Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย

เซ็นเซอร์ถอยหลังSENSOR SOURCE CODE SCP-700 - Detecting distance 0.35-2.5m - Best detecting area 0.5m-1.5m - Value of ultra-sonic frequency 40KHZ - Working temperature range -40C+8...


  • Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย

    EQUATOR เซ็นเซอร์ถอยหลัง 2 จุดเสียง ราคา 890 บาท สัญญานถอยหลัง สินค้าคุณภาพระยะ 180 องศา เเม่นยำ ลำโพงเสียงบอกระยะความใกลเเละใกล้ ผลิตจากวัสดุคุณภาพ แข็งแรงทนทาน ประกัน1 ปี สอบถา... โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าเทคโนโลยีในสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตช่วงนี้จะเริ่มตันๆ แล้ว หลังจากที่มันพัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาประมาณ 5 ปี (นับตั้งแต่ iPhone ตัวแรกปี 2007) คือยัดฟีเจอร์เข้ามาจนนึกไม่ค่อยออกแล้วว่าจะใส่อะไรเข้ามาอีกได้บ้าง แต่พื้นที่ที่กำลังน่าจับตาคืออุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ที่พยายามผนวก "ความสมาร์ท" หรือฟีเจอร์ที่พบใน smart device ต่างๆ เข้ามาบ้าง วงการที่น่าสนใจในตอนนี้คือทีวีและรถยนต์ ฝั่งของรถยนต์ ค่ายที่โดดเด่นในเรื่องระบบบันเทิง-สั่งงานภายในรถคือ Ford ที่จับมือกับไมโครซอฟท์ทำระบบ Ford SYNC (ของแท้ต้องเขียนตัวใหญ่) มาตั้งแต่ปี 2007 และพัฒนาเรื่อยมา (ซึ่งเราก็รายงานข่าวอยู่เรื่อยๆ) จังหวะดีที่ Ford เปิดตัว Focus รุ่นที่สาม (2012) ที่งาน Motor Show ช่วงนี้พอดี แถมมันเป็นรถรุ่นแรกของตลาดอาเซียนที่มี Ford SYNC ติดมาด้วย ดังนั้นเลยตามไปดูงานแถลงข่าวสักหน่อยครับ

    รู้จักกับ Ford SYNC

    ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเรื่องคำศัพท์และชื่อเรียกกันก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน Ford SYNC เป็นชื่อเรียกเทคโนโลยีรวมๆ ที่ใช้สำหรับสั่งงานภายในรถยนต์ ปัจจุบัน Ford SYNC ออกมา 4 รุ่นย่อย แต่ละเวอร์ชันก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รุ่นล่าสุดในปัจจุบันเรียกว่า MyFord Touch ซึ่งเป็นจอสัมผัสสีสันสวยงาม (รายละเอียดว่าแต่ละรุ่นทำอะไรได้บ้าง ดูจากหน้า Ford SYNC Packages)

    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    ส่วนเทคโนโลยีพื้นฐานข้างใต้ใช้ Windows Embedded Automotive ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบฝังตัวที่ต่างไปจากระบบปฏิบัติการสายเดสก์ท็อปที่เราคุ้นเคยกันอย่างสิ้นเชิง (ไมโครซอฟท์มีไปทำอะไรแปลกๆ ที่ไม่ค่อยดังอยู่เยอะ) ดังนั้นเสียงแซวพวก "Ford จอฟ้า" อะไรแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ ไม่มีแน่ๆ นอกจาก Ford แล้ว ไมโครซอฟท์ยังมีลูกค้าเป็นค่ายรถที่ทำระบบแบบเดียวกันอีก 2 ค่ายคือ Kia (ระบบชื่อ UVO) และ Fiat (ระบบชื่อ Blue&Me) ส่วนค่ายอื่นๆ ก็มีเทคโนโลยีคล้ายๆ กัน ตัวที่น่าสนใจหน่อยคือสมาคม GENIVI ที่ใช้เทคโนโลยีฝั่งลินุกซ์

    Ford Focus 2012

    ใจความหลักของงานเป็นเรื่องของ Ford Focus รุ่นใหม่ปี 2012 ซึ่งนับเป็นรุ่นที่สามของ Focus แล้ว

    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ที่คนพูดถึงกันเยอะมากคือ ฟีเจอร์ถอยจอดอัตโนมัติแบบไม่ต้องจับพวงมาลัย เพราะ Focus จะมีเซ็นเซอร์รอบทิศทาง คอยเช็คระยะห่างของรถคันหน้า-คันหลัง แล้วคำนวณวงพวงมาลัยที่ต้องหมุนให้เอง ฟีเจอร์อีกอย่างที่น่าสนใจคือระบบเซ็นเซอร์วัดระยะห่างกับรถคันหน้า ถ้าคำนวณระยะเทียบความเร็วแล้วพบว่าชนแน่ ก็จะเบรกให้อัตโนมัติ
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    เนื่องจากเราไม่ใช่เว็บรถก็ขอจบส่วนของ Focus 2012 เพียงเท่านี้ครับ ใครสนใจก็ไปตามต่อในสื่อด้านยานยนต์กันเอง หน้าตาตัวเป็นๆ ของมันก็เป็นดังภาพ (ผมถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเท่าไร ขออภัยล่วงหน้า)
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย

    Ford SYNC ใน Ford Focus 2012

    ทีนี้มาเข้าเรื่องของเรากันสักที ใน Ford Focus 2012 จะมีฟีเจอร์สำคัญอีกอย่างคือ Ford SYNC ติดมาด้วย ในงานแถลงข่าว ตัวที่นำมาโชว์คือ Ford SYNC with MyFord ซึ่งไม่ใช่รุ่นจอสัมผัส แต่ผมเช็คจาก พบว่า Focus 2012 สามารถเลือกได้ทั้งรุ่น MyFord ธรรมดา และรุ่น MyFord Touch รุ่นจอสัมผัสล่าสุด อันนี้ใครสนใจคงต้องเช็คกับ Ford ประเทศไทยเอาเองว่ามีรุ่นไหนเข้ามาบ้าง งานนี้ได้คุณ Rod Phillips ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมระบบซิงก์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา บินมาพูดเอง (จำหน้าเขาไว้ดีๆ นะครับ) ปัจจุบัน Ford SYNC มีใช้งานในรถยนต์ 4 ล้านคัน ส่วนใหญ่เป็นอเมริกาเหนือ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมารุกตลาดเอเชียและยุโรปแล้ว คาดว่าปี 2015 (2558) จะมีรถยนต์ที่ติด Ford SYNC ประมาณ 9 ล้านคัน
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    รูปข้างล่างนี้ก็เล่าว่า Ford พัฒนาระบบคอนโซลในรถมานาน ตั้งแต่เทปคาสเซ็ตจนมาถึง SYNC ในปัจจุบัน
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    อินเทอร์เฟซของ SYNC มีทั้งการใช้ปุ่มกด (บนแผงคอนโซลและบนพวงมาลัย) จอสัมผัส แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งพาร์ทเนอร์ของ Ford ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เป็น Nuance เจ้าพ่อแห่งวงการนั่นเอง
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    หน้าตาของ SYNC ก็เป็นตามภาพครับ อันนี้เป็นรุ่น MyFord จอไม่สัมผัส มันเลยดูโบราณๆ ไปสักหน่อย จากภาพเขาจะสาธิตการสั่งงาน SYNC ให้เล่นเพลงตามชื่อเพลง-ชื่ออัลบั้ม-หมวดหมู่ได้เลย แถมมันยังสามารถบอกเราว่ากำลังเล่นเพลงอะไรอยู่ได้ด้วย (ฟีเจอร์พวกนี้ในยุค Siri คงไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร แต่จริงๆ มันทำได้มานานแล้วนะครับ เพียงแต่เพิ่งเปิดตัวนอกสหรัฐเท่านั้น)
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    ฟีเจอร์อื่นๆ ที่สำคัญคือการแพร์ระบบ SYNC เข้ากับมือถือ สามารถดาวน์โหลดสมุดที่อยู่ของโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ทำให้เราสามารถสั่งโทรออกได้ด้วยเสียงทันที
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    การโทรศัพท์ด้วย SYNC ค่อนข้างเจ๋งพอสมควร สามารถทำ conference call คุยหลายคนได้ด้วย โดยที่ผู้ขับขี่สั่งงานด้วยเสียงทั้งหมด ตั้งแต่โทรหาคนแรก โทรหาคนที่สอง และสร้างห้องสนทนารวม
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    อันนี้คือตัวคอนโซลจำลองที่ทาง Ford เตรียมมาให้สื่อมวลชนลองเล่น (ไม่ใช่รถคันจริง มีแต่คอนโซล) หน้าตาก็ประมาณๆ นี้
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    สำหรับคนขับแล้ว ปุ่มที่น่าจะกดบ่อยกว่าอยู่ตรงพวกมาลัย สังเกตปุ่มที่มีรูปคนพูดในภาพ (ภาพนี้เป็น press photo)
    Ford focus 2007 ม เซนเซอร ถอยหล งม ย
    ฟีเจอร์อื่นๆ ของ SYNC
  • ระบบนำทาง (เข้าใจว่านอกสหรัฐยังไม่มี)
  • อ่านข้อความ SMS ที่เข้ามาในมือถือ
  • ระบบตรวจวัดอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ ภายในรถ
  • ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน 911 (ใช้ได้เฉพาะในสหรัฐ) จะถูกเรียกใช้อัตโนมัติถ้าหากถุงลมนิรภัยทำงาน
  • ทำงานร่วมกับแอพบนสมาร์ทโฟนบางตัวได้ (รายละเอียดดูจาก App Link)
  • สามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้ (รายละเอียดตามข่าวเก่าที่เคยลงไปแล้ว)

