มี เงิน 3 หมื่น ลงทุน อะไร ดี

20 อาชีพ ลงทุนไม่เกิน 1 หมื่น กำไรดีเหลือเชื่อ! Ep.2 #ข่าวtiktok #รู้หรือไม่ #มีเงินหมื่น #ลงทุนอะไรดี #ลงทุน #อาชีพน่าลงทุน #สร้างอาชีพ

♬ original sound - ThaiFranchise Center - ThaiFranchise Center

คนส่วนใหญ่วางแผนเกษียณไว้หลังอายุ 60 ปี แม้ว่าไม่ได้ทำงาน แต่ก็ยังมีเงินใช้เหมือนเดิม มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เราควรมีเงินลงทุนเท่าไหร่ แฟนเพจสามารถนำแนวคิดนี้ไปคำนวณเงินหลังเกษียณของตัวเองได้นะจ๊ะ

แนวคิด คือ 

เงินลงทุน x ผลตอบแทน% = เงินที่เราได้รับรายปี (หรือเงินที่เราต้องการจะใช้)

สมมติว่าเราต้องการมีเงินใช้เดือนละ 30,000 บาท(ปีละ 360,000 บาท) นำเงินไปลงทุนหุ้นรายตัวที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอเฉลี่ย 6% ต่อปี เราควรมีเงินลงทุนซื้อหุ้นเท่าไหร่

วิธีคำนวณ : ใช้สมการย้ายข้างธรรมดา เหมือนวิชาคณิตที่เราเรียนตอนประถมนะจ๊ะ

  • เงินลงทุน x 6/100 = 360,000
  • เงินลงทุน = 360,000 x 100/6
  • เงินลงทุน = 6,000,000 บาท 

แปลว่า ถ้าเราต้องการมีเงินใช้เดือนละ 30,000 บาท เราควรมีเงินลงทุนอย่างน้อย 6,000,000 บาท เก็บไว้ในที่ให้เงินปันผลเฉลี่ย 6% 

ข้อควรระวัง 

=> การลงทุนหุ้นมีความเสี่ยงสูง ราคาหุ้นขึ้นๆลงๆเป็นเรื่องปกติ เราควรทยอยสะสมเพื่อจะได้ราคาเฉลี่ยที่กลางๆที่ไม่ใช่ราคาต่ำสุดหรือสูงที่สุด 

=> เงินปันผลขึ้นอยู่กับผลกำไรที่ทำได้ แต่ละปีอาจจะได้รับไม่เท่ากัน แต่เราสามารถนำข้อมูลมาดูย้อนหลังได้ว่าจ่ายเงินปันผลลเฉลี่ยประมาณเท่าไหร่

มี เงิน 3 หมื่น ลงทุน อะไร ดี

ตัวอย่างจริงของการลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (ภาพในกรอบสี่เหลี่ยมด้านขวา) 

=> หุ้นนี้จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอปีละ 4 ครั้งๆละ 0.261 บาท (ในอดีตการจ่ายแต่ละครั้งมีทั้งน้อยกว่าและมากกว่านี้)

=> สมมติว่าเราซื้อมาในราคาหุ้นละ 12 บาท ใช้เงินลงทุน 6,000,000 บาท (ในอนาคตราคาหุ้นที่เราซื้ออาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้)

=> เราซื้อหุ้นครั้งเดียวได้จำนวน 500,000 หุ้น (มาจาก 6,000,000/12)

=> ถ้าจ่ายเงินปันผลครั้งละ 0.261 บาท ได้รับเงิน 130,500 บาท รวม 4 ครั้งได้รับเงินทั้งปี 522,000 บาท (หุ้นตัวนี้ไม่ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เงินปันผล 10% หากเป็นหุ้นตัวอื่นจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%)

วิธีการดูเงินปันผลย้อนหลัง

หากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแน่นแล้วก็จะมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ อาจจะมีมากหรือน้อยแตกต่างกันที่ผลกำไรที่ทำได้ในแต่ละปี เราสามารถดูความต่อเนื่องของเงินปันผลหุ้นได้ที่ www.set.or.th พิมพ์ชื่อหุ้นในช่องค้นหาแล้วเลือกเมนู “ข้อมูลสิทธิประโยชน์” เราจะเห็นข้อมูลอัพเดทด้วยว่าครั้งต่อไปหุ้นจะจ่ายเงินปันผลวันที่เท่าไหร่

2. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

    มีเงิน 3,000 ลงทุนอะไรดีข้าวเหนียวหมูปิ้งก็เป็นอีกธุรกิจน่าสนใจครับ สำหรับสิ่งที่ต้องซื้อหลัก ๆ คือ เนื้อหมู, ไม้เสียบ, ข้าวเหนียว และถุงใส่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส่วนเตาปิ้งเราทำเองก็ได้หรือซื้อเตาธรรมดาใช้ไปก่อน จำไว้ว่าเวลาจ่ายตลาดห้ามใช้งบเกิน 3,000 บาทนะจ้ะ คุมงบประมาณให้ดีเพื่อกำไรครับ 

คิดรายได้คร่าว ๆ ถ้าขายไม้ละ 10 บาทได้ 100 ไม้ เป็นเงิน 1,000 บาท ข้าวเหนียวถุงละ 10 บาท ขายได้ 100 ถุง เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,000 บาท หักกับต้นทุนก็มีกำไรเหลือ ๆ เนื่องจากข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่ขายได้ตลอดทั้งวัน หรือมีทำเลดี ๆ อาจจะขายได้มากกว่าวันละ 100 ไม้ ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรมากขึ้นด้วยครับ

มีตัวอย่างของคนที่เริ่มธุรกิจของตัวเองด้วยเงินเพียงแค่ 30,000 บาทจริงค่ะ และเขาก็ได้มาแชร์ประสบการณ์ธุรกิจไว้ในกระทู้ http://pantip.com/topic/35885254 อ่านแล้วน่าชื่นชมกับความพยายามก่อร่างสร้างธุรกิจของตัวเองด้วยเงินก้อนอันน้อยนิดนี้ จนธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้จริง ๆ น่าภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ที่อยากจะทำธุรกิจบ้าง

 

มี เงิน 3 หมื่น ลงทุน อะไร ดี

เจ้าของกระทู้ได้เข้ามาตั้งกระทู้แรกไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี ใช้ชื่อกระทู้ว่า เมื่อผมมีเงิน 30,000 บาท แต่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง http://pantip.com/topic/35242724 เขามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งไม่มากอะไร และอยากมีร้านขายชา กาแฟ น้ำปั่นเป็นของตัวเอง โจทย์ของธุรกิจนี้จึงเน้นไปที่เรื่องของความประหยัด ต้องนำของเหลือใช้ทุกอย่างเท่าที่หาได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และสิ่งสำคัญคือต้องลงมือลงแรงเอง จ้างคนอื่นให้น้อยที่สุดเพราะทุนเราน้อย เพราะหลังจากออกแบบร้านเองแล้วนำไปให้ช่างตีราคา ช่างตีมาที่ 27,590 บาท ซึ่งราคานี้ทำให้เขาต้องจ้างช่างทำส่วนที่เขาคิดว่าทำเองไม่ได้เท่านั้น เช่น ฝ้าเพดาน ผนังเบาพร้อมประตู ผนังกระจกหน้าร้านพร้อมประตูและหน้าต่าง เนื่องจากเงินจะไม่พอซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ อีก เหลือค่าจ้างช่าง 20,592 บาท ประหยัดไปได้อีก 7,000 บาท จะได้เอาเงินไปซื้อของจำเป็นอื่น


