำในแก้วแล้วน้ำจะระเหยออกมาจะกระทั่งอุณหภูมิลดต่ำสุดที่เรียกว่ากระเปาะเปียก แล้วเปรียบเทียบระหว่างกันในตารางค่าความชื้นอีกที ทั้งนี้ยังมีไฮโกรมิเตอร์แบบดิจิตอลที่ใช้งานได้ง่ายและสามารถวัดความชื้นสัมพัทธ์ได้ในช่วงกว้างกว่าด้วย ภาพที่ 2
ไฮโกรมิเตอร์แบบกระเปาะเปียก-กระเปาะแห้ง 2. ไฮโกรมิเตอร์แบบเส้นผม (Hair hygrometer) คือเครื่องวัดโดยนำเส้นผมของมนุษย์ มีลักษณะเป็นตลับ มาโดยต้องไม่มีไขมัน สำหรับการวัดนั้นใช้หลักการยืดและหดของเส้นผม เพราะว่าความชื้นจะมีส่วนสัมพันธ์กับเส้นผม โดยเมื่ออากาศชื้นเส้นผมจะยืดยาวออก และเมื่ออากาศแห้งเส้นผมจะหดตัว ใช้เส้นผมที่สะอาดปราศจากไขมันของมนุษย์ แหล่งที่มา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). การตรวจวัดความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ (RELATIVE HUMIDITY: RH). สืบค้นเมื่อ 22 ธันวาคม 2560, จาก ไพรวัลย์ วงศ์ดี. ความชื้นของอากาศ. สืบค้นเมื่อ 22 ธันวาคม 2560, จาก ความชื้นของอากาศ
(Humidity). สืบค้นเมื่อ 22 ธันวาคม 2560, จาก หัวเรื่อง และคำสำคัญ การวัดค่าความชื้นในอากาศ ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท. บทความ รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท. สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล ลิขสิทธิ์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) วันที่เสร็จ วันอังคาร, 02 มกราคม 2561 สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา วิทยาศาสตร์ทั่วไป ระดับชั้น ม.1 ช่วงชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มเป้าหมาย ครู ดูเพิ่มเติม |