จดหมาย รับ สมัคร งาน ภาษา อังกฤษ

ในหลายบริษัทหรือหลายตำแหน่งงาน การสมัครงานไม่ใช่แค่เขียนภาษาไทยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากคุณคือคนหนึ่งที่ต้องเขียนอีเมลสมัครงาน ภาษาอังกฤษ ก็ควรศึกษาวิธีอย่างถูกต้องเพื่อโอกาสในการเข้าทำงานตามคาดหวัง จึงขอแนะนำวิธีอันแสนง่ายดาย พร้อมตัวอย่างที่เอาไว้ใช้ได้จริง ทำงาย รวดเร็ว และที่สำคัญ HR เกิดความประทับใจ

วิธีเขียนอีเมลสมัครงาน ภาษาอังกฤษพร้อมตัวอย่าง ไม่ยากอย่างที่คิด

1. หัวข้ออีเมลต้องชัดเจน

แต่ละวันบริษัทที่คุณสมัครงานอาจรับอีเมลเยอะมาก หัวข้ออีเมล์จึงต้องมีความชัดเจน สมัครงานในตำแหน่อะไร เพื่อให้ HR เปิดอ่านในทันทีที่เห็นหัวข้อ

ตัวอย่างประโยค

• Apply for (ตำแหน่งสมัครงาน) เช่น Apply for Digital marketer
• Job Application: (ชื่อตำแหน่ง) เช่น Job Application: Digital marketer
• Resume for (ชื่อตำแหน่ง) เช่น Resume for Digital marketer

2. เน้นการใช้คำสุภาพในการเริ่มต้นประโยค

การใช้คำที่สุภาพจะช่วยให้ HR รู้สึกประทับใจเมื่อเปิดจดหมายของคุณออกมา ดังนั้นคำแรกที่กล่าวทักทายในอีเมลสมัครงานแนะนำให้ใช้ Dear Mr. / Mrs. / Ms. แล้วระบุชื่อของผู้รับสมัคร แต่ถ้าไม่มั่นใจอาจใช้คำว่า Dear Contact Person ก็ได้ ห้ามเปิดประโยคว่า Hello, Good Morning, Hi เป็นอันขาด

3. การใช้ไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษถูกต้อง

ข้อนี้จัดเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่จะเขียนอีเมลสมัครงาน ภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงทักษะในด้านภาษาของตัวผู้สมัครเอง ดังนั้นการเรียงประโยคให้ตรงตามไวยากรณ์ หรือถูกหลัก Grammar ต้องศึกษาอย่างชัดเจน

4. ทิ้งท้ายประโยคให้ดึงดูดและน่าติดต่อกลับ

ในช่วงก่อนจบจดหมายสมัครงานควรมีประโยคทิ้งท้ายที่ดึงดูดให้ HR รู้สึกว่าอยากติดต่อคุณกลับมาก่อนจะทิ้งท้ายช่องทางการติดต่อทั้งเบอร์โทร, อีเมล

ตัวอย่างประโยคที่ควรใช้

• Please see my resume for additional information on my experience
• Sincerely hope for your cooperation
• Best regards
• Yours sincerely
• Yours faithfully
• Sincerely

ตัวอย่างประโยค เขียนอีเมลสมัครงานภาษาอังกฤษ

Subject: Apply for (ตำแหน่งงาน)

Dear (Mr. / Mrs. / Ms.ชื่อ HR) 

I wish to apply for the position of (ตำแหน่งงาน) that is listed on (ชื่อเว็บไซต์ที่เห็นประกาศงาน). The responsibilities listed in the job description match my interests and skills. I have attached my (สิ่งที่แนบมาด้วย เช่น Resume, CV) I hope they can help you learn more about my background, qualifications, and experience.

Thank you for your valuable time, I look forward to hearing from you about this job opportunity.