สิ่งที่เจ้าของกระทู้ตัดสินใจทำสำหรับร้านของเขาก็มี

  • ขอซื้อไม้จากคุณลุงที่อยู่ในพื้นที่เพื่อทำบาร์และเก้าอี้ และซื้อชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งอีก 2 ชุดจากโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ โดยตัดสินใจไม่ทำสีเพื่อให้ประหยัดมากขึ้น
  • ขอความช่วยเหลือพี่ที่รู้จักกันให้มาช่วยเดินไฟฟ้าให้ โดยเจ้าของกระทู้คอยช่วยเหลือเป็นลูกมือ
  • ทำโคมไฟแบบประดิษฐ์เองโดยไปค้นงานเก่าสมัยเรียนหนังสือมาปัดฝุ่นทำใหม่
  • ตกแต่งร้านโดยใช้กระป๋องนมจากร้านกาแฟของเพื่อนมาปลูกต้นอ่อนทานตะวัน นอกจากตกแต่งร้าน ผักที่ปลูกยังนำมาขายลูกค้าได้อีกด้วย
  • ตกแต่งกระจกหน้าต่างและผนังด้วยการใช้สีเขียนกระจกวาดเรื่องราวของตัวเองลงบนนั้น ทำให้ร้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น
  • เคาน์เตอร์ปั่นน้ำยืมของน้ามาใช้ก่อน

สรุปเขาใช้เงินในการทำร้านไปทั้งหมด 27,000 บาท เปิดร้านอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 และเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้มาเปิดกระทู้ใหม่อีกครั้งในกระทู้ที่ชื่อว่า จากเงิน 30,000 บาทวันนั้น สู่ร้านในวันนี้ http://pantip.com/topic/35885254 เพื่ออัพเดทถึงธุรกิจร้านขายน้ำของเขาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ร้านซึ่งตู้เย็นหรืออ่างล้างจานก็ยังไม่มี ทุกวันต้องยกถังน้ำออกไปเททิ้งนอกร้าน เครื่องชงกาแฟก็ยังไม่มี ส่วนแอร์ก็เอาจากห้องนอนตัวเองมาติดให้ลูกค้าก่อน อาศัยมีลูกค้าที่เป็นนักเรียนเขาชอบมาถ่ายรูปลงเฟซบุ้คกันและเช็คอิน แต่เนื่องจากร้านเล็กและด้านหน้าร้านก็ยังไม่ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราว ก็เลยรองรับลูกค้าได้ไม่มาก อาศัยให้ลูกค้าสั่งน้ำและวิ่งส่งตามที่ต่าง ๆ ได้เงินเพิ่มมาทำบาร์เป็นของตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องยืมของน้า คราวนี้ที่เจ้าของกระทู้มาอัพเดท เขาได้ทำสิ่งเพิ่มเติมสำหรับร้านเขา ดังนี้

  • เขาทำบาร์ขึ้นเองโดยใช้ไม้กรุด้วยกระสอบป่านเคลือบด้วยยูริเทน ซึ่งมีราคาถูกและหาได้ง่ายที่สุด
  • อ่างล้างจานสแตนเลสซื้อของมือสองมาใช้และเจาะผนัง เดินท่อประปาน้ำดี น้ำเสียเอง
  • ซื้อตู้เย็น 2 ประตูแบบมือสองมาใช้เพื่อแช่เค้กขายให้กับลูกค้าอาศัยคอยบอกลูกค้าเอาว่า ร้านเรามีเค้กขายด้วย เพราะราคาค่าตู้แช่เค้กแพงมาก แพงกว่างบทำร้านทั้งหมดเสียอีก
  • ทำตู้แช่น้ำแข็งให้ดูมีคอนเซ็ปต์ โดยใช้ตู้เย็นเก่ามาวางนอนกรุด้วยไม้เก่าให้สวยงาม โชคดีเจ้าของโรงน้ำแข็งเป็นสปอนเซอร์ช่วยจ่ายค่าจ้างทำถังน้ำแข็งนี้ให้ ข้อดี คือ ประหยัด สวยงาม แต่ข้อเสียคือหนักมากและพออุดรอยต่อไม่ดี น้ำเลยซึม
  • ตัดสินใจกู้เงินเพื่อซื้อเครื่องชงกาแฟ เพราะมีลูกค้าถามถึงเยอะมาก เลยคิดว่ามีความต้องการของลูกค้าอยู่ แต่ก่อนกู้ก็คิดหนักเพราะผ่อนรถอยู่ด้วย แต่เนื่องจากผ่อนดีไม่เคยค้าง จึงมีวงเงินให้กู้เพิ่มได้มาคิด ๆ ดูเราก็ไม่ได้เอาเงินไปใช้อะไรที่ไม่เหมาะสม เป็นเครื่องมือทำมาหากินของเราและผ่อนต่อเดือนเท่าเดิม แต่ผ่อนนานขึ้น ไม่เป็นภาระมากนัก จึงตัดสินใจกู้แล้วซื้อเครื่องชงกาแฟมาไว้ที่ร้าน
  • จัดหน้าร้านด้านนอกใหม่ให้ลูกค้านั่งรับลมหนาวได้ โดยเคลียร์พื้นที่ให้โล่ง สั่งหินมาลงเกลี่ยให้เรียบและจ้างตาให้ช่วยทำสะพานไม้เชื่อมระหว่างถนนใหญ่กับถนนเล็กหน้าร้าน ลูกค้าจะได้เดินตรงมาที่หน้าร้านได้โดยไม่ต้องอ้อมเหมือนทุกครั้ง เจ้าของกระทู้ทาสีและตกแต่งด้านนอกเพิ่มเติมเพื่อให้ดูสวยงามขึ้นโดยลงแรงเอง

