ปีการศึกษา ชั้น กลุ่มสาระ ชั่วโมง 13 แผนการสอนโดย ครูฟารีดะห์ เบญญากาจ และ ครูรุ่งพิรุณ เขื่อนรอบ ครูผู้สอน ครูฟารีดะห์ เบญญากาจ และ ครูรุ่งพิรุณ เขื่อนรอบ กําหนดการรายชั่วโมง ครูฟารีดะห์ เบญญากาจ และ ครูรุ่งพิรุณ เขื่อนรอบ ๑. ด้านการเรียนการสอน ๑.๑ การสอน ๑.๑.๑ ภาระงานชั่วโมงสอน(คาบ/สัปดาห์) ๑.๑.๒ ภาระงานสอนชั่วโมงสอนรายวิชาร่วมหรือภาระงานรายชั่วโมง ๑.๑.๓ ผลการประเมินของนักเรียน ๑.๒ เว็บไซต์ส่วนตัว ๑.๒.๑ โครงการสอน /แผนการสอน ๑.๒.๒ เอกสารประกอบการสอน / สื่อการเรียนการสอน ๑.๓ การพัฒนากระบวนการสอน ๑.๓.๑ คะแนนสอบภาษาอังกฤษ ๒. ด้านการวิจัย / งานสร้างสรรค์ ๒.๑ แหล่งทุนวิจัย ๒.๑.๑ แหล่งทุนส่วนตัว หรืองานวิจัยในชั้นเรียน ๒.๑.๒ แหล่งทุนงบประมาณมหาวิทยาลัย ๒.๒ การเผยแพร่งานวิจัย ๒.๒.๒ การเผยแพร่ผลงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ ๒.๒.๕ วารสารตีพิมพ์ระดับนานาชาติที่อยู่ในฐาน SJR, ISI และ SCOPUS ๓. ด้านการบริการวิชาการแก่สังคมและวัฒนธรรม ๓.๑ การบริการวิชาการแก่สังคม ๓.๑.๑ การพัฒนานักเรียนตาม Road map ของกลุ่มสาระฯ ๓.๒ การทำนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรม การเข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมของมหาลัย โรงเรียน ๔. ภาระงานที่ได้รับมอบหมายของหน่วยงาน ๔.๒ การปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษา ๔.๒.๑ การควบคุมแถวหน้าเสาธง ๔.๒.๒ การเข้าโฮมรูมนักเรียน ๔.๒.๓ การพัฒนานักเรียน ๔.๔ การปฏิบัติงานหน้าที่อื่นภายในโรงเรียน ๔.๔.๕ งานฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ๔.๔.๑๘ ภาระงานด้านการสอนส่วนที่เกินจากเกณฑ์ที่กำหนด - คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอนเสริม ๒๕๖๒ - คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอนปรับพื้นฐาน ๒๕๖๓ ๔.๔.๑๙ งานจัดโครงการกิจกรรมวันสำคัญ/กิจกรรมพิเศษ - คำสังแต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานสายสัมพันธ์ ครั้งที่ ๓๕ - แต่งตั้งกรรมการเข้าค่ายลูกเสือเนตรนารี ๔.๔.๒๐ งานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย - แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการทบทวนและติดตามการจัดการเรียนการสอนตาม Road Map - แต่งตั้งคระกรรมการการดำเนินงานรับนักเรียนเข้าศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ , ๔ ประเภทสอบคัดเลือก ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ - แต่งตั้งอาจารย์เวรประจำวัน - แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ตรวจเวรและอยุ่เวร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID - 19 - แต่งตั้งคณะกรรมการสหการ - แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการโครงการบรรยายพิเศษ - ขอความท่กี ลาวถงึ พระราชประวัติ (เชน “พอกชู ื่อศรอี ินทราทติ ย แมกูช่อื นางเสอื ง”) กลุมท่ี ๑ กับกลมุ ท่ี ๔ อธิบายคณุ คาดานเนอ้ื หาของศลิ าจารึก หลักท่ี ๑ 6) ใบกจิ กรรม ประโยคสามญั เกณฑการตดั สิน 10) ส่อื PowerPoint เร่อื ง ประโยครวม รหสั วชิ า ท22101 แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรางความรูและความคิดเพื่อนำไปใชต
ัดสนิ ใจแกปญหาในการ ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อา นออกเสยี งบทรอ ยแกวและบทรอยกรองไดถูกตอ ง (เฉพาะท่ีเกดิ ในแผนการจัดการเรียนรนู ี)้ R2- W(R)iting (เขยี นได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทกั ษะดานการคิดอยางมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกปญ หา) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหงชาติ (เฉพาะท่ีเกดิ ในแผนการจัดการเรียนรนู ้ี) 9. กจิ กรรมการเรียนรู ความหมาย และไมประสบสำเรจ็ ในการสอ่ื สาร) บทรอ ยแกวตามความเขาใจของนกั เรียน ภาษาและการใชภ าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ ๒ อา นถูกตอ งตามอักขรวธิ ี การอา นออกเสียง ออกเสียงพยัญชนะควบกล้ำ อา นคำพองรูปใหถูกตอ ง ออกเสียงโดยใชสำเนียง อา นออกเสยี งวรรณยกุ ต 4. นกั เรียนอา นออกเสยี งศิลาจารึก หลักที่ ๑ พรอ มกนั อีกครัง้ ตามหลกั การอา นออกเสียงบทรอยแกว
