With 2-Step Verification, also called two-factor authentication, you can add an extra layer of security to your account in case your password is stolen. After you set up 2-Step Verification, you can sign in to your account with:

• Your password
• Your phone

Allow 2-Step Verification

1. Open your Google Account.
2. In the navigation panel, select Security.
3. Under “How you sign in to Google,” select 2-Step Verification
   
   Get started.
4. Follow the on-screen steps.

Tip: If you use an account through your work, school, or other group, these steps might not work. If you can’t set up 2-Step Verification, contact your administrator for help.

Verify it’s you with a second step

After you turn on 2-Step Verification, you must complete a second step to verify it’s you when you sign in. To help protect your account, Google will ask that you complete a specific second step.

Use Google prompts

We recommend you sign in with Google prompts. They’re easier to enter than a verification code and can help protect against SIM swap and other phone number-based hacks.

Google prompts are push notifications you get on iPhones that are signed in to your Google Account with the Smart Lock app , Gmail app

Based on the device and location info in the notification, you can:

• Tap Yes to allow sign-in.
• Tap No to block sign-in.

Use other verification methods

You can set up other verification methods in case you:

• Want increased protection against phishing
• Can’t get Google prompts
• Lose your phone

Use security keys to increase phishing protection

Use Google Authenticator or other verification code apps

Important: Never give your verification codes to anyone.

When you don't have an internet connection or mobile service, you can set up Google Authenticator or another app that creates one-time verification codes.

To help verify it's you, enter the verification code on the sign-in screen.

Use a verification code from a text message or call

Important: Never give your verification codes to anyone.

A 6-digit code may be sent to a number you’ve previously provided. Codes can be sent in a text message (SMS) or through a voice call, which depends on the setting you chose. To verify it’s you, enter the code on the sign-in screen.

Tip: Although any form of 2-Step Verification adds account security, verification codes sent by texts or calls can be vulnerable to phone number-based hacks.

Use backup codes

Important: Never give out your backup codes to anyone.

To keep in a safe place, you can print or download a set of 8-digit backup codes. If you lose your phone, backup codes are helpful.

Skip a second step on trusted devices

If you don't want to provide a second verification step each time you sign in on your computer or phone, check the box next to "Don't ask again on this computer" or "Don't ask again on this device."

แอปเปิ้ลได้โพสหน้าเว็บที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคเล็กๆน้อยในการใช้งาน iPhone 4 ให้ได้เต็มประสิทธิภาพและมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเล็กๆหลายจุดนี้ผมก็ยังไม่ทราบเหมือนกันแต่วันนี้ได้ลองเล่นแล้วถือว่ารวบรวมเอาไว้ให้ชมเผื่อโอกาสหน้าใครลืมก็สามารถเข้ามาอ่านรื้อฟื้นความจำกันนะครับ

หลายเทคนิคที่จะนำเสนอต่อไปนี้ท่านอาจจะยังไม่ทราบก็ได้ เอาเป็นว่าใครมีไอโฟนอยู่ในมือตอนนี้สามารถทำตามได้เลยนะครับ

Tips 1# Scroll to the top fast. ขึ้นบนสุดอย่างว่องไว

เวลาเราเล่นเว็บด้วย Safari ที่ต้องเลื่อนหน้าจอลงด้านล่างเรื่อยๆและหากต้องการจะกลับขึ้นมาข้างบนสุดเราอาจจะเลื่อนนิ้วจนเมื่อยกว่าจะขึ้นมาถึง วิธีง่ายๆหากต้องการเลื่อนขึ้นด้านบนสุดคือ แตะที่ Status bar ที่อยู่บนสุดของหน้าจอ นะครับ หน้าจอก็จะเลื่อนมาตำแหน่งบนสุดของเว็บนั้นๆแล้ว

Tips 2# Choose your wallpaper. เลือกวอลเปเปอร์

ตั้งแต่ iOS 4.0 เป็นต้นมาไอโฟน(iPhone 3GS, iPhone 4)สามารถที่จะเปลี่ยนพื้นหลังได้ จากเดิมพื้นหลังนั้นเป็นสีดำๆแบบเดียว คราวนี้เราสามารถเลือกรูปถ่ายหรือว่าดาวน์โหลดวอลเปเปอร์มาตกแต่งให้ไอโฟนได้ ตั้งค่าวอลเปเปอร์ของไอโฟนได้ที่

Settings> Wallpaper เลือกภาพจากคลังภาพถ่ายในไอโฟนจากนั้นสามารถเซตให้อยู่ที่ หน้าล็อคสกรีน, หน้าโฮมสกรีนหรือว่าเซตให้อยู่ทั้ง 2 ที่ได้เลย

