ตั้งมิเตอร์ที่ x 10K แล้วปรับซีโร่ให้ได้ เป็น0 นำสายดำของมิเตอร์ (ไฟบวก) ไปจับขาอื่น ที่ไม่ใช่ขาเหลือที่ไม่ใช่ขา B เข็มมิเตอร์ไม่ขึ้น นำนิวมือทริกขาที่มีสายดำจับอยู่กับขา B เข็มมิเตอร์ ขึ้นมาก ( โฮห์มต่ำ มาก10- 30 Kโอม ) แสดงว่าขาทรานซิสเตอร์ที่มีสายดำของมิเตอร์จับอยู่เป็นขา C การหาขา E ตั้งมิเตอร์ X 10K นำสายดำของซิเตอร์ ( ไฟบวก ) ไปจับขาที่เหลือที่ไม่ใช่ไม่ใช่ขา B และC นำสายแดงของมิเตอร์ (ไฟลบ) ไปจับไว้ที่ชา Cเข็มมิเตอร์ขึ้นเล็กน้อยมีสายดำชองมิเตอร์จับอยู่กับขา B เข็มมิเตอร์อีกเล็กน้อย แสดงว่าสายดำที่จับอยู่เป็นชา E 2.การวัดทรานซิสเตอร์ ชนิดPNP วิธีการวัดเหมือนๆกันกับชนิด NP์N ต่างกันตรงสายวัดของมิเตอร์ วัดชนิด NPN ใช้สายดำเป็นหลักแต่ชนิด PNP ใช้สายแดงเป็นหลักการวัดทรานซิลเตอร์ นอกเหลือจากนี้ จะถือว่าทรานซิลเตอร์เสียหรือชำรุด ลักษณะชองทรานซิสเตอร์ที่เสีย 1.ขาด ปกติวัดต้องขึ้น แต่วัดแล้วไม่ขึ้น 2.รั่ว วัดแล้วปกติต้องไม่ขึ้น วัดแล้วขึ้นนิดหน่อย 3.ซอร์ต วัดแล้วความด้านทานเป็น 0โอม (เข้มขึ้นสูงสุด ) 3.ไอซี เป็นวงจรสำเร็จซึ่งอยู่ภายในตัวเดียวกัน ภายในตัวไอซีจะมีทรานซิลเตอร์ ไดโอด และ รีซิสเตอร์ อยู่เป็นจำนวนมาก แล้วแต่ชนิดของไอซีว่าทำหน้าที่ด้านใดการเสียหรือชำรุดจึงไม่สามารถตรวจสอบโดยการวัดได้ ต้องอาศัยประสบการณ์ หรือการเปรียบเทียบในการวัดไฟตามขาต่างๆบ้าง ไอซีเสีย 1.เสียโดยวัดไฟแล้วไม่ออกตามขา ปกติควรมี 2.เสียดดยชำรุด ไหม้ แคก ร้าว ขาหัก ขาขาด 3.เสียโดยเสื่อม ต้องอาศัยการวัดอุปกรณ์ที่ร่วมที่อยู่รอบๆตัวไอซี
การตรวจสอบทรานซิสเตอร์
เขียนโดย RMUTL_News ที่22:00 ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest ป้ายกำกับ: Electronic-Electronical |