๕. นกั เรยี นแตละคนอา นศลิ าจารกึ พอ ขนุ รามคำแหงดานที่ ๑ บรรทัดท่ี ๑-๑๘ โดยออกเสยี งใหช ัดเจน ขนั้ สรปุ - การอานออกเสียงบทรอยแกว ตองอานใหถูกตอง ชัดเจน และตองใชน้ำเสียงใหเหมาะสม 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู เปาหมาย ภาระงาน/ช้ินงาน/ วธิ ีการวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก
ารให 11. สือ่ การเรยี นรู / แหลง เรียนรู รหสั วชิ า ท22101 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนรู/ ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพือ่ นำไปใชต
ัดสนิ ใจแกปญหาในการ ๑) นักเรียนอธิบายรปู แบบและการใชผังความคิดได (K) (เฉพาะท่ีเกิดในแผนการจัดการเรียนรูน)ี้
R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดา นการคดิ อยางมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกปญหา) C5-Communications,InformationandMediaLiteracy (ทักษะดานการส่ือสารสารสนเทศและการรูเทา ทันสื่อ) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนร)ู 8. การบรู ณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรูนี้) 9. กจิ กรรมการเรียนรู อธิบายเหตผุ ล หลกั ภาษาและการใชภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ ๒ ชวยกนั ตอบคำถามเพ่ือสรปุ ความเขา ใจ ผงั ความคดิ รวมกันคัดเลือกความรู ๑ เรื่อง ชวยกันเขียนผงั ความคิดนำเสนอความรูนั้น
โดยใชกระดาษชารตและปากกา ๕. นักเรียนแตละกลุมนำผังความคิดออกมานำเสนอหนาช้ันเรียนพรอมทัง้ อธิบายประกอบ นักเรียน ข้นั สรุป การเขียนผังความคิดจากขอความยาว ๆ หรือขอความที่เขาใจยากจะชวยจัดลำดับ 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู เปา หมาย
ภาระงาน/ชนิ้ งาน/ วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑก ารให 11. ส่อื การเรยี นรู / แหลงเรียนรู รหัสวชิ า ท22101 แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 3 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรา งความรูและความคดิ เพือ่ นำไปใชต ัดสนิ ใจแกปญ หาในการ ท ๑.๑ ม. ๒/3 เขียนผงั ความคดิ เพอ่ื แสดงความเขาใจในบทเรยี นตาง ๆ ทีอ่ าน การเขียนผังความคิดจากเรื่องท่ีอานทำใหเขาใจเนื้อเร่อื งไดชัดเจนและประเมนิ
แนวคิดจากเรื่องทำให ๑) นกั เรียนอธบิ ายการเขยี นผังความคิดได (K) 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค (เฉพาะทเี่ กดิ ในแผนการจัดการเรียนรูนี้) (เฉพาะทีเ่ กิดในแผนการจัดการเรียนรูน ้)ี R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดานการคดิ อยางมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกปญหา) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหง ชาติ (เฉพาะท่เี กดิ ในแผนการจัดการเรยี นรูนี้) 9. กิจกรรมการเรียนรู ชน้ั เรยี น จากนน้ั ครูอธบิ ายเพ่มิ เติม แลว รวมกันเฉลยคำตอบ จากเรื่องท่อี า นทำใหสามารถนำแนวคดิ ไปใชใ นชีวติ จริงได 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู เปาหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน/ วิธีการวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑการให ความคดิ ได ความรู เขียนผงั ความคิด 3. นักเรียนเห็น 11. สื่อการเรยี นรู / แหลงเรียนรู รหัสวชิ า ท22101 แผนการจัดการเรยี นรูที่ 4 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 2.๑ ใชกระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอความ และเขียนเรื่องราว ท 2.๑ ม. ๒/3 เขยี นเรยี งความ (เฉพาะท่เี กดิ ในแผนการจัดการเรียนรนู )ี้ R2- W(R)iting (เขยี นได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving(ทกั ษะดานการคดิ อยา งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกปญหา) C2 - Creativity and Innovation (ทักษะดานการสรา งสรรคและนวตั กรรม) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรยี นร)ู 8. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะทเ่ี กดิ
