ถ้าคุณมาประเทศไทย ภาษาอังกฤษ

เวลาเจอใครที่โดนใจตามที่สาธารณะ คนส่วนใหญ่มักยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป เพราะว่ามันทั้งเขินทั้งอาย แถมยังกลัวดูไม่ดีไปอีก แต่ใครจะไปรู้ การที่เรากล้าอีกสักหน่อย และรู้จักพูดให้ถูกวิธี อาจจะได้โอกาสทำความรู้จักกัน และสานสัมพันธ์ต่อไปอีกก็ได้นะ มาดูประโยคเริ่มบท พูดภาษาอังกฤษ เมื่อปิ๊งฝรั่งกันดีกว่า ว่าพูดแบบไหนดีที่สุด

คุณมาเที่ยวหรอ? เมื่อได้โอกาสอันดีในการเปิดบทสนทนา อะไรจะดีไปกว่าการถามว่าเขามาเที่ยวหรือเปล่า ซึ่งจริงๆเราอาจจะพอเดาออกแหละ ว่าเขามาเที่ยวแน่ๆ แต่ว่าเขาอาจจะมาเยี่ยมญาติ มาเรียน หรือมาทำอย่างอื่น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้พูดคุยไปถึงเรื่องอื่นๆได้อีก เมื่อได้โอกาสในการคุยเรื่องอื่นๆ ย่อมทำให้เกิดบทสนทนาที่ยั่งยืนขึ้น

อีกวิธีเนียนๆวิธีหนึ่งในการจีบแบบเนียนๆ คือการเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือ คนที่ดูงงๆ แต่ถ้าเขาดูเฮฮาร่าเริงแล้วเราไป Are you lost? ใส่เขา เราอาจจะถูกมองว่าเป็นคนบ้าก็ได้ ดังนั้น ประโยคนี้อาจจะต้องใช้อย่างระวัง แต่ถ้าใช้ถูกจังหวะ เขากำลังหลงทางอยู่จริงๆ อาจจะได้คุยกันยาวทีเดียว หรือถ้าเขาดูเผชิญปัญหาอะไรสักอย่างอยู่ เราสามารถพูดแทนว่า You need help? ก็ได้เช่นกัน

วางแผนเที่ยวไหนหรือยังคืนนี้ หรือเราอาจจะถามว่า Do you have plans tomorrow? มีแผนเที่ยวพรุ่งนี้หรือยัง โดยที่กว่าเราจะพูดประโยคนี้ได้ เราต้องคุยกันมาประมาณหนึ่งแล้ว หรือถ้าจะถามว่าไปไหนหรือเปล่าคืนนี้ เราอาจจะต้องเสนอว่ามีตลาดนัดกลางคืนน่าเดินนะ คนท้องที่ชอบไปกัน ไม่ใช่ให้ทุบหัวเขาพาเข้าถ้ำนะจ๊ะ

อันนี้เอาไว้ใช้เมื่อบทสนทนาเดินทางไปถึงจุดหนึ่งแล้ว หากว่าพ่อหนุ่ม หรือสาวที่เราหมายปอง ดั๊น มีจุดหมายปลายทางเดียวกันกับเรา เราก็สามารถเสนอตัวได้ทันทีว่า เรากำลังจะไปที่นั่นพอดีเลย เธอไปกับเราได้นะ โดยที่เรายังกลายเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการนำทางได้อีกด้วย แต่อย่าไปกันสองคนะจ๊ะ ทางนี้เสนอสำหรับการมาเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะจะปลอดภัยกว่า (กับตัวเราและเขาด้วย)

หากเราไปตามย่านที่มีรถเข็นขายอาหารตามข้างทาง แล้วเจอฝรั่งสวยหล่อตรงใจกำลังงงๆ ไม่รู้จะซื้ออะไรดี ทางที่ดีที่สุด คือเราควรเป็นเจ้าบ้านที่ดี ในการให้คำแนะนำว่า อาหารอันนี้ดีนะจ๊ะ ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่จะมีความผ่อนคลายในการคุยโต้ตอบกับคนอื่นอยู่แล้วพอประมาณ เขาอาจจะถามอะไรกลับมา ก็นับเป็นการเริ่มต้นบทสนทนาได้อีกทางหนึ่ง

สินค้าที่ขายตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนต่างชาติพลุกพล่าน ชอบขายสินค้าราคาสูงลิ่วที่รับมาจากที่อื่น คนที่ไม่รู้เรื่องก็ยอมซื้อไปเพราะไม่รู้จะซื้อที่ไหนดี เราในฐานะเจ้าบ้านที่ดี (และเจ้าเล่ห์) ก็ควรแสดงมิตรไมตรีในการเสนอที่ๆดีกว่าให้เขาไปซื้อ หรือไปๆมาๆ อาจนัดกันไปเดินเที่ยวกันวันต่อไปก็ทำได้

การชมว่าใครสักคนหน้าตาดี นับเป็นคำชมที่ธรรมดา แต่ขอรับประกันเลยว่า ถ้าคุยกันไปประมาณหนึ่งแล้ว เราเอ่ยปากชมว่าเขาเป็นคนน่าสนใจ เขาจะปลื้มแน่นอน เพราะว่ากว่าคนเราจะกลายเป็นคนน่าสนใจได้ มันยากกว่าการเป็นคนสวยคนหล่ออีกนะ ดังนั้น ถ้าเราอยากทำให้เขารู้ว่า นี่เราสนใจเขาอยู่นะ ประโยคนี้ประโยคเดียวนี่แหละ รู้เรื่อง โดยที่เราจะรู้ว่าเราสนใจเราหรือไม่ ก็หลังจากนี้นี่แหละ

