รูป แบบ การ จัด งาน เลี้ยง รุ่น

You are here: Home / Education / “ไอเดีย”งานเลี้ยงรุ่น

ขอเสนอไอเดียในฐานะครีเอทีฟคนหนึ่งนะครับ เผื่อจะช่วยท่านที่กำลังมองหา idea ในการจัดงานที่แตกต่าง สนุกสนานเป็นกันเอง ลดมลภาวะใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ ปกติผู้เขียนจะไม่ว่างไปงานเลี้ยงที่ใหนเพราะไปรับลูกที่โรงเรียน และในช่วงเย็นก็อยู่กับลูกแทบทุกวัน แต่จากที่เคยปลีกตัวไปมาแล้ว 2-3 งาน …ชีวิตก็วุ่นวายอยู่เล็กน้อยครับ ไม่มีใครดูแลลูกที่ยังเด็กอยู่

รูป แบบ การ จัด งาน เลี้ยง รุ่น

  • ประตูย้อนเวลา ทำเป็นซุ้มทางเข้าเล็กๆก็ได้ ถ้ากลัวคนไม่รู้ก็เขียนป้ายแปะไว้เลยว่า “ประตูย้อนเวลา” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า เมื่อผ่านเข้าไปแล้วทุกคนจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง และเพื่อให้เสริมรับกับไอเดียนี้ก็อาจจะมีการเตรียมเสื้อรุ่นเป็นแบบเสื้อนักเรียน ปักชื่อนักเรียน ปักชื่อรุ่นไว้ด้วย เตรียมปากกาเขียนผ้าให้เพื่อนเซ็นต์หรือเขียนคำอวยพรบนเสื้อแบบสมัยเรียนจบก็น่าจะสนุก ดึงเอาอารมณ์เก่าๆ ย้อนกลับมาได้นะครับ หรือเสื้อรุ่นลายการ์ตูนแบบเด็กๆ ให้แต่ละคนสวมหลังจากผ่านเข้าไป อาจจะสวมให้โดยคุณครูที่ยังที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้รับเชิญให้มาเป็นแขกผู้มีเกียรติในงานด้วย
    เหตุผล คนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่อายุมากแล้ว เขาว่ากันว่าช่วง 50 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ “วิกฤติ” สำหรับการปรับอารมณ์ ซึ่งมักจะมีปากเสียงกับคนรอบข้างได้ง่าย แม้บางครั้งจะพยายามควบคุมอารมณ์แล้วก็ตาม …การผ่านประตูย้อนเวลาเป็นการถอดหัวโขนชั่วขณะ ลดละลาภยศกลิ่นเสียงให้น้อยลงไป การเอาคุณครูเก่ามาร่วมงานก็เพื่อเสริมความมงคล สร้างบรรยากาศให้งานราบรื่นมากยิ่งขึ้น (คุณครูอายุมากแล้ว อาจจะอยู่ร่วมงานแค่ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็อิสระตามประสาเพื่อนฝูง)
  • ประธานรุ่น หากคนในรุ่นไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการสร้างเป็นสมาคมศิษย์เก่าฯ ที่มีกรรมการรุ่นเพื่อจดทะเบียนใดๆ แนะนำให้เปลี่ยนคำว่า “ประธานรุ่นฯ” เป็นอย่างอื่น เช่น “หัวหน้ารุ่นฯ” …แล้วแต่จะคิดกันขึ้นใหม่นะครับ
    เหตุผล การแต่งตั้งหรือเลือกตั้งคนในรุ่นเป็นประธาน หากดูจากเกียรติประวัติจากความสำเร็จด้านอาชีพการงานหรือความมั่นคงในชีวิต ก็ต้องดูด้วยว่า “ท่านมีเวลาว่างมาบริหารงานมั้ย” ไม่ใช่แต่งตั้งเอาขึ้นหิ้งไว้สวยๆ เพราะประธานรุ่นควรต้องพร้อมเป็นแม่งาน วิ่งวุ่นทุกอย่างเพื่อเพื่อน เช่น เรื่องการจัดงานทุกอย่างที่เพื่อนต้องมาช่วยกัน เพื่อนป่วย เพื่อนตาย คิดกิจกรรมรวมเพื่อนมาเจอกัน เช่น วิ่งการกุศล ทำบุญ ฯลฯ บางคนมุ่งหวังเป็นประธานรุ่นเพราะคำว่า “ประธานฯ” มันดูสูงส่ง อยากได้เอามาเสริมบารมี เพราะคิดว่าตนเองมียศศักดิ์สูงกว่าใคร จะได้ปรับความเข้าใจเสียใหม่ เพราะในส่วนนั้นน่าจะได้รับการเชิดชูในฐานะ “นักเรียนดีเด่นประจำรุ่นฯ” ที่โหวตโดยเพื่อนๆ และให้คุณครูเป็นคนมอบรางวัลนะครับ …ดูจาก Job Definition ข้างบน ผู้เขียนว่าเราน่าจะเห็นได้ชัดขึ้นว่าเพื่อนเราคนใหนเหมาะกับตำแหน่งนี้ได้มากขึ้น พอเลือกมาแล้วถ้าใครไม่ชอบใจก็แนะนำว่าอย่าไปขัดแย้งอะไรเลยครับ มันแค่หัวโขนอีกใบ และอีกอย่างก็เพื่อนกันทั้งนั้น ไม่มีใครเพอเฟ็คหรอกครับ ช่วยให้กำลังใจ ยกยอกันไปตามมารยาททางสังคมที่พึงกระทำ เพราะต้องแยกย้ายกันไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวอยู่แล้ว
  • กิจกรรมสนุกสนาน เช่น เกมส์ คนที่ควบคุมดูแลเกมส์ก็ “หัวหน้ารุ่นฯ” เห็นมั้ยครับว่า หัวหน้ารุ่นควรทำอะไรได้บ้าง เกมส์ไม่ต้องมากนะครับ แค่เป็นน้ำจิ้มในงานและควรจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำได้กันได้ไม่ยาก เช่น เกมส์บัดดี้ จับฉลากจับคู่นอนด้วยกัน (กรณีจัดต่างจังหวัดและต้องพักค้างคืน หญิงนอนกับหญิง ชายนอนกับชาย)