ในแผนการจัดการเรยี นรนู ้ี) 9. กิจกรรมการเรยี นรู ขัน้ นำ นกั เรียนมีความรเู ก่ียวกับเรยี งความอยา งไรบาง ท่ีเปนตวั อยา งมขี อดีอยางไรบาง (ช่ือเรือ่ งนาสนใจ เทคนิคการเขยี นคำนำนาสนใจ เน้อื เร่ืองชัดเจน สรุป ประทับใจปดทายดวยคำคม) ๒. นกั เรยี นศกึ ษาการเขยี นเรียงความเก่ียวกับประสบการณ โดยใชคำถามตรวจสอบความเขา ใจดงั น้ี เรียงความคืออะไร (งานเขียนที่มลี ักษณะเฉพาะ คือ คำนำ เน้ือเร่ือง และสรปุ ) คำนำท่นี า สนใจมกี ลวธิ กี ารเขยี นอยา งไรบา ง (เขยี นคำจำกดั ความ คำคม สภุ าษิต หรือ คำประพันธมาใช) เนอื้ เรือ่ งตอ งเขียนอยา งไร (ตองเขียนจากประสบการณจ ริง และเปนประโยชนแกผอู น่ื ) สรุปควรมีลักษณะอยางไร (เขียนสรุปแนวคิดทั้งหมด ตรงประเด็น อาจใชคำคมหรือ สภุ าษิตสรุปจะทำใหน าประทบั ใจยงิ่ ขนึ้ ) ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ ๓. นกั เรียนชวยกันเสนอความคิดวาหากตองการใหง านเขียนเรยี งความของเราเปน งานเขียนที่ดี ควร จะมีขั้นตอนกระบวนการใดบาง (๑. ขั้นกำหนดหัวขอ ๒. ขั้นกำหนดขอบเขตของเรื่อง ๓. ขั้นหาขอมูล เพิ่มเตมิ ๔. ข้ันวางโครงเรอ่ื ง ๕. ขัน้ ลงมือเขยี น ๖. ขน้ั ตรวจทาน) ครคู อยแนะนำ ๔. นักเรยี นศึกษาความรู เร่ือง ขัน้ ตอนการเขียนเรยี งความ จากใบความรู แลว เขยี นเปน แผนภาพ ความคิด ๕. ขัน้ ลงมือเขยี น ๔. ขนั้ วางโครงเรือ่ ง ๓. ขั้นหาขอมลู เพ่ิมเตมิ ๒. ขัน้ กำหนดขอบเขตของเรื่อง ๑. ขน้ั กำหนดหวั เรื่อง ๕. นักเรียนรางหัวขอ/โครงเรื่องของเรียงความที่ตนเองสนใจแตใหมีเนื้อหาเกี่ยวกับจิตสาธารณะ ข้นั สรปุ จดุ ประสงคการเรียนรู - ใบกิจกรรม - ประเมนิ ใบกิจกรรม - แบบประเมนิ ใบ - ระดับคณุ ภาพ ดี 3. นกั เรียนมีมารยาท 11. สื่อการเรียนรู / แหลง เรยี นรู รหสั วชิ า ท22101 แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 5 กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 4.๑ เขา ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลัง ท 4.๑ ม. ๒/2 วิเคราะหโครงสรางประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซอน วลี คือ กลมุ คำที่กลาวออกมาไดใจความ แตไ มค รบทั้งสองภาค ถามีภาคประธานก็ขาดภาคแสดง ถา
มี ๑) นักเรียนอธิบายความหมายและสวนประกอบของประโยคได (K) ประโยคและวลี มวี ินยั (เฉพาะทเี่ กดิ ในแผนการจัดการเรียนรนู )้ี R2- W(R)iting (เขยี นได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทกั ษะดานการคิดอยา งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกปญหา) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู) 8. การบูรณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรูน)้ี 9. กจิ กรรมการเรยี นรู โทรศัพทมือถอื คุณครูตดั กระดาษ ตุกตาตวั ใหญ ๒. นักเรียนสังเกตขอความที่ไดอานแลวสังเกตวา ขอความใดมีลักษณะแตกตางจากพวก
พรอมบอก ขน้ั สอน ๓.๑
ประโยคท่นี ักเรียนรูจกั มกี ่ีชนิด อะไรบาง - เดก็ ผหู ญิงคนน้ันจงู แมวตัวสขี าวมาดวย 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู เกณฑการให 11. สอ่ื การเรยี นรู / แหลงเรยี นรู รหสั วชิ า ท22101