อันนี้ก็อย่าไปอยู่ดีๆเสนอให้เชียว ต้องมีการคุยกันประมาณหนึ่งก่อน แล้วเขาดูท่าทางไว้ใจได้ และดูโอเคที่จะรู้จักกับเราต่อแล้วประมาณหนึ่ง โดยที่เราอาจจะพูดอันนี้ หลังจากที่มีการพูดคุยถึงโอกาสที่จะได้เจอกันในวันอื่นๆ หรือมีโอกาสที่จะสานสัมพันธ์ใดๆก็ตาม แต่ถ้าคุยกันมาประมาณหนึ่งแล้วเขามีทีท่าสนใจที่จะรู้จักตัวเราต่อแล้ว เขาอาจจะพูดขึ้นมา โดยที่เราไม่ต้องเปิดประเด็นเอง

เจอประโยคตีเนียนไปหลายรูปแบบแล้ว ใครอยากลองเอาไปใช้ก็ไม่ว่ากัน ที่สำคัญคือ อย่าออกอาการหรือจู่โจมมากจนเกินงามนะจ๊ะ แต่จะพูดแค่ประโยคนี้ แล้วหลังจากนี้เป็นใบ้ไม่กล้าพูดก็คงไม่ดีแน่ ดังนั้น หาที่ เรียนพูดภาษาอังกฤษ เสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อจะได้ พูดภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ ต่อไปจะไปสนทนากับเจ้าของภาษาเวลาเนียน หรือเวลางาน ก็ไม่มีหวั่นแน่นอน ❤️

***บางคำถามอาจจะใช้ได้เลยในตอนแรก ขณะที่บางคำถามนั้นจะต้องใช้ความสนิทสนมสักหน่อยถึงจะเหมาะสม ยังไงก็ต้องพิจารณาในแต่ละบริบทด้วยนะ!!

1. How long will you stay in Thailand? – คุณพักในประเทศไทยนานไหม

2. Do you like Thailand?– คุณชอบประเทศไทยไหม

3. Which region of Thailand do you like? – คุณชอบภาคไหนของประเทศไทย

4. Where do you come from? – คุณมาจากที่ไหน

5. Do you like Thai food? – คุณชอบอาหารไทยไหม

6. What is the capital of your country? – เมืองหลวงของประเทศคุณชื่ออะไร

7. Can you speak Thai? – คุณสามารถพูดภาษาไทยได้ไหม

8. What is your name? – คุณชื่ออะไร

9. What is your favourite Thai food? – คุณชอบอาหารไทยอะไร

10. Do you like Thailand? – คุณชอบประเทศไทยไหม

11. What is your nationality? – คุณเป็นคนสัญชาติใด

12. Have you ever been to Thailand before? – คุณเคยมาเมืองไทยมาก่อนหรือเปล่า

13. What is the weather like in your country? – ที่ประเทศของคุณมีอากาศเป็นอย่างไร

14. What airline did you fly to Thailand on? – สายการบินใดที่คุณบินมาเมืองไทย

15. Where will you go next? – คุณจะไปที่ไหนต่อ

16. What countries do you like the most? – คุณชอบประเทศอะไรบ้าง

17. What country do you like most? – คุณชอบประเทศไหนมากที่สุด

18. What seasons do you like? – คุณชอบฤดูอะไร

19. Why did you come to Thailand? – คุณมาประเทศไทยทำไม

20. How long will you stay in the school? – คุณจะอยู่ในโรงเรียนนานเท่าไร

21. What is your religion? – คุณนับถือศาสนาอะไร

22. How many people are there in your family? – ในครอบครัวของคุณมีสมาชิกกี่คน

23. What is your full name? – ชื่อเต็มของคุณชื่ออะไร

24. When did you arrive in Thailand? – คุณมาถึงเมืองไทยเมื่อไร

25. What work do you do? – คุณทำงานอะไร

26. What is your favourite hobby? – งานอดิเรกที่คุณชื่นชอบคืออะไร

27. How did you come to Thailand? – คุณมาเมืองไทยอย่างไร

28. What do you like to read? – คุณชอบอ่านหนังสืออะไร

29. What is your favourite city in Thailand? – คุณชอบเมืองอะไรในประเทศไทย

30. What do you like in Thailand? – คุณชอบอะไรในเมืองไทย

31. Will you go to Chiang Mai? – คุณจะไปเชียงใหม่ใช่ไหม

32. Have you ever been to Phuket? – คุณเคยไปภูเก็ตไหม

33. Do you like Thai people?– คุณชอบคนไทยหรือไม่

34. How many people did you come with to Thailand? – มีคนกี่คนที่มาประเทศไทยกับคุณ

35. How many people are there in your country? – ในประเทศคุณมีประชาชนกี่คน

36. How many seasons are there in your country? – ในประเทศคุณมีฤดูกี่ฤดู

37. What is your favourite place in Thailand? – สถานที่โปรดปรานของคุณในประเทศไทยคืออะไร

38. Is it hot in Thailand? – ในประเทศไทยร้อนใช่ไหม

39. What is your favourite animal? – สัตว์อะไรที่คุณชื่นชอบ

ที่มา: yenta4

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

Facebook

Twitter

• tweet

พี่บิ๊ก

อัพเดทเรื่องราวของสถาบัน และหลักสูตรที่น่าสนใจในต่างประเทศ พร้อมแนะนำเทคนิคใช้ชีวิตต่างแดนแบบเจ๋งๆ คอยติดตามได้เลย...