กิจกรรมด้านความ ปลอดภัย ใน โรงงาน

อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในระหว่างการปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรม หากไม่ป้องกันให้ดี อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สิน เครื่องจักร วัตถุดิบ และตัวของพนักงานเอง ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อาจทำให้สูญเสียชีวิตเลยก็เป็นได้ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความประมาท นอกจากนั้นสภาพแวดล้อมในการทำงานก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอันตรายได้เช่นเดียวกัน โรงงานของคุณมีความปลอดภัยมากแค่ไหน? แล้วความปลอดภัยในโรงงานคืออะไร มีสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอะไรบ้างที่ควรรู้ รวมถึงระบบความปลอดภัยในการทำงานมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน

กิจกรรมด้านความ ปลอดภัย ใน โรงงาน

ความปลอดภัยในการทำงาน คือ

ความปลอดภัยในโรงงาน คือ สภาพการทำงานที่ถูกต้อง โดยปราศจากอุบัติเหตุในระหว่างการทำงาน อันส่งผลต่อทรัพย์สินและร่างกายหรือชีวิต ส่วนคำว่า อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีใครคาดคิดในระหว่างการปฏิบัติงาน ทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

8 สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย

1.การปฏิบัติงานที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกขั้นตอน

2.เกิดจากความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน

3.เกิดจากการมีนิสัยชอบความเสี่ยง

4.การทำงานที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายหรือไม่สวมใส่ PPE

5.ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบในด้านความปลอดภัยของการทำงาน

6.การทำงานในขณะที่สภาพร่างกายและจิตใจไม่ปกติ เช่น ป่วยหรือมีอาการมึนเมา เป็นต้น

7.การแต่งกายที่ไม่เหมาะสม

8.เกิดจากความรีบร้อนเพราะต้องทำงานด้วยความรวดเร็ว

อุบัติเหตุ คือ สิ่งที่เราสามารถป้องกันได้ คำถามคือแล้วเราจะป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างไร การป้องกันอุบัติเหตุ โดยหลักๆ แล้วมีด้วยกัน 3 วิธีคือ

  • แก้ไขที่ตัวบุคคล ให้พนักงานทำงานด้วยความระมัดระวังหรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน สวมใส่ PPE
  • การป้องกันและแก้ไขที่แหล่งกำเนิดอันตรายเป็นวิธีการแก้ไขหรือป้องกันที่ดีที่สุด แต่อาจใช้ต้นทุนมาก บางครั้งแก้ไขได้ยาก จึงไม่เป็นที่นิยม
  • การป้องกันที่ทางผ่านเป็นการตัดวงจรระหว่างแหล่งอันตรายกับผู้ปฏิบัติงานให้แยกออกจากกัน เช่น การทำงานกับเครื่องจักรที่มีจุดหนีบ ให้นำเครื่องกำบังมาครอบไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มือพนักงานเข้าไปอยู่ในบริเวณจุดหนีบได้ เป็นต้น

ระบบความปลอดภัยในโรงงาน

สร้างความปลอดภัยในโรงงานด้วยการจัดระบบความปลอดภัย ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญมากๆ อย่างที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน ดังนั้น จึงต้องมีการจัดอบรมให้พนักงานเข้าใจ ตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงาน อบรมให้พนักงานเรียนรู้ถึงขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย จัดระเบียบสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม เช่น การวางผังโรงงาน แสงสว่าง เครื่องจักร อากาศ หรือเสียงที่ก่อให้เกิดอันตรายต้องมีการตรวจสอบให้ดีและต้องมีการตรวจสอบเครื่องจักร อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานด้วย ทุกอย่างต้องอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ไม่ได้รับความเสียหายหรือชำรุด หากพบข้อบกพร่องและผิดจากมาตรฐานที่กำหนด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

ความปลอดภัยในโรงงานคืออะไร สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและการจัดระบบความปลอดภัย ข้อมูลที่เรานำเสนอในข้างต้นหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคน ความปลอดภัยในการทำงาน ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของใครเพียงคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันสร้างความปลอดภัยในองค์กร

 

ความสำคัญของการมี Jorpor หรือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในองค์กร

อุบัติเหตุและอันตรายจากการทำงานกับเครื่องจักรสามารถป้องกันได้ หากทุกองค์กรมี จป ,จป บริหาร , จป เทคนิค , จป วิชาชีพ  หรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานคอยปฏิบัติหน้าที่และดูแลด้านความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรอย่างใกล้ชิด หรือการทำงานที่มีความอันตราย