แผนการจัดการเรยี นรูท่ี 6 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 4.๑ เขา ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลัง ท 4.๑ ม. ๒/2 วิเคราะหโครงสรางประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอ น ประโยคสามัญ เปนประโยคที่มีองคประกอบเล็กที่สุด คือ มีใจความสำคัญเพียงใจความเดียว ๑) นกั เรยี นอธบิ ายลกั ษณะของประโยคสามญั ได (K) 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค (เฉพาะทเ่ี กิดในแผนการจัดการเรียนรูน)ี้ (เฉพาะท่ีเกิดในแผนการจัดการเรยี นรูน ี้) R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทกั ษะดา นการคดิ อยา งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป ญ หา) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู) 8. การบูรณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะทเ่ี กดิ ในแผนการจัดการเรยี นรูน)ี้ 9. กิจกรรมการเรยี นรู รถไฟฟา ใตดินหยดุ วงิ่ ครอบครวั ของเราไปว่งิ ออกกำลงั กายทส่ี วนสาธารณะ ฉนั ไมช อบกนิ อาหารสกุ ๆ ดิบ ๆ เด็กตดิ เกมทำใหเสยี การเรยี น เปาหมาย ภาระงาน/ชิน้ งาน/ วิธีการวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑก ารให รหสั วชิ า ท22101 แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 7 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ท 4.๑ เขา ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลัง ท 4.๑ ม. ๒/2 วิเคราะหโ ครงสรางประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอ น ประโยครวม เปนประโยคที่ประกอบดวยประโยคความเดียวตั้งแต ๒ ประโยคขึน้ ไปมารวมกัน โดยมี ๑) นักเรียนอธบิ ายลกั ษณะของประโยครวมได (K) ประโยครวม มีวินยั (เฉพาะทีเ่ กดิ ในแผนการจัดการเรียนรูนี้) R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดา นการคิดอยา งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกปญหา) 3) L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นรู) 8. การบรู ณาการตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง ชาติ
(เฉพาะท่ีเกดิ ในแผนการจัดการเรยี นรนู ี)้ 9. กจิ กรรมการเรียนรู ประโยควา มีสวนประกอบใดบาง สวนประกอบภาคประธานและภาคแสดงมลี ักษณะอยา งไร ชวยกันตอบ เชน ผมนอนหลับ ลูกกินนมแม กระตายวิ่งเร็ว ปลาวายน้ำ
เมื่อนักเรียนทายประโยคถูกตอง ๒. นักเรยี นกลมุ เดิมนำประโยคสามัญท่คี รเู ขยี นบนกระดาน จากการทายประโยคมาแตงประโยค-รวม และ แต หรอื ทงั้ ...ก็ พอ...ก็ จากนัน้ ออกมานำเสนอหนา ชน้ั เรยี น ครแู ละนักเรยี นรว มกันตรวจสอบความถูกตอง ๑ ประโยค พอ และแมไปทํางานตา งจงั หวัด เพราะอากาศหนาวคณุ ยายจงึ ไมสบาย เธอจะเลอื กไปกับฉันหรอื ไปกับเขา เขาชอบรองเพลงหรือเลน ดนตรี ถงุ แปงอยากไปเทย่ี วแตแมไมอ นุญาต เขาขยันอา นหนงั สอื เพราะฉะนนั้ เขาจงึ จากนั้นครใู หน ักเรียนชว ยกันแยกประโยคขา งตน วา เปนประโยครวมที่มีเน้ือหาแบบใด (คลอยตามกัน
ขัดแยง ๖. นกั เรยี นทำใบกจิ กรรม การวเิ คราะหโครงสรา งประโยคในใบกจิ กรรม วิเคราะหป ระโยครวมจากน้นั ข้นั สรุป 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู เปา หมาย ภาระงาน/ชน้ิ
งาน/ วิธีการวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑการให รหสั วชิ า ท22101 แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 8 กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 4.๑ เขา ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลัง ท 4.๑ ม. ๒/2 วิเคราะหโ ครงสรา งประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอน ประโยคซอน เปนประโยคใหญที่มีใจความสำคัญเพียงใจความเดียวเปนประโยคหลัก และมีประโยค ๑) นักเรยี นอธบิ ายลกั
ษณะของประโยคซอ นได (K) (เฉพาะทีเ่ กิดในแผนการจัดการเรียนรนู )ี้ R2- W(R)iting (เขยี นได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทกั ษะดา นการคดิ อยางมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกปญ หา) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรยี นรู) 8. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะทเ่ี กิดในแผนการจัดการเรียนรูนี้) 9.
