ลักษณะผู้หญิงที่มีความต้องการสูง

       เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้เลย สำหรับละครเรื่อง ‘สองนรี’นั้นก็เป็นเพราะ อาการของ หนึ่ง-ปณิธี ที่เห็นในละครว่าหนึ่งมีความต้องการทางเพศสูง ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ และยังมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งความจริงแล้ว ‘โรคขาดผู้ชายไม่ได้ก็คือลักษณะของ โรคนิมโฟมาเนีย (Nymphomania)’ซึ่งเป็นอาการป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง ที่ผู้ป่วยจะมีความผิดปกติในการควบคุมพฤติกรรมในเรื่องเพศ ทำให้เกิดความต้องการทางเพศสูงกว่าคนปกติทั่วไป

ลักษณะผู้หญิงที่มีความต้องการสูง

ที่มาของภาพ : catdumb

       ความต้องการทางเพศสูง (Hypersexuality) หรืออาการเสพติดทางเพศ สามารถเกิดได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชายหากเป็นในผู้หญิงจะเรียกว่า ‘นิมโฟมาเนีย’ (Nymphomania) ถ้าเป็นในผู้ชายเรียกว่า ‘แซทไทริเอสิส’ (Satyriasis) คำว่า นิมโฟมาเนีย นั้นมาจากคำว่า ‘นิมโฟ (Nympho)’ หมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง และ ‘มาเนีย (Mania)’ ซึ่งหมายถึง ความคลั่งไคล้หรือความบ้าคลั่ง และเมื่อนำมารวมกัน ‘นิมโฟมาเนีย’ จึงหมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงเกินปกติ หรือมีความคลั่งไคล้ในเรื่องเพศนั่นเอง

ที่มาของภาพ : rabbitfinance

สาเหตุของโรคนิมโฟมาเนีย

  • ความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในสมอง ไม่ว่าจะเป็นการหลั่งสารสื่อนำประสาท (Neurotransmitters) ในสมองมากกว่าปกติ เช่น เซโรโทนิน (Serotonin), นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) และโดปามีน (Dopamine) รวมถึงการเกิดความผิดปกติในสมองตรงบริเวณที่ส่งผลต่อการเกิดความต้องการทางเพศ
  • ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) ซึ่งมีทั้งในชายและหญิง ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อการควบคุมทางเพศ
  • การขาดสมดุลระหว่างอารมณ์และจิตใจ
  • พันธุกรรม
  • สภาพแวดล้อม
  • ความเครียด
  • บาดแผลทางจิตใจ จากเหตุการณ์ในชีวิต
  • การได้รับยาบางชนิดมากเกินไป เช่น แอมเฟตามีน หรือติดสารเสพติด

ที่มาของภาพ : screencrush

ลักษณะของผู้ป่วยโรคนิมโฟมาเนีย

  •  มีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์กับใครก็ได้
  •  มักจะสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
  •  ใช้บริการทางเพศจากการแชท ภาพลามก หรือใช้บริการทางเพศออนไลน์
  •  มีการแสดงออกทางเพศอย่างผิดปกติ เช่น ชอบความเจ็บปวด (Masochistic) ชอบความรุนแรง (Sadistic) และพฤติกรรมทางเพศอื่น ๆ
  •  ชอบโชว์
  •  พูดจาลามก หรือแสดงท่าทางในลักษณะว่ามีความต้องการทางเพศตลอดเวลา

       โรคนิมโฟมาเนีย หรือ โรคขาดผู้ชายไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดจากการเสพติดการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นเดียวกับอาการป่วยทางจิตโรคอื่น ๆ โดยผู้ป่วยสามารถเข้ารับการบำบัดได้ด้วยการใช้ยา ควบคู่กับการปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือและจัดการควบคุมพฤติกรรมด้านเพศของตัวเองได้มากขึ้นค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : เช็คด่วน!!! คุณเป็น โรคนิมโฟมาเนีย หรือ ‘โรคขาดผู้ชายไม่ได้’ หรือไม่

