ปลากระป๋องสามแม่ครัว เจ้าของ

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น ปลาแมกเคอเรลในซอสมะเขือเทศ, ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ

ฉู่ฉี่ปลาแมกเคอเรล, น้ำพริกปลาแมกเคอเรล, คั่วกลิ้งปลาแมกเคอเรล, ห่อหมกปลาแมกเคอเรล

ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม, น้ำปลาไส้ตันแท้, ซอสปรุงรส

ในนาม บริษัท จิ้วฮวด จำกัด และบริษัท ตราแม่ครัว จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคน มีความภาคภูมิใจและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ที่องค์กรได้ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมคู่สังคมไทย มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ บริษัทฯ ได้เริ่มก่อตั้งมาเมื่อปี 2525 โดยคุณสถิตย์ กาญจนวิสิษฐผล และคุณง้วย กาญจนวิสิษฐผล บริษัทได้ยึดมั่นในอุดมการณ์บริหารจัดการคุณภาพงานด้วยความซื่อสัตย์จริงใจต่อ ลูกค้า และผู้บริโภคทั่วประเทศมาโดยตลอด บนเส้นทางธุรกิจบริษัทมุ่งมั่นแบ่งปันความสำเร็จสู่สังคม ด้วยการดำเนินงานด้านกิจกรรม CSR มาอย่าง ต่อเนื่อง อาทิ โครงการ คิดใส ใจสะอาด เพื่อชาติ เพื่อในหลวง ปี 2558, โครงการ “อุ่นไอ รัก 360 องศา จากใจตราแม่ครัว ด้วยการมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับผู้ประสบภัย และการมอบหนังสือ ศากยะ บรรพบุรุษ พระพุทธเจ้า สู่ห้องสมุด โรงเรียนทั่วประเทศ จำนวน 20,000 เล่ม เป็นต้น เพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์สร้างสรรค์ สิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติในทุกด้าน ทั้งด้านศาสนา การศึกษา ศิลปะวัฒนธรรม กีฬา และสิ่งแวดล้อมความสำเร็จและความดีงามทั้งหลายล้วนเกิดจากก้าวย่างที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการ สร้างสรรค์ รวมทั้งความรักความผูกพัน ระหว่างบริษัทกับสมาชิกทุกท่านทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ครบรอบ 39 ปี ก้าวสู่ปีที่ 40 ของบริษัท จิ้วฮวด จำกัด และบริษัท ตราแม่ครัว จำกัด ขอขอบพระคุณสมาชิกเครือข่ายทั่วประเทศทุกท่าน บริษัทห้างร้านทุกองค์กรที่ได้ให้ความไว้วางใจและเป็นพันธมิตรที่ดี ต่อกันมาอย่างยาวนาน

  ทางบริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสายสัมพันธ์อันแนบแน่นมั่นคงที่ดีนี้จะยังคงอยู่คู่กันตราบนานเท่านาน ด้วยปณิธานและพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ บริษัทฯ ขอประกาศเจตนารมณ์ที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ผู้บริโภคอย่างไม่หยุดยั้งดำเนินธุรกิจควบคู่กับการแบ่งปันสู่สังคมและประเทศชาติ อย่างยั่งยืน

ที่มาของ ปลากระป๋อง 3 แม่ครัว จากแบรนด์ปลากระป๋องที่ถือครองส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่งของในประเทศ ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆ...

Posted by เจาะเวลาหาอดีต on Saturday, January 25, 2020

ถ้าพูดถึงแบรนด์ปลากระป๋องดัง ๆ ในไทย หลายคนคงนึกถึง สามแม่ครัว โดยปีที่ผ่านมาบริษัทเจ้าของ สามแม่ครัว มีรายได้กว่า 4,500 ล้านบาท

และรู้ไหมว่า หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้
ยังไปร่วมก่อตั้งอีกธุรกิจ ที่ทำรายได้หลัก 3,000 ล้านบาท
ธุรกิจนั้นคือ “ขายกระป๋อง”

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ

ปลากระป๋อง ตราสามแม่ครัว ถูกก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน อดีตเซลส์แมน
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คุณทวี ธนวัชรางกูร

ไอเดียในการทำธุรกิจผลิตกระป๋องที่ว่านี้ เกิดจากในช่วงที่แบรนด์สามแม่ครัวตีตลาดแรก ๆ และจ้างบริษัทอื่นผลิตกระป๋องให้

แต่ด้วยความที่ปลากระป๋องตราสามแม่ครัวนั้นขายดีมากขึ้น รวมไปถึงมีแบรนด์ที่ขายในเวียดนามอย่าง บา โก ก๋าย ที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน

ทำให้หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์สามแม่ครัว คือ คุณทวี ธนวัชรางกูร มีความคิดที่จะสร้างโรงงานผลิตกระป๋องเอง

คุณทวี ธนวัชรางกูร ก็ไปร่วมทุนกับเพื่อน ๆ
แล้วตั้งโรงงานขึ้นมา เพื่อผลิตกระป๋องป้อนให้กับ ทางแบรนด์สามแม่ครัว รวมถึงรับผลิตให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ด้วย

บริษัทนั้นชื่อว่า บริษัท รอแยลแคนอินดัสทรีส์ จำกัด หรือ RC

สินค้าของ RC เน้นไปที่กระป๋องบรรจุอาหาร และแผ่นเหล็กเคลือบ
โดยรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ถ้ามาดูสัดส่วนรายได้คร่าว ๆ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อกระป๋องส่วนใหญ่จาก รอแยลแคนอินดัสทรีส์ ในวันนี้

-ลูกค้าต่างประเทศ ราว 60% โดยมีลูกค้ารายสำคัญ ๆ เป็นบริษัทญี่ปุ่น
-ผู้ผลิตอาหารในไทย 40% ซึ่งก็รวมถึงแบรนด์สามแม่ครัวด้วย

โดย บริษัท รอแยลแคนอินดัสทรีส์ จำกัด ที่ผลิตกระป๋องบรรจุอาหาร และแผ่นเหล็กเคลือบ
ปี 2564 บริษัทนี้ มีรายได้ 3,032 ล้านบาท กำไร 209 ล้านบาท

ส่วน บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋อง ตราสามแม่ครัว
ปี 2564 มีรายได้ 4,579 ล้านบาท กำไร 460 ล้านบาท

จะเห็นว่าธุรกิจผลิตกระป๋องนั้นรายได้ดี เกือบจะพอ ๆ กับธุรกิจปลากระป๋องเลย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการต่อยอดออกมาทำอีกไลน์ธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมีความพรีเมียมขึ้นมา ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า รอแยล เมอิวะ แพ็คซ์ จำกัด

โดยเน้นการผลิตบรรจุภัณฑ์ แบบที่เรียกว่า Retort pouch ที่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องการถนอมอาหาร ให้เก็บได้นาน ตัวแพ็กเกจจิงมีความอ่อนตัว แต่ทนความร้อนได้สูง

โดยบริษัท รอแยล เมอิวะ แพ็คซ์ จำกัด
ปี 2464 มีรายได้อยู่ที่ 546 ล้านบาท กำไร 54 ล้านบาท

นี่ก็คือเรื่องราวการต่อยอดความสำเร็จ และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ คุณทวี ธนวัชรางกูร ผู้ร่วมก่อตั้ง สามแม่ครัว

แต่หลังจากทำงานไปได้สักระยะหนึ่ง เขาก็เริ่มคิดว่า ถ้าทำงานเป็นพนักงานเงินเดือนไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งเกิดตกงานขึ้นมา ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ในปี พ.ศ. 2516 หรือเมื่อประมาณ 49 ปีก่อน คุณสุวัฒน์ จึงตัดสินใจ เริ่มหันมาทำธุรกิจของตัวเอง ร่วมกับกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน โดยธุรกิจที่เขาเลือก คือธุรกิจปลากระป๋อง

ในปีต่อมา หลังจากธุรกิจปลากระป๋องของคุณสุวัฒน์ และเพื่อน ๆ เริ่มไปได้สวย
จึงมีการก่อตั้งบริษัทขึ้นเป็นเรื่องเป็นราว โดยใช้ชื่อว่า บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด

จนปัจจุบัน บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด
เติบโตจนกลายเป็นบริษัท ที่มีรายได้ระดับ 4,000 ล้านบาท
พร้อมกับส่วนแบ่งตลาดปลากระป๋องในไทย ที่มากถึง 35% คิดเป็นอันดับ 1 ในไทย

เราลองมาดูกันว่า อะไรคือสิ่งที่ช่วยให้ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว
ประสบความสำเร็จ และเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน

1.ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำ

-ใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง
ในช่วงแรก ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว จะเน้นขายให้แก่ลูกค้าต่างจังหวัดเป็นหลัก
โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ด้านการกระจายสินค้าของคุณสุวัฒน์ และเพื่อน ๆ

-ใช้แคมเปญการตลาดต่าง ๆ เช่น ซื้อ 1 แถม 1
หรือการให้ลูกค้าสะสมสลากปลากระป๋อง เพื่อนำมาแลกรางวัล

-ใช้กลยุทธ์โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับแบรนด์ ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น ทีวี, หนังสือพิมพ์, วิทยุ ซึ่งเป็นการช่วยให้ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