          สถานประกอบการ อาจจะจัดฉายวิดีโอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานให้พนักงานได้ชมในช่วงพักเที่ยงของทุกวัน โดยการยืมวิดีโอจากหน่วยราชการ สถาบันการศึกษา สถานทูต หรือสมาคมต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่พนักงาน  วิดีโอที่ยืมมานั้นส่วนใหญ่จะบร

ความปลอดภัยในการทำงาน Occupational health and safety ความปลอดภัยในการทำงานทุกองค์กรถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยื่น

ความปลอดภัยในการทำงาน หรือ เรียกกันได้อีกอย่างคือ ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน (OHS) เป็นสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย สุขภาพ ของพนักงานในองกรค์ ป้องไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตราย อุบัติเหตุหรือผลกระทบจากการทำงาน

ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.78 ล้านคนอันเป็นผลมาจากการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ส่งผลให้ทุกๆ 15 วินาที จะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และ มีการบาดเจ็บที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตอีก 375 ล้านคนต่อปี ทำให้องค์กรดังกล่าวนั้นต้องศูนย์เสียพนักงานและเงินชดเชยต่างๆเป็นจำนวนมากต่อการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง

กิจกรรมด้านความ ปลอดภัย ใน โรงงาน

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การอนมัยโลก WHO ได้จำกัดความร่วมกันถึงวัตถุประสงค์และขอบเขตของการดำเนินงานด้านความปลอดภัย 3 หลักที่ในองค์กรนั้นควรจัดให้มี

1.มีการส่งเสริมด้านสุภาพของพนักงาน

2.มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้พื้นที่การทำงานนั้นเกิดความปลอดภัย

3.มีการเสริมสร้างวัฒธรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานภายในองค์กร และ สนับสนุนในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำงานให้ปลอดภัยโดยให้พนักงานทุกคนนั้นมีส่วนร่วม มีการออกนโยบายจากผู้บริหารเพื่อแสดงจุดยืนด้านความปลอดภัยขององค์กร มีการสนับสนุนในด้านการฝึกอบรมความปลอดภัย

อันตรายจากการทำงาน Workplace hazards

แม้ว่าการทำงานจะให้ผลประโยชน์กับนายจ้างและทางเศษรกิจอื่นๆอย่างมากมาย แต่การทำงานก็แฝงไปด้วยอันตรายในสถานที่ทำงานที่มากมายด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า สภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย เช่น สารเคมี สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ สารชีวภาพ อันตรายจากการรับสัมผัสสารเคมีอันตรายในที่ทำงาน ได้แก่ สารพิษต่อระบบประสาท สารเคมีที่ทำมีผลต่อภูมิคุ้มกัน สารเคมีที่ทำลายผิวหนัง สารเคมีประเภทก่อมะเร็ง สารก่อโรคหอบหืด เป็นต้น ปัจจัยอันตรายทางกายภาพ สภาพการทำงานด้านการยศาสตร์ อันตรายการจากสูญเสียการได้ยินจากเสียงดังซึ่งพบบ่อยที่สุดในประเทศสหัฐอเมริกาโดยมีพนักงานประมาณ 22 ล้าน คนที่สัมผัสกับเสียงดังเกิดมาตรฐาน

พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอในการปฏิบัติงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในโรงงานคือความปลอดภัย โดยเฉพาะการผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับ อันตรายจากการทำงานสูง  หากป้องกันไม่รัดกุมไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งผู้ปฏิบัติงาน วัตถุดิบและเครื่องจักรในการผลิต อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความประมาทของผู้ปฏิบัติงานเอง นอกจากนี้แล้วสภาพแวดล้อม ในการทำงาน เช่น การวางผังโรงงาน เครื่องจักร อากาศ แสงสว่าง หรือเสียงก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากสิ่งเหล่านั้นมีความบกพร่องและผิดจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อเช่นกัน

ดังนั้นความปลอดภัยในการทำงานจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน เมื่อมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วนั้น โอกาสที่จะประสบอันตรายในขณะทำงานย่อมลดน้อยลงตามไปด้วย

ความปลอดภัยในการทำงาน คือ การมีสภาพการณ์ที่ปลอดภัยพนักงานที่ทำงานปราศจากการอุบัติเหตุต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินในขณะที่ปฏิบัติงาน

อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน และ เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือ บุคคลได้รับบาดเจ็บ

การเกิดอุบัติเหตุมักเกิดจากสาเหตุที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

1. สภาพการณ์ หรือเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ ไม่ปลอดภัย (hard ware) เช่น เครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีการชำรุด มีพื้นที่หรือบริเวณทำงานที่เป็นอันตราย

2. วิธีการทำงานไม่ปลอดภัย (soft ware) เช่น ไม่มีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน ไม่มี WI