Tips 3# Tap to zoom the camera. การซูมถ่ายภาพ

ด้วยความสามารถของ iOS 4 ช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพแบบระยะไกลได้ง่ายขึ้นด้วยความสามารถการซูม วิธีการคือขณะที่เรากำลังจะถ่ายภาพนั้นเราเราแตะที่หน้าจอ จากนั้นกล้องจะปรากฎแถบแสดงของการซูมได้เราก็เลื่อนไปด้านขวาเพื่อซูมเข้าและเลื่อนซ้ายเพื่อซูมออก แต่แนะนำว่าอย่าซูมมากถ้าไม่จำเป็นนะครับเพราะรูปจะไม่สวยเท่ากับรูปที่ไม่ซูม

Tips 4# Add PDFs to iBooks. เพิ่มไฟล์ PDF เข้า iBooks

สำหรับไฟล์ PDF ที่มาพร้อมกับอีเมลหรือว่าลิงก์ให้ดาวน์โหลดในเว็บ วิธีการที่จะเปิดดูไฟล์ PDF นั้นก็สุดแสนจะง่ายครับ เพียงเราจิ้มค้างที่ลิงก์ของไฟล์ PDF นั้น แล้วเลือก Open in “iBooks” เท่านี้ไฟล์ PDF นั้นก็จะถูกเปิดด้วย iBooks เรียบร้อยครับ

Tips 5# Lock the screen orientation. ป้องกันการหมุนของหน้าจอ

ไอโฟนสามารถทำงานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน บางครั้งไอโฟนจะหมุนมาที่แนวนอนโดยเราไม่ต้องการให้มันหมุน ดังนั้นวิธีการปิดฟีเจอร์การหมุนของหน้าจอนี้ iOS 4 ทำมาให้เรียบร้อยครับ โดยคลิกที่ปุ่ม Home จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นเลื่อนมาด้านซ้ายสุดจะเห็นไอคอนรูปลูกศรหมุนขวา ให้เราแตะที่ตรงกลางวงนั้นจะปรากฎรูปกุญแจขึ้นมา และที่ Status bar จะแสดงรูปกุญแจล็อค นั่นหมายถึงเราป้องกันไม่ให้หน้าจอหมุนไปแนวนอนแล้ว

Tips 6# Create web clips. แอดไอคอนเว็บไว้ที่หน้าจอ

การเข้าเว็บบ้างครั้งชื่อมันอาจจะยาวจนเราขี้เกียจพิมพ์ทุกๆครั้ง วิธีการที่จะช่วยให้เราเข้าเว็บนั้นได้ง่ายๆเพียงคลิกเดียวสามารถทำได้โดย เปิด Safari ขึ้นมาแล้วเข้าไปที่เว็บนั้นๆก่อน ลองที่เว็บ iPhonemod ก็ได้ครับ จากนั้นกดที่เครื่องหมาย + ตรงกลางล่างของจอ แล้วเลือก Add to Home Screen แล้วก็ตั้งชื่อตามใจชอบ เสร็จแล้วให้กด Done เท่านี้เราจะได้ไอคอนของเว็บที่หน้าจอหลักแล้ว ต่อไปเวลาเข้าเว็บก็จิ้มที่ไอคอนได้เลย

Tips 7# Learn some keyboard tricks. เรียนรู้ทริกในคีบอร์ด

อันนี้ก็เพิ่งทราบอีกเช่นกัน มีอยู่ 3 จุดหลักๆของการเทคนิคการใช้คีบอร์ดให้ชำนาญ

• พิมพ์ข้อความจบประโยคจะเพิ่มจุดให้อัตโนมัติโดยกดที่ Space 2 ครั้ง อันนี้จะใช้บ่อยกับภาษาอังกฤษ หลายๆคนน่าจะทราบละ
• พิมพ์ตัวเลขแบบรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เรากำลังพิมพ์ไทยอยู่แล้วต้องการใส่ตัวเลขเข้าไปเราจะกดที่แป้น 123 ก่อนใช่ไหมตัวคีบอร์ดเลขจึงเกิดขึ้น แต่คราวนี้กดที่ 123 ค้างไว้แล้วเราสามารถที่จะเลื่อนไปพิมพ์ตัวเลยนั้นได้ทันที และพิมพ์เสร็จคีบอร์ดก็จะกลับมาอยู่ที่ภาษาไทยเหมือนเดิม
• จิ้มค้างที่ตัวอักษรจะปรากฎอักขระพิเศษขึ้นมา เช่น จิ้มค้างที่ .com จะปรากฎ .net, .org ขึ้นมา เป็นต้น

