แผนการ สอน คณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1 doc

เรื่องชั้นรหัสวิชามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัดจุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัดสาระสำคัญ / ความคิดรวบยอดสาระการเรียนรู้สมรรถนะสำคัญคุณลักษณะอันพึงประสงค์ชิ้นงาน/ภาระงานกระบวนการจัดการเรียนรู้สื่อและแหล่งเรียนรู้ในและนอกสถานที่การวัดผลและประเมินผลกิจกรรมเสนอแนะบันทึกผลหลังการสอนความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย1. การหารคณิตศาสตร์ค 121011 ความสามารถในการสื่อสาร1. ใฝ่เรียนรู้1.ครูให้นักเรียนศึกษาจากสื่อของกระทรวงศึกษาธิการตามลิงค์ด้านล่างนี้http://www.scimath.org/ebook/math/p2/student/https://docs.google.com/a/surin3.go.th/forms/d/1S4ZWdGasvz696rMP_ri0D1Z-IJM6IZuBbFYqwXqCAQg/viewform2 ความสามารถในการคิด2. มุ่งมั่นในการทำงานhttp://www.trueplookpanya.com/knowledge/detail/16699-028117http://tedet.ac.th/inexam/sheet57/math/TEDET_Math_G2.pdf- ทักษะการเชื่อมโยง2.ครูอธิบายเพิ่มเติมตาลิงค์ จากเวปไซต์ทรูปลูกปัญญา ด้านล่างนี้http://tedet.ac.th/inexam/sheet57/math/TEDET_Math_Ans_G2.pdf3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

http://www.trueplookpanya.com/knowledge/detail/16699-028118

3.ให้นักเรียนทำแบบทดสอบจาก ลิงค์ด้านล่างนี้ที่มา http://tedet.ac.th/InExam.html?menuid=6http://www.trueplookpanya.com/knowledge/detail/16699-028119ที่ี่มา http://www.scimath.org/ebook/math4.และทบทวนความรู้จากที่ได้ที่ ลิงค์http://www.trueplookpanya.com/knowledge/detail/16699-028120

ตัวช้ีวัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงส่ิง ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสงจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การนบั เพ่มิ คร้งั ละเทา่ ๆ กนั คอื การนบั เพ่ิมจากจานวนที่เรม่ิ ตน้ คร้งั ละเทา่ ๆ กนั

3.จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถนับและเปรยี บเทียบจานวนได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ กี ารทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

การนบั และการเปรียบเทยี บจานวน พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ขั้นนา

ขัน้ กระต้นุ ความสนใจ

1. นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนจานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที
2. นกั เรยี นช่วยกันร้องเพลง นบั เลข เพอ่ื ทบทวนความร้เู ดิม

เพลงนบั เลข
ทานอง...อารย์ ูสลปิ ปง้ิ

หนง่ึ สอง สาม ส่ี (ซ้า) ห้า หก เจ็ด (ซา้ )
อกี ท้ังแปดและเกา้ สบิ จาให้ดี (ซ้า)

ขัน้ สอน

ข้นั สารวจคน้ หา

3. ใชข้ อ้ มูลในหนงั สือเรียนหน้าเปดิ บท เพื่อกระตุ้นความสนใจเกย่ี วกบั ผลไม้และจานวนผลไม้
ชนดิ ตา่ ง ๆ โดยใช้คาถาม เช่น

• ในภาพมีผลไม้อะไรบา้ ง
• ผลไม้แต่ละชนิดมจี านวนเท่าไร
• ผลไมช้ นิดใดมีจานวนมากที่สุด
• ผลไม้ชนดิ ใดมีจานวนนอ้ ยท่ีสุด
4. สนทนาเกีย่ วกับการนาความร้เู รื่องการนับไปใชใ้ นการบอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ ทม่ี จี านวนมาก เชน่ การนับจานวนผลไม้ใน
หนา้ เปดิ บท เราควรใช้การนับทลี ะ 100 ทีละ 10 ทลี ะ 5 หรือทลี ะ 2 เพอ่ื นาเขา้ สู่บทเรยี น
5. ครสู ุ่มใหน้ ักเรยี นแต่ละคนนาเสนอวธิ กี ารนบั จากน้ันครูถามว่า นักเรยี นมวี ิธีการนบั ผลไม้อยา่ งไร จนไดข้ ้อสรุปเกีย่ วกบั การ
นบั ทีละ 10 ทาใหน้ ับไดร้ วดเร็วข้ึน เม่ือได้ข้อสรุปเกย่ี วกบั วธิ ีการนับแล้ว ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบ โดยการถาม - ตอบ
เกย่ี วกบั การเขียนแสดงจานวน การเปรียบเทยี บและเรยี งลา ดบั จานวนผลไม้ในแบบบันทึกกิจกรรม หากมนี ักเรยี นท่ีมีความรู้
พน้ื ฐานการนบั และการเขียนแสดงจานวนยงั ไมเ่ พยี งพอ

ขน้ั อธิบายความรู้

1. ใช้หนังสือเรยี นหน้าเตรยี มความพร้อมเพอื่ ตรวจสอบความรพู้ ืน้ ฐานของนักเรยี นเรือ่ งการนบั การเขียนแสดงจานวนด้วย
ตวั เลข ตวั หนังสือ การเปรยี บเทียบ และการเรยี งลาดบั จานวนนับไมเ่ กนิ 100 โดยทา กจิ กรรมสนกุ กบั จานวน เม่อื นกั เรียนทา
กจิ กรรมเสร็จแลว้

ข้ันสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

1. ครูสุ่มให้นักเรยี นแต่ละคนนาเสนอวิธกี ารนับ จากนัน้ ครูถามว่า นกั เรยี นมีวธิ ีการนับผลไม้อยา่ งไร จนได้ข้อสรุปเกย่ี วกับการ
นับทลี ะ 10 ทาใหน้ ับไดร้ วดเร็วข้ึน เมื่อได้ข้อสรปุ เกยี่ วกับวธิ ีการนบั แล้ว ครใู ห้นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบ โดยการถาม - ตอบ
เกี่ยวกับการเขยี นแสดงจานวน การเปรียบเทียบและเรยี งลา ดบั จานวนผลไม้ในแบบบันทกึ กิจกรรม หากมีนักเรยี นที่มีความรู้
พ้นื ฐานการนบั และการเขียนแสดงจานวนยงั ไม่เพียงพอ

ขน้ั ตรวจสอบผล

1. ครอู าจให้ทาแบบฝกึ หดั เตรียมความพร้อมในหนงั สอื แบบฝกึ หัดหน้า 2

6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวัดและประเมนิ ผล - ทดสอบ - คาถามกระตุน้ 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่า
จุดประสงค์ - การสังเกต ความคดิ ผา่ นเกณฑ์การ
ความร้คู วามเข้าใจ (K) ประเมิน
- การจาแนก แบบฝึกหัด 70% ขึน้ ไป ถือว่า
ทักษะ/กระบวนการ (P) - การใหเ้ หตผุ ล ผา่ นเกณฑ์การ
ประเมนิ
- การสรปุ ความรู้การปฏบิ ตั ิ

คุณลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70% ขึ้นไป ถอื ว่า

รว่ มกับกลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกบั กลุ่ม ผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ

7. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

7.1 สอื่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือพิมพ์

2. บัตรตัวเลข บตั รภาพจานวนต่าง ๆ

3. บัตรภาพลูกคดิ

4. หนงั สือเรียนสาระการเรียนรพู้ ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์/สอื่ การเรียน ร้คู ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ

2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................ ................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 1

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ช่อื ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 จานวนนับไม่เกนิ 1,000และ 0 เรื่อง การนบั ทีละ 2

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้น

จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่ิง ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตวั เลขไทยตวั หนังสือแสงจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การนับเพ่ิมครง้ั ละเท่าๆ กนั คือ การนับเพ่มิ จากจานวนท่ีเริ่มต้นคร้งั ละเท่า ๆ กัน

3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

นกั เรียนสามารถนับและเปรียบเทยี บจานวนได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

การนบั ทีละ 2 พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบท่ี 1
ข้นั นา

ข้ันกระตุ้นความสนใจ

ทบทวนการนบั ส่ิงของต่าง ๆ ทลี ะ 1 และทลี ะ 10 เป็นรายบคุ คลหรือรายกลุ่ม โดยใช้ส่ิงของหรือบัตรภาพส่ิงของต่าง
ๆ มาใช้ในการนับ โดยเร่ิมนับทีละ 1 จาก หน่ึง สอง สาม สี่ ห้า ... เก้า สิบ จากนั้นให้นับจานวนส่ิงของหรือบัตรภาพที่เป็น
กอง กองละ 10 จาก สิบ ย่ีสบิ สามสบิ สี่สิบ หา้ สบิ ... สบิ สบิ หรือ หนึง่ ร้อย

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. เมื่อนกั เรียนทบทวนการนับทีละ 1 และทลี ะ 10 แลว้ ครยู กตวั อย่างการนบั สิ่งของตา่ ง ๆ ทีละ 2 เช่น เหรียญบาท 30
เหรยี ญ ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 5 โดยการนบั ทลี ะ 2 จาก สอง ส่ี หก แปด สบิ สิบสอง ... สามสิบ
2. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพโบในหนังสือเรยี นหนา้ 6 แล้วชว่ ยกนั นบั ทลี ะ 2 พร้อมกัน จากน้ันครูใหน้ กั เรยี นฝึกการนับสง่ิ ของต่าง ๆ
ทีละ 2 โดยให้ดภู าพกบ๊ิ และแกว้ นา้ ในหนงั สือเรยี นทีละภาพแล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั นับทีละ 2 พรอ้ มกนั หากนกั เรยี นคนใดยัง
นบั ไม่คล่อง ครอู าจให้ฝึกนับทีละ 2 เปน็ รายบุคคล โดยใชส้ อ่ื ของจริง ครอู าจเริ่มต้นนบั สอง ส่ี ให้ แลว้ ให้นกั เรยี นนับต่อจน
ครบ
3. หลังจากนักเรียนฝึกจนครบทกุ คนแลว้ ครใู ห้นกั เรียนฝึกนบั และบอกจานวนขนมบ้าบิ่นในหนังสอื เรยี นหนา้ 7 พรอ้ มกนั ซง่ึ
การนับจานวนขนมบา้ บิ่นจะเป็นการนบั ทลี ะ 10 ก่อน แล้วนับทีละ 2 แล้วบอกจานวนขนมบา้ บิ่นตามทน่ี บั ได้ ทานองเดียวกนั
ครูใหน้ ักเรียนฝึกนบั และบอกจานวนขนมตาล ซึ่งการนบั จานวนขนมตาลจะเป็นการนับทีละ 10 กอ่ น ส่วนทเี่ หลือจะนับทีละ 2
และ นบั ทีละ 1 ตามลาดับ พรอ้ มทัง้ บอกจานวนขนมตาลท่ีนับได้

ข้ันสรปุ

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

1. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั นับจานวนขนมนา้ ดอกไม้แล้วบอกจานวน โดยครูใชค้ าถามว่า นักเรียนมีวิธีการนบั อย่างไร
2. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรุปว่า การนบั ขนมน้าดอกไม้อาจนบั ทลี ะ 10 กอ่ น ส่วนทเ่ี หลอื ก็นบั ทลี ะ 2 และนับทีละ 1
ตามลาดับ หรอื นับทีละ 10 ก่อน และส่วนทเี่ หลอื ก็นบั ทลี ะ 1