3. ตัวบุคคลประมาท (human ware) พนักงานไม่มีความระมัดระวัง ทำงานด้วยความประมาท ชอบเสี่ยง ไม่ทำตามกฎระเบียบ เป็นต้น

จากข้อ 3. อุบัติเหตุที่เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัยเป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ คิดเป็น 85% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด การกระทำที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่

– การทำงานข้ามขั้นตอน หรือ ลัดขั้นตอน
– ความประมาท พลั้งเผลอ เหม่อลอย
– การมีนิสัยชอบเสี่ยง หรือเจตนาหลีกเลี่ยงเพื่อความสะดวกสบาย
– ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยในการทำงาน
– ปฏิบัติงานโดยไม่ส่วมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคค PPE
– ใช้เครื่องมือไม่เหมาะสมหรือผิดประเภท , ดัดแปลงหรือแปลงสภาพเครื่องมือ เครื่องจักร
– การทำงานโดยสภาพร่างกายหรือจิตใจไม่ปกติ ไม่พร้อมปฏิบัติงาน
– ทำงานด้วยความรีบร้อน เร่งรีบ เป็นต้น

การป้องกันอุบัติเหตุ ตามหลักการของ safety มีด้วยกัน 3 วิธีคือ

  1. การป้องกันหรือแก้ไขที่แหล่งกำเนิดอันตราย source เป็นแก้ไขแก้ที่ดีที่สุด ตามหลักวิศวกรรม Engineering เพราะได้ทำการจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาด้วยการออกแบบให้เครื่องจักรหรือสถานที่เกิดความปลอดภัยมากขึ้น แต่การแก้ไขด้วยวิธีนี้มักใช้งบประมาณและต้นทุนมาก เสียเวลา และ ทรัพยากรค่าใช้จ่ายสูง หรือ การแก้ไขทำได้ยาก จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนใหญ่เราจะเห็นบริษัทหรือโรงงานใหญ่ๆที่ให้ความสำคัญด้าน safety จริงๆจึงจะยอมลงทุนแก้ไขด้วยวิธีการนี้
  2. การป้องกันที่ทางผ่าน Path เป็นการตัดแยกให้แหล่งอันตรายกับคนทำงานแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น การทำงานกับเครื่องจักรที่มีจุดหนีบ การแก้ไขคือให้ทำการเอาเครื่องกำบังมาครอบเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มือของพนักงานสามารถเข้าไปอยู่ในบริเวณจุดหนีบได้ เป็นต้น
  3. การแก้ไขที่ตัวบุคคล Receivers เป็นวิธีการแก้ไขที่สามารถทำได้โดยง่ายและรวดเร็วประหยัด ทำให้ส่วนใหญ่จะจบด้วยการที่ให้พนักงานทำงานอย่างระมัดระวัง หรือ สวมใส่ PPE แต่การแก้ไขด้วยวิธีนี้ข้อเสียคือมีความปลอดภัยน้อยที่สุดใน 3 วิธีที่กล่าวมาและบ่อยครั้งอุบัติเหตุก็ยังคงเกิดอยู่ซ้ำตามเดิม

การป้องกันอุบัติเหตุและทำงานให้เกิดความปลอดภัยนั้นยังสามารถทำได้ด้วยวิธีอื่นเข้ามาช่วย เช่น

  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับในสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด
  • ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล PPE ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน
  • ติดตั้งการ์ดเครื่องจักร                                                                          
  • สวมใส่เครื่องแต่งกาย และแบบฟอร์มที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ไม่ใส่เครื่องประดับ หรือ ปล่อยผมยาวขณะทำงานกับเครื่องจักร
  • จัดให้มีแสงสว่างภายในโรงงานที่เพียงพอตามมาตรฐานพิจารณาในด้านตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสมของระบบโครมไฟฟ้า เพื่อให้ความเข้มส่องสว่างบนโต๊ะทำงานที่เพียงพอและไม่เกิดเงาหรือแสงสะท้อน รวมทั้งการเลือกชนิดของหลอดไฟที่เหมาะสมกับสภาพการทำงาน
  • พื้นที่ทำวานมีการระบายอากาศ พิจารณาของการไหลเวียนอากาศเข้าออกจากบริเวณทำงาน รวมทั้งคุณภาพของอากาศด้วย อาทิ ความชื้นสัมพัทธ์อุณหภูมิอากาศ ปริมาณฝุ่นละออง กลิ่นควันพิษที่มีอยู่ในอากาศนั้น
  • การจัดสถานที่ทำงานให้ถูกสุขลักษณะ หรือทำ 5ส ในบริษัทอย่างจริงจัง เป็นต้น

สรุป: ความปลอดภัยในการทำงานเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยในองค์กรของเราโดยไม่โยนให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่งเพื่อให้เรานั้นทำงานและกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย