ฉันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ภาษาอังกฤษ

สำหรับการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษนั้น สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำตัวตอนไปสอบสัมภาษณ์งาน หรือสอบสัมภาษณ์ในการสมัครเรียน และยังรวมถึงการแนะนำตัวเองกับเพื่อนใหม่ หรือคนที่เพิ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรก อีกด้วย โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์งานหรือเรียนอยู่ตอนนี้ ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อม เรามีบทความ วิธีแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ มาฝากค่ะ

วิธีแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ

ถึงแม้ว่าประโยคภาษาอังกฤษการแนะนำตัวจะเป็นคำศัพท์ง่ายๆ ประโยคง่ายๆ แต่ถ้าเราเตรียมตัวไม่ดีก็อาจจะพลาดได้เหมือนกัน และนี่ก็คือ วิธีการใช้ประโยคภาษาอังกฤษในการแนะนำตัวในแบบต่างๆ เพื่อนๆ สามารถเลือกไปใช้กันได้เลยทั้งแบบทางการและไม่ทางการ

ประโยคง่ายๆ ที่ใช้ในการแนะนำตัว

– Let me introduce myself. My name is Janthai. แปลว่า ฉันขออนุญาตแนะนำตัวเอง ดิฉันชื่อจันทร์ไทย

– My nickname is Som-O. แปลว่า ชื่อเล่นของฉันคือ ส้มโอ

– I am studying at ABCDEFG School. แปลว่า ฉันกำลังศึกษาอยู่โรงเรียน ABCDEFG

– I am studying in grade 12. แปลว่า ฉันกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6

– My major was science–math. แปลว่า ฉันเรียนสายวิทย์-คณิต

– I live in Khon Kaen. แปลว่า ฉันอาศัยอยู่ที่ขอนแก่น

– I live with my parents. แปลว่า ฉันอยู่กับพ่อแม่

– I have two brother and a sister. แปลว่า ฉันมีน้องชาย 2 คน และน้องสาวอีก 1 คน

– My hobby is drawing pictures. แปลว่า งานอดิเรกของฉันคือ วาดภาพ

– My favorite sport is karate. แปลว่า กีฬาที่ฉันชื่นชอบคือ กีฬาคาราเต้

การแนะนำตัวแบบไม่เป็นทางการ

– Hello. (ทักทาย) แปลว่า สวัสดี

– My name’s Tongdee. (บอกชื่อ) แปลว่า ผมชื่อทองดี

– I’m from Thailand. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า ผมมาจากประเทศไทย

– I’m an exchange student. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า ผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน

– Glad to meet you. (แสดงความยินดีที่ได้เจอกัน) แปลว่า ดีใจที่ได้เจอกันนะ

ฉันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ภาษาอังกฤษ

การแนะนำตัวแบบเป็นทางการ

– Good morning. (ทักทาย) แปลว่า อรุณสวัสดิ์

– May I introduce myself? (ขออนุญาต) แปลว่า ผมขออนุญาตแนะนำตัวเองนะครับ

– My name is Somchai Rakdee. (บอกชื่อ) แปลว่า ผมชื่อสมชาย รักดี

– I’m the marketing manager from ABC company. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดจากบริษัทเอบีซี

– Nice to meet you. (แสดงความยินดีที่ได้เจอกัน) แปลว่า ยินดีที่ได้รู้จัก

การแนะตัวแบบทั่วๆ ไป

– My name is Aeh Namsommut. (บอกชื่อ) แปลว่า ฉันชื่อ เอ้ นามสมมติ

– My nickname is Kae. (บอกชื่อ) แปลว่า ชื่อเล่นของฉันคือ เก๋ แต่ฝรั่งจะพูดว่า You can call me Mook.

– I’me 18 years old. My birthday is the 28th of August 1995. (บอกวัน/เดือน/ปีเกิด) แปลว่า ฉันอายุ 18 ปี เกิดวันที่ 28 สิงหาคม 2538

– I’m studying at Amnatcharoen School. I’m in Mathayom 4/11. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า ฉันกำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนอำนาจเจริญ ชั้น ม. 3/11

– I want to visit Japan, Korea, China Singapore and so on. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า อนาคตของฉัน คือ อยากไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงคโปร์ เป็นต้น

– My favorite food is Noodle and Pad Ka Prao. (บอกอาหารที่ชอบ) แปลว่า อาหารที่ฉันชอบ คือ ก๋วยเตี๋ยว และผัดกะเพรา

– My favorite color is blue green and navy blue. (บอกสีที่ชอบ) แปลว่า ฉันชอบสีฟ้า เขียว และน้ำเงิน

– My motto is “not to be the future of the nation but to be the present time of the nation”. (ข้อมูลเพิ่มเติม) แปลว่า คติประจำตัวของฉันคือ จะไม่เป็นอนาคตของชาติ แต่จะเป็นปัจจุบันของชาติ

ที่มา : http://blog.janthai.com

ฉันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ภาษาอังกฤษ

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • 7 หลักการใช้ Adverb ฉบับเข้าใจง่าย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
  • รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในสนามบิน บนเครื่องบิน
  • หัดพูด-ออกเสียงภาษาอังกฤษ สำเนียงฝรั่ง | คำที่มักออกเสียงผิด
  • เทคนิคการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบอย่างไร ให้เข้าใจง่าย ถูกตามหลักการใช้เป๊ะ
  • 15 คำอวยพร ภาษาอังกฤษ ในวันจบการศึกษา พร้อมคำแปล | Congratulations
  • ทริคภาษาอังกฤษ การใช้ Articles อย่างไรให้ถูกรูปประโยค เมื่อใดต้องนำ A, An, The มาใช้

สมัยที่ฉันเรียนอยู่ พวกเขาพาจนท. ซีไอเอคนนี้เข้ามา เพื่อช่วยให้เราชี้ตัว

ที่โกหกได้ดีขึ้น

ฉัน กำลัง เรียน อยู่ แต่ ฉัน มี งาน ที่ ต้อง ทำ… ฉัน เลย เรียน ช้า นิดหน่อย

and then

I would

come down the next morning.

ฉัน เรียน อยู่ ที่ โรงเรียน ใน พื้นที่ เฉพาะ น่ะ

ลูกชาย ฉัน เรียน อยู่ ชั้น มัธยมต้น

ตอน ฉัน เรียน อยู่ ปี สอง ได้ วาด เธอ

ไม่ มี ใคร ต้องการ หนังสือ แล้ว ละ เพราะ ทุกอย่าง

อยู่ ใน คอมพิวเตอร์ แล้ว ตอน ฉัน เรียน อยู่ มัธยมต้น แต่ ฉัน คิด ว่า

But I figured nobody needs books anymore because everything's on the computer.

ไม่ มี ใคร ต้องการ

หนังสือ แล้ว ละ เพราะ ทุกอย่าง อยู่ ใน คอมพิวเตอร์ แล้ว ตอน ฉัน เรียน อยู่ มัธยมต้น แต่ ฉัน คิด ว่า

Nobody needs books anymore cause

everything's on the computer. when I was in middle school but

I

figured… A to Z. My grammy gave'em to me.

ไม่ มี ใคร ต้องการ

หนังสือ แล้ว ละ เพราะ ทุกอย่าง อยู่ ใน คอมพิวเตอร์ แล้ว ตอน ฉัน เรียน อยู่ มัธยมต้น แต่ ฉัน คิด ว่า

A to Z. nobody needs

books anymore cause everything's on the computer. when I was in middle school but

I

figured… My grammy gave'em to me.

ไม่ มี ใคร ต้องการ

หนังสือ แล้ว ละ เพราะ ทุกอย่าง อยู่ ใน คอมพิวเตอร์ แล้ว ตอน ฉัน เรียน อยู่ มัธยมต้น แต่ ฉัน คิด ว่า

Nobody needs books any more because when I was in middle school but I figured… everything's on the computer. A to Z. My grammy gave them to me.

ไม่ มี ใคร ต้องการ

หนังสือ แล้ว ละ เพราะ ทุกอย่าง อยู่ ใน คอมพิวเตอร์ แล้ว ตอน ฉัน เรียน อยู่ มัธยมต้น แต่ ฉัน คิด ว่า

My grammy gave them to me when I was in middle school but I figured nobody needs books anymore because everything's on the computer.

ผล: 244, เวลา: 0.1236