ขั้นตรวจสอบผล

1. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น โดยให้นักเรียนแต่ละคนนบั ขนมทองหยอดพร้อมท้งั วงรอบภาพแสดงการนบั ทีละ 2
แล้วเขยี นตวั เลขแสดงจานวนท่นี บั ได้ หรือให้นักเรียนแสดงการนับทลี ะ 10 กอ่ นแลว้ ส่วนที่เหลอื จึงนบั ทีละ 2 จากนนั้ ครูและ
นักเรียนรว่ มกนั สรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รียนรู้ จากนน้ั ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั หนา้ 3 – 4 ถ้าพบวา่ มีนักเรียนคนใดนับทลี ะ 2 หรือนบั ที
ละ 10 ยงั ไม่คล่องใหน้ ักเรียนนาแบบฝึกหัดมาฝึกนับเปน็ รายบุคคลกับครู

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล
70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่าน
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) - ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด เกณฑ์การประเมิน

- การสงั เกต 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - การจาแนก แบบฝึกหดั

- การให้เหตผุ ล

- ก า ร ส รุ ป ค ว า ม รู้ ก า ร

ปฏิบัติ

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

ร่วมกับกล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกบั กลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. หนงั สือพิมพ์
2. บัตรตัวเลข บตั รภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. บตั รภาพลกู คิด
4. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนร้พู ้นื ฐาน คณิตศาสตร์/สอ่ื การเรียน รคู้ ณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรียนรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บัตรตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ่ี 1

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชือ่ ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 จานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000และ 0 เรื่อง การนับทีละ 5

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้

จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตวั เลขไทย ตวั หนงั สือแสงจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การนับเพ่มิ ครั้งละเท่าๆ กัน คอื การนบั เพิม่ จากจานวนทเี่ ร่ิมต้นครง้ั ละเท่า ๆ กนั

3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

นบั และบอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ โดยการนบั ทีละ 5 ได้

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

การนบั ทีละ 5 พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบที่ 1
ขน้ั นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรม สนกุ กับการนบั ทลี ะ 5 ตามรายละเอยี ดในหนงั สอื เรยี นหน้า 9 เพื่อฝึกการนับทลี ะ 5 จากลกู อม
100 เม็ด โดยให้นักเรยี นจัดลูกอมเป็นกอง กองละ 5 เม็ด เม่อื จัดเสร็จแลว้ ให้เร่มิ นบั จากกองแรก 5 เมด็ ครใู ชค้ า ถามว่า

- มีอยู่ 5 เพ่ิมอีก 5 เปน็ เทา่ ไร
- นกั เรียนตอบ 10 ครแู ละนักเรยี นเขยี น 10 ลงในตาราง

ขั้นสอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. ครใู ห้นักเรยี นทากิจกรรม สนุกกบั การนบั ทีละ 5 ตามรายละเอยี ดในหนงั สือเรียนหน้า 9 เพ่ือฝึกการนบั ทลี ะ 5 จากลกู อม
100 เมด็ โดยให้นกั เรยี นจดั ลกู อมเป็นกอง กองละ 5 เม็ด เมื่อจัดเสรจ็ แลว้ ใหเ้ รมิ่ นบั จากกองแรก 5 เม็ด ครูใช้คา ถามวา่

- มอี ยู่ 5 เพมิ่ อกี 5 เป็นเท่าไร
- นักเรยี นตอบ 10 ครแู ละนักเรียนเขียน 10 ลงในตาราง
ครถู ามต่ออีกว่า มีอยู่ 10 เพิม่ อกี 5 เป็นเทา่ ไรแลว้ เขยี นตัวเลขแสดงจานวนลงในตารางต่อเนื่องไปเร่ือย ๆ จนครบทุกกอง จะ
ได้ หา้ สิบ สิบห้า ยส่ี บิ ยี่สิบหา้ สามสบิ สามสบิ หา้ ส่ีสบิ สีส่ บิ หา้ ห้าสบิ ห้าสบิ หา้ หกสบิ หกสิบหา้ เจ็ดสบิ เจ็ดสบิ ห้า แปดสบิ
แปดสิบห้า เกา้ สิบ เก้าสบิ ห้า หนง่ึ รอ้ ย ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ กจิ กรรมการนับส่งิ ของทลี ะ 5 โดยใหน้ ักเรยี นนับพรอ้ มกัน
ดังนี้ ห้า สิบ สิบหา้ ยส่ี ิบ ยสี่ ิบห้า สามสิบ สามสบิ หา้ สีส่ บิ ส่ีสิบห้า ห้าสิบ ห้าสิบห้า หกสบิ หกสบิ ห้า เจ็ดสิบ เจด็ สบิ ห้า แปด
สบิ แปดสิบห้า เก้าสบิ เก้าสบิ ห้า หนง่ึ ร้อย
2. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพในหนงั สอื เรยี น หนา้ 10 และให้นักเรียนช่วยกันนับขา้ วโพดอ่อนทีละ 5 พรอ้ มกัน แล้วบอกจานวน
ขา้ วโพดอ่อน จากนนั้ ให้นักเรียนชว่ ยกันนบั บวบทลี ะ 5 พร้อมกันแลว้ บอกจานวนบวบและชว่ ยกนั นับมะเขอื ม่วงทลี ะ 5 พร้อม
กนั แล้วบอกจานวนมะเขือม่วง

ข้ันอธิบายความรู้

3. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพในหนงั สือเรียน หน้า 11 และใหน้ ักเรยี นฝึกนับแคร์รอต มะเขือเทศและพริกหยวก ทีละ 5 พรอ้ มทง้ั
บอกจานวนเปน็ รายบุคคลหรือรายกลมุ่ ถ้าพบวา่ นักเรยี นคนใดยังนับทลี ะ 5 ไม่คลอ่ ง ใหฝ้ กึ นับโดยใช้สอ่ื ของจรงิ เปน็ รายบคุ คล
กับครู ครอู าจนับ ห้า สิบ นาก่อนเพือ่ ใหน้ ักเรียนเกิดความมั่นใจในการนับ

