หลวงพ อสมานในงานฝ งล กน ม ตว ดป าศร ทธาธรรมจ.นครราชส มา

ปลุกทหารป้องอธิปไตย ไล่เขมรพ้นเขาพระวิหาร

เผยแพร่: 20 มี.ค. 2555 22:34 โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-กลุ่มเครือข่ายปกป้องแผ่นดินไทย บุกค่ายสุรนารี กองทัพภาค 2 ปลุกทหารปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยื่นหนังสือให้ มทภ.2 ผลักดันทหาร ชาวเขมร พ้นผืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม. และไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่ให้อินโดนีเซียจุ้น ระบุให้เวลา 2 สัปดาห์ก่อนนำมวลชนกลับมาทวงคำตอบ ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ ร.ร.ภูมิซรอล ชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ 6-8 เม.ย.นี้

วานนี้ (20 มี.ค.) ที่หน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา องค์กรภาคประชาชน ในนามกลุ่มเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย (อีสานใต้-ตะวันออก) กว่า 100 คนนำโดย นพ.ประทีป ตลับทอง ประธานเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย นายวีรพล โสภา ที่ปรึกษาฯ นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดนครราชสีมา ได้รวมตัวกันชุมนุมเรียกร้องให้ทหารออกมาปกป้องอธิปไตยไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อม ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2)

แกนนำได้มีการปราศรัยผ่านรถเครื่องขยายเสียงที่เขียนป้ายสีเหลืองข้างรถข้อความว่า “ประเทศไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก”, “ประเทศไทยไม่ยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา” ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ชูป้ายข้อความหลากหลาย เช่น ทหารรักชาติ อย่าให้ไอ้ตู่ มันเหยียบย่ำทหารของเราเด็ดขาด ขอต่อสู้ฝ่าฟันและมั่นหมายให้จงได้แผ่นดินไทยกลับคืนมา ขอเรียกร้องให้ทหารร่วมกับประชาชน ท.ทหารอดทนอยู่กับประชาชน พิทักษ์ถิ่นแดนไทย เป็นต้น

ต่อมาแกนนำได้แจกจ่าย ซีดี เพลง รักชาติ ให้กับทหารและประชาชนผู้สนใจ พร้อมอ่านแถลงการณ์ เรื่อง “ขอทราบแนวทางและระยะเวลาการแก้ไขปัญหาการยึดครองแผ่นดินไทยของชาวกัมพูชาตามแนวชายแดน” โดยมีสาระสำคัญระบุว่า ด้วยปรากฏว่า ในปัจจุบันแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนด้านกัมพูชาได้ถูกทหารและประชาชนชาวกัมพูชาเข้ารุกล้ำและยึดครองในหลายจุด เช่น พื้นที่ 4.6 ตร.กม.บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร พื้นที่บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย-พื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พื้นที่บริเวณบ้านโกกี สายโท 7-8 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และพื้นที่อื่นๆ

ในฐานะที่ท่านดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 77 เครือข่ายฯ และคนไทยทั้งมวลมีความห่วงใยต่อแผ่นดินที่ถูกยึดในบริเวณดังกล่าว จึงขออนุญาตเรียนถามว่า จะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร และใช้เวลานานเท่าใด และเครือข่ายฯรวมทั้งคนไทยทั้งมวลต้องการให้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยไม่ชักช้า เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติไว้ให้ลูกหลานไทยสืบไป ทั้งนี้เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย ต้องการตำตอบภายใน 2 สัปดาห์

จากนั้นได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกผ่าน พ.อ.สุรทิน กาญจนจิตติ รองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ถึง พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 โดย พ.อ.สุรทิน ได้รับปากว่า จะดำเนินการนำหนังสือไปเสนอให้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ให้เวลา 2 สัปดาห์ในการพิจารณาข้อเรียกร้องและขอให้คำตอบถึงแนวทางผลการดำเนินการของกองทัพภาคที่ 2 โดยจะมาทวงคำตอบในวันที่ 3 เม.ย.55 เวลา 10.00 น.ที่หน้าประตูเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และจะประกอบพิธีสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลต่อไป

ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุม ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงนัดชุมนุมใหญ่ ที่โรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย.55 โดยจะมีการร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่ากู้ชาติ และมีแกนนำคนสำคัญมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยจำนวนมาก

นพ.ประทีป ตลับทอง ประธานเครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย กล่าวว่า เรามีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอให้แม่ทัพภาคที่ 2 และทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นทหารของชาติได้ปกป้องอธิปไตยของชาติไทยพื้นที่ 4.6 ตร.กม. บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ และไม่ยินยอมให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ 8.5 ตร.กม.ตามมติของศาลโลก อีกทั้งไม่ยอมรับและไม่ยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์ชาวอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเด็ดขาด

“เครือข่ายรวมพลังปกป้องแผ่นดินไทย และคนไทยทั้งมวลเราจะร่วมกันปกป้องอธิปไตยของชาติร่วมกับทหารของชาติจนถึงที่สุด หากเมื่อใดทหารของชาติไม่ปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนคนไทยทุกคนก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ” นพ.ประทีป กล่าว

ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2475 สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. พ.ศ. 2532 ลักษณะวัด พัทธสีมา ประเภทวัด วัดราษฎร์ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ ศาลาหอฉัน ศาลาปฏิบัติธรรม กุฏิสงฆ์ และฌาปนสถาน การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ 1. หลวงปู่มหาปิ่น ปญฺญาพโล พ.ศ. 2475-2480 2. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร พ.ศ. 2480-2486 3. พระครูสมุห์ฉัตร ธมฺมปาโล พ.ศ. 2486-2487 4. หลวงพ่อบุญ 5. พระอาจารย์สอน 6. พระอาจารย์ปัญญา 7. พระรัชมงคลนายก (หลวงตาคำดี ปญฺโญภาโส) พ.ศ. 2502-2514 8. พระครูคุณสารสัมบัน (หลวงพ่อสมาน ชิตมาโร) พ.ศ. 2514-2549 9. พระครูสุทธิวรญาณ (คำปอน สุทฺธิญาโณ) รักษาการ พ.ศ. 2549-2553 10. พระศรีธรรมาวงศาจารย์ (ไพโรจน์ ฐิตโชโต) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจ - สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 163 - พระพุทธทีปังกร (หลวงพ่อขาว)- สร้างเมื่อ พ.ศ. 2518 -โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. 2515

ที่อยู่: 397 หมู่ที่ 1 ตำบลหัวทะเล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000

โทรศัพท์: 0-4492-0201

ที่มา http://nm.sut.ac.th/koratdata/?m=detail&data_id=2094