เมื่อเทียบกับครั้งก่อนครั้งนี้เขากลับมาอัพเดทร้านที่ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น จากเงินเริ่มต้น 30,000 บาท ในตอนแรกที่ทำให้ร้านเป็นรูปเป็นร่าง แต่เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขายังคงพยายามมองหาช่องทางที่จะปรับปรุงร้านให้ดีขึ้นอยู่เสมอเพื่อรองรับลูกค้า ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้ทุ่มเทเงินทองมากมายเพื่อทำร้านโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงยอดขายหรือรายได้ เขาเลือกทำเป็นค่อยเป็นค่อยไป ค่อยคิดค่อยทำ ค่อย ๆ เพิ่มทำทีละเล็กทีละน้อย อะไรทำเองได้ก็ทำ ไม่ต้องจ้างใคร จนเป็นร้านกาแฟ ร้านขายน้ำอย่างที่เขาได้ฝันเอาไว้

มีเงิน3หมื่นลงทุนทำอะไรดี

มีเงิน 30000 ลงทุน อะไรดี 8 ช่องทางการลงทุนด้วยเงิน 30,000 บาท.
1.เงินฝากประจำปลอดภาษี ... .
2.ขายของออนไลน์ ... .
3.ลงทุนในแฟรนไชส์ ... .
4.Pre-order สินค้ามาขาย ... .
5.Dropship /Affiliate จับเสือมือเปล่า ... .
6.ลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ... .
7.ลงทุนในกองทุนรวม ... .
8.หากชอบความเสี่ยงสูงให้ลงทุนในคริปโต.

ลงทุนขายอะไรดี งบ3000

ลงทุนขายอะไรดี ?.
ร้านลูกชิ้นทอดหรือลูกชิ้นปิ้ง ... .
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ... .
ขายหม่าล่าปิ้งย่าง ... .
ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่เจียวฟูกรอบ ... .
ร้านโจ๊ก ... .
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ... .
ขายแซนวิช ... .
ร้านยำ.

การลงทุนแบบไหนดีที่สุด

มีเงิน 10,000 บาท ลงทุนอะไรดี.
1. ฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยสูง ... .
2. สลากออมทรัพย์ ... .
3. พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรออมทรัพย์ ... .
4. หุ้นกู้ ... .
5. กองทุนรวม ... .
6. ลงทุนในหุ้น ... .
7. ออมทอง ... .
8. ลงทุนขายของ หรือเปิดธุรกิจ.

มีเงินเย็นลงทุนอะไรดีให้เงินเพิ่มขึ้น

ในกรณีที่เรามีเงินเย็นและลงทุนระยะยาว แนะนำให้ลงทุนตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตเรตติ้ง Investment Grade ขึ้นไปจะดีกว่า เพราะความเสี่ยงไม่มากนัก แต่ผลตอบแทนก็ยังสูง สำหรับระยะเวลาในการลงทุน ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนยาวนานขนาดไหน เพราะตราสารหนี้มีให้เลือกหลายช่วงอายุ หรือแม้กระทั่งตลอดชีพ