ขนั้ สรปุ

ขัน้ ขยายความเข้าใจ

4. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นแต่ละคนนบั หอมหัวใหญ่ มะระขี้นก พรกิ ชฟี้ า้ พรอ้ มทัง้ วงรอบภาพ
แสดงการนบั ทลี ะ 5 แล้วเขียนตวั เลขแสดงจานวนทีน่ ับได้ ครูอาจส่มุ นักเรียนใหน้ ับหอมหวั ใหญ่ มะระขี้นก พริกช้ีฟ้า และ
บอกจานวนเพอ่ื เป็นการตรวจสอบความถูกต้องจากนั้นครแู ละนักเรยี น
ร่วมกนั สรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรู้

ขั้นตรวจสอบผล

1. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนนบั ขนมทองหยอดพร้อมทั้งวงรอบภาพแสดงการนบั ทลี ะ 5
แลว้ เขยี นตัวเลขแสดงจานวนท่ีนบั ได้ หรอื ให้นกั เรียนแสดงการนบั ทลี ะ 5 ก่อนแลว้ ส่วนท่ีเหลอื จงึ นับทีละ 5 จากนน้ั ครูและ
นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ จากนน้ั ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั หนา้ 5 – 6 ถ้าพบวา่ มนี กั เรียนคนใดนับทลี ะ 5 หรือนบั ที
ยังไม่คล่องให้นักเรียนนาแบบฝกึ หัดมาฝึกนบั เปน็ รายบุคคลกับครู

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
ทดสอบ - คาถามกระตุน้ ความคดิ 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผ่าน
ความร้คู วามเข้าใจ (K) - การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน
- เกณฑ์การประเมนิ
การใหเ้ หตผุ ล
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -
การสรุปความรู้การ
-
ปฏิบตั ิ
-

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
ทางานรว่ มกับกลุม่ ขณะทางานรว่ มกับกล่มุ เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. หนงั สือพิมพ์
2. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนต่าง ๆ
3. บตั รภาพลกู คดิ
4. หนงั สือเรียนสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน คณติ ศาสตร์/ส่ือการเรยี น รู้คณติ ศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บัตรตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 1

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ชอ่ื ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 จานวนนบั ไมเ่ กิน1,000และ 0 เร่อื ง จานวนนบั ไม่เกิน 200

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลท่เี กิดขึ้น

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัดที่ ป. 2/1 บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตวั เลขไทย ตัวหนังสือแสงจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

- บอกจานวนของสิง่ ตา่ งๆ ไดจ้ ากการนบั

- การนบั เพมิ่ คร้งั ละเท่าๆ กัน คอื การนับเพมิ่ จากจานวนที่เริ่มตน้ ครัง้ ละเทา่ ๆ กนั

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

- นบั และบอกจานวนของสงิ่ ต่าง ๆ ไม่เกนิ 200

- อ่านและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทยและตวั หนังสือแสดงจานวนนับไมเ่ กนิ 200

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธีการท่เี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่ิน

จานวนนับไมเ่ กิน 200 พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขน้ั นา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูให้นักเรยี นนบั มะพรา้ วท่ีจดั เป็นกอง กองละ10 พรอ้ มกนั ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 13 โดยเริม่ นบั ต่อจาก 100 หรือ 10 สิบ
จนครบทุกกอง ดังน้ี 11 สบิ 12 สิบ 13 สบิ 14 สิบ 15 สิบ 16 สิบ 17 สิบ 18 สิบ 19 สิบ 20 สบิ ครแู นะนาวา่

- 11 สบิ คือ 10 สบิ กับ 1 สิบ หรือ 100 กับ 10 หรอื 110
- 12 สิบ คอื 10 สบิ กบั 2 สบิ หรอื 100 กับ 20 หรอื 120
- 13 สบิ คอื 10 สบิ กบั 3 สิบ หรือ 100 กบั 30 หรอื 130 ฯลฯ
- 20 สิบ คอื 10 สิบ กับ 10 สบิ หรือ 100 กบั 100 หรอื 200
- 20 สบิ หรือ 200 เขียนแสดงด้วยตัวเลขฮินดูอารบกิ 200 ตวั เลขไทย ๒๐๐ และตวั หนังสือสองร้อย ครูอาจ
ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรมนบั นิ้วมือของนักเรียนแต่ละคนทีละ 10 ไปจนครบ 20 สบิ หรอื สองรอ้ ย

ขั้นสอน

ขั้นสารวจคน้ หา

2. ครูให้นกั เรียนดภู าพแผน่ ตารางรอ้ ย และแผ่นตารางสิบ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 14 และ 15 ให้นกั เรียนนับและออก
เสียงนับพรอ้ มกัน เม่ือครูเห็นวา่ นักเรยี นสามารถนับแผน่ ตารางรอ้ ยและแผน่ ตารางสบิ ได้คลอ่ งแลว้ ครูอาจให้นกั เรียนทา
กจิ กรรมเปน็ กลุม่ กลุ่มละ 4 คน โดยแตล่ ะกลุ่มให้นักเรียนหนงึ่ คนออกมาตดิ แผน่ ตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ แลว้ ใหเ้ พือ่ นใน
กลุ่มอีก 3 คนออกมาเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนงั สอื โดยแข่งขันคร้งั ละ 2 กล่มุ กลุม่ ใดสามารถเขียน
ตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสือเสร็จก่อนและถกู ต้องเปน็ ผูช้ นะ

3. จากนนั้ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนของแผน่ ตารางร้อย
แผ่นตารางสิบ และแผ่นตารางหน่วย ในข้อ 1 และ 2 ทา้ ยหน้า 15 ลงในกระดาษทีค่ รูแจกให้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ขั้นสรุป