Tips 8# Scrub through audio and video. เลื่อนตำแหน่งการเล่นเพลงวีดีโอ

หลายคนอาจจะรู้แล้วว่าตอนเล่นเพลงใน iPod นั้นสามารถที่จะเลื่อนเพลงไปช่วงที่ต้องการได้โดยจิ้มค้างที่ปุ่มกลมๆในสถานะของการเล่น แต่มีทริกอยู่ว่าการปรับระดับการเลื่อนของความละเอียดนั้นปรับได้ 4 ระดับเชียว

• Hi-Speed Scrubbing เลื่อนเพลงจากต้นจบจนเพลงได้
• Haft Speed Scrubbing เลื่อนเลือกช่วงได้ละเอียดดีขึ้นได้ประมาณครึ่งเพลง
• Quarter Speed Scrubbing เลื่อนเลือกได้ 1 ใน 4 ของเพลง
• Fine Scrubbing ปรับได้ละเอียดที่สุด

วิธีคือจิ้มค้างที่ปุ่มกลมๆในแถบเล่นเพลงนั่นแหละครับ จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างหน้าจอเรื่อยๆ ตัวแถบสถานนะจะเปลี่ยนจาก Hi-Speed>Haft Speed> Quarter Speed> Fine ตามลำดับ ประโยชน์คือช่วยให้เลื่อนฟังเพลงเป็นช่วงๆได้ละเอียดขึ้น นอกจากเพลงแล้ววีดีโอก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน

Tips 9# Keep your inbox clean. เก็บกวาดกล่องจดหมาย

หลายครั้งที่มีอีเมลที่เราไม่ต้องการเข้ามาอยู่ในกล่ง Inbox ของเรา ทำให้ต้องนั่งสไดล์นิ้วลบทีละฉบับ ถ้ามีมากเกินก็คงจะไม่ไหว ทริกนี้จะช่วยให้เราลบจดหมายนั้นทิ้งไปทีละเยอะๆได้ วิธีการคือ เข้าไปที่ Inbox ของอีเมลจากนั้นเลือก Edit ที่มุมบนขวาและทำเครื่องหมายที่หน้าฉบับนั้นๆ จากนั้นเราสามารถลบหรือว่าเคลื่อนย้ายจดไปได้ทีละหลายฉบับแล้วครับ

Tips 10# Take a picture of your screen. ถ่ายรูปหน้าจอไอโฟน

สำหรับผมได้ใช้งานค่อนข้างบ่อยสำหรับเทคนิคนี้คือการถ้ายรูปหน้าจอไอโฟนหรือได้ยินติดปากกันว่า “แค๊ปเจอร์หน้าจอ” (Capture) วิธีการคือกดที่ปุ่ม Home ค้างแป๊บนึงแล้วตามด้วย Power จากนั้นจะได้ยินเสียงดัง “แช๊ะ” เหมือนถ่ายรูปครับ รูปหน้าจอก็จะถูกบันทึกไว้ที่ Photos

Tips 11

Create an iPod playlis. สร้างเพลย์ลิสต์ให้ไอพอด

นอกจากสามารถสร้างเพลย์ลิสต์ใน iTunes ได้แล้ว หลังจากการซิงก์เพลงลงไอโฟนเราก็สามารถที่จะสร้างเพลย์ลิสต์ภายใน iPod ได้อีกด้วย หากใครยังทราบว่าเพลย์ลิสต์(Playlist) คืออะไร เพลย์ลิสต์ก็คือ รายการการเล่นเพลงที่เราจัดเอามาไว้ในที่เดียวกัน เช่น เราอยากฟัง hiphop เราก็สร้างเพลย์ลิสที่ชื่อว่า “HipHop” ขึ้นมา จากนั้นก็นำเพลง hiphop ของหลายๆคนมารวมไว้ที่เพลย์ลิสต์นี้

วิธีการ เปิดไอพอดขึ้นมา เลือก Playlist> Add Playlist… จากนั้นตั้งชื่อที่ต้องการ> Save

ไอพอดจะให้เลือกเพลงที่อยู่ในไอโฟนเพื่อเอามาเข้าในเพลย์ลิสต์ เราก็เลือกเพลงที่ต้องการ เสร็จแล้วก็ให้กด Done ที่มุมบนขวา และหากต้องการเพิ่มเติมอีกให้กด Edit> เลือกเครื่องหมาย + ที่มุมบนซ้าย> เลือกเพลงเพิ่มเข้าไปได้อีก