Sincerely,

(ชื่อ-สกุล)
(เบอร์โทรศัพท์)
(Email)

จริง ๆ แล้ววิธีเขียนอีเมลสมัครงาน ภาษาอังกฤษ ก็แทบไม่ต่างอะไรจากภาษาไทยมากนัก เพียงแค่ต้องเลือกใช้ประโยคให้เกิดความเหมาะสม ตรวจเช็คคำสะกดอย่างถูกต้อง รวมถึงมีข้อมูลน่าสนใจ เช่น ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน, ผลงานเด่น เป็นต้น พร้อมเขียนตามที่แนะนำมานี้โอกาสที่ HR จะติดต่อกลับมามีสูง

อ่านทริคการหางานเพิ่มเติมได้ที่ 

• ทริคเด็ด! เคล็ดไม่ลับ กรอกโปรไฟล์สมัครงาน ยังไงให้ดูโปร
• รวมคำถาม สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล ได้ใช่แน่ๆ ฟันธง
• 10 คำถามสัมภาษณ์งาน พร้อมแนวทางตอบ HR ชอบ อยากรับเข้าทำงาน 

ใกล้ถึงเวลาที่นักศึกษาหลายคนจะเรียนจบกัน ได้เวลาเริ่มหางานกันแล้ว วันนี้เลยมาอัพเดทข้อมูลการเขียน Cover Letter กันดีกว่า บางคนอาจจะรู้อยู่แล้วและต้องการเช็คว่าที่ตัวเองเขียนนั้นถูกต้องรึเปล่า ไปดูกันดีกว่า!

Cover Letter คืออะไร? Cover Letter คือจดหมายที่เราเขียนส่งตอนสมัครงานให้กับบริษัทโดยมีเรซูเม่และ CV แนบไปด้วย อาจไม่ใช่ทุกบริษัทที่จำเป็นต้องมี cover letter แต่ว่าถ้ามีก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการสมัครงานกับบริษัทนั้นจริงๆ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราสามารถพูดในสิ่งที่ในเรซูเม่หรือประวัติส่วนตัวเราไม่ได้พูดด้วย

Cover Letter ที่เราส่งให้กับบริษัทเพื่อสมัครงานตามประกาศทั่วไปเรียกอีกอย่างว่า Application Later หรือจดหมายสมัครงานนั่นเอง 

สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อเขียน Cover Letter

- กระชับ ตรงประเด็น ไม่ยืดเยื้อ อ่านง่าย
- ไม่ยาวจนเกินไป ไม่งั้นก็อาจโดนเมินทิ้งไม่อ่านไปได้
- เขียนว่าทำไมเราถึงเหมาะกับตำแหน่งในบริษัทนั้น อย่าเอาแต่เล่าเรื่องของตัวเอง

ใน Cover Letter ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง

- เรามาสมัครงานตำแหน่งอะไร 
- รู้งานนี้จากที่ไหน 
- ทำไมถึงคิดว่าเราเหมาะกับตำแหน่งนี้ 
- ความสามารถเราเหมาะกับบริษัทอย่างไร ทำไมถึงอยากทำงานที่นี่ (แสดงให้เห็นว่าเรามีการรีเสิร์ชเรื่องประเภทและเป้าหมายบริษัทและความสามารถตรงกับ job description ในประกาศ) 
- ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบและการพิจารณาเป็นผู้สมัครงาน

ตัวอย่าง

เพื่อให้เห็นว่ามีการใช้งานจริงๆ อย่างไรมาลองดูตัวอย่างกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้องานและการตัดสินใจของเรา เลือกเขียนด้วยตัวเองมากที่สุดเพราะสุดท้ายคนที่จะทำงานนั้นก็คือเราเนอะ

Dear [ชื่อ],

กล่าวถึงขื่อผู้ที่เราต้องการสมัครงานด้วย หรืออาจเรียน HR Department ของบริษัทนั้นๆ

ย่อหน้า 1 

อย่างที่บอกไปว่าให้บอกว่าเราสมัครตำแหน่งอะไร เห็นการรับสมัครจากที่ไหน บอกไปด้วยก็ดีว่าเรามีไฟล์เรซูเม่หรือ CV แนบมาในเมลด้วย 

ย่อหน้า 2

บอกทักษะที่เกี่ยวข้อง คุณสมบัติ ความสำเร็จของเราที่ตรงกับ job description ในประกาศรับสมัครงาน เหตุผลที่เราจะเหมาะกับงานนี้

ย่อหน้า 3
บอกว่าทำไมถึงสนใจบริษัทนี้แสดงให้เห็นความตั้งใจของเราว่าตั้งใจมาสมัครกับบริษัทนี้นะ ไม่ได้หว่านไปทั่ว บางคนจะส่งให้บริษัทนึงแต่ไปเขียนชื่ออีกบริษัทก็มีนะ ไม่ดีนะแบบนี้

ย่อหน้า 4
สรุปด้วยถ้อยคำแสดงความกระตือรือร้นและความสนใจของเราต่องาน

คำลงท้ายจดหมาย เช่น
Yours Sincerely, Best Regards,

[ชื่อของเรา]

[ช่องทางการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล]

ตัวอย่างใช้จริง

 
Dear Mr Smith,
เรียน คุณสมิธ

I am writing this with regards to [content writer] position advertised on [website]. I am very interested in the position. I’m attaching my resume and my portfolio with this mail to guarantee you that my qualification meets the company’s expectation.