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิกตวั เลขไทย และตัวหนงั สือแสดง
จานวนของแผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสิบ และแผ่นตารางหน่วยทกี่ าหนดให้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถ้า
พบว่านักเรียนคนใดเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงจานวนไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขใหมใ่ ห้ถูกตอ้ ง จากนัน้
ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรู้

- สามารถบอกจานวนของส่งิ ต่าง ๆ ไดจ้ ากการนับ
- สามารถเขยี นตวั เลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือแสดงจานวน

ขั้นตรวจสอบผล

1. นักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ถา้ พบวา่ นักเรียนคนใดเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดง
จานวนไมถ่ ูกตอ้ ง ใหแ้ ก้ไขใหม่ใหถ้ ูกต้อง จากนั้นครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ สง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้

- สามารถบอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ ได้จากการนับ
- สามารถเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนงั สือแสดงจานวนจากนั้นให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัด หนา้ 7 - 8

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล
70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
ความร้คู วามเข้าใจ (K) - ทดสอบ - คาถามกระตุน้ ความคิด เกณฑ์การประเมิน
การสังเกต 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
- เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) - การจาแนก แบบฝึกหัด

- การใหเ้ หตผุ ล

- ก า ร ส รุ ป ค ว า ม รู้ ก า ร

ปฏบิ ตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน

ร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกล่มุ เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. หนังสือพิมพ์
2. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. บัตรภาพลูกคดิ
4. หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนรู้พนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์/สื่อการเรียน รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................... .........................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 1

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………... ชอื่ ผู้สอน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 จานวนนับไม่เกนิ 1,000และ 0 เรื่อง จานวนนับไม่เกิน 201 ถึง 1,000

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กดิ ข้นึ

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัดที่ ป. 2/1 บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทยตวั หนงั สือแสงจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0

ป.2/2 เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย = * > <

ป.2/3 เรยี งลาดับจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ต้ังแต่ 3 ถึง 4 จานวนจากสถานการณต์ า่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

จานวนสามหลัก ถ้าเลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อยใู่ นหลักหนว่ ย มคี ่าเปน็ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยใู่ นหลักสิบ

มีคา่ เป็น 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยใู่ นหลักรอ้ ย มคี า่ เป็น 100 200 300 400

500 600 700 800 900 ตามลาดับ

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

-นบั และบอกจานวนของส่งิ ต่าง ๆ ไม่เกนิ 1,000

-อ่านและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ

จานวนนบั 201 ถงึ 1,000 พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขนั้ นา

ข้นั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมโดยการใหน้ กั เรยี นนบั จานวนและสนทนาเร่อื งคา่ ประจาหลกั ของหลักหน่วย และหลักสบิ แลว้ ให้
นกั เรยี นเปิดหนงั สอื เรียนหนา้ 17 จากภาพต้นกลา้ ดาวเรอื ง ครใู ช้คาถามว่า มีตน้ กลา้ ดาวเรืองก่ีกระบะ กระบะละกตี่ น้
นักเรยี นตอบวา่ มี 10 กระบะ กระบะละ 100 ตน้ จากนนั้ ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั นบั จานวนต้นกล้าดาวเรอื งทีละ 100 ดงั น้ี 1
รอ้ ย 2 รอ้ ย ... 10 รอ้ ย ดังนน้ั มีต้นกลา้ ดาวเรือง 10 ร้อย ตน้ ครแู นะนาว่า 10 ร้อย หรอื หนึง่ พัน เขยี นแสดงด้วยตวั เลขฮนิ ดู
อารบกิ 1,000 ตวั เลขไทย ๑,๐๐๐ และตัวหนงั สอื หน่ึงพัน และการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนท่มี ากกว่าสามหลักนยิ มใช้
เครื่องหมายจุลภาค ( , ) คน่ั

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

2. จากภาพแผ่นตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยในหนังสือเรียนหน้า 18 และ 19 ใหน้ กั เรียนนบั และเขยี น
ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิกตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน เช่น ภาพแรก นักเรยี นนบั ได้ 200 กบั 1 หน่วย เขยี นเป็นตัวเลข
ฮินดอู ารบิก 201 ตวั เลขไทย ๒๐๑ และตัวหนงั สอื สองร้อยเอด็ จนครบทกุ ภาพ ครคู วรเน้นตรงภาพสุดทา้ ยนับแผน่ ตารางรอ้ ย
ได้ 10 รอ้ ย หรอื หนึ่งพัน อาจแสดงดว้ ยภาพ ดังนี้

3. ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนนับและเขียนแสดงจานวนยังไม่คล่องและไม่ถูกต้อง ครูควรแก้ไขเป็นรายบคุ คลโดยให้นักเรยี นออกมานบั
และเขียนแสดงจานวนบนกระดาน

ขนั้ สรปุ

ขั้นขยายความเข้าใจ

4. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคนนับแผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสบิ
และแผ่นตารางหน่วย แล้วเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิกตัวเลขไทย และตวั หนงั สือแสดงจานวน จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รียนรู้

ขั้นตรวจสอบผล

1. นกั เรยี นสามารถบอกจานวนของสงิ่ ต่าง ๆ ไดจ้ ากการนบั • สามารถเขยี นตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนงั สือ
แสดงจานวนจากนัน้ ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัด หนา้ 9 – 10

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธีการวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล
ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ น
ความร้คู วามเข้าใจ (K) - การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ น
- เกณฑ์การประเมนิ
การให้เหตุผล
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -
การสรุปความรู้การ
-
ปฏบิ ตั ิ
-

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤตกิ รรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ น

ร่วมกับกลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. หนงั สือพิมพ์
2. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนต่าง ๆ
3. บตั รภาพลกู คดิ
4. หนังสือเรียนสาระการเรียนร้พู ื้นฐาน คณติ ศาสตร์/ส่ือการเรียน รู้คณิตศาสตร์

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บัตรตวั เลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครูผูส้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 1

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………... ช่อื ผู้สอน ….……………………………….…….............