รศ.ดร.ปรีชา  อุปโยคิน

เพศสัมพันธ์ (Sexuality) เป็นเรื่องปกติในมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยเจริญพันธ์หรือผู้สูงอายุ ความหมาย ของ “เพศสัมพันธ์” มีหลากหลายมิติแตกต่างกันในแต่ละบุคคล บ้างให้คำนิยามว่าการมีเพศสัมพันธ์คือการจับมือถือแขน กอดรัด อันแสดงออกถึงอารมณ์ความสัมพันธ์จากความรักใคร่ระหว่างหญิงกับชาย ที่สนิทสนมกันฉันชู้สาว รวมไปถึงการมีกิจกรรมเพศสัมพันธ์ (Sexual intercourse) ความหมายของการมีเพศสัมพันธ์ หมายถึง การมีความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างบุคคลสองคน โดยที่อวัยวะสืบพันธุ์ชายเข้าไปในอวัยวะสืบพันธุ์หญิง เกิดการเสียดสีระหว่างอวัยวะทั้งสองนำไปสู่จุดสุดยอด ฝ่ายชายจะหลั่งอสุจิออกมาภายนอกร่างกาย หากอสุจิเข้าไปภายในช่องคลอดของฝ่ายหญิง ในภาวะที่เหมาะสมอาจเกิดการปฏิสนธิ ทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์

บางสังคม การมีเพศสัมพันธ์เป็นความเชื่อทางขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่ปลูกฝังให้สมาชิกในสังคมยึดถือเป็นแนวทางทั้งข้อห้าม ข้อปฏิบัติ ในเรื่องการคบชู้สู่สาว การเกี้ยวพาราสี การหมั้นหมาย การสู่ขอจนถึงการแต่งงาน สำหรับการมี “เพศสัมพันธ์” ในผู้สูงอายุ เป็นประเด็นที่แตกต่างจากการมีเพศสัมพันธ์ของหนุ่มสาวทั่วไป ด้วยการถูกบางสังคมกำหนดว่า เป็นเรื่องน่าอาย สกปรก เป็นบาป เป็นการแสดงออกถึงความผิดปกติ ไม่ควรมีอยู่ในวัยสูงอายุ ในผู้หญิงควรจะยุติการมีเพศสัมพันธ์หลังจากหมดประจำเดือน ผู้ชายก็ควรงดการมีพฤติกรรมทางเพศ หันหน้าเข้าวัด มีการใช้คำกล่าวขานต่างๆเกี่ยวกับชายสูงวัย ที่มีสัมพันธ์กับหญิงว่าเป็น “เฒ่าหัวงู” “เฒ่าตัณหากลับ” หรือถ้ามีความสัมพันธ์กับหญิงอ่อนวัยกว่า จะถูกกล่าวหาว่าเป็น “วัวแก่อยากกินหญ้าอ่อน” เป็นต้น

แนวคิดเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ในผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคประจำตัว ได้รับการส่งเสริมสุขภาพ มีการดูแลตนเอง สุขภาพจิตอยู่ในระดับดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสถานภาพทางสังคมดี ภาพโดยรวมคือผู้ที่มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับดี มักจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนวัยกลางคน แต่ยังพบว่าคนยุโรป อเมริกัน จีน ญี่ปุ่น และคนไทย มีแนวคิดและทัศนคติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศที่แตกต่างกัน สิ่งที่เป็นความจริงประการหนึ่งก็คือความทรุดโทรม ภาวะทดถอยของร่างกายและจิตใจ ไม่คึกคัก ตื่นตัว ตื่นเต้น นักวิชาการตะวันตกหลายคนแสดงความเห็นว่า ผู้สูงอายุที่มีความรู้สึกที่ดีต่อการมีเพศสัมพันธ์ จะสามารถมีความต้องการได้ตามปกติไปจนถึงอายุ 70-80 ปีหรือ 90 ปี

ในด้านสุขภาพทางเพศ การแสดงออกซึ่งอัตลักษณ์ทางเพศของหญิงและชายวัยเจริญพันธุ์จะพบมากกว่าผู้ สูงอายุ โดยเฉพาะในด้านอารมณ์ ความรู้สึก ที่ยังคงกระฉับกระเฉง ตื่นตัวและมีพลังทางกายแข็งแรงเหมือนช้างสาร พฤติกรรมและความต้องการทางเพศจึงยังคงอยู่ ในวัยรุ่นจะต้องการแสวงหาสิ่งแปลกใหม่สำหรับตนเอง จึงมักไม่มีขีดจำกัด เพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นจึงเกิดขึ้นโดยอิสระ ที่จะเรียนรู้แต่ความสัมพันธ์ทางเพศของผู้สูงอายุจะเป็นการแสดงออกที่แตก ต่างกัน โดยมีนัยแห่งการแสดงความรักที่มีมาแต่ดั้งเดิมตั้งแต่อยู่ร่วมกันเป็นครอบ ครัว

งานวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศของผู้สูงอายุยังมีอยู่น้อยมากใน แง่ที่ว่า พัฒนาการด้านความสัมพันธ์ทางเพศมีมากน้อยเพียงใดและอะไรเป็นสิ่งบ่งชี้ใน ระดับที่เป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันยังบ่งบอกไม่ได้ว่า จำนวนความถี่เท่าใดจะเป็นมาตรฐานที่เชื่อถือได้ ซึ่งจากการสำรวจของ Reproductive Health Professional (2002) ระบุว่า ร้อยละ 52 ของผู้ชายที่มีอายุ ระหว่าง 50-59 ปี ร้อยละ 26 ของ ผู้ชายที่มีอายุ ระหว่าง 60-69 ปี และร้อยละ 27 ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 70 ปี มีเพศสัมพันธ์ มากกว่าหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ แต่ก็มิได้ระบุว่ากลุ่มตัวอย่างประกอบอาชีพอะไร มีปัญหาด้านโรคประจำตัวหรือไม่

เมื่อปี 1961 Cumming and Henry ผู้เขียน เรื่อง Growing old: The process of disengagement. New York: Basic Books ได้เสนอทฤษฏี Disengagement Theory แนวคิดนี้กล่าวว่าผู้สูงอายุกลุ่มนี้จะไม่สนใจอะไร ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมไม่ชอบที่จะข้องแวะ สุงสิง กับใครๆในสังคม ผู้ที่กำลังก้าวสู่วัยสูงอายุ ส่วนใหญ่เริ่มไม่เห็นคุณค่าของตน เพื่อนฝูงที่เคยคบค้าสมาคมแยกกันไป บทบาททางสังคมที่เคยดำรงไว้กลับหายไป ไม่มีความเป็นตัวเอง การก้าวไปเป็นผู้สูงอายุทำให้บทบาทเริ่มลดไป คิดว่าสังคมมองผู้สูงอายุว่าไม่ได้เสริมสร้างสิ่งใดๆ ให้กับสังคมอีกแล้ว จึงมีทัศนคติในทางลบต่อความเป็นตัวตน แต่นักวิชาการบางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยแย้งว่าผู้สูงอายุเป็นผู้มีผลงานและมีคุณประโยชน์

ในปี 1972 Lemon, Bengton, & Peterson ได้ แย้งแนวคิดในทางลบต่อผู้สูงอายุ และเสนอแนวคิด Activity Theory โดยเน้นว่าผู้สูงอายุเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในชีวิต ผู้สูงอายุที่ตื่นตัวอยู่ตลอด และมีกิจกรรมเสมอ จะเป็นผู้ที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่าและมีส่วนส่งเสริมให้ชีวิตประสบความสำเร็จ แนวคิดที่สองนี้อธิบายอีกว่าความเป็นตัวตนที่บุคคลนั้นๆ จะยอมรับมีความสำคัญ และจะอยู่กับผู้นั้นตลอดเวลา ผู้มีกิจกรรม ตื่นตัวและทำงานเสมอ จะมองโลกในแง่ดี มีความพึงพอใจสูง ไม่เคยพบและไม่เคยคิดจะทำตัวให้เป็นคนผิดหวังกับอะไรง่ายๆ ไม่เคยเบื่อตนเอง ไม่เคยคิดว่าการดำเนินชีวิตมีแต่อุปสรรคปัญหา ในทางตรงกันข้ามชีวิตกลับมีแต่ความสุขและไม่เคยคิดกลัวต่อความตาย

เพศสัมพันธ์หมายถึงอะไร ?

การมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้หมายถึงเพียงการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศของหญิงเท่านั้น การจูบ การกอด และการแสดงความรัก เอื้ออาทรต่อกัน ก็ถือเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ได้ คนหนุ่มสาวมีความสุขในความสัมพันธ์ทางเพศฉันใด ผู้สูงอายุก็ยังมีความต้องการ และมีความสุขได้ทัดเทียมกัน อายุไม่อาจกีดกันความสุขทางเพศของมนุษย์เรา ขอเพียงมีหัวใจแข็งแรง สุขภาพทั่วไปแข็งแรง ผู้ที่สามารถออกกำลังได้ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน

ผู้สูงอายุต่างกับคนหนุ่มสาวอย่างไร?

เมื่อคนเราอายุมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อมีอายุเกิน 45 ปี ฮอร์โมนเพศจะลดลงเรื่อยๆ ทั้งเพศชายและเพศหญิง ส่วนใหญ่จะมีความต้องการทางเพศลดลงตามลำดับ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและสภาพจิตใจ บางคนเมื่อมีอายุมากขึ้นแต่ความต้องการทางเพศกลับเพิ่มขึ้น ไม่ลดลง เนื่องจากสภาพร่างกายและจิตใจดี ไม่เคร่งเครียด รู้จักปล่อยวาง รู้สึกสบายใจ มีการออกกำลัง และพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ผู้สูงอายุชายแตกต่างกับผู้สูงอายุหญิงอย่างไร?

ชายสูงอายุ ขนาดอวัยวะเพศจะเล็กลง การแข็งตัวลดลง และอาจไม่แข็งตัวสม่ำเสมอ หรือไม่เต็มที่ แต่การเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการทางจิตใจจะมีไม่มาก คือมีความต้องการทางเพศเท่าเดิมหรือลดลงไม่มาก แต่ร่างกายอาจไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่ม ชายบางคนอาจมีความต้องการลดลง พร้อมกับสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ปัญหาหลั่งเร็ว หรือไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ตามต้องการ ทำให้มีกิจกรรมทางเพศลดลง

หญิงสูงอายุ เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งกายและใจ และเมื่ออายุมากขึ้น 60 ปีขึ้นไป ช่องคลอดจะแคบลง น้ำหล่อลื่นในช่องคลอดลดลง เมื่อมีเพศสัมพันธ์จะเจ็บปวดทำให้ไม่มีความสุข ความแห้งของช่องคลอดเป็นอุปสรรค ทำให้ความสนใจทางเพศลดลง จึงควรใช้ K-Y เจล ซื้อตามร้านขายยา ร้านหรือห้างสะดวกซื้อ ต่างๆทั่วไป เพื่อช่วยหล่อลื่นและลดการเสียดสี ผู้ที่เจ็บป่วยมีโรคประจำตัวอาจไม่สนใจกิจกรรมทางเพศเลย แต่หญิงสูงอายุบางคนก็ยังมีความต้องการทางเพศ แม้ฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง แต่ฮอร์โมนเพศชายที่มีในตัวผู้หญิงทุกคนนั้นกลับออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น ทำให้ความตื่นตัวและความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นได้

ปัญหาที่ควรแก้ไขมีอะไร ?

นายแพทย์ปณิธี พูนเพชรรัตน์และ พญ. สายพิณ หัตถีรัตน์ แห่งภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สูงอายุ ประการแรกคือ เพศสัมพันธ์ที่เป็นปัญหา ความยากลำบากในการมีเพศสัมพันธ์(Sexual difficulty) แตกต่างจาก การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Sexual dysfunction) ตรงที่ ปัญหา Sexual difficulty เกิดจากความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ผิดปกติ จึงเกิดผลกระทบต่อเพศสัมพันธ์ ทั้งที่อวัยวะต่างๆ ปกติอยู่ ในขณะที่ปัญหา Sexual dysfunction เกิดจากอวัยวะต่างๆทำหน้าที่ผิดปกติไป เช่น อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ความต้องการทางเพศต่ำ การตื่นตัวทางเพศต่ำ การไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้ การเจ็บปวดอย่างมากเวลาร่วมเพศตามปกติ แนวทางการแก้ปัญหาคือ

