การ นํา นาฏศิลป์ มา ประยุกต์ใช้ในชีวิต ประ จํา วัน

ทำไมวิชานาฏศิลป์จึงมีความสำคัญต่อเด็กไทย / ดร.แพง ชินพงศ์

เผยแพร่: 4 พ.ย. 2556 05:05   โดย: MGR Online

“นาฏศิลป์” หมายถึงการเคลื่อนไหวร่างกายดัวยท่าทางที่ประดิษฐ์คิดค้นออกมาเป็นแบบแผนงดงาม โดยอาศัยการขับร้องและการบรรเลงดนตรีร่วมด้วย เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ชมมีอารมณ์คล้อยตาม ซึ่งนาฏศิลป์ของไทยเรา ได้แก่ 1.ฟ้อนรำ ระบำ 2.ละคร 3.โขน 4.การแสดงพื้นเมือง

การเรียนนาฏศิลป์มีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไร

1.การเรียนนาฏศิลป์ช่วยพัฒนาด้านร่างกาย ธรรมชาติของเด็กนั้นไม่ชอบอยู่นิ่ง แต่ชอบการเคลื่อนไหวร่างกายในการเดิน วิ่ง กระโดด ยักย้ายร่างกายไปมา ดังนั้น การที่เด็กได้ร่ายรำ ทำให้เด็กได้เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายทั้งกล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่ให้สอดคล้องกับทำนอง จังหวะและเสียงดนตรี ซึ่งเป็นเหมือนการออกกำลังกายไปในตัว ส่งผลให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงสมส่วน คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง

2.การเรียนนาฏศิลป์ช่วยพัฒนาด้านอารมณ์ ขณะที่เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายในการฟ้อนรำหรือเต้นระบำประกอบเพลงนั้น เด็กจะมีความสนุกสนาน ได้ปลดปล่อยความเครียด ส่งผลให้เด็กๆมีอารมณ์เบิกบานแจ่มใส กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเอง

การ นํา นาฏศิลป์ มา ประยุกต์ใช้ในชีวิต ประ จํา วัน

3.การเรียนนาฏศิลป์ช่วยพัฒนาด้านสังคม กิจกรรมนาฏศิลป์เป็นสื่อหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี เพราะการที่เด็กๆ ได้ร่ายรำ เล่นละคร แสดงการละเล่นพื้นเมืองร่วมกับเพื่อน เป็นการที่เด็กๆ ได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นในการเป็นผู้นำผู้ตาม และการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายประกอบท่าทางที่พรัอมเพรียงไปกับเพื่อนๆ นั้น ก็เป็นการหล่อหลอมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในตัวของเด็กอีกด้วย

4.การเรียนนาฏศิลป์ช่วยพัฒนาด้านสติปัญญา เช่น ในการฝึกให้เด็กๆ ฟ้อนรำนั้น เด็กๆ ต้องจดจำและแยกแยะท่าทางการรำแบบไทยให้ถูกตัอง เช่น ท่าจีบหงาย จีบคว่ำ ตั้งวง ตีไหล่ อีกทั้งต้องจดจำท่าทางต่างๆ ให้เข้ากับเนื้อร้องและจังหวะของเพลงอย่างถูกต้องแม่นยำและพรัอมเพรียงกับผู้อื่น จึงเป็นการช่วยพัฒนาทางด้านสติปัญญาในเรื่องของความจำและการคิดวิเคราะห์โดยตรง

ในปัจจุบันสำนักงานพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ร่างหลักสูตรการศึกษาพื้นฐานฉบับใหม่ โดยลดหมวดหมู่วิชาเรียนจาก 8 หมวด คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพละศึกษา ศิลปะ การงานอาซีพและเทคโนโลยีและภาษาต่างประเทศ เหลือเพียง 6 หมวด โดยยกเลิกหมวดศิลปะ/ดนตรี/นาฏศิลป์ โดยเอาวิชาเหล่านี้ไปรวมอยู่ในหมวดสังคมและความเป็นมนุษย์

ซึ่งตามความคิดเห็นของผู้เขียนเห็นว่า การจัดหมวดหมู่ของสาระวิชาเรียนใหม่อาจไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญเท่ากับการที่ “ยังคง” จัดให้เด็กๆ ได้เรียนวิชานาฏศิลป์อยู่ในโรงเรียนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา เพราะนอกจากการเรียนนาฏศิลป์จะมีประโยชน์ต่อเด็กๆในการช่วยพัฒนาในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาดังที่กล่าวในข้างต้นแล้ว วิชานาฏศิลป์ยังช่วยให้เด็กๆ ได้สัมผัสถึงความเป็นไทยที่นับวันจะหาได้ยากมากขึ้นผ่านการเรียนนาฏศิลป์ อันได้แก่ การร่ายรำทำจังหวะแบบไทยเดิม การขับร้องแบบไทย การบรรเลงดนตรีไทย การแต่งกายแบบไทย ซึ่งคือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจที่ควรอนุรักษ์ให้ดำรงอยู่คู่กับประเทศชาติของเราสืบไป