กิจกรรมการเรียนรู อยา งไร ยกตวั อยางมาให ดังน้ี ขัน้ สอน 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู เปาหมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน/ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑก ารให รหัสวชิ า ท22101 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 9 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 5.๑ เขาใจและแสดงความคิดเหน็
วิจารณว รรณคดีและวรรณกรรมไทย อยางเหน็ คณุ คา ท 5.๑ ม. ๒/1 สรปุ เนอื้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า นในระดับทีย่ ากข้ึน ศิลาจารึกพอขุนรามคำแหง เปนหลักฐานทางประวัติศาสตรเกี่ยวกับสภาพการเมืองการปกครอง ๑) นกั เรยี นบอกความหมายของคำศพั ทในศิลาจารกึ หลกั ที่ ๑ ได (K) (เฉพาะท่เี กิดในแผนการจัดการเรยี นรนู ้ี) R2- W(R)iting (เขยี นได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทกั ษะดานการคิดอยา งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป ญ หา) 3) L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นรู) 8. การบรู
ณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหง ชาติ (เฉพาะทีเ่ กิดในแผนการจัดการเรยี นรนู ี้) 9. กิจกรรมการเรียนรู เพมิ่ เติมและตอบขอ ซกั ถามของนักเรียน วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒ และสื่อ PowerPoint เรื่อง ศิลาจารึกหลักที่ 1 แลวรวมกันตอบคำถาม - ศลิ าจารกึ พอ ขนุ รามคำแหงมกี ี่ตอน ( ๓ ตอน ) เปา หมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน/ วิธีการวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก ารให 11. ส่อื การเรียนรู / แหลงเรียนรู รหัสวิชา ท22101 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 10 กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนรู/ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 5.๑ เขา ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย อยางเห็นคุณคา ท 5.๑ ม. ๒/2 วิเคราะหแ ละวจิ ารณวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทองถนิ่ ทอ่ี า นพรอมยก 2. สาระสำคญั การแสดงความคดิ เห็น เพอ่ื นำไปสขู อ สรปุ ความคดิ เหน็ ทีค่ ลอยตามและโตแ ยง จากเรอ่ื งท่อี าน ๑) นกั เรียนอธบิ ายหลักการวเิ คราะห วจิ ารณวรรณคดแี ละวรรณกรรมได (K) (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรนู ้)ี R2- W(R)iting
(เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดา นการคิดอยา งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป ญ หา) 3) L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นรู) 8. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะที่เกดิ ในแผนการจัดการเรยี นรนู )้ี 9. กจิ กรรมการเรยี นรู สภาพสงั คมท่ีปรากฏ จากน้ันเปรยี บเทยี บวา เหมือนหรือแตกตา งจากท่นี กั เรียนจินตนาการไวห รือไม อยางไร ความแตกตางกับสงั คมไทยในสมัยสโุ ขทัย ลงในตาราง พรอ มทง้ั บอกแนวโนมในอนาคต เชน เรอ่ื ง สมยั สุโขทยั สมยั ปจ จุบัน แนวโนมในอนาคต ๕. ครอบครัว อยูรวมกันเปน ครอบครวั ใหญ มแี ยกตัวออกจากครอบครวั ใหญ ใหความสำคญั กบั ครอบครวั นอ ยลง โดยอาจ เสนอแนวทางแกไขเปนแผนภาพความคดิ จากนั้นออกมานำเสนอผลงานหนาช้ันเรยี น เชน อุตสาหกรรมขยายตวั ปัญหาทีแ� ทจ้ ริง ผลกระทบ แนวทางป้องกนั สาเหตุ วธิ ีแกไ้ ขปัญหา ๗. นักเรียนทำใบกิจกรรม เรื่อง การวิเคราะหสภาพสังคมในสมัยสุโขทยั จากศิลาจารึกครูประเมินผล ขั้นสรุป - การวิเคราะห วิจารณจะตองแยกแยะเนื้อหาใหเขาใจในสวนตาง ๆ แลวจึงอธิบายเหตุผล 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู เปาหมาย ภาระงาน/ชิ้นงาน/ วิธีการวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑก ารให วรรณกรรมได พฤตกิ รรมรายบุคคล จารกึ หลกั ท่ี ๑ ได 11. สอื่ การเรียนรู / แหลง เรยี นรู แผนการจดั การเรียนรูท ี่ 11 1. มาตรฐานการเรยี นรู/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 5.๑ เขา ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย อยา งเห็นคณุ
คา ท 5.๑ ม. ๒/3 อธิบายคณุ คาของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี า น คุณคาของศิลาจารึกหลกั ที่ 1 ดีเดนทั้งดานวรรณศิลปท ี่ใชค ำงาย ๆ มีสัมผัสคลองจอง ดานเนื้อหาท่ี ๑) นักเรยี นอธบิ ายหลกั การวิเคราะห วจิ