    เหตุผล สมมุติว่าเล่นเกมส์บัดดี้นอนด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน จะได้ตัดปัญหาเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับที่พักไม่พอ หรือใครเรื่องมากอยากจะนอนกับใคร จับฉลากตั้งแต่ก่อนเดินทางกันเลย ความจริงก็ไปแอบเปลี่ยนคู่นอนกันได้อยู่ดีแหละ….แค่ล็อกจำนวนห้องไว้ก่อนก็ดีนะ หรืออาจจะแค่เล่นเกมส์ด้วยกันก็ได้ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้มาแน่นแฟ้นเหมือนเดิม เพราะบางคนอาจจะยังขัดเขินที่เหินห่างกันไปนาน การไม่มีกิจกรรมแบบนี้ก็ต้องเห็นใจเพื่อนบางคนที่อาจเดินทางมาไกล แล้วต้องมานั่งดูคนร้องเพลงคาราโอเกะทั้งคืนหรือขี้เมาประจำรุ่นแสดงอาการเอะอะมะเทิ่งอย่างเดียวนะครับ 
  • กิจกรรมอื่นๆ ในช่วงก่อนหรือหลังวันเลี้ยงรุ่นฯ โดยเริ่มคิดจากสิ่งที่เกี่ยวกับเพื่อนหรือโรงเรียนก่อน ผมก็เห็นว่าหลายรุ่นทำกันแล้ว เช่น การทำบุญให้กับเพื่อนผู้ล่วงลับ ทัศนศึกษาโรงเรียนเก่า ไปใหว้คุณครูท่านอื่นๆ ที่ไม่สะดวกมาร่วมงานหรือยกโขยงไปเยี่ยมที่บ้านในกรณีที่ท่านเกษียญแล้ว ก็ต้องนัดท่านก่อนนะครับ เยี่ยมเพื่อนที่ป่วย เช่น เดินไม่ได้หรือนอนอยู่ในโรงพยาบาล ก็จะช่วยให้กำลังใจได้มากเพราะไปกันเยอะดี….หรือเป็นแกนนำในการเดินวิ่งการกุศล (อย่าพากันไปเดินประท้วงอะไรนะครับ อิอิ) หรืองานกีฬาใดๆ  …เรื่องเหล่านี้ “หัวหน้ารุ่นฯ” ที่ได้รับเลือกปีที่แล้ว ต้องทิ้งลาย ทิ้งผลงานไว้ให้เพื่อนๆ คิดถึง อยากจะเลือกเข้าไปทำงานอีกนะครับ
  •  เรื่องการบันเทิงและสุรา ขอแนะนำว่าให้มีพอสมควรและควรสลับให้มีหลากหลายรูปแบบรายการ เพื่อลดความเบื่อหน่าย เช่น มีดนตรีประเภทเบาๆ ในช่วงรอเพื่อนที่กำลังเดินทางในช่วงแรกของงานสัก 1 ชั่วโมง เช่น เปียนโนหรือไวโอลิน เอาลูกหลานนั่นแหละมาเล่น ลดค่าใช้จ่ายไปได้ แต่ควรให้รางวัลตามสมควรหรือให้ถ้วยรางวัลเป็นที่ระลึกก็ดีนะ ใครที่เป็นครูลีลาศหรือดนตรีก็รับตรงนี้ไปหน่อย อาจจะมีฟ้อนรำของคนท้องถิ่น ที่สร้างความครื้นเครงมากขึ้น เช่นรำภูไท ที่เป็นการเกี้ยวพาราสี เป็นต้น ถ้าผู้เขียนเป็นผู้จัดงาน ก็อยากจะทำอะไรแปลกๆ เช่น เอาเพื่อนที่มาร่วมงานนั่นแหละมาแสดงละครขำขันแบบสั้นๆ  ขอที่สมัครใจเพื่อมาเซอร์ไพร๊เพื่อนๆ เลือกคนที่ขี้เล่นหรือเป็นตลกประจำรุ่น พูดเก่งๆ กล้าแสดงออกหน่อย เขียนบทง่ายๆ แค่ 1 หน้ากระดาษ บอกแค่ว่าใครรับบทอะไร…เช่นรับบทเป็นคุณครูฝ่ายปกครองสุดเฮี๊ยบ ไม่ต้องพูดตามบททุกอย่าง คิดเองได้ คำพูดที่หลุดๆ เนี่ยไม่ว่ากัน น่าจะได้ฮากันเยอะเลยล่ะ …ส่วนเรื่องสุราขอแนะนำว่าจัดให้โต๊ะละ 1 ขวดเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย ใครอยากดื่มมากกว่านั้นก็ต้องซื้อหามากันเอง ได้ลดค่าใช้จ่าย ลดคนเมาที่อาจจะทำให้เสียบรรยากาศหรือมีการกระทบกระทั่งกันได้
    เหตุผล หลายคนจ้องจะไปงานเลี้ยงรุ่นเพราะคิดว่าไป “วันปลดปล่อย” หรือสนุกเต็มที่ เมาเต็มที่ ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะเวลาเมา คุณจะขาดสติ การพูดคุยก็จะไม่รู้เรื่อง อาจจะพล่ามเรื่องในใจจนเพื่อนๆ เกิดอาการเบื่อหน่ายไปเลย  จริงอยู่ว่า เมื่อเป็นเพื่อนกันต้องรับกันได้ทุกเรื่อง แต่เราต้องมองค่ากลางๆ ของคนทั่วไปที่สอนลูกหลานว่า “กินเหล้า เข้าสังคม” ไม่ใช่การดื่มจนเมามายนะท่าน ดูเหมือนจะแค่จิบๆ เสียด้วยซ้ำ ใครอยากเมากับเพื่อนสนิทก็ควรจะปลีกตัวไปดื่มกินต่อที่บ้านของใครสักคนที่อยู่ไม่ไกลจากงานเลี้ยง ดื่มให้รากเลือดไปเลยก็ได้ไม่น่าจะมีใครว่า แต่อย่าลากเพื่อนทั้งหมดไปด้วย เอาที่สมัครใจก็พอ …ตื่นเช้ามาจะได้ไปร่วมกิจกรรมทำบุญ ตักบาตรหรืออะไรกับเขาได้ทัน …อาบน้ำล้างหน้าล้างตาสักนิด ตบด้วยกาแฟดำเพียวๆ สักหน่อย น่าจะถอนเมาให้ดีขึ้นครับ…อันนี้แค่แนะนำครับ
  • กิจกรรมอื่นๆ ก็ต้องให้เกียรติ “หัวหน้ารุ่นฯ” ท่านอยากให้งานออกมาในทิศทางใหน อยากย้อนยุคเล่นแบบเด็กๆ ก็เน้นการละเล่นแบบข้างบน แต่ถ้าคิดว่าอายุเยอะกันมาก แค่เดินไปทำบุญก็ลำบากแล้ว …ก็เอาตามสมควรละกันนะครับ