เพลง “รำไทย” (2548) คำร้อง/ทำนอง ดร.แพง ชินพงศ์

เกิดมาบนแผ่นดินนี้ พวกเราน้องพี่ล้วนเป็นคนไทย
มีท่ารำไม่เหมือนชาติใด เป็นแบบไทยๆ ของเรานานมา
มาซิมาฟ้อนรำ มาซิมาฟ้อนเรา
พวกเราคนไทยชอบรำไทยเอย
รำไทยไม่ใช่เรื่องยาก
จีบหงาย จีบคว่ำ เอาละวา
ตั้งวง ตีไหล่ ยักซ้าย ย้ายขวา
ยกเท้าออกไปข้างหน้า
เชิญเพื่อนหญิงชายรำไทยด้วยกัน

ข้อมูลอ้างอิง: เพลง “รำไทย” ดร.แพง ชินพงศ์, ร้องเล่นเต้นสนุก, บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์, 2548


ดนตรีในชีวิตประจำวัน

การ นํา นาฏศิลป์ มา ประยุกต์ใช้ในชีวิต ประ จํา วัน

ดนตรีเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มานาน ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน” วันนี้เรามาดุกันดีกว่าว่า ดนตรีที่อยู่ในชีวิตเรานั้นมีอะไรบ้าง

1. ดนตรี กับศาสนา และพิธีกรรม ♬ 👨‍👩‍👧👩‍👧‍👧

ในศาสนา และพิธีกรรมตามความเชื่อของ แต่ล่ะบุคคล ดนตรีได้ถูกนำมาใช้ เช่น ใช้ในบทสวด หรืออธิษฐานขอพร การบวงสรวง บูชา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ใช้ทำสมาธิ และใช้เป็นส่วนประกอบของพิธีการต่างๆ เช่น การเปิดงาน ปิดงาน

2. ดนตรี กับวัฒนธรรมประเพณี ♪ ♪

แต่ล่ะท้องถิ่น ก็จะมีวัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างกันไปดนตรีก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป สำหรับประเพณีไทยดนตรีจะถูกนำมาใช้ทั้งงานรื่นเริงและงานที่แสดงถึงความโศกเศร้า หรือแม้แต่ประเพณีที่เกี่ยวกับพระราชพิธีต่างๆ ก็ล้วนมีดนตรีมาเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น

3. ดนตรี กับการศึกษา ♪ 👩‍🎓🧑‍✈️👩‍🏫

ในการเรียน การสอน ได้นำดนตรีมาใช้เป็นสื่อให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เกิดความสนุกสนาน พัฒนาสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจในการเรียน ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ดนตรียังช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถพิเศษทางด้านดนตรี นาฏศิลป์ และการขับร้องอีกด้วย

4. เรียนรู้จากสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ♬ ♪

ในปัจจุบันการหาสื่อต่าง ๆ ในการศึกษาในเรื่องดนตรีไม่ใช่เรื่องยากแล้ว มีผู้รู้ด้านดนตรีหลายท่านได้ทำรีวิว บทวิเคราะห์ดี ๆ ลงตามเว็บไซด์ ซึ่งผมขอแนะนำเลยว่าการฟังบทวิเคราะห์พวกนี้อาจทำให้เราเข้าใจเพลงคลาสสิคในแง่มุมที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อนเลยก็ได้

5. ดนตรีกับสุขภาพ ♬ 🧍‍♀️

ดนตรีมีผลต่อ สุภาพร่างกายของคนเรา ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ และยังลดหรือบรรเทาความเจ็บปวดของร่างกายได้ดีอีกด้วย

6. ดนตรีกับสังคมและสถาบันต่างๆ ♬ ♪ 🎬

ดนตรีช่วยให้เราเกิดความรัก ความสามัคคี มีความยึดมั่น เคารพเทิดทูนในสถาบันของตนเอง เป็นเครื่องบำรุงจิตใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้ดี และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกัน อีกด้วย

7. ดนตรี กับจิตวิทยา ♪ 📖📚

ดนตรีมีผลอย่างมากต่อจิตใจของคนเราค่ะช่วยให้เราเปลี่ยนจากนิสัยที่ก้าวร้าว เป็นอ่อนโยนลงได้ ทำให้เรามีสติ มีสมาธิมากขึ้น ช่วยจรรโลงใจ ส่งเสริมสุขภาพจิตและช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น

8. ดนตรีกับอาชีพธุรกิจ ♬ 💇‍♂️👲🤠

ดนตรีช่วยให้เรา สามารถสื่อสารกับผู้รับได้ดี มากกว่าการสื่อสารโดยการพูด หรือการบรรยาย ช่วยให้ธุรกิจของเราเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น ใช้ประกอบการประชาสัมพันธ์ หรือการโฆษณา ช่วยกระตุ้นให้ เราสามารถทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เรามีโอกาสประสบผลสำเร็จ ในการประกอบอาชีพได้มากยิ่งขึ้น

9. ดนตรีกับกีฬา ♪ 👨‍🦯🏃‍♀️🏃

ดนตรีได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของการเล่นกีฬา ต่างๆ เพราะทำให้เกิดความครึกครื้น สนุกสนาน สร้างความฮึกเหิม ในการแข่งขันสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีมและช่วยให้ผู้เล่นมีกำลังใจ ในการแข่งขันมากขึ้น