ารณวรรณคดีและวรรณกรรมได (K) (เฉพาะท่ีเกิดในแผนการจัดการเรยี นรูน ี)้ R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดา นการคิดอยางมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกปญ หา) C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดานความรวมมือ การทำงานเปนทมี และภาวะผนู ำ) 3) L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู) 8. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแหงชาติ (เฉพาะทเ่ี กิดในแผนการจัดการเรยี นรูนี)้ 9. กิจกรรมการเรียนรู ใหออกมาสรุปความคดิ เปน แผนภาพ เพื่อน ๆ และครูอธิบายเพ่ิมเติม รวมกันอภิปรายวา ขอ ความดงั กลา วมผี จู ดจำ และนำไปใชอา งอิงอยา งแพรห ลาย เพราะเหตุใด ท่ปี รากฏในศิลาจารึก หลกั ท่ี ๑ ตามเงื่อนไขทค่ี รูกำหนด ไดแ ก กลุมใดยกมือตอบไดเ รว็ ทสี่ ดุ และถูกตอ
งเปนฝายชนะ ตัวแทนกลมุ ออกมานำเสนอบนกระดานใหเ พ่อื น ๆ และครชู ว ยกนั เพิ่มเติมใหสมบรู ณ รว มกนั เขยี นขอสรปุ ท่ีไดบ นกระดาน ครูอธบิ ายเพิ่มเติม สอดแทรกขอคิดในการดำเนินชีวิตหลายประการ และดานสังคมที่สะทอนภาพสังคมไทย การตระหนักใน 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู เปา หมาย ภาระงาน/ชนิ้ งาน/ วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก ารให คณุ คาของศลิ าจารกึ พฤตกิ รรมรายบคุ คล หลักท่ี ๑ 11. สอ่ื การเรียนรู / แหลงเรียนรู แผนการจดั การเรียนรูที่ 12 กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท 5.๑ เขาใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย อยา งเหน็ คุณคา ท 5.๑ ม. ๒/4 สรุปความรแู ละขอ คิดจากการอานไปประยกุ ตใชใ นชวี ิตจริง การสรุปความรูและการนำขอคดิ ที่ไดจ ากการอานไปประยุกตใชในชีวิตจรงิ จะทำใหการอา นวรรณคดี ๑) นักเรยี นบอกความรแู ละขอ คิดที่ไดจากศิลาจารึกหลักที่ ๑ ได (K) (เฉพาะทเี่ กิดในแผนการจัดการเรียนรนู ี)้ R2- W(R)iting (เขียนได) 2) C1 – CriticalThinking andProblemSolving (ทักษะดา นการคิดอยา งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกปญหา) 3) L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู 8. การบรู ณาการตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหงชาติ (เฉพาะท่ีเกดิ ในแผนการจัดการเรยี นรูน )้ี 9. กจิ กรรมการเรยี นรู ไดรับจากการอาน
จากนั้นออกมานำเสนอหนาช้นั เรยี น ครูใหคำแนะนำและเสนอแนะเพิ่มเตมิ เหตุผล นักเรียนเปนรายบุคคล ศิลาจารึกหลักที่ ๑ ครูและนักเรียนรว มกันประเมินผลงาน นำเสนอหนา ชนั้ เรียน ครูและนกั เรียนรวมกนั แสดงความคดิ เห็นเพมิ่ เติม ถา้ ปฏิบตั ิ ผลที�เกิดข�นึ ขอ้ คดิ ผลท�เี กิดข�นึ ถา้ ไม่ปฏิบตั ิ ข้นั สรุป การสรปุ ความรูและการนำขอคิดท่ีไดจากการอานไปประยุกตใชในชีวิตจรงิ จะทำใหการอาน 10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู เปาหมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน/ วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือวดั เกณฑการให ได พฤตกิ รรมรายบคุ คล ๓. นกั เรยี นเห็น 11. สอื่ การเรียนรู / แหลง เรียนรู ใบกจิ กรรม หลกั การเขยี นเรยี งความ ชื่อ - นามสกุล ....................................................................................... ชน้ั ........................... เลขท่ี .............. คำชี้แจง : นักเรยี นเขียนแผนภาพความคดิ เพื่อวางโครงเรือ่ งในการเขียนเรยี งความของตนเอง ใบกจิ กรรม การเขยี นเรยี งความ ชื่อ - นามสกุล ....................................................................................... ช้ัน ........................... เลขท่ี .............. คำช้ีแจง : นักเรยี นนำแผนภาพความคิดที่นกั เรยี นเตรยี มไว้ มาเขียนเป็นเรียงความ ความยาว ๑ หนา้ ใบกจิ กรรม ประโยคซอ้ น ชื่อ - นามสกลุ ....................................................................................... ช้นั ........................... เลขที่ .............. คำชีแ้ จง : นักเรียนพิจารณาประโยคความซ้อนต่อไปนี้ ว่าประโยคใดเป็นประโยคหลกั และประโยคใด ๑. จันทรเ์ จา้ ชอบเรยี นวชิ าภาษาไทยเพราะคุณครสู อนสนุก ๒.