Tips 12# Tap to focus the camera. โฟกัสก่อนถ่ายภาพ

ตั้งแต่ iPhone 3GS จนมาถึง iPhone 4 ทั้งสองรุ่นมีความสามารถที่จะโฟกัสภาพถ่ายที่จะถ่ายได้ ซึ่งช่วยให้ภาพที่ได้นั้นมีความชัดมากกว่ารุ่นเก่าๆที่ผ่านมา สำหรับวิธีการโฟกัสรูปก่อนถ่ายทำได้โดย ขณะที่กำลังจะถ่ายภาพให้เราจิ้มไปที่จุดที่ต้องการจะโฟกัส จากนั้นรอให้ไอโฟนทำการโฟกัส ถ้าชัดได้ดังที่ต้องการแล้วก็กดถ่ายภาพนั้นได้เลย

Tips 13# Swipe to delete. ตวัดปลายนิ้วเพื่อลบ

การลบอีเมลสำหรับการลบทีละฉบับสามารถทำได้ง่ายโดยการตวัดนิ้วหรือสไลด์นิ้่วผ่านๆที่จดหมายฉบับนั้นๆ จะปรากฎเมนู Delete ขึ้นมา จากนั้นก็สามารถลบมันออกไปได้เลย นอกจากใช้ในเมลแล้วยังสามารถใช้กับพวก Message, Facebook ได้ด้วยนะครับ

Tips 14# Cut, copy, and paste. ตัด คัดลอกและวาง

ไอโฟนช่วยให้การคัดลอกเนื้อหาเป็นไปได้โดยง่าย เช่น เราอาจจะคัดลอกเบอร์โทร, URL ที่จะต้องพิมพ์ยาวนั้นไปได้เลย คัดลอกแล้วก็ไปวางไว้ที่อีกที่นึงก็สามารถทได้

• การคัดลอกสามารถเลือกขอบเขตได้ว่าจะคัดลอกจากไหนไปไหน วิธีคือให้จิ้มค้างไปตรงส่วนเนื้อความที่ต้องการจะคัดลอกก่อน จากนั้นจะมีเครื่องหมายที่แสดงให้เราสามารถเลือกขอบเขตได้ เราก็เพียงทำการเลื่อนเหมือนลากเม้าส์ในคอม สิ้นสุดเขตที่ต้องการแล้วให้กด Copy
• การวาง เมื่อคัดลอกเนื้อความมาได้แล้วต้องการวางลงตำแหน่งนั้นๆเช่น ลงที่ Note ให้แตะที่หน้าจอหนึ่งครั้ง เมนู Paste จะปรากฎขึ้น จากนั้นก็กดที่เมนู Paste เท่านี้ข้อความที่คัดลอกมาก็ถูกวางลงอย่างง่ายได้
• การตัด ต้องเลือกขอบเขตก่อนเหมือนวิธีทีบอกก่อนหน้า จากนั้นเมนู Cut จะแสดงขึ้นมา ก็เลือกได้เลย

Tips 15# Save imagesfrom the web. เซฟรูปจากเว็บ

งงมานานไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมันไม่มีปุ่มให้กด พออ่านเจอทริกนี้ร้องอ่อทีเดียว วิธีการเซฟรูปจากหน้าเว็บลงที่ไอโฟนทำได้โดย จิ้มค้างที่รูปนั้น แล้วเลือก Save Image รูปนั้นก็จะถูกเก็บที่ Camera Roll

Tips 16# Display character count in text messages. แสดงจำนวนตัวอักษรในข้อความส่งออก

บางครั้งการส่ง SMS นั้นเราก็อยากส่งแค่อันเดียว แต่หลายครั้งที่เราพิมพ์ยาวเกินไปทำให้ข้อความนั้นกลายเป็น 2 ฉบับ จากเดิมที่จะต้องเสียแค่ 2 บาท กลับกลายเป็น 4 บาทแทน ในไอโฟนจึงมีฟีเจอร์สำหรับนับลจำนวนตัวอักษรที่พิมพ์ในข้อความ คราวนี้ก็สามารถที่จะกำเนิดความยาวได้แล้ว ตั้งค่าที่ Settings> Messages> Character Count เลือกเป็น On ต่อไปเวลาพิมพ์ข้อความเมื่อขึ้นบรรทัดที่สองเมื่อไหร่ จำนวนตัวอักษรก็จะถูกนับแล้วแสดงให้เห็นทันที

Tips 15# Place a call on hold. การพักสายในไอโฟน 4

จากที่เราทราบว่าไอโฟน 4 มี FaceTime ซึ่งตำแหน่งของไอคอน FaceTime นั้นจะมาแทนที่ Hold หรือการพักสาย ดังนั้นวิธีการพักสายในไอโฟน 4 กรณีที่ไม่มีคำว่า Hold สามารถทำได้โดยกดที่ปุ่ม Mute ค้างไว้ สายนั้นก็จะถูกพัก ถ้าถ้ากดครั้งเดียวคู่สนทนาจะไม่ได้ยินเสียงเราเพราะกลายเป็น Mute เสียงไว้แทน