ดิฉัน/ผม เขียนจดหมายนี้ตามที่มีตำแหน่ง [นักเขียน] โฆษณาอยู่บน [เว็บไซต์] ซึ่งดิฉัน/ผม ได้แนบ CV มาด้วยในจดหมายฉบับนี้เพื่อรับรองว่า ดิฉัน/ผม มีคุณสมบัติตรงตามที่บริษัทต้องการ

ย่อหน้าที่  2 ถ้าไม่มีประสบการณ์ทำงาน

My degree course has prepared me well for this position. During my [dissertation/project], I was required to do a lot of independent research, which required self-motivation, and the ability to organise and work on a long term project. In particular, [module] has helped prepare me by [talk about skills gained].

หลักสูตรที่ ดิฉัน/ผม เรียนมาได้เตรียมให้ ดิฉัน/ผม พร้อมกับการทำงานในตำแหน่งนี้ โดยการทำวิทยานิพนธ์ของ ดิฉัน/ผม ดิฉัน/ผม ได้มีโอกาสทำงานวิจัยด้วยตนเอง ซึ่งต้องใช้แรงผลักดันในตนเอง และความสามารถในการจัดการและทำงานในโปรเจคระยะยาว นอกจากนี้ในวิชา [ชื่อวิชา] ยังเตรียมความพร้อมทางด้าน [ทักษะที่ได้จากรายวิชานั้น] ให้ ดิฉัน/ผม อีกด้วย

ย่อหน้าที่  2 ถ้ามีประสบการณ์ทำงาน ให้เติมตามนี้

In addition, I have worked at [company], as [role]. This role required [discuss skills]. In particular, [highlight one example of a specific event/project/incident that required certain skills and what you did].

นอกจากนี้ ดิฉัน/ผม ยังเคยทำงานที่ [ชื่อบริษัท] ในฐานะ [ตำแหน่ง] ซึ่งต้องใช้ [ทักษะต่างๆ] ในการทำงานค่อนข้างสูง [ยกตัวอย่างอีเวนท์ โปรเจค หรือเหตุการณ์ที่ได้ใช้ทักษะที่ทางบริษัทต้องการ และอธิบายการจัดการของเรา]

I’m attracted to this role, because [reasons] and I hope that I can demonstrate to you that I would be a good fit for this company, with my proven skills, commitment to the role, and enthusiasm to learn.

ดิฉัน/ผม มีความสนใจในตำแหน่งนี้ เนื่องจาก [ระบุเหตุผล] และหวังว่า ดิฉัน/ผม จะได้แสดงให้ท่านเห็นว่า ดิฉัน/ผม มีความเหมาะสมกับบริษัทนี้ ด้วยทักษะที่มี ความมุ่งมั่นต่อบทบาท และความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้

(*ถ้าบริษัทให้ใส่เงินเดือนที่คาดหวังไว้ก็ใส่ไปตรงนี้เลย ถ้าบริษัทไม่ได้ระบุก็ไม่จำเป็น
My expected salary is [xxx].)

I am available to start [when]. Please do get in touch if you have any questions,
ดิฉัน/ผม สามารถเริ่มงานได้ตั้งแต่ [วันที่] กรุณาติดต่อมาได้ทันทีหากมีคำถามประการใด

Yours sincerely,
ด้วยความเคารพอย่างสูง
Miss [name] / Mr. [name]

สรุป

เราก็เห็นแล้วว่า Cover Letter คืออะไรและเขียนยังไง จำไว้ว่าเขียนให้คนที่อ่านมั่นใจว่าเรามีความสามารถแบบนั้นจริงๆ คนที่อ่านก็ต้องการหาคนมาทำงานนั้น เขาต้องการ best candidate เพราะฉะนั้นเราก็ต้องโชว์ความสามารถ เล่าประสบการณ์ของตัวเองให้กระชับน่าสนใจที่สุดเลย