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 จานวนนบั ไม่เกนิ 1,000และ 0 เรอ่ื ง หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวน

นบั ไม่เกิน 1,000

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดขนึ้

จากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทยตัวหนังสือแสงจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0

ป.2/2 เปรยี บเทยี บจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 โดยใช้เคร่อื งหมาย = * > <

ป.2/3 เรยี งลาดับจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 ตงั้ แต่ 3 ถงึ 4 จานวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

• การเขียนแสดงจานวนอาจเขียนเป็นตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย หรือตัวหนังสอื

• จานวนสามหลัก ถ้าเลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อย่ใู นหลกั หน่วย มคี า่ เปน็ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถา้ อย่ใู นหลกั

สบิ มีคา่ เปน็ 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยใู่ นหลักรอ้ ย มีคา่ เปน็ 100 200 300

400 500 600 700 800 900 ตามลาดับ

• 1,000 เปน็ จานวนสห่ี ลัก เลขโดด 1 ในหลกั พันมีคา่ 1,000

• การเขียนแสดงจานวนในรปู กระจายเป็นการเขียนในรปู การบวกคา่ ของเลขโดดในหลักตา่ ง ๆ ของจานวนน้ัน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

บอกหลัก คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักและเขยี นแสดงจานวนในรูปกระจาย

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ธิ ีการทเี่ หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน

หลกั คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของจานวนนับไม่เกนิ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

1,000

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ข้นั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ

1. จากภาพปลาในหนังสือเรียนหนา้ 21 ครสู นทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับภาพ เช่น
- มีปลานลิ ถุงละ 100 ตวั กีถ่ ุง
- มีปลานลิ ทง้ั หมดเท่าไร มปี ลาทองถุงละ 10 ตวั ก่ถี งุ
- มปี ลาทองทั้งหมดเท่าไร มีปลากัดขวดละ 1 ตวั กี่ขวด
- มีปลากัดทัง้ หมดเท่าไร

ครถู ามนักเรียนว่า แมข่ องขุนซื้อปลาท้ังหมดกต่ี ัว โดยนบั จานวนปลาทั้งหมดเปน็ 3 รอ้ ยกับ 1 สิบ กบั 2 เทา่ กบั 312 ตวั ครู
แนะนาวา่ 312 เป็นจานวนสามหลกั

- 3 ในหลกั ร้อย มีคา่ 300
- 1 ในหลักสบิ มีคา่ 10 และ
- 2 ในหลกั หน่วย มคี ่า 2

ขัน้ สอน

ข้นั สารวจคน้ หา

1. จากภาพปลาในหนงั สือเรยี นหน้า 21 ครสู นทนากบั นักเรียนเก่ียวกบั ภาพ เช่น
- มปี ลานิลถุงละ 100 ตวั กีถ่ ุง
- มีปลานลิ ท้ังหมดเท่าไร มปี ลาทองถุงละ 10 ตวั กถ่ี งุ
- มีปลาทองท้ังหมดเท่าไร มีปลากดั ขวดละ 1 ตวั กี่ขวด
- มีปลากดั ทัง้ หมดเทา่ ไร

ครถู ามนักเรยี นวา่ แมข่ องขุนซอ้ื ปลาท้ังหมดก่ีตัว โดยนับจานวนปลาท้งั หมดเปน็ 3 ร้อยกบั 1 สบิ กบั 2 เทา่ กับ 312 ตวั ครู
แนะนาวา่ 312 เปน็ จานวนสามหลัก

- 3 ในหลกั ร้อย มคี า่ 300
- 1 ในหลักสิบ มคี า่ 10 และ
- 2 ในหลกั หนว่ ย มคี ่า 2
2. จากภาพในหนงั สอื เรียนหน้า 22 ใหน้ ักเรียนนบั แผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสิบและแผ่นตารางหนว่ ย และบอกวา่
ภาพแต่ละภาพมีกี่ร้อย กีส่ ิบ กีห่ นว่ ย พรอ้ มทง้ั บอกค่าประจาหลกั ของเลขโดดแต่ละตัว เชน่ ในภาพแรกนบั แผ่นตารางร้อย
แผ่นตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วยได้ 6 รอ้ ย กบั 0 สบิ กับ 7 หนว่ ย หรอื 607 6 ในหลักร้อย มีคา่ 600 0 ในหลักสบิ มีคา่ 0
และ 7 ในหลักหน่วย มคี ่า 7 จากนัน้ ครูแนะนาจานวนส่ีหลักคือ 1,000 หลกั พนั อย่หู ลักถัดไปทางซา้ ยของหลักร้อย เลขโดด 0
ในหลักรอ้ ย หลกั สิบ และหลักหนว่ ยมคี ่าเป็น 0 และ 1 ในหลักพัน มคี ่า 1,000
3. ครูใหน้ กั เรียนบอกคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั ของ 423 ดงั น้ี 4 ในหลกั ร้อย มคี า่ 400 2 ในหลกั สบิ มคี ่า 20
และ 3 ในหลกั หน่วย มีคา่ 3 ครูแนะนาการเขียน 423 ในรูปกระจายได้ 423 = 400 + 20 + 3 ว่าเปน็ การเขียนในรปู การ
บวกค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลักจากนัน้ ครูให้นักเรยี นเขยี น 590 และ 705