  1. ควรให้ความรู้แก่คู่ผู้สูงอายุเกี่ยวกับเรื่องเพศ เพศสัมพันธ์ และกิจกรรมทางเพศที่เหมาะสม
    2. ควรต้องแก้ไขความคิด โดยเฉพาะทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ว่ามิใช่สิ่งที่น่าอับอาย บาป หรือกิจกรรมทางเพศในผู้ที่มีอายุเป็นเรื่องลามก สกปรก หรือเป็นบาป
    3. ส่งเสริมให้มีทัศนคติเชิงบวก มองโลกให้สดใส การมีเพศสัมพันธ์ช่วยสร้างความสุขได้เช่นเดียวกับคนหนุ่มสาว
    4. ร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคู่สมรส ให้เข้าใจเรื่องเพศศึกษาในผู้สูงอายุ โดยสื่อสารพูดคุยกัน แก้ไขปัญหาร่วมกัน
    5. การมีความสุขทางเพศเป็นสิ่งสำคัญและควรเป็นที่พึงพอใจในชีวิตสมรส จะทำให้อายุยืนยาวขึ้น
    6. ควรเปิดเผยความรู้สึกในใจถึงปัญหาเฉพาะตัว ถึงความพึงพอใจ ไม่พอใจหรือความชอบและไม่ชอบให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้
    7. ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเรื้อรัง หากไม่หาวิธีแก้ไขก็จะไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายหญิงมักมีความต้องการแตกต่างจากชาย เช่น มีความต้องการทางเพศน้อยกว่า และมักให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์
    8. ผู้สูงอายุหญิงมักจะอดทน อดกลั้น ไม่แสดงความรู้สึก ต้องจำใจมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้สามีมีความสุขและพึงพอใจ อาจเกิดความเบื่อหน่ายและไม่มีความสุข จนถึงขั้นมีอคติกับการมีเพศสัมพันธ์ เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุชายไปมีภรรยาน้อยหรือแสวงหาความสุขนอกบ้าน
    9. ทุกฝ่ายต้องเข้าใจในความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ของกันและกัน เพราะฝ่ายชายอาจมีความต้องการที่ต่างกัน มักจะคิดว่าเมื่อตนเองมีความสุขแล้ว ภรรยาก็คงจะมีความสุขด้วย จึงละเลยไถ่ถามความรู้สึก ความต้องการของอีกฝ่าย ทำให้ภรรยา กลัว ไม่มีอารมณ์ และไม่อยากมีเพศสัมพันธ์
    10. การกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะผู้หญิง ควรต้องคิดว่าการมีอายุมากขึ้นไม่เป็นเหตุที่จะไม่ต้องมีกิจกรรมทางเพศ

ข้อแนะนำสำหรับผู้สูงอายุเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ช่วยสร้างความสุข

  1. ออกกำลังเดินหรือเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้กล้ามเนื้อแขนขาสมบูรณ์ตามอายุ หัวใจจะแข็งแรง สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างคนหนุ่มสาว
    2. เสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง คิดทางบวก ลดความเครียด อย่าวิตกกังวลกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง สร้างทัศนคติความเชื่อเรื่องทางเพศใหม่ อย่าคิดว่าความสุขทางเพศเป็นเรื่องอดีตที่ไม่หวนคืนมาอีก
    3. ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้มีความรื่นรมย์ มีรสนิยม สร้างสิ่งแปลกใหม่จะเป็นปัจจัยเสริมบรรยากาศ ลดความเครียด ความจำเจ สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย
    4. กระตุ้นด้วยการเล้าโลม สร้างความรู้สึกด้วยการกระตุ้นประสาทสัมผัสเฉพาะที่ เพื่อให้เกิดการตอบสนองทางเพศ ให้พยายามรักษาช่วงเวลาที่มีความรู้สึกทางเพศให้นาน ไม่รีบร้อน ผ่อนคลายจิตใจ
    5. อย่าคาดหวังเร็ว หงุดหงิด หรือคิดเรื่องอื่นๆ เรื่อยเปื่อย ต้องเข้าใจตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไร หากจิตใจวอกแวก จะล้มเหลวไม่เป็นท่า
    6. ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน หากทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย ๆ ทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายหญิงจะไม่มีความรู้สึกทางเพศ
    7. อย่าหลงเชื่อว่าการรับประทานยาหรือสิ่งอื่นใดจะเพิ่มพลังหรือกระตุ้นทางเพศ เช่น แมลงกระดิ่งทอง ไข่ หอยนางรม โสม รังนก หรือยาบำรุงบางชนิด โดยอาจเป็นผลทางจิตใจเสียมากกว่า หากใช้ยากระตุ้นอาจจะมีผลเสียต่อร่างกาย
    8. ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ จำนวนความถี่ขึ้นอยู่กับเวลา โอกาส และความแข็งแรงของร่างกายทั้งสองฝ่าย การมีความรู้สึกทางเพศบ่อยๆ จะสามารถจรรโลงให้มีกิจกรรมเพศสัมพันธ์ไว้ได้ตลอดไป จะไม่เกิดความคิดว่าเป็นเรื่องน่าขยะแขยง กลัว หรืออาย
    9. อย่าเข้าใจผิดว่าที่ผู้สูงอายุที่ยังคิดเรื่องเพศ เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในวัยสูงอายุเป็นเรื่องปกติ
    10. ผู้สูงอายุที่มีความเจ็บป่วย เวลามีเพศสัมพันธ์ต้องระมัดระวังสุขภาพด้วย เพราะหัวใจต้องทำงานมากขึ้น สูบฉีดเลือดแรงและเร็วขึ้น อาจมีอันตรายได้
    11. ถ้าผู้สูงอายุมีปัญหาทางเพศทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ ควรไปขอคำปรึกษาและแนวทางแก้ไขจากแพทย์หรือจิตแพทย์