ฝนตกหนักถนนจึงล่ืนมาก ๓. คุณปสู่ อนวา่ เกิดเปน็ คนตอ้ งมีความพยายาม ๔. หนงั สอื พมิ พ์เสนอข่าวทน่ี า่ สนใจ ๕. คอมพวิ เตอรซ์ ่ึงเขาซอื้ มามีไวรัส ๖. ปนี ฝี้ นตกชกุ รม่ จึงขายดกี วา่ ปีก่อน ๗. เขาปว่ ยจนไม่สามารถเดินได้ ๘. คนขยันคอื คนทม่ี คี วามพยายาม ๙. ผมจะมาหาเมือ่ คณุ ตอ้ งการ ๑๐. ปงั ปอนดส์
อบตรงติด เพราะเขาอา่ นหนังสือ ใบกจิ กรรม ประโยครวม ชอ่ื - นามสกุล ....................................................................................... ชัน้ ........................... เลขท่ี .............. คำชแ้ี จง : นกั เรยี นพจิ ารณาเน้อื ความของประโยครวมว่ามลี ักษณะอย่างไร ๑. กว่าจะไปถงึ บา้ น คณุ ยายก็หลับแล้ว ใบกจิ กรรม ประโยคและวลี ช่อื - นามสกลุ ....................................................................................... ชั้น ........................... เลขที่ .............. คำชี้แจง : นกั เรยี นทำเคร่ืองหมาย หน้าขอ้ ความทีเ่ ป็นประโยค และทำเครือ่ งหมาย ..................๑. กระดาษขาด ใบกจิ กรรม ลายสอื ไทย ชอื่ - นามสกุล ....................................................................................... ชน้ั ........................... เลขท่ี .............. คำช้ีแจง : นกั เรยี นเขยี นพยัญชนะ สระ
และวรรณยกุ ต์ภาษาไทย ในแบบลายสอื ไทย ก ขฅคฅฆ งจฉชซ ะา สระ ึ ื ้ ใบกจิ กรรม การวเิ คราะหส์ ภาพสงั คมในสมยั สโุ ขทยั จากศลิ าจารึก ช่ือ - นามสกุล ....................................................................................... ชั้น ........................... เลขท่ี .............. คำช้ีแจง : นกั เรยี นวเิ คราะหส์ ภาพสงั คมในสมัยสโุ ขทยั จากการศึกษาศลิ าจารกึ หลักที่ ๑ ตามหัวขอ้ ๑. นักเรียนศึกษาคน้ ควา้ สภาพสงั คมในสมยั สุโขทัยเพื่อนำมาประกอบการวเิ คราะหส์ งั คมไทยสมยั ๑.๑ ครอบครวั ............................................................................................................................ ๑.๒ การเมอื งการปกครอง .......................................................................................................... ๑.๓ สภาพแวดล้อม ................................................................................................................... ๒. สภาพสังคมในปจั จุบันเปรียบเทยี บกบั สมยั สุโขทัยแตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง นักเรยี นคิดวา่ เปน็ เพราะเหตุใด ใบกจิ กรรม สรปุ เนอ้ื หาศลิ าจารกึ ช่อื - นามสกลุ ....................................................................................... ชนั้ ........................... เลขที่ .............. คำช้ีแจง : นักเรยี นสรุปเนอ้ื หาขอ้ ความจากศลิ าจารกึ หลักท่ี ๑ ที่กำหนดใหต้ อ่ ไปน้ี ๑. ตพู น่ี ้องท้องเดียวหา้ คน ๒. พี่เผอื