ในรปู กระจาย ตามหนงั สือเรยี นหน้า 23 และครูให้สังเกตว่าถา้ เลขโดดในหลกั ใดเปน็ 0 อาจละการเขียนเลขโดดนั้นได้ เช่น
705 = 700 + 5 ครยู กตวั อย่างจานวนอน่ื ๆ แล้วใหน้ ักเรยี นออกมาเขียนในรปู กระจายบนกระดานจากน้นั ครูใหน้ ักเรยี น
ช่วยกันเขียนแสดงจานวนในรูปกระจายในกรอบทา้ ยหนา้ 23

ขนั้ สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนเขยี นคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักและเขยี นแสดงจานวนในรปู

กระจาย จากนั้นครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งถา้ พบวา่ มีนักเรียนคนใดเขยี นคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักหรือ

เขยี นแสดงจานวนในรูปกระจายไมถ่ ูกต้อง ครูอาจแก้ไขเป็นรายบคุ คลโดยให้ฝกึ การเขยี นคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั หรอื เขียน

แสดงจานวนในรูปกระจายกบั ครู ครูและนักเรียนร่วมกัน
- จานวนสามหลกั ถ้าเลขโดด 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 อยู่ในหลกั หน่วยมีคา่ เป็น 0 1 2 3 4

5 6 7 8 9 อยู่ในหลักสบิ มีคา่ เปน็ 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 และเลขโดด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ถ้าอยู่ในหลักร้อยมีค่า
เป็น 100 200 300 400 500 600 700 800 900 ตามลาดบั

- 1,000 เป็นจานวนสี่หลกั เลขโดด 0 ในหลักร้อย หลกั สบิ หลักหนว่ ย มีค่าเปน็ 0 เลขโดด 1 ในหลักพนั มีคา่ 1,000

ขัน้ ตรวจสอบผล

1. นักเรยี นสามารถการเขยี นแสดงจานวนในรูปกระจายเป็นการเขียนในรูปการบวกค่าของเลขโดดในหลักตา่ ง ๆ ของ
จานวนนนั้ จากนนั้ ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด หนา้ 11 - 13

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรู้ความเขา้ ใจ (K) - ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน
- การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) - การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น
- การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

- การสรุปความรู้การ

ปฏบิ ตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤตกิ รรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน

รว่ มกับกล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกบั กลุ่ม เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. หนงั สอื พมิ พ์
2. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ
3. บตั รภาพลูกคิด
4. หนังสอื เรียนสาระการเรียนร้พู ้นื ฐาน คณิตศาสตร์/สือ่ การเรยี น รคู้ ณติ ศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

. 1. บตั รภาพ
2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 2

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/………... ชอื่ ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 จานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000และ 0 เรือ่ ง การเปรียบเทยี บจานวน (1)

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กิดขึ้น

จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชี้วัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตวั เลขไทยตัวหนงั สือแสงจานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000 และ 0

ป.2/2 เปรยี บเทยี บจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 โดยใช้เครอ่ื งหมาย = * > <

ป.2/3 เรียงลาดับจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 ต้งั แต่ 3 ถงึ 4 จานวนจากสถานการณ์ตา่ ง ๆ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเปรียบเทยี บจานวนสองจานวนจะใช้คาว่า เท่ากับ มากกว่า นอ้ ยกว่า ซึ่งแทนด้วยเครอื่ งหมาย = < > ตามลาดับ

โดยพิจารณาดังนี้

− จานวนทมี่ จี านวนหลกั มากกวา่ จะมากกว่าจานวนที่มีจานวนหลกั นอ้ ยกว่า

− จานวนที่มจี านวนหลักเทา่ กนั ถา้ เลขโดดในหลักรอ้ ยมคี ่ามากกว่า จะมากกว่า ถ้าเลขโดดในหลกั ร้อยมีค่าเท่ากัน

จานวนทเ่ี ลขโดดในหลักสิบมีคา่ มากกวา่ จะมากกว่าถ้าเลขโดดในหลกั รอ้ ย หลกั สิบมีคา่ เท่ากัน จานวนทเ่ี ลขโดดในหลักหนว่ ยมี

คา่ มากกว่าจะมากกว่า

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

เปรียบเทยี บจานวนสองจานวนทมี่ จี านวนหลักไมเ่ ทา่ กัน

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วธิ ีการทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่

การเปรยี บเทียบจานวน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ขั้นนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. จากภาพในหนงั สือเรยี นหนา้ 25 ครใู ช้คาถามว่า ใบบัวมเี งนิ ในกระปุกออมสนิ เท่าไร และแกว้ ตามเี งนิ ในกระปุก
ออมสนิ เท่าไร

นกั เรยี นตอบวา่ ใบบัวมเี งินในกระปุกออมสนิ 257 บาท แกว้ ตามเี งินในกระปุกออมสิน 89 บาท
จากนัน้ ครูถามวา่ ใครมเี งนิ ในกระปุกออมสินมากกวา่ กัน ครูแนะนาวิธกี ารเปรียบเทียบจานวนเงินดงั น้ี 257 เป็น
จานวนสามหลกั 89 เป็นจานวนสองหลกั ดังนน้ั 257 มากกวา่ 89 เพราะจานวนสามหลกั มีคา่ มากกวา่ จานวนสองหลกั ดังนน้ั
ใบบัวมเี งินในกระปุกออมสนิ มากกว่าแกว้ ตา

ขนั้ สอน

ขั้นสารวจค้นหา

1. จากภาพในหนงั สอื เรียนหนา้ 25 ครูใชค้ าถามว่า ใบบัวมีเงินในกระปกุ ออมสนิ เท่าไร และแก้วตามีเงนิ ในกระปุก
ออมสินเทา่ ไร