    รายละเอียดดูที่ Fod SYNC Features

    วิดีโอสาธิต

    เทคโนโลยีพวกนี้อธิบายด้วยตัวหนังสือกับภาพมันเข้าใจยาก เผอิญว่า Ford แจกวิดีโอมาใน press kit ด้วย ผมเลยนำมาแปะให้ดูกันจะได้เข้าใจง่ายขึ้น เปิดวิดีโอแรกมาก็ถึงกับตกใจ เพราะคนแสดงก็คือคุณ Rod นั่นเอง เลือกดูคลิปกันตามสะดวกครับ คลิปแรกสาธิตการสั่งงานด้วยเสียงกับ Ford SYNC คลิปที่สอง สาธิตการเชื่อมโทรศัพท์เข้ากับรถยนต์ผ่าน Bluetooth คลิปที่สาม สาธิตการโทรออกด้วยเสียงผ่านระบบ SYNC คลิปที่สี่ สาธิตการโทรแบบสามสาย (conference call) คลิปที่ห้า สั่งเล่นเพลงตามชื่อเพลง

    ช่วงถาม-ตอบ

    Ford เปิดโอกาสให้สื่อได้คุยกับผู้บริหาร ผมก็ถามมาหลายประเด็น แยกเป็นข้อๆ เลยนะครับ
  • ภาษาที่รองรับ ตอนนี้ยังมีเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ภาษาฝั่งยุโรปอื่นๆ ก็กำลังทำอยู่ น่าจะเปิดตัวได้ภายในปีนี้ ส่วนภาษาในอาเซียนก็คงจะทำในระยะยาว แต่ยังบอกกำหนดเวลาที่ชัดเจนไม่ได้ว่าเมื่อไร
  • Ford SYNC จะมีระบบ privacy รักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในมือถือที่เชื่อมกับรถ โดยการเชื่อมครั้งแรกจะดูดข้อมูลจากมือถือไปเก็บไว้ที่รถ แต่จะใช้ครั้งต่อไปจะต้องนำมือถืออันเดิมมาเสียบก่อน จึงจะใช้งานได้ (รองรับมือถือได้มากที่สุด 8 เครื่อง 8 profile)
  • การเชื่อมต่อมือถือกับรถ ทำได้ 2 วิธีคือ Bluetooth หรือ USB
  • มือถือที่รองรับสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของ Ford (ชุดที่ 1 (PDF), ชุดที่ 2 (PDF)) เช็คดูแล้วมีเยอะมาก เพียงแต่แต่ละรุ่นจะรองรับฟีเจอร์มากน้อยต่างกันไป สรุปว่าได้แทบทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่ Nokia/Sony Ericsson รุ่นเก่าๆ ไปจนถึง Android, BlackBerry, iPhone, Windows Mobile, Windows Phone รวมถึงพวก portable media player อีกหลายรุ่น
  • ในอนาคต Ford อยากให้ SYNC เป็นระบบที่ฉลาดมากขึ้น เช่น ถ้าเราขับรถไปในที่ที่ไม่เคยไป มันจะสามารถบอกเราได้ว่า "บริเวณแถวนี้ยังไม่เคยมา ตอนนี้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว มีร้านอาหารสเปนอร่อยอยู่แถวนี้"
  • เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ Ford ตั้งใจออกแบบมาตั้งแต่แรก โดย Ford ยืนยันว่าระบบ SYNC ที่สั่งงานด้วยเสียงจะช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิมากกว่าการกดสมาร์ทโฟนด้วยตัวเองแน่นอน คือรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับแรก แต่ก็ยังคงฟีเจอร์บางอย่างของสมาร์ทโฟนเอาไว้
  • ถามถึงความสำเร็จของ Ford SYNC ในสหรัฐ ทาง Ford ตอบว่ามีลูกค้าเช่ารถหลายรายที่เรียกหารถรุ่นที่มี Ford SYNC จากบริการเช่ารถแล้ว ผลลัพธ์โดยรวมออกมาค่อนข้างดี เนื่องจากที่งานแถลงข่าวไม่มีของจริงให้ลองทั้งรถและระบบ ดังนั้นถ้ามีโอกาสได้ลองของจริงเมื่อไร จะมารายงานอีกรอบว่ามันเวิร์คแค่ไหนครับ ผมคิดว่าวงการนี้ยังไปได้อีกยาว สิ่งที่เราเห็นยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคตคงสู้กันสนุกเลยทีเดียว (ค่ายรถอื่นมีอะไรเด็ดๆ แบบนี้มาโชว์ก็ติดต่อมาได้ครับ)