ผู้อ้ายตายจากเผอื เตยี มแตย่ ังเลก็ ๓. เมือ่ กขู ึ้นใหญไ่ ดส้ ิบเกา้ เข้า ๔. กูต่อช้างดว้ ยขนุ สามชน ๕. พ่อกจู ึงขน้ึ ชอื่ กูชอื่ พระรามคำแหง เพื่อกูพ่งุ ชนชา้ งขุนสามชน ๖. กไู ดต้ ัวเนอ้ื ตัวปลา กเู อามาแก่พอ่ กู ๗. เมื่อช่ัวพอ่ กู กบู ำเรอแกพ่ อ่ กู ๘. กไู ปตีหนงั วังชา้ งได้ ๙. กพู รำ่ บำเรอแกพ่ ีก่ ดู ่ังบำเรอแกพ่ ่อกู ๑๐. พก่ี ูตายจงึ ไดเ้ มอื งแก่กูทงั้ กลม ใบกจิ กรรม วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ศลิ าจารกึ หลกั ที่ ๑ ชอ่ื - นามสกลุ ....................................................................................... ชัน้ ........................... เลขท่ี .............. คำชี้แจง : นกั เรยี นวเิ คราะห์คณุ ค่าศิลาจารกึ หลกั ที่ ๑ ลงในแผนผงั ความคิด คณุ คา่ ดา้ นเนือ้ หา คณุ คา่ ดา้
นเนอื้ หา คณุ คา่ ศลิ าจารกึ หลกั ที่ ๑ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ คณุ คา่ ดา้ นสงั คม ใบกจิ กรรม สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คดิ ศลิ าจารกึ หลกั ท่ี ๑ ชอื่ - นามสกลุ ....................................................................................... ชัน้ ........................... เลขท่ี .............. คำชแี้ จง : นักเรียนสรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ากศลิ าจารึก หลกั ท่ี ๑ ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั แบบทดสอบ วรรณคดี เรอ่ื ง ศิลาจารกึ หลกั ท่ี ๑ คำชีแ้ จง ใหนกั เรียนเลอื กตอบคำตอบทีถ่ ูกตอ งท่ีสุดเพยี งขอ
เดียว ก. ทำใหทราบประวตั ิศาสตรข องกรุงสุโขทัย ข. ทำใหท ราบลกั ษณะทางวฒั นธรรมของคนสโุ ขทัย ค. ทำใหเขาใจพระราชประวัติของพอขุนรามคำแหง ง. ทำใหเ ขาใจการสถาปนาพระพทุ ธศาสนาในอดีต 2. ขอ ความใดตอไปนี้ท่เี ปนภาษาวรรณศิลป ก. เม่อื กขู น้ึ ใหญไ ดสิบเกา เขา ข. เพอื่ นจูงวัวไปคา ข่ีมาไปขาย ค. พีก่ ตู ายจงึ่ ไดเ มืองแกก ูท้ังกลม ง. ขนุ สามชนเจาเมืองฉอดมาทเมอื งตาก 3. เมอื่ อายุ ๑๙ ปพ อขุนรามคำแหงไดท ำสงครามกบั ใคร ก. พระเจา บุเรงนอง ข. พระเจา ตองอู ค. พระเจา ตะเบ็งชะเวงตี้ ง. ขนุ สามชน 4. ขอ ใดตอไปนแี้ สดงใหเ ห็นความกตญั ขู อง พอ ขนุ รามคำแหงมากทีส่ ดุ ก. กูไดตวั เนื้อตัวปลา กเู อามาแกพอ กู ข. เมอื่ ชว่ั พอ กู กบู ำเรอแกพอ กู ค. กขู ี่ชางเบกพล กูขบั เขากอ นพอ กู ง. ไดเงือนไดทอง กูเอามาเวนแกพ อกู ๕. บมชี า ง บม ีมา บมปี ว บมีนาง บมีเงือน บม ีทอง ลกั ษณะการใชภ าษาขางตน สอดคลองกบั ขอ ใด ก. ตูพี่นองทองเดยี วหา คน ผูชายสาม ผหู ญิงโสง ข. ตนกูพุง ชา งขุนสามชนตวั ชอื่ มาสเมอื งแพ ค. เมอื่ ช่วั พอ กู กูบำเรอแกพ อกู กูบำเรอแกแ มกู ง. ไพรฟ า หนาใสพอ กหู นีญญา ยพายจแจน ๖. ขอใดมีคำทแี่ สดงถึงการเปลย่ี นแปลงของภาษา ก. กพู รำ่ บำเรอแกพ่ีกูดัง่ บำเรอแกพอ กู ข. พอ กูไปรบขุนสามชน ค. แมกชู ่ือนางเสอื ง พี่กชู ่ือบานเมอื ง ง. กูขบั เขา กอ นพอ กู |