นกั เรยี นตอบว่า ใบบัวมีเงนิ ในกระปุกออมสนิ 257 บาท แกว้ ตามีเงินในกระปุกออมสิน 89 บาท
จากน้ันครถู ามว่าใครมีเงินในกระปุกออมสนิ มากกว่ากัน ครูแนะนาวธิ ีการเปรียบเทียบจานวนเงินดังน้ี 257 เป็น
จานวนสามหลัก 89 เป็นจานวนสองหลัก ดังน้ัน 257 มากกว่า 89 เพราะจานวนสามหลักมีค่ามากกว่าจานวนสองหลัก ดงั นั้น
ใบบวั มีเงนิ ในกระปุกออมสนิ มากกว่าแกว้ ตา
2. ครใู หน้ ักเรยี นเปรยี บเทยี บ 624 กบั 1,000 แล้วถามนักเรียนว่า 624 เปน็ จานวนกี่หลกั และ 1,000 เปน็ จานวนก่ี
หลัก
นักเรียนตอบว่า 624 เปน็ จานวนสามหลัก และ 1,000 เปน็ จานวนส่ีหลกั ดังนนั้ 624 < 1,000 หรอื
1,000 > 624 เพราะจานวนสามหลกั มีค่าน้อยกวา่ จานวนสี่หลัก
จากนั้นครูให้นักเรียนเปรียบเทยี บ 90 กับ 319 จะไดว้ ่า 90 < 319 หรอื 319 > 90 เพราะจานวนสองหลกั มคี า่ น้อย
กวา่ จานวนสามหลัก จากการเปรยี บเทียบจานวนข้างต้น พบวา่ จานวนสองหลักมคี ่าน้อยกว่าจานวนสามหลัก และจานวนสาม
หลักมีคา่ น้อยกวา่ จานวนสห่ี ลัก ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ว่า จานวนทม่ี ีจา นวนหลักน้อยกกว่าจะน้อยกว่าจานวนท่ีมีจานวน
หลักมากกวา่ หรือจานวนที่มีจานวนหลักมากกว่าจะมากกวา่
จานวนทม่ี ีจานวนหลกั น้อยกว่าครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั เปรียบเทียบจานวนโดยเติมเครื่องหมาย > หรอื < ตามหนังสือเรียนหน้า
27 และอธบิ ายเนน้ ยา้ ในการใสเ่ ครอ่ื งหมายว่า จานวนที่มีจานวนหลักมากกว่าจะมีค่ามากกวา่ จานวนทีม่ ีหลกั น้อยกวา่ หรือ
จานวนทมี่ ีจานวนหลักน้อยกว่าจะมีค่านอ้ ยกว่าจานวนทีม่ ีจานวนหลักมากกว่า

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นเตมิ เครื่องหมาย > หรอื < ตามหนังสือเรียนหนา้ 28 ครอู าจ
ถามนักเรยี นเป็นรายบุคคลถึงวิธีการเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนที่มจี านวนหลักไม่เทา่ กัน โดยใหพ้ ิจารณาจากจานวนหลัก

ว่า ถา้ จานวนใดมีจานวนหลักมากกวา่ จะมากกว่า หรือจานวนใดมจี านวนหลักน้อยกว่าจะน้อยกวา่ การเปรียบเทียบจานวนสอง

จานวนทีม่ ีจานวนหลกั ไมเ่ ท่ากนั จานวนที่มจี านวนหลักมากกวา่ จะมากกว่าจานวนทมี่ จี านวนหลักน้อยกวา่

ข้ันตรวจสอบผล

1. นกั เรยี นสามารถการเปรียบเทียบจานวนสองจานวนทีม่ ีจานวนหลกั ไมเ่ ท่ากนั จานวนที่มีจานวนหลักมากกวา่

จะมากกว่าจานวนทีม่ ีจานวนหลกั นอ้ ยกว่าจากนน้ั ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัด หนา้ 14 - 16

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรกู้ ารปฏิบตั ิ

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤตกิ รรมขณะทางาน - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70% ขึ้นไป ถือว่าผ่าน

ร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกล่มุ เกณฑ์การประเมิน

7. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้

7.1 ส่ือการเรยี นรู้

1. หนังสอื พิมพ์

2. บตั รตวั เลข บัตรภาพจานวนตา่ ง ๆ

3. บัตรภาพลกู คิด

4. หนังสอื เรียนสาระการเรียนรพู้ ้ืนฐาน คณิตศาสตร์/สื่อการเรยี น รคู้ ณิตศาสตร์

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

. 1. บัตรภาพ

2. บตั รตัวเลข

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ...............................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 2

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………... ชอ่ื ผสู้ อน ….……………………………….…….............

กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 จานวนนับไมเ่ กิน1,000และ 0 เร่ือง การเปรียบเทียบจานวน (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขนึ้

จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชี้วัดท่ี ป. 2/1 บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่ง ต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทยตวั หนงั สือแสงจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0

ป.2/2 เปรยี บเทยี บจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 โดยใช้เคร่อื งหมาย = * > <

ป.2/3 เรียงลาดับจานวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0 ตง้ั แต่ 3 ถงึ 4 จานวนจากสถานการณต์ ่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนจะใชค้ าวา่ เท่ากบั มากกว่า น้อยกวา่ ซึง่ แทนดว้ ยเครอ่ื งหมาย = < > ตามลาดับ

โดยพจิ ารณาดังน้ี

− จานวนทม่ี จี านวนหลกั มากกว่าจะมากกวา่ จานวนที่มจี านวนหลกั นอ้ ยกวา่

− จานวนที่มีจานวนหลักเทา่ กันถา้ เลขโดดในหลักรอ้ ยมคี ่ามากกว่า จะมากกวา่ ถ้าเลขโดดในหลกั รอ้ ยมีค่าเทา่ กนั

จานวนทีเ่ ลขโดดในหลกั สิบมีคา่ มากกว่าจะมากกวา่ ถ้าเลขโดดในหลักร้อย หลักสบิ มีคา่ เทา่ กนั จานวนทเี่ ลขโดดในหลักหนว่ ยมี