ประว ต ม อกลอง วง gun and roses

วงฮาร์ดร็อกอเมริกันที่ถูกก่อตั้งในลอสแอนเจสลิสเมื่อปี ค.ศ. 1985 แฟนเพลงยุค 80 ไม่มีใครที่ไม่รู้จักวงนี้ เพราะพวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์ที่เป็นตำนานให้กับวงการเพลงร็อก ด้วยการออกอัลบั้มชุดแรกเพียงชุดเดียวก็ทำให้พวกเขากลายเป็นวงร็อกที่ครองโลกในยุคนั้นไปเลย โดยจุดเริ่มต้นของวงเกิดจากสองเพื่อนซี้ Axl Rose และ Izzy Stradin ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียน พวกเขาสนใจเเต่เรื่องของดนตรีเฮฟวี่เมทัล จึงฟอร์มวงดนตรีขึ้นมาและได้ตั้งชื่อวงว่า “Hollywood Rose” แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทางวงก็ได้มีการปรับเปลี่ยนสมาชิกรวมถึงชื่อวงอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อนักดนตรีฝีมือขั้นเทพอันได้แก่ Axl Rose / Izzy Stradin / Slash / Duff Mckagan และ Steven Adler ได้มารวมตัวกันก็เกิดเป็นวง Guns N' Roses ที่พวกเรารู้จักนั่นเอง

ขึ้นชื่อว่าเป็นวงฮาร์ดร็อกในตำนานขวัญใจคอเพลงเมทัลทั่วโลก นอกจากอัลบั้มชั้นเยี่ยมและการแสดงสดสุดเดือดแล้ว Guns N' Roses ก็ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงดนตรีของพวกเขาประสบความเร็จและกลายเป็นตำนานอย่างทุกวันนี้ ในโอกาสที่พวกเขาได้กลับมาจัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์อีกครั้ง The Concert ก็ไม่พลาดที่จะพาไปทำความรู้จักกับวงฮาร์ดร็อกสุดเก๋าที่ชื่อว่า Guns N' Roses

ตั้งแต่ปี 1985 ถึงปัจจุบัน Guns N' Roses เปลี่ยนไลน์อัพนักดนตรีในวงมาแล้วถึง 22 ครั้ง

อย่างที่รู้กันว่าตลอดระยะเวลากว่า 37 ปีวงฮาร์ดร็อกอย่าง Guns N' Roses ได้มีการเปลี่ยนไลน์อัพนักดนตรีอยู่หลายครั้ง ตลอดจนเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันของสมาชิกในวงจนทำให้วงเกือบไปไม่รอด ทั้งเปลี่ยนมือกีตาร์ มือเบส และมือกลอง แต่ในท้ายที่สุด… ไม่จม ไม่หาย ไม่ตายวงการ สมาชิกดั้งเดิมได้คืนกลับสู่วงอีกครั้งสมเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ

ปัจจุบันวง Guns N' Roses ประกอบไปด้วยสมาชิก 7 คนได้แก่ Axl Rose นักร้องนำยืนหนึ่งที่มีน้ำเสียงอันทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์ / Slash มือกีตาร์ผู้ได้รับการยอมรับและชื่นชมว่าเป็นมือกีตาร์ตัวท็อปตลอดกาล / Duff McKagan มือเบสระดับเทพที่มีงานอดิเรกเป็นนักเขียน / Dizzy Reed มือคีย์บอร์ดและเปียโน หนึ่งในสมาชิกที่อยู่กับวงมานานที่สุดรองจากป๋า Axl Rose / Frank Ferrer มือกลองสุดเก๋าที่เคยร่วมงานกับวงดังๆ มาแล้วมากมาย / Richard Fortus มือกีตาร์มากความสามารถอีกคน และสาวสวยหนึ่งเดียว Melissa Reese ที่เพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงในฐานะมือคีย์บอร์ดและรับหน้าที่ดูแลเรื่องเสียงสังเคราะห์

นิตยสาร Rolling Stone ยกให้พวกเขาเป็น “วงดนตรีที่อันตรายที่สุดในโลก”