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นไอเดียที่ผู้เขียนคิดเอง ไม่ได้ชี้นำบังคับผู้ใด มีเจตนาที่แจกจ่ายความคิดนี้ให้ฟรีๆ โดยไม่คิดเงิน อิอิ ใครเอาไปใช้ก็บอกกันทาง Contact ด้วยนะครับ ผมจะได้ทราบผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือมีคำแนะนำใดๆ เผื่อจะได้นำมาปรับปรุงแนวทางในการนำเสนอได้อย่างถูกต้องและดีขึ้นกว่าเดิมครับ

นอกเรื่องนิดนึงนะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องอ่อนไหว เพราะเป็นเรื่องเงินๆทองๆ ควรรัดกุมกันมากหน่อย เช่น ควรมี 2 คนช่วยกันอนุมัติหรือรับรู้ร่วมกัน เพื่อลดข้อครหาที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้ามีคำครหาเกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใดๆ …“อย่าสืบสวนนะครับ” ผู้เขียนมีประสบการณ์โดยตรงตอนไปช่วยงานท่านประธานรุ่นคนหนึ่ง คือพอโอนเงินข้ามมาให้กรรมการรุ่นใหม่แล้ว เกิดข้อซักถามกันว่าจำนวนเงินมันถูกต้องมั้ย ผมขอร้องทุกคนตรงนั้นเลยว่าให้ยุติการคิดหาที่มาที่ไปหรือสอบสวนใดๆ เราต้องให้เกียรติเพื่อนที่อุตส่าห์ยอมเหนื่อยเพื่อทุกคน เพราะเงินแค่นั้นไม่ได้ทำให้ใครร่ำรวยขึ้นมาได้ รังแต่จะทำให้เขาเสียกำลังใจและอาจเสียเพื่อนไปเลย …เผื่อบางท่านที่ยังไม่ทราบนะครับ จะได้หาทางหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งกันได้ในอนาคตครับ