สรุป

เพศสัมพันธ์เป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต เป็นวิถีธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน เป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับความสุข เพศสัมพันธ์เป็นยาอายุวัฒนะอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่จะทำให้เกิดความสุข และสันติในครอบครัว ทำให้มีชีวิตชีวา และที่สำคัญ คือ ช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น ผลการวิจัยพบว่า อายุขัยของประชาชนชาวอเมริกันและยุโรปที่แต่งงานอยู่กินกันจนแก่เฒ่าอายุขัย เฉลี่ยจะยืนยาวมากกว่าคนโสดหรือเป็นหม้าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุแม้ว่าจะเป็นวัยที่ทุกอวัยวะถดถอยลง แต่หากมีความเข้าใจและแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างถูกทาง จะช่วยให้ชีวิตครอบครัวของผู้สูงอายุมีความสุขได้

ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พบว่า คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 4 ครั้งต่อเดือน และคนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน แต่สำหรับคนไทย จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุชาย จำนวน 1000 คน โดย ร.ท. นพ. อนันต์ สุรบท (2539) พบว่า คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน และคนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป เฉลี่ย 1 ครั้งต่อเดือน จะเห็นว่า เมื่อคนมีอายุมากขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ก็ลดลงตามไปด้วยเช่นเดียวกับแถบยุโรป แต่คนยุโรปมีสุขภาพที่แข็งแรง จึงมีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าได้ ซึ่งอาจมีหลายประเด็นเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งในประเด็นเกี่ยวกับ สุขภาพจิต สถานภาพทางสังคม วัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่อาจแตกต่างกันไป

ความสัมพันธ์ทางเพศในผู้สูงอายุ ไม่ใช่เรื่องสกปรกหรือเป็นบาป การมีความสุขทางเพศเป็นสิ่งสำคัญและควรเป็นที่พึงพอใจในชีวิตสมรส ควรเปิดเผยความรู้สึกพึงพอใจหรือความชอบให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ แม้ว่าสรีระของแต่ละบุคคลจะเปลี่ยนไปตามความเสื่อมของร่างกาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการพิจารณาตนเองว่า เราจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองได้อย่างไร การคบค้าสมาคมกับเพื่อน การเปิดตัวให้กับโลก และมีพลังที่จะดำรงจิตใจให้ได้เป็นในสิ่งที่จะทำให้แต่ละคนแตกต่างกัน กล่าวโดยสรุปการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความถดถอยของอวัยวะแต่ขึ้น อยู่กับการยอมรับตนเอง ความพึงพอใจในตัวตน และการมองโลกด้วยความสดใส สดชื่น จะทำให้มีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีกร้อยปี