Guns N' Roses ได้รับฉายาจากนิตยสาร Rolling Stone ว่าเป็น “วงดนตรีที่อันตรายที่สุดในโลก” จากบุคลิกของคนในวงที่ไว้ผมยาวและสูบบุหรี่ รวมถึงยังเป็นวงดนตรีที่มีปัญหามากที่สุดวงหนึ่ง ด้วยวีรกรรมหลายอย่างที่สุดโต่ง ทั้งทะเลาะวิวาทกับแฟนคลับ สมาชิกบางรายติดยาจนเสียการเสียงานทำให้ต้องเปลี่ยนตัวอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทะเลาะเบาะแว้งกันภายในวงทำให้ไม่มีอัลบั้มใหม่ออกมา สมาชิกแต่ละคนจึงแยกย้ายออกไปฟอร์มวงใหม่ มีเพียง Axl Rose ที่ยังคงเดินหน้าร่วมงานกับวงต่อ และด้วยความสามารถทางด้านดนตรีของพวกเขาที่เรียกได้ว่าระดับเทพ ทำให้ Guns N' Roses ได้รับเกียรติให้บรรจุอยู่ใน Rock and Roll Hall of Fame หรือหอเกียรติยศร็อกแอนด์โรลเมื่อปี 2012

สมาชิกยุคก่อตั้งรวมตัวกันอีกครั้งใน “Not in This Lifetime Tour” กลับมาทวงบัลลังก์วงร็อกเมทัล No.1

Axl Rose / Slash และ Duff McKagan สมาชิกยุคก่อตั้งได้รวมตัวกันอีกครั้งในทัวร์คอนเสิร์ตรียูเนียนปี 2016-2019 ที่มีชื่อว่า Not in This Lifetime Tour โดยได้ขึ้นโชว์ด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี และบางโชว์ยังได้ Steven Adler สมาชิกเก่ามาตีกลองให้ด้วย โดยมีระยะเวลาทัวร์ยาวถึง 3 ปี และเล่นไปทั้งหมด 158 รอบ เป็นทัวร์ที่ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ดนตรีถึง 584.2 ล้านเหรียญ หรือ 17,548 ล้านบาท

“Sweet Child O’ Mine” เพลงยุค 80 เพลงแรกของโลกที่มียอดวิวทะลุพันล้าน

มิวสิควีดิโอเพลง Sweet Child O’ Mine ถูกอัปโหลดขึ้นทาง Youtube เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2009 หรือเมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว นับเป็นมิวสิควีดิโอเพลงยุค 80 เพลงแรกที่มียอดเข้าชมทะลุ 1,000 ล้านครั้ง ด้วยฐานแฟนเพลงยุค 80 ไม่ใช่กลุ่มคนที่ชอบเล่นโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการที่มิวสิควีดิโอเพลงจากยุค 80 สามารถทำยอดวิวได้ระดับพันล้านจึงเป็นสถิติที่น่าทึ่งสุดๆ

Sweet Child O’ Mine เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม Appetite for Destruction ซึ่งเป็นอัลบั้มแรก และอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของวง โดยสามารถขายไปได้กว่า 30 ล้านอัลบั้มทั่วโลก และสามารถไต่ขึ้นไปครองอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด Hot 100 ได้สำเร็จ รวมถึงยังเป็นซิงเกิลเดียวของ Guns N' Roses ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดในสหรัฐฯ ได้

เพลงของ Guns N' Roses ถูกนำมาประกอบภาพยนตร์เรื่อง “Thor: Love and Thunder” มากถึง 4 เพลง

แฟนเพลงของ Guns N' Roses แทรกซึมอยู่ทุกวงการคือเรื่องจริง ไม่เว้นแม้แต่วงการภาพยนตร์เมื่อผู้กำกับ Taika Waititi (ไทกา ไวทีที) ได้นำเพลงของวงร็อกระดับตำนานเข้าไปในหนัง Thor: Love and Thunder มากถึง 4 เพลง ได้แก่ Welcome To The Jungle เพลงนี้ถูกจัดให้เป็นเพลงฮาร์ดร็อกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพลงหนึ่งตลอดกาล / Paradise City ถูกนำมาประกอบในฉากที่หนังพาคนดูไปทำความรู้จักกับ New Asgard / November Rain เพลงบัลลาดร็อกสุดซึ้งที่มีท่อนโซโลกีตาร์อันเป็นตำนาน และ Sweet Child O’ Mine ถูกนำไปประกอบในหลายฉาก เรียกได้ว่าเกือบตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว

GUNS N' ROSES ARE F’N’ BACK เดินหน้าทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกแบบจัดเต็ม

หลังจากปล่อยเพลง “Hard Skool” ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันเมื่อช่วงปลายปี 2021 ล่าสุด Guns N' Roses เดินหน้าทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกแบบจัดเต็มในชื่อทัวร์ “GUNS N' ROSES ARE F’N’ BACK” โดยเริ่มต้นจากฝั่งยุโรปประเดิมด้วยโชว์ที่ประเทศโปรตุเกสเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นจะต่อด้วยฝั่งอเมริกาใต้ เม็กซิโก ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สามารถดูตารางการทัวร์และซื้อบัตรได้ที่ :