จากกลยุทธ์ทางการตลาดเหล่านี้ ทำให้แบรนด์สามแม่ครัว เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นที่จดจำของลูกค้าไปในที่สุด

2.แตกไลน์สินค้า ให้มีความหลากหลาย

หลังจากที่เริ่มประสบความสำเร็จในธุรกิจปลากระป๋อง คุณสุวัฒน์ก็ได้เริ่มแตกไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

จนปัจจุบัน บริษัทมีแบรนด์สินค้าในเครือมากมาย เช่น ฉู่ฉี่ปลาซาร์ดีน, น้ำพริกปลาแมกเคอเรล, คั่วกลิ้งปลาแมกเคอเรล, ห่อหมกปลาแมกเคอเรล, ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม, น้ำปลาไส้ตันแท้, ซอสปรุงรส, มัสมั่นปลาซาบะ

นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แบรนด์สามแม่ครัว จะมุ่งเน้นผลิตสินค้าใหม่ในกลุ่มพร้อมทาน หรือ Ready to Eat มากขึ้น

เพื่อตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่อาศัยอยู่คอนโดมิเนียม ซึ่งไม่สะดวกในการทำอาหาร รวมถึงกลุ่มที่ไม่มีเวลาในการทำอาหารทานเอง

ปัจจุบัน รายได้ของแบรนด์สามแม่ครัว มาจากตลาดในประเทศ 90% และตลาดต่างประเทศ 10% โดยในต่างประเทศนั้น มีการส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศถึง 20 ประเทศ

ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดของ บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด

ปี 2562 รายได้ 3,687 ล้านบาท กำไร 271 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 4,228 ล้านบาท กำไร 517 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,579 ล้านบาท กำไร 460 ล้านบาท

จะเห็นว่าในปี 2563 ที่ประเทศไทยและทั่วโลกเกิดวิกฤติโควิด 19 แต่รายได้และกำไรของบริษัทนั้นเติบโตอย่างมากจากปีก่อนหน้า

โดยสาเหตุมาจาก ในช่วงที่ประเทศมีการล็อกดาวน์ ทำให้ประชาชนต้องอยู่บ้าน และมีการกักตุนสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ซึ่งรวมถึงแบรนด์สามแม่ครัวด้วย

ปลากระป๋องสามแม่ครัว คือใคร

หรือ “สามแม่ครัว” ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% แต่รู้ไหมว่า ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ปลากระป๋องนี้ไม่ใช่ 3 สาวเหมือนในโลโก้ แต่เป็นคุณสุวัฒน์ อุดมบัณฑิตกุล กับเพื่อนๆ อดีตกลุ่มเซลล์แมนด้วยกันอีก 5 คน ร่วมใจกันลาออกจากงานประจำ เพื่อมาก่อสร้างธุรกิจในปี พ.ศ. 2516.

ทำไมปลากระป๋องสามแม่ครัวขาดตลาด

เนื่องจากวัตถุดิบที่จะใช้ในการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในปีที่ผ่านมา บริษัทต้องหันมาเน้นเพิ่มกำลังการผลิตปลาซาร์ดีนแทน ถือเป็นการแก้ไขปัญหาส่วนหนึ่ง แม้ว่าความนิยมของตลาด ผู้บริโภคจะนิยมปลาแมกเคอเรลในซอสมะเขือเทศมากกว่าก็ตาม

ปลากระป๋องสามแม่ครัวทำมาจากอะไร

ปลากระป๋องจากแบรนด์สามแม่ครัว เป็นเนื้อปลาซาร์ดีนขนาดกลาง เนื้อนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว และตัวน้ำซอสสีแดงอมส้ม ความเข้มข้นกำลังพอดี ไม่เหลวและไม่ข้นจนเกินไป รสชาติบาง ๆ ติดหวานนำเล็กน้อย บรรจุในกระป๋องมาพร้อมกับฝาดึงเพื่อความสะดวก ปริมาณโซเดียม 230 มก. (1/2 กระป๋อง) ขนาด 155 กรัม ราคา 16 บาท

เจ้าของปลากระป๋องกัปตันเรือคือใคร

ผลิตภัณฑ์ใหม่มาแรง ภายใต้การจัดจำหน่ายโดย บริษัท เอสพีเอส บาย ซานต้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NP Tane Group ผู้นำด้านการนำเข้าปลา ทะเลแช่แข็งเพื่อ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยมายาวนานกว่า 20 ปี โดยผู้ริเริ่มและก่อตั้งบริษัท คุณอุเทน และคุณ กมลกาญจน์ นุ้ยพิน โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548.